ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
24-04-2024, 13:58
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ถ้าไม่สมมติอะไรขึ้นมาให้คลั่ง ชีวิตพวกท่านถึงขั้นไปไม่เป็นเลยเหรอ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] 2
ถ้าไม่สมมติอะไรขึ้นมาให้คลั่ง ชีวิตพวกท่านถึงขั้นไปไม่เป็นเลยเหรอ  (อ่าน 6383 ครั้ง)
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« เมื่อ: 04-05-2008, 19:56 »

ชาติ มันก็แค่เขตแดนที่บอกว่าคนกลุ่มเดียวที่อยู่ด้วยกันเป็นเจ้าของ
ลักษณะความเหมือนร่วมของคนในกลุ่มก็ สมมติ เอา ว่า คนไทย มี
คุณสมบัติเป็นแบบนี้ แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมก็กำหนดไม่ได้ จีน ฝรั่ง
แขก มืด เป็นไทยได้ทั้งนั้น ความเป็นไทยอยู่ตรงไหนก็สมมติทั้งนั้น

ศาสนา ก็แค่เรื่องราวในตำนาน คำสอน บวกกับเรื่องเทพสมมติขึ้นมา
เพื่อใช้ในการเมืองการปกครองในอดีต สืบทอดมาจนปัจจุบัน พิสูจน์
อะไรไม่ได้ เรื่องสมมติอีกตามเคย

สมมติเทพ ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นเทพสมมติ

แล้วเราจะคลั่งอะไรนักหนากับเรื่องสมมติ ถ้าไม่มีเรื่องเหล่านี้พวกท่าน
จะไม่สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้เลยหรือ
บันทึกการเข้า
Tuba ✿゚✎..✿.。.:。ღ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 660


ทักษิณที่ดี คือทักษิณที่.......ตายแล้ว


« ตอบ #1 เมื่อ: 04-05-2008, 19:58 »

ชาติ มันก็แค่เขตแดนที่บอกว่าคนกลุ่มเดียวที่อยู่ด้วยกันเป็นเจ้าของ
ลักษณะความเหมือนร่วมของคนในกลุ่มก็ สมมติ เอา ว่า คนไทย มี
คุณสมบัติเป็นแบบนี้ แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมก็กำหนดไม่ได้ จีน ฝรั่ง
แขก มืด เป็นไทยได้ทั้งนั้น ความเป็นไทยอยู่ตรงไหนก็สมมติทั้งนั้น

ศาสนา ก็แค่เรื่องราวในตำนาน คำสอน บวกกับเรื่องเทพสมมติขึ้นมา
เพื่อใช้ในการเมืองการปกครองในอดีต สืบทอดมาจนปัจจุบัน พิสูจน์
อะไรไม่ได้ เรื่องสมมติอีกตามเคย

สมมติเทพ ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นเทพสมมติ

แล้วเราจะคลั่งอะไรนักหนากับเรื่องสมมติ ถ้าไม่มีเรื่องเหล่านี้พวกท่าน
จะไม่สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้เลยหรือ

เอาออกซะเถอะนะ คำว่า "เรารักในหลวง" เนี่ย

จังไรอย่างคุณ ไม่มีคุณค่าพอที่จะพูดคำนี้หรอก
บันทึกการเข้า

ทหาร เป็นอะไรก็ไม่ได้ดี นอกจากเป็นทหาร

ตำรวจ เป็นอะไรก็ดีไม่ได้ แม้กระทั่งเป็นตำรวจ
prinz_bismarck
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 156


« ตอบ #2 เมื่อ: 04-05-2008, 20:03 »

ชาติ มันก็แค่เขตแดนที่บอกว่าคนกลุ่มเดียวที่อยู่ด้วยกันเป็นเจ้าของ
ลักษณะความเหมือนร่วมของคนในกลุ่มก็ สมมติ เอา ว่า คนไทย มี
คุณสมบัติเป็นแบบนี้ แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมก็กำหนดไม่ได้ จีน ฝรั่ง
แขก มืด เป็นไทยได้ทั้งนั้น ความเป็นไทยอยู่ตรงไหนก็สมมติทั้งนั้น

ศาสนา ก็แค่เรื่องราวในตำนาน คำสอน บวกกับเรื่องเทพสมมติขึ้นมา
เพื่อใช้ในการเมืองการปกครองในอดีต สืบทอดมาจนปัจจุบัน พิสูจน์
อะไรไม่ได้ เรื่องสมมติอีกตามเคย

สมมติเทพ ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นเทพสมมติ

แล้วเราจะคลั่งอะไรนักหนากับเรื่องสมมติ ถ้าไม่มีเรื่องเหล่านี้พวกท่าน
จะไม่สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้เลยหรือ

นี่คือลักษณะความคิดของมิจฉาทิฎฐิโดยแท้
บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #3 เมื่อ: 04-05-2008, 20:05 »

ชาติ มันก็แค่เขตแดนที่บอกว่าคนกลุ่มเดียวที่อยู่ด้วยกันเป็นเจ้าของ
ลักษณะความเหมือนร่วมของคนในกลุ่มก็ สมมติ เอา ว่า คนไทย มี
คุณสมบัติเป็นแบบนี้ แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมก็กำหนดไม่ได้ จีน ฝรั่ง
แขก มืด เป็นไทยได้ทั้งนั้น ความเป็นไทยอยู่ตรงไหนก็สมมติทั้งนั้น

ศาสนา ก็แค่เรื่องราวในตำนาน คำสอน บวกกับเรื่องเทพสมมติขึ้นมา
เพื่อใช้ในการเมืองการปกครองในอดีต สืบทอดมาจนปัจจุบัน พิสูจน์
อะไรไม่ได้ เรื่องสมมติอีกตามเคย

สมมติเทพ ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นเทพสมมติ

แล้วเราจะคลั่งอะไรนักหนากับเรื่องสมมติ ถ้าไม่มีเรื่องเหล่านี้พวกท่าน
จะไม่สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้เลยหรือ

หากคุณจะคิดว่า อรรถาธิบาย ในสังคม เป็นเรื่องสมมุติ ทั้งสิ้น

คุณต้องเลิกเชื่อในคำว่าเงิน

เพราะความเป็นมนุษย์ มีมาก่อนการที่คิดว่าจะใช้เงินเป็นสิ่งสมมุติทางการซื้อขาย

เลิกเชื่อในเงินซะก่อนที่จะเลิกเชื่อในศาสนา ที่จะทำให้ความเป็นมนุษย์ของคุณมีมากกว่านี้

ศาสนาพุทธไม่ได้มาเพื่อปกครองใคร หากแต่คุณคิดจะปกครอง คุณก็ไม่สมควรจะปกครอง
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #4 เมื่อ: 04-05-2008, 20:06 »

เรื่องพวกนี้มันมีที่มาที่ไป

มันมีคุณค่ากับชีวิตคนเรามาตั้งแต่ไหนแต่ไร เป็นปกติธรรมชาติ

แต่เดี๋ยวนี้ จะเห็นอะไรแปลกๆ เช่น คนบางพวกถ้าไม่สมมติสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชื่อ "ไข่แม้ว" ขึ้นมากราบไหว้บูชา ก็ดูเหมือนไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไงเลยทีเดียว
บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #5 เมื่อ: 04-05-2008, 20:07 »

หากคุณจะคิดว่า อรรถาธิบาย ในสังคม เป็นเรื่องสมมุติ ทั้งสิ้น

คุณต้องเลิกเชื่อในคำว่าเงิน

เพราะความเป็นมนุษย์ มีมาก่อนการที่คิดว่าจะใช้เงินเป็นสิ่งสมมุติทางการซื้อขาย

เลิกเชื่อในเงินซะก่อนที่จะเลิกเชื่อในศาสนา ที่จะทำให้ความเป็นมนุษย์ของคุณมีมากกว่านี้

ศาสนาพุทธไม่ได้มาเพื่อปกครองใคร หากแต่คุณคิดจะปกครอง คุณก็ไม่สมควรจะปกครอง

ไม่เลิกเชื่อในคำว่าเงิน ไม่เลิกเชื่อในคำว่าศาสนา แค่ไม่คลั่ง หวะ เข้าใจบ่อ
บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #6 เมื่อ: 04-05-2008, 20:09 »

ไม่เลิกเชื่อในคำว่าเงิน ไม่เลิกเชื่อในคำว่าศาสนา แค่ไม่คลั่ง หวะ เข้าใจบ่อ
งั้นเป็น Post ดิ จะได้เห็น ฮิตเลอร์ ไม่ผิด 55555555555555

หรือเป็นพวก ธรรมชาติ นิยมก็ได้นะ 
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #7 เมื่อ: 04-05-2008, 20:54 »

งั้นเป็น Post ดิ จะได้เห็น ฮิตเลอร์ ไม่ผิด 55555555555555

หรือเป็นพวก ธรรมชาติ นิยมก็ได้นะ 

เอาความคิดแบบไทยไปตัดสินฮิตเลอร์มันก็เลวนรกแตกไม่มีชิ้นดีแน่นอน เหมือน
ประวัติศาสตร์ไทยเขียนให้จอมพลปอเป็นผู้ร้ายตอนจบไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ฮิตเลอร์
ถ้าห่วยไม่มีดีคงไม่มีคนจงรักภักดีขนาดนั้น ปัจจุบันก็ยังมีนีโอนาซีอยู่ไม่ใช่เหรอ
ความดีความเลวรับรู้จากการบอกเล่าที่มีอคติทั้งนั้น

เรื่องเงินเป็นธรรมชาติของการแลกเปลี่ยนที่ต้องมีตัวกลาง มันปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว

ส่วนเรื่องศาสนาพุทธแค่เอาเรื่องกฏแห่งกรรมมาขู่เพื่อไม่ให้คนมีพฤติกรรมไปในทาง
ที่สังคมไม่ต้องการ มันก็คือเครื่องมือในการปกครองแล้ว อย่าเถียง กฎแห่งกรรม
พิสููจน์ได้ที่ไหน ยิ่งอ้างยิ่งมั่วข้ามไปชาติที่แล้วต่อชาติหน้า พ่อทำลูกรับกรรมก็มี
แทนที่จะเป็นปัจเจก ผ่ารับกรรมเป็นกลุ่มไปซะฉิบ ต่อด้วยเรื่องเจ้ากรรมนายเวร
ศาสนาผีไหนไม่รู้อีก มั่วกันมันส์เชียว
บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #8 เมื่อ: 04-05-2008, 21:01 »

เอาความคิดแบบไทยไปตัดสินฮิตเลอร์มันก็เลวนรกแตกไม่มีชิ้นดีแน่นอน เหมือน
ประวัติศาสตร์ไทยเขียนให้จอมพลปอเป็นผู้ร้ายตอนจบไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ฮิตเลอร์
ถ้าห่วยไม่มีดีคงไม่มีคนจงรักภักดีขนาดนั้น ปัจจุบันก็ยังมีนีโอนาซีอยู่ไม่ใช่เหรอ
ความดีความเลวรับรู้จากการบอกเล่าที่มีอคติทั้งนั้น

เรื่องเงินเป็นธรรมชาติของการแลกเปลี่ยนที่ต้องมีตัวกลาง มันปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว

ส่วนเรื่องศาสนาพุทธแค่เอาเรื่องกฏแห่งกรรมมาขู่เพื่อไม่ให้คนมีพฤติกรรมไปในทาง
ที่สังคมไม่ต้องการ มันก็คือเครื่องมือในการปกครองแล้ว อย่าเถียง กฎแห่งกรรม
พิสููจน์ได้ที่ไหน ยิ่งอ้างยิ่งมั่วข้ามไปชาติที่แล้วต่อชาติหน้า พ่อทำลูกรับกรรมก็มี
แทนที่จะเป็นปัจเจก ผ่ารับกรรมเป็นกลุ่มไปซะฉิบ ต่อด้วยเรื่องเจ้ากรรมนายเวร
ศาสนาผีไหนไม่รู้อีก มั่วกันมันส์เชียว

เครื่องมือการปกครอง เพราะกรรมคือสิ่งที่สังคมตัดสินไง

คุณมองเห็นมั้ย การตัดสินของสังคมก็เหมือนกรรมที่ลงโทษแล้ว

กาลามสูตร 10ประการ เป็นการบ่งบอกแล้วว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ได้

แต่ถ้าหากสิ่งใดที่อยู่ยืนยงมากว่า 2000ปี

แล้วไม่เป็นซึ่งอรรถาธิบายในส่วนเลวของสังคม

ตัวหลักตัวนั้นก็จะเป็นซึ่งสิ่งที่ค้านอรรถาธิบายส่วนเลวของสังคม
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 04-05-2008, 21:02 »

ไม่รู้ว่ะ ขนบธรรมเนียมที่บ้านเป็นอย่างนี้ ฝืนไปก็เท่านั้น เลยไมคิดจะฝืน
แต่ถามว่ามันเป็นเรื่องงมงายหรือไม่ แม้มันมีส่วนแต่จะให้ห้ามมันยาก
คนเราทุกคนย่อมมี และศรัทธาในความเชื่อทั้งนั้นแหละ
คำว่า "ไปไม่เป็น" ของชอบแถ อาจจะไม่ใช่คำตอบของบริบทในสังคมก็ได้
เพียงแต่พวกเขายังเชื่อที่จะศรัทธาในสถาบันหลักของชาติก็เท่านั้น

น้ำเชี่ยวอย่าไปขวาง
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #10 เมื่อ: 04-05-2008, 21:09 »

เครื่องมือการปกครอง เพราะกรรมคือสิ่งที่สังคมตัดสินไง
คุณมองเห็นมั้ย การตัดสินของสังคมก็เหมือนกรรมที่ลงโทษแล้ว
กาลามสูตร 10ประการ เป็นการบ่งบอกแล้วว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ได้
แต่ถ้าหากสิ่งใดที่อยู่ยืนยงมากว่า 2000ปี
แล้วไม่เป็นซึ่งอรรถาธิบายในส่วนเลวของสังคม
ตัวหลักตัวนั้นก็จะเป็นซึ่งสิ่งที่ค้านอรรถาธิบายส่วนเลวของสังคม

โห กรรมคือสิ่งที่สังคมตัดสิน นีโอพุทธเหรอ (ญาติลีโอพุฒหรือเปล่าหว่า)
เค้ามีแต่ชาติที่แล้วชาตินี้ หรือว่าเอาหลักพุทธทาส การตัดสินสังคมไม่ได้
บอกถูกผิด แค่บอกว่าไม่เข้าพวก ตัวอย่างเช่นสังคมนี้กินหมาได้ ไปอีกสังคม
ขืนกินจะโดนเหยียดหยาม ส่วนเรื่องกาลามสูตรถ้าอ่านแล้วตีความกันจริงๆ
คงบ้า เพราะเชื่ออะไรไม่ได้เลย กะกะเอาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งไปหมด มันก็
ต้องมีศรัทธาปนๆ มั่ง แบบว่าไม่ต้องใช้เหตุผลในการเชื่อ ชีวิตถึงจะไปเป็น
แค่ว่าศรัทธาอย่าบ้าคลั่งมากนักก็พอ เข้าใจบ่อ
ปล. อรรถาธิบายแปลว่าไร แปลไม่ออกว่ะ

ไม่รู้ว่ะ ขนบธรรมเนียมที่บ้านเป็นอย่างนี้ ฝืนไปก็เท่านั้น เลยไมคิดจะฝืน
แต่ถามว่ามันเป็นเรื่องงมงายหรือไม่ แม้มันมีส่วนแต่จะให้ห้ามมันยาก
คนเราทุกคนย่อมมี และศรัทธาในความเชื่อทั้งนั้นแหละ
คำว่า "ไปไม่เป็น" ของชอบแถ อาจจะไม่ใช่คำตอบของบริบทในสังคมก็ได้
เพียงแต่พวกเขายังเชื่อที่จะศรัทธาในสถาบันหลักของชาติก็เท่านั้น

น้ำเชี่ยวอย่าไปขวาง

เชื่อ ศรัทธา คลั่ง มองเป็นเหมือนกันไปได้
ถ้าไม่ได้คิดจะล้มสถาบัน แต่ไม่ได้คลั่ง และ
อยากให้มีความชัดเจนในการตรวจสอบคน
รอบข้าง ก็กลายเป็นพวกเลว ไม่สมควรเกิด
เป็นคนไทยซะแล้ว เบื่อเลย
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #11 เมื่อ: 04-05-2008, 21:15 »

ถ้าไม่พยายามให้'นักประชาธิปไตยแม๊วๆ' เป็น'บิดา'
ชีวิต'คนกินหญ้า' จะเป็นคนไทยที่ดีกว่านี้แน่......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า  
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #12 เมื่อ: 04-05-2008, 21:17 »

^
^
คลั่งไม่พอ แปะเลอะเทอะ แถมเบิ้ล ลักษณะทางพันธุกรรมแบบนี้ไทยหรือจีนเนี่ย
บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #13 เมื่อ: 04-05-2008, 21:29 »

อรรถาธิบาย = (น.)การขยายความ การอธิบาย ส่วนขยาย
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #14 เมื่อ: 04-05-2008, 21:37 »

^
^
คลั่งไม่พอ แปะเลอะเทอะ แถมเบิ้ล ลักษณะทางพันธุกรรมแบบนี้ไทยหรือจีนเนี่ย


เป็นคนชาติไหน สัญชาติใดก็ได้...
ขออย่าให้มี'มิจฉาทิฐิ'เหมือนกับผู้ใช้นามแฝง'อยากประหยัดฯ'...... ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
p
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,264


« ตอบ #15 เมื่อ: 04-05-2008, 21:49 »

แล้วเราจะคลั่งอะไรนักหนากับเรื่องสมมติ ถ้าไม่มีเรื่องเหล่านี้พวกท่าน
จะไม่สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้เลยหรือ

สหายแก๊สเอ๋ย
แม้แต่คนที่สหายเรียกว่า "พ่อและแม่"
ก็เป็นเรื่องของการสมมติใช่หรือไม่
สหายจะกล้าสมมติต่อไหม
ที่จะเอาเท้าของสหายลูบหน้า"สมมติพ่อและแม่" หรือ"พ่อและแม่สมมติ"
ตกลงสหายจะคลั่งหรือไม่คลั่งกับเรื่องสมมติ
ตอบมาซิสหาย


 
บันทึกการเข้า

ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 04-05-2008, 21:52 »

รอไอ้แก๊สเลิกคลั่งศาสดาหน้าเหลี่ยมได้ก่อนเถอะ ค่อยมาสอนคนอื่น

ถุยๆๆ


 
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 04-05-2008, 22:03 »

ไม่อยากลากนอกเรื่องไปไกล แต่สงสัยว่าสถาบันทำอะไรให้พวกคุณถึงคิดจะไปตรวจสอบ
ทีไอ้คนที่บริหารประเทศก่อน 19 กันยา ใหญ่คับฟ้า ไม่เห็นคิดจะตรวจสอบอะไร
งงกับลำดับความสำคัญก่อนหลังของชอบแถจริงๆ
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 04-05-2008, 22:09 »

สำหรับกระทู้ อ่านแล้วก็สรุปได้ว่าชอบแถควรลาออกจากความเป็นคนไทยไปเสีย
จะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องสมมติพวกนี้อีก
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #19 เมื่อ: 04-05-2008, 22:39 »

ชาติ มันก็แค่เขตแดนที่บอกว่าคนกลุ่มเดียวที่อยู่ด้วยกันเป็นเจ้าของ
ลักษณะความเหมือนร่วมของคนในกลุ่มก็ สมมติ เอา ว่า คนไทย มี
คุณสมบัติเป็นแบบนี้ แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมก็กำหนดไม่ได้ จีน ฝรั่ง
แขก มืด เป็นไทยได้ทั้งนั้น ความเป็นไทยอยู่ตรงไหนก็สมมติทั้งนั้น

ตัวอย่างง่ายๆ ก็ที่คุณกับผมพิมพ์คุยกันอยู่ตอนนี้เป็นภาษาอะไรล่ะครับ?
ยังไม่รู้อีกหรือว่าความเป็นไทยอยู่ตรงไหน

เรื่องอะไรมันก็สมมุติทั้งนั้น แล้วยังไงล่ะครับจะให้ปล่อยวางสมมุติหรือ
คนเราก็อยู่กับสมมุติทั้งนั้น หรือตัวคุณหลุดพ้นแล้ว
ขอให้ไปสู่สุขคตินะคุณอยากประหยัดฯ   
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #20 เมื่อ: 04-05-2008, 22:46 »

ส่วนเรื่องศาสนาพุทธแค่เอาเรื่องกฏแห่งกรรมมาขู่เพื่อไม่ให้คนมีพฤติกรรมไปในทาง
ที่สังคมไม่ต้องการ มันก็คือเครื่องมือในการปกครองแล้ว อย่าเถียง กฎแห่งกรรม
พิสููจน์ได้ที่ไหน ยิ่งอ้างยิ่งมั่วข้ามไปชาติที่แล้วต่อชาติหน้า พ่อทำลูกรับกรรมก็มี
แทนที่จะเป็นปัจเจก ผ่ารับกรรมเป็นกลุ่มไปซะฉิบ ต่อด้วยเรื่องเจ้ากรรมนายเวร
ศาสนาผีไหนไม่รู้อีก มั่วกันมันส์เชียว

ตกลงเคยได้ไปปฏิบัติธรรมอะไรมาบ้างหรือเปล่าครับ
วิจารณ์อย่างกับเป็นคนนอกศาสนาเลยนะนี่
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #21 เมื่อ: 04-05-2008, 22:49 »

โห กรรมคือสิ่งที่สังคมตัดสิน นีโอพุทธเหรอ (ญาติลีโอพุฒหรือเปล่าหว่า)
เค้ามีแต่ชาติที่แล้วชาตินี้ หรือว่าเอาหลักพุทธทาส การตัดสินสังคมไม่ได้
บอกถูกผิด แค่บอกว่าไม่เข้าพวก ตัวอย่างเช่นสังคมนี้กินหมาได้ ไปอีกสังคม
ขืนกินจะโดนเหยียดหยาม ส่วนเรื่องกาลามสูตรถ้าอ่านแล้วตีความกันจริงๆ
คงบ้า เพราะเชื่ออะไรไม่ได้เลย กะกะเอาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งไปหมด มันก็
ต้องมีศรัทธาปนๆ มั่ง แบบว่าไม่ต้องใช้เหตุผลในการเชื่อ ชีวิตถึงจะไปเป็น
แค่ว่าศรัทธาอย่าบ้าคลั่งมากนักก็พอ เข้าใจบ่อ
ปล. อรรถาธิบายแปลว่าไร แปลไม่ออกว่ะ
อ่านกาลามสูตรก็ไม่จบแล้วยังยกเอามาพูด กลับไปอ่านให้จบก่อนนะครับ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #22 เมื่อ: 04-05-2008, 22:50 »

สหายแก๊สเอ๋ย
แม้แต่คนที่สหายเรียกว่า "พ่อและแม่"
ก็เป็นเรื่องของการสมมติใช่หรือไม่
สหายจะกล้าสมมติต่อไหม
ที่จะเอาเท้าของสหายลูบหน้า"สมมติพ่อและแม่" หรือ"พ่อและแม่สมมติ"
ตกลงสหายจะคลั่งหรือไม่คลั่งกับเรื่องสมมติ
ตอบมาซิสหาย


 

คุณ p สมมุติได้เห็นภาพเลยจริงๆ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #23 เมื่อ: 05-05-2008, 01:05 »

แหม.. ไม่ยึดติดชาติ ไม่ยึดติดศาสนา

ฟังดูเท่ๆ ยังกะจอห์น เลนนอน


แต่เสือกบูชาเงิน นิยมฮิตเลอร์ ซัดดัม


สงสัยจะมาแนวเดียวกับไอ้เฒ่าออสเตรีย
พ่อ-ลูก คน-สัตว์-สิ่งของ ก็แค่สมมติ

แม่งเลยไม่ยึดถืออะไร
incest ซะเลย





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2008, 01:08 โดย Cherub Rock » บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
sensei
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 721



« ตอบ #24 เมื่อ: 05-05-2008, 01:07 »

ถ้าจิตใจไม่ได้เลวกว่า Sud นรก คิดไม่ได้นะเนี่ย  
บันทึกการเข้า

jnaj1
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 170


« ตอบ #25 เมื่อ: 05-05-2008, 02:51 »

อยากประหยัดให้ติดแก๊ส   พูดถูกแล้ว

เรื่องชาติ เรื่องศาสนา ตัวเรา ตัวเขา สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งสมมุติ ที่เรียกกันว่า "สมมุติสัจจะ"

คือเป็นสิ่งอุปโหลกขึ้นมาให้ยึดถือกัน ตามการเรียนรู้ของมนุษย์

ยิ่งยึดมากก็ยิ่งติดมาก ทุกข์มาก


พุทธศาสนา จึงชี้ให้เห็นความจริงอีกอย่างนึง ที่เรียกว่า "ปรมัถสัจจะ"

อันเป็นธรรมชาติแท้ๆ ของสรรพสิ่ง คือ เป็นเพียงการประชุมกันของกองขันธ์

ที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป ไม่มีตัวตนที่แท้จริง ตามไตรลักษณ์

หากปราศจากอวิชชา (ไม่ใช่คิดเอา แต่จิตรู้อย่างแท้จริง) ก็จะมองทุกสิ่งตามสภาพความเป็นจริง

นั่นคือ ไม่ยึดถือ ไม่มีตัวตน ไม่มีที่ตั้งให้เกิดทุกข์

(ไม่ได้แปลว่า ไม่ได้รับกรรม รับกรรมตามปกติ แต่ไม่เกิดทุกข์)


แต่อย่างไรก็ตาม พุทธศาสนาไม่ได้ปฎิเสธ "สมมุติสัจจะ" อย่างสิ้นเชิง

ดังจะเห็นได้จาก มรรค 8 ที่ให้มีหน้าที่การงานชอบ วาจาชอบ ฯลฯ

แก่นของพุทธศาสนา คือ เรื่องทุกข์ และการดับทุกข์

ไม่ได้เป็นเครื่องมือเอาไว้ปกครองคน อย่างที่เข้าใจ


ครูบาอาจารย์ที่ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ หลงเหลือในยุคเรา ยังพอมี

ที่จะสั่งสอนให้เข้าใจธรรมะแท้ๆได้

ถ้าหาไม่เจอเลยซักท่าน ก็น่าเสียดายแทน

 
บันทึกการเข้า
Rule of Law
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 185


« ตอบ #26 เมื่อ: 05-05-2008, 03:27 »

ตั้งกระทู้อ่อนๆล่อเป้า เสร็จแล้วหาย....

สังคมรัฐ (ชาติ) เป็นธรรมชาติของมนุษย์ แถเอ๊ย  อย่าเก่งแต่ปากโดยไม่มองสัจธรรม

เอาแค่เรื่องชาติพอ

ชีวิตประจำวัน มันก็ไม่จำเป็นต้องไปคลั่งชาติหรอก
แค่มีจิตสำนึกเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง โดยไม่ไปเบียดเบียนผุ้อื่น นั่นก็ดีถมไปแล้ว

ถ้าคลั่งชาติแล้วมีแผ่นดินให้กินให้ตาย
ถ้าไม่คลั่งชาติแล้วปล่อยให้ส่วนรวมอิ๊บอ๋าย ไม่มีแผ่นดินจะกลบหน้า
สัตว์โลกอย่างเอ็ง อย่างข้า มันก็ต้องเลือกคลั่งชาติแหละวะ ธรรมชาติของความอยู่รอดง่ายๆ จะอุตริทำไม

อย่าแถว่าคนเราสามารถไปอยู่แผ่นดินไหนในโลกก็ได้
มันได้จริง แต่พูดคนละภาษา ผิวพรรณคนละแบบ มันรวมกันยากกว่า
ยากกว่าที่จะออกจากท้องแม่ ลืมตาแล้วมีแผ่นดินให้ยืนเลย เผลอๆต้องยอมเป็นขี้ข้าก่อน

ขอเลือกคลั่งชาติดีกว่าว่ะ


บันทึกการเข้า

Your C.V is nothing. Your future plan...is everything.
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #27 เมื่อ: 05-05-2008, 05:35 »

ในโลกมันมีอยู่สองสิ่งที่ใกล้เคียงกันแต่ต่างกันในเรื่องของความชอบธรรม สิ่งแรกเราเรียกมันว่า "สิ่งสมมุติ" กับอีกสิ่งเราเรียกมันว่า "สิ่งอุปโลค" ซึ่งสิ่งสมมุติอาจจะกล่าวได้ว่ามันคล้ายกับคำว่าสัญญะ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากความเห็น ความคิด หรืออุดมคิ ของผู้คน สังคม หรือกลุ่มคน ที่มีความคิดต่างๆใกล้เคียงกันหรือเหมือนๆกัน ถือเป็นความชอบธรรมโดยแท้ เช่นสมมุติว่าเราจะเรียกขานแทนกลุ่มคนของเราว่าไทย เรียกดินแดนในเขตุภูมิประเทศเราว่าประเทศไทย เรียกผู้นำของเราว่าเทพ ซึ่งทุกอย่างมีความชอบธรรม หรือมีข้อตกลงของสังคมนี้ กลุ่มคนนี้ ซึ่งกลุ่มคนนี้ หรือสังคมนี้ อาจเกิดก่อนหรือหลังจากมีการสมมุติแล้วก็ได้ แต่ยังยึดถือว่าสิ่งนั้น เป็นข้อตกลงหรือสัญญะร่วมกัน จนก่อเกิดเป็นวิถี เป็นธรรมเนียม ประเพณี ซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่เรียกว่าสิ่งอุปโลค ตรงการอุปโลค มันขาดความชอบธรรม เป็นการแสดงความคิด ความเห็น อุดมคติส่วนตัว เพื่อยัดเยียด หรือรุกล้ำต่อพื้นที่ของสัญญะของกลุ่มคน หรือสังคมนั้นๆให้เห็นตาม อาจด้วยวธีการอวดอ้าง ยกตนข่มท่าน แถ หรือตะแบง ก็สุดแล้วแต่จะคิดค้นวิธีการ โดยส่วนตัวคิดว่า สิ่งใดเป็นสิ่งใด ในสังคมนะตรงนี้ แยกแยะได้ คิดเป็น ยอมรับ และยึดถือ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะสมมุติขึ้น หากเกิดจากความชอบธรรมข้างต้นแล้ว ก็เห็นได้ว่าไม่ผิด หรือไม่สมควรที่จะยอมให้การอุปโลคสิ่งใด หรือวิธีคิดใด มาทำลายสัญญะสิ่งเป็นพื้นที่ร่วมกันของสังคมนี้ โปรดพิจารณา
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
northstar
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 635


« ตอบ #28 เมื่อ: 05-05-2008, 06:16 »

สหายแก๊สเอ๋ย
แม้แต่คนที่สหายเรียกว่า "พ่อและแม่"
ก็เป็นเรื่องของการสมมติใช่หรือไม่
สหายจะกล้าสมมติต่อไหม
ที่จะเอาเท้าของสหายลูบหน้า"สมมติพ่อและแม่" หรือ"พ่อและแม่สมมติ"
ตกลงสหายจะคลั่งหรือไม่คลั่งกับเรื่องสมมติ
ตอบมาซิสหาย


 

อันนี้ชัดเจนเลย... สงสัยไอ้แถใช้ตีนกวักเรียกพ่อ-แม่แทนมือ...
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #29 เมื่อ: 05-05-2008, 06:55 »

สหายแก๊สเอ๋ย
แม้แต่คนที่สหายเรียกว่า "พ่อและแม่"
ก็เป็นเรื่องของการสมมติใช่หรือไม่
สหายจะกล้าสมมติต่อไหม
ที่จะเอาเท้าของสหายลูบหน้า"สมมติพ่อและแม่" หรือ"พ่อและแม่สมมติ"
ตกลงสหายจะคลั่งหรือไม่คลั่งกับเรื่องสมมติ
ตอบมาซิสหาย


 

พ่อแม่ลูกมีความเกี่ยวพันทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ ไม่ต้องสมมติ
สังคมกำหนดกฎเกณฑ์ให้ลูกเคารพพ่อแม่ เมื่ออยู่ในสังคมเราควร
รู้ว่าต้องทำอย่างไรและสังคมกำหนดแบบนี้เพราะอะไร ให้ความเคา
รพพ่อแม่พอเหมาะพอควร ไม่ใช่ คลั่งพ่อแม่ กราบเท้าทุกเวลาที่พบ
ใครวิจารณ์พ่อแม่ไม่ได้ต้องไล่มันไปต่างประเทศ เวลาใครมาพบพ่อ
แม่เราแล้วนั่งเฉยๆ ไม่ยืนไหว้ก็จะกระทืบมัน แบบนั้นเรียก คลั่ง
แยกแยะออกหรือเปล่าเนี่ย

อ่านกาลามสูตรก็ไม่จบแล้วยังยกเอามาพูด กลับไปอ่านให้จบก่อนนะครับ 

๑. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
๒. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
๓. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
๔. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
๕. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
๖. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
๗. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
๘. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
๙. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
๑๐.อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน

ตกลงที่เชื่อว่าทักษิณเลวทักษิณโกงนี่เชื่อแบบไหน

แหม.. ไม่ยึดติดชาติ ไม่ยึดติดศาสนา
ฟังดูเท่ๆ ยังกะจอห์น เลนนอน

แต่เสือกบูชาเงิน นิยมฮิตเลอร์ ซัดดัม

อ้าว ไม่ยึดติดเงินแล้วเอาอะไรซื้อของหละจ๊ะ อันไหนยึดแล้วไม่บ้าไม่โง่ดูดีก็ยึดๆ ไปเหอะ จริงป่าว
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #30 เมื่อ: 05-05-2008, 07:04 »

ไม่อยากลากนอกเรื่องไปไกล แต่สงสัยว่าสถาบันทำอะไรให้พวกคุณถึงคิดจะไปตรวจสอบ
ทีไอ้คนที่บริหารประเทศก่อน 19 กันยา ใหญ่คับฟ้า ไม่เห็นคิดจะตรวจสอบอะไร
งงกับลำดับความสำคัญก่อนหลังของชอบแถจริงๆ

ทักษิณเข้ากระบวนการตรวจสอบไปแล้ว ไม่ใช่พวกแตะต้องไม่ได้
ถ้าไม่คิดเรื่องตรวจสอบสำหรับคนกลุ่มที่มีอำนาจและเงินมากที่สุด
ในประเทศไทย วันที่เกิดความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของไทย
จะน่ากลัวมาก ถ้าพฤติกรรมของคนรอบข้างกลุ่มนั้นทั้งแทรกแซง
การเมืองและหาผลประโยชน์เข้ากองทุนโดยตรวจสอบไม่ได้หละก็
ลองคิดถึงกรณีสมเด็จพระสังฆราชก็แล้วกัน
บันทึกการเข้า
northstar
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 635


« ตอบ #31 เมื่อ: 05-05-2008, 07:34 »

ชาติ มันก็แค่เขตแดนที่บอกว่าคนกลุ่มเดียวที่อยู่ด้วยกันเป็นเจ้าของ
ลักษณะความเหมือนร่วมของคนในกลุ่มก็ สมมติ เอา ว่า คนไทย มี
คุณสมบัติเป็นแบบนี้ แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมก็กำหนดไม่ได้ จีน ฝรั่ง
แขก มืด เป็นไทยได้ทั้งนั้น ความเป็นไทยอยู่ตรงไหนก็สมมติทั้งนั้น

ศาสนา ก็แค่เรื่องราวในตำนาน คำสอน บวกกับเรื่องเทพสมมติขึ้นมา
เพื่อใช้ในการเมืองการปกครองในอดีต สืบทอดมาจนปัจจุบัน พิสูจน์
อะไรไม่ได้ เรื่องสมมติอีกตามเคย

สมมติเทพ ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นเทพสมมติ

แล้วเราจะคลั่งอะไรนักหนากับเรื่องสมมติ ถ้าไม่มีเรื่องเหล่านี้พวกท่าน
จะไม่สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้เลยหรือ

ปู๊ดโธ่... ท่านแถมหาสมมติ... ท่านลองไปต่างประเทศแล้วไปพูดแบบนี้กับพวกเค้าดูสิครับ...เผื่อพวกเค้าจะรับฟังท่านบ้าง... แล้วก็ลองด่า
หรือว่าดูถูกความเป็นชาติของพวกเค้าดู...เอาแบบสมมตินะ... พวกเค้าก็คงจะเอาส้นตรีนประดับหน้าท่านแบบสมมติๆอ่ะนะ... ทุกชาติ-ทุกเผ่า
พันธุ์มีความภาคภูมิใจในความเป็นพวกเค้า... พวกเค้ารักชาติ-รักเผ่าพันธุ์ของพวกเค้า... พวกเค้าผูกพันในชาติ-ในเผ่าพันธุ์...
มันต่างจากความคลั่งไคล้จนสิ้นเชิง... ถ้าทุกคนสมมติได้แบบที่ว่าก็เป็นเทพกันทั้งโลก... มั่วไปได้เรื่อยๆนะท่านแถมหาสมมติ
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #32 เมื่อ: 05-05-2008, 10:07 »

ปู๊ดโธ่... ท่านแถมหาสมมติ... ท่านลองไปต่างประเทศแล้วไปพูดแบบนี้กับพวกเค้าดูสิครับ...เผื่อพวกเค้าจะรับฟังท่านบ้าง... แล้วก็ลองด่า
หรือว่าดูถูกความเป็นชาติของพวกเค้าดู...เอาแบบสมมตินะ... พวกเค้าก็คงจะเอาส้นตรีนประดับหน้าท่านแบบสมมติๆอ่ะนะ... ทุกชาติ-ทุกเผ่า
พันธุ์มีความภาคภูมิใจในความเป็นพวกเค้า... พวกเค้ารักชาติ-รักเผ่าพันธุ์ของพวกเค้า... พวกเค้าผูกพันในชาติ-ในเผ่าพันธุ์...
มันต่างจากความคลั่งไคล้จนสิ้นเชิง... ถ้าทุกคนสมมติได้แบบที่ว่าก็เป็นเทพกันทั้งโลก... มั่วไปได้เรื่อยๆนะท่านแถมหาสมมติ



ก่อนหน้านี้สหรัฐอเมริกาไม่เห็นความสำคัญ คุณค่าของ'ธงชาติ'
วันนี้ผู้สมมุติชื่อ'อยากประหยัดฯ' ไปทำอะไรมิดีมิร้ายกับธงชาติอเมริกา ก็โดนเหมือนกัน....


ปล. เพราะคิดว่า'อยากประหยัดฯ' เป็นชื่อสมมุติในเวบเสรีไทย
ไม่มีตัวตนจริงๆ เดินได้ คลานได้บนท้องถนน ไม่มีใครรู้จัก.....
จึงคิดอะไร พูดอะไร เพ้อเจ้ออย่างคนสิ้นคิด อย่างคนมี'มิจฉาทิฐิ'ได้.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2008, 10:11 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #33 เมื่อ: 05-05-2008, 10:18 »

เจ้าของกระทู้เขียนมาทั้งหมดนี่ด้วยอคติแท้ๆ อคติเพราะรักคลั่งไคล้เทิดทูนนิยมชมชอบคนหน้าเหลี่ยมมากเกินไป

สอนตัวเองให้เอาชนะสิ่งเหล่านี้ได้ก่อนถึงค่อยมาสอนผู้อื่นนะครับ


หลักธรรมะก็รู้แค่เปลือก อุตริมาสอนสั่งคนอื่น ตัวเองก็ใช่ว่าจะทำได้

ถุยๆๆ
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


Gu
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 68



« ตอบ #34 เมื่อ: 05-05-2008, 10:52 »

ถ้าสิ่งที่กล่าวมาไม่ว่าจะเป็นชาติ ศาสนาเป็นสิ่งสมมุติขึ้นมาเพื่อให้สังคมไม่บิดเบี้ยว เพื่อให้คนมีคุณธรรมแล้ว ผมว่าสิ่งที่คนรุ่นเก่าสมมุติขึ้นมาถูกต้องแล้ว
บันทึกการเข้า

ชีวิตคือการเดินทางบางครั้งการเดินทางก้อแสนจะยาวนานเกินไปสำหรับชีวิตคนหนึ่งคน
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #35 เมื่อ: 05-05-2008, 10:58 »

สงสัย แก๊สมันนับถือลัทธิเต๋า
"สิ่งที่มองเห็น ไม่มี สิ่งที่มองไม่เห็น กลับมี"
อะไรทำนองนี้ แล้วมันตีปริศนาธรรมไม่แตก ก็เลยเพี้ยนว่ะ.......เอิ้กกกก

 
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
p
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,264


« ตอบ #36 เมื่อ: 05-05-2008, 11:24 »

พ่อแม่ลูกมีความเกี่ยวพันทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ ไม่ต้องสมมติ
สังคมกำหนดกฎเกณฑ์ให้ลูกเคารพพ่อแม่ เมื่ออยู่ในสังคมเราควร
รู้ว่าต้องทำอย่างไรและสังคมกำหนดแบบนี้เพราะอะไร ให้ความเคา
รพพ่อแม่พอเหมาะพอควร ไม่ใช่ คลั่งพ่อแม่ กราบเท้าทุกเวลาที่พบ
ใครวิจารณ์พ่อแม่ไม่ได้ต้องไล่มันไปต่างประเทศ เวลาใครมาพบพ่อ
แม่เราแล้วนั่งเฉยๆ ไม่ยืนไหว้ก็จะกระทืบมัน แบบนั้นเรียก คลั่ง
แยกแยะออกหรือเปล่าเนี่ย

ทุกอย่างที่สหายแก๊สยกมานั้น
ล้วนเป็นสิ่งสมมติทั้งสิ้นรู้หรือเปล่า
ถ้ายังไม่รู้ หรือยังไม่เข้าใจ
กรุณากลับไปศึกษาใหม่
แล้วค่อยออกมาเพ่นพ่านใหม่นะครับ


 
บันทึกการเข้า

ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #37 เมื่อ: 05-05-2008, 12:01 »

ชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์ ( สมมติเทพ ) เป็นสิ่งสมมติ
ส่วน "้เงิน" เป็นสิ่ง "ใช้ยึดเหนี่ยวได้" ??

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2008, 12:04 โดย qazwsx » บันทึกการเข้า

RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #38 เมื่อ: 05-05-2008, 12:52 »

ทักษิณเข้ากระบวนการตรวจสอบไปแล้ว ไม่ใช่พวกแตะต้องไม่ได้
ถ้าไม่คิดเรื่องตรวจสอบสำหรับคนกลุ่มที่มีอำนาจและเงินมากที่สุด
ในประเทศไทย วันที่เกิดความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของไทย
จะน่ากลัวมาก ถ้าพฤติกรรมของคนรอบข้างกลุ่มนั้นทั้งแทรกแซง
การเมืองและหาผลประโยชน์เข้ากองทุนโดยตรวจสอบไม่ได้หละก็
ลองคิดถึงกรณีสมเด็จพระสังฆราชก็แล้วกัน

ถ้าแถและพวกสนับสนุนให้มีการตรวจสอบก่อนหน้านี้ คงไม่ต้องมี 19 กันยาหรอก
ตรงนี้ไม่ว่ากัน เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว แต่รู้สึกจะไม่ค่อยสำนึกกันเท่าไหร่

ส่วนที่จะตรวจสอบสถาบัน นอกจากพระมหากษัตริย์แล้ว หน่วยงานอื่นๆ ก็ถูกฟ้องร้องได้ตามปกติ
การฟ้องร้องสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด
แล้วเท่าที่รู้ก็ไม่เห็นมีคู่ความคดีไหนโดนเก็บเหมือนทนายสมชายหรือชิปปิ้งหมูคนนั้น

แล้วบอกว่าตรวจสอบไม่ได้ นั้นคือใครที่ตรวจสอบไม่ได้ แล้วจะตรวจสอบอะไรส่วนไหน
เพราะทรัพย์สินในส่วนพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่งบประมาณของประเทศ มีสิทธิอะไรจะไปตรวจสอบ
เหมือนผมบอกว่าบัญชี Man City ตรวจสอบไม่ได้ คงต้องโดนถามกลับว่ามีสิทธิอะไร
หรือว่าอยากด่าบางคนแต่ด่าไม่ได้ เลยพาลหาเรื่องคนอื่นกันแน่
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #39 เมื่อ: 05-05-2008, 13:29 »

ถ้าแถและพวกสนับสนุนให้มีการตรวจสอบก่อนหน้านี้ คงไม่ต้องมี 19 กันยาหรอก
ตรงนี้ไม่ว่ากัน เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว แต่รู้สึกจะไม่ค่อยสำนึกกันเท่าไหร่

ส่วนที่จะตรวจสอบสถาบัน นอกจากพระมหากษัตริย์แล้ว หน่วยงานอื่นๆ ก็ถูกฟ้องร้องได้ตามปกติ
การฟ้องร้องสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด
แล้วเท่าที่รู้ก็ไม่เห็นมีคู่ความคดีไหนโดนเก็บเหมือนทนายสมชายหรือชิปปิ้งหมูคนนั้น

แล้วบอกว่าตรวจสอบไม่ได้ นั้นคือใครที่ตรวจสอบไม่ได้ แล้วจะตรวจสอบอะไรส่วนไหน
เพราะทรัพย์สินในส่วนพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่งบประมาณของประเทศ มีสิทธิอะไรจะไปตรวจสอบ
เหมือนผมบอกว่าบัญชี Man City ตรวจสอบไม่ได้ คงต้องโดนถามกลับว่ามีสิทธิอะไร
หรือว่าอยากด่าบางคนแต่ด่าไม่ได้ เลยพาลหาเรื่องคนอื่นกันแน่

อ้างอิงจากประวัติศาสตร์

ได้ตรวจสอบทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และพบว่าเงินจำนวนถึง 4.19 ล้านบาท
ในบัญชีของกรมพระคลังข้างที่ได้ถูกสั่งจ่ายไปโดยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้า
อยู่หัวก่อนที่จะสละราชสมบัติในปี พ.ศ. 2475–2477 และเมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้น
ลงในปี พ.ศ. 2482 กระทรวงการคลังก็ได้มอบเรื่องราวให้อัยการเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวว่าได้ทรงโอนทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์
ไปเป็นของส่วนพระองค์ โดย “ไม่มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วยกฎหมายและโดย
ไม่มีผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ” คดีนี้ใช้เวลา 2 ปีเศษ และในวันที่ 30
กันยายน พ.ศ. 2484 ศาลก็ได้ตัดสินให้พระองค์ทรงแพ้คดี พระองค์จะต้องคืนเงิน
4.19 ล้านบาท รวมทั้งดอกเบี้ยซึ่งเป็นเงินทั้งสิ้นเท่ากับ 6.2 ล้านบาท ให้กับรัฐบาล


ด้วยกฎหมายปัจจุบันสำนักงานทรัพย์สินฯ ไม่ต้องเสียภาษี จึงไม่จำเป็นต้องแจ้งงบดุล
ต่อหน่วยงานราชการ แปลว่าไม่ต้องผ่านผู้ตรวจสอบบัญชีภายนอกเซ็นต์รับรองและยื่น
ให้หน่วยงานอื่นรับรู้ เป็นสาเหตุที่ว่าไม่มีข้อมูลทางบัญชีออกมาภายนอก เปรียบเทียบ
กับบัญชี Man City เมื่อต้องแจ้งบัญชีต่อตลาดหลักทรัพย์อังกฤษย่อมหนีไม่พ้นการ
ตรวจสอบตามมาตรฐานการตรวจสอบทางบัญชี และผู้สนใจสามารถหาดูได้

ที่ว่าตรวจสอบไม่ได้หมายความว่า ไม่มีบัญชีรายงวดปีออกมาให้องค์กรอื่นตรวจสอบ
ว่าปีๆ ทำอะไรไปมั่ง ไม่เหมือนกับองค์กรนิติบุคคลอื่นใดในประเทศไทย ไม่ใช่หมาย
ความว่าสงสัยอะไรก็เดินเข้าไปตรวจสอบภายในองค์กร นั่นมันผิดกฎหมาย

ตรวจสอบได้กับฟ้องร้องได้ไม่เหมือนกันนะคับ

ด้วยลักษณะสถานะพิเศษของสำนักงานทรัพย์สินฯ โดยเฉพาะกฎหมายให้ความ
คุ้มครองทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (รวมทั้งกฎหมายอื่น ๆ ให้ความคุ้มครอง
สถานะของพระมหากษัตริย์) ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะและประมุขของชาติ
การดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบสำนักงานทรัพย์สินฯ จะต้องได้รับพระบรมราชา
นุญาตและไม่พึงดำเนินการสอบสวนให้เป็นที่กระทบกระเทือนต่อพระราชอำนาจ
(คำวินิจฉัยคณะกรรมการกฤษฎีกา “เรื่องเสร็จที่ 118/2544 เรื่อง ฐานะของสำนัก
งานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยผู้
ตรวจราชการแผ่นดินของรัฐสภา พ.ศ. 2542”)
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #40 เมื่อ: 05-05-2008, 14:30 »

บังคับให้นักฟุตบอลไหว้ก่อนลงนี่คลั่งรึเปล่า

บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #41 เมื่อ: 05-05-2008, 14:34 »

หนุ่มโชว์'เจ้าโลก'โผล่งาน'มหาปชช.' เข้ามอบตัวแล้ว อ้างทำไปเพราะแค้นพันธมิตร

ชายโชว์'ของลับ'โผล่ร่วมงานสัมนา'มหาปชช.' อ้างทำไปเพราะแค้นแกนนำพันธมิตรฯ เข้ามอบตัวกับตร.แล้ว 'เหลิม' ซัด'สนธิลิ้ม'เคยโดนคดีหมิ่นเบื้องสูงมาแล้วจำคุก2ปีไม่สำนึก'หมัก' จวก'ไอ้หัวเถิก-เอเอสทีวี' กล่าวหาไม่จงรักภักดี ซัดพันธมิตรฯหวังจุดชนวนดึงทหารปฏิวัติ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=28756&catid=1


อันนี้คลั่งเพราะความแค้น

ดูทีแรกเห็นบอกว่าคลั่งประชาธิปไตย

ไปหารูปดูอาการคลั่งเอาเอง ว่าทุเรศขนาดไหน
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #42 เมื่อ: 05-05-2008, 14:41 »

เพราะมีเหตุการณ์แบบปี 2475-2477 จึงได้มีการออก พรบ. จัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ ขึ้นในปี 2479
เขาออก พรบ. มาล่วงหน้า 70 กว่าปี เพื่อชอบแถจะได้อ้างไม่ได้อีกว่ามีการโอนทรัพย์สินไปเป็นส่วนพระองค์

ส่วนที่ สตง. ตรวจสอบไม่ได้นั้นก็ไม่ถือเป็นความจริง เพราะสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ถือเป็น "หน่วยงานของรัฐ"
อ้างได้จาก http://forum.serithai.net/index.php?topic=23085.msg275132#msg275132
ถึงจะมีคำแนะนำ ว่าควรจะเป็นไปตามพระราชประสงค์ แต่ก็เป็นแค่ "คำแนะนำ" ที่ไม่จำเป็นต้องทำตามก็ไม่ผิดกฎหมาย

นอกจากนั้น รมต. ว่าการกระทรวงการคลัง ยังเข้าไปนั่งเป็นประธานกรรมการ
ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าประธานกรรมการมีอำนาจหน้าที่อะไรบ้าง หรือไปนั่งเป็นหัวโต๊ะเฉยๆ
เอาสำนักงานทรัพย์ล่อเป้าให้ลิ่วล้อไปเรื่อยๆ
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #43 เมื่อ: 05-05-2008, 15:48 »

เพราะมีเหตุการณ์แบบปี 2475-2477 จึงได้มีการออก พรบ. จัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ ขึ้นในปี 2479
เขาออก พรบ. มาล่วงหน้า 70 กว่าปี เพื่อชอบแถจะได้อ้างไม่ได้อีกว่ามีการโอนทรัพย์สินไปเป็นส่วนพระองค์

ส่วนที่ สตง. ตรวจสอบไม่ได้นั้นก็ไม่ถือเป็นความจริง เพราะสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ถือเป็น "หน่วยงานของรัฐ"
อ้างได้จาก http://forum.serithai.net/index.php?topic=23085.msg275132#msg275132
ถึงจะมีคำแนะนำ ว่าควรจะเป็นไปตามพระราชประสงค์ แต่ก็เป็นแค่ "คำแนะนำ" ที่ไม่จำเป็นต้องทำตามก็ไม่ผิดกฎหมาย

นอกจากนั้น รมต. ว่าการกระทรวงการคลัง ยังเข้าไปนั่งเป็นประธานกรรมการ
ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าประธานกรรมการมีอำนาจหน้าที่อะไรบ้าง หรือไปนั่งเป็นหัวโต๊ะเฉยๆ
เอาสำนักงานทรัพย์ล่อเป้าให้ลิ่วล้อไปเรื่อยๆ

เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า

ผู้อำนวยการ พนักงานเจ้าหน้าที่ ในสังกัดสำนักงานทรัพย์สิน ถือเป็นพนักงานหรือลูกจ้าง
ตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาฯ
จึงอยู่ในอำนาจตรวจสอบของ ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาฯ


ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาฯ มาจากการแต่งตั้งตาม รัฐธรรมนวย 2550 ไม่ใช่ผู้ตรวจเงินแผ่นดิน
มันคนละคนกันแล้วเฮีย
บันทึกการเข้า
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: 05-05-2008, 16:33 »

เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า

ผู้อำนวยการ พนักงานเจ้าหน้าที่ ในสังกัดสำนักงานทรัพย์สิน ถือเป็นพนักงานหรือลูกจ้าง
ตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาฯ
จึงอยู่ในอำนาจตรวจสอบของ ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาฯ


ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาฯ มาจากการแต่งตั้งตาม รัฐธรรมนวย 2550 ไม่ใช่ผู้ตรวจเงินแผ่นดิน
มันคนละคนกันแล้วเฮีย

ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมานานแล้ว ไม่งั้นจะมีคำวินิจฉัยกฤษฎีกาปี 44 ได้ยังไง
แล้วถ้าจะพูดถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่ใช่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ยังไงก็ตามแต่ก็สรุปว่ามีอำนาจตรวจสอบได้ใช่ไหม
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #45 เมื่อ: 05-05-2008, 16:49 »

ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมานานแล้ว ไม่งั้นจะมีคำวินิจฉัยกฤษฎีกาปี 44 ได้ยังไง
แล้วถ้าจะพูดถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่ใช่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ยังไงก็ตามแต่ก็สรุปว่ามีอำนาจตรวจสอบได้ใช่ไหม

อันเดิม เห็นพรีเซ็นเตอร์หนังเหนียวนั่นก็พอบอกได้แล้วว่าพี่แกอยู่ฝ่ายไหน

อันใหม่ เอาตามรัฐธรรมนูญเลยนะ

มาตรา ๒๐๐
พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งผู้พิพากษาและตุลาการ และทรงให้พ้นจาก ตำแหน่ง เว้นแต่กรณีที่พ้นจากตำแหน่งเพราะความตาย

การแต่งตั้งและการให้ผู้พิพากษาและตุลาการในศาลอื่นนอกจากศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง และศาลทหาร พ้นจากตำแหน่ง ตลอดจนอำนาจพิพากษาคดีและวิธีพิจารณา ของศาลดังกล่าว ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลนั้น

มาตรา ๒๔๒
ผู้ตรวจการแผ่นดินมีจำนวนสามคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตาม คำแนะนำของวุฒิสภา จากผู้ซึ่งเป็นที่ยอมรับนับถือของประชาชน มีความรอบรู้และมีประสบการณ์ในการ บริหารราชการแผ่นดิน วิสาหกิจ หรือกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ร่วมกันของสาธารณะ และมีความซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์

ให้ผู้ได้รับเลือกเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินประชุมและเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็นประธาน ผู้ตรวจการแผ่นดินแล้วแจ้งผลให้ประธานวุฒิสภาทราบ
ให้ประธานวุฒิสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานผู้ตรวจการ แผ่นดินและผู้ตรวจการแผ่นดิน
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ตรวจการแผ่นดินให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน
ผู้ตรวจการแผ่นดินมีวาระการดำรงตำแหน่งหกปีนับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง และให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว
ให้มีสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นหน่วยงานที่เป็นอิสระในการบริหารงานบุคคล การงบประมาณ และการดำเนินการอื่น ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ

มาตรา ๒๔๓
การสรรหาและการเลือกผู้ตรวจการแผ่นดินให้นำบทบัญญัติมาตรา ๒๐๖ และมาตรา ๒๐๗ มาใช้บังคับโดยอนุโลม โดยให้มีคณะกรรมการสรรหาจำนวนเจ็ดคนประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร บุคคลซึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาคัดเลือกจำนวนหนึ่งคน และบุคคล ซึ่งที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดคัดเลือกจำนวนหนึ่งคน และให้นำบทบัญญัติ มาตรา ๒๓๑ (๑) วรรคสอง มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม


สรุปเป็นว่า พระมหากษัตริย์แต่งตั้งผู้พิพากษา ผู้พิพากษาและคณะเป็นกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดินฯ
เพื่อให้ ผู้ตรวจการแผ่นดินฯ ไปตรวจสอบ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แล้วมันจะตรวจได้เหรอนั่น

ถ้าตั้งกติกาแบบนี้ไว้ตรวจสอบรัฐบาลคงโดนโจมตีเละไปแล้ว ใช่ป่าวเฮีย
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #46 เมื่อ: 05-05-2008, 17:00 »

อันเดิม เห็นพรีเซ็นเตอร์หนังเหนียวนั่นก็พอบอกได้แล้วว่าพี่แกอยู่ฝ่ายไหน

อันใหม่ เอาตามรัฐธรรมนูญเลยนะ

มาตรา ๒๐๐
พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งผู้พิพากษาและตุลาการ และทรงให้พ้นจาก ตำแหน่ง เว้นแต่กรณีที่พ้นจากตำแหน่งเพราะความตาย

การแต่งตั้งและการให้ผู้พิพากษาและตุลาการในศาลอื่นนอกจากศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง และศาลทหาร พ้นจากตำแหน่ง ตลอดจนอำนาจพิพากษาคดีและวิธีพิจารณา ของศาลดังกล่าว ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลนั้น

มาตรา ๒๔๒
ผู้ตรวจการแผ่นดินมีจำนวนสามคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตาม คำแนะนำของวุฒิสภา จากผู้ซึ่งเป็นที่ยอมรับนับถือของประชาชน มีความรอบรู้และมีประสบการณ์ในการ บริหารราชการแผ่นดิน วิสาหกิจ หรือกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ร่วมกันของสาธารณะ และมีความซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์

ให้ผู้ได้รับเลือกเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินประชุมและเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็นประธาน ผู้ตรวจการแผ่นดินแล้วแจ้งผลให้ประธานวุฒิสภาทราบ
ให้ประธานวุฒิสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานผู้ตรวจการ แผ่นดินและผู้ตรวจการแผ่นดิน
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ตรวจการแผ่นดินให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน
ผู้ตรวจการแผ่นดินมีวาระการดำรงตำแหน่งหกปีนับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง และให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว
ให้มีสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นหน่วยงานที่เป็นอิสระในการบริหารงานบุคคล การงบประมาณ และการดำเนินการอื่น ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ

มาตรา ๒๔๓
การสรรหาและการเลือกผู้ตรวจการแผ่นดินให้นำบทบัญญัติมาตรา ๒๐๖ และมาตรา ๒๐๗ มาใช้บังคับโดยอนุโลม โดยให้มีคณะกรรมการสรรหาจำนวนเจ็ดคนประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร บุคคลซึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาคัดเลือกจำนวนหนึ่งคน และบุคคล ซึ่งที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดคัดเลือกจำนวนหนึ่งคน และให้นำบทบัญญัติ มาตรา ๒๓๑ (๑) วรรคสอง มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม


สรุปเป็นว่า พระมหากษัตริย์แต่งตั้งผู้พิพากษา ผู้พิพากษาและคณะเป็นกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดินฯ
เพื่อให้ ผู้ตรวจการแผ่นดินฯ ไปตรวจสอบ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แล้วมันจะตรวจได้เหรอนั่น

ถ้าตั้งกติกาแบบนี้ไว้ตรวจสอบรัฐบาลคงโดนโจมตีเละไปแล้ว ใช่ป่าวเฮีย

ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภามีมาตั้งแต่รธน. 40แล้ว อย่ามั่วดีกว่าน่า

แถมดันเอา รธน. มาแสดงความแถของตัวเองซะได้
พระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะผู้ตรวจการหรือผู้พิพากษา
แต่งตั้งตามคำแนะนำ ตามขั้นตอนและกระบวนการตามรธน.
พระมหากษัตริย์ไม่ได้แต่งตั้งเองตามพระราชอัธยาศรัยเหมือนตำแหน่งองคมนตรี

ถ้าจะแถว่าพระมหากษัตริย์แต่งตั้ง
ต้องแถไปตั้งแต่นายร้อยยันนายพลเป็นพวกเดียวกันหมด
่ปลัดกระทรวง สส. สว. รัฐมนตรี นายกฯเป็นพวกเดียวกัน
ไม่ต้องหวังตรวจสอบอะไรแล้ว

แถมาได้บ้าๆ.........
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2008, 17:03 โดย login not found » บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #47 เมื่อ: 05-05-2008, 17:08 »

ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภามีมาตั้งแต่รธน. 40แล้ว อย่ามั่วดีกว่าน่า

แถมดันเอา รธน. มาแสดงความแถของตัวเองซะได้
พระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะผู้ตรวจการหรือผู้พิพากษา
แต่งตั้งตามคำแนะนำ ตามขั้นตอนและกระบวนการตามรธน.
พระมหากษัตริย์ไม่ได้แต่งตั้งเองตามพระราชอัธยาศรัยเหมือนตำแหน่งองคมนตรี

ถ้าจะแถว่าพระมหากษัตริย์แต่งตั้ง
ต้องแถไปตั้งแต่นายร้อยยันนายพลเป็นพวกเดียวกันหมด
่ปลัดกระทรวง สส. สว. รัฐมนตรี นายกฯเป็นพวกเดียวกัน
ไม่ต้องหวังตรวจสอบอะไรแล้ว

แถมาได้บ้าๆ.........

ไม่รู้เหรอว่าคนเก่าอยู่ไหน บอกให้ก็ได้เผื่อโง่ตกข่าว

นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า
ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) อดีตผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา และ
อดีตตุลาการรัฐธรรมนูญ กรณีที่ปรับเพิ่มค่าตอบแทนการปฏิบัติให้กับตัวเองโดยมิชอบ
ทั้งนี้ ป.ป.ช.จะส่งรายงานเอกสารและความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล และเอาผิด
ทางวินัยกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป


ตัวเองยังเอาไม่รอด ไม่ทราบจะตรวจสอบอะไรได้ 
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #48 เมื่อ: 05-05-2008, 17:16 »

ไม่รู้เหรอว่าคนเก่าอยู่ไหน บอกให้ก็ได้เผื่อโง่ตกข่าว

นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า
ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) อดีตผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา และ
อดีตตุลาการรัฐธรรมนูญ กรณีที่ปรับเพิ่มค่าตอบแทนการปฏิบัติให้กับตัวเองโดยมิชอบ

ทั้งนี้ ป.ป.ช.จะส่งรายงานเอกสารและความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล และเอาผิด
ทางวินัยกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป


ตัวเองยังเอาไม่รอด ไม่ทราบจะตรวจสอบอะไรได้ 

กรั๊กๆๆๆ
ใครมันเสนอชื่อแต่งตั้งไปให้พระมหากษัตริย์แต่งตั้งกันหว่า
เสนอชื่อห่วยๆแบบนี้สมควรเอาคนเสนอชื่อไปตัดหัวก่อน
ข้อหาหาพวกห่วยๆมาช่วยแดกบ้านโกงเมือง
บันทึกการเข้า
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #49 เมื่อ: 05-05-2008, 17:19 »

แล้วสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้กระทำการอันใดผิด กม.หรือ ?
หรือพระมหากษัตริย์ ซึ่งปัจจุบันคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงกระทำการอันใดที่ไม่โปร่งใส และ/หรือ ให้สงสัยว่ากระทำการโดยทุจริตผิด กม.อันเกี่ยวข้องกับการใช้เงิน - ทรัพย์สินของแผ่นดิน หรือ ??

ผู้ใช้นามแฝง "อยากประหยัดให้ติดแก๊ส" ในกระทู้นี้
จึงเห็นว่าข้อยกเว้นทาง กม.ที่มีต่อสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นเรื่องไม่ถูกต้องตามทัศนะของตน ???

ผู้ใช้นามแฝง "อยากประหยัดให้ติดแก๊ส" ในกระทู้นี้ ชี้แจงในประเด็นนี้ดีกว่า


ไม่ใช่ผู้ใช้นามแฝง "อยากประหยัดให้ติดแก๊ส" ในกระทู้นี้่ ใช้การพิจารณาเอาเองว่าแล้วก็เหมาสรุปเอาเอง ว่า

สมมติเทพ ( การกล่าวโดยนัยอันมุ่งหมายถึง "พระมหากษัตริย์" ) เป็นเรื่องที่ผู้จงรักภักดี "คลั่ง" กันไปเอง  อันแท้แล้วบุคคลผู้เป็นพระมหากษัตริย์ก็ไม่แตกต่างจากบุคคลทั่วไป ที่สมควรจะต้องได้รับการตรวจสอบโดยองค์กรสาธารณะ
...จากนั้นก็ฉวยโอกาส ลากประเด็นออกไป  ในลักษณะอันไม่ต่างจากการพยายามขยายเรื่องราวเพื่อให้ร้ายป้ายสีต่อองค์พระมหากษัตริย์ มากยิ่งขึ้น




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2008, 00:27 โดย qazwsx » บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2
    กระโดดไป: