มิเชล พลาตินี่ ถาม ทักษิณ ชินวัตร ซื้อเรือใบเพื่อเงินหรือชื่อเสียง
นโปเลียนลูกหนัง" มิเชล พลาตินี ประธานยูฟ่าสงสัย อดีตนายกรัฐมนตรีไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซื้อ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ เพื่อพัฒนาเยาวชน หรือเพื่อชื่อเสียง แนะมีเงินมหาศาลควรเอาไปพัฒนาฟุตบอลไทยดีกว่า
สำนักข่าวรอยเตอ ร์รายงานว่า "นโปเลียนลูกหนัง" มิเชล พลาตินี ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) กล่าวถึงการที่มีมหาเศรษฐีจากประเทศต่างๆ เข้ามาซื้อสโมสรฟุตบอลในอังกฤษ กันอย่างมากมายอยู่ในขณะนี้ โดยเจาะจงไปที่ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่มี จอร์จ ยิลเลตต์ กับ ทอม ฮิคส์ 2 เศรษฐีชาวอเมริกัน และ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยเป็นเจ้าของ ว่าเป็นการทำเพื่อวงการฟุตบอลโดยรวมหรือไม่ หรือทำเพื่ออะไร
"ทำไมเขาถึงเข้ามาซื้อสโมสร ใช่เพราะว่าต้องการพัฒนาคนในเมืองแมนเชสเตอร์หรือไม่ หรือว่าเขาทำไปเพื่อยกระดับชื่อเสียงของตัวเองในการมาซื้อสโมสรในอังกฤษ"
ประธานยูฟ่า ยังสงสัยอีกว่า ในเมื่อมีเงินจำนวนมหาศาล ทำไมจึงไม่นำเงินเหล่านั้นไปพัฒนาฟุตบอลในประเทศของตัวเอง แทนที่จะมาลงทุนในประเทศอื่น
"ผมเข้าใจในทิศทางที่กำลังดำเนินไป แต่ผมเสียใจที่มันเกิดขึ้น ผมคงจะมีความรู้สึกชอบ หากอดีตนายกรัฐมนตรีประเทศไทยพัฒนาฟุตบอลของพวกเขา ฟุตบอลไทย ขณะที่คนอเมริกัน ก็พัฒนาฟุตบอลในสหรัฐอเมริกา มากกว่ามาซื้อสโมสรในอังกฤษ ทำไมพวกเขาไม่ทำอย่างนี้ในประเทศของตัวเอง ถ้าพวกเขารักฟุตบอล แล้วก็มีเงินอีกด้วย พวกเขามาลงทุนในต่างประเทศ เพราะได้ผลประโยชน์กลับคืนใช่หรือไม่"
อย่างไรก็ตาม พลาตินี ยังมองว่าการซื้อสโมสรไม่เหมือนการซื้อหุ้นของสินค้าอย่างอื่น เพราะทีมฟุตบอลเป็นสมบัติของชาติ จึงเรียกร้องให้ประเทศในยุโรปออกระเบียบเพื่อควบคุมการซื้อทีมฟุตบอล
"รัฐสภาอังกฤษต้องมีกฎนี้ บางทีทั้งในเยอรมนี ออสเตรีย เช็ก และอิตาลี ที่ต้องออกมาปกป้องสมบัติของชาติ สโมสรฟุตบอลเป็นสมบัติของชาติ ไม่เหมือนกับการซื้อหุ้นในบริษัท เฟียต หรือ เฟรนช์ เทเลคอม ผมไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้จริงๆ" ประธานยูฟ่า กล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ ประสบความสำเร็จในการติดต่อซื้อหุ้นทีมเรือใบสีฟ้า ครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน เมื่อบอร์ดบริหารของทีมเดิม ตัดสินใจเปิดไฟเขียวที่จะขายหุ้นให้ 55.9 เปอร์เซ็นต์ ในมูลค่า 55.9 ล้านปอนด์ หลังจากนั้นก็เดินหน้าขอซื้อหุ้นที่เหลือจนครบ 75 เปอร์เซ็นต์ สามารถนำออกจากตลาดหุ้นในอังกฤษ เมื่อเดือนกรกฎาคม และในเดือนต่อมาก็รวบรวมหุ้นของทีมได้จนครบ 100 เปอร์เซ็นต์ นำคนไทยเข้าไปเป็นบอร์ดบริหารทีมรวม 4 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย
ที่มาของข่าว คมชัดลึก
จากคุณ : toonware - [ 31 มี.ค. 51 21:28:41 ]
http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6475403/S6475403.html//
ผมว่า มือที่มองไม่เห็น รึผู้มีอำนาจเหนือรธน. รึว่า ผู้มีอำนาจเหนือฟีฟ่า ต้องสั่งให้พลาตินี่มันพูดแบบนี้เเน่เลย..