อีกหลักฐานรัฐบาลเผด็จการทักษิณครับ เป็นการให้การต่อศาล ของ รัฐมนตรีไอซีที ในรัฐบาลปัจจุบัน
ในฐานะพยานจำเลย มีการกล่าวถึงพฤติกรรมของอดีตนายกฯ ทักษิณ และบริวาร ที่พยายามบีบบังคับ
ให้พรรคการเมืองอื่นต้องยุบรวมกับพรรคไทยรักไทย เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่ใช้อ้างอิงต่อไปได้
เหมาะสำหรับเก็บไว้ใช้ตอบคำถาม กับสมาชิกใหม่ PT ช่างสงสัยที่เข้ามาใหม่เป็นระยะๆ
รวมทั้งเก็บไว้เผยแพร่ตามที่ต่างๆ เมื่อต้องการก็ได้นะครับ
ในอีกทางก็คือ ค่อยๆ เก็บรวบรวมไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ยุคทักษิณ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"มั่น"แฉ"ทักษิณ"บีบ"วัฒนา"เข้าทรท.โดย Post digital วันที่ 2 เมษายน 2551
http://www.posttoday.com/topstories.php?id=230212" วัฒนา" ป่วยอีก เลื่อนแจงคดีคลองด่าน ด้าน "มั่น" ขึ้นเบิกความเป็นพยานฝ่ายจำเลย
แฉกลางศาล "วัฒนา" ถูก "ทักษิณ" กลั่นแกล้งบีบ ให้เข้าพรรคไทยรักไทย
วันนี้(2เมษายน) ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนพร้อมองค์คณะ 9 คน ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานจำเลยครั้งแรก
คดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย และประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดินเป็นจำเลย
ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต ในการใช้อำนาจข่มขู่ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นร่วมออกโฉนดที่ดิน
1,900 ไร่ ทับที่คลองสาธารณะประโยชน์ และที่เทขยะมูลฝอย ซึ่งเป็นที่สงวนหวงห้าม เพื่อนำไปขายให้กรมควบคุมมลพิษ
เพื่อก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสีย ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
ก่อนเริ่มไต่สวนพยาน นายไพบูลย์ โพธิ์น้อย ทนายความนายวัฒนา ยื่นคำร้องพร้อมใบรับรองแพทย์ต่อศาล ว่า นายวัฒนา ไม่สามารถ
เดินทางมาขึ้นเบิกความในการไต่สวนพยานจำเลยได้ในวันนี้ เนื่องจากนายวัฒนา มีอาการสับสนเฉียบพลัน และเกิดภาวะสูญเสีย
ความจำชั่วคราว ซึ่งขณะนี้เข้าตรวจรักษาอาการอยู่ที่ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ระหว่างวันที่ 1-2 เม.ย. ศาลจึงให้ทนายความจำเลย
นำพยานปากอื่นขึ้นไต่สวนแทน ซึ่งทนายความจำเลย นำพยานไต่สวนรวม 4 ปาก คือ นายมั่น พัธโนทัย รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสาร (ไอซีที) ผู้ใกล้ชิดนายวัฒนา ซึ่งรู้จักและร่วมงานการเมืองมาตั้งปี 2518 รวมทั้งยังเป็นผู้ร่วมลงทุนทางธุรกิจในบริษัท
ของนายวัฒนา และครอบครัวด้วย , นายศิริพันธ์ ไพโรจน์บริบูรณ์ อดีตอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ( คพ.) ซึ่งเป็นผู้ลงนามสัญญาซื้อขาย
ที่ดินโครงการดังกล่าว , พ.อ.ชินรัตน์ รัตนจิตเกษม ที่ปรึกษา กรรมาธิการวิสามัญ และอนุกรรมการตรวจสอบโครงการบ่อบำบัดน้ำเสีย
คลองด่าน และนายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ
ทั้งนี้ในระหว่างการไต่สวน ทนายความจำเลย พยายามซักถามพยานเกี่ยวกับการใช้อำนาจทางการเมืองกลั่นแกล้งนายวัฒนา
ให้ตกเป็นจำเลยในคดีนี้ ซึ่งนายมั่น ตอบคำถามทนายจำเลยย้ำว่า นายวัฒนา ถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ใช้อำนาจทางการเมืองกลั่นแกล้งนายวัฒนา และนายประชา โพธิพิพิธ หรือ กำนันเซี๊ยะ ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
รวมทั้งนายสมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ อดีตนายกเทศมนตรีตำบาลแสนสุข จ.ชลบุรี บิดานายสนธยา คุณปลื้ม อดีต ส.ส.
พรรคชาติไทย ให้ถูกดำเนินคดีอาญา เพื่อหวังผลทางการเมือง บีบให้พรรคการเมืองอื่นรวมกับพรรคไทยรักไทย และเมื่อ ปี 2547
พ.ต.ท.ทักษิณ เคยสั่งให้นายภูมิธรรม เวชยชัย ส.ส. ไทยรักไทย ( อดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย) ติดต่อผ่านนายพินิจ จารุสมบัติ
(อดีตรองนายกรัฐมนตรี) ให้นัดพบนายวัฒนา ที่ห้องอาหารหูฉลาม สกาล่า ที่ศูนย์การค้าสยามด้วย ซึ่งนายวัฒนา เล่าให้พยานฟังว่า
ต้องการให้นายวัฒนา ส่งผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการแบบแบ่งเขตทั้ง 2 เขต รวมทั้งแบบปาร์ตี้ลิสต์ด้วย และให้ ส.ส.สมุทรปราการ
รวมเป็นพรรคเดียวกันทั้งหมด และอยากให้นายวัฒนา แยกตัวมาจาก พล.ต.สนั่น ขจรประสาสน์ (รองนายกรัฐมนตรีและแกนนำ
พรรคชาติไทยขณะนี้ ) แต่นายวัฒนา ปฏิเสธไปว่า การทำอย่างนั้นไม่ถูกต้อง เพราะจะกลายเป็นเผด็จการรัฐสภา ซึ่งนายภูมิธรรม
ย้อนกลับนายวัฒนาว่า คดีคลองด่านยังไม่พออีกหรือ
ภายหลังศาลไต่สวนพยานทั้ง 4 ปากเสร็จสิ้นแล้ว ศาลนัดไต่สวนพยานจำเลยปากต่อไปในวันที่ 8 เม.ย.นี้ เวลา 09.30 น.
โดยศาลสั่งกำชับให้ทนายความนำตัวนายวัฒนา มาไต่สวนตามที่ทนายความแถลงต่อศาล ว่านายวัฒนาจะเดินทางมาศาล
ในวันที่ 8 เม.ย.ด้วย