รู้ข่าววันนี้แล้วไม่สบายมากๆเลยครับ ที่ชูศักดิ์ ศิรินิล มาแถลงว่าบทเฉพาะกาลเสร็จแล้วรอแค่การแปรญัตติให้ได้ถ้อยคำที่ชัดเจนในชั้นกรรมมาธิการเท่านั้น
อัพเดทข่าวย่อๆนะครับ
1.ยุบก.ก.ต. และ ป.ป.ช. ใน 180 วัน จากนั้นให้สรรหาใหม่
2. สรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพิ่มอีก 6 คนจาก 9 คนเป็น 15 คน
3. สว.สรรหาเมื่อหมดอายุใน 3 ปี ให้เลือกตั้งเพิ่มอีก 124 คน ให้ครบ 200 คน ตามปี 40
รู้ได้เลยว่าทั้ง 3 องค์กรรัฐบาลคุมไม่ได้
ถ้าเปลี่ยนวิธีสรรหาองค์กรอิสระแบบปี 40 ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นแบบนี้ คือ สว.เลือกองค์การอิสระในขั้นสุดท้ายไม่เหมือนรัฐธรรมนูญฉบับ 50
ที่แค่ให้ความเห็นชอบเฉยๆ
พอเลือกตั้ง สว. ก็ได้ สว. เลือกตั้งแบบปี 40 ที่มีประวัติศาสตร์ว่าถูกแทรกแซง
แล้วสว. ชุดนั้น พอมา้สรรหาองค์กรอิสระ ก็ไม่ต้องสงสัยเลยนะครับว่าองค์กรอิสระใหม่ที่สรรหาจะเป็นอย่างไร
พวกพี่ๆช่วยวิเคราะห์เป็นประเด็นๆนะครับ
1. แรงต้านจากกลุ่มการเมืองในพรรคพลังประชาชนเอง เช่น กลุ่ม สส.อีสาน 50 คน กลุ่ม สส. บางส่วนที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค
จะมีอิทธิพลมากน้อย อย่างไร
2. พรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่ได้เผชิญกระบวนการยุบพรรค ที่ยังแทงกั๊กกันอยู่ คือ เพื่อแผ่นดิน ประชาราช จะมีอิทธิพลมากน้อย อย่างไร
3. การยื่นล่ารายชื่อเพื่อยื่นถอดถอน ส.ส. ที่ลงนามในการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญในกรณีผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นผู้ได้ประโยชน์โดยตรงในการแก้รัฐธรรมนูญ จะมีอิทธิพลมากน้อย อย่างไร
4. การเคลื่อนไหวของภาคประชาชน โดยเฉพาะพันธมิตร นักวิชาการ และ ผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคมจะมีอิทธิพลมากน้อย อย่างไร
จากนั้นช่วยฟันธงว่าแก้สำเร็จหรือไม่สำเร็จ แล้วมองว่าต่อไปภายภาคหน้าประเทศไทยจะเดินอย่างไรต่อไป
ขอบคุณพี่ๆล่วงหน้า(ผมอายุประมาณ 20 กว่าๆน่ะครับเลยเรียกพี่ๆน่ะครับ แฮะๆ)