แท็กซี่สมัคร ..."ขับไปบ่นไป"...ขับไม่ไหวก็เปลี่ยนกะเถอะลุง

[Can ไทเมือง]

วันจันทร์ ที่ 14 เมษายน 2551
แท็กซี่สมัคร ..."ขับไปบ่นไป"...ขับไม่ไหวก็เปลี่ยนกะเถอะลุง
Posted by Canไทเมือง , ผู้อ่าน : 3 , 01:39:31 น.   


แท็กซี่สมัคร "ขับไปบ่นไป"

**********************

บอกต้องให้เวลาบริหาร รบ. ชี้ไม่ใช่เพาะถั่วงอก

นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า มีคนวิจารณ์ว่ารัฐบาลไม่มีผลงาน แม้รับตำแหน่งมาแล้ว 2 เดือน
ต้องถามว่ารัฐบาลชุดนี้มาจากไหนและรัฐบาลชุดก่อนเป็นอย่างไร ทั้งนี้ รัฐบาลเพิ่งมารับตำแหน่งตามกฎหมาย
เปลี่ยนรัฐบาลจากคณะปฏิวัติที่เปลี่ยนผู้คน รวมถึงรัฐธรรมนูญ ซึ่งบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับเก่าดีเกินไป
 ทำให้รัฐบาลทุจริตฉ้อราษฏร์บังหลวง จึงไม่ต้องการให้รัฐบาลแข็งแรง
ด้วยการเขียนรัฐธรรมนูญให้เป็นกับดักและวางขวากหนาม ครั้งแรกคาดว่าจะเล่นพรรคการเมืองใหญ่
แต่สองพรรคเล็กกลับโดนด้วย
เรื่องโกงการเลือกตั้งนั้นมีแน่นอน แต่ฉบับนี้เขียนกับดักไว้เล่นงานกรรมการบริหารพรรค
ทั้งนี้ ประธานที่ปรึกษาพรรคออกมาพูดจาจีบปากจีบคอ บอกว่าทำผิดแล้วแก้กฎหมาย เพราะตัวไม่โดน   

นายสมัคร กล่าวว่า ต้องบอกนักวิชาการว่าไม่ได้แก้รัฐธรรมนูญเพื่อป้องกันการยุบพรรค
เพราะต้องมีการตีความกันอีก แต่แก้เพื่อวันข้างหน้า เพื่อคนใหม่จะมาลงเลือกตั้ง

จะได้ใช้รัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตย

'ต้องบอกสื่อฯ ว่า การบริหารบ้านเมืองของรัฐบาลใหม่ ไม่ใช่การเพาะถั่วงอก
รดน้ำโครมๆ แล้วงอกขาวเต็มกระบะ ต้องใช้เวลา' นายสมัครกล่าว
และว่า  วิจารณ์ว่าตนอยู่ในตำแหน่ง 2 เดือนไม่ได้ทำอะไรเลย มัวแต่ไปต่างประเทศ
เพราะกระทรวงต่างประเทศกำหนดให้ไป เป็นธรรมเนียมของอาเซียน
ซึ่งการเดินทางไปเยือนประเทศเพื่อนบ้าน เจรจาเป็นประโยชน์กับประเทศไทยอย่างมาก
และช่วยแก้ปัญหาบ้านเมือง ส่วนวันธรรมดาต้องประชุมตำรวจ ทหาร
วันพฤหัสบดี ต้องเข้าสภา เพื่อตอบกระทู้ ส.ส.

ทั้งนี้ เมื่อทำเรื่องเล็กน้อย ลดราคาสินค้าก็ถูกเยาะเย้ย
ทำให้รัฐมนตรีทุกคนพยายามเจรจากับต่างประเทศ
อย่างนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ยกเลิกมาตรากันเงินสำรองระหว่างประเทศ 30%
ถามว่าได้ปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) หรือไม่
ทำไมจึงไม่มีใครยกย่องสรรเสริญ

ฉุนสื่อประโคมข่าว งานรดน้ำ'แม้ว'ใหญ่กว่า

ส่วนกรณีมี ส.ส.ไปรดน้ำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสมัครกล่าวว่า
ไม่เป็นการทำงานการเมือง แต่เป็นการทำงานเพื่อสังคม เพราะคนนับถือกันก็ต้องรดน้ำขอพรกันเป็นธรรมดา

อย่างทหารบอกว่าไปรดน้ำที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ แล้วจะมารดน้ำตนด้วย
ตนก็บอกว่าไม่เอา แต่เขาบอกไม่ได้ เพราะเป็นรัฐบาล แล้วสื่อไปตีความใหญ่โตบอกว่า
งานรดน้ำ พ.ต.ท.ทักษิณ เอิกเกริก แล้วเปรียบกับบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลเงียบเหงา

ที่เป็นเช่นนี้ เพราะตนให้คนมารอแค่ 5 คน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา
ส.ส.230 คนมารดน้ำจนมือเหี่ยว ไม่เห็นเป็นข่าวเลย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาสู้คดี ก็ไปยกย่องคนนั้น เหยียบย่ำคนนี้ กระแทกแดกดัน

ถามว่าจุดประสงค์ของผู้เขียนคืออะไร ถ้าทำสำเร็จแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ
จะให้ตนออกไปใช่หรือไม่ ต้องการให้บ้านเมืองนี้ไม่มีชื่อสมัคร

ลองบอกว่าจะเอาใคร เมื่อรัฐประหารก็โกรธแค้นว่ากล่าวทหาร แต่ตอนนี้กลับยกย่องสรรเสริญ

***************************

ใครที่เคยนั่งแท็กซี่ แล้วเจอโชเฟอร์ขับไปบ่นไป ด่าคนโน้น ติคนนี้ รู้สึกแบบไหน

เวลานั่งแท็กซ๊ที่มีโชเฟอร์ชื่อ "สมัคร สุนทรเวช" ก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน...รำคาญแต่ก็ต้องทน

ประเภทขับไปบ่นไป ด่าไป เหน็บแนมแกมประชด เหมือนลุงแก่ๆ ที่คอยแต่แก้ตัว

เราคนนั่งก็อยากให้ไปถึงที่หมายเร็วๆ นั่งรถแล้วมีความสุข สบายหู สบายตา สบายใจ

ให้สมกับค่าโดยสารที่แพง ๆ นั่งแอร์เย็นๆ หนีรถเมล์พัดลมที่เป่าแต่ลมร้อนๆ มาปะทะ

ที่ไหนได้ นั่งมา 2-3 เดือน ไม่ไปถึงไหน ก็เห็นคุยนักคุยหนาว่าล่วงรู้เส้นทางตลอด รู้เรื่องเศรษฐกิจดีเลิศประเสริฐศรี

ดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ ดีทุกอย่าง ที่ไหนได้ พอขึ้นรถมาด้วยกันดันมาเจอโชเฟอร์ขี้บ่น เดี๋ยวก็ปรับทุกข์ เดี๋ยวก็แก้ตัว เดี๋ยวก็ด่าคนโน้นคนนี้ให้ฟัง

รู้ว่ามีกับดักตั้งแต่ก่อนลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ทำไมโง่เดินเข้าไปในกับดักที่เค้าทำเอาไว้ล่ะ

รัฐบาลที่แล้วไม่เห็นเค้าบ่นหนักบ่นหนาขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ปัญหาก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่ากัน

อายุอานามก็เรียกรัฐบาลขิงแก่...คงแก่พอๆ กันนั่นแหละ

ถ้าไปไม่ไหวจริงๆ ก็วิ่งรถเข้าอู่ ส่งเถ้าแก่เค้าเถอะครับ "ป๋าหมาก"

อย่าลากไปอีกเลย...สงสารคนนั่งด้วยเถอะ...ลูกหลานขอร้อง

ไม่ไหวก็บอกมาเหอะป๋า...อย่าดันทุรังเลย...คนอื่นเค้าจะได้เปลี่ยนกะ ขับมั่ง..

ถั่วงอกบ้านลุงหมัก ปลูกมา 2-3 เดือนยังไม่ได้กิน

...ถั่วฝักยาวในสวนลุงแคน  80 - 90 วันก็เด็ดกิน เด็ดขายได้แล้ว

...ปลูกแตงโม แตงกวา ก็เก็บขายไปหลายรุ่น...

แต่ "ถั่วงอกลุงหมัก" ตั้งแต่ปลูกมายังไม่ได้กินเลยลุง..!!!

สงสัยไปเอาถั่วหมดอายุมาทำพันธุ์....

เออ...คิดถึงวลี..."ยาหมดอายุ"...ขึ้นมาทีไร ก็อดอมยิ้มไม่ได้ซักที อิ อิ

แคน ไทเมือง
 
http://www.oknation.net/blog/canthai/2008/04/14/entry-1

[Can ไทเมือง]

เพราะเหตุใดรัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัคร จึงไม่สามารถสร้างผลงานหรือทำในสิ่งที่ทำให้สังคมขานรับด้วยความชื่นใจ

“ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ” ในฐานะที่เกาะติดสถานการณ์ ของรัฐบาลอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง ขอชี้ว่า

สาเหตุหลักๆที่ทำให้รัฐบาลไม่สามารถทำงานสร้างผลงานได้เข้าตาประชาชน ก็คือ

ตัวของนายสมัครเอง

โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา ซึ่งไม่อาจเปลี่ยนแปลงบุคลิกได้ เคยเป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น

พูดจาโผงผาง พร้อมปะฉะดะ ไม่กลัวใคร

โดยเฉพาะการจัดรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ในวันอาทิตย์ ตอบโต้กับสื่อและฝ่ายที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ทุกเม็ดทุกดอก ชนิดตาต่อตาฟันต่อฟัน

ไม่ยอมให้ใครมาแผ้วพานได้ง่ายๆ

ภาวะตรงนี้ ไม่เอื้ออำนวยให้เกิดความร่วมมือ ทั้งๆที่ในฐานะผู้นำรัฐบาลจำเป็นต้องสร้างบรรยากาศ เพื่อทำให้เกิดความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการทำงานบริหารประเทศ

ที่สำคัญ นอกจากผู้นำรัฐบาลไม่เอื้ออำนวยให้เกิดความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆแล้ว

ยังออกมาเปิดประเด็นสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งในสังคมเสียเอง

โดยเฉพาะการเปิดประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่แรกเริ่มเดิมทีนายสมัครประกาศเองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนรัฐบาลครบเทอม

แต่พอมีปัญหาเรื่องคดียุบพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ที่อาจโยงมาถึงการยุบพรรคพลังประชาชน

นายสมัครกลับเร่งเครื่องประกาศเปรี้ยงต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญทันที

จนกลายเป็นประเด็นขัดแย้งในสังคม

โดยเฉพาะฝ่ายต่างๆที่ไม่เห็นด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ 2550 และอาจารย์คณะนิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยต่างๆ เริ่มมีการเคลื่อนไหวต่อต้านขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ

“ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ” ขอบอกว่า ในสภาวะที่บ้านเมืองกำลังเผชิญปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง แถมยังมีเชื้อของความแตกแยกแบ่งฝ่ายกระจายอยู่ทั่ว

ภาวะผู้นำรัฐบาล ต้องไม่ใช่เปิดประเด็นขัดแย้งตลอดเวลา

นอกจากไม่เปิดประเด็นขัดแย้งแล้ว ถ้ามีปัญหาอุปสรรคที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง ต้องหาทางลดดีกรีที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งให้ได้

แต่ที่ผ่านมา มันตรงกันข้าม

เหนืออื่นใด ในช่วง 2 เดือนของรัฐบาล ยังไม่เห็นการตัดสินใจที่เด็ดขาดของนายสมัคร ในการบริหารจัดการภายในรัฐบาล

อย่างล่าสุด กรณีที่ ป.ป.ช.มีมติว่า นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากไม่แจ้งการถือหุ้นในบริษัทเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ของภรรยา

นายสมัครระบุว่า นายไชยาแจ้งว่าจะลาออก แต่วันรุ่งขึ้นนายไชยากลับเปิดบ้านแถลงข่าวว่า ไม่ออก เพราะไม่ได้ทำผิด

เสียรังวัด สะเทือนภาวะผู้นำ

ที่สำคัญ การที่นายสมัครพยายามแสดงความเป็นตัวของตัวเองบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ออกมาหลายครั้งหลายครา

โดยเฉพาะในช่วงที่มีการจัดตั้งรัฐบาล วางตัวรัฐมนตรี แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องปล่อยให้เป็นรัฐบาลขี้เหร่

รวมไปถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เคยบอกว่า ไม่เห็นด้วยที่จะแก้ไขมาตรา 309 เพราะมันเชย แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามเกมของทีมกฎหมายของพรรค

ปรากฏการณ์เหล่านี้ ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย

เพราะก็รู้ๆกันอยู่ว่า ก่อนหน้านี้นายสมัครเกือบถอนตัวจากการเมืองไปแล้ว หลังจากลาออกจากหัวหน้าพรรคประชากรไทย

เบนหางเสือไปเล่นการเมืองสนามเล็ก เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และกลับมาเป็นสมาชิกวุฒิสภา

จากนั้นก็ถอยออกไปอยู่วง นอก จัดรายการชิมไปบ่นไป อย่างมีความสุข

คงไม่คิดว่าจะได้กลับมามีอำนาจทางการเมืองอีกแล้ว

แต่จู่ๆก็ได้รับการติดต่อจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ขอให้ มาถือธงนำอดีต ส.ส.ไทยรักไทย

นั่งแป้นเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน นำทัพลงสู้ศึกเลือกตั้งหลังห้วงการรัฐประหาร ยึดอำนาจ จนชนะการเลือกตั้ง

จึงได้มีวันนี้ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศไทย

และก็เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า ความจริงแล้วในพรรคพลังประชาชน ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริง อำนาจเต็มอยู่ที่ใคร

แต่ด้วยสไตล์ของนายสมัครที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง จึงพยายามแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมา แต่ก็กลายเป็นว่า

แสดงความเป็นตัวของตัวเอง ในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

เพราะเมื่อเจ้าของพรรค เจ้าของอำนาจตัวจริง คิดไปคนละมุม มองไปคนละอย่าง ภาวะการนำของนายสมัครจึงเกิดอุปสรรค เพราะหือไม่ขึ้น

ภายใต้สภาพการณ์อย่างนี้ บวกกับความเป็นรัฐบาลขี้เหร่ จึงเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐบาลไม่มีผลงานเป็นรูปธรรม อย่างที่ประชาชนคาดหวัง

และถึงแม้จะเอาน้ำแร่ น้ำกลั่น มาสาดสงกรานต์ รัฐบาลชุดนี้

ก็คงไม่ช่วยให้ความขี้เหร่หายไป.

"ทีมการเมือง"

[jrr.]

ถ้าไปไม่ไหวจริงๆ ก็วิ่งรถเข้าอู่ ส่งเถ้าแก่เค้าเถอะครับ "ป๋าหมาก"

.................................................................

มันไม่คืนอู่หรอก จะขับไปเรื่อยๆเพื่อเป็นเกียรคิกับวงศ์ตระกูล.....

ขืนเถ้าแก่มาทวงหนักๆ จะขับชนกำแพงแม่ม...ให้เสียรถเลย

ด่าไปเถอะ ไอ้คนขับคนนี้น่ะ มันไม่รู้สึกหรอก....อายุป่านนี้แล้ว ต่อมอะไรต่อมิอะไรมันฝ่อหมดแล้ว !!!

[นายเกตุ]

มันจะขับหลงทางวนไปวนมาอยู่อย่างนี้แหละ จนผู้โดยสารทนไม่ไหวแล้วเอาปืนจื้หัวให้จอด

แต่มันก็ไม่จอดหรอก มันจะใช้วิธีขับแท็กซี่เข้าชนรถถังแทน

แล้วมันก็อ้างแบบมั่วๆว่ารถถังไปขวางทางมัน

[ธาตุน้ำ]

เค้าเรียกขับไปด่าไป
ยังด่าได้อีก
เปลี่ยนกะทำไม
ทนไม่ไหวก็ไม่ต้องฟังสิ

[jumjim]

ป๋าหมาก กระดูกเหล็กอยู่แล้ว ไม่น่าเป็นห่วงหรอก ห่วงแต่ประเทศชาติก็พอแล้ว  วัน ๆ ต้องสู้กับศึกภายในพรรคพลังประชาชั่ว ต้องสู้กับนายใหญ่ที่ชอบสั่งโน่นสั่งนี้ ป๋าไม่ยอมให้ก้มหัวเหมือนเมื่อก่อนเลือกตั้งแล้ว แถมยังต้องสู้กับแป๊ะลิ้มอีก  ปัญหาบ้านเมืองไม่ต้องแก้กันแล้ว  แค่นั่งอ่านสามก๊ก ยังไม่ทันจบ ก็โดนเฉดหัวแล้ว เอาเวลาที่ไหนไปแก้ปัญหาบ้านเมือง

อะจึ๋ย อะจึ๋ย  เสือกปล่อยให้คนซุกหุ้นเป็นนายก หลายปี  หมอนี่สู้ตายอยู่แล้ว มีเงินเยอะ  ไม่ติดคุก ไม่ตาย แก้อีกหลายสิบปี ก็ไม่จบหรอกบ้านนี้เมืองนี้ ซวยจริง ๆ ประเทศไทย

 

[aiwen^mei]

ปู่หมักต้องฟังเพลง "ตัวสำรอง" 

ปู่แกต้องไปดูแท็กซี่มืออาชีพของกรุงลอนดอนเป็นตัวอย่างนะคะ กว่าจะสอบผ่านได้ขับแท็กซี่ในกรุงลอนดอน เป็นเรื่องที่ "หิน" มากเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่นึกอยากจะขับก็ขับ ที่ญี่ปุ่นเองรณรงค์ให้ผู้สูงอายุเลิกขับรถเพราะหูตาฝ้าฟาง การตอบสนองก็เชื่องช้าทำให้เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อย ๆ

นี่อาร้ายยย นึกว่าตัวเองแน่ ปู่กลับบ้านไปช่วยย่าเลี้ยงแมวเหอะ 

[สมชายสายชม]

ถ้ามีคนขับแท็กซี่แบบไอ้หมัก ..

คนขับถามชายหนุ่มกับหญิงสาวทีเพิ่งเข้าไปนั่งในรถว่า "ไปไหนครับ"
ระหว่างนั้นผู้โดยสารทั้งสองยังไม่ตอบ แต่กำลังคุยกันว่าจะไปไหนดี ระหว่าง การกินข้าว
ดูหนัง ฟังเพลง เต้นรำ ฯลฯ
สักพักรถที่วิ่งไปโดยไร้จุดหมายก็เลี้ยวเข้าไปในโรงแรมม่านรูด
ชายหนุ่มและหญิงสาวถามคนขับด้วยความงงว่า "มาส่งที่นี่ทำไม"
คนขับตอบว่า "ก็เห็นว่า ยังตกลงกันไม่ได้ ก็เลยพามาส่งในที่ให้เสพเมถุน ไง"   

...