http://manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9510000049696ผู้ถือหุ้น อสมท ดับเครื่องชน ปธ.บอร์ด ล้างคราบ 5 นอมินี "เจ๊เพ็ญ"
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 เมษายน 2551 18:58 น.
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อย อสมท บุกจี้ต่องสำนึก ปธ.บอร์ด กำลังพาองค์กรในตลาดหุ้น กลับเข้าสู่แดนสนธยา ลั่นคัดค้าน 5 รายชื่อเด็กนักการเมืองขาโจ๋ หากดื้อแพ่งไม่ผ่านมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดนฟ้องศาลปกครองแน่ ชี้สายสัมพันธ์ "ธงทอง" โยงใย "เจ๊เพ็ญ" แนบแน่น เพราะเป็นบิดาเลขาฯ หน้าห้อง
วันนี้(28 เม.ย.) นายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ ผู้ถือหุ้นรายย่อย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT เปิดเผยว่าวันนี้ ตนเองได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายวิทยาธร ท่อแก้ว โฆษกคณะกรรมการ (บอร์ด) อสมท ที่อาคารสำนักงานใหญ่ ซ.ทวีมิตร ถ.พระราม 9 กทม. เพื่อให้เลื่อนการเสนอชื่อเพิ่มเติมว่าที่ 5 บอร์ด อสมท ออกไปก่อนเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งจากเดิมจะพิจารณาในวันพุธที่ 30 เม.ย.นี้
ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเสนอรายชื่อบุคคลอื่นๆ เข้าร่วมเป็นบอร์ดด้วย ไม่ใช่มีแต่รายชื่อจากฝ่ายการเมืองอย่างเดียว แต่หากยังพิจารณาแต่งตั้งบอร์ด กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยส่วนหนึ่งจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองทันที
"การแต่งตั้งบอร์ดไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล หรือกระทรวงการคลังที่ถือหุ้นใหญ่แล้วจะตั้งใครเป็นบอร์ดก็ได้ เนื่องจาก อสมท เป็นสื่อสารมวลชน และจดทะเบียนในตลาดหุ้น ต้องได้คนที่โปร่งใสมีความรู้ความสามารถ รับผิดชอบทั้งผู้ถือหุ้นรายใหญ่-รายย่อย และได้รับการยอมรับจากพนักงาน เพราะพนักงาน อสมท เองก็ไม่สบายใจที่ฝ่ายการเมืองเข้ามาล้วงลูก" นายพิเชียรกล่าว และเพิ่มเติมว่า
"ผมแน่ใจว่าบอร์ดไม่มีอำนาจอนุมัติรายชื่อ 5 บอร์ดใหม่ได้เอง เพราะถ้าเป็นอำนาจบอร์ดทำไมต้องเสนอชื่อขอความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อน และที่ผ่านมาการอนุมัติบอร์ด อสมท ตั้งแต่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น ก็ทำผ่านที่ประชุมผู้ถือหุ้นทุกครั้ง ถ้ายังดึงดันเสนอบอร์ดอนุมัติเอง ก็ต้องนำเรื่องไปฟ้องศาลปกครองต่อไป" พิเชียรย้ำ
โดยข้อมูลเบื้องต้นพบว่า รายชื่อของทั้ง 5 คน ที่ถูกเสนอเข้ามา กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยเชื่อว่า น่าจะเป็นใบสั่งทางการเมือง อาทิ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เป็นบิดาของเลขาฯนายจักรภพ หรือนายปราโมทย์ นักธุรกิจ แต่ไม่มีประวัติว่ามีประสบการณ์ในด้านการสื่อสารมวลชน หรือคุณสมบัติอื่นใดที่จะช่วยสนับสนุนงานของ อสมท แต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้ ผู้ถือหุ้นรายย่อยต้องขอใช้สิทธิตรวจสอบเพื่อขัดขวางกระแสการเมือง เพราะมีการกดดันเอาคนเข้าไปนั่งเป็นบอร์ดใน อสมท อย่างไม่คาดฝัน
สำหรับ 5 รายชื่อว่าที่บอร์ด อสมท ประกอบด้วย นายธงทอง จันทรางศุ , นายนฤนารถ พระปัญญา , นายปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย , นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ และนายประสาน หวังรัตนปราณี ซึ่งเป็นรายชื่อที่นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอเข้ามา
นายพิเชียร กล่าวว่า ผู้ถือหุ้นรายย่อยกลุ่มหนึ่งจะประชุมร่วมกันในวันที่ 7 พ.ค. เพื่อนำเสนอให้บอร์ด อสมท ชุดใหม่ และจะเร่งรัดดำเนินการ 2 เรื่องหลัก คือ กรณีการสอบสวนคดีบริษัทไร่ส้มฯ และการจัดซื้อที่ดินย่าน ถ.รัชดาภิเษก จำนวน 50 ไร่ สมัยนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้อำนวยการ อสมท ว่าโปร่งใสหรือไม่
ผู้ถือหุ้นรายย่อย ยังระบุว่า การกำกับดูแล อสมท.ของนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีการดำเนินการไม่ถูกต้องหลายประการ และสร้างความเสียหายให้แก่องค์กรเป็นอย่างมาก เริ่มตั้งแต่เรื่องการส่งสัญญาณปลดนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ผอ.อสมท.ด้วยการกล่าวคำพูดจูงใจให้บอร์ด อสมท.มีความเข้าใจผิด และเป็นการใช้อำนาจเข้าไปแทรกแซงสื่อโดยตรง
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการเปิดเผยข้อมูลลับขององค์กรที่เกี่ยวกับผลประกอบการ โดยการนำความลับขององค์กรมาเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือว่าเป็นการทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศ และผู้ถือหุ้นรายย่อย จนทำให้หุ้น อสมท.ตกลงไป 1.50 สต. หรือจาก 29.50 สต. เป็น 28 บาท สร้างความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ตามมาในวันถัดไป
ดังนั้น นายจักรภพ ในฐานะกำกับดูแลสื่อรัฐต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ที่สำคัญการปลด ผอ.อสมท.หรือไม่ เป็นหน้าที่ของบอร์ด ไม่ใช่หน้าที่ หรืออำนาจของนายจักรภพ ซึ่งการแสดงท่า และคำพูดออกมาแบบนี้ ถือเป็นแทรกแซงการทำงานสื่อรัฐ ซึ่งกำลังต้องการให้องค์กรแห่งนี้ กลับไปสู่ภาวะแดนสนธยา ที่มีนักการเมืองคร
---------------------------------------------------------------------
ขอสนับสนุนให้ ต่อสู้กับ พวกคางคกขึ้นวอ ที่เข้ามาเพื่อใช้หน้าที่ แสวงหาอำนาจ กอบโกยผลประโยชน์ให้กับพรรคพวก ญาติพี่น้อง
คืนยศร้อยตรีให้ลูกตัว (น่าสมเพชมาก) ตอนนี้ใช้อำนาจ รังแก ฝ่ายตรงข้าม พรรคปล้นชาติ เต็มไปด้วยคนประเภทนี้
แสดงชัดเจนว่า แม้ว ไม่เคยหยุด สนับสนุน คนพวกนี้ ส่งเสริมให้ ทำลายประเทศ โดยอ้างเสมอว่า เข้ามาตามระบอบ ปชต
แต่พฤติกรรม แสดงให้เห็นถึงความใช้อำนาจเผด็จการ ในทุกตำแหน่งหน้าที่ ถืออำนาจบาตรใหญ่ และ ไม่เห็นหัว ปชช แม้แต่น้อย
นับวัน ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็น เจตนา ของพรรคปล้นชาติ และพรรคร่วม รบ ก็สนับสนุน ให้จัดตั้ง รบ ได้ ทั้งที่ ตอนหาเสียง
บอกจะไม่ร่วมมือกับ พรรคปล้นชาติ แต่เมื่อมีผลประโยชน์แลกเปลี่ยน ก็กลายเป็นพวก พรรคปล้นชาติ
ทำให้บ้านเมืองต้องถึงภาวะวิกฤตอีกครั้งหนึ่ง
นักเลือกตั้งไม่เคยเลยที่จะทำเพื่อชาติ ยอมร่วมมือ กับ แม้ว ได้ ทั้ง ๆ ที่เคยอาศัยเวทีพันธมิตร ด่า แม้ว
ขอให้ทุกคนลุกขึ้นมาต่อสู้กับพวกคางคกขึ้นวอ หากมัวแต่กลัว คางคก อึ่งอ่าง จะได้ใจ เอาแบบ คางคก
บ้านเมืองคงมีแต่ คางคก อึ่งอ้าง กับพวกตัวเหรี้ย เพ่นพ่านเต็มเมือง
ต้องช่วยกันจัดการ กำจัด สัตว์ เหล่านี้ เพราะมันเยอะมาก และเริ่มพองตัวโอหัง คับบ้านคับเมืองแล้ว