soco
|
|
« เมื่อ: 21-04-2008, 20:08 » |
|
รมว.กลาโหม ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง "ลูกดวง" กลับเข้ารับราชการทหาร โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 เมษายน 2551 19:44 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งนายดวง อยู่บำรุง กลับเข้ารับราชการ สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด โดยได้รับยศร้อยตรี สังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้นายดวง กลับเข้ารับราชการอีกครั้ง หลังจากถูกถอดยศไปนานถึง 7 ปี สำหรับนายดวง อยู่บำรุง เคยถูกถอดยศและปลดยศเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีสังหาร ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุติ หรือ ดาบยิ้ม เมื่อคืนวันที่ 29 ตุลาคม 2544 ในทเวนตี้ผับ และหลบหนีออกนอกประเทศ ทำให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในขณะนั้น ได้ลงนามในคำสั่งปลดออกจากราชการ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 และถอดยศทหารเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกาย ปีเดียวกัน http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000046689อำนาจอยู่ในมือเรา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
55555
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 21-04-2008, 20:20 » |
|
ทำแบบนี้ ธรรมศาสตร์ คนล้นแหง๋ ๆ .....เรียกแฟนให้สนธิ จริง ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
โต มิ โต โชว์ ดะ
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 21-04-2008, 21:04 » |
|
เป็นพลเมืองไทยยุคนี้ต้องมีอุเบกขา อุเบกแขนมากหน่อย
ไม่งั้นถึงขั้นเสียสติ เพราะทนรับไม่ไหวกับพวกเหียกๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
p
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 21-04-2008, 21:05 » |
|
เร็วๆเข้า เร็วๆเข้า ! เร่งมือหน่อยลุงหมัก เดี๋ยวพวกมันจะเช็คบิลล์เราแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
|
|
|
Cherub Rock
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 21-04-2008, 21:06 » |
|
อนาคตถึง ผบ.ทบ. นะนั่น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
|
|
|
เล่าปี๋
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 21-04-2008, 21:10 » |
|
แบบนี้ ผบ.สส.สมัยนั้น จะโดนเช็คบิลด้วยไหม ? คุณ soco ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 21-04-2008, 21:14 » |
|
แหล่มเลยเอ็ง ไอ้หมัก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 21-04-2008, 21:23 » |
|
รมว.กลาโหม ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง "ลูกดวง" กลับเข้ารับราชการทหาร โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 เมษายน 2551 19:44 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งนายดวง อยู่บำรุง กลับเข้ารับราชการ สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด โดยได้รับยศร้อยตรี สังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้นายดวง กลับเข้ารับราชการอีกครั้ง หลังจากถูกถอดยศไปนานถึง 7 ปี สำหรับนายดวง อยู่บำรุง เคยถูกถอดยศและปลดยศเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีสังหาร ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุติ หรือ ดาบยิ้ม เมื่อคืนวันที่ 29 ตุลาคม 2544 ในทเวนตี้ผับ และหลบหนีออกนอกประเทศ ทำให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในขณะนั้น ได้ลงนามในคำสั่งปลดออกจากราชการ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 และถอดยศทหารเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกาย ปีเดียวกัน http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000046689อำนาจอยู่ในมือเรา เอา ปวศ ที่นายหัว(ตอ)ชวน สร้างฝากครับ 55555555
(เนชั่นสุดสัปดาห์ 1 เม.ย. 2542)
กุมภาพันธ์ 2542 จอมพลถนอม กิตติขจร ก็ได้รับเกียรติจาก นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เสนอแต่งตั้งเป็น 'นายทหารพิเศษ' ประจำกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ ท่ามกลางความไม่พอใจจากองค์กรประชาชน ที่เห็นว่าการดำเนินการครั้งนี้ เป็นการทำร้ายความรู้สึกของประชาชน
แต่ นายชวน หลีกภัย ได้ชี้แจงว่า ดำเนินการไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม และจะไม่มีการทบทวนหรือยกเลิกคำสั่งโดยเด็ดขาด โดยให้เหตุผลว่า การแต่งตั้งครั้งนี้ จอมพลถนอม กิตติขจร จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษ หรือจะมีรายได้แต่อย่างใด เป็นแต่เพียงการได้รับเกียรติจากหน่วยงานหน่วยหนึ่งเท่านั้น
คำชี้แจงของนายกรัฐ- มนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าได้ดำเนินการอย่างถูกต้องเหมาะสม มิได้หมายความว่ากระแสสังคมจะยอมรับได้ เพราะเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ยังเป็นความทรงจำอันขมขื่นของคนร่วมสมัย ที่ยากจะลบเลือน!!
ซึ่งการแต่งตั้งครั้งนี้ผ่านขั้นตอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ลงนามเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ไปเมื่อ 2 กุม-ภาพันธ์ 2542 ซึ่งมีการดำเนินการอย่างเงียบเชียบ แต่เรื่องก็มาปูดในภายหลัง
.......................................................................................................................................................................................................
แกนนำ'แนวร่วมเป็ดไก่' 'พรรคปล้นชาติ' และ ลิ่วล้อพิจารณาเอาเองระหว่างคุณชวน หลีกภัย กับ 'หมัก เมถุน' เป็นไง.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 21-04-2008, 21:27 » |
|
ถ้านักข่าวไปถาม'หมัก เมถุน'..... มันคงบอกว่า ผมอายุเท่าไหร่แล้ว..... ผมจะพลาดโอกาสเป็น'นายกฯนอมินี'ได้ไง.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
อธิฏฐาน
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 21-04-2008, 21:36 » |
|
อนาคตถึง ผบ.ทบ. นะนั่น แล้วอย่าลืมทำบุญให้ดาบยิ้มด้วยนะคับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 21-04-2008, 21:52 » |
|
ฝากกองทัพ รับน้องใหม่ด้วยล่ะกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
แอบอ่าน ซุ่มเงียบ
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 21-04-2008, 21:59 » |
|
อำนาจ เป็นสิ่งที่ ยิ่งใช้ก็ยิ่งหมด ยิ่งใช้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งหมดเร็วเท่านั้น
ใช้อำนาจกันเปลืองอย่างนี้ ท่าทางรัฐบาลนี้จะไปเร็วกว่าที่คิดไว้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
IF YOU DON'T STAND FOR SOMETHING, YOU MIGHT FALL FOR ANYTHING.
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 21-04-2008, 22:02 » |
|
แค่ร้อยตรี ชิว ๆ พล.ต.อ. ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรูก็ลงนามปลดมาแล้ว ********* ปลดได้ ตั้งได้ ทำได้ทุกอย่าง อำนาจ ๆ ๆ ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 21-04-2008, 22:20 » |
|
"สมัคร"เซ็นคืนยศให้ดวงเฉลิม เข้ารับราชการทหารสังกัดศรภ. "สมัคร"เซ็นอนุมัติ"ดวงเฉลิม" กลับเข้ารับราชการทหารสังกัด ศรภ. กองบัญชาการทหารสูงสุดแล้ว พร้อมคืนยศ "ร้อยตรี" หลังถูกไล่ออกพร้อมถอดยศเมื่อ 7 ปีก่อน เพราะตกเป็นผู้ต้องหาฆ่า "ดาบยิ้ม" และหลบหนีออกต่างประเทศ (21มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระแสข่าวลือว่า นายดวงเฉลิม อยู่บำรุง บุตรชายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ได้ร้องขอกลับเข้ารับราชการในสังกัดของสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังถูกทางกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งพักราชการ ภายหลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีสังหารดาบยิ้มในผับแห่งหนึ่ง ย่านถนนรัชดาภิเษก ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เซ็นคำสั่งอนุมัติให้นายดวงเฉลิมกลับเข้ารับราชการแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมคืนยศให้ตามเดิมในตำแหน่งยศร้อยตรี พล.อ.อุดมชัย องคสิงห เลขานุการ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นหนังสือของนายดวงเฉลิมในการขอกลับเข้ารับราชการ เรื่องนี้คงจะต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตามหลักการแล้ว นายดวงเฉลิม สามารถกลับเข้ารับราชการทหารได้ตามปกติเหมือนคนอื่น เพราะหากการพิจารณาของศาลเห็นว่า นายดวงเฉลิมไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหาในดดีการสังหารดาบยิ้ม ก็สามารถร้องขอกลับเข้ารับราชการได้ โดยตามขั้นตอนจะต้องร้องขอไปยังต้นสังกัดเดิมของนายดวงเฉลิมก่อน เมื่อต้นสังกัดพิจารณาตรวจสอบรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว จะนำหนังสือการร้องขอกลับเข้ารับราชการนำเรียนให้ รมว.กลาโหม เซ็นอนุมัติอีกครั้ง ด้าน พล.อ.อัฏฐพร เจริญพานิช เจ้ากรรมพระธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ทราบข่าวมาเหมือนกัน แต่ยังไม่เห็นรายละเอียด ซึ่งนายดวงเฉลิมไม่ได้เข้ามารับราชการในสังกัดกรมพระธรรมนูญ แต่อาจเข้ามารับราชการในสังกัดสำนักงาน รมว.กลาโหม ซึ่งการตรวจสอบตามกฎหมายของกระทรวงกลาโหม คนที่ถูกกล่าวจะต้องมีคำสั่งจากศาลยกฟ้องว่านายดวงเฉลิมไม่มีความผิด ถ้าศาลยกฟ้องแสดงว่านายดวงเฉลิมเป็นผู้บริสุทธิ์ ก็สามารถร้องกลับเข้ามารับราชการได้เหมือนเดิม ทั้งนี้ จะต้องไม่ขัดกับระเบียบของกระทรวงกลาโหมในข้ออื่นๆ ด้วย ผมไม่ทราบว่า ทางสำนัก รมว.กลาโหม ได้มีการตรวจตสอบแล้วหรือไม่ แต่หากจะให้กลับเข้ามาทำงานคิดว่าคงตรวจสอบเคลียร์เรียบร้เอยแล้ว และคงไม่ขัดต่อระเบียบกระทรวงกลาโหม ซึ่งเขาคงตรวจสอบคุณสมบัติให้เรียบร้อย ทั้งประวัติและระเบียบต่างๆ ขณะนี้ผมผมรอฟังผลอยู่ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.อ.อัฏฐพรกล่าว เมื่อถามว่า หากได้รับกลับเข้ามาจะขัดต่อความรู้สึกของประชาชนหรือไม่ พล.อ.อัฏฐพรกล่าวว่า ตรงนี้สิเรื่องความรู้สึกของประชาชน ก็จะต้องว่ากันอีก ถ้าเกิดเขาไม่ขัดต่อระเบียบก็สามารถกลับเข้ามาทำงานได้ แต่รายละเอียดตอนนี้ยังไม่ทราบ ยังไม่เห็นคำสั่ง ซึ่งความรู้สึกขึ้นอยู่กับแต่ละคน ทุกอย่างจะต้องไม่ขัดต่อระเบียบ "ไม่ได้ขอร้องให้ทางกรมพระธรรมนูญในระเบียบการกลับเข้ารับราชการ ทางกรมไม่มีหน้าที่ในการตรวจ เรื่องนี้กรมเสมียตราเป็นผู้ดูแลในเรื่องการตรวจสอบการเข้ามารับราชการ" พล.อ.อัฏฐพรกล่าว ทั้งนี้ นายดวง อยู่บำรุง เคยถูกถอดยศและปลดยศเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีสังหาร ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุติ หรือ "ดาบยิ้ม" เมื่อคืนวันที่ 29 ตุลาคม 2544 ในทเวนตี้ผับ และหลบหนีออกนอกประเทศ ทำให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในขณะนั้นลงนามในคำสั่งปลดออกจากราชการ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 และถอดยศทหารเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน http://www.komchadluek.net/2008/04/21/x_main_a001_199240.php?news_id=199240
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
สมชายสายชม
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 21-04-2008, 22:49 » |
|
ไม่น่าจะเกี่ยวกับคำตัดสินของศาลเรื่องความบริสุทธิ์ นายดวง ขาดราชการนานมากกว่า ๖ เดือน น่าจะถือว่าถูกปลดเพราะขาดราชการถ้าไอ้หมักเซ็นต์คำสั่งคืนยศและให้กลับเข้ารับราชการ ปปช. น่าจะตรวจสอบและดำเนินคดีกับไอ้หมัก ในเรื่อง ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมชายสายชม
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 21-04-2008, 23:03 » |
|
หากเข้ามอบตัวจะไม่ถูกถอดยศ
พล.อ.ท.วีรวิทกล่าวว่า หากว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม เข้ามอบตัวกับตำรวจตอนนี้ จะทำให้ผลสรุปของคณะกรรมการเปลี่ยนไป มันจะไปเข้ากับกรณีการถูกดำเนินคดีอาญา คือรอให้ศาลพิจารณาตัดสินขั้นสุดท้ายก่อนว่ามีความผิดจริงหรือไม่ ถ้ามีความผิดจริงจึงจะสามารถปลดออกจากราชการและถอดยศได้ ทำให้เรื่องปลดและ ถอดยศจะต้องช้าออกไป ดังนั้น หากเขาต้องการที่จะดำรงยศทหาร เขาก็ต้องรีบมามอบตัว ส่วนที่ห่วงว่าจะมีการปลดออกจากราชการแต่ไม่ถอดยศนั้น ในทางปฏิบัติไม่สามารถทำได้ เพราะสองเรื่องนี้ต้องทำควบคู่กันไป
ข่าวจาก ไทยรัฐ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2008, 23:05 โดย สมชายสายชม »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Solidus
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 21-04-2008, 23:14 » |
|
ไม่น่าจะเกี่ยวกับคำตัดสินของศาลเรื่องความบริสุทธิ์ นายดวง ขาดราชการนานมากกว่า ๖ เดือน น่าจะถือว่าถูกปลดเพราะขาดราชการถ้าไอ้หมักเซ็นต์คำสั่งคืนยศและให้กลับเข้ารับราชการ ปปช. น่าจะตรวจสอบและดำเนินคดีกับไอ้หมัก ในเรื่อง ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หากไม่จัดการเรื่องนี้คงข้าราชการคนอื่นใช้มาตรฐานนี้อ้างได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมชายสายชม
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 21-04-2008, 23:17 » |
|
ทางด้านกระทรวงกลาโหมซึ่งเป็นหน่วยต้นสังกัดของ ร.ต.ดวงเฉลิมฯ ได้พยายามเรียกให้เข้ามารายงานตัวแต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับแต่อย่างใดคงมีเพียง ร.ต.อ.เฉลิมฯ ที่ออกมากล่าวว่าจะเป็นผู้พา ร.ต.ดวงเฉลิมฯ เข้ามาอบตัวที่ สน.สุทธิสาร ในวันที่ ๕ พ.ย.๔๔ เมื่อเวลาผ่านเลยกำหนด ร.ต.ดวงเฉลิมฯ ก็ยังมิได้มารายงานตัวจึงได้มีการเซ็นคำสั่งปลด ร.ต.ดวงเฉลิมฯ ออกจากราชการ โดยปลัดกระทรวงกลาโหม โทษฐานขาดราชการและดำเนินการเรื่องการถอดยศทหารต่อไป คงต้องรอดูหนังสือแต่งตั้งและเหตุผลที่จะลบล้างความผิดเรื่องหนีทหาร ถ้าจะอ้างว่า " ขาดราชการเพราะความตกใจกับเหตุการณ์" ก็คงจะฟังไม่ขึ้น เพราะว่าวิสัยของทหาร ถ้า ตกใจแล้วหนีทหาร .. ในภาวะสงคราม มีโทษถึงขั้นยิงเป้า
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2008, 23:25 โดย สมชายสายชม »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Caocao
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 22-04-2008, 00:04 » |
|
มันเป็นเกมส์พยายามสร้างฐานอำนาจ พูดง่ายๆคือเกมส์สร้างหนี้บุณคุณกับไอ้เหลิม ท่าทางไอ้มัคกลัวจะถูกโดดเดียว แต่ไม่แน่ใจว่าคนอย่างไอ้เหลิมจะสำนึกบุญคุณคนอื่นหรือเปล่าเท่านั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
|
|
|
Şiłąncē Mőbiuş
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 22-04-2008, 00:08 » |
|
ลิ่วล้อไม่เข้ากระทู้นี้เลยวุ๊ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.” . “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
|
|
|
1ktip
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 22-04-2008, 00:11 » |
|
ทำอะไรรีบร้อนกันจัง สงสัยรัฐบาลหมักจะรีบกินรีบอวยรีบชิ่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Scorpio6
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 22-04-2008, 00:26 » |
|
ลูกชาวบ้านทำผิดกฎหมายนิดหน่อย พวกมรึงเอาถึงเป็นถึงตาย... พอลูกของพวกมรึงผิดถึงขั้นถอดยศ....... พวกมรึงสวมให้มันคืน อยางนั้นหรือคือ..............ความ- ชอบ-ธรรม-ของพ่อพวกมรึง!!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อนบล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง* http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
|
|
|
login not found
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 22-04-2008, 02:34 » |
|
อยู่ดีไม่ว่าดี หาเหาใส่หัว หาคดีใส่ตัว อยากเอาใจคนอื่นหาพวกหนุนเป็นนายกต่อ ถึงกับลืมว่า "เป็นหัวหงอกแก่ตายในคุก มันลำบากใช่ย่อยอยู่นะ"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายเกตุ
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 22-04-2008, 02:53 » |
|
พ่อแม่รังแกฉันยังไม่พอ นี่ลุงมันมารังแกต่ออีกหรือนี่ ดวงเอ๋ยดวงเอ็งนี่ช่างโชคร้ายเสียจริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 22-04-2008, 03:38 » |
|
สมัครเลียนแบบนายชวนไง
นายชวนคืนยศ จอมพลถนอม
นายสมัครคืนยศ ร้อยตรีดวง
แต่ไม่ทราบว่าผ่านสภากลาโหมมั๊ย...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 22-04-2008, 09:26 » |
|
สมัครเลียนแบบนายชวนไง
นายชวนคืนยศ จอมพลถนอม
นายสมัครคืนยศ ร้อยตรีดวง
แต่ไม่ทราบว่าผ่านสภากลาโหมมั๊ย...
คนละเรื่องเดียวกัน... ต้องพิเคราะห์สาเหตุและเหตุผลในการแต่งตั้งและ'คืนยศ'....
อดีตนายกฯชวน ไม่ได้'คืนยศ' แต่แต่งตั้งเป็น'นายทหารพิเศษ' ประจำกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ ที่ร้องขอและตามที่สภากลาโหมเสนอเรื่อง
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-04-2008, 09:31 โดย ปุถุชน »
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
see - u
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 22-04-2008, 12:25 » |
|
* ย้อนรอยคดียกฟ้อง 'ดวงเฉลิม' ก่อนท่านนายกฯ สวมยศร้อยตรี ' หลานดวง ' กลับเข้ากรม นายดวง อยู่บำรุง เคยถูกถอดยศและปลดยศเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีสังหาร ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุติ หรือ ดาบยิ้ม เมื่อคืนวันที่ 29 ตุลาคม 2544 ในทเวนตี้ผับ และหลบหนีออกนอกประเทศ ทำให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดใน ขณะนั้น ได้ลงนามในคำสั่งปลดออกจากราชการ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 และถอดยศทหารเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกาย ปีเดียวกัน ย้อนรอยคดีลูก ' เหลิม ' หลุดคดียิง ' ดาบยิ้ม ' 29 ตุลาคม 2544 วลาตีสองบวกลบ ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุต หรือ ' ดาบยิ้ม ' ถูกยิงเสียชีวิตภายในคลับเทวนตี้ ผับ โรงแรม เจ้าพระยาปาร์ค ถ.รัชดาฯ หลังเกิดเหตุ ตำรวจกองปราบปรามสอบปากคำพยานในคืนเกิดเหตุได้ความว่า 'นายดวงเฉลิม อยู่บำรุง' ลูกชายคนเล็กของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ เป็นคนลั่นไกยิง 'ดาบยิ้ม' เสียชีวิตด้วยอาวุธปืน 6.35 มม. ยังไม่ถึง 10 ชั่วโมงจากเหตุการณ์ ตำรวจหน่วยคอนมานโดราว 100 นาย นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านของ ร.ต.อ.เฉลิม และอีก 2 ครั้ง ในเวลาต่อมา รวมทั้งบ้านของนักการเมืองท้องถิ่น ที่แนวทางการสืบสวนเชื่อว่า นายดวงเฉลิมจะหลบซ่อนตัว แต่การตรวจค้นยังไม่พบ วี่แววของนายดวงเฉลิม 187 วันผ่านไป 'นายดวงเฉลิม' โผล่เข้ารายงานตัวที่สถานทูตไทยประจำประเทศมาเลเซีย ตอน 9 โมงเช้า ของวันที่ 2 พ.ค.ตามเวลาในประเทศมาเลเซีย พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหานายดวงเฉลิม ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไม่มีการตั้งข้อหา ร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิต การตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าว ทำให้พนักงานสอบสวนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย 4 คน ประกอบด้วย และนายกฤษพัฒน์ จาตุรานนท์ และนายสุพจน์ แสงอนันต์ ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย ส่วนนาย วันเฉลิม อยู่บำรุง ลูกชายคนกลางของ ร.ต.อ.เฉลิมและพ.ต.ต.ศราวุฒิ สกุลมีฤทธิ์ อดีตสารวัตร 191 ถูกฟ้องเป็นจำเลยในความผิด ฐานต่อสู้ขัดขวาง เจ้าพนักงาน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และช่วยเหลือให้ผู้กระทำผิดมิให้ถูกจับกุม ร.ต.อ.เฉลิมตั้งทีมทนาย ต่อสู้คดีให้กับลูกชายคนเล็กถึง 4 คน ประกอบด้วยนายสมหมาย กู้ทรัพย์ ทนายความมือเด็ดที่อยู่ในแวดวงว่าความ มานานกว่า 20 ปี เป็นหัวหน้าทีมทนายความ นายสมหมายเคยว่าความให้ ร.ต.อ.เฉลิม และบรรดาลูกชายมาแล้วหลายคดี โดยหมอความทั้ง 4 คน เปรียบเป็นแขนและขาของคนในครอบครัว 'อยู่บำรุง' ก็ว่าได้ แต่แล้ว นายเฉลิมชนม์ บุริสมัย หรือ 'ไอ้ปื๊ด' ก็ปรากฎตัวยอมรับว่าเป็นมือปืนสังหาร 'ดาบยิ้ม' แต่พนักงานสอบสวนไม่ได้ ให้ความสำคัญในคดีแต่อย่างใด เมื่อหัวหน้าพนักงานสอบสวนยืนยันว่า ไอ้ปื๊ด " ไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องกับคดี " กระทั่งคดีฆ่าดาบยิ้มเริ่มต้นกระบวนการในชั้นศาล โดยนายวิชิต แก่นกำจร อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน อัยการแถลงต่อศาลว่า จะนำพยานเข้าสืบประมาณ 53 ปาก ใช้เวลาสืบพยานราว 25 นัด ส่วนหัวหน้าทีมทนายความ แถลงว่า จะใช้ เวลาสืบพยานจำเลยประมาณ 15 นัด ศาลได้กำหนดวันสืบพยานโจทก์ โดยนัดพิจารณาต่อเนื่องรวม 30 นัด ตั้งแต่เดือน ก.ค.45-เดือน พ.ค.46 โดยจะมีการสืบพยานเดือนละ 2-4 ครั้ง และเริ่มสืบพยานโจทก์นัดแรกวันที่ 1 ก.ค.45 เวลา 09.00-16.30 น.
การสืบพยานโจทก์นัดแรก พนักงานอัยการนำ นางสุพัตรา รอดวิมุต อายุ 39 ปี เบิกความเป็นพยานปากแรก แต่ก่อนที่จะเบิกความ ทีมทนายความนายดวงเฉลิมได้ร้องศาลขอให้มีการเปิดภาพวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ ด้านนางสุพัตราเบิกความยืนยันว่า อยู่ด้วยกัน มากว่า 20 ปี ไม่เคยเห็นสามีดื่มสุราจนขาดสติจนมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร แบบเต็ม ๆ >> http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=27938&catid=1 ................................................................................................................................ * ความยุติธรรม ... ไม่เคยมีหรอกในสังคมไทย มีแต่พ่อใครใหญ่ บารมีพ่อมันก็คุ้มกะลาหัวลูก
ชีวิตคนอื่นไม่มีค่า ไม่มีความหมาย เท่ากับ ชีวิตของลูกตรู
อวยกันเข้าไป .......... ช่วยกันเข้าไป เลวยกแก๊งค์ทั้งก๊วนรัฐบาลไม่ว่าจะหัวหงอกหรือหัวดำ !!!
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-04-2008, 12:39 โดย see - u »
|
บันทึกการเข้า
|
" I will unforgive you to do the bad thing like this. " * The fox changes his skin but not his habits. * Superman ( It's Not Easy ) >> http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD " กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี ........ ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย "
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 22-04-2008, 12:38 » |
|
*** ว่าที่ ร.ต. ดวงเฉลิม อยู่บำรุง นายทหารประจำ ศรภ.บก.ทหารสูงสุด ถูกปลดออกจากราชการ เมื่อ ๑๕ พ.ย. ๔๔ เป็นนายทหารกองหนุน เนื่องจากกระทำความผิดฐานต้องหาในคดีอาญา แล้วหลบหนีไป ตามคำสั่ง กระทรวงกลาโหม ที่ ๘๘๑/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๕ พ.ย. ๔๔ *** ว่าที่ ร.ต. ดวงเฉลิม อยู่บำรุง นายทหารกองหนุน ถูกถอดยศทหาร เมื่อ ๑๕ พ.ย. ๔๔ เนื่องจากกระทำความผิดฐานต้องหาในคดีอาญา แล้ว หลบหนีไป ตามคำสั่ง กระทรวงกลาโหม ที่ ๘๘๒/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๖ พ.ย. ๔๔ -------------------------------------------------------------------------------- http://www.defence.thaigov.net/explain/chalerm.htmหลังจากหลบหนีอยู่นาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 22-04-2008, 12:47 » |
|
การแจ้งความจำนงของนายดวงเฉลิม อยู่บำรุง เพื่อขอเดินทางกลับประเทศไทย ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ 24 กรกฎาคม 2549 17:55:10 วันนี้ (2 พฤษภาคม 2545) นายรัฐกิจ มานะทัต อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการแจ้งความจำนงของนายดวงเฉลิม อยู่บำรุง เพื่อขอเดินทางกลับประเทศไทย ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ดังมีประเด็นสำคัญ ดังนี้ 1. เมื่อเช้าวันนี้ (2 พฤษภาคม 2545) เวลาประมาณ 08.00 น. (09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของมาเลเซีย) นายดวงเฉลิม อยู่บำรุง พร้อมด้วยนายอาจหาญ อยู่บำรุง และนายเถลิง อยู่บำรุง ได้เดินทางไปยังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ และพบกับนายชัยสิริ อนะมาน เอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อแสดงความจำนงที่จะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อดำเนินการต่อสู้คดีที่ถูกกล่าวหา 2. ต่อมา นายชัยสิริฯ ได้นำเรื่องดังกล่าวเรียน ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทราบทางโทรศัพท์ ซึ่ง ดร. สุรเกียรติ์ฯ ได้แจ้งประสานงานทางโทรศัพท์กับ ดาโต๊ะ ศรี ไซ ฮามิด บินไซ จาฟาร์ อาบาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย และได้รับแจ้งจากฝ่ายมาเลเซียว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของฝ่ายไทย จึงให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายไทย ดร. สุรเกียรติ์ฯ จึงได้สั่งให้นายชัยสิริฯ ดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไปอย่างรวดเร็ว รอบคอบและรัดกุม 3. ในขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการออกหนังสือสำคัญ ประจำตัว (Certificate of Identity - CI) แก่นายดวงเฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่ออกให้กับคนไทยที่ไม่มีหนังสือเดินทาง และประสงค์ที่จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยสามารถใช้เอกสาร ดังกล่าวได้เพียงครั้งเดียว และใช้สำหรับการเดินทางกลับประเทศไทยเท่านั้น 4. นอกจากนี้ ดร. สุรเกียรติ์ฯ ได้สั่งการให้มีเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ เดินทางมากับนายดวงเฉลิม อยู่บำรุงและคณะ ในการเดินทางกลับประเทศไทย 5. ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวไม่อยู่ภายใต้กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ถึงแม้ว่าไทยจะมีความตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศอังกฤษที่มีผลใช้บังคับกับมาเลเซียด้วยก็ตาม เพราะถือเป็นการแสดงความจำนงที่จะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อต่อสู้คดีตามสิทธิ์ที่ผู้ถูกกล่าวหามี 6. ในเรื่องนี้ ดร. สุรเกียรติ์ฯ ได้กราบเรียนให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทราบแล้ว และได้หารือกับ ร.ต.อ. ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว โดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างใกล้ชิดด้วยแล้ว
.. 2 พฤษภาคม 2545 http://www.mfa.go.th/web/200.php?id=1381
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
มารุจัง
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 22-04-2008, 13:07 » |
|
รัฐบาลชุดนี้ มีแต่เรื่องเห่ย ๆ เลว ๆ ออกมาจริง ๆ สมแล้วที่มีแต่สารพัด species รวมกันอยู่ แถมเป็น species ที่เป็นพวกสวะทั้งนั้นด้วย เซ็งจริง ๆ รีบ ๆ เลย รีบใช้อำนาจกันเข้าไป ระวังไว้เหอะ... ถึงวันนึงจะไม่มีที่ซุกหัว...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้งปล.รูปจากเวบ ผจก.
|
|
|
55555
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 22-04-2008, 13:24 » |
|
เล่นเรื่องนี้ กันพอสนุก ๆ แล้ว ก็อย่าลืมหันกลับไปเรื่อง แก้รัฐธรรมนูญกันต่อน๊ะครับ.........เรื่องนี้ มันแค่พริกไทย ชูรส...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมชายสายชม
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 22-04-2008, 14:12 » |
|
http://www.nitessatun.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=628เรียกคืนเครื่องราชฯ (อีกแล้ว) คอลัมน์ ข้าราษฎร สายสะพาย ท่ามกลางกระแสข่าวเปิดโปงว่า มีข้าราชการในกระบวนการยุติธรรมเป็นตัวกลางในการติดต่อวิ่งเต้นตุลาการ รัฐธรรมนูญบางคนคนที่มาจากสายศาลฎีกาในคดียุบพรรคไทยรักไทย แต่ท่านตุลาการยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริตเลยไม่เล่นด้วยนั้น มีข่าวพูดกันให้แซดสำนักงานศาลยุติธรรมว่า ข้าราชการระดับ "บิ๊ก" คนดังกล่าวนี้ เคยมีพฤติกรรมทำนองเดียวกันวิ่งเต้นคดีที่มีการฟ้องร้อง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต.และพวกมาแล้ว ถึงขนาดบังอาจขอให้ข้าราชการตุลาการผู้ใหญ่ท่านหนึ่งไปพบกับ "นายใหญ่" แต่ข้าราชการตุลาการท่านนั้นไม่เล่นด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้แก่ข้าราชการที่มีพฤติกรรมในทางทุจริตประพฤติมิชอบ จึงขอนำรายชื่อข้าราชการที่ถูกไล่ออก-ให้ออกและเรียกคืนเครื่องราช อิสริยาภรณ์ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2550 (เล่มที่ 124 ตอนที่ 8 ข.) ดังนี้ 1.มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้นายนุกูล สร้อยระย้า พ้นจากตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลแพ่งกรุงเทพใต้เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2550 และให้เรียกคืนเครื่องราชฯชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือกและชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทยเนื่องจากถูกลงโทษให้ ออกจากราชการ ฐานกระทำผิดวินัยร้ายแรง (ก่อนหน้าเคยมีการเรียกคืนเครื่องราชฯของ น.ส.กุลวดี ฟังเสนาะ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเดียวกันฐานกระทำผิดวินัยร้ายแรงตามที่ประกาศใน ราชกิจจาฯเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2549) 2.มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ถอดยศ พ.ต.ชัยศิลป์ พันธ์พูล กองทัพบกตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2549 และเรียกคืนเครื่องราชฯชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือกและเหรียญจักรมาลาเนื่องจากถูกปลดออกจากราชการเพราะ กระทำความผิดต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก 3.มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ถอดยศ ร.อ.ธัช จารุรัชฎานนท์ กองทัพเรือ ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2549 ซึ่งเป็นวัน กระทำความผิดฐานหนีราชการทหารและให้เรียกคืนเครื่องราชฯชั้น จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทยและจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก 4.ให้ถอดยศ ร.อ.สทนึก กล้าหาญ กองทัพบกตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2548 เพราะ กระทำความผิดฐานหนีราชการทหารในเวลาประจำการ5.ให้ถอดยศ ร.อ.ณัฐชาติ แก้วควรชุม ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2549 ฐานหนีราชการทหารและให้เรียกคืนเครื่องราชฯชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทยและ จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก อนึ่ง ก่อนหน้านี้ให้ถอดยศ พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋งซึ่งต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ประหารชีวิตและเรียกคืน เครื่องราชฯชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือกและตริตราภรณ์มงกุฎไทย ที่มา : มติชน 19 มิถุนายน 2550 ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมชายสายชม
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 22-04-2008, 14:29 » |
|
http://www.judiciary.go.th/oscjc/vinichai8-49.docจำเลยทั้งสองให้การว่า เมื่อจำเลยที่ ๒ มีคำสั่งงดให้โจทก์ไปช่วยราชการและให้กลับเข้ารับราชการในวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๔๖ แต่โจทก์มิได้รายงานตัวกลับเข้ารับราชการนับแต่วันถัดจากวันครบกำหนดช่วยปฏิบัติราชการเกินกว่า ๑๕ วัน จึงเป็นความผิดฐานหนีราชการทหารตาม ประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๔๕ จำเลยที่ ๒ จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนซึ่งมีมติว่า หน้าที่ ๖ การกระทำของโจทก์เป็นการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยชอบด้วยกฎหมาย หนีราชการในเวลาประจำการและขาดราชการทหารหรือละทิ้งหน้าที่ จำเลยที่ ๑ จึงมีคำสั่งปลดโจทก์ออกจากราชการและถอดยศ โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. ๒๕๐๓ และพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ. ๒๕๒๑ การดำเนินการของจำเลยทั้งสองชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกฟ้อง คดีจึงมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า คำสั่งของจำเลยที่ ๑ ที่ให้ปลดโจทก์ออกจากราชการพร้อมกับ ดำเนินการถอดยศของโจทก์นั้น เป็นการดำเนินการเกี่ยวกับวินัยทหารหรือไม่ เห็นว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๖ มาตรา ๔ บัญญัติว่า “วินัยทหาร คือการที่ทหารต้องประพฤติตามแบบธรรมเนียมของทหาร” และมาตรา ๗ บัญญัติว่า “ทหารผู้ใดกระทำผิดต่อวินัยทหาร จักต้องรับทัณฑ์ตามวิธีที่ ปรากฏในหมวด ๓ แห่งพระราชบัญญัตินี้ และอาจต้องถูกปลดจากประจำการหรือ ถูกถอดจากยศทหาร” ดังนั้น การที่จำเลยที่ ๒ มีคำสั่งงดให้โจทก์ไปช่วยราชการ และ ให้กลับเข้ารับราชการในวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๔๖ แต่โจทก์มิได้รายงานตัวกลับเข้ารับราชการนับแต่วันถัดจากวันครบกำหนด ช่วยปฏิบัติราชการเกินกว่า ๑๕ วัน กรณีจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และหนีราชการทหารหรือละทิ้งหน้าที่อันเป็นการไม่ประพฤติตามแบบธรรมเนียมของทหาร และถือเป็นความผิดต่อวินัยทหาร ต้องรับทัณฑ์อาจต้องถูกปลดจากประจำการหรือถูกถอดจาก ยศทหาร เมื่อจำเลยที่ ๒ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและพิจารณาลงทัณฑ์โจทก์ กรณีกระทำความผิดฐานหนีราชการทหารในเวลาประจำการ และจำเลยที่ ๑ มีคำสั่ง กระทรวงกลาโหมที่ ๗๘๙/๒๕๔๖ ลงวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๔๖ ให้ปลดโจทก์ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดฐานหนีราชการทหารในเวลาประจำการ กรณีจึงเป็นการดำเนินการเกี่ยวกับ วินัยทหาร ซึ่งศาลปกครองไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา ตามมาตรา ๙ วรรคสอง (๑) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ แต่เป็นคดีที่อยู่ใน อำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม ตามมาตรา ๒๗๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ...
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-04-2008, 14:37 โดย สมชายสายชม »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมชายสายชม
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 22-04-2008, 14:41 » |
|
http://www.dmbcrtaf.thaigov.net/law-rya.htmประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๔๕ ผู้ใดเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ชั้นประทวน ชั้นนายสิบ ชั้นจ่า หรือเป็นพลทหารก็ดี ถ้าและมันขาดจากหน้าที่ราชการโดยมิได้รับอนุญาต หรือมันขาดจากราชการในเมื่อพ้นกำหนดอนุญาตลา แล้วก็ดี แม้เป็นไปด้วยความเจตนาจะหลีกเลี่ยงจากราชการตามคำสั่งให้เดินกองทหาร หรือเดินเรือไปจากที่ หรือคำสั่งเรียกระดมเตรียมศึกนั้นไซร้ ท่านว่ามันมีความผิดฐานหนีราชการ อีกนัยหนึ่งมันขาดจากราชการ จนถึงกำหนดที่จะกล่าวต่อไปนี้ คือ ๑) ขาด ๒๔ ชั่วโมง ต่อหน้าราชศัตรู ๒) ขาด ๓ วัน ถ้ามันใช่ต่อหน้าราชศัตรู แต่ในเวลาสงคราม หรือในเขตที่ใช้กฎอัยการศึก ๓) ขาด ๑๕ วัน ในที่และเวลาอื่น ๆ นอกจากที่กล่าวมาแล้วดังนี้ไซร้ ท่านก็ว่ามันมีความผิดฐานหนี ราชการดุจกัน ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
login not found
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 22-04-2008, 14:46 » |
|
ยอดเยี่ยมครับ แต่พวกหน้าด้านก็คงบอกว่าแค่ขาด(ไม่ใช่ลานะครับ)งานไม่กี่วัน จะต้องออกจากราชการเชียวหรือ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 22-04-2008, 15:14 » |
|
ผบ.สส.ยันไม่ข้ามขั้นตอนสมัครเซ็นดวงกลับรับราชการ 'เฉลิม' ไม่รู้เรื่อง 'ลูกดวง' ได้คืนยศ บอกจะใช้ขัด 'ปืนใหญ่' (ล่าสุด 11.09 น.)ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีกระทรวงกลาโหมคืนยศว่าที่ร.ต.ให้แก่นายดวง อยู่บำรุง บุตรชายว่า นายดวงทำอะไรไม่ค่อยปรึกษาตน ตนจึงไม่ทราบเรื่อง ดังนั้น เรื่องนี้จึงเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของนายดวงและไม่เกี่ยวข้องกับตน และนายดวงก็ชอบเป็นทหาร อย่างไรก็ตาม ยศของนายดวงเป็นแต่ว่าที่ ร.ต. แต่นักข่าวสนใจเหมือนเป็นตำแหน่งแม่ทัพ
"ยัง ไม่ได้คุยกับลูกชาย พวกนี้นอนดึก บางทีก็ตื่นเช้า แล้วไปไหนไม่รู้ ไม่บอกไม่กล่าว เรื่องนี้ขอให้นายดวงตอบเอง ผมจะไปตอบแทนได้อย่างไร ไม่ใช่เรื่องของผม ถ้านายดวงเข้ามากระทรวงมหาดไทย จึงจะเป็นเรื่องของผม ทหารยศว่าที่ร.ต. มันเด็กๆ ถ้านายดวงเข้าไปได้จริง จะให้ไปทำความสะอาดกระทรวงกลาโหม ให้ไปขัดปืนใหญ่หน้ากระทรวง นามสกุลอยู่บำรุง ก็อยู่ที่ไหน บำรุงที่นั้น" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เมื่อ ถามว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะชี้แจงสังคมอย่างไร เพราะเมื่อ ร.ต.อ.เฉลิมได้เป็นรัฐมนตรี นายดวงก็ได้ยศคืนทันที ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ต้องถามกลับว่าตอนที่ให้นายดวงออกจากราชการ โดยกล่าวหาว่านายดวงฆ่าคนตายมีความเหมาะสมหรือไม่ แต่เมื่อศาลได้ยกฟ้องคดีนี้ไปแล้ว ผ่านมา 7 ปีแล้ว ตนสามารถตอบสังคมได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องศักดิ์ศรี แต่เป็นเรื่องความถูกต้องชอบธรรม
ส่วน มีความไปได้หรือไม่ที่นายดวงจะถูกขอตัวมาช่วยราชการกระทรวงมหาดไทยนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีความเป็นไปได้ นายดวงคงไม่ถนัดงานด้านนี้ ทั้งนี้ ไม่ห่วงว่าเรื่องนี้จะถูกยกเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะตนถูกโจมตีเป็นประจำอยู่แล้ว และถ้าใครนำเรื่องขึ้นมาโจมตีตน รัฐบาลคงมีอายุประมาณ 20 ปี เพราะประเด็นนี้เป็นเรื่องไร้สาระมาก
เมีย "ดาบยิ้ม" ทำใจ หลัง "ลูกดวง"ได้ตำแหน่ง (ล่าสุด 10.17 น.)นางสุพัตรา รอดวิมุต ภรรยา ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุต หรือ ดาบยิ้ม อดีตตำรวจกองปราบฯ ซึ่งถูกยิงเสียชีวิต กล่าวถึงกรณีนายดวง อยู่บำรุง บุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกลับเข้ารับราชการ
สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด โดยได้รับยศร้อยตรี สังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ว่า
เพิ่งได้ทราบข่าว แต่ก็ไม่ทราบจะทำอย่างไรต่อไป ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้บอกกับลูกชายว่าอยากให้เขาให้ตั้งใจเรียนหนังสือ เพราะเราไม่สามารถสู้อำนาจเงินและบารมีได้ ทำได้เพียงเก็บความรู้สึกต่างๆ ไว้ภายในเท่านั้น
ที่มาจากหนังสือพิมพ์ http://webboard.mthai.com/52/2008-04-22/377297.html
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
An.mkII
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 22-04-2008, 15:18 » |
|
'เฉลิม'ไม่รู้'ลูกดวง'ได้ยศคืน บอกแค่ยศเล็ก สั่งขัดปืนใหญ่ เมีย'ดาบยิ้ม'ทำใจสู้เงินไม่ได้ ผู้อ่าน 477 คน วันที่ 22 เมษายน 2551 เวลา 11:05:08 น. 'เฉลิม'อ้างไม่รู้ลูกชายได้คืนยศ เผยตำแหน่งเด็กๆ จะใช้ขัด'ปืนใหญ่'หน้ากระทรวง ผบ.สส.ยันไม่ทราบเรื่อง 'สมัคร'ปัดตอบ เมีย'ดาบยิ้ม'ทำใจ สอนลูกสู้เงิน-บารมีไม่ได้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ป ฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีนายดวง อยู่บำรุง บุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กลับเข้ารับราชการ สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด โดยได้รับยศร้อยตรี สังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ เพียงยิ้มๆ ให้นักข่าว โดยทันทีที่นายสมัครลงจากรถประจำตำแหน่ง ได้รีบเดินเลี่ยงนักข่าวเข้าอาคารที่ประชุม ครม.ทันที ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นายดวงทำอะไรไม่ค่อยปรึกษาตน ตนจึงไม่ทราบเรื่อง ดังนั้น เรื่องนี้จึงเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของนายดวงและไม่เกี่ยวข้องกับตน
และนายดวงก็ชอบเป็นทหาร อย่างไรก็ตาม ยศของนายดวงเป็นแต่ว่าที่ ร.ต. แต่นักข่าวสนใจเหมือนเป็นตำแหน่งแม่ทัพ
'ยังไ ม่ได้คุยกับลูกชาย พวกนี้นอนดึก บางทีก็ตื่นเช้า แล้วไปไหนไม่รู้ ไม่บอกไม่กล่าว เรื่องนี้ขอให้นายดวงตอบเอง ผมจะไปตอบแทนได้อย่างไร ไม่ใช่เรื่องของผม
ถ้านายดวงเข้ามากระทรวงมหาดไทย จึงจะเป็นเรื่องของผม ทหารยศว่าที่ ร.ต. มันเด็กๆ
ถ้านายดวงเข้าไปได้จริง จะให้ไปทำความสะอาดกระทรวงกลาโหม ให้ไปขัดปืนใหญ่หน้ากระทรวง นามสกุลอยู่บำรุง ก็อยู่ที่ไหน บำรุงที่นั้น' ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะชี้แจงสังคมอย่างไร เพราะเมื่อ ร.ต.อ.เฉลิมได้เป็นรัฐมนตรี นายดวงก็ได้ยศคืนทันที ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ต้องถามกลับว่าตอนที่ให้นายดวงออกจากราชการ โดยกล่าวหาว่านายดวงฆ่าคนตายมีความเหมาะสมหรือไม่
แต่เมื่อศาลได้ยกฟ้องคดีนี้ไปแล้ว ผ่านมา 7 ปีแล้ว ตนสามารถตอบสังคมได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องศักดิ์ศรี แต่เป็นเรื่องความถูกต้องชอบธรรมส่วนมีความไปได้หรือไม่ที่นายดวงจะถูกขอตัวมาช่วยราชการกระทรวงมหาดไทยนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีความเป็นไปได้ นายดวงคงไม่ถนัดงานด้านนี้ ทั้งนี้ ไม่ห่วงว่าเรื่องนี้จะถูกยกเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะตนถูกโจมตีเป็นประจำอยู่แล้ว
และถ้าใครนำเรื่องขึ้นมาโจมตีตน รัฐบาลคงมีอายุประมาณ 20 ปี เพราะประเด็นนี้เป็นเรื่องไร้สาระมากพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวว่า ยังไม่รู้เรื่อง เพราะตนเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ โดยเงื่อนไขการขอกลับเข้ารับราชการมีความซับซ้อนทางกฏหมาย ต้องขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ทั้งนี้ ถึงแม้เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของข้าราชการประจำจะยังไม่ทราบข้อเท็จจริงใน เรื่องดังกล่าว และหากนายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) ได้เซ็นอนุมัติแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นการดำเนินการที่ข้ามขั้นตอนแต่อย่างใด ขณะที่ พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม (กห.) กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่เป็นสิทธิตามปกติของข้าราชการที่ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน มีสิทธิกลับเข้ารับราชการได้ หากคดีความสิ้นสุดและไม่พบว่ามีความผิด ทั้งนี้ โดยสามัญสำนึก การขอกลับเข้ารับราชการจะต้องให้คดีถึงที่สุดจริงๆ และก่อนที่กระทรวงกลาโหมจะพิจารณาเรื่องใด จะมีฝ่ายกฎหมายและกรมพระธรรมนูญดูอย่างรอบคอบก่อน โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่มาจากพลเรือน เท่าที่ตนทราบจะยิ่งรอบคอบมากกว่ามาจากทหาร เพราะจะกลั่นกรองอย่างมาก เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด หรือเกิดขึ้นน้อยที่สุด 'นอกจากนี้ เหตุผลให้กลับเข้ารับราชการจะพิจารณาตามความรู้สึกไม่ได้ สมมติว่าคนๆ นั้น อาจจะเคยมีชื่อเกี่ยวข้องในคดี จนเป็นข่าวใหญ่โตทางสื่อ แต่ข้อเท็จจริงก็คือข้อเท็จจริง' พล.ท.พีระพงษ์ กล่าว ด้านนางสุพัตรา รอดวิมุต ภรรยา ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุต หรือ ดาบยิ้ม อดีตตำรวจกองปราบฯ ซึ่งถูกยิงเสียชีวิต ว่า เพิ่งได้ทราบข่าว แต่ก็ไม่ทราบจะทำอย่างไรต่อไป ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้บอกกับลูกชายว่าอยากให้เขาให้ตั้งใจเรียนหนังสือ เพราะเราไม่สามารถสู้อำนาจเงินและบารมีได้ ทำได้เพียงเก็บความรู้สึกต่างๆ ไว้ภายในสำหรับนายดวง อยู่บำรุง เคยถูกถอดยศและปลดยศเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีสังหาร ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุติ หรือ ดาบยิ้ม เมื่อคืนวันที่ 29 ตุลาคม 2544 ในทเวนตี้ผับ และหลบหนีออกนอกประเทศ ทำให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในขณะนั้น ได้ลงนามในคำสั่งปลดออกจากราชการ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 และถอดยศทหารเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกาย ปีเดียวกัน ต่อมาศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2547 โดยอัยการไม่ยื่นอุทธรณ์ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=27995&catid=1 'สมัคร'ไม่ห่วงคนเอาเรื่องคืนยศ'ลูกดวง'โจมตีรัฐบาล ผู้อ่าน 103 คน วันที่ 22 เมษายน 2551 เวลา 14:11:08 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่นายดวง อยู่บำรุง บุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ขอกลับเข้ารับราชการและรับยศว่าที่ ร้อยตรีคืน ว่า ตนเห็นเรื่องนี้แล้ว และได้ลงนามอนุมติไปแล้ว แต่ไม่ทราบว่านายดวงไปสังกัดหน่วยงานใด เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตน เนื่องจากเป็นเรื่องของนายทหารเพียงคนเดียว นายดวงจะไปสังกัดหน่วยงานใดก็เป็นเรื่องของนายดวง ทั้งนี้ ไม่ห่วงว่าจะมีการยกเรื่องนี้ขึ้นมาโจมตีรัฐบาลเมื่อถามว่า การที่นายดวงได้คืนยศดังกล่าว จะถือเป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคตหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ตัวอย่างเรื่องนี้มีอยู่แล้ว โดยเรื่องนี้ทางกองทัพได้ตั้งเรื่องมาอย่างเรียบร้อยและคดีของนายดวงได้ยุติ ไปแล้ว ตนจึงลงนามไปhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=28031&catid=1
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
login not found
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 22-04-2008, 15:28 » |
|
ผู้บังคับบัญชาไม่รู้เรื่อง แต่ไปถึงรมต.กระทรวง เฉลิมอ้างโดนใส่ร้ายจนไล่ออกจากราชการ ความจริงขาดราชการ จนถูกออกจากราชการ แต่ได้คืนยศ ประเทศไทย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นทร์
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 22-04-2008, 15:51 » |
|
เขาจะทำไปเพื่ออะไรเนี่ย...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
|
|
|
สมชายสายชม
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: 22-04-2008, 16:17 » |
|
อยากถามไอ้หมักว่า " เซ็นต์ส่งเดช หรือเปล่า" ระเบียบข้อหนึ่งของการสมัครเข้ารับราชการทหาร " ต้องมีความประพฤติดี เรียบร้อย" มีการตรวจสอบประวัติก่อนหรือเปล่า .. เคยเป็นนักเลงหัวไม้มาก่อน หรือเปล่า น่าจะไปสืบค้นประว้ติตามสถานีตำรวจท้องที่ต่างๆก่อน นะ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-04-2008, 17:16 โดย สมชายสายชม »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
watson
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: 22-04-2008, 18:42 » |
|
แล้วไม่คิดจะให้ความเป็นธรรมกับลูกเมียของดาบยิ้มมั้งเหรอ ฆาตกรยังลอยนวล คดีก็ยังไม่หมดอายุความ ทำไมตำรวจไม่ทำคดีต่อ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
An.mkII
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: 23-04-2008, 06:06 » |
|
ที่แท้!ทีมเลขาฯ'สมัคร'ต้นเรื่องดึง'ลูกดวง'กลับกรม ผู้อ่าน 462 คน วันที่ 22 เมษายน 2551 เวลา 18:08:10 น. แหล่งข่าวจากกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง นายดวงเฉลิม อยู่บำรุง บุตรชายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กลับเข้ารับราชการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หนังสือฉบับดังกล่าวมีการดำเนินการจัดทำจากสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.ต.สัมพันธ์ ศรีราชบัวผัน หัวหน้าสำนักงานเลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ทำเรื่องเสนอการกลับเข้ารับราชการ ซึ่งมี พล.อ.อุดมชัย องคสิงห์ เลขานุการ รมว.กลาโหม เป็นผู้นำเรียนต่อนายสมัครเพื่อลงนามอนุมัติ แหล่งข่าวกล่าวว่า ภายหลังที่ ร.ต.อ.เฉลิม เข้าหารือกับ นายสมัคร เพื่อร้องขอให้บุตรชายกลับเข้ารับราชการทหารอีกครั้ง ซึ่งนายสมัคร เคยสอบถาม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ถึงเรื่องนี้ แต่ พล.อ.อนุพงษ์ บอกว่า นายดวงเฉลิม ไม่ได้เป็นกำลังพลในสังกัดกองทัพบก แต่เป็นกำลังพลของกองบัญชาการทหารสูงสุด จึงต้องสอบถามไปยัง พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
“แต่ พล.อ.บุญสร้าง ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ทำให้ทางสำนักเลขานุการ รมว.กลาโหม ดำเนินการเรื่องนี้ไปก่อน แล้วให้นายสมัครลงนามอนุมัติ แต่ พล.อ.บุญสร้าง ยังไม่ทราบเรื่อง เพราะยังไม่เสนอถึงกองบัญชาการทหารสูงสุด เพื่อให้กลับเข้าต้นสังกัด หากตำแหน่งที่กองบัญชาการทหารสูงสุดหรือตำแหน่งที่นายดวงเฉลิม เคยสังกัดอยู่ คือ ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ว่างก็สามารถกลับเข้ามาทำงานได้ทันที แต่ต้องมีการตรวจสอบว่าคุณสมบัติจะต้องไม่ขัดต่อระเบียบกระทรวงกลาโหมด้วย”เเหล่งข่าวกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงกลาโหมว่า เมื่อปี 2544 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็น รมว.กลาโหม และ มี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็น รมช.กลาโหม โดยมี พล.อ.ธวัช เกษร์อังกรู เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม แล้วนายดวงเฉลิม อยู่บำรุง ได้ทำเรื่องขอเข้ารับราชการผ่าน พล.ต.ศรชัย มนตริวัต เลขานุการ รมว.กลาโหม เพื่อขอบรรจุเข้ารับราชการ โดยได้ยศร้อยตรี โดยประจำสำนักงานเลขานุการ รมว.กลาโหม จากนั้นได้ขอไปช่วยราชการเป็นนายทหารประจำ ศรภ. ภายหลังจากมีเรื่องกับ “ดาบยิ้ม” ก็ได้มีการคำสั่งพักราชการ จนกระทั่งมีคำสั่งที่ 2 ตามมา คือปลดออกจากราชการ โดย พล.อ.ชวลิต สั่งการให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ลงนามแทนในการปลดออกจากราชการ ทั้งนี้เจ้ากรมพระธรรมนูญสมัยนั้น ได้เป็นคำเสนอให้ปลด “ดวงเฉลิม” ออกจากราชการ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=28071&catid=1
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
p
|
|
« ตอบ #45 เมื่อ: 23-04-2008, 09:00 » |
|
http://www.dmbcrtaf.thaigov.net/law-rya.htmประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๔๕ ผู้ใดเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ชั้นประทวน ชั้นนายสิบ ชั้นจ่า หรือเป็นพลทหารก็ดี ถ้าและมันขาดจากหน้าที่ราชการโดยมิได้รับอนุญาต หรือมันขาดจากราชการในเมื่อพ้นกำหนดอนุญาตลา แล้วก็ดี แม้เป็นไปด้วยความเจตนาจะหลีกเลี่ยงจากราชการตามคำสั่งให้เดินกองทหาร หรือเดินเรือไปจากที่ หรือคำสั่งเรียกระดมเตรียมศึกนั้นไซร้ ท่านว่ามันมีความผิดฐานหนีราชการ อีกนัยหนึ่งมันขาดจากราชการ จนถึงกำหนดที่จะกล่าวต่อไปนี้ คือ ๑) ขาด ๒๔ ชั่วโมง ต่อหน้าราชศัตรู ๒) ขาด ๓ วัน ถ้ามันใช่ต่อหน้าราชศัตรู แต่ในเวลาสงคราม หรือในเขตที่ใช้กฎอัยการศึก ๓) ขาด ๑๕ วัน ในที่และเวลาอื่น ๆ นอกจากที่กล่าวมาแล้วดังนี้ไซร้ ท่านก็ว่ามันมีความผิดฐานหนี ราชการดุจกัน เหลิมโกหกประชาชนอีกแล้วครับ ที่บอกว่าลูกชายถูกให้ออกจากราชการ เนื่องจากมีโทษฆ่าคนตายซึ่งศาลได้ยกฟ้องไปแล้ว โกหกแบบตาใสๆอีกแล้วครับ แท้ที่จริงลูกของเหลิมมันหนีราชการเกิน 15 วันครับ งานนี้หมักถูกแหกตา และเสีย ห - มา - อีกแล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
|
|
|
|