ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 20:08
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  คนจนในไทยมีเพียง 10% - กรุณาอย่าเอามาอ้างหากินบ่อย ๆ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] 2
คนจนในไทยมีเพียง 10% - กรุณาอย่าเอามาอ้างหากินบ่อย ๆ  (อ่าน 5225 ครั้ง)
pornchokchai
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 53


« เมื่อ: 30-04-2008, 21:54 »

ดร.โสภณ พรโชคชัย <1>
ประธานกรรมการ มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย <2>
.
คนจนคือชนกลุ่มน้อยนิดในประเทศไทย! จากข้อมูลของ CIA ระบุว่าประเทศไทยมีคนจนอยู่เพียง 10% ของประชากรทั้งประเทศ <3> แล้วทำไมบางคนยังเข้าใจว่าคนไทยส่วนใหญ่ยากจนอยู่อีก เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตอนคุณรสนา โตสิตระกูลในฐานะนักการเมืองรุ่นใหม่ ตอบโต้กับคุณปลื้ม ก็ยังอ้างว่าประชาชนไทย 70% ยากจน <4> เรามี “คนยากจน” หรือ “คนอยากจน” จำนวนมากกันแน่ คนที่มักวาดภาพว่าคนไทยส่วนใหญ่ยากจนนั้นเป็นเพราะความเข้าใจผิดหรือมีวาระซ่อนเร้นอะไร เรามักชอบเอาคนจนหรือความจนมาอ้างหรือไม่
.
.
ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
.
ข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งที่เชื่อถือได้ต่างระบุสอดคล้องกันว่าประชากรไทยที่ยากจนคืออยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนมีเพียง 9-10% โดยประมาณ แม้แต่เมื่อปี 2505 ประชากรไทยที่ถือว่ายากจนก็มีเพียงครึ่งหนึ่ง (57%) ไม่ใช่ 70% เช่นที่เข้าใจกัน และหลังจากนั้นประชากรที่ยากจนก็เป็นคนส่วนน้อยมาโดยตลอด
.
โปรดดูแผนภูมิที่ 1: ต่อไปนี้:

.
จากชุดข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) ระบุว่า ณ ปี 2549 จำนวนคนจนลดเหลือ 9.6% ของคนไทยทั้งประเทศ หรือ 6.1 ล้านคนจาก 63.4 ล้านคน ช่องว่างความยากจนก็ลดลง ความรุนแรงของปัญหาความยากจนก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในการลงทะเบียนคนจนในสมัยรัฐบาลทักษิณปรากฏว่ามีผู้ลงทะเบียนถึง 8,258,435 คนหรือ 13.2% <5> ทั้งนี้อาจเป็นเพราะรวม “คนอยากจน” เข้าไว้ด้วย แต่ก็ยังถือว่าคนเหล่านี้เป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศไทย
.
สำหรับรายละเอียดรายได้ต่อหัวของสภาพัฒน์ฯ พบว่า เส้นความยากจนในเขตกรุงเทพมหานครอยู่ที่รายได้ 2,020 บาทต่อหัวต่อเดือน หมายความว่าในครอบครัวที่หัวหน้าครอบครัวมีรายได้ประมาณ 8,000 บาทต่อเดือน หากต้องเลี้ยงคู่ครองที่ไม่มีรายได้และลูกอีก 2 คน ถือว่าเป็นคนยากจน แต่ถ้าเป็นในชนบทภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นความยากจนอยู่ที่ 1,215 บาท ที่กำหนดไว้ต่ำกว่าก็เพราะค่าครองชีพถูกกว่าและชาวชนบทยังสามารถหาผักปลาจากแหล่งธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้เงินอีกด้วย
.
โปรดดูตารางที่ 1: ต่อไปนี้:

.
.
ประเทศไทยดีขึ้นกว่าแต่ก่อน
.
ที่ว่าคนไทยที่ยากจนมีเพียง 10% นั้น ไม่ใช่ไปตีความแบบศรีธนญชัยว่า 90% เป็นคนรวย นอกจากคนยากจนแล้ว ยังมี “คนเกือบจน” คือผู้ที่มีรายได้สูงกว่าเส้นความยากจนไม่เกิน 20% อีก 8.2% แสดงว่าประชากรส่วนใหญ่ของไทยมากกว่า 80% ไม่ใช่คนยากจนอย่างแน่นอน และในอีกด้านหนึ่งประเทศไทยมี “คนจนค่นแค้น” หรือมีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนเกินกว่า 20% เหมือนกัน แต่มีเพียง 3.8% เท่านั้น <6>
.
การที่ประเทศไทยมีคนจนน้อยลงอย่างเด่นชัดก็เพราะได้พัฒนาจากประเทศเกษตรกรรมเป็นประเทศอุตสาหกรรมแล้ว <7> ในปี 2494 ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ถึง 38% มาจากภาคเกษตรกรรม แต่ในปี 2548 เหลือเพียง 10% ในขณะที่ GDP ภาคอุตสาหกรรมเติบโตจาก 14% เป็น 38% ในช่วงเวลาเดียวกัน สินค้าออกสำคัญในอดีตคือข้าว ยางพารา ไม้สัก แต่ทุกวันนี้ได้แก่ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ เสื้อผ้า รถยนต์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามประชากรไทยส่วนใหญ่ยังอยู่ในชนบท ซึ่งต่างจากประเทศที่จนกว่าไทย เช่น ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตเมือง ทั้งนี้มีเหตุผลที่ผู้คนมักไม่ทราบก็คือ ประเทศเหล่านี้เป็นประเทศเกาะ ประชากรจึงมักต้องอยู่ในเขตเมืองท่า แต่ประเทศไทยมีผืนดินติดต่อกันเป็นป่าไม้อันอุดม จึงมีการบุกรุกถากถางป่ากันมากมาย ประมาณว่าหมู่บ้านชนบท 70,000 หมู่บ้าน ครึ่งหนึ่งเกิดเมื่อ 50 ปีหลังนี้เอง <8>
.
เมื่อ 50 ปีก่อน แอปเปิล 1 ผลราคา 5 บาท แต่ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 10 บาท ครัวเรือนใดมีโอกาสรับประทานทุเรียนหรือมีโทรทัศน์ถือว่าเป็นผู้มีฐานะ แต่เดี๋ยวนี้คนไทยมีกินมีใช้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน อัตราการฆ่าตัวตายที่หลายคนคิดว่าเพิ่มขึ้นก็กลับลดลง และอยู่ในอัตราต่ำกว่าประเทศส่วนใหญ่ในโลกเสียอีก โดยในปี 2549 มีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จประมาณ 5.7 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน เป็นตัวเลขที่ลดลงจากปี 2548 ที่ 6.3 คน ปี 2547 ที่ 6.9 คน และปี 2546 ที่ 7.1 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน และหากเปรียบเทียบกับทั่วโลก อัตราการฆ่าตัวตายของไทยจัดอยู่อันดับที่ 72 จาก 100 ประเทศ <9>
.
.
การวิเคราะห์เปรียบเทียบ
.
ในภูมิภาคอาเซียน ประเทศที่ถือว่าไม่มีคนยากจนก็คือบรูไนและสิงคโปร์ ส่วนมาเลเซียดีกว่าไทยคือมีคนยากจนเพียง 5.1% สำหรับประเทศที่มีคนยากจนถึงหนึ่งในสามก็คือกัมพูชา พม่า ลาวและฟิลิปปินส์ ในกรณีประเทศเวียดนามซึ่งเพิ่งสำรวจล่าสุดเมื่อปี 2550 พบว่ามีคนยากจนเพียง 14.8% ดังนั้นถ้าใครจะคิดว่าไทยมีคนจนมากกว่าเวียดนามก็คงต้องคิดใหม่ หรือถ้าคิดว่าคนไทยยากจนเป็นส่วนใหญ่ก็คงเข้าใจว่าเราแย่กว่ากัมพูชาหรือพม่าเสียอีก
.
โปรดดูตารางที่ 2: ต่อไปนี้:

.
สำหรับกรณีชุมชนแออัดในเขตกรุงเทพมหานครนั้น ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยของคนยากจนเป็นส่วนใหญ่ เพราะสภาพัฒน์ฯ ระบุว่า คนยากจนในกรุงเทพมหานครมีไม่ถึง 1% เท่านั้น หรือต่ำกว่าหนึ่งในร้อย ดังนั้นหากพบใครในกรุงเทพมหานครบอกว่าตนเองยากจน แสดงว่าเขาพูดเล่น โกหกหรือพูดโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้จากการสำรวจยังพบว่า ในชุมชนแออัด ยังมีมือถือ โทรทัศน์ เครื่องเล่นซีดี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า กันเป็นส่วนใหญ่และมีจำนวนมากกว่า 1 หน่วยในครัวเรือนหนึ่งอีกด้วย <10>
.
.
ผลร้ายของความคลาดเคลื่อน
.
การมีข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง จะสร้างวิสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์ได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักบริหารทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ก็ควรมีข้อมูลและความเชื่อที่ถูกต้องสอดคล้องกับความเป็นจริง การจงใจทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนย่อมก่อความเสียหาย เช่น การที่ NGO บางแห่งเคยให้ข้อมูลที่เป็นเท็จอย่างร้ายแรงว่า ประเทศไทยมีโสเภณี 2 ล้านคน ทำให้พจนานุกรมลองแมน เคยให้คำจำกัดความของกรุงเทพมหานครว่าเป็นนครแห่งโสเภณีในปี 2536 <11> จะสังเกตได้ว่านักเคลื่อนไหวทางสังคมมักพยายามโฆษณาว่าปัญหาที่ตนเกี่ยวข้องอยู่มีขนาดใหญ่ ด้วยหวังให้สังคมให้ความสนใจ และให้ความช่วยเหลือ แต่น่าเสียดายที่ทุกคนก็ใช้วิธีเดียวกันจนเฝือ สังคมเลย “มึน” และกลับคิดว่าปัญหาทั้งหลายนั้นสุดแก้ไข กลายเป็นปัญหาโลกแตกไป
.
รัฐบาลทักษิณที่ผ่านมา ก็ได้รับข้อมูลเท็จจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ชุมชนแออัดซึ่งเข้าใจว่าเป็นที่อยู่อาศัยของคนจนมีจำนวนมหาศาล โดยระบุว่าในประเทศไทยมีการบุกรุกที่ดินถึง 5,000 ชุมชน รวม 1.6 ล้านครอบครัว <12> จนเกิดโครงการ “บ้านเอื้ออาทร” และ “บ้านมั่นคง” แต่ความจริง ความต้องการที่อยู่อาศัยมีน้อยมาก สิ่งที่สร้างขึ้นกลับกลายเป็นการ “เอื้ออาทร” ต่อผู้รับเหมาและผู้ร่วมทุนโครงการมากกว่า แทนที่จะสร้างบ้านตามความต้องการจริง กลับสร้างตามความต้องการลวง หรือสร้างเกินกว่าความต้องการจนขายไม่ออก
.
คนที่ดีใจถ้าประเทศไทยมีคนจนเพิ่มขึ้น ก็คงมีแต่พวก NGO ลักษณะองค์กรนอกกฎหมายบางแห่งโดยเฉพาะที่รับเงินต่างชาติมาเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรม เพราะจะได้มีงานทำไปเรื่อย ๆ ผมว่าเราต้องรักศักดิ์ศรีของชาติและของคนไทย ต้องพัฒนาประเทศให้คนไทยหายจน ถ้าเรามัวคิดว่าเรายากจนและติดกรอบคิดแบบคนยากจนอยู่เรื่อย เมื่อไหร่ไทยเราจะลืมตาอ้าปากได้
.
คนไทยจน ๆ เป็นคนส่วนน้อย โปรดอย่านำมาแอบอ้างหากิน
.
หมายเหตุ:
<1> ดร.โสภณ พรโชคชัย เป็นผู้ที่ทำวิจัยต่อเนื่องเกี่ยวกับชุมชนแออัด โดยเป็นคนแรกที่ค้นพบชุมชนแออัดถึง 1,020 แห่งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และสำรวจชุมชนแออัดในภูมิภาคทั่วประเทศ เคยได้รับมอบหมายจากองค์การสหประชาชาติหลายหน่วยงานให้ศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองและชุมชนแออัด เป็นผู้ประเมินค่าทรัพย์สินและนักวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ ยังเป็น ผู้แทนสมาคมประเมินค่าทรัพย์สินนานาชาติ (IAAO) ประจำประเทศไทย และกรรมการสภาที่ปรึกษา Appraisal Foundation ซึ่งก่อตั้งโดยสภาคองเกรสเพื่อการควบคุมการประเมินค่าทรัพย์สินในสหรัฐอเมริกา Email: sopon@thaiappraisal.org
.
<2> มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มุ่งให้ความรู้แก่สาธารณชนด้านการประเมินค่าทรัพย์สิน อสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาเมือง ปัจจุบันเป็นองค์กรสมาชิกหลักของ FIABCI ประจำประเทศไทย ถือเป็นองค์กรเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่มีกิจกรรมคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยจนได้รับความเชื่อถือจากนานาชาติ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaiappraisal.org
.
<3> โปรดดูรายละเอียดที่ https://www.cia.gov/library/publications/the-world-factbook/geos/th.html#Econ
.
<4> โปรดอ่านบทความ “ถามต่อคำชี้แจงของ ‘รสนา โตสิตระกูล’” ในหนังสือพิมพ์ Online ประชาไท 14 มีนาคม 2551: http://www.prachatai.com/05web/th/home/11491
.
<5> โปรดดูรายละเอียดที่ ตารางที่ 1 แสดงข้อมูลพื้นฐานจำนวนผู้จดทะเบียน http://www.khonthai.com/webpnr/stpnr1_link.php
.
<6> โปรดดู ตารางที่ 6 สัดส่วนและจำนวน คนจน จนมาก จนน้อย เกือบจน (ด้านรายจ่าย) ปี 2533-2549 ของสภาพัฒน์ฯ ที่ http://poverty.nesdb.go.th/poverty_new/doc/news/wannee_20071130114433.zip
.
<7> รายงานของ Sopon Pornchokchai. Evaluation of Housing Finance Mechanisms in Thailand เสนอต่อองค์การสหประชาชาติด้านที่อยู่อาศัย (UN-HABITAT) ณ เดือนธันวาคม 2549
.
<8> Angel, S. Where Have All the People Gone? Urbanization and Counter-Urbanization in Thailand, UNCHS. 1985.
.
<9> ข่าว “เผยสถิติฆ่าตัวตายคนไทยลด จับตา ‘ระยอง’ มาแรงเสี่ยงแซงทุกจังหวัด” http://www.dmh.go.th/sty_libnews/news/view.asp?id=7653 และโปรดดูตารางขององค์การอนามัยโลก http://www.who.int/mental_health/prevention/suicide/suiciderates/en และดูเพิ่มเติมในแผนที่โลกที่ http://www.who.int/mental_health/prevention/suicide/suicideprevent/en
.
<10> รายงานของ Sopon Pornchokchai. Global Report on Human Settlements 2003 หน้า 22 จากการสุ่มสำรวจในชุมชนหนึ่ง เสนอต่อองค์การสหประชาชาติด้านที่อยู่อาศัย (UN-HABITAT)
.
<11> โปรดอ่าน “It has threatened to expel journalists who impugn the honour of Thai womenfolk, and forced Longman's dictionary to change its 1993 edition, the entry for Bangkok which included the line "a place where there are a lot of prostitutes." Thailand, in its turn, has been considerably abused by statisticians and NGOs. Claims that there are 2m or more prostitutes in the population of 64m, as was once stated in a Time cover story, are absurd. This much-quoted figure was drawn from the statistics of the Coalition Against Trafficking in Women, an international NGO. If true, it would mean that one in four Thai women between the ages of 15 and 29 in Thailand was a prostitute” ได้ที่ http://www.prospect-magazine.co.uk/article_details.php?id=6889
.
<12> โปรดอ่านในกรุงเทพธุรกิจ วันอังคารที่ 7 มกราคม 2546 น.10 อ้างในหนังสือของ ดร.โสภณ พรโชคชัย ถึงนายกรัฐมนตรี ที่ http://www.thaiappraisal.org/Thai/letter/letter06.htm
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #1 เมื่อ: 30-04-2008, 22:01 »

เคยถกกันไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ...จะมาโพสต์ทำไมบ่อยๆ ...อยากคุยต่อ ก็ไปขุดกระทู้มาสิครับ....

หรือว่า อยากดัง ครับ...


 
บันทึกการเข้า
s38593
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 67


« ตอบ #2 เมื่อ: 30-04-2008, 22:45 »

CIA เลยหรอ
บันทึกการเข้า
ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #3 เมื่อ: 30-04-2008, 22:56 »

อืมครับ จากข้อ 9 ผมเชื่อครับ
ต่อไปนี้ไทยจะฆ่าตัวตายน้อยลง
แต่จะฆ่ากันเองอย่างเมามันส์มากขึ้นครับ
 
บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
pornchokchai
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 53


« ตอบ #4 เมื่อ: 01-05-2008, 09:58 »

เอาหลักฐานมาให้ดู จะได้ไม่สักแต่เชื่อ
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #5 เมื่อ: 01-05-2008, 10:38 »

ตกลงว่ามาเผยแพร่งานวิจัยบนหอคอยงาช้างแถวนี้ใช่ไหมครับ
ถ้ามาแลกเปลี่ยนความเห็น อยากรู้ว่าชาวบ้านอยู่อย่างไรจะได้คุยต่อ
ถ้ามาโฆษณาเฉยๆจะได้บอก mod ลบ
บันทึกการเข้า
เพื่อนร่วมชาติ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 777


« ตอบ #6 เมื่อ: 01-05-2008, 11:11 »

ดร.โสภณ พรโชคชัย <1>
ประธานกรรมการ มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย <2>
.
สำหรับรายละเอียดรายได้ต่อหัวของสภาพัฒน์ฯ พบว่า เส้นความยากจนในเขตกรุงเทพมหานครอยู่ที่รายได้ 2,020 บาทต่อหัวต่อเดือน หมายความว่าในครอบครัวที่หัวหน้าครอบครัวมีรายได้ประมาณ 8,000 บาทต่อเดือน หากต้องเลี้ยงคู่ครองที่ไม่มีรายได้และลูกอีก 2 คน ถือว่าเป็นคนยากจน แต่ถ้าเป็นในชนบทภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นความยากจนอยู่ที่ 1,215 บาท ที่กำหนดไว้ต่ำกว่าก็เพราะค่าครองชีพถูกกว่าและชาวชนบทยังสามารถหาผักปลาจากแหล่งธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้เงินอีกด้วย
.
รัฐบาลทักษิณที่ผ่านมา ก็ได้รับข้อมูลเท็จจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ชุมชนแออัดซึ่งเข้าใจว่าเป็นที่อยู่อาศัยของคนจนมีจำนวนมหาศาล โดยระบุว่าในประเทศไทยมีการบุกรุกที่ดินถึง 5,000 ชุมชน รวม 1.6 ล้านครอบครัว <12> จนเกิดโครงการ “บ้านเอื้ออาทร” และ “บ้านมั่นคง” แต่ความจริง ความต้องการที่อยู่อาศัยมีน้อยมาก สิ่งที่สร้างขึ้นกลับกลายเป็นการ “เอื้ออาทร” ต่อผู้รับเหมาและผู้ร่วมทุนโครงการมากกว่า แทนที่จะสร้างบ้านตามความต้องการจริง กลับสร้างตามความต้องการลวง หรือสร้างเกินกว่าความต้องการจนขายไม่ออก
.
คนที่ดีใจถ้าประเทศไทยมีคนจนเพิ่มขึ้น ก็คงมีแต่พวก NGO ลักษณะองค์กรนอกกฎหมายบางแห่งโดยเฉพาะที่รับเงินต่างชาติมาเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรม เพราะจะได้มีงานทำไปเรื่อย ๆ ผมว่าเราต้องรักศักดิ์ศรีของชาติและของคนไทย ต้องพัฒนาประเทศให้คนไทยหายจน ถ้าเรามัวคิดว่าเรายากจนและติดกรอบคิดแบบคนยากจนอยู่เรื่อย เมื่อไหร่ไทยเราจะลืมตาอ้าปากได้
.
คนไทยจน ๆ เป็นคนส่วนน้อย โปรดอย่านำมาแอบอ้างหากิน
.
หมายเหตุ:
<1> ดร.โสภณ พรโชคชัย เป็นผู้ที่ทำวิจัยต่อเนื่องเกี่ยวกับชุมชนแออัด โดยเป็นคนแรกที่ค้นพบชุมชนแออัดถึง 1,020 แห่งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และสำรวจชุมชนแออัดในภูมิภาคทั่วประเทศ เคยได้รับมอบหมายจากองค์การสหประชาชาติหลายหน่วยงานให้ศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองและชุมชนแออัด เป็นผู้ประเมินค่าทรัพย์สินและนักวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ ยังเป็น ผู้แทนสมาคมประเมินค่าทรัพย์สินนานาชาติ (IAAO) ประจำประเทศไทย และกรรมการสภาที่ปรึกษา Appraisal Foundation ซึ่งก่อตั้งโดยสภาคองเกรสเพื่อการควบคุมการประเมินค่าทรัพย์สินในสหรัฐอเมริกา Email: sopon@thaiappraisal.org
.
<2> มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มุ่งให้ความรู้แก่สาธารณชนด้านการประเมินค่าทรัพย์สิน อสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาเมือง ปัจจุบันเป็นองค์กรสมาชิกหลักของ FIABCI ประจำประเทศไทย ถือเป็นองค์กรเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่มีกิจกรรมคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยจนได้รับความเชื่อถือจากนานาชาติ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaiappraisal.org
.


ไหน ๆ คุณด๊อกเตอร์ก็อยากโชว์ภูมิโชว์พาวร์แล้ว ขอถามเป็นข้อ ๆ ละกัน

1) คิดว่าเส้นความยากจนที่กำหนดไว้มันสมเหตุสมผลไหม ในกรุงเทพฯหัวละ 67.33 บาทต่อวัน อยู่แบบสมกับเป็นคนได้ไหม ในเมื่อ 67.33 บาทนี่ต้องรวมค่าอาหาร ที่อยู่ เดินทาง ยา เสื้อผ้า

2) ตกลงว่านิยามความจนเดี๋ยวนี้ถูกตัดสินกันที่โทรทัศน์ เครื่องซักผ้า เครื่องเล่นดีวีดีเหรอ จะไม่พูดถึงหนี้สินในครัวเรือน โอกาสที่จะมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งถาวร (ถ้าผมได้วันละ 70 บาท ซึ่งหลักเกณฑ์ที่คุณอ้างบอกว่าไม่ยากจน แล้วชีวิตนี้ผมจะมีโอกาสมีบ้านเป็นของตัวเองมั้ย) เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าพวกนั้นถ้าหยิบมาอ้างแบบนี้ ผมว่ามันตื้นเกินไป ผมถามง่าย ๆ ในฐานะที่คุณคงเคยศึกษาสลัม ให้คุณไปอยู่แบบนั้นตลอดชีวิตเอามั้ยครับ อยู่แบบนั้นคุณก็ไม่จนนะครับ แล้วคุณก็ห้ามรู้สึกว่าคุณจนด้วย เพราะหลักเกณฑ์ของนักวิชาการบางคนตัดสินแล้วว่าคุณไม่จน

3) แล้วคุณคิดว่า 6.1 ล้านคนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน (ที่ผมคิดว่าไม่สมเหตุสมผล) นี่ไม่เป็นปัญหา และเราไม่ควรเร่งแก้ไขเหรอครับ คนหลายล้านนะครับนั่นน่ะ

4) เอ็นจีโอไหนบ้างครับที่มีพฤติกรรมแอบอ้างคนจนเพื่อหากิน ยกตัวอย่างหน่อยครับ กล่าวหาลอย ๆ แบบเหวี่ยงแหไม่ดีนะครับ จะด่าเขาทั้งทีน่าจะกล้าโดนฟ้องหมิ่นประมาทด้วย เพราะเอ็นจีโอบางแห่งที่ผมรู้จัก ก็รับเงินต่างประเทศมา และรับเงินคนไทยด้วย แต่เขาช่วยให้คนไทยจน ๆ ลืมตาอ้าปากได้ ซึ่งตรงข้ามกับที่คุณกล่าวหา

5) ตกลงเรื่องบ้านเอื้ออาทรนี่ หนูแม้วถ้าไม่โง่ก็เลวใช่มั้ย คือถ้าไม่ถูกหลอก (โง่) ก็จงใจรับข้อมูลเท็จเพื่อหาผลประโยชน์ให้คนบางกลุ่ม (เลว) ใช่มั้ยครับ

6) ข้อนี้ไม่ใช่คำถาม แต่อยากให้คุณรู้ไว้ เรื่องคุณรสนาน่ะ สังคมเลยประเด็นที่คุณยกมาไปไกลแล้วครับ และคนกรุงเทพฯก็คงไม่ได้เลือกคุณรสนาเพราะคุณรสนาพูดเรื่องตัวเลข 70% แต่เลือกเพราะเขาเชื่อว่าที่ผ่านมาคุณรสนาพยายามปกป้องผลประโยชน์ของชาติ มากกว่ารับใช้นายทุน ถ้ามัวหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเก่า ๆ ที่ไม่ใช่สาระสำคัญ คนเขาจะว่าคุณน่าเบื่อนะครับ
บันทึกการเข้า
pornchokchai
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 53


« ตอบ #7 เมื่อ: 01-05-2008, 16:08 »

อาจทำใจเข้าใจในสิ่งที่ตรงข้ามกับกรอบความคิดที่ผ่านมา

โปรดดูตารางที่ 2
http://www.thaiappraisal.org/images/clip_image006.gif
เวียดนามยังมีคนจนเพียง 14.8%

ง่าย ๆ นะครับ
ไทยจนกว่าเวียดนามไหม???????????????????
ทำไมชอบให้เราดูจนผิดปกติ
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #8 เมื่อ: 01-05-2008, 16:17 »

อาจทำใจเข้าใจในสิ่งที่ตรงข้ามกับกรอบความคิดที่ผ่านมา

โปรดดูตารางที่ 2
http://www.thaiappraisal.org/images/clip_image006.gif
เวียดนามยังมีคนจนเพียง 14.8%

ง่าย ๆ นะครับ
ไทยจนกว่าเวียดนามไหม???????????????????
ทำไมชอบให้เราดูจนผิดปกติ

ตอบข้างบนที่เขาถามบ้างสิครับ

ลองให้ไปใช้ชีวิตด้วยเงินวันละร้อยบาท(เหนือกว่าคำว่าจนของคุณตั้งเยอะ)
อยากรู้ว่าคุณจะมีปัญญาใช้ชีวิตแบบนั้นได้กี่วัน
ทำไมชอบมองแต่วิชาการของใครก็ไม่รู้เขียนสำหรับที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่มองชีวิตจริงบ้าง
บันทึกการเข้า
เพื่อนร่วมชาติ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 777


« ตอบ #9 เมื่อ: 01-05-2008, 16:22 »

อาจทำใจเข้าใจในสิ่งที่ตรงข้ามกับกรอบความคิดที่ผ่านมา

โปรดดูตารางที่ 2
http://www.thaiappraisal.org/images/clip_image006.gif
เวียดนามยังมีคนจนเพียง 14.8%

ง่าย ๆ นะครับ
ไทยจนกว่าเวียดนามไหม???????????????????
ทำไมชอบให้เราดูจนผิดปกติ

ประโยคแรกช่วยเขียนเป็นภาษาไทยที่ครบถ้วนกระบวนความด้วย ประโยคนี้ไม่มีภาคประธาน เด็กนักเรียนแถวบ้านผมยังเขียนรู้เรื่องกว่านี้ครับ

ผมไม่สนหรอกว่าตัวเลขเวียดนามจะมากกว่าหรือน้อยกว่าเรา ตั้งแต่กระทู้ก่อน ๆ แล้ว คุณไม่เคยตอบเรื่องที่คนในบอร์ดนี้ถามได้เลย

คราวหลังถ้าต้องการแค่โชวภูมิ อย่ามาโพสต์บอร์ดนี้เลยครับ
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #10 เมื่อ: 01-05-2008, 16:24 »

อาจทำใจเข้าใจในสิ่งที่ตรงข้ามกับกรอบความคิดที่ผ่านมา

โปรดดูตารางที่ 2
http://www.thaiappraisal.org/images/clip_image006.gif
เวียดนามยังมีคนจนเพียง 14.8%

ง่าย ๆ นะครับ
ไทยจนกว่าเวียดนามไหม???????????????????
ทำไมชอบให้เราดูจนผิดปกติ

ขยายความต่อจากคุณเพื่อนร่วมชาติ ที่ว่าเส้นความยากจนที่กำหนดไว้มันสมเหตุสมผลไหม
โดยที่ในกรุงเทพฯ มีเงินใช้หัวละ 67.33 บาทต่อวันถือว่าไม่ยากจน

ตัวเลข 67.33 บาท (มาจาก 2020 บาท / 30 วัน) นั้นใช้เฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ

และจากตารางที่ 1 เส้นความยากจนของประเทศไทย ในปี 2549 อยู่ที่ 1,385 บาท/เดือน



เท่ากับเฉลี่ยแล้วอยู่ในประเทศไทยมีเงินใช้วันละ 46.17 บาท ก็ถือว่าไม่ยากจนแล้ว!!!

---

และจากตารางยังมีคนไทยที่มีเงินใช้น้อยกว่าวันละ 46.17 บาท อยู่เป็นจำนวนถึง 9.6%!!!

ทำให้น่าตั้งคำถามว่าคนจนที่สุด 70% ของประชากรไทยมีรายได้เฉลี่ยเท่าไหร่กันแน่
มีค่าใช้จ่ายและหนี้สินเท่าไหร่ มีโอกาสขยับฐานะจนร่ำรวยได้แค่ไหน
ถ้าตอบคำถามได้แล้วเราค่อยมาประเมินว่า 70% ดังกล่าวถือว่ายากจนหรือไม่ดีไหมครับ  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-05-2008, 16:26 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #11 เมื่อ: 01-05-2008, 17:00 »

อ่านดูแล้วคุณมีปมกับ NGO บางพวก

น่าจะแก้ด้วยการบอกมาเลยว่า NGO รายไหนรับเงินต่างชาติมาหากิน

แต่ผมว่าถ้ารับเงินต่างชาติแล้วมาทำงานช่วยให้คนหายจนจริงๆ
มันก็ไม่เห็นเสียหายอะไร


ดีกว่ามานั่งบ้าอยู่กับตัวเลข 10% หรือเถียงกันเรื่องนิยามความจน



บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #12 เมื่อ: 01-05-2008, 17:45 »

ผมโหลดข้อมูลจากลิงค์ท้ายกระทู้มาดูเีรียบร้อยแล้ว นับว่ามีข้อมูลที่น่าสนใจจริง

<6> โปรดดู ตารางที่ 6 สัดส่วนและจำนวน คนจน จนมาก จนน้อย เกือบจน (ด้านรายจ่าย) ปี 2533-2549 ของสภาพัฒน์ฯ ที่
http://poverty.nesdb.go.th/poverty_new/doc/news/wannee_20071130114433.zip


---

จาก ตารางที่ 26 : รายจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคเฉลี่ยต่อคนต่อเดือน จำแนกกลุ่มประชากรตามระดับรายจ่าย

ข้อมูลปี 2549 ระบุไว้แบบนี้ (หมายเหตุ : กลุ่มที่ 1 จนที่สุด ไล่ไปถึง กลุ่มที่ 5 รวยที่สุด)

กลุ่ม 20% ที่ 1  มีค่าใช้จ่ายต่อเดือน  1,163 บาท
กลุ่ม 20% ที่ 2  มีค่าใช้จ่ายต่อเดือน  1,874 บาท
กลุ่ม 20% ที่ 3  มีค่าใช้จ่ายต่อเดือน  2,689 บาท
กลุ่ม 20% ที่ 4  มีค่าใช้จ่ายต่อเดือน  4,012 บาท
กลุ่ม 20% ที่ 5  มีค่าใช้จ่ายต่อเดือน  9,221 บาท


จะเห็นว่ากลุ่มจนที่สุด 3 กลุ่มแรก รวม 60% ใช้จ่ายเงินเพียงเดือนละ 2,689 บาทหรือต่ำกว่า
คิดเป็น 89.63 บาท/วัน หรือต่ำกว่า

ถ้าหาค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายเงินของ 3 กลุ่มแรกที่เป็น 60% ของประชากรไทย จะพบว่าใช้จ่ายเงิน
เฉลี่ยเดือนละ 1,908.67 บาท หรือคิดเป็น  63.62 บาท/วัน


ในความคิดผมไล่มาจนถึง 60% แรกของประชากรที่จนที่สุด ก็ยังมีฐานะทางเศรษฐกิจไม่ดีนัก
และถ้าไล่ไปจนถึง 70% แรกของประชากร ก็คงมีค่าเฉลี่ยไม่แตกต่างกันไปสักเท่าไหร่

มันจึงไม่แปลกถ้าจะมี NGO อ้างว่าประชากรไทย 70% ยังมีฐานะยากจนอยู่
เพราะทั้ง 70% ก็สมควรพัฒนาให้มีฐานะทางเศรษฐกิจดีขึ้นกว่าปัจจุบันจริงๆ


---

น่าสังเกตด้วยว่า ประชากรกลุ่มยากจนที่สุด กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน และภาคเหนือ
โดยที่ภาคอีสานมีประชากรยากจนมากที่สุด และภาคอีสานมีสัดส่วนประชากรมากที่สุด
เทียบกับประชากรไทยทั้งประเทศเสียด้วย

ข้อสังเกตอีกประการหนึ่งคือหากตัดข้อมูลประชากร กรุงเทพฯ ออกจากกลุ่ม  สัดส่วนของ
คนจนและค่าเฉลี่ยฐานะทางเศรษฐกิจของประชากร จะเปลี่ยนแปลงไปในทางย่ำแย่ทันที

แสดงถึงปัญหาการกระจุกตัวของความเจริญ และมีพื้นที่ด้อยพัฒนาอยู่ในประเทศไทยจริง
ซึ่งถ้ามีการเรียกร้องให้แก้ปัญหาความยากจน มันก็มีปัญหาอยู่จริงไม่ใช่ NGO ยกขึ้นมาเอง


---

สรุปว่าผมตอบคำถามตัวเองไปแล้วคือ ค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายเงินของ 3 กลุ่มแรกที่เป็น 60%
ของประชากรไทย จะพบว่าใช้จ่ายเงินเฉลี่ยเดือนละ 1,908.67 บาท หรือ  63.62 บาท/วัน

จากตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังมีปัญหาเกี่ยวกับฐานะทางเศรษฐกิจจริง
และทั้งหมดเป็นข้อมูลปี 2549 ซึ่งราคาน้ำมันและราคาข้าวสารยังไม่พุ่งสูงอย่างในปี 2551
ถ้าจะบอกว่า NGO พูดเกินจริง ก็คงต้องตอบว่า ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง แล้วล่ะครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-05-2008, 18:19 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #13 เมื่อ: 01-05-2008, 18:04 »

สำหรับข้อสงสัยของ ดร.โสภณ พรโชคชัย ที่ว่า การลงทะเบียนคนจนในสมัยรัฐบาลทักษิณ
มีผู้ลงทะเบียนถึง 8,258,435 คนหรือ 13.2% ทั้งที่มีสัดส่วนคนจนในปี 2549 เพียง 9.6%
หรือคิดเป็นจำนวน 6.1 ล้านคนนั้น

จาก ตาราง 7 : สัดส่วนและจำนวน คนจน จนมาก จนน้อย เกือบจนฯ ปี 2549
ตามข้อมูลในลิงค์เดียวกัน

<6> โปรดดู ตารางที่ 6 สัดส่วนและจำนวน คนจน จนมาก จนน้อย เกือบจน (ด้านรายจ่าย) ปี 2533-2549 ของสภาพัฒน์ฯ ที่
http://poverty.nesdb.go.th/poverty_new/doc/news/wannee_20071130114433.zip


จะพบว่านอกจาก คนจนมาก 2.4 ล้านคน จนน้อย 3.6 ล้านคน ยังมี คนเกือบจนอีก 5.2 ล้านคน
และคนเกือบจนนี้ ก็คือคนที่มีเงินใช้มากกว่าระดับเส้นความยากจน 20% ยกตัวอย่างเช่น
ในเขตกรุงเทพ ก็หมายถึงมีเงินใช้ 2020*120% = 2,424 บาท หรือประมาณ 80 บาท/วัน

..จึงไม่แปลกหากคนในกลุ่ม "เกือบจน" 5 ล้านกว่าคนนี้ จะมาลงทะเบียนคนจนกับเขาด้วย..
โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็น "คนอยากจน" อย่างที่ ดร.โสภณ กล่าวหาในกระทู้นะครับ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
DAWN
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 180


« ตอบ #14 เมื่อ: 01-05-2008, 18:26 »

  เอ้อ... แล้วยังไงครับ รู้ตัวเลขที่ล้าสมัยเหล่านี้ แล้วช่วยอะไรได้ ผมก็ยังจนอยู่ดี รายได้ตัวเลขไม่ต่ำกว่าไอ้เส้นจนที่กำหนด แต่ก็ยังไม่พอกิน ข้าวจานเท่าไร กับข้าวอีก ค่าเดินทางล่ะ สบู่ ยาสีฟัน ไฟฟ้าที่ต้องใช้ในบ้าน ค่าน้ำ ของจำเป็นทั้งนั้น ง่ายๆ วันละ 150 ไม่พอจ่ายครับ ถ้าเฉลี่ยจริงๆ เดือนละ 4,500 บาท ก็ไม่น่าจะพอ แล้วไอ้เส้นอะไรนั่นน่ะ มันไม่ถึง 2,000 บาท จะไปวัดได้อย่างไร มันเป็นตัวเลขตามทฤษฎีเท่านั้น อย่ามาใช้เลยครับ อ่านแล้วงง งง งง
บันทึกการเข้า

Shr
1ktip
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,457



« ตอบ #15 เมื่อ: 01-05-2008, 18:37 »

คุณกำหนดกรอบงานวิจัยของคุณ แล้วเผลอขังสมองไว้นั้นด้วยรึเปล่าครับ

ยึดแต่ตัวเลขจากงานวิจัยในกรอบอันคับแคบ ไม่ได้มองถึงความเป็นจริงเอาเสียเลย

ถ้าเอาข้อมูลไปถกตามงานสัมมนาวิชาการ คงโดนสับเละเทะ
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #16 เมื่อ: 01-05-2008, 18:45 »

คุณกำหนดกรอบงานวิจัยของคุณ แล้วเผลอขังสมองไว้นั้นด้วยรึเปล่าครับ

ยึดแต่ตัวเลขจากงานวิจัยในกรอบอันคับแคบ ไม่ได้มองถึงความเป็นจริงเอาเสียเลย

ถ้าเอาข้อมูลไปถกตามงานสัมมนาวิชาการ คงโดนสับเละเทะ

อิอิ เขาเอาไปโฆษณามาแล้วทั้งในและต่างประเทศนะครับ(ในหัวข้อกระทู้)
ไม่รู้ว่าโดนสับหรือเปล่า แต่ขยันเอางานตัวเองมาโฆษณาจริงๆ
 
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #17 เมื่อ: 01-05-2008, 19:29 »

เพิ่มเติมอีกสักหน่อยจากที่อ่านข้อมูลชุดเดิมเพิ่มเติมนะครับ.. คราวนี้ยิ่งชัดเจนเลย

จาก ตารางที่ 36 : รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อเดือน จำแนกตามกลุ่มประชากรตามระดับรายได้ทั่วประเทศฯ

ข้อมูลปี 2549 ระบุไว้แบบนี้ (หมายเหตุ : กลุ่มที่ 1 จนที่สุด ไล่ไปถึง กลุ่มที่ 5 รวยที่สุด)

กลุ่ม 20% ที่ 1  มีรายได้ต่อเดือน    1,003 บาท
กลุ่ม 20% ที่ 2  มีรายได้ต่อเดือน    2,001 บาท
กลุ่ม 20% ที่ 3  มีรายได้ต่อเดือน    3,165 บาท    <-- ถึงกลุ่มที่ 3 แล้วรายได้ยังไปไม่ถึงไหน  Sad
กลุ่ม 20% ที่ 4  มีรายได้ต่อเดือน    5,241 บาท
กลุ่ม 20% ที่ 5  มีรายได้ต่อเดือน  14,693 บาท


ใช้วิธีเดิมคิดก็คือ มีคน 60% ของประเทศที่มีรายได้เท่ากับ 3165 บาท/เดือน หรือต่ำกว่า
คิดเป็น 105.50 บาท/วัน หรือต่ำกว่า

เฉลี่ยรายได้คนจนที่สุด 60% แรกเท่ากับ (1003+2001+3165)/3 = 2105.33 บาท/เดือน
หรือเท่ากับเพียง 70.17 บาท/วัน เท่านั้น

พิจารณาแล้วที่ NGO บอกว่าคนไทย 70% ยังจนอยู่จึงไม่น่าจะเป็นการพูดเกินเลยครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-05-2008, 19:37 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #18 เมื่อ: 01-05-2008, 19:31 »

อิอิ เขาเอาไปโฆษณามาแล้วทั้งในและต่างประเทศนะครับ(ในหัวข้อกระทู้)
ไม่รู้ว่าโดนสับหรือเปล่า แต่ขยันเอางานตัวเองมาโฆษณาจริงๆ
 

งานเขียนของ ดร.โสภณ พรโชคชัย ชุดนี้มีจุดอ่อนให้โดนสับได้ง่ายๆ
ยิ่งขยันเอาไปโพสตามเว็บต่างๆ ก็ยิ่งล่อเป้าให้คนเห็นเท่านั้น 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
pornchokchai
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 53


« ตอบ #19 เมื่อ: 01-05-2008, 20:32 »

ลองตรองดู
ลาวมีคนจน 31%
เวียดนามมี 15%
ของไทยเรา
คุณรสนาว่ามี 70%
ใครเข้าใจอะไรผิดหรือไม่
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #20 เมื่อ: 01-05-2008, 20:55 »

ลองตรองดู
ลาวมีคนจน 31%
เวียดนามมี 15%
ของไทยเรา
คุณรสนาว่ามี 70%
ใครเข้าใจอะไรผิดหรือไม่

ตอบได้แค่นี้เหรอครับ
ประเทศไทยต้องดีกว่าลาว เวียดนาม พม่า
คนไทยในชาติจะไม่มีข้าวกินก็ไม่เป็นไร ถูกหรือไม่

ดูในเมืองไทยก็ได้ คนในเมือง กับคนในชนบท มีเงิน 100บาทเท่ากัน
ในเมืองแค่ออกจากบ้านไปทำงานก็เสียเงินค่ารถแล้ว 10บาท
ซื้อข้าวซื้อน้ำอีกมื้อละ30บาท2มื้อก็60 กลับบ้านค่ารถอีก 10บาท
ยังไม่ต้องมีค่าบ้านค่าเสื่อผ้าค่าลูกเมียเงินก็เกือบจะหมดแล้ว
ถ้าเป็นชนบทที่พึ่งพาตัวเองได้ ข้าวปลูกเอง ผักริมรั้ว ทำงานที่นาตัวเองก็เดินไป
เงินร้อยบาทอยู่สามสี่วันก็ยังไม่หมด
ผมถามว่าทั้งสองคนมีเงินเท่ากันหรือเปล่า และใครรวยกว่ากัน


การที่คุณบอกว่าเงิน 60บาทก็ไม่จนแล้ว
การที่คุณบอกว่าไทยต้องดีกว่าลาว เวียดนาม พม่า
ผมว่ากรอบของคุณ "คับแคบ" และ "น่าดูถูก" เป็นทีี่สุด

ถ้าจะใช้ข้อมูลแค่นี้มาเถียงว่า ประเทศไทยไม่มีคนจน
ผมว่าคุณกลับไปประเมินราคาที่ดินอย่างเดิมเถอะครับ
อย่าเปลี่ยนแนวมาเป็นนักสังคมวิทยาเลย

 
บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #21 เมื่อ: 01-05-2008, 20:59 »

ค่าครองชีพเวียดนาม ถูกนะ
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
Tuba ✿゚✎..✿.。.:。ღ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 660


ทักษิณที่ดี คือทักษิณที่.......ตายแล้ว


« ตอบ #22 เมื่อ: 01-05-2008, 21:10 »

ลองตรองดู
ลาวมีคนจน 31%
เวียดนามมี 15%
ของไทยเรา
คุณรสนาว่ามี 70%
ใครเข้าใจอะไรผิดหรือไม่

ผมว่าคุณเอาเวลาไปศึกษาเรื่องการกระจายรายได้บ้างจะดีกว่านะครับ

เคยได้ยินหรือเปล่าครับ? GDP ที่เพิ่มขึ้น 80% ตกอยู่ในส่วนของประชากร 20% น่ะครับ

คุณอาจจะทราบได้ว่า ใครกันแน่ที่เข้าใจผิด เรียนมาถึงระดับปริญญาเอก ไม่น่าจะพลาดเรื่องง่าย ๆ แบบนี้นะครับ
บันทึกการเข้า

ทหาร เป็นอะไรก็ไม่ได้ดี นอกจากเป็นทหาร

ตำรวจ เป็นอะไรก็ดีไม่ได้ แม้กระทั่งเป็นตำรวจ
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #23 เมื่อ: 01-05-2008, 21:59 »

.
.
ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
.
ข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งที่เชื่อถือได้ต่างระบุสอดคล้องกันว่าประชากรไทยที่ยากจนคืออยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนมีเพียง 9-10% โดยประมาณ แม้แต่เมื่อปี 2505 ประชากรไทยที่ถือว่ายากจนก็มีเพียงครึ่งหนึ่ง (57%) ไม่ใช่ 70% เช่นที่เข้าใจกัน และหลังจากนั้นประชากรที่ยากจนก็เป็นคนส่วนน้อยมาโดยตลอด
.


เส้นความยากจนที่ว่า มันไม่ใช่ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะครับ

มันก็แค่ตัวเลขที่สมมติขึ้นมา ให้พวกธนาคารโลกเอามาหากินเหมือนกัน

บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
เพื่อนร่วมชาติ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 777


« ตอบ #24 เมื่อ: 01-05-2008, 22:20 »

ลองตรองดู
ลาวมีคนจน 31%
เวียดนามมี 15%
ของไทยเรา
คุณรสนาว่ามี 70%
ใครเข้าใจอะไรผิดหรือไม่

ตอบได้ถึงใจมาก สงสัยกระทู้ต่อไปของคุณ ผมคงจะไม่เข้ามาตอบแล้วครับ น่าเบื่อมาก

    
บันทึกการเข้า
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #25 เมื่อ: 01-05-2008, 23:50 »

ลองตรองดู
ลาวมีคนจน 31%
เวียดนามมี 15%
ของไทยเรา
คุณรสนาว่ามี 70%
ใครเข้าใจอะไรผิดหรือไม่

ถ้าถามคุณรสนา  ก็คงได้ว่า ลาวมีคนจน 80 เวีดนาม 75 หละครับ

ไอ้ 31 , 15 ของคุณนี่ก็จาก CIA นี่นะครับ

----------------------------------------------------------------

ง่ายนิดเดียวคุณลองสมติเอาเองว่า มาอยู่จังหวัดปริมณฑล ไม่ต้องถึงกับกรุงเทพ

มีเงินเดือน 3,500 บาท อยู่ยังไง

ถามผมผมพออยู่ได้ครับแต่ผมเรียกว่าจนนะ

1 ค่าห้องเช่า 700 แบบฝากั้น เหลือ 2,800
2 ค่ารถ เอาแบบถูกสุด สองแถวไปกลับ เที่ยวละ 5 บาท วันละ 10 บาท รวม 250 เอาเฉพาะวันทำงาน  เหลือ 2,550
3 ค่าข้าว ตีว่ากินมื้อละ 25 บาท 3 มื้อ กินน้ำฟรีที่ร้านเท่านั้น  2,250 เหลือ 200 บาท เอาไว้เติมตังมือถือได้เดือนนึงพอดี

ถ้าชีวิตแบบนี้ผมว่าจนนะ หรือ ใครเรียกว่าไม่จน    ถ้าอยู่ที่กทม  ผมใช้ไม่ไหวอะ
---------------------------------------------
บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #26 เมื่อ: 02-05-2008, 00:45 »

ครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ นักศึกษาปัญญาชน จะเอาชาวนาไทยมาปฎิวัติอย่างจีน
กาลเวลาได้พิสูจน์ให้พวกเขาเห็นได้ชัดแล้วว่า ชาวนาไทยไม่เหมือนกับชาวนาจีน
  เป็นเรื่องที่ยากมาก ที่จะให้ชาวนาไทยลุกขึ้นมาจับอาวุธมาสู้กับอำนาจรัฐ เพราะชาวนาไทยและคนยากคนจนในประเทศเรา
ไม่เคยมีใครถึงกับอดตาย
  ระบบอุปถัมภ์ จากนักการเมือง ข้าราชการและพ่อค้า มันมีวิธีการหลอกลวงให้คนยากคนจนหลงเชื่อจนตายใจ
แม้วมันเข้าถึงจุดนี้ เลยทำให้มันกลายเป็นขวัญใจของคนยากคนจนได้ จะประมาทคนๆนี้ไม่ได้เป็นอันขาด
  มีอำนาจทางทหารเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ที่จะล้มพวกHEREๆนี้ลงได้ เพราะทหารเขาก็รู้ว่าระบบการเลือกตั้งของ
ไทยเรา ไม่ได้เป็นหนทางสู่ระบอบการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงได้
   อย่าพยายามปลอบใจตัวเองกันเลยว่า จะไม่มีรัฐประหารอีกต่อไป......เอิ้กกกกกก

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-05-2008, 01:11 โดย (ลุง)ถึก สไลเดอร์ » บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #27 เมื่อ: 02-05-2008, 03:07 »

ลองตรองดู
ลาวมีคนจน 31%
เวียดนามมี 15%
ของไทยเรา
คุณรสนาว่ามี 70%
ใครเข้าใจอะไรผิดหรือไม่

ไม่น่าเชื่อว่าผมต้องทวนคำตอบให้ดูอีกรอบ ก็สรุปให้แล้วชัดๆ ว่า 70% ไม่ใช่พูดเกินเลย 

จาก ตารางที่ 36 : รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อเดือน จำแนกตามกลุ่มประชากรตามระดับรายได้ทั่วประเทศฯ
http://poverty.nesdb.go.th/poverty_new/doc/news/wannee_20071130114433.zip

ข้อมูลปี 2549 ระบุไว้แบบนี้ (หมายเหตุ : กลุ่มที่ 1 จนที่สุด ไล่ไปถึง กลุ่มที่ 5 รวยที่สุด)

กลุ่ม 20% ที่ 1  มีรายได้ต่อเดือน    1,003 บาท    <-- รายได้วันละ 34.43 บาท
กลุ่ม 20% ที่ 2  มีรายได้ต่อเดือน    2,001 บาท    <-- รายได้วันละ 66.70 บาท
กลุ่ม 20% ที่ 3  มีรายได้ต่อเดือน    3,165 บาท    <-- ถึงกลุ่มที่ 3 แล้วรายได้ยังไปไม่ถึงไหน  Sad
กลุ่ม 20% ที่ 4  มีรายได้ต่อเดือน    5,241 บาท
กลุ่ม 20% ที่ 5  มีรายได้ต่อเดือน  14,693 บาท


สรุปง่ายๆ ก็คือ มีคน 60% ของประเทศที่มีรายได้เท่ากับ 3165 บาท/เดือน หรือต่ำกว่า
คิดเป็น 105.50 บาท/วัน หรือต่ำกว่า

เฉลี่ยรายได้คนจนที่สุด 60% แรกเท่ากับ (1003+2001+3165)/3 = 2105.33 บาท/เดือน
หรือเท่ากับเพียง 70.17 บาท/วัน เท่านั้น


รายได้แค่นี้ไปไหนไม่ได้เลย ถ้ามากรุงเทพฯ หรือแค่เข้าไปในเมืองเงินอาจไม่พอซื้อข้าวกินด้วยซ้ำ!!!
พิจารณาแล้วที่ NGO บอกว่าคนไทย 70% ยังจนอยู่จึงไม่น่าจะเป็นการพูดเกินเลยครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-05-2008, 03:16 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #28 เมื่อ: 02-05-2008, 04:26 »

ป่วยการที่จะพูดครับคุณ jerasak
เขายังเชื่อว่า หากตัวคนเดียว ในกทม.หาเงินไปวันละ 60กว่าบาทก็ไม่ใช่คนจน
เขาเชื่อว่าคนในชนบทหาเงินได้วันละ 40กว่าบาทก็ไม่ใช่คนจน
ไม่ว่าจะยกตัวเลขอะไรมา ชี้แจงกี่รอบ เขาก็ไม่เข้าใจหรอก

ทั้งๆที่ตัวเลขที่เขายกมาจะขัดแย้งกันเอง
เป็นความผิดพลาดอย่างจงใจของใครก็ไม่รู้
ก็ยังจะเชื่อให้ได้ว่าประเทศไทยเจริญ ไม่มีคนจน
ป่วยการที่จะพูดจริงๆ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ณ ปี 2549 จำนวนคนจนลดเหลือ 9.6% ของคนไทยทั้งประเทศ หรือ 6.1 ล้านคนจาก 63.4 ล้านคน ช่องว่างความยากจนก็ลดลง ความรุนแรงของปัญหาความยากจนก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในการลงทะเบียนคนจนในสมัยรัฐบาลทักษิณปรากฏว่ามีผู้ลงทะเบียนถึง 8,258,435 คนหรือ 13.2% <5> ทั้งนี้อาจเป็นเพราะรวม “คนอยากจน” เข้าไว้ด้วย แต่ก็ยังถือว่าคนเหล่านี้เป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศไทย
.
สำหรับรายละเอียดรายได้ต่อหัวของสภาพัฒน์ฯ พบว่า เส้นความยากจนในเขตกรุงเทพมหานครอยู่ที่รายได้ 2,020 บาทต่อหัวต่อเดือน หมายความว่าในครอบครัวที่หัวหน้าครอบครัวมีรายได้ประมาณ 8,000 บาทต่อเดือน หากต้องเลี้ยงคู่ครองที่ไม่มีรายได้และลูกอีก 2 คน ถือว่าเป็นคนยากจน แต่ถ้าเป็นในชนบทภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นความยากจนอยู่ที่ 1,215 บาท
   l
   l
  V
กลุ่ม 20% ที่ 1  มีรายได้ต่อเดือน    1,003 บาท
กลุ่ม 20% ที่ 2  มีรายได้ต่อเดือน    2,001 บาท

มีคนจน ไม่ถึง 10% แต่ไหงสองกลุ่มแรกที่น่าจะยังจนอยู่ตั้ง 40%เข้าไปแล้ว

-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ตาราง 6 : สัดส่วนและจำนวน คนจน จนมาก จนน้อย เกือบจน (ด้านรายจ่าย) ปี 2533-2549
         คนจน   จนมาก   จนน้อย   เกือบจน  คนจน    จนมาก    จนน้อย   เกือบจน
        (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ)  (พันคน)  (พันคน)  (พันคน)  (พันคน)
2549 9.55      3.80      5.75      8.19    6,056.7   2,412.3 3,644.3 5,193.3

ที่มา : ข้อมูลจากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน สำนักงานสถิติแห่งชาติ
ประมวลผลโดย สำนักพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและการกระจายรายได้ สศช.
หมายเหตุ : จน คือ มีระดับรายจ่ายต่ำกว่าเส้นความยากจน
จนมาก คือ มีระดับรายจ่ายต่ำกว่าเส้นความยากจนเกินกว่า 20%
จนน้อย คือ มีระดับรายจ่ายต่ำกว่าเส้นความยากจนไม่เกิน 20%
เกือบจน คือ มีระดับรายจ่ายสูงกว่าเส้นความยากจนไม่เกิน 20%

เอาเฉพาะคนจนคือคนที่อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน(คนจนมาก คนจนน้อย คนจน)
ก็ปาไป 12ล้านคน(19.1%)แล้ว ไหนครับที่บอกว่าคนจนมีแค่ 6ล้าน(10%) เมื่อไปดูตารางอื่น คนจนที่เขาพูดถึง จะยกมาเฉพาะคนจน(9.55%) ไม่ได้รวมคนจนมาก และจนน้อยลงไปด้วย ทั้งๆที่เมื่อพูดถึงคนจนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความจนต้องนำรวมลงไปด้วย สรุปแล้วมันก็แค่การเล่นกับตัวเลขธรรมดาๆให้คนดูว่ามีคนจนน้อยๆเท่านั้นเอง


---------------------------------------------------------------------------------------------------
แถมให้ดูเล่นอีก 1ตาราง

ตาราง 34 : สัดส่วนรายได้ของประชากร จำแนกตามกลุ่มประชากรตามระดับรายได้ (Quintile by Income) ปี2531-2549
                                     2549
กลุ่ม 20% ที่ 1 (จนที่สุด) 3.84
กลุ่ม 20% ที่ 2                7.67
กลุ่ม 20% ที่ 3                12.12
กลุ่ม 20% ที่ 4                20.08
กลุ่ม 20% ที่ 5 (รวยที่สุด) 56.29

และคำอธิบายตารางที่ 34 หมายความว่าในปี49 คน 40%แรก(ที่จนที่สุด) มีรายได้เพียง 11.51% ของรายได้ทั้งหมด
อธิบายให้ชัดๆอีกที แปลว่า ทุกๆคน100คนเงิน100บาท
คน40คน           จะถือเงิน 11.51บาท
คน20คนสุดท้าย    ถือเงิน 56.29บาท

อธิบายสรุปชัดๆแปลว่าเงินอยู่ในมือคนกลุ่มเล็กๆกลุ่มเดียว คนจนก็จนไปจนตายไม่มีทางเปลี่ยน
นี่ถ้าเจาะทีละ 5%ยิ่งเห็นชัดกว่านี้อีก

เป็นไงบ้าง ชัดหรือยังครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-05-2008, 04:35 โดย login not found » บันทึกการเข้า
pornchokchai
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 53


« ตอบ #29 เมื่อ: 02-05-2008, 05:25 »

โปรดอ่านให้ดี ๆ ครับ

ตาราง 6 : สัดส่วนและจำนวน คนจน จนมาก จนน้อย เกือบจน (ด้านรายจ่าย) ปี 2533-2549
         คนจน   จนมาก   จนน้อย   เกือบจน  คนจน    จนมาก    จนน้อย   เกือบจน
        (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ)  (พันคน)  (พันคน)  (พันคน)  (พันคน)
2549 9.55      3.80      5.75      8.19    6,056.7   2,412.3 3,644.3 5,193.3

เอาเฉพาะคนจนคือคนที่อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน(คนจนมาก คนจนน้อย คนจน)
ก็ปาไป 12ล้านคน(19.1%)แล้ว ไหนครับที่บอกว่าคนจนมีแค่ 6ล้าน(10%)


อันนี้
เข้าใจผิดแล้วครับ คนจนมาก จนน้อย รวมอยู่ในกลุ่มจนแล้วครับ (3.8 + 5.75 = 9.55 ครับ)









ลาวมีคนจน 31% เวียดนามมีแค่ 15% แต่คุณรสนาว่าไทยมี 70%
คุณจะเชื่อใครครับ

บางคนบอกว่า นี่คือข้อมูล CIA
CIA เขาเอาข้อมูลมาจากไหน ก็มาจากแต่ละประเทศครับ เขาไม่ได้ทำเอง
อย่าติดอะไรง่าย ๆ กับแค่ "CIA"

บางคนบอกว่า ถ้าเชื่อคุณรสนา ไทยมีคนจน 70 แสดงว่าลาวมีคนจน 80 และเวียดนามมี 75
พูดอย่างนี้ไม่สงสัยตัวเองหรือ
ว่าทำไมไทยจนน้อยกว่าลาวนิดเดียวเอง

เราควรว่าตามจริง ไม่ควรบิดเบือนครับ
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #30 เมื่อ: 02-05-2008, 06:08 »

โปรดอ่านให้ดี ๆ ครับ

ตาราง 6 : สัดส่วนและจำนวน คนจน จนมาก จนน้อย เกือบจน (ด้านรายจ่าย) ปี 2533-2549
         คนจน   จนมาก   จนน้อย   เกือบจน  คนจน    จนมาก    จนน้อย   เกือบจน
        (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ)  (พันคน)  (พันคน)  (พันคน)  (พันคน)
2549 9.55      3.80      5.75      8.19    6,056.7   2,412.3 3,644.3 5,193.3

เอาเฉพาะคนจนคือคนที่อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน(คนจนมาก คนจนน้อย คนจน)
ก็ปาไป 12ล้านคน(19.1%)แล้ว ไหนครับที่บอกว่าคนจนมีแค่ 6ล้าน(10%)

อันนี้
เข้าใจผิดแล้วครับ คนจนมาก จนน้อย รวมอยู่ในกลุ่มจนแล้วครับ (3.8 + 5.75 = 9.55 ครับ)

อย่าเลือกตอบเฉพาะที่ตอบได้สิครับ

คุณ login not found เข้าใจตัวเลขในตารางผิดก็เป็นเรื่องหนึ่ง
แต่ที่ผมโพสไว้ 2 รอบแล้วทำไมถึงไ่มตอบล่ะครับ

แล้วในตารางที่เถียงมานี้ อย่าลืมสิครับว่ายังมี "คนเกือบจน"
อยู่อีก 5 ล้านกว่าคน ซึ่งเป็นพวกที่มีรายได้สูงกว่าเส้นยากจน
เพียง 20% เช่น ในพื้นที่ กทม. เส้นยากจนอยู่ที่ 2020 บาท
กลุ่มคนเกือบจนก็อยู่ที่ระดับ 2424 บาทเท่านั้น

ผมว่า คนเกือบคน ก็เท่ากับเป็นคนจนนั่นแหละแต่ไม่ยอมเรียก

อยู่ในกรุงเทพฯ มีเงินใช้วันนึงไม่ถึง 100 บาทอยู่ไปได้ยังไง
แค่จะเจียดเงินดูหนังสักเรื่องยังไม่ได้เลย นี่นะไม่ใช่คนจน???


ซึ่งถ้ารวมกับคนจนอีก 6 ล้าน ก็ปาเข้าไป 11 ล้านคนแล้วครับ
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #31 เมื่อ: 02-05-2008, 06:10 »

ย้ำไปอีกเป็นครั้งที่ 3 นะครับ เพราะแย้งไปแล้ว จขกท. ยังไม่ยอมตอบเสียที 

จาก ตารางที่ 36 : รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อเดือน จำแนกตามกลุ่มประชากรตามระดับรายได้ทั่วประเทศฯ
http://poverty.nesdb.go.th/poverty_new/doc/news/wannee_20071130114433.zip

ข้อมูลปี 2549 ระบุไว้แบบนี้ (หมายเหตุ : กลุ่มที่ 1 จนที่สุด ไล่ไปถึง กลุ่มที่ 5 รวยที่สุด)

กลุ่ม 20% ที่ 1  มีรายได้ต่อเดือน    1,003 บาท    <-- รายได้วันละ 34.43 บาท
กลุ่ม 20% ที่ 2  มีรายได้ต่อเดือน    2,001 บาท    <-- รายได้วันละ 66.70 บาท
กลุ่ม 20% ที่ 3  มีรายได้ต่อเดือน    3,165 บาท    <-- ถึงกลุ่มที่ 3 แล้วรายได้ยังไปไม่ถึงไหน  Sad
กลุ่ม 20% ที่ 4  มีรายได้ต่อเดือน    5,241 บาท
กลุ่ม 20% ที่ 5  มีรายได้ต่อเดือน  14,693 บาท


สรุปง่ายๆ ก็คือ มีคน 60% ของประเทศที่มีรายได้เท่ากับ 3165 บาท/เดือน หรือต่ำกว่า
คิดเป็น 105.50 บาท/วัน หรือต่ำกว่า

เฉลี่ยรายได้คนจนที่สุด 60% แรกเท่ากับ (1003+2001+3165)/3 = 2105.33 บาท/เดือน
หรือเท่ากับเพียง 70.17 บาท/วัน เท่านั้น


รายได้แค่นี้ไปไหนไม่ได้เลย ถ้ามากรุงเทพฯ หรือแค่เข้าไปในเมืองเงินอาจไม่พอซื้อข้าวกินด้วยซ้ำ!!!
พิจารณาแล้วที่ NGO บอกว่าคนไทย 70% ยังจนอยู่จึงไม่น่าจะเป็นการพูดเกินเลยนะครับ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Neoconservative
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 407


We protect the Kingdom


« ตอบ #32 เมื่อ: 02-05-2008, 09:21 »

เอามาอ้าง หากินยังไง ครับ ใครเอามาอ้างหากินครับ

จากความคิดส่วนตัว ผมคิดว่า เส้นแบ่งคนจน มันต่ำไปครับ ใช้มาตรฐาน UNDP ต่ำไปครับ

.........................................................................................................

คนที่ไม่ได้ลงทะเบียนคนจน เอามาคิด มั๊ยครับ 

คนที่ไม่ได้ลงทะเบียน ก็ เยอะครับ ปลูกถั่ว ปลูกผัก หาของป่ากินแบบนี้

........................................................................................................

ผมว่าเขาคิดเส้น ความยากจน ต่ำไปด้วยซ้ำ



*  (113.91 KB, 941x407 - ดู 324 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #33 เมื่อ: 02-05-2008, 09:47 »


ณ ปี 2549 จำนวนคนจนลดเหลือ 9.6% ของคนไทยทั้งประเทศ หรือ 6.1 ล้านคนจาก 63.4 ล้านคน ช่องว่างความยากจนก็ลดลง ความรุนแรงของปัญหาความยากจนก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในการลงทะเบียนคนจนในสมัยรัฐบาลทักษิณปรากฏว่ามีผู้ลงทะเบียนถึง 8,258,435 คนหรือ 13.2% <5> ทั้งนี้อาจเป็นเพราะรวม “คนอยากจน” เข้าไว้ด้วย แต่ก็ยังถือว่าคนเหล่านี้เป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศไทย
.
สำหรับรายละเอียดรายได้ต่อหัวของสภาพัฒน์ฯ พบว่า เส้นความยากจนในเขตกรุงเทพมหานครอยู่ที่รายได้ 2,020 บาทต่อหัวต่อเดือน หมายความว่าในครอบครัวที่หัวหน้าครอบครัวมีรายได้ประมาณ 8,000 บาทต่อเดือน หากต้องเลี้ยงคู่ครองที่ไม่มีรายได้และลูกอีก 2 คน ถือว่าเป็นคนยากจน แต่ถ้าเป็นในชนบทภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นความยากจนอยู่ที่ 1,215 บาท
   l
   l
  V
กลุ่ม 20% ที่ 1  มีรายได้ต่อเดือน    1,003 บาท
กลุ่ม 20% ที่ 2  มีรายได้ต่อเดือน    2,001 บาท

มีคนจน ไม่ถึง 10% แต่ไหงสองกลุ่มแรกที่น่าจะยังจนอยู่ตั้ง 40%เข้าไปแล้ว

-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ตาราง 6 : สัดส่วนและจำนวน คนจน จนมาก จนน้อย เกือบจน (ด้านรายจ่าย) ปี 2533-2549
         คนจน   จนมาก   จนน้อย   เกือบจน  คนจน    จนมาก    จนน้อย   เกือบจน
        (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ)  (พันคน)  (พันคน)  (พันคน)  (พันคน)
2549 9.55      3.80      5.75      8.19    6,056.7   2,412.3 3,644.3 5,193.3

ที่มา : ข้อมูลจากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน สำนักงานสถิติแห่งชาติ
ประมวลผลโดย สำนักพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและการกระจายรายได้ สศช.
หมายเหตุ : จน คือ มีระดับรายจ่ายต่ำกว่าเส้นความยากจน
จนมาก คือ มีระดับรายจ่ายต่ำกว่าเส้นความยากจนเกินกว่า 20%
จนน้อย คือ มีระดับรายจ่ายต่ำกว่าเส้นความยากจนไม่เกิน 20%
เกือบจน คือ มีระดับรายจ่ายสูงกว่าเส้นความยากจนไม่เกิน 20%

เอาเฉพาะคนจนคือคนที่อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน(คนจนมาก คนจนน้อย คนจน)
ก็ปาไป 12ล้านคน(19.1%)แล้ว ไหนครับที่บอกว่าคนจนมีแค่ 6ล้าน(10%) เมื่อไปดูตารางอื่น คนจนที่เขาพูดถึง จะยกมาเฉพาะคนจน(9.55%) ไม่ได้รวมคนจนมาก และจนน้อยลงไปด้วย ทั้งๆที่เมื่อพูดถึงคนจนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความจนต้องนำรวมลงไปด้วย สรุปแล้วมันก็แค่การเล่นกับตัวเลขธรรมดาๆให้คนดูว่ามีคนจนน้อยๆเท่านั้นเอง


---------------------------------------------------------------------------------------------------
แถมให้ดูเล่นอีก 1ตาราง

ตาราง 34 : สัดส่วนรายได้ของประชากร จำแนกตามกลุ่มประชากรตามระดับรายได้ (Quintile by Income) ปี2531-2549
                                     2549
กลุ่ม 20% ที่ 1 (จนที่สุด) 3.84
กลุ่ม 20% ที่ 2                7.67
กลุ่ม 20% ที่ 3                12.12
กลุ่ม 20% ที่ 4                20.08
กลุ่ม 20% ที่ 5 (รวยที่สุด) 56.29

และคำอธิบายตารางที่ 34 หมายความว่าในปี49 คน 40%แรก(ที่จนที่สุด) มีรายได้เพียง 11.51% ของรายได้ทั้งหมด
อธิบายให้ชัดๆอีกที แปลว่า ทุกๆคน100คนเงิน100บาท
คน40คน           จะถือเงิน 11.51บาท
คน20คนสุดท้าย    ถือเงิน 56.29บาท

อธิบายสรุปชัดๆแปลว่าเงินอยู่ในมือคนกลุ่มเล็กๆกลุ่มเดียว คนจนก็จนไปจนตายไม่มีทางเปลี่ยน
นี่ถ้าเจาะทีละ 5%ยิ่งเห็นชัดกว่านี้อีก

เป็นไงบ้าง ชัดหรือยังครับ


ผมอาจจะเข้าใจผิดนะครับ แต่ผมก็ชี้ให้ดูถึงความผิดปกติไปแล้วในประเด็นคำถามแรกของผม
 เส้นความยากจนในเขตกรุงเทพมหานครอยู่ที่รายได้ 2,020 บาทต่อหัวต่อเดือน หมายความว่าในครอบครัวที่หัวหน้าครอบครัวมีรายได้ประมาณ 8,000 บาทต่อเดือน หากต้องเลี้ยงคู่ครองที่ไม่มีรายได้และลูกอีก 2 คน ถือว่าเป็นคนยากจน แต่ถ้าเป็นในชนบทภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นความยากจนอยู่ที่ 1,215 บาท
   l
   l
  V
กลุ่ม 20% ที่ 1  มีรายได้ต่อเดือน    1,003 บาท

ทำไมคนที่มีรายได้ต่ำกว่า 1,003บาทซึ่งเป็นคนจนแน่ๆ ตามนิยามคนจน
และในตารางที่ 2 เองก็ไม่ได้มีภาคไหนที่คนจนมีรายได้ต่ำกว่า 1,003บาทเลย
แล้วทำไมตัวเลขคนจนมันถึงอยู่ที่ 9.55%
ทั้งๆถ้าดูจากสัดส่วนนี้คนจนน่าจะพุ่งสูงกว่า 20-30%ซะด้วยซ้ำ

และถ้าจะให้เน้นอีกที ผมถามไป 3ประเด็นนะครับ
ถ้าผมหยวนๆประเด็นที่ผมคงเข้าใจผิดไป ก็ยังเหลืออีก 2ประเด็นที่คุณยังไม่ได้ตอบ

และที่ผมเคยถาม คุณNeoconservativeก็ถาม สมาชิกหลายๆคนก็ถาม
เส้นความยากจนของคุณมันห่วย มันใช้ไม่ได้ มันต่ำเกินกว่าคนทั่วไปจะยอมรับได้
คุณก็ยังไม่ได้ตอบเลยนะครับ

ขอร้องว่าประโยคห่วยๆ อย่าง "ลาวมีคนจน 31% เวียดนามมีแค่ 15% แต่คุณรสนาว่าไทยมี 70%
คุณจะเชื่อใครครับ" กรุณาอย่าเอามาพูดอีกนะครับ มันแสดงให้เห็นว่าคุณไม่เข้าใจอะไรเลยนอก
และคุณไม่รับฟังอะไรเลยนอกจากจะเสนอประเด็นของตัวเองเท่านั้น
บันทึกการเข้า
Neoconservative
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 407


We protect the Kingdom


« ตอบ #34 เมื่อ: 02-05-2008, 10:00 »

ผมว่า สภาพัฒฯ น่าจะคิดออกมา สองเส้น คือ ใช้ มาตรฐาน UN เส้นหนึ่งสำหรับ เปรียบเทียบกับชาวโลก

แล้วอีกเส้นสำหรับ พัฒนาในประเทศเพื่อเพิ่มความชัดเจน เช่น

เอาค่าเฉลี่ย ของค่าแรงขั้นต่ำ มาคิด ถ้าค่าแรงขั้นต่ำ เฉลี่ย 170 บาท ก็เอามาวัดว่า ใครต่ำกว่า วันละ 170 ก็จนแล้ว

แล้วมาหาทางพัฒนา

..........................................................................................................................................

แต่ 170 มันอาจจะต่ำ ไปด้วยซ้ำ อ่ะครับ 
บันทึกการเข้า
pornchokchai
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 53


« ตอบ #35 เมื่อ: 02-05-2008, 10:21 »

คุณรสนาบอกคนไทย 70% จน แต่ลาวว่ามี 31% ส่วนเวียดนามว่ามีเพียง 15% --- คุณจะเชื่อใคร

สืบเนื่องจากกระทู้
.
คนจนในไทยมีเพียง 10% - กรุณาอย่าเอามาอ้างหากินบ่อย ๆ
http://forum.serithai.net/index.php?topic=25610.0

ผมเขียนเพราะแม้แต่นักการเมืองรุ่นใหม่
เช่นคุณรสนาก็ยังเข้าใจว่าคนไทยส่วนใหญ่จน
แต่ลาว เขมร พม่า ล้วนบอกตัวเองมีคนจนอยู่เพียง 1/3

ลองไปดูที่กระทู้นี้นะครับ มาอภิปรายกัน
http://forum.serithai.net/index.php?topic=25610.0

.
.
.
.
.

ปล.
ผมไม่ได้มีอคติกับคุณรสนานะครับ
ผมชื่นชมท่านเป็นอย่างยิ่ง
ผมได้ความคิดดี ๆ จากการอ่านหนังสือ
“คือเมฆสีขาว ทางก้าวเก่าแก่ วรรณกรรมพุทธประวัติในทัศนะใหม่”
คุณรสนา และสามีของท่าน (คุณสันติสุข โสภณศิริ)
ช่วยกันแปลออกมาจากหนังสือ
“Old Path White Clouds: Walking in the Footsteps of the Buddha”
ของท่านภิกษุ ติช นัท ฮันห์

โปรดดูบทความเรื่อง
พระพุทธเจ้า: ผู้ประกาศศักยภาพความเป็นมนุษย์
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y6568965/Y6568965.html
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #36 เมื่อ: 02-05-2008, 10:40 »

คุณรสนาบอกคนไทย 70% จน แต่ลาวว่ามี 31% ส่วนเวียดนามว่ามีเพียง 15% --- คุณจะเชื่อใคร

สืบเนื่องจากกระทู้
.
คนจนในไทยมีเพียง 10% - กรุณาอย่าเอามาอ้างหากินบ่อย ๆ
http://forum.serithai.net/index.php?topic=25610.0

ผมเขียนเพราะแม้แต่นักการเมืองรุ่นใหม่
เช่นคุณรสนาก็ยังเข้าใจว่าคนไทยส่วนใหญ่จน
แต่ลาว เขมร พม่า ล้วนบอกตัวเองมีคนจนอยู่เพียง 1/3

ลองไปดูที่กระทู้นี้นะครับ มาอภิปรายกัน
http://forum.serithai.net/index.php?topic=25610.0

.
.
.
.
.

ปล.
ผมไม่ได้มีอคติกับคุณรสนานะครับ
ผมชื่นชมท่านเป็นอย่างยิ่ง
ผมได้ความคิดดี ๆ จากการอ่านหนังสือ
“คือเมฆสีขาว ทางก้าวเก่าแก่ วรรณกรรมพุทธประวัติในทัศนะใหม่”
คุณรสนา และสามีของท่าน (คุณสันติสุข โสภณศิริ)
ช่วยกันแปลออกมาจากหนังสือ
“Old Path White Clouds: Walking in the Footsteps of the Buddha”
ของท่านภิกษุ ติช นัท ฮันห์

โปรดดูบทความเรื่อง
พระพุทธเจ้า: ผู้ประกาศศักยภาพความเป็นมนุษย์
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y6568965/Y6568965.html


คุณอาจจะไม่ได้มีอคติ แค่คุณมีมิจฉาทิฐิมากเกินไปเท่านั้นเอง

เน้นอีกครัง
ขอร้องว่าประโยคห่วยๆ อย่าง "ลาวมีคนจน 31% เวียดนามมีแค่ 15% แต่คุณรสนาว่าไทยมี 70%
คุณจะเชื่อใครครับ"
กรุณาอย่าเอามาพูดอีกนะครับ มันแสดงให้เห็นว่าคุณไม่เข้าใจอะไรเลย
และคุณไม่รับฟังอะไรเลยนอกจากจะเสนอประเด็นของตัวเองเท่านั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-05-2008, 11:00 โดย login not found » บันทึกการเข้า
Neoconservative
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 407


We protect the Kingdom


« ตอบ #37 เมื่อ: 02-05-2008, 10:52 »

ผมว่า มาตรฐานความจน ของ คุณ กะผมไม่เท่ากันไง

ผมว่า ต่ำกว่า 5,000 บาท ถือว่า ไม่พอกิน ได้มั๊ย ไม่ต้องเรียก จน ก็ได้

 
บันทึกการเข้า
mr.uglyman
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12


« ตอบ #38 เมื่อ: 02-05-2008, 12:56 »

หลงเข้ามาเปิดดูแต่ไม่อ่านหรอก...โอ้โห..ยาวปานฉนี้ตาลาย..พิมพ์เองว่าไปอย่าง 
นักวิการกันทั้งน้าน.....เอาที่ไหนมาพูดคนจนมี่แค่ 10 ปอร์เซ๊นต์
แต่ที่แน่ๆแมร่งรวยอยู่คนเดียว...ไอ้ท๊ากสิน
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #39 เมื่อ: 02-05-2008, 13:33 »

คุณรสนาบอกคนไทย 70% จน แต่ลาวว่ามี 31% ส่วนเวียดนามว่ามีเพียง 15% --- คุณจะเชื่อใคร

สืบเนื่องจากกระทู้
.
คนจนในไทยมีเพียง 10% - กรุณาอย่าเอามาอ้างหากินบ่อย ๆ
http://forum.serithai.net/index.php?topic=25610.0

ผมเขียนเพราะแม้แต่นักการเมืองรุ่นใหม่
เช่นคุณรสนาก็ยังเข้าใจว่าคนไทยส่วนใหญ่จน
แต่ลาว เขมร พม่า ล้วนบอกตัวเองมีคนจนอยู่เพียง 1/3

ลองไปดูที่กระทู้นี้นะครับ มาอภิปรายกัน
http://forum.serithai.net/index.php?topic=25610.0

.
.
.
.
.

ปล.
ผมไม่ได้มีอคติกับคุณรสนานะครับ


เหอะ ๆ ก๋วยเตี๋ยว ที่ ลาว เวียด นาม ไทย...ราคาไม่เท่ากันครับ

 

คนทีรายได้ ไม่ถึง 5,000 บาทในเมืองไทย...ยังไม่ใช่ คนจนอีกเหรอ....

ค่าแรง ขั้นต่ำ บ้านเรา ประมาณ 200 บาทต่อวัน....คุณไปดูพวก ที่มีรายได้เท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ

ฐานะแบบนั้นเรียกว่า พอกินพอใช้ ไม่ได้หรอกครับ...เพราะ ผมเห็น ใช้จ่ายกันแบบประหยัด ๆ

ยังชักหน้าไม่ถึงหลังกัน....คิดได้ไงครับ...ถามจริง ๆ .


บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #40 เมื่อ: 02-05-2008, 13:48 »

ผมว่า มาตรฐานความจน ของ คุณ กะผมไม่เท่ากันไง

ผมว่า ต่ำกว่า 5,000 บาท ถือว่า ไม่พอกิน ได้มั๊ย ไม่ต้องเรียก จน ก็ได้

 


5,000 ในกรุงเทพ จน แน่ๆ
แต่ต่างจังหวัดอาจไม่จน

ค่าแรงขั้นต่ำเราแต่ละจังหวัดยังไม่เท่ากันเลย

แล้วเส้นความจนที่สระแก้ว กับ ซานฟรานซิสโก
จะหลับหูหลับตาลากกกกเอาด้วยมาตรฐานเดียวกัน

แล้วใช้ศรัทธาอ้างว่าเป็นสัจธรรม ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้

มันจะอนุบาลไปมั้งครับ


บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #41 เมื่อ: 02-05-2008, 13:55 »

ผมเขียนเพราะแม้แต่นักการเมืองรุ่นใหม่
เช่นคุณรสนาก็ยังเข้าใจว่าคนไทยส่วนใหญ่จน
แต่ลาว เขมร พม่า ล้วนบอกตัวเองมีคนจนอยู่เพียง 1/3

ลองไปดูที่กระทู้นี้นะครับ มาอภิปรายกัน

http://forum.serithai.net/index.php?topic=25610.0

มาอภิปรายอะไรกันล่ะครับ????

ผมโพสซ้ำไป 3 รอบแล้ว เกี่ยวกับการมีคนจน 70%
แต่ไม่เห็นเจ้าของกระทู้ตอบอะไรมาเลย

แบบนี้เท่ากับปกป้องกระทู้ตัวเองไม่ได้ครับ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #42 เมื่อ: 02-05-2008, 14:02 »

5,000 ในกรุงเทพ จน แน่ๆ
แต่ต่างจังหวัดอาจไม่จน

ค่าแรงขั้นต่ำเราแต่ละจังหวัดยังไม่เท่ากันเลย

แล้วเส้นความจนที่สระแก้ว กับ ซานฟรานซิสโก
จะหลับหูหลับตาลากกกกเอาด้วยมาตรฐานเดียวกัน

แล้วใช้ศรัทธาอ้างว่าเป็นสัจธรรม ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้

มันจะอนุบาลไปมั้งครับ

เรื่องที่ว่า 5,000 ในกรุงเทพ จน แน่ๆ แต่ต่างจังหวัดอาจไม่จน

ในอีกทางหนึ่งมันก็สะท้อนระดับความเจริญที่ไม่เท่าเทียมกัน
ของแต่ละพื้นที่ในประเทศไทยนะครับ

แถมในต่างจังหวัดยังมีแบ่งเส้นความยากจนเป็น ในเขตเทศบาล
กับนอกเขตเทศบาลอีกต่างหาก โดยที่กรณีอยู่นอกเขตเทศบาล
มีเงินแค่นิดเดียวก็ไม่จนแล้ว

..ทั้งที่การอยู่นอกเขตเทศบาลหมายถึงระดับความเจริญที่ต่ำกว่า..

กลายเป็นว่าคนไทยไม่จนเพราะไปอยู่ในที่ไม่เจริญกันจำนวนมาก!!!

..เป็นการประเมินที่แปลกประหลาด อยู่ที่ไม่เจริญเลยไม่มีปัญหายากจน..

คงต้องเร่งให้มีที่ไม่เจริญมากๆ หรือไล่คนไปอยู่นอกเขตเทศบาลให้หมด 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
เพื่อนร่วมชาติ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 777


« ตอบ #43 เมื่อ: 02-05-2008, 14:46 »

ขีดความอดทนของผมเทียบกับคุณ jerasak ไม่ได้จริง ๆ

นับถือ นับถือ 
บันทึกการเข้า
1ktip
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,457



« ตอบ #44 เมื่อ: 02-05-2008, 16:41 »

ประเด็นง่ายๆ ที่เจ้าของงานวิจัยไม่เข้าใจคือ มุมมองและบรรทัดฐานคนจนของคุณกับคุณรสนามันต่างกัน ก็แค่นั้น

ทำไมต้องตะแบงยึดถือแต่ตัวเลขผลงานวิจัย ในเมื่อถ้าถกกันในแง่ข้อเท็จจริงแล้ว

คนที่คุณบอกว่าไม่จน ยังต้องปากกัดตีนถีบ อดมื้อกินมื้อ มีคุณภาพชีวิตย่ำแย่



ปล. นับถือคุณจีรศักดิ์จริงๆ อึดยิ่งกว่าจีจ้า ทนตอบกระทู้แบบนี้ได้อยู่เรื่อยๆ
บันทึกการเข้า
pornchokchai
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 53


« ตอบ #45 เมื่อ: 02-05-2008, 21:08 »

กทม วันละ 2,000 บาท/หัว ถือว่าจน

แท็กซี่ คนหนึ่งรายได้วันละ 300 บาท เดือนละ 8,000 บาท มีวันหยุดด้วย
ถ้ามีลูก 2 เมีย 1 ต้องเลี้ยง เขาก็ไม่ถือว่าจน
แต่มีเมียสักกี่ครอบครัวที่งอมืองอเท้า ส่วนมากก็ทำงานทั้งนั้น
อย่างนี้เขาไม่จนครับ

Messenger รายได้เดือนละเป็นหมื่น
อย่างนี้ไม่จน

แม่บ้านรายได้เดือนละ 7,500 บาท
สองคนสามีภรรยา ถ้ามีลูก 2 ก็ไม่จน
เพียงแต่ไม่ได้รวย

สาวฉันทนา วันละ 180 บาท
รวม OT ได้เดือนละเกือบหมื่น นี่แบบทั่ว ๆ ไปนะครับ
ถ้ามีฝีมือหน่อย ได้มากกว่านี้

ยามคนหนึ่งได้ 7,500 บาท
ทำกะครึ่งได้เกือบหมืนต่อเดือน
ภรรยารับงานซักรีด อย่างนี้ไม่จน
แต่แน่นอนไม่ได้เป็นคนรวย

เด็กเก็บลูกกอล์ฟ
เดือนละ 6,000 บาท มี tip เหลือมากมาย
ถ้าอยู่คนเดียว ไม่จน เช่าหอรวมกับเพื่อน 2-4 คน
อยู่สบาย ๆ

คนจนจริง ๆ ในกรุงเทพมหานครน่ะ
หายากครับ

คนไหนจนบ้างครับ
(คงมีครับ แต่คงน้อย เพราะแค่ 10% ครับ)
บันทึกการเข้า
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #46 เมื่อ: 02-05-2008, 21:54 »

 








อยุ่ได้มีข้าวกิน แต่เป็นปัญหาสังคม

อยู่ในพื้นที่อาศัยโดยการรุกล้ำที่สาธารณะ  อยู่อาศัยในชุมชนแออัด ไม่มีที่อยู่เป็นของตัวเอง

อย่างรูปที่สอง ที่ นายกทักษิณบอกว่า  งานส่วนแอร์พอร์ตลิ้งไม่เดินเพราะติดสลัมนั่นเอง
บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #47 เมื่อ: 02-05-2008, 22:19 »

 
อยู่ กทม. มีรายได้เกิน 2000 ไม่ถือว่าจน

กินข้าวแกงจานละ 20 อย่างเดียวก็ 1800 เข้าไปแล้ว
นอนใต้สะพานลอยละกัน (ก็เค้าบอกว่าไม่จนๆๆ)

เชิญเชื่อความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้นี่ไปคนเดียวก็แล้วกัน

พูดไปพูดมาก็ยังอยู่ในกะลาเหมือนเดิม

บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
pornchokchai
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 53


« ตอบ #48 เมื่อ: 03-05-2008, 02:45 »

อันนี้ผมไม่ได้มาเชียร์คุณทักษิณนะครับ บทความของผมก็ไม่ได้เข้าข้างใคร
แต่เอามาให้คนที่นี่ดู เพราะรู้สึกที่นี่ไม่ชอบคุณทักษิณ



จากพันทิพย์
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6568994/P6568994.html

ส่วนท่านใดสนใจเรื่องชุมชนแออัด
เชิญดูได้ที่นี่ครับ
การพัฒนาชุมชนแออัดที่ผิดทาง (มาโดยตลอด)
http://www.thaiappraisal.org/Thai/Market/Market170.htm
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #49 เมื่อ: 03-05-2008, 07:54 »

คุณนี่ บอกไม่เชียร์ คุณทักษิณ.....แต่ วิธีการอธิบาย เหมือนทักษิณ เป๊ะเชียว

พูด ความจริง ครึ่งเดียว.....

คุณพูดเรื่องรายได้...แต่ ไม่เห็นพูดถึงเรื่องหนี้ ....

รายได้เพิ่ม แต่ หนี้ เพิ่มมากกว่า ..คุณว่า ฐานะดีขึ้นมั๊ยล่ะ

ส่วนเรื่อง NPL เรื่อง หนี้ ต่างประเทศ ...คุณ ไปเอาตัวเลขตั้งแต่ ปี 40 มาอวดดิ...แล้วค่อยโม้  55555

เป็นรัฐบาลมา 5  ปี ได้แค่นั้น ทำมาคุย .......นี่ผม ไม่ได้จบ ดอกเตอร์ น๊ะเนี่ย



http://forum.serithai.net/index.php?topic=10000.0

ค่อย ๆ อ่านไปก็แล้วกันครับ.....

บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
    กระโดดไป: