ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 19:33
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ชายคาพักใจ  |  **ไม่ได้วางแผนมาเพื่อเก็บชัยชนะ จะเสียใจไปใย**(วิเคราะห์เกม เชลซี - แมนยู) 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
**ไม่ได้วางแผนมาเพื่อเก็บชัยชนะ จะเสียใจไปใย**(วิเคราะห์เกม เชลซี - แมนยู)  (อ่าน 1561 ครั้ง)
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« เมื่อ: 28-04-2008, 08:44 »

**ไม่ได้วางแผนมาเพื่อเก็บชัยชนะ..จะเสียใจไปทำไมกัน**(วิเคราะห์เกม เชลซี - แมนยู)
แฟนผีแดงจะตีโพยตีพายไปทำไมกัน ในเมื่อเปิดแผนการเล่นออกมาก็ชัดเจนแล้วว่า วันนี้พอใจกับ 1 คะแนน

ความจริงตั้งแต่กลางสัปดาห์กับบาซ่าแล้ว จะเห็นได้ว่า เกมรุกของแมนยูไม่เด่นเหมือนเล่นเกมพรีเมียร์ปกติ  จัดทีม และวางแผนการเล่นมาเพื่อล่อเป้า แล้วรอสวนกลับอย่างเดียว

กองกลางทั้งสองเกมของแมนยูไม่ประสงค์จะบีบการเล่นของทั้งบาซ่า และเชลซีตั้งแต่กลางสนามเลย  แต่ถอยร่นมาตั้งรับแบบคุมโซนหลวมๆ ตลอดเกม  ทำให้กองกลางของทั้งสองทีมมีอิสระในการทำเกมรุกอย่างเต็มที่

ถ้าเกมที่เล่นกับบาซ่าไม่เสียประตูก่อน ก็คงไม่คิดถึงเกมบุกหรอก แต่คงพอใจกับผลเสมอนอกบ้านมากกว่า  ซึ่งผมไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไร  เพราะผมมองเห็นฟอร์มบาซ่าในวันนั้นแล้ว  ไม่มีอะไรต้องวิตก หากแลกกันแมนยูไม่เสียเปรียบแน่นอน และน่าจะมีประตูทองคำตุนอยู่ในกระเป๋า

ผมคิดว่า เกมเยือนจำเป็นต้องเปิดเกมรุกแบบเด็ดขาดมากกว่าเกมเหย้านะครับ  ถ้าได้ประตูเกมเยือน วางแผนการเล่นได้ง่ายกว่าเยอะ

ในเมื่อผลออกเสมอ ผมก็เข้าใจดี  ท่านเซอร์อาจต้องการเล่นแบบถนอมตัว เพื่อเตรียมรับมือกับเชลซีในวันเสาร์

แต่พอวันเสาร์  ท่านเซอร์ก็เล่นแผนเดิมอีก  คือ ปล่อยให้บุกแล้วรอสวน  แต่คราวนี้ไม่มีโรนัลโด้ ไม่มีปาร์ค ไม่มีฮากรีฟ(11คนแรก) แสดงว่า ตั้งใจถนอมตัวสำหรับเกมกลางสัปดาห์อีก

ตกลงไม่เอาจริงเอาจังที่จะชนะทั้งสองเกมเลยเหรอครับ  เซฟตัวเองเกินไปหรือเปล่าไม่ทราบได้  แต่ผลลัพธ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้  ผมว่า น่ากลุ้มมากกว่าแฮปปี้นะ

การเล่นกับเชลซีเหมือนหนังม้วนเก่าที่ตามมาหลอกหลอน วันชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ  แมนยูก็เล่นแบบนี้แหละครับ ล่อเป้าแล้วก็โดนยิงเป้าสมใจ ชวดแชมป์ไปเมื่อปีกลาย

ปีนี้..
แผนนี้กลับมาใช้ได้ผลกับอาร์เซนัล  เพราะปล่อยให้อาร์เซนัลบุกจนเหนื่อย  (และก็เสียประตูก่อนสมใจ) แมนยูจึงจะฮึดออกมาสู้แล้วเก็บชัยชนะไปแบบฉิวๆ เฉียดๆ เพราะเป็นลูกโทษทั้งสองลูก 
ซึ่งถ้าดูตามรูปเกมกันแล้ว ได้แต้มเดียวก็หรูแล้ว  และผมคิดว่า วันนั้น แมนยูวางแผนการเล่นมาเก็บแต้มเดียวนะครับ  แต่กลางวันนั้นเล่นดีกว่าวานนี้มากนัก

ผมไม่เข้าใจท่านเซอร์เหมือนกันว่า ทำไมไม่เปิดเกมรุกแลกเหมือนที่เล่นตามปกติ  จริงอยู่แมนยูเป็นทีมที่เล่นได้หลากหลายรูปแบบ แต่รูปแบบเมื่อคืนไม่น่าจะใช้กับทีมอย่างเชลซี ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้

ตามสถิติ แมนยูยิงประตูได้มากที่สุด เสียประตูน้อยที่สุด (บรรยากาศคล้ายๆ กับปีที่ชิงเอฟเอคัพกับเชลซีนั่นแหละ คือ สถิติเกมรุกดีกว่าแต่ไม่เล่นเกมรุก)  ไม่มีเหตุผลที่จะต้องตั้งรับ

ถ้าคิดถึงเกมกลางสัปดาห์  เชลซีก็หนักไม่แพ้กันหรอกครับ แต่เขายังหนักแน่นในเกมของตัวเอง  ซึ่งเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่มูรินโญ่ทำทีมแล้ว คือ เต็มร้อยทุกเกม ทุกถ้วย ไม่ว่าใบเล้กใบใหญ่  และไม่คำนึงด้วยว่า อีกกี่วันจะต้องเจอศึกหนักแค่ไหน  นี่คือ ระบบของเชลซี ที่แกรนท์สืบทอดและยังรักษาอยู่

การเปิดบอลจากแดนหลังไปแดนหน้าที่เหลือรูนี่ย์ห้อยอยู่คนเดียว คงทำอะไรได้ไม่มากหรอก เพราะกลางตัวรุกลงไปช่วยเกมรับกันหมดเช่นนี้  และการวางบอลของริโอก็ดี บราวน์ก็ดี  ไม่มีความแม่นยำเลย  แต่ก็โทษไม่ได้หรอก เพราะรูนีย์อยู่คนเดียว จับตายไม่ยาก โดยเฉพาะลูกเปิดเป็นลูกโด่งทั้งสิ้น

ผมกำลังบอกว่า ครึ่งเวลาแรก แมนยูไม่มีการทำเกมแบบต่อบอลเข้าไปยิงประตูเลยสักครั้งเดียว ไม่รู้นึกถึงการยิงประตูกันหรือเปล่า  ถ้าไม่มีการยิงเข้ากรอบ มันจะไม่มีทางชนะ  รูปเกมแบบนี้ไม่เสมอก็แพ้

เกมสวนกลับที่คาดหวังไว้จะไม่ได้ผลนะครับ หากกองกลางไม่กรีฑาทัพขึ้นมาหนุนด้วย  การเติมขึ้นมาต้องขึ้นรุกแบบเต็มตัว คือ ดันกันขึ้นมาเป็นแผง ไม่ใช่ฝากความหวังไว้กับผู้เล่นสองสามคน

เชลซีแพ็คหลังไว้ตลอดเวลาสองคน คอยประกบรูนีย์ และกว่าเกมรุกกลับของแมนยูจะมาถึงกรอบเขตโทษ  ผู้เล่นแนวรับที่ดันขึ้นสูงก็กลับลงมาประจำการได้หมด

เราได้เห็นคาวัลโญ่เติมขึ้นไปเล่นเกมรุกถึงหน้าประตูแมนยูเป็นกลางตัวที่ 5 แต่เราไม่มีโอกาสเห็นริโอหรือบราวน์เติมเกมขึ้นมาพ้นกลางสนามได้เลย (ยกเว้นลูกตั้งเตะ) วิงแบ็คทั้งสองข้างของแมนยูอยู่เฝ้าตำแหน่งกันหมด และไม่คิดจะเติมเกมช่วย

นี่ถ้าไม่ถูกยิงนำก่อน (ซึ่งจากรูปเกมก็ควรจะโดน) แมนยูจะคิดถึงการส่งผู้เล่นแนวรุกมาเพิ่มหรือไม่?
และถ้าไม่ได้ลูกสงเคราะห์ของคาวัลโญ่  รูนีย์จะมีโอกาสส่องประตูหรือไม่?

ไหนๆ ก็ส่งนานี่ และแอนเดอสันลงมาแล้ว  ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองคนเล่นเกมรุกได้ดี แมนยูควรจะทำได้ดีกว่านี้ครับ  แต่ถ้าเน้นเกมรับ  ก็ไม่ควรส่งลงมาแบบนี้  เพราะทั้งสองคนจะไม่โดดเด่นและเล่นเกมรุกแบบเก้ๆ กังๆ

โดยเฉพาะนานี่..
ผมไม่เข้าใจว่า เขายังหวังลูกยิงมหัศจรรย์จะเกิดขึ้นอีกหรือยังไง  กับลูกยิงลูกนั้น....  ก็ลูกที่รูนีย์ส่ายหัวนั่นแหละ

บอลที่ออกปีกทางนานี่ มักจะเริ่มต้นได้ดี ดูแล้วน่ากลัว เพราะความเร็วจัด แต่พอไปถึงริมเส้น และเริ่มมีตัวมาประกบ  ความน่ากลัวก็จะลดลง  เพราะนานี่จะพาบอลเข้าไปสู่จุดอับเอง  ทำให้วิถีบอลที่จะเปิดให้เพื่อน หรือ ยิงประตูเองน้อยลงไปเอง

สิ่งที่นานี่ควรทำ คือ คายบอลในขณะที่เพื่อนร่วมทีมอยู่ในตำแหน่งได้เปรียบ  หากมั่นใจว่า ลากผ่านก็ลากไปเลย  แต่ต้องมั่นใจนะ  ไม่เช่นนั้น บอลจะมาตายที่การล็อกไปล็อกมาของตัวเองจนกลายเป็นจุดบอดไป

ทั้งแอนเดอสันและนานี่ มีจุดอ่อนที่การผ่านลูกให้ศูนย์หน้าหรือกองหน้าที่วิ่งเติมขึ้นมา เล่นบอลอย่างได้เปรียบ  ส่วนใหญ่กลายเป็นบอลเสียเกือบทั้งหมด

กองหน้าไม่มีโอกาสยิงเลยสักช็อต  บางครั้งก็โทษศูนย์หน้าไม่ได้ ต้องตำหนิ กองกลางตัวทำเกมรุกด้วย  ซึ่งเกมนี้ก็ถูกออกแบบมาให้เป็นอย่างนั้น

แล้วถ้าจะเล่นแผนนี้จริงๆ  ไรอัน กิ๊กส์ก็ไม่ควรอยู่จนครบ 90 นาทีครับ  เพราะกิ๊กส์ไม่ได้เป็นผู้เล่นเกมรับชั้นดี  หรือ ตอนนี้ก็ไม่ใช่ผู้เล่นที่รุกกลับได้อย่างรวดเร็วอีกต่อไปแล้ว

ในขณะที่แผงหน้าของแมนยูไม่ทำงานเลย  กลางและหน้าของเชลซีเล่นได้ดีทุกตัว  โดยเฉพาะการเก็บบอลไว้กับตัวและการพาบอลไปป้วนเปี้ยนในระยะหวังผลได้ตลอดเวลา  เกือบทุกห้านาทีนะครับ  ที่เชลซีจะสามารถส่งบอลผ่านหน้าประตู หรือ มีโอกาสยิงประตู แต่ติดนิดติดหน่อยตลอดเกม  ซึ่งทีมที่ทำโอกาสได้มากมายเช่นนี้ ก็ไม่สมควรจะแพ้อยู่แล้วครับ

จริงอยู่ว่า เมื่อคืนนี้ ผลควรออกมาเสมอ 1 - 1 หากไม่มีการแฮนด์บอลของคาริค  เพราะไหนๆ ก็ยันมาได้ 85 นาทีแล้ว  แต่เรื่องเช่นนี้ โทษใครไม่ได้ครับ ต้องโทษตัวเองเท่านั้น  เพราะเมื่อหวังจะเอาประตูคืน  ทีมผีแดงก็สร้างโอกาสในเกมรุกมากมายด้วยการวิ่ง สู้ ฟัด และบีบการขึ้นบอลทุกจังหวะของผู้เล่นเชลซี  แต่อย่างว่า ครับ  ไม่คิดจะยิงประตูเขาตั้งแต่นาทีแรกมาคิดจะทำเอาเมื่อจวนตัว  เชลซีไม่ใช่ทีมหมูๆ ที่แมนยูคิดจะทำเมื่อไรก็ทำได้นะครับ

ผมเชื่อว่า เกมกลางสัปดาห์ ท่านเซอร์จะพลิกหน้ามือเป็นหลังมือเสียที  หันมาเปิดเกมรุกใส่ตั้งแต่นาทีแรกๆ แน่นอน  เพราะไม่รู้จะถนอมตัวไว้ทำไมอีกแล้ว  ถ้าหลุด อาจหลุดทั้งสองถ้วยเลยก็ได้

ในอดีต  แมนยูก็เคยทำหมูหกเพราะเล่นเกมหนืดๆ แบบนี้มาหลายครั้งแล้วนะครับ  ชวดแชมป์แบบหวุดหวิดในช่วงปลายฤดูกาล  ซึ่งถ้าจำกันได้ดี ก็ปีที่แบล็คเบิร์นได้แชมป์ และปืนได้แชมป์  แมนยูจะออกอาการเกร็งจนแผ่ว

ส่วนปีที่แมนยูได้แชมป์ ก็มักจะได้ก่อนตัดสินกันเกมสุดท้าย คือ แต้มขาดไปก่อนแล้ว  (ตามทัศนะของผมนะครับ)

กลับมาที่เกมกับบาซ่า..
การเปิดเกมรุกเต็มตัว อาจทำให้แมนยูต้องเสียประตูในบ้าน  ซึ่งจะทำให้การเล่นลำบากยิ่งขึ้น  แต่ผมยังเชื่อว่า ศักยภาพเกมรุกของแมนยูสามารถเอาชนะแผงหลังที่อ่อนยวบยาบของบาซ่าได้  เพียงแต่หากได้ประตูนำแล้ว แมนยูอย่าเพิ่งหยุดเกม หวังเอาลูกเดียวเพื่อเข้ารอบก็แล้วกัน  เพราะมีสิทธิ์ถูกตีเสมอ จนถึงแพ้คาบ้านได้เช่นกัน

และหากต้องเจอเชลซีอีกครั้งในรอบชิง  ผมก็หวังอย่างยิ่งว่า ท่านเซอร์จะมีบทเรียนในการรับมือดีกว่านี้ นะครับ 

แต่ตอนนี้ชักหวั่นๆ ใจ  ไม่มั่นใจทั้งเกมรุกและรับของแมนยูไปเสียแล้ว  เกมเจอกับเวสแฮมแม้เล่นในบ้าน แต่หากเวสต์แฮมเล่นแบบ วิ่ง สู้ ฟัด เหมือนโบโร่ และแมนซิฯ ทำ ก็ไม่แน่ครับ  เพราะผู้เล่นหลายคนของแมนยูเป็นโรคแพ้เกมเพรสซิ่ง  ในขณะที่เกมกับวีแกนที่หนีตาย ไม่ง่ายแน่นอน  ถ้าตอนนั้นแต้มยังไม่ขาด วีแกนสู้ขาดใจแน่นอนครับ

อ้อ..
ผมนึกขำผู้ให้ทัศนะหลังเกม 3 ท่าน  โดยเฉพาะคุณสะสม

จำได้เมื่อเดือนก่อนยังบอกว่า สโคลส์เป็นจุดอ่อน ถ้าท่านเซอร์ไม่จัดทีมแบบเกรงใจสโคลส์และกิ๊กส์แล้วล่ะก้อ แมนยูมีโอกาสชนะ

แต่เมื่อคืน บอก..นัดหน้า หากผู้เล่นแมนยูลงครบทีม มีสโคลส์เป็นแกนกลาง คงทำผลงานได้ดีกว่านี้  ฮ่า..ๆ ๆ

แล้วคุณสะสมยังบอกตอนจบครึ่งแรกอีกว่า..
การส่งฮากรีฟลงมาเล่นแบ็คขวา ทำให้เกมรับแข็งแกร่งขึ้น เพราะเชื่อใจได้มากกว่าเวส บราวน์  และการดันบราวน์ไปเล่นตรงกลาง ก็ยังพออุ่นใจเพราะยังไงๆ ก็ยังมีริโอประคองช่วยได้

ตกลงบราวน์ที่ได้เซ็นต่อสัญญาใหม่ อัตราค่าจ้าง 6 หมื่นปอนด์ ตำแหน่งประจำคือ แบ็คขวา นี่ยังมีคนอื่นเล่นดีกว่าอีกหรือครับ  ฮ่า..แถมคนที่เล่นดีกว่า ดันเป็นกองกลางของทีม นานๆ ลงมาเล่นแบ็คยังแข็งแกร่งกว่าซะอีก

แล้วพอย้ายไปเล่นเซ็นเตอร์  บราวน์ซึ่งอยู่ในทีมแมนยูมาน่าจะเกือบ 10 ปีแล้ว อายุ 28 แล้ว ยังต้องให้คนมาประคองเกมรับอีกหรือครับ ยังเป็นเสาหลักไม่ได้หรือ

ฟังแล้ว เหมือนหมอนี่มันไม่มีประโยชน์อันใดเลย  เอามาลงตำแหน่งไหนก็ไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ให้ทัศนะสักเท่าไร  แล้วต่อสัญญาไปทำไมกัน  แมนยูหาคนที่เล่นได้โดยไม่ต้องเสียวสันหลังไม่ดีกว่าหรือ จริงไหม คุณสะสม?


(แต่ผมก็แอบเห็นด้วยเล็กๆ นะ 6 หมื่น/สัปดาห์ แพงไปหน่อย)
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #1 เมื่อ: 28-04-2008, 08:51 »

กระทู้นี้ปรากฏอยู่ในห้องศุภชลาศัยที่พันทิปด้วยนะครับ  และเช่นกัน จะปรากฏสำเนาอยู่ในบล็อกของผม ซึ่งสามารถเป็นแหล่งพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างคนที่พันทิปกับเสรีไทยได้

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=honeybonny&month=04-2008&group=6&date=28&gblog=2
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #2 เมื่อ: 28-04-2008, 09:10 »

ได้ดูเกมแค่เป็นบางช่วงครับ เพราะสัญญาณขาดๆหายๆ แต่เห็นด้วยว่าเค้าเล่นแบบจะเอาแต้มเดียวจริงๆ ตอนเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกกับบาร์เซโลน่าก็แบบนี้ แต่ก็ดีครับที่ผลออกแบบนี้ ทำให้สองนัดที่เหลือสนุกมากขึ้น แต่แหม เล่นทั้งฤดูกาลเพิ่งโดนจุดโทษลูกเดียวนี่ ไม่น่าจะต้องบ่นนะครับ   Mr. Green

พูดถึงโรนัลโด้ แกเป็นนักบอลที่เก่งจริงแบบไม่มีข้อสงสัย แต่ผมตั้งข้อสังเกตว่าแกจะเล่นดีและเด่นมากต่อเมื่อทั้งทีมเล่นดีและไล่ยำคู่แข่งแบบซ้อมใหญ่ แต่เวลาเกมที่กดดันมากๆแกจะหายไปจากเกมซะเป็นส่วนใหญ่ ความเห้นส่วนตัวผมชอบเตเบซมากกว่า เพราะเวลาที่ทีมทำท่าจะไม่ได้แต้มหรือได้แค่แต้มเดียว แกจะวิ่งพล่านจนนาทีสุดท้ายและส่วนใหญ่จะยิงประตูช่วยชีวิตทีมได้ในช่วงท้ายๆเกมหลายครั้งมาก ส่วนเวส บราวน์ แกเป็นนักบอลอาภัพไม่ค่อยมีเครดิตในสายตาแฟนบอลไทยอยู่แล้วครับ เคยมีกระทู้ในพันทิพกระทู้นึง ว่าเวส บราวน์ กับสุรีย์ สุขะ ใครเก่งกว่ากัน จขกท.กับแฟนบอลทีมไอ้เหลี่ยมอีกสองสามคน เข้ามาเถียงแบบเอาเป็นเอาตาย ว่าสุรีย์ก่งกว่า 
บันทึกการเข้า
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #3 เมื่อ: 28-04-2008, 16:54 »

ได้ดูเกมแค่เป็นบางช่วงครับ เพราะสัญญาณขาดๆหายๆ แต่เห็นด้วยว่าเค้าเล่นแบบจะเอาแต้มเดียวจริงๆ ตอนเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกกับบาร์เซโลน่าก็แบบนี้ แต่ก็ดีครับที่ผลออกแบบนี้ ทำให้สองนัดที่เหลือสนุกมากขึ้น แต่แหม เล่นทั้งฤดูกาลเพิ่งโดนจุดโทษลูกเดียวนี่ ไม่น่าจะต้องบ่นนะครับ   Mr. Green


อ้าว..คุณลุ้นสนุก แต่พวกผมจะหัวใจวายเอาน่ะสิ

พูดถึงโรนัลโด้ แกเป็นนักบอลที่เก่งจริงแบบไม่มีข้อสงสัย แต่ผมตั้งข้อสังเกตว่าแกจะเล่นดีและเด่นมากต่อเมื่อทั้งทีมเล่นดีและไล่ยำคู่แข่งแบบซ้อมใหญ่ แต่เวลาเกมที่กดดันมากๆแกจะหายไปจากเกมซะเป็นส่วนใหญ่ ความเห้นส่วนตัวผมชอบเตเบซมากกว่า เพราะเวลาที่ทีมทำท่าจะไม่ได้แต้มหรือได้แค่แต้มเดียว แกจะวิ่งพล่านจนนาทีสุดท้ายและส่วนใหญ่จะยิงประตูช่วยชีวิตทีมได้ในช่วงท้ายๆเกมหลายครั้งมาก ส่วนเวส บราวน์ แกเป็นนักบอลอาภัพไม่ค่อยมีเครดิตในสายตาแฟนบอลไทยอยู่แล้วครับ เคยมีกระทู้ในพันทิพกระทู้นึง ว่าเวส บราวน์ กับสุรีย์ สุขะ ใครเก่งกว่ากัน จขกท.กับแฟนบอลทีมไอ้เหลี่ยมอีกสองสามคน เข้ามาเถียงแบบเอาเป็นเอาตาย ว่าสุรีย์ก่งกว่า 

โรนัลโด้เก่งครับ  แต่พวกที่ยกย่องก็ยกย่องเกินความเก่งของแกไปแล้ว  ส่วนเตเบซ ขยันดี แต่ผมคิดว่า การต่อเกม ผ่านบอล และยิงประตูแบบจะๆ เหน่งๆ ทำได้ไม่ดีนัก  แต่ลูกที่ไม่มีใครคาดคิด แกทำได้ ทำให้ผมตกตะลึงอยู่เสมอ

เตเบซคงไม่ใช่นักเตะที่ส่งลงมาชี้เป็นชี้ตายของเกม แต่ทำหน้าที่เหมือนแมลงหวี่ บินวนตอมตาคู่แข่งขัน ทำให้สายตาพร่ามัวและออกหมัดวืดไปวืดมา  พอได้ที่ แกก็สอยด้วยอาวุธที่ซุกเอาไว้ข้างหลัง
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
หน้า: [1]
    กระโดดไป: