ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 05:42
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เลขาฯยูเอ็นถวายสดุดีในหลวง “กษัตริย์นักพัฒนา” ที่โลกยกย่อง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เลขาฯยูเอ็นถวายสดุดีในหลวง “กษัตริย์นักพัฒนา” ที่โลกยกย่อง  (อ่าน 1004 ครั้ง)
ผู้ทำลาย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,496


lynnicky


เว็บไซต์
« เมื่อ: 26-05-2006, 14:37 »

เลขาธิการสหประชาชาติ ถวายสดุดีในหลวง ร่วมทูลเกล้าฯถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ ชี้ เป็นรางวัลที่ชาวโลกยกย่องเป็น “พระมหากษัตริย์นักพัฒนา” ขณะที่ “พล.อ.เปรม” ชูพระราชดำรัส 4 ประการ คือ ประมาณตน-อุตสาหะ-ปัจเจกชน-ยึดมั่นความเป็นไทย พร้อมเรียกร้องให้คนไทยนำใส่เกล้าฯปฏิบัติ
       
       วันนี้ (26 พ.ค.) ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายโคฟี อันนัน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ กล่าวสุนทรพจน์ตอนหนึ่งในการอภิปรายโดยผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อถวายสดุดีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับการพัฒนามนุษย์” ว่า ตนได้รับเกียรติที่ยิ่งใหญ่ในการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งตนรู้สึกปีติยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมเฉลิมพระเกียรติถวายรางวัลดังกล่าวในวโรกาสแห่งการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
       
       ทั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่องค์การสหประชาชาติ ได้จัดทำรางวัลเกียรติยศนี้ขึ้น เพื่อมอบให้กับบุคคลดีเด่นที่อุทิศตนตลอดช่วงชีวิต และสร้างคุณค่าของผลงานเป็นที่น่าประจักษ์และคุณูปการที่ผลักดันความก้าวหน้าในการพัฒนาคน ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างเสริมขีดความสามารถให้กับประชาชน มิใช่เพียงแค่คนสองสามคน มิใช่เพื่อคนจำนวนมาก แต่เพื่อคนทั้งปวงโดยถ้วนทั่ว โดยผ่านการศึกษา การขยายโอกาสและทางเลือก สุขอนามัยและโภชนาการ ทั้งนี้ ยังถือว่าเป็นการสร้างเสริมขีดความสามารถแก่ปัจเจกชนที่จะเลือกให้มีชีวิตยืนยาวด้วยการมีสุขพลานามัยที่แข็งแรง มีความรู้และความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนาคนเพื่อให้คนเป็นศูนย์กลาง โดยมุ่งพัฒนาความเติบโตทางเศรษฐกิจและอย่างยั่งยืน สิทธิมนุษยชนและความมั่นคงในชีวิต ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วมทางการเมือง
       
       นายอันนัน กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน โดยผ่านรายงานของสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดีพี) ทั้งระดับโลก และระดับประเทศ ผ่านโครงการพัฒนาจาก 166 ประเทศ ดังนั้น หากการพัฒนาคน หมายถึงลำดับความสำคัญประชาชนเป็นอันดับแรก ไม่มีสิ่งอื่นใดอีกแล้วที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการพัฒนาคน ภายใต้แนวทางการพัฒนาคน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
       
       ทั้งนี้ จากพระปฐมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พระองค์ได้ทรงอุทิศพระวรกาย และทรงงานมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อพัฒนาชีวิตให้ปวงชนชาวไทย โดยมิเลือกเชื้อชาติ วรรณะ และศาสนา จึงทรงได้รับการขนานนามจากชาวโลก ว่า “ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนา” นอกจากนี้ โครงการที่พระองค์ริเริ่มในการพัฒนาชนบท เช่น มุ่งเน้นพัฒนาการการเกษตรขนาดเล็กด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม มีการอนุรักษ์ และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน รวมทั้งการป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนจากน้ำท่วมและภัยแล้ง
       
       นายอันนัน กล่าวอีกว่า การพัฒนาพื้นที่สูงในภาคเหนือ เปลี่ยนพื้นที่ปลูกฝิ่นให้กลายเป็นที่ปลูกพืชทดแทน รวมทั้งพัฒนาชนบทเพื่อคนในพื้นที่ และผู้อยู่อาศัยบริเวณชายแดนไทยแถบพม่าและลาว ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ พระองค์ยังสนับสนุนด้านสุขอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดีของเด็ก มีการรณรงค์ลดภาวะการขาดไอโอดีน ส่งเสริมการศึกษาและยกระดับคุณภาพชีวิตของปวงชนชาวไทย จากการที่พระองค์เป็นนักคิด ทำให้นานาประเทศตื่นตัวในการปรับรูปแบบการพัฒนาภายใต้แนวคิดใหม่
       
       โดยเฉพาะปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่มุ่งเน้นความสมดุล องค์รวม และยั่งยืน ที่เน้นหลักความพอประมาณที่มีภูมิคุ้มกันผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงจากโลกาภิวัตน์ ถือว่าเป็นแนวทาง “การเดินสายกลาง” ทำให้องค์การสหประชาชาติมีปณิธานมุ่งมั่นพัฒนาคนให้เป็นศูนย์กลาง และเพื่อจุดประกายแนวคิดการพัฒนาแบบใหม่สู่นานาประเทศ
       
       ขณะที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ขึ้นกล่าวแสดงสุนทรพจน์ในเรื่องเดียวกันตอนหนึ่ง ว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติในฐานะข้าราชบริพารที่ได้รับสิทธิอันทรงเกียรติในการเฝ้าฯติดตามพระราชกรณียกิจอย่างใกล้ชิด ซึ่งหัวข้อ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับการพัฒนามนุษย์” ถือว่าเหมาะสมที่สะท้อนพระวิริยะ และความมุ่งมั่นในพระองค์และความสำเร็จของประเทศไทยในช่วงระยะเวลา 60 ปี ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ที่พระองค์มิรู้สึกเหน็ดเหนื่อย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องราวที่ควรแก่การเล่าสู่กันฟัง
       
       พล.อ.เปรม ยังกล่าวว่า ยังจำได้ถึงการบุกเบิกของสองพระองค์ในการเสด็จฯเยือนพื้นที่ชนบทยากจนห่างไกลและทุรกันดารในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อปี 2498 ตลอดระยะ 22 วันที่ยากลำบาก ทั้งสองพระองค์ทรงเสด็จฯหมู่บ้านต่างๆ และพูดคุยกับชาวบ้าน เพื่อเรียนรู้ถึงปัญหาและข้อห่วงใย และนับแต่นั้นเป็นต้นมาการเยี่ยมชาวบ้านในลักษณะดังกล่าวได้กลายเป็นราชธรรมเนียมปฏิบัติโดยปกติของพระองค์ จนมีการก่อตั้งมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อให้ความช่วยเหลือการเงินขั้นต้นแก่โครงการต่างๆ และยังมีโครงการพระราชดำริต่างๆ ที่ทรงนำความรู้ไปพัฒนาทั้งในเขตพระราชฐานเพื่อทดลองปลูกพืชพันธุ์ใหม่ๆ ดังสะท้อนอยู่ในพระราชดำรัสที่ว่า “การจัดทำโครงการเพื่อช่วยเหลือประชาชนเป็นสิ่งจำเป็นที่เราจะต้องรู้จักประชาชนที่เราประสงค์ให้ความช่วยเหลือเสียก่อน”
       
       พล.อ.เปรม ยังเรียกร้องให้ประชาชนชาวไทย น้อมรับพระราชดำรัสของพระองค์ไปใช้ โดยเฉพาะหลักการที่สามารถใช้ในการดำรงชีวิตและการพัฒนา 4 ประการ ได้แก่ ประการที่ 1. ความสำคัญต่อการรู้จักประมาณตนในการครองชีพ ทางสายกลาง นำไปสู่บุคคล ครอบครัว และชุมชน รวมไปถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาชาติ ประการที่ 2.ประชาชนจำต้องมีความอุตสาหะอดทนในการเผชิญกับความทุกข์ยาก และควาลำบากตรากตรำ สิ่งท้าทายใดๆ ต่อความมั่นคงของมนุษยชาติที่เราต้องเผชิญ ล้วนพิชิตได้ทั้งสิ้น หากแต่มีความมุมานะในการเอาชนะอุปสรรค
       
       ประการที่ 3.ประชาชนควรรักษาไว้ซึ่งความเป็นเอกัตภาพ หรือปัจเจกชนในการระบุปัญหาและเลือกวิธีแก้ไข อันแสดงถึงอิสรภาพในการเลือกของแต่ละบุคคล หากแต่ต้องรู้จักเลือกอย่างฉลาด ซึ่งจะเกิดขึ้นตราบที่ประชาชนมีความตระหนักรู้ ในขณะที่ประชาชนต้องรู้จักเสียสละเพื่อช่วยเหลือชุมชน หมู่บ้าน และประเทศชาติให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ดีร่วมกัน ตามที่พระองค์ตรัสไว้ว่า “เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ดีร่วมกันไม่ได้หมายความว่าพวกเราทุกคนต้องเสียสละจนหมดตัว หากแต่หมายความว่า เราควรเสียสละได้เพื่อให้ส่วนรวมอยู่รอด”
       
       ประการที่ 4.ประชาชนควรยึดมั่นในการเป็นคนไทย ที่เรามีชาติที่เก่าแก่ ที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรม และร่ำรวยทางภูมิปัญญา ซึ่งควรจะนำความภูมิใจไปดำรงชีวิตด้วยความรู้จากภายนอกเป็นสำคัญ ซึ่งพระองค์ทรงเตือนว่า ให้เรารู้จักนำความรู้ไม่ว่าจากแหล่งใดก็ตาม ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยพวกเราก็ต้องรู้จักเลือกในสิ่งที่พวกเราจะนำมาใช้ปฏิบัติ



 
นายโคฟี อันนัน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ


โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 พฤษภาคม 2549 13:38 น. 
บันทึกการเข้า

แสนยานุภาพผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน
ผู้ทำลาย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,496


lynnicky


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 26-05-2006, 14:41 »

ภาพเต็มๆ   Mr. Green

บันทึกการเข้า

แสนยานุภาพผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน
In The Name Of Justice.
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 952


-_-;


« ตอบ #2 เมื่อ: 26-05-2006, 15:18 »

ทรงพระเจริญ


เอาไอเวรนั้นไปเดินด้วยทำไมเนี้ย?
บันทึกการเข้า

"มนุษย์มักต้องการในสิ่งที่ตนเองไม่มี..."

"I Fight In The Name Of Justice."
Thai Lady
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 86



« ตอบ #3 เมื่อ: 26-05-2006, 15:35 »

เอาไอเวรนั้นไปเดินด้วยทำไมเนี้ย?


แหม.. ผมอุตส่าห์กระหืดกระหอบกลับมา
เกือบไม่ทันแน่ะ

ลงชื่อ ...
แม้ว Yell Yell
บันทึกการเข้า

... กลัวไวรัสสายพันธุ์หน้าเหลี่ยมระบาดกัดกินสังคมไทย ... กลั๊ว .. กลัว ...
ผู้ทำลาย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,496


lynnicky


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 26-05-2006, 15:38 »

ยูเอ็น ไม่ใช่ พ่อ นะ   Mr. Green
บันทึกการเข้า

แสนยานุภาพผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน
เชือกว่าว
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 171



« ตอบ #5 เมื่อ: 26-05-2006, 15:48 »

ขอพระองค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน[/color]....[/color][/size]
 
 ผู้ที่บังอาจคิดร้าย คิดเท่าเทียม ขอให้มีอันเป็นไปด้วยเทอญ....
บันทึกการเข้า

เชือกว่าว
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #6 เมื่อ: 26-05-2006, 18:32 »

มีแต่พวกเอ๋อ นี่หว่า...ไม่น่าคลิกเล้ย
บันทึกการเข้า
achiteer
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 285



« ตอบ #7 เมื่อ: 26-05-2006, 23:17 »

ทรงพระเจริญคะ  Smile
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: