เจ๊สดประชดรบ.ขี้เหร่ กกต.เก็บของกันแล้ว ยินดีพ้นหน้าที่ทันที! เชื่อไม่มีใครสมัครอีก Friday, 18 April 2008
เจ๊สด ประชด รัฐบาลขี้เหร่ ให้ไปยิ่งเร็ว-ยิ่งดี เผยทีเล่น-ทีจริง กกต.เก็บของกันแล้ว ย้ำที่ผ่านมาทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ไม่ได้เป็นผลิตผลของคมช. สมชัย ก็ย้ำซ้ำ ไม่มีการเมืองแทรกแซงการทำงาน วันที่ 18 เม.ย. 2551 นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้องค์กรอิสระ รวมทั้งกกต.มีอายุ 180 วัน หลังจากที่แก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จว่า อำนาจในการแก้รัฐธรรมนูญเป็นของรัฐบาล ท่านสามารถแก้ไขได้ กกต.พร้อมที่จะปฎิบัติตามกฎหมาย และเราไม่ได้ยึดติดอยู่กับวาระ จะให้อยู่ 7 ปี หรือกี่วัน หรือ 180 วันเราก็พร้อมที่จะดำรงตำแหน่งตามที่กำหนด ซึ่งตนเชื่อหากมีกกต.ชุดใหม่ก็สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อจากกกต.ชุดนี้ได้ เพราะชุดของตนก็ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายสามารถพิจารณาสำนวนต่างๆได้ทันที และคิดว่าไม่กระทบต่อคดีที่พิจารณา รวมทั้งคดีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ด้วย อย่างไรก็ตามกกต.ก็จะไม่หยุดทำงาน และจะทำงานไปจนกว่าจะมีกกต.ชุดใหม่เข้ามา
นางสดศรี กล่าวยืนยันว่า กกต.ชุดนี้ไม่ได้มาจากคมช. เรามาจากรัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาคัดเลือกเรามา และส.ว.ที่ได้มาจากประชาชนก็คัดเลือกพวกเราเข้ามา เหลือแต่เพียงขั้นตอนการโปรดเกล้าฯเท่านั้น แต่ระหว่างรออยู่นั้นก็เกิดเหตุการณ์ปฏิวัติขึ้นมา และทางคมช.ก็เห็นว่าในช่วงนั้นมีการเลือกตั้งท้องถิ่นอยู่จำนวนมาก ซึ่งจำเป็นต้องมีกกต.จึงนำชุดที่ผ่านการสรรหาเข้ามาแล้วมาปฏิบัติหน้าที่
การทำหน้าที่ที่ผ่านมา เราทำด้วยความเป็นกลาง การเมืองไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงได้ ซึ่งเราทำตามกฎหมายไม่ได้เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ที่ผ่านมาประชาชนก็ทราบดีว่าเราปฏิบัติหน้าที่อย่าไร แต่ปัญหาขณะนี้ดูเหมือนว่าจะเกิดมาจากปัญหาการเมือง และดูเหมือนทำให้กกต.ไม่สามารถอยู่ตรงจุดไหนได้ แม้แต่ตรงกลาง ดังนั้นเราคิดว่าหากผู้มีอำนาจแก้ไขอย่างไรเราก็พร้อมปฏิบัติตาม ยิ่งแก้ให้เร็วยิ่งดี จะให้พ้นวาระเร็วๆ หากจะให้พ้นเมื่อไหร่ก็ต้องที่จะพ้นไปทันที และเชื่อว่ากกต.ทั้ง5 คนก็พร้อมที่จะไปเช่นกัน ไม่มีการเรียกร้องใดๆไม่อยากพูดแล้วยิ่งพูดยิ่งเศร้านางสดศรีกล่าว
เมื่อถามต่อว่า หากต้องพ้นไปแล้วจะไปทำอะไรต่อ นางสดศรี กล่าว่า ตอนนี้ก็อายุ 60 กว่าแล้ว รู้สึกเหนื่อย อยากให้รัฐบาลกำหนดให้พ้นจากตำแหน่งให้เร็วยิ่งเร็วก็ยิ่งดี จะไปทำอะไรตามประสาคนแก่ตามปัจฉิมวัย ส่วนจะไปเล่นการเมืองหรือไม่ตนยืนยันว่าจะไม่เข้าไปเล่นหรอกปล่อยให้การเมืองเขาเล่นกันไปตอนนี้พวกเราเก็บของกันหมดแล้วไม่มีปัญหา ที่พูดไม่ได้ประชดพูดจริงๆ
เมื่อถามว่า ถ้าเขาเปิดให้สมัครใหม่จะเข้ารับการคัดเลือกใหม่ นางสดศรี กล่าวว่า ไม่มีกกต.คนไหนคิดที่จะสมัครอีกแล้ว เพราะกฎหมายปัจจุบันก็ให้อยู่แค่วาระเดียว แต่ตอนนี้ทำหน้าที่มา 2 ปีกว่า รู้สึกเหนื่อยใจมาก คิดว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ และตอนนี้ประเทศเราคนก็แบ่งเป็น 2 ฝ่ายอยู่ตรงไหนก็ไม่ได้ ดีแล้วที่จะให้พ้นไปภายใน 180 วันขอบคุณรัฐบาลที่ให้เราพร้อม แต่ถ้าให้ดีเร็วกว่านั้นก็ยิ่งดี เพราะเราจะได้ไปใช้ชีวิตคนแก่ตามปัจฉิมวัย
ด้านนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ตนไม่อยากแสดงความคิดเห็นเพราะมีส่วนได้เสีย และจะทำให้พูดไปแล้วก็ไม่มีน้ำหนัก แต่ทั้งนี้การแก้รัฐธรรมนูญต้องดูว่าจะแก้อย่างไร เพื่อส่วนตัวหรือเพื่อส่วนรวม ซึ่งการแก้ไขเป็นอำนาจของผู้บริหารที่สามารถแก้ไขได้ แต่จะอ้างเรื่องการแก้ไขวาระการดำรงตำแหน่งขององค์กรอิสระนั้น ตนเห็นว่าที่มาไม่สำคัญเท่ากับการกระทำ ใครทำหน้าที่นี้ก็อยู่ที่ผลงานใครมาทำหน้าที่นี้ก็เหมือนกัน ซึ่งตนไม่ยึดติดกับตำแหน่ง อยู่ที่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ว่าเราทำงานดีสมกับตำแหน่งหรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ทำให้งานเสียก็น่าจะเปิดโอกาสให้คนอื่นมาทำงาน ซึ่งตรงนี้ก็อยู่ที่ประชาชนมองและจะเป็นผู้คิดว่ากกต.ควรอยู่ต่อหรือไม่ และตนทำตามหน้าที่ที่มีอยู่ และได้ให้อย่างดีที่สุด
ผมยืนยันว่าการทำงานที่ผ่านไม่มีการเมืองเข้ามาแทรกแซงกกต. ผมเคารพตัวเองและมีศักดิ์ศรี ให้เกียรติให้ดุลยพินิจซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ยังไม่อยากมองว่ามาจากการพิจารณายุบพรรคของกกต. หรือคดีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อย่างไรก็ตามผมก็ยัง ยืนยันว่า กกต.ชุดนี้ไม่ได้มาจากคมช.นายสมชัยกล่าว
นายสุเมธ อุปนิสากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า หากมีการแก้รัฐธรรมนูญเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งก็แล้วแต่รัฐบาล เพราะเขาเป็นฝ่ายบริหาร เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ หากเขาแก้อย่างไร เราก็พร้อมจะปฎิบัติตาม หากมีการแก้ไข ก็เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อสำนวนนายยงยุทธ เพราะคดีของนายยงยุทธ อยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลฎีกา ซึ่งเป็นเอกสารที่ตายตัวแก้ไขไม่ได้ เขาคงไม่มีอำนาจในการแก้ไขเอกสารสำนวน ดังนั้นจึงน่ากระทบต่อการพิจารณาคดีดังกล่าว ซึ่งสำนวนดังกล่าวกกต.ลงมติไปแล้ว พยานต่างๆ ครบถ้วน หากกกต.ชุดนี้หมดวาระเชื่อว่ากกต.ชุดใหม่สามารถเข้ามาปฎิบัติหน้าที่และสานต่อได้เลย และเชื่อว่าหากมีการเลือกกกต.ชุดใหม่มา ก็คงจะเลือกคนดีที่มีความรู้ความสามรถเข้ามาทำหน้าที่ อย่าเพิ่งไปมองเขาในแง่ร้าย ควรมองในแง่ดี แต่เชื่อว่าเขาคงไม่เลือกคนไม่ดีเข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้นเราอย่าเพิ่งไปคิด ควรให้โอกาส ส่วนตัวหากมีการแก้ไขอะไร เราก็พร้อมปฎิบัติ เพราะเราคงไม่มีอะไรไปต่อสู้เขาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ คณะทำงานยกร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชาชน(พปช.) ที่มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้ข้อสรุปเรื่องการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยในส่วนขององค์กรอิสระ อย่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น กระบวนการได้มาให้ใช้ตามรัฐธรรมนูญ 2540 เป็นตัวตั้ง ถ้ามีการแก้ไข จะต้องมีการสรรหาภายใน 180 วัน แต่จะไม่ตัดสิทธิ์ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งให้สามารถเข้ารับสรรหาได้ **********************************
กระดานความคิดเห็น เพิ่มความคิดเห็นใหม่ ค้นหาความคิดเห็น
เฮ้อ IP:118.172.53.138 | 18-04-2008 16:51:50
รัฐธรรมนูญฉบับปี 40
รัฐธรรมนูญฉบับปี 50
รัฐธรรมนูญฉบับพรรคพลังประชาชน
ดำ - ถึงพวกบ้าน 111 ที่ยังไม่ยอมรับ IP:58.8.237.243 | 18-04-2008 17:15:50
อย่าพยายามบิดเบือนเรื่อง กกต
กกต ชุดนี้ไม่ได้มาจากคมช จำไว้ เป็นองกรที่คัดเลือกมาโดยบทบัญญติตามรัฐธรรมนูญ 40 ก่อนจะมีรัฐประหาร ทุกคนคือหน้าเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงหลังรัฐประหาร
พอไม่มีสามหนาที่สั่งให้เปลี่ยนฮีบบัตรได้ สั่งให้จับแต่ฝ่ายตรงข้ามอย่างเดียว พวกมึงก็โวยวายไม่รับกติกา ถุย
ถ้าไม่มีสามหน้าสมรู้ร่วมคิดจะกล้าจ้างพรรคเล็กหรือ
จะสามารถเปลี่ยนแปลงรายชื่อการสังกัดพรรคเล็กเพื่อหนีกฎ 90 วันย้อนหลังได้หรือ
ผลแห่งการกระทำก็คือ กกต ติดคุก พรรคที่พยายามกระทำการล้มล้างระบอบประชาธิปไตยถูกยุบพรรคก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่หรือ
เป็นการยุบสภาไปหาทางตันโดยแท้
แหล่งข่าว : ไทยอินไซเดอร์