‘บัวแก้ว’วุ่นวายไม่เลิก บิ๊กสนง.รมต.‘อึดอัด’ ถูกบีบให้ขอCTX.ตัดสินใจทำเรืองย้าย

‘บัวแก้ว’วุ่นวายไม่เลิก บิ๊กสนง.รมต.‘อึดอัด’ ถูกบีบให้ขอซีทีเอ็กซ์ ตัดสินใจทำเรื่องย้าย!
Monday, 12 May 2008

“บัวแก้ว” ยังวุ่นไม่เลิก กมธ.ตปท.ของวุฒิสภาปูดมีบิ๊กขรก.สนง.รมต.ทำเรื่องขอย้ายตัวเอง หลังถูกยืมมือให้ขอเอกสารซีทีเอ็กซ์ “พิกุลแก้ว” เตรียมเรียก “รมต.-ปลัด” ชี้แจง เชื่อ

วันที่ 12 พ.ค. 2551 นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ส.ว.พิษณุโลก ในฐานะประธานกรรมาธิการต่างประเทศ ประจำวุฒิสภา เปิดเผยว่า ได้รับบัตรสนเท่ห์จากข้าราชการประจำในสำนักงานเลขานุการรมว.ต่างประเทศ ที่ขอย้ายตัวเองออกจากตำแหน่ง เพราะรู้สึกอึดอัดจากการที่ถูกฝ่ายการเมืองสั่งการให้ขอเอกสารเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ ของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งเป็นเอกสารที่มีชั้นความลับ โดยการได้มาของเอกสารนี้ต้องขอมาเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งข้าราชการต้องลงลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าวด้วย ดังนั้นกมธ.การต่างประเทศจะนำเรื่องนี้มาหารือในที่ประชุม ก่อนจะนำเข้าสู่ที่ประชุมส.ว.ต่อไป รวมทั้งจะทำหนังสือเชิญนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ และนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ มาชี้แจงต่อกมธ.ด้วย แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีเวลาให้ได้เมื่อไหร่

“เห็นว่าจากกรณีที่มีการย้ายนายวีรชัย พลาศรัย อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง ซึ่งปลัดกระทรวงได้ทำหนังสือด้วยลายมือเปิดผนึกให้กำลังใจนายวีรชัย เป็นการแสดงให้เห็นว่ารู้สึกอึดอัดใจ จึงอยากถามว่ามีการเมืองเข้ามาแทรกแซงการย้ายครั้งนี้หรือไม่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการย้ายทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับคดีซีทีเอ็กซ์”นางพิกุลแก้วกล่าวพร้อมระบุว่า เชื่อมั่นในการทำงานของนายวีรชัยที่ได้ปกป้องทรัพย์สินของบ้านเมืองอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะกรณีเขาพระวิหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้าราชการคนดังกล่าวที่นางพิกุลแก้วระบุถึงนั้น คือนายภาสกร ศิริยะพันธุ์ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี ซึ่งเป็นข้าราชการซี 9 เทียบเท่ารองอธิบดี และมีประวัติดีมีฝีมือ ที่ทางผู้ใหญ่ในกระทรวงคัดเลือกและส่งไปเป็นหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี แต่ก็ทำเรื่องขอย้ายตัวเองไปทำงานที่เดิม โดยให้เหตุผลว่า เพื่อไปเรียนหลักสูตรนักปกครองระดับสูงเป็นเวลา 3 เดือน โดยมีกระแสข่าวว่า ผู้ที่จะมารับหน้าที่ดังกล่าวแทนคือ นายเชิดเกียรติ อัตถากร ซึ่งดูแลเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกรมภูมิภาคให้กับรัฐมนตรีมาก่อน