เอาบทความมาให้อ่านเพิ่มเติม เพื่อความสะดวกในการติดตามข้อมูลนะครับ
เนื้อหามีรายละเอียดเยอะดีน่าอ่านครับ http://www.bangkokbiznews.com/2008/02/01/WW01_0104_news.php?newsid=225777------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ดรีมทีม “สมัคร”วันที่ "ผู้ชายปากดี” วัย 72 ย่าง 73 ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ต่างวันที่ “เขา” ได้รับเชิญให้เป็น
รัฐมนตรีมหาดไทย ในรัฐบาลพลเรือนหลังการรัฐประหาร โดยคณะทหาร 3 เหล่าทัพ
ถ้าจะพูดว่า สมัยนั้น รัฐบาลธานินทร์คือ เนื้อหอย ที่ถูกหุ้มด้วยเปลือกหอย คือ คณะทหารที่มี พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่
เปรียบกับสมัยนี้จะต่างกันที่เนื้อหอย คือ ตัวนายกรัฐมนตรี ส่วนเปลือกหอย คือ คณะรัฐมนตรี ไพร่ราบทหารในสภาฯ
เพราะ “สมัคร” รู้ตัวดีว่า เขามีอำนาจตามกฎหมายในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่อิทธิพลบารมีนั้นอยู่ที่ “...................”
ด้วยวันเวลาที่เคี่ยวกรำประสบการณ์ “สมัคร” จึงเตรียมพร้อมสำหรับการ “เล่นเกม” ทุกรูปแบบ เพราะวันนี้เขามี
"ดรีมทีม” คนรุ่นใหม่ที่ทันคนทันเกม
ถ้า นักข่าวช่างสังเกตสักนิด หลังการประชุมสภาฯ (30 ม.ค. 51) นายกฯ สมัคร เดินทางไปร่วมรับประทานอาหารกลางวัน
ที่ร้านอาหารไพซาโน อิตาเลียน เรสเตอรองท์ ย่านหลังสวน ซอย 3
ในโต๊ะอาหารเที่ยงมื้อนั้น มีเพียงตัวเขากับสองหนุ่มใหญ่คู่ใจ คือ
ดร.สหัส บัณฑิตกุล และ
ธีรพล นพรัมภามือทำงานตัวจริงที่เขาไว้ใจที่สุด
ดร. สหัส อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ฝ่ายโยธา และ “ธีรพล” อดีตผู้ช่วยเลขานุการ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ทั้งสองเป็นเพื่อนรักเพื่อนแท้ เพราะเรียนจบมาด้วยกันจาก
คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2510 หรือ
“รุ่น 10”ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ
ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ซึ่งสมัยที่ “ไชยวัฒน์” เป็นรัฐมนตรีอุตสาหกรรม ก็ดึงตัว “ดร.สหัส” จาก ปตท.
มาเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีอยู่ช่วงหนึ่ง
ส่วน “ธีรพล” นั้น มีชีวิตโลดแล่นอยู่ในยุทธจักรภาคราชการและเอกชนมายาวนาน เขาเคยเป็นปลัดเมืองพัทยาคนแรก
ก่อนจะลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว ผลงานที่ชาวตลาดหุ้นยังจดจำ คือ การร่วมวางแผนกับวิศวะรุ่นน้อง “ตระกูลจรูญศรี”
นำ
บริษัท จุลดิศ ดีเวลลอป จำกัด เข้าตลาดหลักทรัพย์ เขาจึงถือหุ้นเป็นลำดับที่ 4
ปัจจุบัน “ธีรพล” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ
บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารโรงพยาบาลศิครินทร์ ถนนศรีนครินทร์ บางนา
และ ในแวดวงกระทรวงคมนาคม ก็ทราบกันมานานแล้วว่า “ดร.สหัส” เป็นญาติที่ใกล้ชิดของ
คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ได้เข้ามาเป็นที่ปรึกษา “สมัคร” ตั้งแต่ครั้งที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในสมัยรัฐบาลเปรม
ด้วยเหตุนี้ “สมัคร” จึงต้องการวางตัว “ดร.สหัส” เป็นรัฐมนตรีคมนาคม หรือ รัฐมนตรีช่วยคมนาคมดร. สหัส จึงติดตามสมัครไปในทุกกระทรวงที่ได้เป็นรัฐมนตรี จนกระทั่งวันที่ ”สมัคร” ได้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปี 2543
ดร.สหัส ก็ได้เป็นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ คนที่ 1
ดร. สหัส จึงดึงเอาเพื่อน “ธีรพล” เข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. เพราะเป็นผู้ช่ำชองกลยุทธ์การจัดการ
การบริหารงานสมัยใหม่ “สมัคร” จึงมอบความไว้วางใจให้ธีรพลดูแลเรื่องสำคัญ ไม่ว่าการวางกำลังคน และการประมูลงาน
ว่ากันว่า สมัคร เป็นปลื้มธีรพลเอามากๆ เพราะในชีวิตทางการเมือง สมัคร คุ้นเคยอยู่กับนักการเมืองที่ถนัดเล่นเกมสภา แต่บริหารไม่เป็น
ในสมัยนั้น ความเป็นนักวิชาการที่ครบเครื่องของธีรพล ทำให้ สมัคร ลืมคนใกล้ชิดเก่าแก่อย่าง
ชัยสิทธิ์ ภูวภิรมย์ขวัญ ที่หอบหิ้วกันมา
ตั้งแต่สร้างพรรคประชากรไทย และทำหนังสือเดลิมิเรอร์
เมื่อ สมัคร อาสามาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน คนแรกที่เขานึกถึง คือ ธีรพล และหนุ่มใหญ่คนนี้ก็เข้ามาเป็นทีมยุทธศาสตร์ (ส่วนตัว)
ของหัวหน้าสมัคร ตั้งแต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง
จึงไม่ต้องแปลกใจกับตำแหน่ง
"เลขาธิการนายกรัฐมนตรี” หรือ
"นายกฯ น้อย” จะตกเป็นของ “ธีรพล”
เชื่อกันว่า นายกฯ น้อย ชื่อ ธีรพล นพรัมภา จะสร้างสีสันให้การเมืองไทยไม่แพ้ “หมอมิ้ง” นายกฯ น้อย ของเสี่ยทักษิณ อย่างแน่นอนประชา บูรพาวิถีที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551