ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 20:16
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ==รัฐธรรมนูญ 2540 สวรรค์ของผู้นำเผด็จการและรัฐบาลผูกขาด ที่อดีตไทยรักไทยใฝ่หา== 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] 2 3
==รัฐธรรมนูญ 2540 สวรรค์ของผู้นำเผด็จการและรัฐบาลผูกขาด ที่อดีตไทยรักไทยใฝ่หา==  (อ่าน 8352 ครั้ง)
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« เมื่อ: 21-04-2008, 09:26 »

จากประัเด็นทางการเมืองเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีการชูประเด็นโดยฝ่ายสนับสนุน
ให้กลับไปใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 เป็นตัวตั้งต้นแทนที่ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550
เรียกง่ายๆ คือจะฉีกรัฐธรรมนูญ 2550 ทิ้ง

ทำให้อยากจะเขียนบทความวิเคราะห์สาเหตุที่ฝ่ายอดีตไทยรักไทย และทีมงาน
แสดงเจตนาอย่างแรงกล้ายกย่องเชิดชูรัฐธรรมนูญ 2540 แบบสุดลิ่มทิ่มประตู
ขณะที่สับแหลก รัฐธรรมนูญ 2550 จนไม่มีดี

ทั้งที่ถ้าตั้งคำถามว่ารัฐธรรมนูญ 2540 เป็นประชาธิปไตยมากว่า 2550 จริงหรือไม่
ก็ไม่ชัดเจนเด็ดขาด เพราะฉบับปี 2540 แม้จะได้เลือกตั้ง สสร. แต่ในความเป็นจริง
ก็ไม่มีใครที่ลงคะแนนเลือกตั้งสามารถล่วงรู้ว่า สสร. ที่ตนเลือกจะไปเขียนรัฐธรรมนูญ
ออกมาหน้าตาเป็นอย่างไรแน่ และในที่สุดเมื่อเขียนเสร็จก็นำมาใช้เป็นกฎหมายสูงสุด
โดยไม่ได้ผ่านการรับรองขั้นสุดท้ายจากประชาชน

ในขณะที่รัฐธรรมนูญ 2550 แม้จะถูกโจมตีว่าไม่มีการเลือกตั้ง สสร. แบบปี 2540
แต่ในขั้นตอนสุดท้ายประชาชนมีสิทธิอย่างเต็มที่ ในการพิจารณารับรองในขั้นสุดท้าย
ซึ่งทำให้ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประวัติศาสตร์ที่ได้รับการรับรอง
เนื้อหาจากประชาชน


ความคิดของรัฐบาลที่จะโละทิ้งเนื้อหาทั้งหมด กลับไปเอาเนื้อหาจากฉบับ 2540
ที่ไม่เคยผ่านการรับรองขั้นสุดท้ายมาใช้อีก มันหมายความว่าอย่างไร?


โชคดีที่ผมไม่ต้องเมื่อยมือพิมพ์บทความ เนื่องจากไปพบบทความ อ.รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์
เขียนเอาไว้ 2 บท ตั้งแต่ปลายรัฐบาลทักษิณ 1 ที่ช่วยตอบคำถามได้อย่างครอบคลุม

สามารถสรุปสั้นๆ คือ "รัฐธรรมนูญ 2540 เป็นสวรรค์ของผู้นำเผด็จการและรัฐบาลผูกขาด"
ซึ่งเป็นสิ่งที่อดีตไทยรักไทยทั้งหลายยังคงใฝ่หานั่นเอง 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2008, 09:51 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #1 เมื่อ: 21-04-2008, 09:31 »

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับอำนาจผูกขาดทางการเมือง
จากท่าพระจันทร์ถึงสนามหลวง โดย รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์
http://www2.hawaii.edu/~porntawe/thaiarticles/rangsun01/2003_02_27.html

        พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็น Strong Prime Minister อย่างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับนายชวน หลีกภัย
นายบรรหาร ศิลปอาชา และพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ

        ความเป็น Strong Prime Minister เป็นผลจากการที่พรรคไทยรักไทยมีอำนาจผูกขาดทั้งในตลาดพรรคการเมืองและ
ตลาดนักการเมือง อันเป็นผลจากการที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมการเมืองไทย
จากระบบพหุพรรค (Multi-party System) ไปสู่ระบบทวิพรรค (Bi-party System) พรรคไทยรักไทยสนองตอบต่อโครงสร้าง
สิ่งจูงใจที่กำหนดโดยรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 อย่างเต็มที่

        ในเมื่อรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 กำหนดกฎกติกาควบคุม กำกับและตรวจสอบสังคมการเมืองไทย เพื่อให้ได้มาซึ่ง
Strong Government รัฐบาลพรรคไทยรักไทย จึงเป็น Strong Government สนองตอบเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญฉบับนี้
แม้ Strong Government มิจำต้องมี Strong Prime Minister แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องการเป็น Strong Prime Minister
ในขณะเดียวกับที่รัฐบาลพรรคไทยรักไทยเป็น Strong Government

        พ.ต.ท.ทักษิณ เสพสุขจากการใช้อำนาจผูกขาดในตลาดการเมือง อันเป็นผลจากการที่พรรคไทยรักไทยมีอำนาจผูกขาด
ทั้งในตลาดพรรคการเมืองและ ตลาดนักการเมือง พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะหัวหน้าพรรค ย่อมได้รับอานิสงส์จากอำนาจผูกขาด
ดังกล่าวนี้ ด้วยยุทธวิธีการควบและครอบกลุ่มและพรรคการเมืองต่างๆ (Mergers and Acquisitions) รวมทั้งการยึดพรรคการเมือง
บางพรรคมาเป็น "อาณานิคม" พรรคไทยรักไทยสามารถมีอำนาจผูกขาดในสภาผู้แทนราษฎร และสามารถใช้อำนาจทางการเมือง
และธนานุภาพที่มีอยู่ในการสร้างเครือข่ายความ สัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์กับสมาชิกวุฒิสภาบางภาคส่วนได้ ด้วยเหตุดังนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ
และพรรคไทยรักไทยจึงมิต้องเกรงการสูญเสียอำนาจรัฐด้วยวิถีและกระบวนการใน รัฐสภา ในเมื่อรัฐสภาอยู่ในอุ้งมือ พ.ต.ท.ทักษิณ
และพรรคไทยรักไทยนั้นเอง

        พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เพียงแต่มีอำนาจทางการเมืองในการกำกับประพฤติกรรมของสมาชิกรัฐสภาในสัด ส่วนสำคัญเท่านั้น
หากทว่าชะตากรรมของรัฐมนตรีทั้งปวงยังอยู่ในอุ้งมือ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกด้วย ทั้งนี้เพราะเหตุว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2540
ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีในการปรับคณะรัฐมนตรีอย่างเต็มที่ ดังบทบัญญัติในมาตรา 217 ที่ว่า

        "มาตรา 217 พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี
ตามที่นายกรัฐมนตรีถวายคำแนะนำ"

        ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 รัฐมนตรีต้อง "หงอ" นายกรัฐมนตรี นอกจากจะต้องไม่ "ขัดคอ" นายกรัฐมนตรี
และไม่ยืนอยู่คนละข้างกับนายกรัฐมนตรีในประเด็นนโยบายและประเด็นอื่นๆ แล้ว ยังต้องหมั่นให้สัมภาษณ์ปกป้องและ
เยินยอนายกรัฐมนตรี มิฉะนั้นอาจถูกปลดออกจากตำแหน่งได้โดยง่าย หากต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี ก็ต้องกลายเป็น
"คนจรจัด" ในสังคมการเมืองไทย หากเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็มิอาจกลับไปยึดตำแหน่งเก่าได้
เพราะเมื่อจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 (มาตรา 204) บังคับให้ต้องลาออกจากตำแหน่งสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎร และเมื่อออกจากตำแหน่งดังกล่าวนี้แล้ว ก็มีบุคคลอื่นเข้าไปสวมตำแหน่งแทน ทั้งนี้ด้วยการเลื่อน
บัญชีรายชื่อพรรคหรือการเลือกตั้งซ่อมแล้วแต่กรณี

        รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มิได้ออกแบบเพื่อให้นายกรัฐมนตรีเป็น First Among Equals ในคณะรัฐมนตรี หากแต่
ออกแบบให้เป็น Supreme Commander ของคณะรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรีมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการแต่งตั้งและ
ถอดถอนรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงมีแนวโน้มที่จะเป็น Strong Prime Minister

        ในสังคมการเมืองที่มี Strong Prime Minister รัฐมนตรีจะเป็น Strong Minister มิได้ ไม่มี Strong Prime Minister
คนใดที่ยินดีให้รัฐมนตรีคนหนึ่งคนใดหรือหลายคนตีเสมอ หากมีรัฐมนตรีคนใดทำตัวเด่นหรือมีคะแนนนิยมทางการเมือง
เสมอด้วยหรือเกินหน้า นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีที่เป็น Strong Prime Minister ย่อมต้องดำเนินการ "ดับแสง"
รัฐมนตรีดังกล่าว วิธีการ "ดับแสง" ที่ง่ายที่สุด ก็คือ การเขี่ยออกจากคณะรัฐมนตรี รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ให้อำนาจ
เพื่อการนี้โดยพร้อมมูล

        นายกรัฐมนตรีที่เป็น Strong Prime Minister ย่อมต้องการเห็นนโยบายของรัฐบาลมีชื่อของนายกรัฐมนตรีเป็น
Brand Name นายกรัฐมนตรีจะรู้สึกไม่สบายใจ หากประชาชนเริ่มเข้าใจว่า นโยบายหนึ่งนโยบายใดเป็นนโยบายของ
รัฐมนตรีบางคน โดยไม่มีชื่อนายกรัฐมนตรีเป็น Brand Name เพราะการลดความสำคัญของ Brand Name นายกรัฐมนตรี
ย่อมมีผลในการลดฐานะ Strong Prime Minister แม้ว่าความเข้าใจของประชาชนตรงต่อข้อเท็จจริงก็ตาม

        เหตุใดนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ จึงถูกปรับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการ
กระทรวงสาธารณสุขและรัฐมนตรีว่า การกระทรวงมหาดไทยตามลำดับ ในการปรับคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2545
หากมิใช่เป็นเพราะสาธารณชนรับรู้โดยทั่วกันว่า นายแพทย์สุรพงษ์เป็น "วิศวกร" นโยบาย "30 บาทรักษาทุกโรค" และ
ร.ต.อ.ปุระชัย เป็น "วิศวกร" นโยบายการจัดระเบียบสังคม

        ไม่มีใครทราบคำตอบดีไปกว่าตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เอง

        รัฐมนตรีภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 จะต้องไม่ทำตัวเด่นและดังไปกว่านายกรัฐมนตรี นอกจากจะต้องทำหน้าที่
องครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรีในยามที่นายกรัฐมนตรีถูก โจมตี สรรเสริญและยกยอนายกรัฐมนตรีในกาละอันเหมาะสม
ไม่ค้ดค้านหรือทักท้วงนโยบายที่นำเสนอโดยนายกรัฐมนตรี แม้ว่านโยบายดังกล่าวจะบ้องตื้นปานใดก็ตาม เมื่อนโยบาย
ของรัฐมนตรีเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน รัฐมนตรีที่ชาญฉลาดจะต้องไม่ลังเลใจในการประท้วง Brand Name นายกรัฐมนตรี
และป่าวร้องว่า นโยบายดังกล่าวเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรี ในยามที่จะผลักดันนโยบายที่มีนวัตกรรม รัฐมนตรีที่ชาญฉลาด
จะต้องเรียนปรึกษานายกรัฐมนตรี หากได้รับ "ไฟเขียว" จึงเดินหน้าเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา อย่าได้เสนอนโยบายเข้าสู่
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยที่นายกรัฐมนตรีมิได้รับ รู้ เพราะนอกจากจะทำให้นายกรัฐมนตรีรู้สึกเสียหน้าแล้ว โอกาสที่จะได้รับ
ความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรียังมีน้อยอีกด้วย

        รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ทำให้รัฐมนตรีต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับก่อนๆ รัฐมนตรีสามารถเป็น
Strong Minister ได้ หากถูกปรับออกจากตำแหน่ง ก็ยังมีเก้าอี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540
รัฐมนตรีมิอาจเป็น Strong Minister ได้ หากถูกปรับออกจากตำแหน่ง ก็ต้อง "ตกงาน" ทางการเมือง รัฐมนตรีภายใต้
รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่สามารถมีความเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็ม ที่ และต้องปฏิบัติตามคำบงการของนายกรัฐมนตรี
อย่างน้อยระดับหนึ่ง

        หากบทวิเคราะห์ข้างต้นนี้ถูกต้อง ย่อมไม่ยากที่จะพยากรณ์ว่า ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ จะไม่สามารถมีชีวิต
ทางการเมืองอันยืนยาว ภายใต้รัฐบาลพรรคไทยรักไทย

        พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงความเป็น Strong Prime Minister ด้วยการใช้อำนาจแต่งตั้งและถอดถอนรัฐมนตรีอย่างเต็มที่
เพียงชั่วระยะเวลาเพียง 2 ปีเศษ ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ มีคณะรัฐมนตรีถึง 6 คณะ การปรับคณะรัฐมนตรี
ส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคไทยรัก ไทยนั้นเอง โดยที่ฝ่ายค้านและสังคมการเมืองไทยโดยส่วนรวม
มิได้กดดันให้นายกรัฐมนตรีต้องปรับคณะรัฐมนตรี

        พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้วิธีการ "ลองผิด ลองถูก" ในการปรับคณะรัฐมนตรี โดยหวังว่า การ "ลองผิด ลองถูก" จะช่วยให้
คณะรัฐมนตรีของพรรคไทยรักไทยเข้าสู่ดุลยภาพที่น่าพอใจได้ แต่บ่อยครั้งที่การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นการ "ลองผิด" มากกว่า
"ลองถูก" ซึ่งสร้างความเสียหายแก่การบริหารราชการแผ่นดิน

        ตัวอย่างของความข้อนี้เห็นได้จากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กระโดดเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
เมื่อนายแพทย์เกษม วัฒนชัย ลาออกจากตำแหน่ง (การปรับ ครม. 14 มิถุนายน 2544) แต่แล้วก็พานพบว่าการปฏิรูปการศึกษา
เป็นเรื่องใหญ่และยากเกินกว่าผู้ดำรง ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะจัดการได้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำผิดซ้ำสองเมื่อแต่งตั้งนายสุวิทย์ คุณกิตติ
ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (การปรับ ครม. 9 ตุลาคม 2544) โดยที่นายสุวิทย์มิได้มีความคิดพื้นฐานว่า
จะปฏิรูปการศึกษาอย่างไร แต่การให้นายสุวิทย์นั่งควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี มีผลในการทำลายพลวัตของงานปฏิรูปการศึกษา
เพราะการบริหารกองทุนหมู่บ้านมีสิ่งจูงใจทางการเมืองสูงกว่า เนื่องจากใช้เป็นกลไกในการสร้างคะแนนนิยมทางการเมืองได้
เพียงชั่วเวลา 2 ปี รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการถึง 4 คน โดยที่ยังไม่แน่ชัดว่าเข้าสู่ดุลยภาพแล้วหรือไม่

        การย้ายนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา จากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไปสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(การปรับ ครม. 5 มีนาคม 2545) แต่แล้วกลับปรับสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (การปรับ ครม. 8 กุมภาพันธ์ 2546)
นับเป็นการ "ลองผิด ลองถูก" โดยแท้ ทั้งๆ ที่นายพงศ์เทพมีความสันทัดในงานบริหารกระบวนการยุติธรรม หาได้มีความสันทัด
ในงานบริหารเศรษฐกิจไม่

        แม้ว่าสังคมการเมืองไทยจะแปรเปลี่ยนสู่ระบบทวิพรรค ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 แต่การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ
มีคณะรัฐมนตรีถึง 6 คณะในช่วงเวลาเพียง 2 ปี แสดงให้เห็นว่่า ระบบทวิพรรคมิได้เกื้อกูลให้สังคมการเมืองไทยมีเสถียรภาพดี
ไปกว่าระบบพหุ พรรคชนิดสิ้นข้อสงสัย ในระบบพหุพรรค ความข้ดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเป็นตัวแปรสำคัญที่สั่นคลอนเสถียรภาพ
ของ รัฐบาล แต่ความขัดแย้งภายในพรรคไทยรักไทยเป็นตัวแปรที่สั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล ทักษิณ บัดนี้ ประชาสังคมไทย
ได้รับทราบจากปาก ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อเครือญาติ

        พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามแสดงตนเป็น Strong Prime Minister มิใช่เพียงด้วยการใช้อำนาจในการปรับคณะรัฐมนตรี
ด้วยความถี่สูงยิ่ง หากยังใช้อำนาจในการแต่งตั้ง โยกย้าย และถอดถอนข้าราชการอีกด้วย บรรดาผู้นำข้าราชการที่ไม่
"เข้าตา" นายกรัฐมนตรี อาจถูกถอดถอนและโยกย้ายจากตำแหน่งได้โดยง่าย ทั้งนี้ด้วยข้อหาไม่สนองนโยบายรัฐบาลภายใต้
รัฐบาลพรรคไทยรักไทย ตลาดข้าราชการเป็นตลาดของผู้ซื้อ หากผู้ขาย (ข้าราชการ) ไม่สนองตอบความต้องการของผู้ซื้อ (รัฐบาล)
ผู้ขายอาจไม่มีที่ยืนในระบบราชการ รัฐบาลพรรคไทยรักไทยแสดงให้เห็นโดยชัดเจนว่า ข้าราชการที่ได้ดิบได้ดีเป็นพิเศษ
ล้วนปฏิบัติราชการสนองนโยบายรัฐบาลทั้งสิ้น

        Strong Government ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ทำให้ผู้นำข้าราชการสิ้นฐานะการเป็น "ผู้ประกอบการนโยบาย"
(Policy Entrepreneurs) หรือผู้ผลิตนโยบาย รัฐบาลทำหน้าที่ผลิตนโยบายเอง ข้าราชการมีฐานะเป็นเพียงผู้ปฏิบัติ
รัฐบาลทักษิณรุกคืบเข้าไปกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาและนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ซึ่งเดิมอยู่ในปริมณฑลแห่งอำนาจ
ของกลุ่มขุนนางนักวิชาการ (Technocrats)

        คำถามพื้นฐานมีอยู่แต่เพียงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็น Strong Prime Minister ที่ดีเพียงใด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2008, 09:53 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
oho
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 712


« ตอบ #2 เมื่อ: 21-04-2008, 09:36 »



 
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #3 เมื่อ: 21-04-2008, 09:40 »

หลังจากผ่านการทดลองใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ที่ก่อกำเนิดผู้นำเผด็จการ Strong Prime Minister
จนนำพาประเทศไปพบกับรัฐประหาร ทำให้ในการร่างรัฐธรรมนูญ 2550 มีการป้องกันแก้ไขปัญหา
ที่เคยเกิดจากรัฐธรรมนูญ 2540

แน่นอนว่าถ้าใช้รัฐธรรมนูญ 2550 เป็นฐานในการแก้ไขต่อไป ก็จะทำให้ Strong Prime Minister
ที่เคยมีในรัฐธรรมนูญฉบับก่อน ไม่สามารถเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันได้อีก

การกลับไปเอาฉบับ 2540 มาใช้ เท่ากับเตรียมสร้าง ผู้นำเผด็จการ Strong Prime Minister
ขึ้นมาอีกครั้งใช่หรือไม่ และถ้าใช่เราแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่นำพาประเทศชาติไปอับจนแบบเดิม?

---

นอกจากการให้กำเนิดผู้นำเผด็จการ รัฐธรรมนูญ 2540 ยังได้ให้กำเนิดรัฐบาลผูกขาดประเทศขึ้น
อ.รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ เขียนบทความอีกบท กล่าวถึงรัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญ 2540 เอาไว้ครับ  
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #4 เมื่อ: 21-04-2008, 09:42 »

พรรคไทยรักไทย กับอำนาจผูกขาดทางการเมือง
จากท่าพระจันทร์ถึงสนามหลวง โดย รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์
http://www2.hawaii.edu/~porntawe/thaiarticles/rangsun01/2003_02_20.html

        พรรคไทยรักไทย เติบใหญ่ทางการเมืองด้วยการเกื้อกูลของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540
และความเอื้อเฟื้อของพรรคประชาธิปัตย์

        รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ต้องการสถาปนา Strong Government เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดิน
ด้วยเหตุดังนั้น จึงพยายามเปลี่ยนสังคมการเมืองไทยจากระบบพหุพรรค (Multi-party System) ไปสู่ระบบทวิพรรค (Bi-party
System) ทั้งนี้เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว (Single-party Government) เป็นไปได้ สภาร่างรัฐธรรมนูญ 2540
มองเห็นความไร้เสถียรภาพของรัฐบาลผสม และเชื่อว่า ความไร้เสถียรภาพดังกล่าวเป็นต้นตอของความไร้ประสิทธิภาพ
ในการบริหารราชการ แผ่นดิน

        ในการเปลี่ยนแปลงสังคมการเมืองไทยจากระบบพหุพรรคไปสู่ ระบบทวิพรรค รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มีบทบัญญัติ
เกื้อหนุนพรรคการเมืองขนาดใหญ่ และลงโทษพรรคการเมืองขนาดเล็ก โครงสร้างสิ่งจูงใจดังกล่าวนี้มิใช่เรื่องน่าประหลาดใจ
เพราะฐานความเชื่อที่ว่า ระบบทวิพรรคดีกว่าระบบพหุพรรคนี้ย่อมมาจากฐานความเชื่อที่ว่า พรรคการเมืองขนาดใหญ่ดีกว่า
พรรคขนาดเล็ก

        อคติว่าด้วยขนาดของพรรค (Size Bias) ดังกล่าวข้างต้นนี้ ฝังตัวอยู่ในกลุ่มพลังอำมาตยาธิปไตย และปรากฏอย่างชัดเจน
ครั้งแรกในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2521 และรัฐธรรมนูญฉบับต่อๆ มา หลังจากนั้น แต่ไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใด
ที่แสดงอคติว่าด้วยขนาดของพรรครุนแรงมากไปกว่ารัฐ ธรรมนูญฉบับปี 2540

        สภาร่างรัฐธรรมนูญ 2540 เลือกใช้ระบบการเลือกตั้งเป็นกลไกในการลงโทษพรรคการเมืองขนาดเล็ก ทั้งนี้ด้วยการ
ออกแบบให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต เขตเดียว คนเดียว และการเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อพรรค
(Party List) ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีคะแนนเสียงเลือกตั้งคนละ 2 คะแนน คะแนนหนึ่งใช้ในการเลือกตั้ง ส.ส.ระบบแบ่งเขต
อีกคะแนนใช้เลือก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรค ระบบการเลือกตั้งดังกล่าวนี้นำเข้าจากเยอรมนี

        รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 กำหนดให้พรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อพรรคต่ำ กว่า 5% ของ
จำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศ ไม่มี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรค บทบัญญัติดังกล่าวนี้มีผลในการลงโทษพรรคการเมือง
ขนาดเล็กอย่างรุนแรง โดยทำให้พรรคการเมืองขนาดเล็กมีตัวแทนในรัฐสภาต่ำกว่าสัดส่วนอันพึงได้ (Underrepresentation)
และทำให้พรรคการเมืองขนาดใหญ่มีตัวแทนในรัฐสภามากกว่าสัดส่วนอันพึงได้ (Overrepresentation) ในฐานะพรรคการเมือง
ขนาดใหญ่ พรรคไทยรักไทยได้รับการเกื้อกูลจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มากกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ

        ฐานความเชื่อที่ว่า พรรคขนาดใหญ่ ดีกว่า พรรคขนาดเล็ก ยังมีโครงสร้างสิ่งจูงใจในการส่งเสริมพรรคการเมืองให้เติบโต
จากภายนอก (External Growth) มากกว่าการเติบโตจากภายใน (Internal Growth) พรรคไทยรักไทยสนองตอบต่อโครงสร้าง
สิ่งจูงใจดังกล่าวนี้อย่างเต็มที่ ด้วยการควบและครอบกลุ่มและพรรคการเมืองต่างๆ (Merger and Acquisition) พรรคไทยรักไทย
สามารถเติบใหญ่ด้วยยุทธวิธีที่ M&A มิใช่เป็นเพราะว่า นายทุนพรรคไทยรักไทยมีอำนาจซื้่อเหนือกว่านายทุนพรรคอื่นๆ เท่านั้น
หากยังเป็นเพราะว่าพรรคไทยรักไทยมีฐานะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอีกด้วย บรรดากลุ่มและพรรคการเมืองที่ต้องการเข้าร่วม
รัฐบาล จำต้องยินยอมให้พรรคไทยรักไทยเขมือบ บางพรรคดังเช่นพรรคความหวังใหม่ยินยอมให้พรรคไทยรักไทยเข้าครอบพรรค
เพราะสิ้นสายป่านทางการเงิน

        ความต้องการลงโทษพรรคการเมืองขนาดเล็ก และเกื้อหนุนพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ซึ่งปรากฏอคติอย่างรุนแรงในรัฐธรรมนูญ
ฉบับปี 2540 จึงทำให้อำนาจผูกขาดในตลาดพรรคการเมืองมีมากขึ้น จำนวนพรรคการเมืองที่มีชีวิตเยี่ยงพรรคการเมืองที่แท้จริงมีน้อยลง
การเติบใหญ่ของพรรคไทยรักไทยด้วยยุทธวิธีควบและครอบกลุ่มและพรรคการเมือง ต่างๆ ทำให้พรรคไทยรักไทยสามารถรวบอำนาจ
ผูกขาดในตลาดพรรคการเมือง ด้วยกระบวนการเติบใหญ่เช่นนี้ ย่อมไม่มีพรรคการเมืองใดสามารถต่อกรกับพรรคไทยรักไทยได้ในอนาคต
แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์และมิใช่เรื่องยากแก่การทำนายว่า บางภาคส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะถูกควบเข้าสู่พรรคไทยรักไทยด้วย

        พรรคไทยรักไทยมิได้มีอำนาจผูกขาดแต่เพียงในตลาดพรรคการ เมืองเท่านั้น หากยังมีอำนาจผูกขาดในตลาดนักการเมืองด้วย
เนื่องเพราะรัฐธรรมนูญบังคับให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรต้องสังกัดพรรค ในเมื่อพรรคไทยรักไทยมีอำนาจผูกขาด
ในตลาดพรรคการเมือง พรรคไทยรักไทยย่อมมีอำนาจผูกขาดในระดับสำคัญในการคัดสรรนักการเมือง ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ บรรดา
นักการเมืองที่ต้องการอำนาจทางการเมืองย่อมต้องเข้าแถวตบเท้าเข้าพรรค ไทยรักไทย เพราะเป็นทางลัดในการไต่เต้าสู่ยอดพีระมิด
แห่งอำนาจ ถนนการเมืองมีพื้นที่สำหรับนักการเมืองที่มีอุดมการณ์น้อยลง

        คำถามพื้นฐานมีอยู่ว่า จะไม่มีพรรคการเมืองหน้าใหม่หรือการควบรวมพรรคการเมืองเก่า เพื่อต่อกรกับพรรคไทยรักไทยหรอกหรือ?

        การควบรวมพรรคเก่าเป็นเรื่องที่ยากจะเป็นไปได้ เพราะพรรคชาติพัฒนากลายเป็น อาณานิคม ของพรรคไทยรักไทยอย่างชัดเจน
ในขณะที่กลุ่มชลบุรีกำลังละทิ้งพรรคชาติไทยเพื่อสมทบพรรคไทยรักไทยในการ เลือกตั้งสมัยหน้า ความข้อนี้ครอบคลุมถึงบางภาคส่วน
ของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ถึงจะมีการควบรวมพรรคเก่า ก็ไม่ทำให้มีความเข้มแข็งพอที่จะต่อกรกับพรรคไทยรักไทยได้

        ส่วนการก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ยากที่จะเป็นไปได้เช่นกัน ทั้งนี้ด้วยฝีมือของพรรคประชาธิปัตย์นั้นเอง รัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 มีเจตนารมณ์ที่จะให้การจัดตั้งพรรคการเมืองเป็นไปได้โดยง่ายเพียงด้วยบุคคล ตั้งแต่ 15 คนขึ้นไป
ทั้งนี้เพื่อให้มีการแข่งขันระหว่างพรรคการเมือง และเพื่อให้ผู้มีอุดมการณ์ทางการเมืองต่างๆ สามารถจัดตั้งพรรคการเมืองได้โดยง่าย

        แต่ในการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ภายใต้รัฐบาลนายชวน หลีกภัย พรรคประชาธิปัตย์อาศัย
เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรในการร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อให้การจัดตั้งพรรคการเมืองเป็นไปได้โดยยาก ด้วยเหตุดังนี้
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 จึงมีบทบัญญัติที่กำหนดเงื่อนไขว่า ภายใน 180 วัน นับตั้งแต่
มีการจดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมืองใด พรรคการเมืองนั้นต้องดำเนินการให้มีสมาชิกตั้งแต่ 5,000 คนขึ้นไป ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วย
สมาชิก ซึ่งมีที่อยู่ในแต่ละภาคตามบัญชีรายชื่อภาคและจังหวัดที่นายทะเบียนพรรคการ เมืองประกาศกำหนด และมีสาขาพรรคการเมือง
อย่างน้อยภาคละ 1 สาขา (มาตรา 29) มิฉะนั้นจะต้องถูกสั่งยุบพรรค (มาตรา 65)

        พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 ไม่เป็นมิตรกับพรรคการเมืองขนาดเล็กอย่างปราศจาก
ข้อกังขา และสอดคล้องกับลักษณะของพรรคประชาธิปัตย์อย่างปราศจากข้อสงสัย ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์เข้าใจเอาเองว่า การออกแบบ
กฎหมายพรรคการเมืองในลักษณะเช่นนี้จะเกื้อประโยชน์พรรคประชาธิปัต ย์โดยตรง ในฐานะพรรคการเมืองขนาดใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์
ย่อมมีอำนาจผูกขาดระดับหนึ่งในตลาดพรรคการเมือง และมีความได้เปรียบพรรคการเมืองอื่นๆ

        พรรคไทยรักไทยก่อตั้งภายหลังจากที่พระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มีผลบังคับใช้
และสามารถเติบใหญ่แซงหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งเดือนมกราคม 2544 อำนาจผูกขาดในตลาดการเมืองที่พรรคประชาธิปัตย์
เคยมีกำลังถูกสลายตัวทีละเล็ก ทีละน้อย และลดน้อยถอยลงอย่างรวดเร็ว เมื่อพรรคไทยรักไทยเลือกใช้ยุทธวิธี Merger and Acquisition

        เจตนาร้ายของรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ในการสร้างทำนบกีดขวางการก่อเกิดของพรรคการเมืองหน้าใหม่ เพื่อมิให้เข้ามาแข่งขัน
กับพรรคประชาธิปัตย์ กลายเป็นเกราะกำบังคุ้มกันพรรคไทยรักไทยในปัจจุบัน บัดนี้ ไม่เพียงแต่พรรคการเมืองที่มีอยู่จะไม่สามารถต่อกร
กับพรรคไทยรักไทยเท่านั้น หากทว่ายังไม่มีพรรคการเมืองหน้าใหม่ที่ก่อเกิดเพื่อแข่งขันกับพรรคไทยรัก ไทยอีกด้วย ทั้งนี้ด้วยความ
เอื้อเฟื้อของพรรคประชาธิปัตย์นั่นเอง

        หากต้องการให้มีการแข่งขันระหว่างพรรคการเมือง ก็ต้องร่างกฎหมายพรรคการเมืองเพื่อให้เป็นมิตรกับพรรคการเมืองขนาดเล็ก
และเอื้ออำนวยให้การจัดตั้งพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์เป็นไปได้ ในการนี้ จะต้องยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติ
ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 ขัดต่อเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 หรือไม่ แต่การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย
พรรคการเมืองไม่พอเพียงที่จะเสริมส่งการแข่งขันใน ตลาดการเมือง จำเป็นต้องขจัดอคติว่าด้วยขนาดของพรรคทั้งปวง และทำลายทำนบ
กีดขวางการเข้าสู่ตลาดการเมืองที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญฉบับนี้

        ข้อจำกัดในการแข่งขันของพรรคการเมืองต่างๆ ทำให้การยื้อแย่งอำนาจรัฐจากพรรคไทยรักไทยเป็นเรื่องยากยิ่ง พรรคไทยรักไทย
จะยังสามารถเสพสุขจากการใช้อำนาจรัฐต่อไป ตราบเท่าที่พรรคยังไม่แตกอันเป็นผลจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มต่างๆ ภายในพรรคนั้นเอง
ด้วยอำนาจผูกขาดทางการเมืองที่มีอยู่ พรรคไทยรักไทยสามารถรุกคืบเข้าไปครอบงำตลาดข้าราชการได้ ผู้นำพรรคไทยรักไทยไม่ลังเล
ที่จะใช้อำนาจรัฐในการโยกย้ายข้าราชการ จนได้ดุลยภาพตามที่ตนต้องการ

        ภายใต้กฎกติกาที่สถาปนาโดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 สังคมการเมืองไทยกำลังแปรเปลี่ยนไปสู่สังคม
ที่มีการผูกขาดอำนาจทางการเมือง มากขึ้น ความอ่อนแอของฝ่ายค้านในการคานอำนาจรัฐบาล ย่อมยังประโยชน์แก่รัฐบาล ซึ่งเป็น
Strong Government ในการดูดซับส่วนเกินทางเศรษฐกิจและแสวงหาค่าเช่าทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการกำหนดนโยบายเพื่อเอื้อ
ผลประโยชน์ของกลุ่มนายทุนพรรครัฐบาล

        สังคมการเมืองที่มีลักษณะเช่นนี้ เป็น อุตมรัฐ ของสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2540 ใช่หรือไม่?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2008, 09:53 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #5 เมื่อ: 21-04-2008, 09:44 »

น่าแปลกนิดๆ ที่มีคนไม่ยอมรับประชามติ แต่ยอมรับการเลือกตั้ง

ทั้งๆที่จัดขึ้นในสมัยรัฐบาล คมช เหมือนกัน กกต ชุดเดียวกัน



สงสัยเป็นโรค สมฐ
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #6 เมื่อ: 21-04-2008, 09:49 »

ต้องยอมรับว่า รธน.40 มีที่มาสวยงามกว่ามาก

แต่เนื้อหาผมว่าพอๆ กัน




รธน.40 ได้ผ่านการพิสูจน์กันแล้วว่า บ่มิไก๊ เท่แต่กินไม่ได้

รธน.50 ยังไม่เห็นกันเท่าไหร่ เพราะเพิ่งใช้มาไม่นาน
แต่บางพวกรีบตัดสินไปแล้วว่า เฮงซวย ด้วยเหตุผลส่วนตัวเป็นหลัก

บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #7 เมื่อ: 21-04-2008, 10:00 »

เห็นได้ชัดว่าถ้าสามารถลากเนื้อหาฉบับ 2540 กลับมาได้ทั้งหมด
อดีตพรรคไทยรักไทย ก็จะ Happy กันเป็นอย่างมากอย่างแน่นอน
เพราะจะได้เป็นรัฐบาลผูกขาดเหมือนเดิม

ขณะที่ อดีตนายกฯ ทักษิณ หากกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งก็จะ
Happy ในฐานะผู้นำเผด็จการสูงสุด Strong Prime Minister

..ซึ่งทั้งหมดนี้ประชาชนอย่างน้อยครึ่งประเทศคงไม่เอาด้วยอีกแล้ว..
เราควรบอกต่อทุกคนให้รู้เท่าทันจุดประสงค์ของรัฐบาลในเรื่องนี้ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #8 เมื่อ: 21-04-2008, 10:10 »

รัฐธรรมนูญปี 50 เปิดช่องให้ใช้อำนาจลึกลับผ่านทางผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง
ด้วยวิธีลากตั้ง และให้เครดิตบางองค์กรหรือบางคนโดยไม่มีเหตุผลในการแก้หรือ
ตัดสินปัญหาของบ้านเมือง เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา เมื่อกติกาเขียนไว้ใน
รูปนี้โอกาสจะเกิดเผด็จการอีแอบทำเนียนคุยกันเบื้องหลังแล้วใช้อำนาจผ่าน คน
หรือองค์กรที่มีไม่กี่คน มันยิ่งจะหนักกว่าเผด็จการที่ว่ามาจากการเลือกตั้ง
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #9 เมื่อ: 21-04-2008, 10:23 »

รัฐธรรมนูญปี 50 เปิดช่องให้ใช้อำนาจลึกลับผ่านทางผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง
ด้วยวิธีลากตั้ง และให้เครดิตบางองค์กรหรือบางคนโดยไม่มีเหตุผลในการแก้หรือ
ตัดสินปัญหาของบ้านเมือง เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา เมื่อกติกาเขียนไว้ใน
รูปนี้โอกาสจะเกิดเผด็จการอีแอบทำเนียนคุยกันเบื้องหลังแล้วใช้อำนาจผ่าน คน
หรือองค์กรที่มีไม่กี่คน มันยิ่งจะหนักกว่าเผด็จการที่ว่ามาจากการเลือกตั้ง

จุดไหนมีปัญหาก็แก้มันเป็นจุดๆ ไปสิครับ เล่นโละทิ้งทั้งหมดมันส่อเจตนา 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 21-04-2008, 10:33 »

สมองหมา ปัญญาควาย แท้ๆ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #11 เมื่อ: 21-04-2008, 10:39 »

จุดไหนมีปัญหาก็แก้มันเป็นจุดๆ ไปสิครับ เล่นโละทิ้งทั้งหมดมันส่อเจตนา 

อ่านดูแล้วไม่พบว่า โละทิ้งทั้งหมด ส่วนดีของปี 50 ก็ยังมีใช้อยู่เยอะ ส่วนที่ไม่ดีที่หมกเม็ด
พ่วงกันให้อำนาจพวกแต่งตั้งมาก พอแก้มาตราหนึ่งก็ผูกไปอีกหลายๆ มาตรา จึงดูเหมือนโละ
สำหรับพวกที่ร่างเอานโยบายประเทศมาใส่ในรัฐธรรมนูญ มันอีเดียทสมควรโละอยู่แล้วใน
หมวดนั้น ไม่ใช่ผูกนโยบายพัฒนาประเทศไว้กับคนร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากทหาร อย่ามา
อ้างประชาพิจารณ์เลย ก็เห็นอยู่ว่ามันชนะกันไม่ห่างมาก ในช่วงที่มีกฎอัยการศึก ทหารคุม
ทุกที่ ชนะกัน 60:40 ก็แก้เป็น 2550=60:2540=40 น่าจะโอเคแล้ว
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #12 เมื่อ: 21-04-2008, 11:15 »

"...พูด ได้ว่าที่ผ่านมาประเด็นรัฐธรรมนูญไม่ได้มีการหารือกันอย่างเป็นรูปธรรม ชัดเจน ปล่อยให้ที่ประชุม ส.ส.ประชุมกันไปอย่างเดียว โดยไม่ได้มีทิศทางอะไร ก็เลยมองได้ว่ามันไม่เข้าเป้า และสะเปะสะปะอยู่ ปัจจุบันนี้พรรคอาจเห็นแล้วว่าลำพังผมคนเดียวคงไม่ไหว..."

.....



http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=27806&catid=1

สัมภาษณ์หมอปรุงยา ชูศักดิ์ ศิรินิล







น่าเห็นใจ นั่งร่าง รธน. อยู่คนเดียว
ท่าทางจะสนุกน่าดู





บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #13 เมื่อ: 21-04-2008, 11:23 »

ถาม : เส้นทาง(ถ้าจะมี)ส.ส.ร.ชุดใหม่

ชูศักดิ์ :

มีคำเรียกร้องให้กระบวนการ แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ของพรรคพลังประชาชน มีการกำเนิดสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาเพื่อร่างและแก้ไข

แต่ ปรากฏว่าในรัฐธรรมนูญ 2550 "ล็อคกุญแจ" เอาไว้ในมาตรา 291 ว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ให้กระทำได้โดยญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมต้องมาจากคณะรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวน ส.ส.เท่าที่มีอยู่ หรือจาก ส.ส.และ ส.ว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของเท่าที่มีอยู่ของทั้ง 2 สภา

หรือประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อย 5 หมื่นคน

จะเห็นว่ามาตรา 291 ไม่ได้เปิดช่องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยบุคคลอื่นๆ นอกเหนือจากนี้

ดัง นั้น หากจะต้องมี ส.ส.ร.ชุดใหม่ขึ้นมา ก็ต้องดำเนินกระบวนการตามมาตรา 291 โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือ ส.ส. หรือ ส.ส.และ ส.ว. หรือประชาชน 5 หมื่นคนเสนอญัตติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เปิดช่องให้บุคคลอื่นเข้ามาเป็น ส.ส.ร.ที่มีอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน

จากนั้นก็เริ่มต้นสรรหา ส.ส.ร.ตามที่ได้แก้ไขมาตรา 291 ไว้แล้วจึงจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้ง

แต่ดูเหมือนว่ากระบวนการดังกล่าวฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชาชนประเมินว่าซ้ำซ้อน เกินไป และต้องใช้เวลาอีกกว่า 8-12 เดือนกว่าจะแก้ไขรัฐธธรรมนูญมาตรา 291 เสร็จสิ้น จึงจะสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ และเป็นหนทางที่พรรคพลังประชาชนจะไม่เลือกใช้ค่อนข้างแน่นอน เพราะมาตรา 291 ให้อำนาจ ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนได้แก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่ต้องการดีอยู่แล้ว

และเป็นไปได้สูงว่า มาตรา 291 จะเป็นมาตราหนึ่งในรัฐธรรมนูญ 2550 ที่พรรคพลังประชาชนจะไม่แตะต้องเลย ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550



http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=27806&catid=1

คุยไปคุยมา ผลสุดท้ายก็สรุปว่าไม่มี สสร. เพราะไม่ทันจัยย
แก้เองเร็วกว่า


บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #14 เมื่อ: 21-04-2008, 11:25 »

ผมพยากรณ์ว่า
การแก้รธน.เที่ยวนี้
ต้องมีเลือดตก ยางออก
เพราะเหตุผลที่อ้างสำหรับผมแล้ว
รับไม่ได้จริงๆ
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #15 เมื่อ: 21-04-2008, 11:54 »

อ่านดูแล้วไม่พบว่า โละทิ้งทั้งหมด ส่วนดีของปี 50 ก็ยังมีใช้อยู่เยอะ ส่วนที่ไม่ดีที่หมกเม็ด
พ่วงกันให้อำนาจพวกแต่งตั้งมาก พอแก้มาตราหนึ่งก็ผูกไปอีกหลายๆ มาตรา จึงดูเหมือนโละ
สำหรับพวกที่ร่างเอานโยบายประเทศมาใส่ในรัฐธรรมนูญ มันอีเดียทสมควรโละอยู่แล้วใน
หมวดนั้น ไม่ใช่ผูกนโยบายพัฒนาประเทศไว้กับคนร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากทหาร อย่ามา
อ้างประชาพิจารณ์เลย ก็เห็นอยู่ว่ามันชนะกันไม่ห่างมาก ในช่วงที่มีกฎอัยการศึก ทหารคุม
ทุกที่ ชนะกัน 60:40 ก็แก้เป็น 2550=60:2540=40 น่าจะโอเคแล้ว

รัฐธรรมนูญ 2540 ไม่เคยผ่านประชามติ เอามาเป็น 40% ได้ยังไง
ไม่มีอะไรบ่งชี้เลยว่าประชาชน 40% นั้นรับรอง รธน.40 ทั้งหมด

ในเมื่อเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่พรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวเป็นผู้ยกร่าง
 
อย่างนั้นเอาไปใช้กันเองเฉพาะภายในพรรคก็แล้วกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2008, 12:09 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #16 เมื่อ: 21-04-2008, 12:22 »

ต้องไม่ลืมเป็นอันขาดว่า รธน. ปี 2540 เกิดขึ้นมาจากกระแสการปฏิรูปการเมืองเมื่อหลายปีก่อน

และใน รธน. ก็ได้กำหนดวางบทบาทของการเมืองภาคประชา-สังคม รวมทั้งออกแบบองค์กรอิสระต่างๆ ไว้เป็นส่วนสำคัญเพื่อการถ่วงดุลและตรวจสอบอำนาจทางการเมืองอย่างรอบด้าน

แต่ตั้งแต่การขึ้นมามีอำนาจของพรรคไทยรักไทย ได้สร้างวาทกรรมต่างๆ นานา ครอบงำสังคมประเทศชาติ เพื่อบิดเบือนและเหยียบย่ำเจตนารมณ์แห่งการปฏิรูปการเมืองที่เป็นต้นกำเนิดของ รธน. 2540 จนเละเทะ เหลือเอาแต่ส่วนที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง คือพรรคการเมืองและรัฐบาลที่เข้มแข็ง การผูกขาดอำนาจในฝ่ายการเมือง เอาไว้เพื่อเป็นเครื่องมือสถาปนาระบอบเผด็จการรัฐสภาของตัวเองเท่านั้น

บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 21-04-2008, 12:37 »

รธน 40 จะไม่มีปัญหาอะไรเลย ถ้าได้ผู้นำที่มีคุณธรรม

จริงแล้ว ไม่ว่าฉบับไหน ถ้าได้คนแบบเหลี่ยมมาเป็นนายก

ผมว่าเสร็จเขาหมดแหละครับ

 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #18 เมื่อ: 21-04-2008, 12:53 »

รธน 40 จะไม่มีปัญหาอะไรเลย ถ้าได้ผู้นำที่มีคุณธรรม

จริงแล้ว ไม่ว่าฉบับไหน ถ้าได้คนแบบเหลี่ยมมาเป็นนายก

ผมว่าเสร็จเขาหมดแหละครับ

 
เห็นชอบครับ
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #19 เมื่อ: 21-04-2008, 12:55 »

รัฐธรรมนูญ 2540 ไม่เคยผ่านประชามติ เอามาเป็น 40% ได้ยังไง
ไม่มีอะไรบ่งชี้เลยว่าประชาชน 40% นั้นรับรอง รธน.40 ทั้งหมด

ในเมื่อเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่พรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวเป็นผู้ยกร่าง
 
อย่างนั้นเอาไปใช้กันเองเฉพาะภายในพรรคก็แล้วกัน

40% คือ ไม่เอา 2550 จะเอา 40 หรือไม่ก็แล้วแต่ ให้แก้เป็นไม่ใช่ 50 ก็พอแล้ว
ตรรกะแตกหรือไงเนี่ย ถึงเถียงอะไรได้ปัญญาอ่อนอย่างงี้ ไปพัฒนามาใหม่เหอะ
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #20 เมื่อ: 21-04-2008, 13:34 »

40% คือ ไม่เอา 2550 จะเอา 40 หรือไม่ก็แล้วแต่ ให้แก้เป็นไม่ใช่ 50 ก็พอแล้ว
ตรรกะแตกหรือไงเนี่ย ถึงเถียงอะไรได้ปัญญาอ่อนอย่างงี้ ไปพัฒนามาใหม่เหอะ

ผู้กาไม่รับร่างฯ 40% คือไม่เอา ร่างฯ 2550 ณ ตอนที่ลงประชามติ เท่านั้น
ไม่ได้หมายความว่า ถ้าร่างฯ 2550 ผ่านประชามติมาแล้วเขาจะไม่ยอมรับ

ความจริงเมื่อร่างฯ ผ่านแล้วเป็นที่ประจักษ์ว่าส่วนใหญ่ของผู้ลงคะแนนยอมรับ
ก็สามารถทำให้ส่วนหนึ่งของผู้กาไม่รับร่างฯ กลับมายอมรับร่างฯ 50 ได้ด้วย
โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีการแก้ไขอะไรอีก

ตกลงที่ตอบมาคุณเข้าใจหลักการในการลงประชามติหรือเปล่านี่? 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #21 เมื่อ: 21-04-2008, 13:49 »

ผู้กาไม่รับร่างฯ 40% คือไม่เอา ร่างฯ 2550 ณ ตอนที่ลงประชามติ เท่านั้น
ไม่ได้หมายความว่า ถ้าร่างฯ 2550 ผ่านประชามติมาแล้วเขาจะไม่ยอมรับ

ความจริงเมื่อร่างฯ ผ่านแล้วเป็นที่ประจักษ์ว่าส่วนใหญ่ของผู้ลงคะแนนยอมรับ
ก็สามารถทำให้ส่วนหนึ่งของผู้กาไม่รับร่างฯ กลับมายอมรับร่างฯ 50 ได้ด้วย
โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีการแก้ไขอะไรอีก

ตกลงที่ตอบมาคุณเข้าใจหลักการในการลงประชามติหรือเปล่านี่? 

จินตนาการเลื่อนลอย ไร้หลักฐาน และ หลักการ แบบนี้ไม่ทำให้น้ำแตกไปได้

ขนาดเลือกตั้งชนะมาด้วยเสียงข้างมาก มันยังไม่ยอมรับกันเลย ถุย
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #22 เมื่อ: 21-04-2008, 13:56 »

จินตนาการเลื่อนลอย ไร้หลักฐาน และ หลักการ แบบนี้ไม่ทำให้น้ำแตกไปได้

ขนาดเลือกตั้งชนะมาด้วยเสียงข้างมาก มันยังไม่ยอมรับกันเลย ถุย

ใครบอกว่าไม่ยอมรับ ผมก็ยังวิจารณ์คุณสมัครในฐานะนายกฯ
และพรรคพลังประชาชน ในฐานะแกนนำรัฐบาลอยู่นี่นา

แต่การอ้างผลเลือกตั้งมาใช้แก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ตัวเอง
เป็นสิ่งที่ผมไม่ยอมรับ และมันก็ขัดรัฐธรรมนูญและหลักการทั่วไป
ในทางการเมืองการปกครองด้วย
ถ้าจะถุยก็ไปถุย พวกอาศัยอำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ตัวเองดีกว่า 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #23 เมื่อ: 21-04-2008, 14:13 »

จินตนาการเลื่อนลอย ไร้หลักฐาน และ หลักการ แบบนี้ไม่ทำให้น้ำแตกไปได้

ขนาดเลือกตั้งชนะมาด้วยเสียงข้างมาก มันยังไม่ยอมรับกันเลย ถุย

เสียงข้างมากอีกแล้ว

ผมยอมรับว่าหมักเป็นนายก(คนที่2)
ส่วนไอ้เหลี่ยมเป็นนายกคนที่1

แล้วก็ยอมรับว่านายกทั้งสองคน ห่วยแตก





แต่ลูกพรรค พปช ยอมรับแต่นายกคนที่ 1 ว่ะ
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #24 เมื่อ: 21-04-2008, 14:23 »

ใครบอกว่าไม่ยอมรับ ผมก็ยังวิจารณ์คุณสมัครในฐานะนายกฯ
และพรรคพลังประชาชน ในฐานะแกนนำรัฐบาลอยู่นี่นา

แต่การอ้างผลเลือกตั้งมาใช้แก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ตัวเอง
เป็นสิ่งที่ผมไม่ยอมรับ และมันก็ขัดรัฐธรรมนูญและหลักการทั่วไป
ในทางการเมืองการปกครองด้วย
ถ้าจะถุยก็ไปถุย พวกอาศัยอำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ตัวเองดีกว่า 

เสียงข้างมากคือ สส. ที่จะขอแก้ตามกติกา ถ้าแก้ตามกติกามันจะผิดตรงไหน
รัฐธรรมนูญเขียนไว้หรือเปล่าว่าห้ามแก้ ถ้าแก้ด้วยวิธีที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
แล้วยังไม่ยอมรับ แต่ยอมรับพวกที่เอากำลังทหารออกมาฉีก แบบนี้แปลว่าไง
หว่า
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #25 เมื่อ: 21-04-2008, 14:35 »

เสียงข้างมากคือ สส. ที่จะขอแก้ตามกติกา ถ้าแก้ตามกติกามันจะผิดตรงไหน
รัฐธรรมนูญเขียนไว้หรือเปล่าว่าห้ามแก้ ถ้าแก้ด้วยวิธีที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
แล้วยังไม่ยอมรับ แต่ยอมรับพวกที่เอากำลังทหารออกมาฉีก แบบนี้แปลว่าไง
หว่า


คิดแบบนี้ก็แก้ให้เหลี่ยมเป็นประธานาธิปดีก็คงได้

แก้ตามกติกามันจะผิดตรงไหน

บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #26 เมื่อ: 21-04-2008, 16:13 »

เสียงข้างมากคือ สส. ที่จะขอแก้ตามกติกา ถ้าแก้ตามกติกามันจะผิดตรงไหน
รัฐธรรมนูญเขียนไว้หรือเปล่าว่าห้ามแก้ ถ้าแก้ด้วยวิธีที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
แล้วยังไม่ยอมรับ แต่ยอมรับพวกที่เอากำลังทหารออกมาฉีก แบบนี้แปลว่าไง
หว่า

กติกาคือห้ามใช้อำนาจทางการเมือง เพื่อเอื้อประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง
โปรดทราบว่าเรื่องนี้มีกำหนดในหลายมาตราของรัฐธรรมนูญนะครับ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #27 เมื่อ: 21-04-2008, 16:57 »

ชักรู้สึกสมเพช พวกที่ร่าง รธน. 50 ไว้ให้แก้ได้

พอเขาจะแก้ได้จริง เพราะเสียงพอ ตามเงื่อนไข ที่พวกร่างเอาไว้เอง ก็เดือดร้อน

ทนไม่ด้ายยยยยยย

ต่อไป อย่าเขียนว่า ให้แก้ได้สิ

จริงใจหน่อย บอกไปเลยว่า

รธน. ประเทศนี้ ห้ามแก้ “ฉีก” ได้อย่างเดียว

บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #28 เมื่อ: 21-04-2008, 17:25 »

ชักรู้สึกสมเพช พวกที่ร่าง รธน. 50 ไว้ให้แก้ได้

พอเขาจะแก้ได้จริง เพราะเสียงพอ ตามเงื่อนไข ที่พวกร่างเอาไว้เอง ก็เดือดร้อน

ทนไม่ด้ายยยยยยย

ต่อไป อย่าเขียนว่า ให้แก้ได้สิ

จริงใจหน่อย บอกไปเลยว่า

รธน. ประเทศนี้ ห้ามแก้ “ฉีก” ได้อย่างเดียว


แน่จริงคนแก้ก็เพิ่มบทเฉพาะไม่ให้ตัวเองได้รับประโยชน์ไว้ด้วยสิครับ
ถ้าทำแบบนี้แล้วก็จะไม่มีข้อครหาให้ใครข้องใจ
เรื่องแก้ทำได้อยู่แล้ว แต่อย่าเอื้อประโยชน์ตัวเองและพวกพ้องไงครับ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #29 เมื่อ: 21-04-2008, 17:33 »

เอารัฐธรรมนูญ 2540 ไปให้ประเทศคองโก
บางทีอาจสเป๊ก
บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #30 เมื่อ: 21-04-2008, 17:34 »

แน่จริงคนแก้ก็เพิ่มบทเฉพาะไม่ให้ตัวเองได้รับประโยชน์ไว้ด้วยสิครับ
ถ้าทำแบบนี้แล้วก็จะไม่มีข้อครหาให้ใครข้องใจ
เรื่องแก้ทำได้อยู่แล้ว แต่อย่าเอื้อประโยชน์ตัวเองและพวกพ้องไงครับ 

พวก สนช. สสร. กมธ. ร่างฯ รธน. 50

ที่มาเป็น สว. ลากตั้ง องค์กรอิสระ

อยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้รับประโยชน์หรือไง

เขียนห้าม ตัวเองและพวกพ้อง เป็น ไว้ในมาตราไหน


ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งโง่กันแน่
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #31 เมื่อ: 21-04-2008, 17:43 »

พวก สนช. สสร. กมธ. ร่างฯ รธน. 50

ที่มาเป็น สว. ลากตั้ง องค์กรอิสระ

อยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้รับประโยชน์หรือไง

เขียนห้าม ตัวเองและพวกพ้อง เป็น ไว้ในมาตราไหน


ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งโง่กันแน่



พวกนั้นที่เข้ามาเป็น สส. สว. ก็เข้ามาตามระบบนะครับ
ต้องถามคนที่ไม่ได้เป็นแล้วละว่าคุณสมบัติไม่ถึงตรงไหนถึงไม่ได้เป็น
เอ...หรือมีพวกนั้นคนไหนที่ลงชื่อแก้ รธน.ด้วยเหรอ
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #32 เมื่อ: 21-04-2008, 17:57 »

พวก สนช. สสร. กมธ. ร่างฯ รธน. 50

ที่มาเป็น สว. ลากตั้ง องค์กรอิสระ

อยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้รับประโยชน์หรือไง

เขียนห้าม ตัวเองและพวกพ้อง เป็น ไว้ในมาตราไหน


ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งโง่กันแน่


ถ้าทำแบบนั้นจริงๆ เขาก็ทำไม่ดีใช่ไหมล่ะครับ
คราวนี้ก็เลยจะเอามาอ้างเพื่อตัวเองทำได้ด้วย
แบบนั้นก็เท่ากับเลวเหมือนเขาทุกอย่าง
ถ้าทำกันแบบนั้นจะต่างอะไรกับพวกรัฐประหาร 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #33 เมื่อ: 21-04-2008, 17:58 »


คิดแบบนี้ก็แก้ให้เหลี่ยมเป็นประธานาธิปดีก็คงได้

แก้ตามกติกามันจะผิดตรงไหน


อย่าเพ้อเจ้อ

อ้างถึง

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐

หมวด ๑๕ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

มาตรา ๒๙๑
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้กระทำได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนี้

(๑) ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมต้องมาจาก

คณะรัฐมนตรี

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมด
เท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร

หรือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภามีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้า
ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ของทั้งสองสภา

หรือจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่าห้าหมื่นคนตามกฎหมายว่าด้วย
การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย

ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปของรัฐ
จะเสนอมิได้
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #34 เมื่อ: 21-04-2008, 18:12 »

อย่าเพ้อเจ้อ


อ้าว ไม่ได้หรอ

งั้นไม่เอาประธานาธิปดีก็ได้
เอาเป็นมีนายกคนที่1 กับ คนที่ 2 ก็แล้วกัน




อ้อ ขอแบบไม่มี ปปช. สตง. เลยด้วยดีกว่า ศาล รธน. ก็ไม่ต้องมี เอา สส.นี่แหละตีความกันเอง
ประชาชนจะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน

ถูกกติกายัง

บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #35 เมื่อ: 21-04-2008, 18:40 »

ถ้าทำแบบนั้นจริงๆ เขาก็ทำไม่ดีใช่ไหมล่ะครับ
คราวนี้ก็เลยจะเอามาอ้างเพื่อตัวเองทำได้ด้วย
แบบนั้นก็เท่ากับเลวเหมือนเขาทุกอย่าง
ถ้าทำกันแบบนั้นจะต่างอะไรกับพวกรัฐประหาร 

สุรปว่า

พวก สนช. สสร. กมธ. ร่างฯ รธน. 50
แล้วมาเป็น สว. ลากตั้ง องค์กรอิสระ ในเวลานี้
เพราะผลพวงของสิ่งที่ตัวเองร่างฯ/รับ

"เลว" ใช่ไหม

อ้อ ใช้คำว่า "ถ้า" - แสดงว่า ไม่รู้ ว่าเขาทำกันไปแล้ว
และอาจจะทำต่อไป ... ยังมีอีกหลายตำแหน่งให้แต่งตั้ง
เพราะไม่มีห้ามไว้


สสร. 40 ยังมีห้ามไว้เลย
แต่พวกนี้ไม่มี

เนี่ยนะ รธน. ดีเลิศประเสริฐสุด ของคุณ
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #36 เมื่อ: 21-04-2008, 18:44 »

ชอบด่าพวกทำรัฐประหาร แต่ดันทำตัวเหมือนเผด็จการ

เรียกพวกมือถือสาก ปากคาบประชาธิปไตยยยย




บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #37 เมื่อ: 21-04-2008, 18:55 »

     มาตรา ๑๗๗ รัฐมนตรีย่อมมีสิทธิเข้าประชุมและแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็นใน

ที่ประชุมสภา และในกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภามีมติให้เข้าประชุมในเรื่องใด รัฐมนตรีต้อง

เข้าร่วมประชุม และให้นำเอกสิทธิ์ที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๓๐ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

    ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถ้ารัฐมนตรีผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในขณะเดียวกันด้วย

ห้ามมิให้รัฐมนตรีผู้นั้นออกเสียงลงคะแนนในเรื่องที่เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่ง การปฏิบัติหน้าที่

หรือการมีส่วนได้เสียในเรื่องนั้น


*********************************************************

สรุปง่าย ๆ ต้องห้ามทำเพื่อตนเอง

ทำได้แต่ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของปวงชนชาวไทย โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์



พวกที่จะโดนยุบพรรค ห้ามลงคะแนนเพื่อให้ตัวเองรอดจากการยุบพรรค และถูกตัดสิทธิ ห้าปี 
บันทึกการเข้า
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #38 เมื่อ: 21-04-2008, 19:13 »

     มาตรา ๑๗๗ รัฐมนตรีย่อมมีสิทธิเข้าประชุมและแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็นใน

ที่ประชุมสภา และในกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภามีมติให้เข้าประชุมในเรื่องใด รัฐมนตรีต้อง

เข้าร่วมประชุม และให้นำเอกสิทธิ์ที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๓๐ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

    ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถ้ารัฐมนตรีผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในขณะเดียวกันด้วย

ห้ามมิให้รัฐมนตรีผู้นั้นออกเสียงลงคะแนนในเรื่องที่เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่ง การปฏิบัติหน้าที่

หรือการมีส่วนได้เสียในเรื่องนั้น


*********************************************************

สรุปง่าย ๆ ต้องห้ามทำเพื่อตนเอง

ทำได้แต่ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของปวงชนชาวไทย โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์



พวกที่จะโดนยุบพรรค ห้ามลงคะแนนเพื่อให้ตัวเองรอดจากการยุบพรรค และถูกตัดสิทธิ ห้าปี 


ขัดยังไง ใครตัดสินล่ะ

สส. ก็ออกเสียงเพื่อประโยชน์ของชาวบ้านที่เลือกเขามา

ส่วนเรื่อง "มีส่วนได้เสีย" มันก็มีทุกคน

รวมทั้งพวกไม่ต้องการให้แก้ด้วย

เพราะ กม. ใช้บังคับกับทุกคน

หรือมิใช่



ที่สำคัญ ยกมาผิดมาตราหรือเปล่า?

รัฐมนตรีมาเกี่ยวอะไร กับการแก้ รธน.

มาตรานี้น่าจะเป็นเรื่องการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ

การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐมนตรี

จึงห้าม รัฐมนตรี "ที่เป็น สส." ออกเสียง (ไว้วางใจ) ให้ตัวเอง


ฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ แยกให้ออก

อย่ามั่วอย่างลุงแคน
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #39 เมื่อ: 21-04-2008, 19:18 »

ผมยกตัวอย่างน้ำจิ้ม ๆ มาให้ดูว่า


การกระทำเพื่อให้ตนเองได้ประโยชน์ โดยประชาชนมิได้ประโยชน์น่ะเค้าเรียกว่า


เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้ประชาชน  ข้าวยากหมากแพงรับกรรมกันไป ไม่เกี่ยวกะรัฐธรรมนูญสักกะติ๊ด


 
บันทึกการเข้า
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #40 เมื่อ: 21-04-2008, 19:22 »

ขัดยังไง ใครตัดสินล่ะ

สส. ก็ออกเสียงเพื่อประโยชน์ของชาวบ้านที่เลือกเขามา

ส่วนเรื่อง "มีส่วนได้เสีย" มันก็มีทุกคน

รวมทั้งพวกไม่ต้องการให้แก้ด้วย

เพราะ กม. ใช้บังคับกับทุกคน

หรือมิใช่



ที่สำคัญ ยกมาผิดมาตราหรือเปล่า?

รัฐมนตรีมาเกี่ยวอะไร กับการแก้ รธน.

มาตรานี้น่าจะเป็นเรื่องการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ

การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐมนตรี

จึงห้าม รัฐมนตรี "ที่เป็น สส." ออกเสียง (ไว้วางใจ) ให้ตัวเอง


ฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ แยกให้ออก

อย่ามั่วอย่างลุงแคน



มาตรา ๑๒๒ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย

โดยไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติ มอบหมาย หรือความครอบงำใด ๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่

ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของปวงชนชาวไทย โดยปราศจากการขัดกัน

แห่งผลประโยชน์


*************************

พวกนี้มันเห็นประโยชน์ตนอยู่รำไร เมื่อมันทำผิด จริง ๆ แล้วต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรม กรรมใดใครก่อ ก็รับกันไป

ไม่เห็นจะต้องแก้รัฐธรรมนูญสักนิดเดียว

ถ้าประโยชน์ต่อปวงชนชาวไทย  ผมเห็นด้วยที่ต้องแก้ 
บันทึกการเข้า
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #41 เมื่อ: 21-04-2008, 19:23 »


กินข้าวราดแกงข้างถนนจานละ 50.- บาท รากหญ้าคงชอบใจมั้ง รัฐบาลที่ตัวเองเลือกไปแท้ ๆ


 
บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
โต มิ โต โชว์ ดะ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 225


« ตอบ #42 เมื่อ: 21-04-2008, 19:25 »

ปัญหาใหญ่ของประเทศเราตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องกฎหมายหรืออื่นๆ


ปัญหาอยู่ที่จริยธรรมของบุคคลากรทางการเมืองที่ขาดจิตสำนึกอย่างน่ารังเกียจ


ที่พยายามทุกวิธี ที่จะให้ตนเองได้เปรียบโดยไม่นึกถึงความชอบธรรมแบบหน้าด้าน


กรูจะเอาแต่ฝ่ายเดียว
บันทึกการเข้า
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #43 เมื่อ: 21-04-2008, 19:28 »


กินข้าวราดแกงข้างถนนจานละ 50.- บาท รากหญ้าคงชอบใจมั้ง รัฐบาลที่ตัวเองเลือกไปแท้ ๆ


 


สันดานนักการเมือง มันไม่เคยคิดว่า ทำอย่างไรปวงชนชาวไทย กินข้าวจานล่ะสักยี่สิบ ก็ยังดี


คนงานวันละสองร้อย มันเคยเหลียวดูม่ะ มีแต่ ทำไงถึงจะแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้มันมีอำนาจต่อไป  ความผิดมันเห็นชัด ๆ กันอยู่แล้ว

ทำนองไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตานั่นล่ะครับ




สะเดาะห์เคราะห์ไป ก็ไร้ประโยชน์

ส่วนพวกเบี้ยที่จะแก้เพื่อให้ลูกพี่รอดคุก ผมว่าก็ยาก 
บันทึกการเข้า
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #44 เมื่อ: 21-04-2008, 19:31 »

ปัญหาใหญ่ของประเทศเราตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องกฎหมายหรืออื่นๆ


ปัญหาอยู่ที่จริยธรรมของบุคคลากรทางการเมืองที่ขาดจิตสำนึกอย่างน่ารังเกียจ


ที่พยายามทุกวิธี ที่จะให้ตนเองได้เปรียบโดยไม่นึกถึงความชอบธรรมแบบหน้าด้าน


กรูจะเอาแต่ฝ่ายเดียว


และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผมลงทุนนั่งแท๊กซี่ ไปโหวตรับ มาซ่ะด้วย


ไอ้พวกนักการเมืองซ่งติง มันเคยคิดม่ะว่า มันควรทำงานเพื่อ ปวงชนชาวไทย อย่างไรบ้าง 
บันทึกการเข้า
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #45 เมื่อ: 21-04-2008, 19:42 »

นักการเมืองคนไหนเลวก็ไปจัดการคนนั้นซิ

มาเขียน รธน. ห่วยๆ

ยัดเยียดให้ชาวบ้านใช้ได้ไง
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #46 เมื่อ: 21-04-2008, 19:49 »

นักการเมืองคนไหนเลวก็ไปจัดการคนนั้นซิ

มาเขียน รธน. ห่วยๆ

ยัดเยียดให้ชาวบ้านใช้ได้ไง



พวกนักการเมืองที่ปล้นชาติ มันจะยอมรึ

รธน. ห่วยหรือไม่ไม่ทราบ ทราบแค่ว่า ผมไปโหวตรับมา ด้วยความยินดียิ่ง

การยัดเยียด ย่อมมองเห็นได้จากการกระทำของนักการเมือง ที่มีอำนาจอยู่ปัจจุบันนี้  แต่ผมก็คอยท้วงมันอยู่น่ะ 
บันทึกการเข้า
โต มิ โต โชว์ ดะ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 225


« ตอบ #47 เมื่อ: 21-04-2008, 19:52 »

นักการเมืองคนไหนเลวก็ไปจัดการคนนั้นซิ

มาเขียน รธน. ห่วยๆ

ยัดเยียดให้ชาวบ้านใช้ได้ไง




ไปแก้ผ้าประท้วงซิ่


ผ่านความเห็นชอบจากประชาชน บอกว่ายัดเยียด


สมองหัดเอามาใช้บ้างนา คนสวย


หรือไม่สวยแถมฉลาดน้อยหว่า
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #48 เมื่อ: 21-04-2008, 20:11 »

ประเด็นหลักๆ ที่ สสร. 2550 ถกเถียงกันมาก สำหรับปัญหาของ 2540 มีไม่กี่เรื่องหรอก เช่น

"สภาผัวเมีย" แก้โดยใช้สภาลากตั้งครึ่งหนึ่ง สภาเลือกตั้งครึ่งหนึ่ง

การครอบงำ องค์กรอิสระ ก็ใช้หลักให้ศาลสูงเป็นผู้พิจารณา ก็น่าจะใช้ได้ หากคิดว่า องค์กรตรวจสอบอยู่ในกระบวนการยุติธรรม

เหมือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ที่ให้ตำรวจเป็นต้นเรื่อง

ถ้ากลับไปสู่ 2540 ทั้งหมด ใครจะรับประกันว่า นักการเมืองจะไม่ใช้ "เงิน" เป็นตัวกำหนดเส้นทางสู่อำนาจ ครอบงำ และ ฉ้อฉลในที่สุด

การที่ปล่อยโอกาสให้นักการเมืองฉ้อฉล โดยที่รัฐธรรมนูญ 2540 พาเข้าสู่ทางตัน

จนกระทั่งนำไปสู่ความแตกแยกอย่างรุนแรงและการปฏิวัติรัฐประหาร

มันเป็นเรื่องที่ผู้คนในสังคมไทยต่างรับรู้กันดีอยู่แล้ว

หากจะแก้ไข ก็ต้องนำปัฐหาเก่าๆ มาถกกันใหม่อีกครั้ง

หากไม่แก้ไขแบบที่ 2550 แก้ให้แล้ว

จะแก้ไขปัญหาของรัฐธรรมนูญ 2540 ที่ไม่สามารถทำงานได้ อย่างไรบ้าง

หากมีนักการเมืองศรีธนญชัย ตีความกฎหมายเข้ข้างตัวเอง จะแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง

เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องของพรรคการเมืองพรรคการเมืองหนึ่ง หรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

แต่ต้องเป็นการแก้ไขโดยประชาชนทั้งมวล ตั้ง สสร. 3 มาสิ

เลือกตั้ง สสร.มาครึ่งหนึ่ง แต่งตั้งนักวิชาการมาอีกครึ่งหนึ่ง หรือให้นักการเมืองส่งตัวแทนเข้ามาอีกส่วนหนึ่ง

ถ้าให้นักการเมืองแก้กฎหมายหลักของประเทศแต่เพียงฝ่ายเดียว ก้ไม่พ้นข้อครหา "แก้กฎหมายเพื่อตนเอง" อยู่ดี

ปัญหาของการใช้รัฐธรรมนูญ 2540 คิดว่าทราบดีกันทุกคนแล้วมั๊ง ทำไมจะยังดันทุรังกลับไปหาปัญหาเก่า ๆ

ทำผิดครั้งแรกพอให้อภัย แต่หากจะทำผิดซ้ำซาก โดยไม่สรุปบทเรียน เค้าเรียกพวกโง่
บันทึกการเข้า

55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #49 เมื่อ: 21-04-2008, 20:14 »


ช่าย รัฐธรรมนูญที่มีบทบัญญิติโทษแรง ๆ กับนักการเมือง พรรคการเมือง มันห่วยจริง ๆ  เวลาทำผิด จะดิ้นหนี ก็ไม่ได้  มันติดหน้าติดหลังไปหมด.....แก้มันซะเลย



 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3
    กระโดดไป: