"เหลิม"ไอเดียกระฉูด

[(ลุง)ถึก สไลเดอร์]

"เฉลิม"กระฉูดโละผู้ว่ากทม. ดัน"รมต."คุม ตั้งใหม่กระทรวงนครหลวง
 "เฉลิม"คิดปฏิวัติ กทม. ตั้งกระทรวงนครหลวง 50 เขตมีรัฐมนตรีเป็นผู้บริหารจัดการ รวมเขตรอบตะเข็บปริมณฑลมาเป็นส่วนหนึ่ง
นายกเทศบาลแต่ละเขตมาจากการเลือกตั้ง ผ่าพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน ฝั่งพระนคร 3 ฝั่งธนฯ 1 แล้วจัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯขึ้นมากำกับ 4 คน
ให้ภาค กทม.พปช.ไปช่วยกันคิดจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้หรือไม่ อ้างตอนนี้ใหญ่เกินไป บริหารงบฯขาดธรรมาภิบาล ไม่โปร่งใส

พรรคพลังประชาชน (พปช.) จัดสัมมนาการบริหารจัดการภาค กทม. ขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 3 พฤษภาคม ณ สำนักงานพรรค อาคารไอเอฟซีที
ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โดยมี ส.ส. สมาชิกกรุงเทพมหานคร (ส.ก.) สมาชิกสภาเขต (ส.ข.) และอดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เข้าร่วม
โดยมีนาย สุวัฒน์ วรรณศิริกุล ประธานคณะกรรมการประสานงานภาค กทม.เป็นประธานการประชุม

ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขึ้นกล่าวบรรยายว่า ที่มาวันนี้ขอพูดในฐานะ ส.ส.กทม.พปช.
ไม่ใช่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่เช่นนั้นจะเป็นประเด็นทางการเมือง การที่ได้เป็น ส.ส.ระบบสัดส่วนกลุ่มที่ 6
เป็นเพราะความพยายามของทุกคนที่นั่งอยู่ในที่นี้ แม้ว่าภาค กทม.จะได้ ส.ส.มาเพียง 4 ที่นั่ง แต่เป็น 4 ที่นั่งที่มีคุณภาพ

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เมื่อครั้งที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เคยเสนอให้พรรคผลักดัน พ.ร.บ.เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
และ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ กทม. แต่พรรคประชาธิปัตย์คัดค้านเรื่องนี้ มาครั้งนี้มีความตั้งใจมานานที่อยากจะเปลี่ยนแปลง กทม.
เพราะว่าการบริหาร กทม.เปรียบเหมือนการบริหารอำนาจ 3 ส่วน คือ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น รวมถึงยังมีงบประมาณ
จำนวนมากอีกด้วย ซึ่งผู้ว่าฯกทม.ก็เป็นเหมือนนายกรัฐมนตรี ภารกิจของ ผู้ว่าฯกทม.มีจำนวนมาก การบริหารงบประมาณขาดธรรมาภิบาล
และความโปร่งใสในการตรวจสอบ

"จึงขอเสนอแนวทางเปลี่ยนแปลงการบริหารราชการ กทม.ดังนี้ 1.ตั้งกระทรวงนครหลวงจำนวน 50 เขต มีรัฐมนตรีเป็นผู้บริหารจัดการ
โดยรวมเขตรอบตะเข็บปริมณฑลบางส่วนมาเป็นเขต กทม.ด้วย และเมื่อมีการเพิ่มเขตปกครอง นายกเทศบาลแต่ละเขตก็ต้องมาจากการเลือกตั้ง
ผมเคยคิดร่วมกับนายพิจิตต รัตตกุล สมัยตอนที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย 2.พื้นที่ กทม.แบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ ฝั่งพระนคร 3 ส่วน
ฝั่งธนบุรี 1 ส่วน ซึ่งอาจมีการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ ให้ดูแลจำนวน 4 คน 3.การจัดตั้งเทศบาลนครหลวงจำนวน 12-50 เขต ตามเกณฑ์ประชากร
เพื่อกระจายอำนาจให้ประชาชนได้เลือกผู้ปกครอง และมีความใกล้ชิดกับผู้บริหารมากขึ้น และ 4.รูปแบบการจัดตั้งกระทรวงการปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งประเทศ
โดยข้อเสนอนี้จะให้ภาค กทม.พรรคพลังประชาชน หารือกันว่าเห็นด้วยกับแนวคิดนี้หรือไม่ โดยให้เหตุผลชัดเจน นอกจากนี้ ภาค กทม.ต้องส่งตัวแทนไปดูติดตาม
ดูงานที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อที่จะได้รับทราบภาพรวมของ กทม.ด้วย" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เป็นสมาชิกคนหนึ่งของพรรค แม้จะไม่มีตำแหน่งใดๆ ในภาค กทม. หากเรียกเมื่อไหร่ก็จะมา หากมีอะไรให้ทำก็เสนอมาได้เลย พร้อมที่จะทำให้
ทั้งนี้ขอให้สบายใจว่าไม่มีวันที่จะทุจริตเด็ดขาด แม้แต่เศษเสี้ยวสตางค์แดงเดียวของหลวงก็ไม่เคยใช้ ขอยืมตัวข้าราชการมาทำงานเพียงคนเดียว ภาค กทม.
เป็นภาคที่อ่อนไหวง่าย แพ้ง่าย ชนะง่าย จำเป็นต้องมาดูแลอย่างใกล้ชิด โดยขอยืนยันว่าจะไม่มีวันปล่อยให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ได้ใช้อำนาจบาตรใหญ่เหมือนสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และไม่เห็นด้วยที่จะมีการเคลื่อนไหวเอาม็อบมาชนม็อบและทราบว่าสมาชิก กทม.เห็นด้วย
วันนี้มีโอกาสจะได้เจอนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ โฆษกกลุ่มมหาประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็จะขออ้างมติภาค กทม.ที่เห็นว่าไม่สมควรจัดม็อบชนม็อบ
ไปขอให้นายประชายุติการจัดการชุมนุม แต่แสดงความเห็นได้ ไม่เช่นนั้นหากชุมนุมกันอีกจะทำให้มีการนำไปเป็นข้ออ้างเหมือนการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 อีก

"ผมถูกกล่าวหา ถูกโจมตีว่ารักลูกเกินไป ซึ่งนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาผมในสภา ว่าไม่จริยธรรมคุณธรรม
ผมขอย้อนว่าคนที่ไม่มีคุณธรรม จริยธรรม คือคนที่เป็นชู้กับเมียชาวบ้าน และขณะนี้ผมกำลังสร้างภาพยนตร์เรื่อง ชู้คาพรรค แต่ยังขาดพระเอกหนังอยู่
ขอให้นายนิพิฏฐ์ช่วยหาหน่อย แต่ไม่เอาพวกเทพบุตรแข็งข้อ" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

ในช่วงเปิดให้สมาชิกซักถาม ทีมงานนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. ได้ถามคำถาม ร.ต.อ.เฉลิม และเมื่อ ร.ต.อ.เฉลิมทราบว่าชายคนดังกล่าว
เป็นทีมงานของนายการุณได้พูดว่า ถ้าไม่อยากให้ประชาธิปัตย์มาอยู่ใกล้ต้องอยู่ใกล้การุณ พร้อมกับพูดว่า นายการุณเป็นคนจริง คนจัง คนดังดอนเมือง
ซึ่งสมาชิกพรรคก็ได้ปรบมือให้นายการุณอย่างกึกก้อง ซึ่งนายการุณได้ลุกขึ้นไหว้ขอบคุณสมาชิกด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
(มติชน)

[qazwsx]

ถ้า "สส.พรรคพลังประชาชน" กทม. มีสำเหนียกสักหน่อย
น่าจะ "รู้ละอาย" และ "สงบปากสงบคำ" เสียบ้าง
ว่าพวกคุณ "พรรคพลังประชาชน" เป็นเพียง "เสียงส่วนน้อย" ในกรุงเทพมหานคร

โน่น...อยากทำอะไรให้หายคัน - หายเงี่ยน ก็จงไปแถวอีสานและภาคเหนือ  ซึ่งเป็นถิ่นฐานที่ "พรรคพลังประชาชนเป็นเสียงส่วนใหญ่"
เสียงแค่ "กระจุกหมอe" ริอาจจะเปลี่ยนผมบนหัวให้หยิกหยอยตามกันไป

ส่วนนาย "อยู่บำรุงตัวพ่อ"
...มันจะ "เหิมเกริม" เกินไปสักหน่อย
...กลับบ้านไปเลี้ยงลูกตัวเองให้ดีเสียก่อนเถิด
อย่าจิตเตลิดฟุ้งซ่านมากนัก
่อย่างน้อยก็น่าจะมีสำนึก รู้รำลึกตัวเองสักหน่อยว่าแท้แล้วเป็นเพียงผู้อาศัย "ใบบุญและบารมีของคนอื่น - พรรคการเมืองของคนอื่น"
จนเมื่อรู้ตัวแล้วก็จงหยุดปาก*** - อวดสติปัญญาที่ไม่ค่อยพัฒนาไปมากกว่า "อัตตาทิฐิ" ที่ผู้คนเขาเอือมระอากันทั้งบ้านทั้งเมือง
เป็นแค่ "หมาบางบอน - อาศัยนอนในชายคาบ้านคนอื่น"
ก็อย่าฝืนความรู้สึกชาวบ้านด้วยการ "สานความเงี่ยนส่วนตัว" มั่วทำให้การของเจ้าของบ้านเขาเสียหายเลย

ถ้าลด "ทิฐิอัตตา" ได้
บางทีอาจเข้าใจและสำนึกได้ว่า
ถ้าพรรคพลังประชาชน" ส่ง "คนอื่น" มาแทน 
พรรคพลังประชาชนอาจได้ สส.ปาร์ตี้ลิสต์ในเขตเลือกตั้งนี้มากกว่าที่เป็นอยู่ ก็เป็นไปได้

[พรรณชมพู]

ไม่ทันได้ทำหรอกค่ะ   ไปก่อนแหละ 

[DAWN]

 อาไร กันน่ะ อาเหลิม จะคุมหมดเลยเหรอ เรียกว่าพรรคใครหาคะแนนเสียงได้มากจากไหนก็แล้วแต่ ก็ได้ กทม. ด้วยเลยนะ ไม่แบ่งงาน(รายได้)ให้คนอื่นบ้างเลยเหรอ จะไม่ให้ชาว กทม.ได้เลือกผู้จัดการท้องถิ่นตัวเองเลยเหรอ ดูท่าทางมั่นใจตัวเองจัง

[NA-KORN]

เหลิมคุมกระทรวงนครหลวง
วันเป็นผู้ว่าคนที่ 1 คุมฝั่งธนทั้งหมด
ดวงเป็นผู้ว่าคนที่ 2  คุมกทม.รอบในรวมทั้งสปาร์คผับ
อาจหาญเป็นผู้ว่าคนที่ 3 คุมกทม.รอบนอก
เก่งเป็นผู้ว่าคนที่ 4 คุมดอนเมืองหลักสี่นนทบุรี
    พวกเราเตรียมตัวย้ายไปอยู่ป่ากันเถอะ

[รวงข้าวล้อลม]

  ยุคนี้  คนดีๆครองเมือง ....คนชั่วๆอาจจะครองตัวยากสั๊กนิดนะคะ

    เพราะธรรมชาติของคนดีเค้ามักจะคบหาสมาคมแต่คนดีๆ
ซึ่งบางครั้ง  คนชั่วๆอย่างเรา  อย่างฉัน  ไม่ค่อยเข้าใจหรอก  ฉันก็ขอชั่วตามประสาฉัน  ชั่วในสายตาเขา

สายตาเราใจเรา ...เรารู้ดี  เราคือใคร  เราทำหน้าที่อะไร ...ที่เราทำ  เราทำดี  เราทำชั่ว ....
แค่เรารู้  เรามีจิตสำนึก ...และเราพยายามพูด  คิด  และทำ ...ในสิ่งที่เรามั่นใจ  ในสิ่งที่เราคิด
เราคิดว่าดีที่สุดแล้วค่ะ ....

โบราณว่า ...คนเราบางครั้ง  ถ้ามืดมนต์มากนัก  ตาบอดมากนัก ....ปิดหูปิดตามากนัก
ต้องใช้ภาษาตีลังกาซะบ้าง  เผื่อหูตาจะสว่าง  กะเค้าบ้าง

[คนบ้า]

มันคงมีกระทรวง บางบอนกันมั่งล่ะ 
อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่
ตอนนั้นน่าปล่อยให้ยิงกะสมัยให้ตายไปข้าง 
ทุเรศชิบ


มันทำไม่สำเร็จหรอกเรื่องเป็นการเป็นงานน่ะ 
เอาปากปล้นอารมณ์ชาวบ้านไปวันๆ


20 กว่าปีมานี่มีผลงานอะไรบ้าง  นอกจากทะเลาะกะชาวบ้าน

[see - u]

*  เก็บไอเดียห่วย ๆ .....  ไว้ เพ้อเจ้อ  แถว ๆ บ้านตัวเองเหอะนะ

    โปรเจค นี้ ...  เกิดขึ้นมาในสมองเพราะสาเหตุอะไร

    เพราะใกล้จะถึงการเลือกตั้งผู้ว่า  กทม. อีกครั้งในเร็ว ๆ นี้หรือเปล่า ??

    แล้วถ้ามีกระทรวงนครหลวงขึ้นมาจริง ๆ นี้ ......  คนที่ดีเข้าสายตาเหลิมจะมีใครบ้างน๊า >  เก่ง  การุณ  หรือเปล่า  ??

    เห็นเมื่อวันก่อนเหลิมยังออกปากชม เก่ง อยู่เลยว่า  > เป็นคนจริง คนจัง คนดัง เขตุดอนเมือง  <

    เหลิม  เอ๋ยยย     ตราบใดที่ยังหน้าด้าน .... บอกว่าไม่รู้เรื่องที่ลูกตัวเองได้ ยศ คืน

    หรือยังทำตัวเป็น นักเลง  ทางคำพูดไปวัน ๆ ........  ตราบนั้นไม่มีใครเค๊าเห็นค่าความคิดของเอ็งร๊อกกก

     

[An.mkII]

สงสัย..

จะตั้งกระัทรวงใหม่.. เพื่อให้ ไอ้ตัวลูก ที่เหลือ (ขอยืมภาษา ปู่เย็นแกมาใช้หน่อย..)

มาเป็นเลียขาอีกตัวมั่ง..555 


ปล.

ตั้งเเต่มันเข้า  มันมีผลงานอะไร  เป็นชิ้นเป็นอันมั่ง นอกจาก ดัน ไอ้ตัวลูก  เข้ามาให้มีงานทำ และก็พูดจาบ้าน้ำลายไปวันๆ !!??? 

[ริวเซย์]

มาเฟียคิดครองเมือง อีกหน่อยคงกลายเป็นเขตอิทธิพลของไอ้เหลิมมัน

คิดอะไรโง่ๆ ดูซิว่าคนกทม.จะยอมรึเปล่า

[Huad]

เหลิม  คือ ผู้จัดการสันดารเสมียน   มีงานใหญ่ๆให้ทำไม่ทำหาทำแต่งานที่เอาภารโรงมาก็ทำได้ เฮ้อ กรูละเสียดายภาษีที่เอาไปเป็นเงินเดือนมรึงจริงๆ

[meriwa]

กระทรวงมหาดไทย เค้าไม่มีงานให้ทำเลยหรือยังไง

ถึงมีเวลาว่างคิดแต่เรื่องไร้สาระกันแบบนี้

ภาคใต้ทำไปถึงไหนแล้ว เขตปกครองพิเศษ

เอาแต่จ้อรายวัน รายสัปดาห์ เคยทำตามที่พูดได้มั้ยสักเรื่อง

ไปอ้างพรรคโน่นพรรคนี้เค้าค้านไม่ให้ทำ

ทั้งๆที่พรรคตัวเองเสียงก็เยอะกว่า จะไปกลัวอะไร

ยกเว้นไอเดียมันห่วยแตกจริงๆ นั่นละ พวกตัวเองเค้าก็ยังไม่กล้าเอาด้วย

[Kittinunn]

'อภิรักษ์'ชี้แนวคิด'เหลิม' แย้งหลักกระจายอำนาจ

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงกรณีความคิดเห็นของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานกรุงเทพมหานคร ว่า แนวคิดดังกล่าวขัดกับการกระจายอำนาจการปกครอง ที่ต้องการส่งเสริมให้ท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง มากกว่าการกลับไปอยู่ภายใต้อำนาจการบริหารของส่วนกลาง ซึ่งหากจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้การบริหารงานของกรุงเทพมหานครมีประสิทธิภาพ ประชาชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่า กทม. จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ใช่ในลักษณะตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มีแนวคิดไว้

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า การปรับเปลี่ยนโครงสร้างกรุงเทพมหานครเป็นเรื่องที่ต้องมีการประชุมหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการกระจายอำนาจส่วนท้องถิ่น พร้อมกับควรเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิด ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงจริงทาง กทม.ไม่ขัดข้อง โดยปัจจุบันได้มีการเสนอให้ปรับปรุง พ.ร.บ. ระเบียบบริหารงานราชการกรุงเทพมหานครปี 2528 อยู่แล้ว แต่อยู่ในกระบวนการพิจารณา อย่างไรก็ตามจะนำข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลพื้นฐานในการหารือสัปดาห์หน้า

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=29730&catid=27

[Kittinunn]

"พิจิตต์"ค้านตั้งกระทรวงนครหลวง
20:41 น.

นายพิจิตต์ รัตตกุล อดีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงแนวคิดตั้งกระทรวงนครหลวงของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า เรื่องนี้ ร.ต.อ.เฉลิม เคยพูดในสมัยที่ตนเองใกล้จะหมดวาระผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งครั้งนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ได้เสนอแนวคิดให้ข้าราชการศึกษาดูว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหน ที่จะแบ่งกรุงเทพฯ เป็น 2 นคร คือนครธนบุรีและนครพระนคร แต่ครั้งนั้นไม่มีการเสนอว่าจะตั้งกระทรวงนครหลวงขึ้นมากำกับดูแลผู้ว่าฯ กทม. เพราะหากเสนอตนเองคงคัดค้านแล้ว เพราะโดยหลักการการกระจายอำนาจ กทม. จะไม่มีความอิสระในการบบริหารจัดการเมือง โดยที่ผ่านมาเป็นอิสระภายใต้การดูแลแบบห่างๆ ของกระทรวงมหาดไทย (มท.) เช่น มท.อาจดูเรื่องงบอุดหนุน งบประมาณกลาง การบริหารบุคคลากร หรือการตั้งแต่งโยกย้ายราชการ ทั้งนี้ไม่ว่าจะมีแบ่งผู้ว่าฯ กทม.เป็นกี่คน ก็จะต้องมีการศึกษาทั้งด้านประชากร ฐานภาษี การบริหารโครงการต่างๆ ให้เกิดความต่อเนื่อง และการจัดสรรงบประมาณในการสนับสนุนจะทำอย่างไร ยกตัวอย่างกรณีการสร้างเขื่อนริม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนคร จะมีการประสานงานกันอย่างไร และควรจะต้องมีงบประมาณตกมาพร้อมๆกันทั้ง 2 ฝั่ง ไม่เช่นนั้นเมื่อฝั่งหนึ่งได้งบก่อน และสร้างก่อน น้ำจะไหลท่วมอีกฝั่งหนึ่งเสียหาย ฉะนั้นจะต้องมีการศึกษาอย่างจริงจัง ว่าจะเกิดผลดีผลเสียในการแยกอย่างไรบ้างจะพูดกันเฉยๆไม่ได้

นายพิจิตต์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนายถวิล ไพรสณฑ์ และ ร.ตอ.เฉลิม ทั้ง 2 คนเป็นผู้ที่ร่าง พ.ร.บ. ระเบียบบริหารฯ กทม. พ.ศ.2528 ขึ้นมา ฉะนั้นเชื่อว่าทั้ง 2 ท่านมีเหตุผลที่อ้างอิงในประเด็นนี้

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=318701&lang=T&cat=

[northstar]

โครงการใหม่ๆสำหรับประธานาธิบดีคนแรกของประเทศไทยกำลังโผล่ออกมาเรื่อยๆ... เพราะถ้าพวกมันแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จเมื่อไหร่ก็เป็นอันว่า
GAME OVER...

[นายเกตุ]

ถ้ามันส่งคนลงสมัครผู้ว่ากทมในครั้งหน้าเมื่อไหร่

ก็เตรียมตัวได้รับคำพิพากษาจากชาวกทมเมื่อนั้น




แล้วไอ้ที่มันประชุมอยู่นะคนหรือเหรี้ยยยกันครับท่าน