ลูกหลานปรีดี พนมยงค์
บุคคลทั่วไป
|
 |
« เมื่อ: 24-05-2006, 02:47 » |
|
การเคลื่อนไหวของกุล่มพันธมิตรขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญดังนี้
1.พันธมิตร กู้ชาติทำกระทำขัดกับรัฐธรรมนูญในการห้ามนายกกลับมา ตามมาตรา 29 การจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเฉพาะเพื่อการที่รัฐธรรมนูญนี้กำหนดไว้และเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และจะกระทบกระเทือนสาระสำคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพนั้นมิได้ 2. การชุมนุมของพันธมิตรกู้ชาติกระทำขัดบทบัญัติของรัฐธรรมนูญ เนื่องจากละเมิดสิทธิ์ ของประชาชาชนคนอื่น เช่นปิดถนน ทำลายโอกาสของการค้าขายของประชาชน มาตรา 28 บุคคลย่อมอ้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือใช้สิทธิและเสรีภาพของตนได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน 3. พันธมิตรใช้วาจาใส่ร้ายว่ากล่าวให้บุคคลอื่นได้รับความเสียหายตามมาตรา 34 สิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวย่อมได้รับความคุ้มครอง การกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความหรือภาพไม่ว่าด้วยวิธีใดไปยังสาธารณชน อันเป็นการละเมิดหรือกระทบถึงสิทธิของบุคคลในครอบครัวเกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ส่วนตัว จะกระทำมิได้ เว้นแต่กรณีที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน ซึ่งการด่าทอของพันธิมิตรกู้ชาติด้วยถ้อยคำรุ่นแรงไม่เป็นประโชยน์ต่อสาธารณะชนในถ้อยคำนั้นหากไม่ใช่เหตุผลที่กล่าวอ้างนอกจากดูถุกเยียดยามบุคคล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชื่อใหม่ รักหมู่
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: 24-05-2006, 03:12 » |
|
ฟ้องศาลสิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชื่อใหม่ รักหมู่
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: 24-05-2006, 03:14 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชื่อใหม่ รักหมู่
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: 24-05-2006, 03:37 » |
|
อ้อ...ข้อแรก...ลอง ๆ ไปอ่านมาตรา 65 ด้วยสิ ( มาตราสุดท้ายในหมวดสิทธิ์ ) บุคคลมีสิทธิ์ต่อต้านโดยสันติการเข้าสู่อำนาจโดยมิชอบตามรัฐธรรมนูญ ตามาตรานี้ทำให้การฉีกบัตรเลือกตั้งที่สงขลา ไม่ผิดตามที่ถูกกล่าวหา ( ศาลตัดสินแล้ว )
ข้อสอง ไปเปิดมาตรา ๔๔ บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ
การจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเฉพาะในกรณีการชุมนุมสาธารณะ และเพื่อคุ้มครองความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ หรือเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในระหว่างเวลาที่ประเทศอยู่ในภาวะการสงคราม หรือในระหว่างเวลาที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือประกาศใช้กฎอัยการศึก
ข้อสาม หากเป็นเรื่องการเมืองเรื่องสาธารณะเรื่องการใช้อำนาจของเจ้าพนักงานหรือนักการเมืองย่อมไม่อยู่ในข่ายหมิ่นประมาท หากเป็นเรื่องส่วนตัวก็ชอบที่จะไปฟ้องร้องตามกฎหมายหมิ่นประมาท
ฟ้องเลยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชื่อใหม่ รักหมู่
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: 24-05-2006, 05:55 » |
|
เรื่องปิดถนน อ่านที่นี่....................... ตุลาการเสียงข้างมากชี้กม.ห้ามชุมนุมบนไหล่ทาง ขัดรธน. นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวภายหลังการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวานนี้ (23 พ.ค.) ว่า ที่ประชุมแถลงด้วยวาจาและลงมติในคำร้องกรณีประธานรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 262 วรรค 1 (1) กรณีร่าง พ.ร.บ.ทางหลวง (ฉบับที่ ...) พ.ศ.... มาตรา 20 ที่บัญญัติให้เพิ่มความเป็นมาตรา 46/1 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 29 และมาตรา 44 หรือไม่ โดยคำร้องดังกล่าวมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 95 คน และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 79 คน เห็นว่ามาตรา 20 ของ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ทางหลวง ซึ่งบัญญัติให้เพิ่มความเป็นมาตรา 46/1 โดยวรรค 1 บัญญัติว่า ห้ามมิให้ผู้ใดชุมนุมกันในเขตทางหลวงในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรหรืออาจเป็นอันตรายหรือเสียหายแก่ยานพาหนะหรือผู้ใช้ทางหลวง เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการทางหลวงหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการทางหลวง หรือเป็นการเดินแถวขบวนแห่ หรือชุมนุมการตามประเพณี หรือวัฒนธรรม หรือเป็นกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรืออยู่ในเขตที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขออนุญาต ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด และวรรค 2 บัญญัติว่า การขออนุญาตและการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง นั้นมีข้อความขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 29 และมาตรา 44 จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดกรณีดังกล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวว่า คณะตุลาการเสียงข้างมากเห็นว่าบทบัญญัติดังกล่าวขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญเหตุเพราะกระทบต่อเสรีภาพของประชาชนจนเกินจำเป็น ขัดต่อเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ ด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 6 เสียง คณะตุลาการเสียงข้างมาก จำนวน 8 คน ประกอบด้วย นายผัน จันทรปาน นายจิระ บุญพจนสุนทร นายนพดล เฮงเจริญ นายมงคล สระฏัน นายมานิต วิทยาเต็ม นายสุวิทย์ ธีระพงษ์ นางเสาวนีย์ อัศวโรจน์ และนายอภัย จันทนจุลกะ เห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ทางหลวง มาตรา 20 ที่บัญญัติว่า ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 46/1 แห่ง พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535 มาตรา 46 /1 วรรค 1 และวรรค 2 นั้น มีข้อความขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 29 และมาตรา 44 เนื่องจากเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ โดยเป็นบทบัญญัติที่จำกัดเสรีภาพเกินความจำเป็นและกระทบกระเทือนต่อสาระสำคัญต่อเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ เพราะการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนที่รัฐธรรมนูญมาตรา 29 และ44 ได้บัญญัติไว้ อีกทั้งยังมีกฎหมายอื่นบัญญัติห้ามไว้อยู่แล้วและเห็นว่า กฎหมายอาญา กฎหมายจราจรทางบก และ พ.ร.บ.ทางหลวง มาตรา 39 ซึ่งในกฎหมายดังกล่าวได้กำหนดบทลงโทษและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถนำกฎหมายเหล่านี้มาบังคับใช้แทนได้ http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=6931
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
davil amature
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: 24-05-2006, 11:29 » |
|
ถ้างั้น ขอเป็นต้องเดินอย่างเดียวงดใช้รถหรือเครื่องขยายเสียงและห้ามมีธง ป้ายหรือวัตถุที่อาจเป็นอาวุธได้ดีไหมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความจริงมันก็แค่สิ่งที่เรารับรู้ และจิตใจเรายอมรับว่าจริง ทั้ง ๆ ที่ความจริงมันไม่ใช่เลยก้ได้
|
|
|
ชื่อใหม่ รักหมู่
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: 24-05-2006, 12:23 » |
|
เดินจากเชียงราย ถึง กทม. ไม่ไหวนะ..เจ้านาย...เครื่องขpายเสียงก็เอาไว้ควบคุมฝูงชนนั่นแหละครับ
หากไม่มีกาiควบคุมด้วยเครื่องขบายเสียง อาจไปสร้างความเสียหายเมื่อมีการยั่วยุ
ส่วนธงนั่นต้องถามม้อบปิดล้อมคมชัดลึกละกัน เอาไว้ทำอะไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: 24-05-2006, 13:23 » |
|
การเคลื่อนไหวของกุล่มพันธมิตรขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญดังนี้
1.พันธมิตร กู้ชาติทำกระทำขัดกับรัฐธรรมนูญในการห้ามนายกกลับมา ตามมาตรา 29 การจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเฉพาะเพื่อการที่รัฐธรรมนูญนี้กำหนดไว้และเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และจะกระทบกระเทือนสาระสำคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพนั้นมิได้ 2. การชุมนุมของพันธมิตรกู้ชาติกระทำขัดบทบัญัติของรัฐธรรมนูญ เนื่องจากละเมิดสิทธิ์ ของประชาชาชนคนอื่น เช่นปิดถนน ทำลายโอกาสของการค้าขายของประชาชน มาตรา 28 บุคคลย่อมอ้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือใช้สิทธิและเสรีภาพของตนได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน 3. พันธมิตรใช้วาจาใส่ร้ายว่ากล่าวให้บุคคลอื่นได้รับความเสียหายตามมาตรา 34 สิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวย่อมได้รับความคุ้มครอง การกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความหรือภาพไม่ว่าด้วยวิธีใดไปยังสาธารณชน อันเป็นการละเมิดหรือกระทบถึงสิทธิของบุคคลในครอบครัวเกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ส่วนตัว จะกระทำมิได้ เว้นแต่กรณีที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน ซึ่งการด่าทอของพันธิมิตรกู้ชาติด้วยถ้อยคำรุ่นแรงไม่เป็นประโชยน์ต่อสาธารณะชนในถ้อยคำนั้นหากไม่ใช่เหตุผลที่กล่าวอ้างนอกจากดูถุกเยียดยามบุคคล
"ลูกหลานปรีดี พนมยงค์" ใช้นามแฝงอย่างนี้และมีความคิดเห็นอย่างนี้ ไม่รู้สึกทำร้าย ลบหลู่ บิดเบือนอุดมการณ์ของท่านปรีดี พนมยงค์เกินไปหรือไม่ ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ราชสีห์ผู้ภักดีต่อแผ่นดิน
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: 24-05-2006, 14:30 » |
|
ผมสรุปให้ดีกว่าครับ...3ข้อที่คุณ "ลูกหลานปรีดี พนมยงค์ " ซึ่งเข้าใจว่าอ้างรัฐธรรมนูญแบบคนที่เพิ่งอ่าน
ข้อ1.ห้ามนายกฯ"ทักษิณ"กลับมาไม่มีกฏหมายเขียนไว้หรอกครับ..อย่าอ้างมั่วๆๆ ...ที่เขาเรียกร้อง
เพราะ"ทักษิณ"เคยประกาศเว้นวรรคจนกว่าจะได้ครม.ชุดใหม่..
เมื่อกลับมาก็เท่ากลับตระบัดสัตย์..
เหมือน"บิ๊กสุ"ก็เคยตระบัดสัตย์...
ข้อ2 ที่คุณ "ลูกหลานปรีดี พนมยงค์ " บอกว่าปิดถนนผิดรัฐธรรมนูญนั้น..เข้าไม่ได้ตีความอย่างที่คุณว่ามาหรอกครับ
แต่ที่ผิดคือพ.ร.บ.จราจรทางบก ละครับ...ซึ่งการเดินขบวนบนท้องถนนผิด"พ.ร.บจราจร"อยู่แล้วครับ...
แต่หากสู้คดีกันจริง..
พันธมิตรฯก็จะใช้มาตรา มาตรา 44 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจาก อาวุธ การจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระมิได้ เว้นแต่โดยอาศัย อำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเฉพาะในกรณีการชุมนุมสาธารณะ และเพื่อคุ้มครองความสะดวกของประชาชนที่จะใช้สาธารณะหรือเพื่อ รักษาความสงบเรียบร้อยในระหว่างที่ประเทศอยู่ในภาวะการสงคราม หรือในระหว่างเวลาที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือประกาศใช้ กฎอัยการศึก
ข้อ3 ที่คุณ "ลูกหลานปรีดี พนมยงค์ " ไม่ต้องถึงรธน.40หรอกครับ
เพราะหากพูดถึงเรื่องส่วนตัวให้เสียหาย..เขาฟ้องหมิ่นประมาทตามม.326 ได้เลยครับ
แต่พันธมิตรฯก็อ้างการวิพากษ์วิจารณ์บุคคลสาธารณะ สามารถทำได้..
จากคำพิพากษา...ที่ศาลยโสธร เคยพิพากษามาแล้ว..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
RiDKuN
|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: 24-05-2006, 14:43 » |
|
หวังว่าเจ้าของกระทู้จะไม่ใช่ลูกหลานของท่านปรีดีจริงๆ อย่างที่กล่าวอ้าง มิเช่นนั้นท่านรัฐบุรุษคงจะนอนตายตาไม่หลับเป็นแน่ ขึ้นต้นมาแค่ข้อหนึ่งก็พลาดเป้าไปอย่างร้ายกาจ อย่างแรกคือการทำหน้าที่บริหารประเทศนั้นมิใช่ "สิทธิเสรีภาพ" อย่างที่ท่านกล่าวอ้าง หากเป็น "หน้าที่" ที่พึงกระทำในฐานะผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ้าคุณเป็นคุณต้องทำ ถ้าไม่ทำ ก็ลาออกซะ ไม่มีสิทธิเสรีภาพอะไรทั้งสิ้น ว่าตามจริงแล้วทำหน้าที่แบบเลือกที่รักมักที่ชังยังไม่ได้เลย ไม่ต้องไปพูดถึงสิทธิเสรีภาพอย่างอื่นหรอก
อีกอย่างหนึ่งคือ การที่จะบอกว่าการกระทำใดๆ เป็นการ "จำกัดสิทธิเสรีภาพ" นั้น การกระทำดังกล่าวย่อมต้องมี "ลักษณะบังคับ" เช่น ออกกฎหมายบังคับ ใช้กำลังบังคับ ข่มขู่คุกคามว่าจะทำอันตรายเพื่อบังคับ หรือคุมขังไว้ในขอบเขตจำกัด เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งการแสดงความเห็นต่อต้านนายกฯ ผมไม่เห็นว่าเป็นการกระทำที่มี "ลักษณะบังคับ" กับนายกฯ แต่อย่างใดนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
|
|
|
|
porameto009
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: 24-05-2006, 22:01 » |
|
จะผิดกฎหมายตรงไหนหนอ ในเมือ ม.44 รธน. บัญญัติว่า การชมนุมโดยปราศจาอาวุธมีสิทธิ์ที่จะทำได้ สงสัย จขกท.คงแค่แอบอ้างชื่อมานะถ้าใช่จริงๆผมคนหนึ่งล่ะนอกจากจะไม่ขำแล้วแต่จะแปลกใจว่าทำไมคิดแบบนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชื่อใหม่ รักหมู่
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: 25-05-2006, 02:46 » |
|
ร้องขออัยการ สั่งไม่ฟ้อง 5 แกนนำพันธมิตรฯ
วันที่ 24 พ.ค. 2549 (ข่าวระหว่างวัน มติชน)
เครือข่ายนิด้าพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย นำทีมนักวิชาการ พร้อมจดหมายเปิดผนึกและบันทึกคำให้การ ประชาชน 505 คน ร้องอธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา สั่งไม่ฟ้อง 5 แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ชี้ชุมนุมโดยสันติตามสิทธิรัฐธรรมนูญ ม.44
ช่วงบ่ายวันนี้(24 พ.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน ผู้อำนวยการหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณทิต คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) พร้อมตัวแทนนักวิชาการจากกลุ่มนิด้าพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มเอ็นจีโอ เข้าพบนายวันชัย สร้อยทอง อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เพื่อยื่นหนังสือเปิดผนึก และบันทึกคำให้การของนักวิชาการและประชาชนรวม 505 คน ขอให้อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกสัยสุข นายพิภพ ธงไชย และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในความผิดฐานจัดม็อบชุมนุมล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย และความผิดอื่นรวม 5 ข้อหา
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า การชุมนุมกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ ที่เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถือเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 อีกทั้งยังเป็นการชุมนุมโดยสันติวิธี โดยประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมต่างก็สมัครใจ นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานชัดเจนว่า ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเอกก็อำนวยความสะดวกในการชุมนุมเป็นอย่างดีแต่กลับมีการดำเนินคดีกับแกนนำพันธมิตรฯ ในภายหลัง
นายวันชัย สร้อยทอง อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวว่า อัยการยินดีรับฟังข้อคิดเห็นจากทุกฝ่ายไว้พิจารณาประกอบสำนวนการสอบสวน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในการพิจารณาของคณะทำงานอัยการ ซึ่งกำลังทำงานกันอย่างอย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากมีเอกสารต้องพิจารณากว่า 6,000 แผ่น ทำให้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า จะสามารถมีคำสั่งคดีได้ตามนัดในวันที่ 29 พฤษภาคม นี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการพิจารณาสั่งคดีจะต้องยืนอยู่บนหลักของความเท่าเทียม และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปฐม
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: 25-05-2006, 07:26 » |
|
เจ้าของกระทู้ไปไหนเนี่ย เวลามาล่ะมายังกับพายุ เวลาไปย่องเบาอย่างกับโจร เปลี่ยนชื่อเหอะลูกพี่ ถ้าคำถามที่เขาถามกลับพี่ตอบไม่ได้... ขายขี้หน้าเขา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้าจะอยู่ ก็ขออยู่อย่าง เย้ยฟ้าท้าดิน
|
|
|
ปุถุชน
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: 25-05-2006, 23:15 » |
|
เจ้าของกระทู้ไปไหนเนี่ย เวลามาล่ะมายังกับพายุ เวลาไปย่องเบาอย่างกับโจร เปลี่ยนชื่อเหอะลูกพี่ ถ้าคำถามที่เขาถามกลับพี่ตอบไม่ได้... ขายขี้หน้าเขา
เจ้าของกระทู้นี้ คงมีนิสัยเหมือนคนตั้งกระทู้บางคนในนี้ ตั้งแล้วไปนอน บางคนตั้งแล้วไปรับทรัพย์.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|