ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 22:40
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  แก้รัฐธรรมนูญ 'เป้าหมาย..ปากอ่าว'....((เหื้eเลือกเหื้e ย่อมได้เหื้e)) 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
แก้รัฐธรรมนูญ 'เป้าหมาย..ปากอ่าว'....((เหื้eเลือกเหื้e ย่อมได้เหื้e))  (อ่าน 904 ครั้ง)
oho
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 712


« เมื่อ: 22-04-2008, 11:34 »




เปลวสีเงิน


แก้รัฐธรรมนูญ 'เป้าหมาย..ปากอ่าว'


22 เมษายน 2551    กองบรรณาธิการ

ก็ขอเกาะชายกางเกง "พ.ต.ท.ทักษิณ" ขึ้นสวรรค์ด้วยครับ เพราะโครงการเดินสายทำบุญ ๙๙ วัดของท่าน ดี-เด่น-ดัง สมอยากจริงๆ ก็คงได้บุญหนัก เพราะโทรทัศน์ช่อง NBT


คน ของท่านออกข่าวว่าถึงขั้น "ขาอ่อน" หวิดตกบันไดวิหารขณะขึ้นไปไหว้พระที่กาฬสินธุ์

คง  "หนักบุญ" น่ะ อย่าไปคิดอะไรมาก ผมดูภาพแล้วเห็นพระช่วยพยุงขึ้นก็หายห่วง เพราะลองมี "พระนำหน้า" อย่างนั้นแล้ว

ต่อให้มีมาร้อยมาร ท่านก็ชนะทั้งร้อย เชื่อเต๊อะ!

เห็นข่าวบอกว่านายประชา จิตสุทธิผล "ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์" นำหน้าชาวบ้านเป็นพันต้อนรับขับสู้คณะแสวงบุญล้างบาปของอดีตนายกฯ ทักษิณเต็มพิกัด ก็น่าชื่นใจครับ..น่าชื่นใจจริงๆ


พระพุทธสัมฤทธิ์ "นิรโรคันตราย" หรือหลวงพ่อองค์ดำชุ่มเย็น พระคู่บ้าน-คู่เมืองของชาวกาฬสินธุ์ที่ท่านไปกราบไหว้ที่วิหารนั้น เขาร่ำลือกันว่าท่าน "ประสิทธิเม" ยิ่งนัก

คือ "ศักดิ์สิทธิ์" ขออะไรเป็นต้องได้ตามที่ขอทุกรายไป เขาว่ากันอย่างนั้น แต่มีเคล็ดลับสำคัญอยู่ว่า  คนที่ไปกราบไหว้อธิษฐานขอนั้น ต้องเป็นคนที่สุจริตกาย สุจริตวาจา และสุจริตใจ


และสิ่งที่ขอ ก็ต้องเป็นสิ่งที่ถูก สิ่งที่ชอบ สิ่งที่ประกอบด้วยธรรม เท่านั้นท่านจึงจะบันดาลให้เป็นกุศลบุญราศีตามที่ขอ!

"พระนิรโรคันตราย" ถ้าจะถามกันว่า "ท่านศักดิ์สิทธิ์ด้านไหน?" คำตอบทั่วไปคือ ขึ้นชื่อว่า "รูปเคารพ" อันเป็นสัญลักษณ์ถึง "สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" นั้น ทุกคนที่กราบไหว้

ใจสว่าง-ใจสะอาด-ใจสงบ  และพลันใจถึง ณ วินาทีไหน ก็ ณ วินาทีนั้น..พลันประสิทธิ์สิ่งประสงค์แล

แต่ถ้าพิศตามเฉพาะนาม "หลวงพ่อพระพุทธสัมฤทธิ์นิรโรคันตราย"  ก็คงพอมองเห็นเค้าลางได้จากพระนามท่านที่แยกเป็นศัพท์ๆ ดังนี้ คือ นิระ+โรคะ+อันตรายะ

นิระ  หมายถึงปราศจาก-พ้นไป-หมดไป-แคล้วคลาดปลอดภัย 

โรคะ  หมายถึงความเจ็บไข้ และอะไรก็ตามที่ทำให้เดือดร้อนรำคาญ

ส่วน "อันตราย" ใช้ทับศัพท์ในภาษาไทยจนเข้าใจกันแล้วนะครับ คนที่มาปองร้ายก็นับเป็นอันตรายอย่างหนึ่งด้วย

เมื่อนำแต่ละศัพท์มาเชื่อมต่อเข้าด้วยกันก็เป็น "นิรโรคันตราย" ฉะนั้น ไปกราบไหว้ขอพรจากท่าน อานิสงส์แห่งกุศลกรรมที่จะเกิดก็คือ

จะเป็นผู้ปราศจากแล้ว และเป็นผู้พ้นแล้ว เป็นผู้รอดแล้ว จากทุกข์โศก โรคภัยไข้เจ็บและภยันตรายจากการปองร้ายหมายขวัญทั้งหลาย-ทั้งปวงนั่นแล! ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ที่ผมพูดเสียยืดยาวนี้ก็เพราะเห็นว่า ๑.ทักษิณรวยทรัพย์สมบัติ-นารีสมบัติแล้ว ๒.ทักษิณรวยข้าทาสบริวารสมบัติแล้ว ๓.ทักษิณรวยอำนาจวาสนา อีกทั้งยศถาบรรดาศักดิ์แล้ว

ฉะนั้น   เมื่อกราบไหว้หลวงพ่อนิรโรคันตราย   ท่านไม่ต้องไปบนบานอธิษฐานขออะไรๆ ทำนองนั้นอีก ทั้งที่จะขมุบขมิบปากขอกลับมาเป็นนายกฯ อีกก็ไม่ต้อง

ขอเรื่องสุขภาพร่างกาย อย่าให้เป็นทั้งโรคปัจจุบันทันด่วน ทั้งโรคเวร โรคกรรม     ทั้งโรคเรื้อรัง ทั้งโรคภัยไข้เจ็บทั่วไป รวมทั้งโรคไข้โป้ง เท่านั้นก็พอ

"ข้อเข่า" ท่านไม่ดีเลย..เห็นมั้ย?!

ก็คงเข้าตำรา "หลงตัว ลืมตาย-หลงกาย ลืมแก่" นั่นแหละครับ เลยใช้ข้อเข่าไม่บันยะบันยัง แค่ขึ้นบันไดพระวิหารหน่อยเดียวจึงออกอาการ "เข่าอ่อน" ให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเขาเห็นจนได้

ฉะนั้น  ตอนนี้เอาสุขภาพไว้ก่อนเถอะครับ ต่อให้รวยเป็นแสนล้าน แต่ต้องเป็นอัมพาตทั้งท่อนล่าง-ท่อนบนเรียกว่า "แข็งทั้งตัว" อยู่บนเตียงตลอดวัน ตลอดคืน

อย่างนั้น "แสนล้าน" จะมีประโยชน์อะไร?

นี่..ผมห่วงจากใจจริงนะครับ..ถึงบอก ปีนี้ท่านก็ ๕๘-๕๙ แล้ว ไม่ใช่ ๑๘-๑๙ ทำชะล่าไปเถอะ!

ทางที่ดีนะ  ผมว่าคุณทักษิณร้องเพลง "ม่ายอาววว  ถอยยย...ดีกว่า" ของใหม่  เจริญปุระ  จะเป็นคุณประโยชน์ในทางยาว  และเป็นผลดีกับสุขภาพท่านมากกว่า

ส่งซิกแนลไปเถอะครับ   ให้ลูกน้องในพรรคพลังประชาชนลดระดับความ***นกระหือรือ "สนองคุณนาย" ด้วยการถือดีในอำนาจแก้รัฐธรรมนูญไว้ก่อน เพราะถึงตอนนี้ก็เห็นแล้วว่า

เร่งฟืน-เร่งไฟขนาดไหน น้ำเดือด..แต่ข้าวก็ยังดิบ!

แล้วจะกินได้ยังไง ท้องขึ้นตาย..ห่ะ!?

ใจเย็นๆ ครับ ฟ้าลิขิต  มิสู้คนลิขิต  ดอกอุตพิดถึงสวย  แต่คนก็ไม่ดม ขนาดลมไม่โชยยังอ้วกจะแตก

พฤติกรรมสมุนท่านตอนนี้ก็ราวๆ นั้น รัฐธรรมนูญ ปี ๕๐ นี้ คนส่วนใหญ่ก็เข้าใจตรงกันแต่แรกว่าต้องแก้  เพียงอาศัยเป็นท้องให้กำเนิดรัฐสภาเป็นตรายางประชาธิปไตย ก็จะจับใส่กรงลอยน้ำไปกันอยู่แล้ว

แต่ตอนนี้พวกซ่า-ซื่อบื้อ  ทำบ่อนแตก  ไก่ตื่นไปหมด  สิ่งที่เป็นคุณกับฝ่ายท่าน แค่อาศัยเกาะๆ แล้วแก้ไปตามสถานการณ์ แค่นั้น..บ้านเมืองจะไปซะทางไหนเสีย

มันตกอยู่ในมืออยู่แล้ว เหมือนหมูในอวย!

แต่ตอนนี้..ไม่แล้ว โฉ่งฉ่าง เตะกระถาง เตะหมู เตะหมา ตาขวาง เคว้งคว้างด่ากลางถนนจนเขาจับได้ว่า  พวกพลังประชาชนกำลังฉวยโอกาสใช้ "เสียงข้างมาก" ด้วยนึกว่าประชาชนเป็นใจ

จะแก้รัฐธรรมนูญของคนทั้งประเทศ เพื่อช่วย "ทักษิณ" เพียงคนเดียว

ช่วยให้กลับมาครองบ้าน-ครองเมืองตามเส้นทางเลือกตั้ง

ช่วยให้รอดพ้นคดีทุจริต-คอรัปชั่นทั้งที่อยู่ในศาลและนอกศาล!

มีคนโง่ในโลกนี้บ้างไหมครับที่จะแก้รัฐธรรมนูญ แล้วเที่ยวตะโกนก่นอาฆาตให้เขารู้กันทั้งบ้าน-ทั้งเมืองทำนองว่า

กูจะแก้รัฐธรรมนูญเป็นการล้างแค้น!

ล้างแค้น กกต.ล้างแค้น ป.ป.ช. "ล้มมันซะเลย" โทษฐานที่ทำให้พรรคกู ลูกพี่กูต้อง "กระอักเป็นเลือด"


ก็มีแต่นอมินีฉลาดๆ นี่เท่านั่นแหละมั้งที่ "บ้าน้ำลาย" จนชาวบ้านจับได้-ไล่ทันว่า มันจะแก้รัฐธรรมนูญ "สนองตัณหา" ของพวกมันอย่างเดียว?!

โพลล์ที่เคยพรุ่งสูงปรี๊ดว่า "ให้แก้" ด้วยทัศนคติเดิม คือแก้เพื่อประโยชน์สังคมรวม ถึงตอนนี้ ชาวบ้านจับทิศทางได้ว่าจะแก้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว หวังช่วยทักษิณให้พ้นคดี กลับเข้ามาเล่นการเมือง แถมจะยุบ กกต.ยุบ ป.ป.ช.เป็นการล้างแค้น

ผลสำรวจใหม่ "พุ่งปรี๊ด" เหมือนกัน แต่พุ่งไปในทิศทางใหม่ว่า

"แบบนี้..ไม่ให้แก้ (โว้ย)"!!


เนี่ย..ลูกพี่ฉลาด แต่มีลูกน้องโง่ๆ ที่หวังแค่เงิน มันก็ทำให้ "ตายยกเล้า" ได้ง่ายๆ เหมือนกัน

ท่านประธานวุฒิสภา "นายประสบสุข บุญเดช" ท่านให้ความเห็นว่า น่าจะใช้ไปก่อนสัก ๑ ปี แล้วค่อยแก้ และอีกอย่าง ถึงตอนนี้ก็ไม่พบว่ามีปัญหาใดเกิดขึ้นจากการใช้รัฐธรรมนูญจนเป็นเหตุให้ต้องรีบแก้

มีแต่ "เฉพาะพรรค-เฉพาะตัวคน" ที่ทำผิดกฎหมายเองเท่านั้น  เป็นปัญหา..นี่ผมว่าเองนะครับ ประธานวุฒิสภาท่านไม่ได้ว่า!

และที่ผมฟังจากข่าว "คุณวิษณุ เครืองาม" ท่านก็แนะว่า ควรจะตั้งคณะขึ้นมาสำรวจถึงข้อบกพร่องที่ควรแก้ไขของรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นประชาชน

แล้วรวบรวมเป็นแต่ละประเด็นขึ้นมาเสียก่อน  จากนั้นค่อยไปถึงขั้นตอนการแก้ ผมก็ว่าเป็นเรื่องสมเหตุ-สมผล ถือเป็นข้อเสนอที่ประกอบด้วยสติ-สัมปชัญญะของผู้เสนออย่างยิ่ง

ส่วนประเด็นตั้ง ส.ส.ร.ที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง เสนอนั้น มองเผินๆ ว่าใช่  แต่มองจริงๆ แล้ว  ไม่ใช่ข้อเสนอ  แต่เป็นทางพล็อบแพล็บออกไปของฝ่ายประชาทักษิณเท่านั้น ในเมื่อไปซ้ายก็ถูกเตะสกัด ไปขวาก็ถูกถีบเด้ง

ก็ต้องคิดมุกสวยๆ เป็นทางรอดเฉพาะหน้า แล้วค่อยไปพลิกแพลงเอาในช็อตต่อไป เพียงขอให้ "ลูกอยู่ในตีน" ก่อนเท่านั้นแหละ!

เพราะการจุดพลุ "แก้รัฐธรรมนูญ" นี้ พลังประชาชนไม่ได้คิดแก้ด้วยสติ-สัมปชัญญะจนตกผลึกเป็นระบบ-เป็นกระบวนการแต่แรก  คือไม่ได้คิดแก้ด้วยบริสุทธิ์ใจเพื่อ "การเมืองรวม" ในอนาคตอย่างที่นายสมัครมาอ้างทีหลัง

เจตนาดิบคือ  แก้ด้วยถือดีในอำนาจ แก้เพื่อหวัง "แก้ปัญหา" ในผลประโยชน์พรรคตัวเองเท่านั้น ดังจะเห็นว่า

นายสมัครจุดประเด็นพูดเป็นวันแรก-คนแรก   หลัง กกต.ลงมติว่าให้ใบแดงนายยงยุทธ  ติยะไพรัช และพูดชัดว่าแก้มาตรา ๒๓๗ มาตราเดียว หวังผล "กฎหมายเป็นคุณ" ใช้ย้อนหลังในศาลรัฐธรรมนูญ

วันที่ ๒ ลูกน้องประกาศจะแก้มาตรา ๓๐๙ เพิ่มเป็น ๒ มาตรา

วันที่ ๓ พรรคประกาศจะแก้ ๕ มาตรา

วันที่ ๔ ประกาศใหม่เป็นแก้หมดทั้งฉบับ

วันที่ ๕ ประกาศเจตนาเพิ่มเติม แก้เพื่อยุบ กกต.และ ป.ป.ช.

สรุปแล้ว "มั่วไปหมด" หาหลักยืนในการแก้ไม่ได้ "หางโผล่" โด่เด่ไปหมด ว่างั้นเถอะ!

นี่..วันนี้  เปลี่ยนอีกแล้ว จากที่ถือดีในอำนาจ "พรรคเดียว" ตั้งกรรมาธิการยกร่าง  เข้าวาระแรก  วาระ  ๒-๓ รวดเดียวจบเดือนสิงหา.พอถูกเบอร์  ๓๘  ยันหนักเข้า  เปลี่ยนเป็นอิง "ความเห็นหลากหลาย" ในคณะกรรมาธิการ  ผมว่าทางที่ดี "ยุติ" ไว้ก่อน  รอให้ลูกพี่ใหญ่ "เดินสายครบ  ๙๙ วัด"  บางทีแค่บารมีทักษิณก็แก้ได้  ไม่ต้องอาศัยบารมี "ราหู-สมัคร" หรอก..บอกไม่เชื่อ.


 

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: