เรื่องเล่าจากคลองบางหลวง * คิวปิด และความจริงของรักกับเซ็กส์ *

หลังจากวีนัสได้เดินเข้าอำเภอไปจดทะเบียนหย่ากับ วัลคัน แล้วก็ได้มาพบรักกับ มาร์ส กลายเป็น มาร์ส แอนด์ วีนัส (ด้วยการสนับสนุนของค่ายเทปแกรมมี่) ทั้งคู่ได้ให้ประสูติกาลเทพและเทพีมากมาย

คิวปิด ก็เป็นหนึ่งในนั้น คิวปิดเป็นเด็กเลี้ยงยากพ่อแม่พากันตะโบมรักและเลี้ยงดูอย่างดีเท่าไหร่ คิวปิด ก็ไม่โต ยังคงเป็นเด็กตัวอ้วนกลมผิวสีกุหลาบเฉกเช่นเดิม

หัวอกพ่อแม่ย่อมทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเห็นลูกเป็นอย่างนั้น ความอนาทรต่อบุตรที่รักนี้ก็ไม่เว้นแม้แต่เทพเช่นกัน

วีนัส จึงไปปรึกษา เทพพยากรณ์ (จะกด 1900 หรือเปล่านั้น...ผมไม่อาจรู้ได้) ผู้พยากรณ์ก็ได้บอกมาเป็นปริศนาธรรมว่า "ความรักนั้นไม่สามารถจะเติบโตได้ ถ้าปราศจาก ราคะ"

วีนัส ก็ครุ่นคิดจนหัวแตกก็หาคำตอบไม่ได้แต่แล้วก็มาร้องอ๊อ เมื่อการมาถึงของลูกอีกคนหนึ่งคือ เทพแห่งราคะ เมื่อ คิวปิด มีน้องชายแล้วก็เจริญเติบโตเป็นหนุ่มรูปงามนามเพราะ (ชื่อ ปฐม ไหม...ไม่อาจรู้ได้ แต่พวกท่าน ๆ ควรตอบว่า "ใช่" สถานเดียว) แต่พอ คิวปิด แยกจากน้องชายก็จะกลายร่างเป็นเด็กอ้วนกลมตามเดิม

เรื่องนี้นับเป็นคติธรรมอย่างหนึ่ง เป็นสัจจะธรรมที่เรามิอาจปฏิเสธได้เลย แม้มีคนบางคนบอกว่า ความรักกับเซ็กส์เป็นคนละเรื่อง แต่ผมขอถามกลับสั้น ๆ ว่า "จริงเหรอครับ" จริงอยู่ในบางอารมณ์เราก็ต้องพูดอย่างนั้นแต่ผมกลับเห็นว่า สองสิ่งนี้ต้องเดินไปคู่กันแต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขว่า เวลาอันสมควร และ ความสมควรที่ตั้งอยู่บนความสมควร

เซ็กส์ อาจเป็นความเสียวกระสันที่เกิดเพียงชั่วครู่ แต่ก็มิอาจปฏิเสธได้ว่ามันบอกอะไรได้หลายอย่างและอาจมีนัยที่แฝงมากกว่าที่เราคิดกัน

ในทางคนเจริญแล้ว รักกับเซ็กส์เดินคู่กันอย่างสง่างาม แต่ในวิถีแห่งคนที่ยังไร้ความคิด เซ็กส์ นั้นคือปัญหา

เด็กวัยรุ่นหลายคนเสียอนาคตเพราะความเสียวและความอยากเสียว... ทั้งสองความนั้นมันนำไปสู่การฆาตกรรมทางอ้อมดังที่เป็นข่าวกัน แม่ใจร้ายทิ้งลูก มันเป็นเรื่องเสื่อมโทรมที่เกิดและปฏิเสธไม่ได้ ในข่าวดังกล่าวนั้น อาจจะไม่ได้เกิดจาก คิวปิด เลยก็ได้...

หากแต่เป็นเพียงการกระทำอันไร้ความคิดของ เทพแห่งราคะ แต่ฝ่ายเดียว

ความรักเป็นสิ่งที่ดี แต่มันอาจจะไม่ลึกซึ้งและเรื่อยเปื่อยถ้าขาด ราคะ ความรักแบบพ่อแม่ ความรักแบบต่าง ๆ แต่ถ้าขาดซึ่งราคะ การสืบพันต์เพื่อขยายประชากรและดำรงเผ่าพันธ์ก็มิอาจบังเกิดขึ้น

มันเลยเป็นสิ่งจำเป็นที่เรามิอาจปฏิเสธได้ แต่เราต้องเข้าใจกับมันและหักห้ามใจเมื่อยังไม่ถึงเวลา ถ้าเราขาดความพร้อม รักที่สมบูรณ์มันก็จะไม่เกิดขึ้น มันจะเป็นเป็นเพียงอารมณ์ใคร่ของสัตว์เซลล์เดียว ถ้าเป็นมนุษย์ก็เป็นมนุษย์ที่ใช้ระบบความคิดด้วยก้านสมอง

ในหนังสือปกรณัมเทพเล่มที่ผมอ่านคงไม่เห็นข้อผิดพลาดของเรื่องนี้จึงไม่มีทางแก้อะไรไว้ แต่มนุษย์เป็นสัตว์อยากรู้และผมก็เป็นสัตว์พันธ์นั้น จึงเดินไปหยิบพจนานุกรมเพื่อเปิดดูความหมายของคำว่า "ราคะ" เพื่อจะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้

ราคะ ในพจนานุกรมฉบับ มติชน ให้ความหมายว่า ความกำหนัด

ราคิน แปลว่า ความมัวหมอง , ราคี คือ ผู้มีความกำหนัด ความมัวหมองมลทิน , ราคีคาว ความมัวหมอง เรื่องชู้สาว

อ่านคำแปลก็ได้แต่มัวหมอง เพราะหาคำแปลที่มีความหมายดี ๆ และทางแก้ไม่ได้ คงต้องโทษเทพราคะและคิวปิดที่ตะกละตะกรามกินมากเกินควร สังคมไทยจึงฟอนเฟะในเรื่องนี้อย่างมาก

แต่ใด ๆ ผมก็จำได้ว่า ผมมีพจนานุกรมอีกเล่ม ในฉบับ พุทธศาสตร์ เมื่อไม่เห็นที่พึ่งใดในทางโลกก็ต้องใช้ความหมายทางธรรมเข้าข่ม

ราคะ นั้นเป็นคำที่อยู่ในหลายหมวด อัคคิ 3 (ไฟ , กิเลศที่เปรียบดั่งไฟ) ก็เป็นหมวดหนึ่งที่ ราคะ แอบอยู่ ตรงหมวดนี้ให้ความหมายว่า ราคัคคิ คือ ไฟคือราคะได้แก่ความต้องใจกระสันอยากได้

หรือถ้าเปิดในหมวด สังโยชน์ 10 ก็พบว่า กามราคะ - ความกำหนัดในกาม ความติดใจในกามคุณ

และเพื่อความชัดเจนผมจึงเปิดไปหน้าที่ 262 อยู่ในจริต 6 (ความปกติของความประพฤติ) ราคจริต (ผู้มีราคะเป็นความประพฤติ) ในหมวดนี้มิได้เพียงแต่แค่ให้ความหมายังมีวิธีแก้ด้วย คือ ให้ใช้กรรมฐานคู่ปรับแก้ คือ อสุภะ และ กายคตาสติ - สติอันเป็นไปในกาย คือ กำหนด พิจารณาให้เห็นว่า ร่างกายประกอบด้วยของไม่สะอาด ให้รู้เท่าทันไม่ให้มัวเมา
ส่วน อสุภะ สภาพอันไม่งาม ซากศพในรูปแบบต่าง ๆ

มันอาจเป็นเรื่องยากแม้มีทางแก้ไขปัญหานี้ แต่ก็ไม่ยากสำหรับผู้รับผิดชอบและใช้ชีวิตอย่างมีสติ แม้ความรักจะเป็นสิ่งที่ต้องเดินคู่ไปกับราคะ แต่เราก็ต้องรู้จักควบคุมและแยกแยะ แบ่งอัตราให้ดี ว่า คุณจะให้ความรักนำราคะตาม หรือ ราคะนำความรักตาม อยู่ที่สติของคุณแล้วครับ เทพใด ๆ ก็มิอาจบังคับคุณได้ถ้าคุณมีสติ รักให้รักเป็น