ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-04-2024, 16:19
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ถามหา'ศักดิ์ศรีกองทัพ' อย่าปล่อย'การเมือง'บีบ สะกิดหน่วยความมั่นคง จงดูการท้าทาย 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ถามหา'ศักดิ์ศรีกองทัพ' อย่าปล่อย'การเมือง'บีบ สะกิดหน่วยความมั่นคง จงดูการท้าทาย  (อ่าน 1124 ครั้ง)
oho
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 712


« เมื่อ: 28-04-2008, 16:20 »

ถามหา'ศักดิ์ศรีกองทัพ' อย่าปล่อย'การเมือง'บีบ สะกิดหน่วยความมั่นคง จงดูการท้าทาย'เจ้านาย'     
Wednesday, 23 April 2008 


ถามหาศักดิ์ศรีกองทัพ ทำไมให้เกียรติกันแค่ “ลูก-หลาน” ของนักการเมืองถึงได้รับอภิสิทธิ์แบบรวบรัดตัดตอน รับ “ดวง” กลับเข้ารับราชการพร้อมคืนยศ ทำไมลูกชาวบ้านธรรมดาที่เผชิญเคสเดียวกัน ถึงไม่ได้รับสิทธิพิเศษนี้บ้าง



อีกทั้งไม่เป็นประเด็นการเมือง แต่เป็นคดีอาญาที่มีการกล่าวหาว่ายิงกัน “เอกยุทธ” สะกิดเตือนหน่วยความมั่นคง ดูสัญญาณที่ไม่ธรรมดาของผู้มีอำนาจ หลังเผยแพร่สารคดีกษัตริย์เนปาลล่มสลาย แถมเพื่อนซี้แม้ว “เหยียนปิน” ยังมีรถนำขบวน หวังตีตนเสมอ “เจ้านาย”

นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ประธานบริหารเครือโอเรียนเต็ล มาร์ท กรุ๊ป ประเทศอังกฤษ กล่าวถึงกรณี “นายดวง อยู่บำรุง” ลูกชายร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ได้รับคืนยศและกลับมารับราชการทหารอีกครั้งว่า เป็นเรื่องน่าสนใจมาก แม้สังคมจะยินดีให้อภัยคนที่เคยพลาดพลั้ง ได้มีโอกาสกลับมา แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ คือคนระดับ “มท.1” ออกมาบอกหน้าตาเฉยว่า “ไม่รู้เรื่องที่ลูกชายได้รับยศคืน” ทั้งที่ตามหลักความเป็นจริงนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่ร.ต.อ.เฉลิมจะไม่รู้เรื่องนี้ แต่การให้สัมภาษณ์พยายามทำให้ดูเหมือนว่า ไม่ใช่เรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการบอกว่า ยศร้อยตรีแค่ยศเด็กๆ ไม่สำคัญอะไร แต่สิ่งที่คลางแคลงใจกับสังคมคือ เมื่อพ่อเป็นมท.1 ปุ๊บ-ลูกชายก็ได้รับโอกาสให้กลับมารับราชการอีกครั้งทันที อย่างนี้มันเป็นธรรมหรือ เพราะลูกชาวบ้านธรรมดายังมีอีกมาก ที่ประสบปัญหาเดียวกับนายดวง ทำไมรัฐบาลไม่ช่วยเหลือให้กลับมารับราชการบ้าง

"ร.ต.อ.เฉลิมที่แสดงความจงเกลียดจงชังทหารมาตลอด เพราะยุครสช.เคยทำให้เจ้าตัวต้องหนีไปต่างประเทศมาแล้ว แต่วันนี้มาบอกว่า ไม่รู้เรื่องที่ลูกได้รับยศคืน ทั้งที่ตัวเองมีอำนาจได้เป็นถึงเป็นมท.1 และทันทีทันควัน ลูกก็ได้กลับมารับราชการอีกครั้ง อย่างนี้มันเป็นธรรมหรือ เพราะเชื่อว่ามีคนอีกจำนวนมากที่ก็เข้าข่ายกรณีเดียวกับ “ดวง” โดยส่วนตัวผมไม่ติดใจเรื่องนี้ แต่การที่กองทัพรับคนที่ถูกถอดยศไปกลับเข้ามา เบื้องต้นก็เพื่อเป็นเกียรติแก่คนๆ นั้น ซึ่งในอดีตก็เคยมีกรณีของพล.ต.มนูญกฤต รูปขจร หรือกรณีของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ล้วนแต่เป็นเรื่องการเมือง แต่เคสของนายดวง ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องของการยิงกัน เป็น ค ดี อ า ญ า        และเวลานี้ก็ยังไม่รู้ว่า สาเหตุการตายที่แท้จริงของ "ดาบยิ้ม" เกิดจากใคร ซึ่งทำให้สังคมตั้งคำถามได้ว่า ทำไมเฉพาะลูก-หลานนักการเมืองเท่านั้นหรือ ถึงได้รับโอกาสพิเศษเช่นนี้ ที่น่าสนใจคือ ทำไมทำกันแบบรวบรัด โดยที่ระดับผู้บังคับบัญชาในกองทัพไม่รู้เรื่องเลย ยกเว้นแค่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.กลาโหมเท่านั้น จึงอยากถามว่า ศักดิ์ศรีของทหารอยู่ที่ไหนกันหมด โดยเฉพาะกับคนระดับผู้นำกองทัพ”นายเอกยุทธกล่าว

นายเอกยุทธ กล่าวต่อว่า ในอดีตมีการกล่าวกันว่า ทหารรักยศ-อดยัก เว้นแต่ทหารพาณิชย์เท่านั้นที่ชอบยัก จึงเป็นประเด็นที่น่าขบคิดว่า ทหารเดี๋ยวนี้ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ทำไมถึงยอมให้นักการเมืองเข้ามาทำอะไรได้โดยไม่มีการหารือ ขณะนี้ถูกตำรวจบีบ-ถูกนักการเมืองบีบ ก็ยอมกันได้เช่นนี้หรือ เดี๋ยวนี้เราจะเห็นทหารระดับ “พล.อ.” ยังต้องไปเดินตามนักการเมือง ซึ่งไร้ศักดิ์ศรีเอามากๆ

“คนทั่วไปกว่าจะได้รับโอกาสเหมือนนายดวง ก็ต้องผ่านโอกาสจากสังคมก่อน และต้องมีขั้นตอนต่างๆ มากมาย แต่นี่เล่นทำกันแบบรวบรัดตัดตอน โดยไม่คำนึงถึงจิตใจและความรู้สึกของคนในสังคมกันบ้างเลย แทนที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศจะเร่งรัดแก้ปัญหาภาคใต้ หรือแก้ปัญหาปากท้องของชาวบ้าน แต่ทุกวันนี้กลับเห็นแต่การพูดถึงการแก้รัฐธรรมนูญ และการโยกย้ายข้าราชการเพื่อแก้แค้นกัน และที่สำคัญคือ มีสื่อของรัฐคือโทรทัศน์ NBT เอาเรื่องการล่มสลายของสถาบันกษัตริย์เนปาลมานำเสนออย่างต่อเนื่องและตอกย้ำ เหมือนเป็นการชี้นำ หรือต้องการขู่อะไรบางอย่างหรือไม่ การกระทำของรัฐบาลนี้เหมือนมีการให้ท้าย และตีตนเสมอ “เจ้านาย” แม้กระทั่งเพื่อนของทักษิณ (นายเหยียน ปิน) มาเมืองไทย ยังได้รถตำรวจนำขบวน ทั้งที่ไม่ใช่เป็นแขกบ้านแขกเมือง รวมไปถึงการไปเดินสายทำบุญสะเดาะเคราะห์ของพ.ต.ท.ทักษิณในถิ่นอีสาน แต่มีการปิดถนนกันเพื่อ "เลียนแบบ" โดยไม่สนใจว่า ประชาชนจะเดือดร้อนหรือไม่ ถือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ที่หมิ่นเหม่ต่อความมั่นคง ก็เข้าข่ายมีความผิดแล้ว แต่ไม่เห็นข้าราชการรัฐที่มีหน้าที่กล้าดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังเลย โดยผู้มีอำนาจในปัจจุบันยิ่งไม่สนใจเรื่องนี้เลย มีแต่ยกยอพ.ต.ท.ทักษิณและพวกพ้อง จึงอยากให้หน่วยความมั่นคงเข้ามาดูกันให้ดีๆ”นายเอกยุทธกล่าว






ย้อนตำนานให้‘สิทธิพิเศษ’ คืนยศ-เพิ่มยศทหารเป็นกรณีพิเศษ

1.กรณีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี (ปัจจุบัน)

เป็นนายทหารคนสนิทของ พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก ที่เป็นผู้นำรัฐประหาร 26 มีนาคม 2520 แต่พ่ายแพ้ เพราะถูก "กลุ่มทหารยังเติร์ก" ที่มีพ.ท.มนูญ รูปขจร (ยศขณะนั้นของพล.ต.มนูญกฤต รูปขจร) ซึ่งเป็น ผบ.ม.พัน 4 รอ. นำกำลังต่อต้านสำเร็จ ทำให้การ พล.อ.ฉลาด ต้องพ่ายแพ้กลายเป็น "กบฏ" และถูกประหารชีวิต

ขณะที่พ.ท.สนั่น (ยศสมัยนั้น) ถูกหลอกจับ บนเครื่องบินและถูกมาตรา 21 สั่งจำคุก และให้ออกจากราชการ ก่อนได้รับการ "นิรโทษกรรม" กลับเข้ามารับราชการเหมือนเดิม ในอีก 8 เดือนต่อมา

ภายหลังเมื่อพ.ท.สนั่น ได้เข้าทำงานการเมือง และดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศเป็น "พลตรี"


2.กรณีพล.ต.มนูญกฤต รูปขจร อดีตประธานวุฒิสภา (ปัจจุบัน ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์)

ก่อการรัฐประหารในสมัยรัฐบาลพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เมื่อ 9 กันยายน 2528 สมัยมียศเป็น พ.อ. โดยร่วมกับน้องชายน.ท.มนัส รูปขจร โดยใช้รถถัง 22 คัน จาก ม.พัน 4 รอ. พร้อมด้วยกำลังทหารกว่า 400 นาย เคลื่อนกำลังเพื่อยึดอำนาจรัฐบาลพล.อ.เปรม ที่เดินทางไปราชการที่อินโดนีเซีย

สุดท้าย "พ่ายแพ้" แบบหมดรูป จนต้องถูกถอดยศ พ.อ. มาเป็น "นาย" เมื่อ 13 กันยายน 2528 ก่อนจะหนีออกนอกประเทศ และกลับเข้าประเทศอีกครั้งในปี 2531 เพื่อต่อสู้คดี "ลอบสังหาร" โดยมี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่เริ่มประสบความสำเร็จทางการเมือง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ช่วยเหลือ จนทำให้พ.อ.มนูญ ได้รับการ "คืนยศ" ทางทหาร

และเลื่อนขึ้นจาก "พ.อ." ให้เป็น "พล.ต." ในตำแหน่งประจำฝ่ายเสนาธิการกระทรวงกลาโหม สมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยความช่วยเหลือของ "ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ" ลูกชาย พล.อ.ชาติชาย ที่รู้จักกับพล.ต.มนูญกฤต สมัยเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ปี 2523 รวมถึงพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่ช่วยพูดกับพล.อ.เปรม เพื่อให้อภัยแก่พล.ต.มนูญกฤต


3.กรณีจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี (ปัจจุบันเสียชีวิต)

อดีตเคยรับราชการทหารอยู่ในกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร.31 รอ.) ทำให้ได้รับเกียรติจาก "ชวน หลีกภัย" นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขณะนั้น เสนอแต่งตั้งเป็น "นายทหารพิเศษ" ประจำ ร.31 รอ. เมื่อปี 2542

ท่ามกลางความไม่พอใจจาก "องค์กรประชาชน" ที่เห็นว่าเป็นการทำร้ายความรู้สึกของประชาชน เพราะจอมพลถนอมคือชนวนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519

จนเกิดกระแสเรียกร้องให้ "ชวน" กล่าวคำ "ขอโทษ" ต่อประชาชน และยกเลิกการแต่งตั้งดังกล่าว

แต่นายชวนยืนยัน เดินหน้าจนประสบผลสำเร็จ อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวกระแสสังคมต่อต้านหนักเป็นเหตุให้จอมพลถนอม แสดงสปิริต "ขอลาออก" จากตำแหน่งดังกล่าวในที่สุด


4.กรณีพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี (ปัจจุบันเสียชีวิต)

ถือเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับการเสนอสิทธิพิเศษทางทหารให้ เนื่องจากสมัยที่พล.อ.ชาติชาย เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น มียศตำแหน่งทางทหารเป็นแค่ "พล.ต."

เมื่อเข้ามารับตำแหน่งนายกฯ ในวันที่ 4 สิงหาคม 2531 จึงมีการเสนอยศ "พล.อ." ให้กับพล.ต.ชาติชาย เพื่อเป็นเกียรติแก่บุคคลที่เป็น "ผู้นำประเทศ" เมื่อ 27 ตุลาคม 2531


5.กรณีพล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายกระทรวง

หลังจากจบโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รับราชการเป็นนายทหารปืนใหญ่ กองทัพบก จ.ลพบุรี ยศสูงสุดในการรับราชการคือ "พล.ต." ต่อมาเมื่อลงมาเล่นการเมือง และ พล.อ.ชาติชาย ได้เป็นนายกฯ พล.ต.ประมาณก็ได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศเป็น "พล.ต.อ." เมื่อ 27 ตุลาคม พ.ศ.2531 ขณะดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย

6.กรณีพล.ต.ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี (ปัจจุบันเสียชีวิต)

เมื่อปี พ.ศ.2531 ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนยศจาก "สิบตรี" เป็น "พลตรี" (ทหารราชองครักษ์พิเศษ)

7.กรณีพล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี

เมื่อ ปี 2503 ได้ลาออกจากราชการทหารอากาศขณะมียศเป็น นาวาอากาศตรี เพื่อไปทำงานที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (ขณะนั้นเป็นการไฟฟ้ายันฮี) ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เมื่อปี 2528 แล้วจึงลาออกเมื่อปี 2530 เมื่อได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นองคมนตรี และได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ "พลอากาศตรี"

ล่าสุด เมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ "พลอากาศเอก" เป็นกรณีพิเศษ
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2008, 16:23 โดย oho » บันทึกการเข้า
oho
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 712


« ตอบ #1 เมื่อ: 28-04-2008, 16:33 »

บิ๊กทร.ตำหนิพันธมิตร ปชต.ตัดสินในสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินข้างถนน 'ขำกลิ้ง'เห็นข่าวปฏิวัติ      
Monday, 28 April 2008  

“ผบ.ทร.” ออกโรง “สยบ” พันธมิตรฯ ระบอบปชต.การตัดสินอยู่ที่รัฐสภาหรือศาล ไม่ใช่มาตัดสินกันข้างถนน การใช้ม็อบหรือคนกลุ่มน้อยเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เผยทหารเห็นข่าวปฏิวัติก็หัวเราะกันทุกคน



วอนทุกฝ่ายอย่าไปแตะ “ป๋าเปรม” ชี้สังคมไทยจะตกต่ำเพราะไม่เคารพผู้ใหญ่ ปัดไม่ได้ตามข่าวที่ “บิ๊กจิ๋ว” ปูด

วันที่ 28 เม.ย. 2551 พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงกรณีกลุ่มต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก่อความวุ่นวายในการประชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันศุกร์ที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า  เป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆ ขณะที่คนไทยมีกว่า 60 ล้านคน ตนอ่านหนังสือพิมพ์บางฉบับลงบทความไว้ดีว่า จะให้คนกลุ่มเล็กๆ มาตัดสินเรื่องของบ้านเมืองคงไม่ถูก เมื่อเป็นประชาธิปไตย ก็ต้องเคารพกฎกติกา

"เลือกตั้งมาเรียบร้อย ถูกต้องตามระบบ  ต้องให้คนที่เขาได้รับการเลือกตั้งบริหารบ้านเมืองไป ใครไม่เห็นด้วย มีสิทธิพูดได้ แต่ก็ต้องต่อสู้กันในสภาฯ และต้องระมัดระวังอย่าให้บานปลาย การจะพูดอะไรแล้วบอกว่าประชาชน ไม่ได้หมายความถึงประชาชนทั้งประเทศ เป็นเพียงประชาชนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น เมื่อเป็นระบอบประชาธิปไตย การตัดสินอยู่ที่รัฐสภาหรือศาล ก็ควรให้เป็นไปตามนั้น ไม่ใช่มาตัดสินกันข้างถนน คงไม่ถูกต้อง ใครที่เห็นว่าไม่ถูกใจ ก็ต้องดำเนินการตามกรรมวิธีที่ถูกต้อง การใช้ม็อบหรือคนกลุ่มน้อย เป็นเรื่องที่ไม่ถูก”ผู้บัญชาการทหารเรือกล่าว

ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงความพยายามเชื่อมโยงเรื่องทหารและการปฏิวัติว่า ทหารเห็นข่าวปฏิวัติแล้วก็หัวเราะกันทุกคน ขอยืนยันว่าไม่คิดเรื่องนี้ เพราะภาระหน้าที่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะกองทัพเรือและกองทัพบก มีภาระหนักมากอยู่แล้ว คือการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งยังมีปัญหาตามแนวชายแดนด้านอื่นๆ อีก

พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ กล่าวต่อถึงการโจมตีพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ  ว่า เป็นเรื่องไร้สาระ ไม่ควรทำ พล.อ.เปรม อยู่เฉยๆ ไม่ได้ไปยุ่งกับใคร อย่าไปแตะต้องจะดีกว่า ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าวัฒนธรรมไทย สังคมไทยตกต่ำลงไปหรือไม่ที่ไม่ให้ความเคารพผู้ใหญ่นั้น ตนเห็นคนที่ทำ เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ จะไปโทษสังคมไทยทั้งหมดคงไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามกรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีขบวนการต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ไปใช้ระบบสาธารณรัฐ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ได้ติดตามข่าวดังกล่าว ให้ความเห็นไม่ได้






พันธมิตรฯประกาศชุมนุมนับแสนต้านแก้รธน.-อัดตร.เมินจัดการม็อบถ่***

ด้านนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า แนวทางการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯหลังจากเกิดเหตุความรุนแรงที่สนามหลวง เราขอยืนยันว่าพันธมิตรฯจะนัดชุมนุมทันทีที่พรรคพลังประชาชน ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภา เพราะถือว่าเป็นการดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของพรรคพวกตัวเอง ไม่ฟังความเห็นของประชาชน ไม่มีการประชามติ โดยพันธมิตรฯอาจจะนัดชุมนุมในสถานที่แห่งหนึ่ง แล้วรอให้ประชาชนทยอยมาร่วมชุมนุม ซึ่งแค่ในกทม.ก็มีจำนวนหลายแสนคนแล้ว  

"หากพรรคพลังประชาชนจะจัดม็อบมาชน ก็ทำไป ถือว่าเป็นธรรมชาติของการต่อสู้ เราจะไปห้ามก็ไม่ได้ เป็นหน้าที่ของเจ้าตำรวจที่ต้องควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบ"นายสนธิกล่าวและว่าการชุมนุมครั้งล่าสุดที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่มีปัญหานั้น เพราะตำรวจประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไป จึงไม่ได้วางมาตรการที่เข้มข้นมากพอ เราจะให้โอกาสอีกครั้งหนึ่งให้ตำรวจอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย ให้จัดการอย่างเด็ดขาดกับกลุ่มที่มาปั่นป่วน พยายามสร้างความรุนแรง ถ้าเป็นการชุมนุมที่ต่างประเทศ ถ้ามีกลุ่มหนึ่งชุมนุมโดยสงบ สันติวิธี แต่อีกกลุ่มก้าวร้าว ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดื่มเหล้า ควักของลับออกมา ตำรวจเขาต้องปราบพวกนี้ทันที เพราะถือว่าจงใจสร้างความไม่สงบ และหากมีความรุนแรงเกิดขึ้น ฝ่ายที่เริ่มใช้ความรุนแรงจะต้องรับผิดชอบ  

"พันธมิตรฯทั้ง 5 คนเห็นตรงกันว่าเราจะต้องเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตัวเองต่อไป ไม่มีถอย แม้จะมีการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรงก็ปล่อยให้เขาทำ แต่เราจะต้องดูแลป้องกันคนของเราไม่ให้ไปยุ่ง และที่ผ่านมาพันธมิตรฯก็ไม่เคยทำร้ายใครก่อน ถ้าเขาข่มขู่มาแล้วเราถอยหรือเราหยุด เราก็ไม่ควรจะออกมาสู้ตั้งแต่แรก"นายสนธิกล่าว



************************************************

อ้างถึง
กระดานความคิดเห็น เพิ่มความคิดเห็นใหม่ ค้นหาความคิดเห็น
 

คนกลาง - ประชาธิปไตยครึ่งใบ IP:203.185.152.152 | 28-04-2008 13:50:54
 
ถ้าหากว่าในสภาทำงานไม่ได้ เป็นเผด็จการรัฐสภาอย่างที่ผ่านมาสมัยนายกทักษิณ ประชาชนจะทำอย่างไร หรือปล่อยให้นักเลือกตั้งเป็นผู้กำหนดประเทศไปในทิศทางใดก็ได้อย่างนั้นหรือ การแสดงออกทางความคิดเป็นแนวทางประชาธิปไตยแล้ว รัฐต้องรับฟัง แต่นี่ไม่รับฟัง หมายความว่าอย่างไร ตอบด้วย ตัวเองไม่ได้เป็นกลุ่มใด แต่เฝ้าดูทุกกลุ่ม และไม่เห็นด้วยหากจะแก้รัฐธรรมนูญ โดยไม่ถามประชาชน เพราะตัวเองก็ไปเลือกรัฐธรรมนูญ 50 มาเหมือนกันและได้เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียของรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับแล้ว คิดว่าดีกว่าปี 40 เพราะพัฒนาปี 40 นั่นแหละ แต่ให้สิทธิประชาชนมากขึ้นในฐานะเจ้าของอำนาจที่แท้จริง และดัดสันดานนักเลือกตั้งขี้โกง เผื่อจะได้นักการเมืองดี ๆ เข้าสภาทำงานเพื่อประชาชน โดยแท้ แต่ที่ผ่านมาทำเพื่อตนเองกันทั้งนั้น รัฐธรรมนูญ 50 ก็มีส่วนบกพร่องอยู่ ค่อย ๆ แก้ไป ไม่ใช้ตอนนี้ ชาวบ้านยากจนค่นแค้น ข้าวของแพง เพราะการบริหารงานของรัฐนั่นแหละ ชาวรากหญ้าน่ะ เขาบริสุทธิ์ ลากไปทางใหนก็ไปทางนั้น เพราะเขาไม่รู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง ตัวเองจบ ป.โท คิดว่าสามารถแยกแยะข่าวสารได้ รู้ว่าอะไรใช่อะไรไม่ใช่ รัฐบาลหลอกประชาชนมมตลอด ไม่เคยพูดความจริง หรือพูดไม่หมด หมกเม็ด ถ้าจะตามรัฐบาลให้ทันต้องค้นคว้าหาข้อมูลหลายๆ ทาง ปิดกั้นสื่อ มาตลอด ซื้อเสียง แล้วจะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร
 
 
ผู้น้อย IP:203.185.68.131 | 28-04-2008 13:58:00
 
หึ หึ ถ้ามี ปว.อีกครั้ง ท่านเลือกข้างให้ดีแล้วกัน ไม่ใช่ตามแห่เหมือนคราวที่แล้ว มันไม่สง่างามเลยครับท่าน
 
 
1 IP:202.44.53.158 | 28-04-2008 14:12:26
 
ลับ ลวง พราง ของจริง
 
 
นัท - ไม่รู้เรื่อง IP:58.9.91.233 | 28-04-2008 14:16:20
 
รู้จักการเมืองภาคประชาชนไหม
คนประชาชนคนไทยมีสิทธ์ที่จะเดินขบวนโดยปราศจากอาวุธ
อะไรที่มันแก้ในสภา อยากรู้จักเผด็จการรัฐสภาหรือเปล่า เสียงมากลากกันไป พรรคยิ่งใหญ่นี่ทำให้ระบบในสภาเสียไหม
พวกที่มีอำนาจทั้งหลายไม่เคยทำอะไรให้ประเทศชาติเลย
เห็นมีแต่ภาคประชาชนต้องเดือดร้อนทุกครั้ง
ถ้าไม่ทำอะไรให้ชาติบ้านเมืองดีขึ้นก็อย่าพูดเลยครับ
 
 
นัท - เบื่อว่ะ IP:58.9.91.233 | 28-04-2008 14:18:19
 
พวกลูกป๋าทั้งหลายดีแต่พูดเหม็นขี้ฟันเห็นอ่ายพวกกุ้ย มันด่าสอย่างหยาบคาย พวกมีอำนาจทำอะไรกันบ้างเงียบเป็นเป่าสากดีแต่พูด
 
 
gg IP:124.157.181.23 | 28-04-2008 15:14:33
 
สื่อข่าวถามกรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีขบวนการต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ไปใช้ระบบสาธารณรัฐ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ได้ติดตามข่าวดังกล่าว ให้ความเห็นไม่ได้
พูดอย่างนี้ ดูจะไม่เหมาะสมกับตำแหน่งท่านเท่าไหร่นะ
 
 
กลับกรมกองไป - อ้ายสาด IP:124.121.33.49 | 28-04-2008 16:02:50
 
หัวเราะเฮี่ยอะไรกัน ตอน19ก.ย.49 พวกคุณมรึงหัวเราะด้วยหรือเปล่า
เป็นทหารก็ทำหน้าที่ไปอย่าสะเออะมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง เสรือกไม่เข้าเรื่อง
 
 
 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: