ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 16:01
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  กกต.จะต้องมีความกล้าหาญ เพื่อทำสิ่งที่เป็นคุณต่อประเทศชาติ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
กกต.จะต้องมีความกล้าหาญ เพื่อทำสิ่งที่เป็นคุณต่อประเทศชาติ  (อ่าน 1707 ครั้ง)
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« เมื่อ: 04-04-2008, 09:51 »

ตามที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า กกต. มีหน้าที่ สกัดกั้นคนไม่ดี ไม่ให้เข้าสู่วงจรแห่งอำนาจทางการเมือง......
ผมขอเรียกร้องให้ กกต.มีความหนักแน่น และ จุดยืนที่มั่นคงใน หน้าที่  ในภาระ หน้าที่ ดังกล่าว.....

 กกต. เป็นด่านแรก ที่สำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาระบบการเมือง การบริหารประเทศ.... มีหน้าที่ปกป้อง
ประเทศชาติให้หลุดพ้นจากวงจรอุบาทก์ ทางการเมือง .....เป็นด่านแรกที่จะสกัดกั้นนักการเมืองเลว ๆ ไม่ให้
เข้ามาอยู่ใน วงจรแห่งอำนาจทางการเมือง.......


ในระยะนี้ ข่าวเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เริ่มมีความร้อนแรง และ มีความเป็นไปได้สูง.....แต่ ก็ไม่ใช่ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
จะทำได้ง่ายเพียงแค่พลิกฝ่ามือ......รัฐบาลปัจจุบัน ยังจะต้องเจอกันแรงต้านจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น นักวิชาการ
และการเมืองภาคประชาชน....โดยเฉพาะ กลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาชน ซึ่งมีแนวโน้มว่า จะสามารถปลุกมวลชนได้โดยไม่ยาก

ภาระหน้าที่ ของ กกต. เป็น ภาระที่สำคัญอย่างยิ่ง ในช่วงของการการเปลี่ยนถ่ายอำนาจ เป็นภาระ เพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง
เป็นภาระหน้าทีโดยตรง ที่จะไม่ให้ คนชั่วได้อยู่ในอำนาจ แล้วนำอำนาจเหล่านั้นมาสร้างประโยชน์ให้กับตนเอง โดยไม่สนใจว่าประเทศชาติ
จะเป็นอย่างไร  หาก กกต.ไม่ทำหน้าที่อย่างกล้าหาญ ตรงไปตรงมา .....ประเทศ จะพบกับความวุ่นวายอย่างไม่จบสิ้น

นับตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป จะมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ หาก กกต.จะยังรั้งรอ ต่อไป


ผมไม่อยากให้ กกต. ลังเลใจ ที่จะเอาผิด เอาโทษ บรรดา นักการเมืองขี้โกง รวมทั้งพรรคการเมืองโกงการเลือกตั้ง ....
ผมเริ่มเห็นสัญญาณ การชะลอเรื่อง จาก กกต.  ..........ผมอยากให้ กกต.มีความกล้าหาญเพียงพอ ที่จะตัดสินใจ ทำอย่างหนึ่ง
อย่างใด เพื่อให้บ้านเมืองเริ่มต้นพัฒนาต่อไป....หาก กกต. ยังคงไม่กล้าตัดสินใจ และ รีรอ ..จะเป็นเหตุให้เกิดความรุนแรง ไม่จบสิ้น
ประเทศชาติ ก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้....แล้ว เรา ก็กลับไปสู่วงจรแห่งความวุ่นวายกันต่อไป

หาก กกต.พบว่า มีผู้ใด พรรคการเมืองใด กระทำผิด ตามข้อบังคับ ในรัฐธรรมนูญ ก็ควรลงโทษ หรือ ดำเนินการต่อไป
โดยไม่ต้อง รั้งรอ ....การดำเนินการทุกอย่าง ตามกฏหมาย เป็นหนทางที่ดีที่สุด เป็นการทำให้ทุกอย่างจบอย่างรวดเร็ว
กกต.ไม่ควรรั้งรอ ให้ ฝ่ายการเมือง ก่อหวอดความวุ่นวาย เพื่อให้ตัวเอง หลุดพ้นจากความผิด.....เมื่อเรื่องทุกอย่างจบ
คนผิด ก็จะไม่มีความหวังอะไรต่อไปอีก ....ความวุ่นวาย ก็จะน้อยลง เพราะ ไม่มีอะไรให้ต้องสู้ต่อไปอีก


กกต. ควรจะต้อง รำลึกอยู่เสมอ ว่า เมื่อ อาสา เข้ามาทำงานที่มีภาระหนักอึ้ง เพื่อประเทศชาติ เป็นภาระหน้าที่
ที่มีความสำคัญยิ่งต่อประเทศชาติ เป็นจุดเริ่มของทุกสิ่ง ทุกอย่างที่จะทำให้ประเทศไทย เดินหน้าต่อไปได้.....กกต. จะต้องมี
ความกล้าหาญ ไม่หวั่นไหว ต่อแรงกดดัน ใด ๆ ทางการเมือง ...กกต.จะต้องเดินหน้าใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัด
เพื่อสกัดกั้น นักการเมืองเลว ให้ หมดไป.....เมื่อท่านทำหน้าที่แล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด....แต่ ถ้าหากไม่ทำหน้าที่
วันหนึ่ง ในภายภาคหน้า จะนึกเสียใจ ก็ ทำอะไรไม่ได้แล้วครับ...ทำได้แต่เพียงนั่งดูความวิบัติของชาติ ต่อไปชั่วลูก ชั่วหลาน


ยังคงเป็นกำลังใจให้เสมอครับ
บันทึกการเข้า
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #1 เมื่อ: 04-04-2008, 18:57 »

*  มาหนุน  กระทู้ นี้ .......... !!!

    เพราะดูเหมือนที่ผ่านมา   พี่ 55555     จะเน้นเรื่อง  กกต. และ  คตส.  มาตลอด

    ซึ่งบางท่านอาจหลงลืมไปตามข่าวที่เป็น  กระแส

    แต่ ...     2  หน่วยงานนี้  คือ  บทบาท  ที่แท้จริงที่จะเอาผิด  พปช.  รวมถึง  แม้ว     ค่ะ

    อ่อ  ..........  อีกหน่วยงานหนึ่ง  คือ  DSI  ที่เป็นฝ่ายส่งเอกสารข้อมูลสำคัญให้

    ยังคงเป็นกำลังใจให้  กกต.  +  คตส.  ( ยุคนี้ )  อยู่  ....  เช่นกัน

    เด๋วจะหาข้อมูลมาสนับสนุนให้ค่ะ  !!!!!!!!
บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #2 เมื่อ: 04-04-2008, 19:13 »

ขออย่างเดียว องค์กร อิสระไม่ถูกแทรกแซงเป็นพอ

ไม่งั้นเป็นแบบ 3หนาอย่าหาว่าไม่เตือนน้า
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
p
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,264


« ตอบ #3 เมื่อ: 04-04-2008, 19:14 »

มาหนุนกระทู้นี้อีกคนครับ
ขอให้ยึดมั่นในหลักการ
เทวดาฟ้าดินจะคุ้มครองท่านครับ
แต่ถ้าเผลอไปยึดตัวบุคคลเมื่อไร
ท่านจะไม่เหลืออะไรเลย
นอกจากความ ฉิ - บ หา - ย เท่านั้น


 
บันทึกการเข้า

ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
democrazy
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« ตอบ #4 เมื่อ: 04-04-2008, 19:56 »

อ้างถึง
คมชัดลึก 4 เม.ย. 51

"สดศรี"ส่อยื้อยุบพรรค อ้างอยากเปิดเวที
 
 
"สดศรี"ส่อยื้อเวลายุบพรรค ส่วนตัวเห็นว่าอยากจะเปิดเวทีสาธารณะฟังความเห็นให้รอบด้าน จากสื่อ-นักวิชาการ อ้างยุบพรรคเป็นเรื่องใหญ่ กกต. เป็นเหมือนโจทก์จะฟังแต่พยานโจทก์ฝ่ายเดียวคงไม่ได้ ไม่น่าจะเป็นการกระทำโดยชอบ


กกต.-4 เม.ย.-นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณียุบพรรคชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตยว่า ในวันที่ 8 เม.ย. ที่ทางนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยจะมาชี้แจงต่อ กกต. แล้วยังเปิดโอกาสให้พรรคมัชฌิมาธิปไตยเข้าชี้แจงด้วย

แต่ทั้งนี้ต้องดูว่าจะอ้างผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมาชี้แจงอีกหรือไม่ หากไม่มีตนคิดว่าในวันที่ 8 เม.ย. ก็น่าจะวินิจฉัยได้เลย แต่ส่วนตัวเห็นว่าอยากจะเปิดเวทีสาธารณะฟังความเห็นให้รอบด้านทั้งจากสื่อมวลชนนักวิชาการ ขอให้แสดงความเห็นกันอย่างหลากหลายเนื่องจากการยุบพรรคเป็นเรื่องใหญ่เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่ง กกต. ก็เป็นเหมือนโจทก์ จะฟังแต่พยานโจทก์ฝ่ายเดียวคงไม่ได้ ไม่น่าจะเป็นการกระทำโดยชอบ เพราะฉะนั้น ต้องฟังพยานจากผู้ถูกกล่าวหาด้วย และการเปิดเวทีสาธารณะก็ไม่ได้เป็นการยื้อเวลา แต่ที่ทำก็เพราะต้องการให้รอบคอบ

“ ขณะนี้ประชาชนเข้าใจผิด เห็นว่า กกต.ต้องทำทุกอย่าง คนทั้งประเทศคิดว่า กกต.เป็นผู้บริหารประเทศ เป็นผู้ชี้นำการเมือง ทั้งๆที่ กกต. มีหน้าที่จัดการการเลือกตั้งเท่านั้น” นางสดศรี กล่าว

ต่อกรณีที่สมาชิพรรคมัชฌิมาธิปไตยแย้งว่า นายสุนทร วิลาวัลย์ ที่ถูก กกต.ให้ใบแดงนั้นไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค เพราะนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ได้ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคและส่งผลให้นายสุนทรพ้นจากตำแหน่งไปด้วย นางสดศรี กล่าวว่า กรณีนี้ ที่ปรึกษากฎหมาย กกต.วินิจฉัยแล้วว่าขณะเกิดเหตุนายสุนทร วิลาวัลย์ยังเป็นกรรมการบริหารพรรคอยู่
 

เห็นข่าวนี้แล้วชักจะใจแป้ว
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #5 เมื่อ: 05-04-2008, 20:42 »

กรณี มัจฉิมา อาจพอมีเหตุผลให้กล่าวอ้างได้.....แต่ กรณี ของ ชาติไทย คงไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องยืดเยื้ออีกต่อไปแล้วครับ รีบ ๆ ส่งไปศาลรัฐธรรมนูญเถอะครับ อย่าให้ประชาชน เข้าใจผิด คิดว่า กกต.ชุดนี้ จะเหมือน ชุด สามหนา


“ ขณะนี้ประชาชนเข้าใจผิด เห็นว่า กกต.ต้องทำทุกอย่าง คนทั้งประเทศคิดว่า กกต.เป็นผู้บริหารประเทศ เป็นผู้ชี้นำการเมือง ทั้งๆที่ กกต. มีหน้าที่จัดการการเลือกตั้งเท่านั้น” นางสดศรี กล่าว

ผมคงเข้าใจไม่น่าจะผิดหรอกครับ.....กกต. ไม่ใช่แค่มีหน้าที่ จัดการการเลือกตั้ง....แต่ ยังมีหน้าที่ สกัดกั้นโจรการเมือง และ เอาผิดคนโกงเลือกตั้ง เป็นด่านสำคัญทีเดียวครับ.....ถ้าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา กกต. เข้มงวดกว่านี้ รู้เท่าทัน นักการเมืองเลว ๆ มากกว่านี้..เราคงไม่มีรัฐบาลเลว ๆ ที่เข้ามาไม่เท่าไหร่ ก็ ตั้งหน้าตั้งตา แก้กฏหมาย แก้รํฐธรรมนูญ ให้ผิด เป็นถูก ....แก้กฏหมาย ให้ขาวเป็นดำ...แก้กฏหมายให้ คนโกง ที่ถูกตัดสิทธิ์ ไปแล้ว มีโอกาสกลับมา...แก้กฏหมายให้ คนโกงชาติ มี่ช่องทางหนีกฏหมาย


ต่อกรณีที่สมาชิพรรคมัชฌิมาธิปไตยแย้งว่า นายสุนทร วิลาวัลย์ ที่ถูก กกต.ให้ใบแดงนั้นไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค เพราะนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ได้ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคและส่งผลให้นายสุนทรพ้นจากตำแหน่งไปด้วย นางสดศรี กล่าวว่า กรณีนี้ ที่ปรึกษากฎหมาย กกต.วินิจฉัยแล้วว่าขณะเกิดเหตุนายสุนทร วิลาวัลย์ยังเป็นกรรมการบริหารพรรคอยู่

ถ้าการลาออกของกรรมการบริหารพรรค กกต. ตีความว่า นายสุนทร วิลาวัลย์ ต้องพ้นจากกรรมการบริหารพรรค ไปด้วยนั้น...คงต้องมองไปที่กรรมการบริหารพรรคคนอื่น ๆ ด้วยเหมือนกัน.....คงยุ่งน่าดูทีเดียว...เพราะ ต้องกลับไปดูด้วยว่า จะส่งผลถึงการส่งสมาชิก ลงสมัคร สส.ด้วยหรือไม่.....มติต่าง ๆ ที่ออกมาจากพรรค...ไม่ว่า จะเป็นมติเข้าร่วมรัฐบาล สมบูรณ์ หรือปล่าว...เนื่องจาก กรรมการบริหารพรรคทั้งหมด สิ้นสภาพ ไป(ตามความเห็นของ อ.สดศรี) จากการลาออกของนายประชัย

กรณี นายยงยุทธ ก็เช่นกัน ยิ่ง ยืดเยื้อออกไป ก็จะยิ่งมีคนได้รับความเดือดร้อนมากตามไปด้วย....เห็นได้จาก กรณี ลูก พยาน เข้าร้องเรียน เรื่องโดนข่มขู่เอาชีวิต...ควรจะกล้า ตัดสินใจ ไปทางใดทางหนึ่ง เพื่อให้ ทุกอย่างจบตามครรลอง ของกฏหมายครับ

ผมยังยืนอีกครั้ง.....ยิ่ง กกต.สรุปเรื่อง ส่งศาลรัฐธรรมนูญเร็ว เท่าไหร่...ก็จะยิ่ง ลดแรงกดดันต่อ กกต.เร็วเท่านั้น.....สังคม ก็จะแตกแยกน้อยลง....ยิ่งเนิ่นนานออกไป สังคมจะยิ่งแตกแยก.....จะเห็นได้ว่า ....ทั้งฝั่งพันธมิตร และ ฟากฝั่ง ไทยรักไทย..( พปช.) ต่าง ฮึ่ม ๆ ใส่ กัน ต่าง เตรียมมวลชนเพื่อสนับสนุน ยิ่งนานออกไป มวลชน ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ก็จะยิ่งควบคุมยากครับ ....
บันทึกการเข้า
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #6 เมื่อ: 05-04-2008, 21:00 »

ตามที่ผมเข้าใจคือ กกต ไม่มีอำนาจตัดสินให้ยุบพรรคใด ๆ (หน้าที่ของ กกต เกี่ยวกับการเลือกตั้งเท่านั้น)..ทำได้ีเพียงรวบรวมหลักฐานและรวบรวมคำให้การ (ทำหน้าที่เหมือนตำรวจ) แล้วส่งไปยังศาลเพื่อให้ตัดสินต่อไป

การจะทำหน้าที่นี้ต้องยึดถือความตรงไปตรงมาเป็นหลัก โดยให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาด้วย หากผู้ถูกกล่าวหามีเรื่องที่จะชี้แจงอีก ก็ควรรับฟัง

ผมมองว่าจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับว่า ชาติไทย กับ มัชฉิมา จะดึงเรื่องนานแค่ไหน และ ถ้าคำนึงถึงความปลอดภัยของพยาน ตำรวจควรจะต้องเข้ามาดูแล

แต่ตอนนี้ ผบ สำนักงานตำรวจก็อยู่ฝ่ายรัฐบาล เรื่องข่มขู่พยานจะได้รับการดูแลแค่ไหนก็ไม่รู้ แต่จะให้ กกต เร่งรีบยื่นเรื่องไปยัง ศาลรธน ผมว่าไม่เหมาะครับ เพราะทุกอย่างต้องทำตามขั้นตอน(ฟังดูน่าเบือเนาะ) ถ้าผมเป็น กกต ผมจะขอให้คุ้มครองพยานเป็นกรณีพิเศษ เพราะคดีนี้สำคัญ และมีผลกับประเทศชาติโดยตรง

ส่วนที่ว่า ใครยังเป็น กกบห พรรคใดหรือไม่นั้นไม่น่ามีปัญหาครับ เพราะมีกฏหมายบัญญัติไว้ชัดเจน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-04-2008, 21:06 โดย sillysoulagency » บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 05-04-2008, 21:25 »

หน้าที่กกต. มิใช่แต่จัดการเลือกตั้งเท่านั้น

แต่มีหน้าที่ดำเนินการให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยบริสุทธิ์และเที่ยงธรรม

เมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการทุจริต ก็ดำเนินการไปตามที่กฎหมายให้อำนาจ

ยิ่ง กกต. แสดงอาการลังเล ไม่ว่าจะโดยอะไรก็แล้วแต่ ย่อมถูกสังคมจับตามอง

อย่าลืมว่าหากมีการกระทำผิดกฎหมายเสียเอง จะโดนแบบ กกต.สามหนา แล้วจะรู้สึก

เพราะฝ่ายตรวจสอบ กกต. มีทั้งสองฝ่าย ดังนั้นการดำเนินการใด ๆ ควรกระทำด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม

เท่าที่กฎหมายให้อำนาจไว้....ทำยักท่าไปก็มีแต่ผลเสียต่อตัว กกต. เอง

บันทึกการเข้า

ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #8 เมื่อ: 06-04-2008, 11:32 »

ข่าวคราวเกี่ยวกับ 2-3 กกต.
แพร่ตามสื่อมวลชน ไม่เป็นผลดีต่อการนำคนชั่วสู่ขบวนการกฏหมายเลย....
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #9 เมื่อ: 08-04-2008, 10:52 »

*   วันนี้เป็นวันตัดสินเรื่องจะยุบพรรค  ชาติไทย - มัชฌิมาฯ  หรือไม่  .....  ของ  กกต.

     ผลยังไม่สรุปออกมา ..... แต่การตัดสินใจครั้งนี้น่าจะเป็น  " มาตราฐาน "  ในอีกระดับหนึ่ง

     ที่แสดงให้เห็นถึง  >  กำลังใจ  และ  ความแข็งแรงของจิตใจ  <  รวมถึง  " ความน่าเชื่อถือ "  ในระบบ

     เพราะหน้าที่ของ  กกต.  คงไม่ใช่แค่ จัดการการเลือกตั้ง  .......

     แต่  กกต. เป้นเหมือนด่านแรกในการ  กรอง  นักการเมือง  ที่เข้ามาในสภา .....

     แน่นอน ..... แรงกดดันย่อมมีสูง  เพราะ มันส่งผลกระทบไปถึงหลาย ๆ อย่าง

     จะรอดู   "  ใจ "   และ    " การตัดสินใจ "  ของ  กกต. ในวันนี้ค่ะ ........

     ว่ามาตราฐานของท่านจะเหนือกว่า  3  หนา  หรือไม่   ???
บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #10 เมื่อ: 08-04-2008, 21:59 »

*  ระหว่างรอคำตัดสินของ  กกต. เรื่องยุบพรรคที่เลื่อนไปเป็นวันศุกร์นี้  ........

    เอาเรื่อง  คตส . ( บางส่วนจากข่าว ) มาฝากค่ะ  .............


      คตส.ปิดคดีซุกหุ้นภาค2-ร่ำรวยผิดปกติ' ปฏิเสธ'แม้ว'สอบพยานกว่า100ปากซัดถ่วงคดี

      คตส.แถลงปิดคดีซุกหุ้นสอง ส่งอัยการฟ้อง พค. ปูดประเด็นใหม่ 'ทักษิณ' ถือเอสซีแอสเสท เข้าประมูลซื้อที่ดินรัฐ
      ผิดกฎหมาย พบบุคคลปริศนาใช้ข้อมูลอินไซด์เดอร์ ฟันกำไร 3.5 พันล้าน ส่งออกไปซูริค


      นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการและเลขานุการ คตส. ในฐานะคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
      อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจตนเองและพวกพ้อง แถลงความคืบหน้าการ
      ไต่สวนคดีนี้เมื่อวันที่ 8 เมษายน ว่า ที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่ ได้มติเห็นชอบตามที่คณะอนุฯ ไต่สวนเสนอ ไม่เห็นควรสืบพยาน
      หลักฐานกว่าร้อยรายการตาคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในคดีนี้ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งประกอบด้วย 3 เรื่องหลัก คือ
      1. คดีการซุกหุ้นภาค สอง 2. คดีการได้ทรัพย์สินมาโดยมิชอบควร (คดียึดทรัพย์) และ 3. คดีการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ
      ในการออก พรก.ภาษีสรรพามิตในกิจการโทรคมนาคม เพราะมิได้เกี่ยวพันกับหลักฐานที่ได้กล่าวหาไว้


      นอกจากนี้ คตส. ชุดใหญ่ ยังมีมติให้อำนาจตามกฎหมายสั่งให้เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
      ส่งพยานหลักฐานในครอบครองทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับความเป็นเจ้าของบริษัทวินมาร์ค ของพ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว
      ให้แก่อนุกรรมการ ภายใน วันที่ 10 เมษายน นี้


      .............................................................................................................................
      ...........................................   ...............................................................................
      ...........................................................  ................................................................


      ในระหว่างการแถลงข่าว นายแก้วสรร ได้แจกเอกสารประกอบการแถลงข่าวเป็นจำนวน กว่า 17 หน้า ระบุถึงกระบวนการไต่สวน
      คดีนี้อย่างละเอียด อาทิ เหตุผลที่ คตส. มีมติไม่สอบปากคำพยานเพิ่มเติม ที่มาที่ไปของข้อกล่าวหาแต่ละส่วน ทั้งในเรื่องซุกหุ้น
      ชินคอร์ป ในส่วนของบริษัทเอกชน และคนในครอบครัว ของ พ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงการออกมาตรการเอื้อประโยชน์ แต่ละส่วน
      โดยนายแก้วสรร ย้ำว่าข้อมูลที่นำมาเปิดเผยครั้งนี้  รวมเป็นข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในสำนวนการไต่สวนทั้งสิ้น โดยไม่มีอะไรต้องปิดบัง
      กันอีกต่อไปแล้ว


      ในประเด็นเรื่องการซุกหุ้น ภาค สอง หลักฐานที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สมควรนำมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้แก่ การซุกหุ้นในส่วนของ
      บริษัทแอมเพิลริช  ที่หลักฐานชี้ขาดปัญหานี้อยู่ตรงที่ว่า    ในระหว่างปี 2542-2548  นั้น   มีธุรกรรมหุ้นชิน-แอมเปิลริช 
      ถึง 5 ครั้ง  อย่างแน่นอน  เอกสารธุรกรรมเหล่านี้อยู่ในครอบครองของธนาคารยูบีเอส  หากฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ หรือพานทองแท้
      ผู้เป็นลูกค้าของยูบีเอส  ใช้สิทธิขอหลักฐานมาแสดงได้ว่า   พ.ต.ท.ทักษิณฯมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงทางอ้อม   คดีในส่วนนี้
      ก็จะยุติเป็นคุณแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ในชั้น คตส.ในทันทีซึ่งคำกล่าวหาของคตส. ก็ได้ระบุประเด็นนี้ไว้อย่างชัดแจ้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ
      ก็ชี้แจงตัดบทไว้ห้วนๆ ว่าไม่รู้เห็น   โดยไม่ยอมขวนขวายหาหลักฐานชี้ขาดที่ว่านี้มาเลยส่วนคตส.เองนั้นก็ไม่มีช่องทางได้หลักฐาน
      เหล่านี้ได้   เนื่องจากเป็นความลับลูกค้าที่อยู่ในครอบครองของธนาคารต่างประเทศ  หรือ คำชี้แจงของธนาคารยูบีเอสฯ   ที่หากฝ่าย
      พ.ต.ท.ทักษิณฯ สามารถขอคำอธิบายจากธนาคารมายืนยันได้ ว่า คตส.เข้าใจรายงานของ ยูบีเอสผิด  คดีก็จะยุติได้อีกเช่นกัน 
      แต่ พ.ต.ท.ทักษิณฯก็มิได้ขวนขวายนำมาแสดงเลย ทั้งๆที่เป็นลูกค้าของธนาคารนั้น


      ในเอกสารดังกล่าวยังมีการระบุปัญหาการปกปิดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ  และภริยา ว่า คนเราถ้าไม่คิดจะทำผิด หรือ
      ทำผิดไปแล้ว  เหตุใดจึงต้องซุกซ่อนความเป็นเจ้าของทรัพย์สินใดๆด้วย   ความผิดเหล่านี้คืออะไร ในปัจจุบันก็อาจจำแนก
      ได้เป็น 3 ส่วนคือ ความผิดฐานคอรัปชั่น  ความผิดตามกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ ( ใช้ข้อมูลภายใน,ปั่นหุ้น )  และหนีภาษี


      1. คดีซุกหุ้นหนึ่ง   ที่ คุณหญิงฯให้คนใช้หรือบริวารถือหุ้นแทนนั้น  ความจงใจอยู่ที่การเล่นหุ้นโดยมิชอบ 
      แต่ถูกลูกหลง ถูกขุดคุ้ยเป็นคดีตามกฎหมายตรวจสอบคอรัปชั่น  คือ แจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ  ที่แก้ตัวว่าบกพร่องโดยสุจริต
      จนรอดคดีไปอย่างหวุดหวิด

      2. คดีซุกหุ้น2  คือคดีนี้ ที่ คตส.กล่าวหาว่าได้ทรัพย์สินมาโดยมิสมควรจากการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ชินคอร์ป โดย
      ในคดีนี้การซุกหุ้นได้ถูกนำมากล่าวหาว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทุจริตเชิงนโยบาย  ที่เจ้าของกิจการโทรคมนาคมถูกกล่าวหาว่า
      เชิดบุตรและพี่น้องถือหุ้นแทน   แล้วเข้ามามีอำนาจรัฐใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์กิจการของตนอีกชั้นหนึ่ง   ซึ่งหากเป็นจริงก็เป็น
      ความผิดร้ายแรงถึงขั้นที่จะต้องยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง เพราะหาใช่พลั้งพลาดแจ้งทรัพย์สินตกหล่นแต่อย่างใดไม่

      3. คดีซุกหุ้นเอสซีแอสเสทผ่านวินมาร์ค  เป็นอีกคดีหนึ่งที่ถูกค้นพบในยุค คมช. ในคดีนี้ แม้ พ.ต.ท.ทักษิณฯ จะถูกกล่าวหา
      ฐานปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นตามกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ ก็ตามแต่มูลคดีแท้จริงนั้นก็ เกิดขึ้นในช่วงก่อนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
      เมื่อ ปี 2542  ที่แม้หุ้นเอสซีนี้จะไม่ใช่หุ้นสัมปทานก็ตาม  แต่ก็มีกฎหมายกำหนดให้นายกรัฐมนตรีและภริยาต้องนำหุ้นไปให้บริษัท
      หลักทรัพย์รับจัดการ โดยห้ามยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด ซึ่งจะทำให้ครอบครัวชินวัตรนำบริษัทเอสซีเข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้
หรือหาก
      บริษัทเข้าซื้อที่ดิน บสท.เมื่อใด พ.ต.ท.ทักษิณฯ ก็จะต้องคดีบริษัทของตนทำสัญญากับรัฐทันที  ความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนชื่อ
      ผู้ถือหุ้น เอสซีแอสเสท เป็นชื่ออื่น จึงเกิดขึ้น  และ   กลายเป็นการขายหุ้นให้วินมาร์คเพื่อที่ตนเองจะถือหุ้นเอสซีแอสเสทผ่าน
      วินมาร์คอีกชั้นหนึ่ง
จากนั้นเมื่อบุตรสาวบรรลุนิติภาวะก็เปลี่ยนจากวินมาร์คมาเป็นพินทองทาในที่สุด  ตลอดช่วงเวลานี้
      บริษัทนีได้เข้าค้าขายที่ดินกับกองทุนที่ดินต่างๆของรัฐหรือไม่  ประการใดบ้าง  ก็เป็นงานที่ต้องสืบเสาะให้กระจ่างอีกคดีหนึ่งด้วย


      4. คดีเล่นหุ้นธนาคารทหารไทย  การที่นักการเมืองสามารถใช้ตัวแทนเชิดถือเงิน หรือเล่นหุ้นแทนตนได้นี้ เป็น
      อันตรายต่อตลาดหลักทรัพย์มาก  เพราะนักการเมืองจะสามารถล่วงรู้ข้อมูลภายในราชการที่กระทบต่อราคาหุ้นบางตัว
      แล้วอาศัยข้อมูลนั้นซื้อหรือขายหุ้นเอาเปรียบผู้อื่นได้เสมอ

   
      ดังในกรณีเงินปันผลหุ้นชิน ของนายพานทองแท้ กว่า 400  ล้านบาท  ที่ได้ถูกนำไปกว้านซื้อหุ้นธนาคารทหารไทย ก่อนหน้า
      ที่กระทรวงการคลังจะเพิ่มทุนเพียงไม่กี่วัน  จนฟันกำไรไปได้ 70  ล้านบาท   หรือแม้กระทั่งข้อมูลการขายหุ้นชินคอร์ป ของ
      ครอบครัวชินวัตร ในราคาหุ้นละ 49 บาท  สูงกว่าตลาด 10 บาทนั้น    ข้อมูลนี้ก็มีค่ามากเพราะหลังจากซื้อหุ้นชิน – ชินวัตรแล้ว   
      กองทุนเทมาเส็ค ก็มีหน้าที่ต้องเปิดรับซื้อหุ้นชินจากบุคคลทั่วไป ในราคานี้อยู่ดี    ใครคือผู้ที่รู้ข้อมูลนี้ก่อนบุคคลอื่น   แล้วกว้าน
      ซื้อหุ้นชินฯในมกรา 49กว่า 25 % ของตลาด  นำมาขายต่อให้เทมาเส็ค 74 ล้านหุ้นได้กำไรกว่า  500 ล้านบาท แล้วส่งเงิน
      3.5 พันล้าน ไปซูริคทันที  คนคนนี้คือใคร ทำไมจึงใช้เลขบัญชีเล่นหุ้นในธนาคารยูบีเอส  เป็น เลขเดียวกับวินมาร์คด้วย

       

      ............................................................  ...............................................................
      ............................   ..............................................................................................


      ลิงค์แบบเต็ม ๆ ค่ะ  > http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=26662&catid=1   

     สาเหตุที่เอาข่าว  คตส. มาแปะใน ทู้ นี้  .....  เพราะคิดว่า  2  หน่วยงานหลัก คือ กกต . กะ  คตส.

      เปรียบเสมือนองค์กรที่  ฟอก ความสกปรก บางอย่างในสังคมการเมืองบ้านเราได้

      ในเมื่อ  คตส. ยังเดินหน้าต่อไป .... ถึงจะมีอุปสรรคมาเกาะแข้งเกาะขาเป็นระยะ ๆ

     ก็อยากให้  กกต.  ทุกท่านมีความ  หนักแน่น  เหมือน ๆ กัน  .... อย่าเพิ่งถอดใจง่าย ๆ นะค่ะ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-04-2008, 22:02 โดย see - u » บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #11 เมื่อ: 08-04-2008, 23:45 »

คตส.ผมว่าพวกท่านได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้วครับ จะมีกระตุกบ้างก็ล้วนเป็นเหตุจากเกมส์การเมือง แต่ กกต. นี่นับวันยิ่งแปลก เหมือนเล่นเกมส์เตะถ่วงยังไงไม่รู้ ถึงแม้ว่าการตัดสินยุบพรรคไม่ได้เป็นอำนาจหน้าที่ แต่การเตะถ่วงแบบไม่ส่งเรื่องให้ศาลนี้ มันก็ออกจะไม่เข้าท่า เพราะสุดท้ายคนตัดสินก็ไม่ใช่กกต. อยู่ดี ยังจะเยื้อไว้ทำไม สุดท้ายการยื้อเวลาก็ยิ่งส่งผลดีให้กับพวกที่พยายามหนี้ความผิด เห็นแล้วประชาชนอย่างผมถ้อใจมากๆ เหมือนจะให้เวลาฝ่ายทำผิดเคลื่อนไหว ซึ่งสุดท้ายผลมันอาจจะเลวร้ายกว่าการยุบพรรค ส่วน DSI ไม่อยากเอ่ย คดีเก่าไม่สะสาง ไปเดินเกมส์คดีใหม่กลบไปแล้ว 
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #12 เมื่อ: 09-04-2008, 00:17 »

กกต...ต้องหาทางปกป้องพยานให้เขาปลอดภัยด้วย
ไม่งั้นอนานคต คงไม่มีใครกล้าเป็นพยาน

 
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #13 เมื่อ: 09-04-2008, 06:02 »

กกต...ต้องหาทางปกป้องพยานให้เขาปลอดภัยด้วย
ไม่งั้นอนานคต คงไม่มีใครกล้าเป็นพยาน

 

ปัจจุบันก็ไม่มีใครกล้าเป็นพยานปรักปรำผู้มีอิทธิพลแล้วครับ...
บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
jumjim
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 82


« ตอบ #14 เมื่อ: 10-04-2008, 09:30 »

จุ๋มจิ๋ม ได้ยินมาว่า มี กกต.คนหนึ่ง โดน ไอ้ ชั่วหน้าเหลี่ยม มัน เอา อะไรให้เรียบร้อยร้อย ค่อนข้างแน่นอน  แต่ สำหรับสดศรี ผมยังไม่เคยได้ยิน อย่าดึงเรื่องไปเรื่อย ๆ ก็แล้ว กัน เดี๋ยว ก็มีคนแฉเองแหละ   
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #15 เมื่อ: 10-04-2008, 10:01 »

คตส.คงต้องรีบ ส่ง เรื่องฟ้องศาลด่วน เพราะ ต่อไปนี้ ดูเหมือน อัยการสูงสุด จะไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่ แล้ว........

ใจจริง ผมอยากให้ คตส.ฟ้องเอง ทุกเรื่องเลยด้วยซ้ำ ถ้า พอหางบประมาณได้....บอกตามตามตรง ไม่ค่อยเชื่ออัยการเท่าไหร่แล้วครับ

บันทึกการเข้า
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #16 เมื่อ: 12-04-2008, 10:16 »

*  ขอขุด  ทู้   นี้นะคะ ..... เพราะผลออกมาแล้วในเรื่องยุบพรรค  คือ 4 ต่อ 1 เสียง

    ต้องปรบมือให้ ......  สำหรับ  กกต.  ทั้ง  4  ท่าน  ในการตัดสินใจครั้งนี้

    คงไม่ต้องพูดอะไรมากนอกจากจะบอกว่า  .........

    ดีค่ะ .....  เยี่ยม !!  ถือว่าเป็นของขวัญที่ดีสำหรับปีใหม่ไทยในปีนี้


         <<  เอาดอกไม้มาแปะสักหน่อย ... เพื่อความสวยงามของ  กระทู้    

    ส่วน  คตส.  กรณีปล่อยเงินกู้พม่า  ......  ถ้า  อสส.ตีกลับ  คตส. จะฟ้องศาลเองแล้วค่ะ  

    http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000043337

บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #17 เมื่อ: 18-04-2008, 10:15 »

คณะอนุกรรมการ พปช. ลุยหนักเล็งยุบทิ้ง กรรมการ ป.ป.ช.-กกต. อ้างมาจากการรัฐประหาร
   
    ปฏิเสธลั่นไม่ใช่ทำเพื่อคดี  'ทักษิณ'  ใช้ รธน.ปี 40 ตัดแปะใหม่รื้อ ส.ว.สรรหาทิ้ง ดึงสำนักงายอัยการสูงสุดกลับเป็น
    ส่วนราชการ ส.ส.ร.ซัดลุแก่อำนาจ-เตือนทำให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น


    พปช. รื้อ รธน. ใช้ฉบับปี 40ตัดแปะ   ยุบ ทิ้ง กก.ป.ป.ช.-กกต.

    คณะอนุกรรมการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550  ของพรรคพลังประชาชน  มีมติให้รื้อ ส.ว.สรรหาและยุบคณะกรรมการองค์กรอิสระ
    คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)โดยอ้างว่า มาจากการ
    แต่งตั้งของคณะรัฐประหาร รวมทั้งให้สำนักอัยการสูงสุดกลับเป็นส่วนราชการสังกัดกระทรวงยุติธรรมเหมือนเดิม

    นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ  ส.ส.สัดส่วน รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน  ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
    2550  พรรคพลังประชาชนแถลงเมื่อ  วันที่ 17 เมษายน ภายหลังการประชุมนาน 5 ชั่วโมงว่า ที่ประชุมให้มีการแก้ไขเกือบทั้งฉบับ
    ยกเว้นหมวดที่ 1(บททั่วไป) และ 2 (พระมหากษัตริย์)ซึ่งผู้จัดทำร่างได้นำร่างมาพิจารณาโดยเริ่มพิจารณาตั้งแต่หมวดที่ 3 เกี่ยวกับ
    สิทธิเสรีภาพของประชาชน ส่วนใหญ่ได้ยึดรัฐธรรมนูญ ปี 2540 เป็นหลักและประกอบกับรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ที่มีการจำแนกแยกได้
    อย่างเป็นสัดส่วนดีกว่าปี 2540 ส่วนหน้าที่ของปวงชนชาวไทย จะยึดปี 2550 เป็นหลัก

    นายสุขุมพงศ์กล่าวว่า  ในหมวด 5 เกี่ยวกับนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ มีการแก้ไขจำนวนมาก เนื่องรัฐธรรมนูญปี 2550 บัญญัติค่อนข้าง
    บังคับให้รัฐบาลต้องทำตามทุกขั้นตอน อีกทั้งทำให้รัฐบาลนำนโยบายของพรรคที่หาเสียงกับประชาชนนำมาบรรจุเป็นนโยบาย
    ได้อย่างครบถ้วน ดังนั้นจึงต้องกลับไปใช้ตามรัฐธรรมนูญปี 2540

    ในหมวด 6 เกี่ยวกับรัฐสภา ส่วนใหญ่ให้กลับไปใช้ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 ทั้งจำนวน ส.ส. คุณสมบัติและวิธีการเลือกตั้ง ตลอดจน
    วิธีการนับคะแนน เช่นเดียวกับ ส.ว.จะกลับไปใช้ในปี 2540 ทั้งหมด
ส่วนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน
    และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้กลับไปใช้ตามปี 2540 ทุกอย่าง โดยเฉพาะผู้ตรวจการแผ่นดินจะกลับไปใช้ชื่อเดิม
    คือผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา เพื่อให้ยึดโยงกับรัฐสภา

   
    ให้ ส.ส. เป็น รมต.-เลขาฯ-ที่ปรึกษาได้-สรรหาศาล รธน.ใช้แบบปี 40

    นายสุขุมพงศ์กล่าวว่า ในหมวดเกี่ยวกับคณะรัฐมนตรี จะคงไว้ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 โดยแก้ไขให้ ส.ส.สามารถดำรงตำแหน่ง
    รัฐมนตรีได้เหมือนรัฐธรรมนุญปี 2550  โดยไม่ต้องพ้นจากตำแหน่งและให้ดำรงตำแหน่งเป็นข้าราชการการเมืองอื่นๆ ได้ เช่น

    เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรีได้ ส่วนการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินนั้น เห็นว่าของ
    ปี 2540 และ 2550 ไม่ต่างมาก ซึ่งปี 2550 กำหนดบังคับ  ให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ต้องมาตอบกระทู้ซึ่งจะนำมาใช้ด้วยและในการ
    ยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี จะใช้เสียง 1 ใน 5 ส่วนรัฐมนตรีใช้เสียง 1 ใน 6

   
    นายสุขุมพงศ์กล่าวว่า ส่วนศาลนั้น ประกอบด้วย ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ศาลทหาร ศาลปกครอง กลับใช้ปี 2540 โดยการ
    สรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้กลับไปใช้ปี 2540  ส่วนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่กำลังสรรหาอยู่ในขณะนี้ให้ดำเนินการต่อไป
    ส่วนกรณีนำเรื่องขึ้นสู่ศาลรัฐธรรมนูญ จะปรับจากรัฐธรรมนูญปี 2540 และ 2550 มาใช้โดยหากรัฐสภาเห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ
    สามารถยื่นได้ตามปกติ  แต่เปิดช่องให้ประชาชนเข้าชื่อเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้เหมือนกับรัฐธรรมนูญปี 2550


    บทเฉพาะกาลรื้อ ส.ว.- ยุบกรรมการ กกต.-ป.ป.ช.

    นายสุขพงศ์กล่าวว่า สำหรับกรณี รัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง เพราะต้องคดีอาญานั้น จะให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อถูกตัดสินให้จำคุก
    ถึงแม้จะรอลงอาญาก็ตาม เว้นแต่ความผิดลหุโทษ ประมาท หรือหมิ่นประมาท เพื่อควบคุมรัฐมนตรีไม่ให้กระทำความผิด ส่วนองค์กร
    อิสระ จะให้กลับไปใช้เหมือนรัฐธรรมนูญปี 2540 ส่วนองค์กรใหม่ที่เกิดขึ้นตาม ปี 2550 อาทิ
สำนักงานอัยการ
    สูงสุด สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฯ จะกลับไปเป็นส่วนราชการเช่นเดิม

   
    เมื่อถามว่ามีเหตุผลอะไรที่ดึงอัยการกลับมาเป็นส่วนราชการเช่นเดิม  นายสุขุมพงศ์กล่าวว่า   อัยการเป็นส่วนราชการมาช้านาน
    มีหน้าที่หลักในการทำคดีแทนรัฐบาล และจะต้องขึ้นตรงต่อรัฐบาล มีหน้าที่ให้ความเห็นต่อรัฐบาล หากเป็นองค์กรอิสระ ทำให้เกิด
    ปัญหาโดยเฉพาะในส่วนท้องถิ่นและภูมิภาค จึงให้กลับมาเป็นส่วนราชการเช่นเดิม

    ส่วนที่มีการมองว่าอัยการอาจถูกแทรกแซงโดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น คิดว่าไม่มี
    การแทรกแซงใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเดิมอัยการก็สังกัดกระทรวงยุติธรรม เคยตัดสินให้ยุบพรรคไทยรักไทยมาแล้ว จึงไม่น่าจะมีเหตุการณ์
    เช่นนั้น

   
    รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชนกล่าวว่า สำหรับการแก้ไขกฎหมายจะถือเอาหลักเกณฑ์ตามปี 2550 โดยให้ประชาชนเสนอ
    ร่างกฎหมายได้ใช้เกณฑ์ 10,000 คน  ส่วนการเข้าชื่อยื่นถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ใช้เกณฑ์ 20,000 คน เสนอแก้
    รัฐธรรมนูญได้ใช้เกณฑ์ 50,000 คน  นายสุขุมพงศ์กล่าวว่า ในส่วนของบทเฉพาะกาลนั้น จะคงส่วนขององคมนตรี ตุลาการ และ
    อัยการอาวุโส นอกจากนั้น จะให้แก้ไขทั้งหมด  คือ
สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา กกต.  ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการ
    สิทธิมนุษยชนฯ สภา ที่ปรึกษาฯ จะมีบทเฉพาะกาล
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติเรื่องบทเฉพาะกาล เนื่องจาก
    ยังมีความเห็นที่หลากหลาย อาทิ จำนวน ส.ส. 480 คน ตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ขณะที่ปี 2540 ให้มี 500 คน ส่วนที่ขาดไป 20 คน
    จะให้เลือกตั้งเพิ่มเติม หรือเลื่อน ส.ส.จากระบบสัดส่วนขึ้นมา  ส่วนวุฒิสภาตามปี 2540 กำหนดให้มี 200 คน จากเลือกตั้งทั้งหมด แต่ปี
    2550 กำหนดให้มี 150 คน โดยเป็นการเลือกตั้ง 76 คน และสรรหา 74 คน จึงเป็นปัญหาจะให้มีการเลือกตั้งให้ครบ 200 คน
    หรือไม่แล้ว 74 คนที่มาจากการสรรหาจะให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อไหร่


    ส่วนการกำหนดในบทเฉพาะกาลของ กกต. และ ป.ป.ช.ในการทำหน้าที่นั้น นายสุขุมพงศ์กล่าวว่า ในส่วนของ กกต.จะให้เวลา
    เคลียร์งานอีก 180 วัน ส่วน ป.ป.ช.จะให้เวลาอีก 6 เดือน ถึง 1 ปี


    นายสุขุมพงศ์กล่าวว่า  บทเฉพาะกาลเกี่ยวกับองค์กรต่างๆ เช่น กกต. และ ป.ป.ช.ว่า จะให้อยู่อีกกี่วัน
    กี่เดือนกี่ปี ในหลักการ คือ  องค์กรอิสระที่ตั้งโดยรัฐธรรมนูญต้องอยู่ครบอย่างแน่นอน  ขอยืนยันว่า การแก้ไขเกี่ยวกับองค์กรอิสระนั้น
    ไม่เกี่ยวกับคดีของ  พ.ต.ท.ทักษิณ
เพราะเมื่อรัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับใช้ ทุกอย่างไม่ติดขัด ความผิดยังคงมีอยู่

    ลิงค์แบบเต็ม ๆ   >>   http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=27508&catid=1

    อ่านข่าวแล้ว ....  หงุดหงิด   มันจะมากไปมั้งเนี่ยย  รัฐบาลชุดนี้

    พอมีคำตัดสินเด็ดขาดออกมาจาก  กกต.   

    พวกเวรเนี่ยยย  มันเล่นคิดจะยุบหน่วยงานเค๊าซะงั้นเลย .....  เพื่อเลี่ยงไม่ให้ตัวเองโดนไปด้วย 

    แล้ว กฏ กติกตา  มีเอาไว้ทำแมวน้ำอะไรกันค่ะ

    ไม่รู้ว่าโลกมันหมุนกลับด้านหรืออย่างไร  ...... การกลับผิดเป็นถูก  การแก้ กม.  การหาเรื่องคนที่เขายึดหลักที่ควรทำ

    กลายเป้นเรื่อง ....  ง่ายดาย   เป็นเรื่องที่กลุ่มบุคคลก๊วนหนึ่งที่มี  หนังหนาหนา  กระทำได้ตามอำเภอใจ  งั้นหรือ ???

    ปล. ขออนุญาต เอาข่าวนี้มาแปะใน ทู้ นี้  ......  เพราะเป็น ทู้ ให้กำลังใจ  กกต.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2008, 10:22 โดย see - u » บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #18 เมื่อ: 18-04-2008, 10:32 »

ไปกันใหญ่แล้วครับ....หากแก้กฏหมายกันตามอำเภอใจ แบบนั้น......คงหลีกเลี่ยงความวุ่นวายได้ยากเต็มที.....ตัวใครตัวมันแล้วครับ

คณะอนุการแก้กฏหมาย ควรยุบทิ้ง รัฐบาลสมัคร ด้วยเหมือนกัน เพราะ เป็นผลพวงจากรัฐธรรมนุญ ฉบับรัฐประหาร ตามที่กล่าวอ้างกัน

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2008, 10:34 โดย 55555 » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: