1. พรรคที่ได้เสียงข้างมากเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ขาดความชอบธรรม และพรรคไหนล่ะที่มีความชอบธรรม อย่าอ้างว่าพรรคที่ได้เสียงข้างมากเพราะชื่อเสียง เพราะการซื้อสิทธิ์ขายเสียงเป็นของคู่กันกับการเลือกตั้งทุกระดับของการเมืองไทย จนพูดกันติดปาก “เงินไม่มากาไม่เป็น” คนไม่ขายเสียงขออภัยไว้นะที่นี้ด้วย
การได้เสียงข้างมาก ไม่ได้แปลว่า "ชอบธรรม" จนทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ
เพราะสิ่งที่สูงกว่านั้นคือ "หลักธรรม - ธรรมาภิบาล" ที่ไม่ว่าจะเป้นใคร หากเป็นผู้ปกครองรัฐ หรือดำสถานะเป็นรัฐถาธิปัตย์ ย่อมจะต้องดำรงรักษาไว้เสมอ
...หากการอ้างแต่เสียงข้างมากแล้วอยากจะทำการอันใดก็ได้ แบบนั้นเรียก "อนาธิปไตย"
ชอบธรรม แปลมาจาก "ชอบด้วยหลักธรรม"
ไม่ใช่ "ชอบใจอะไรก็ทำไปเลย"
ตัวอย่าง : สมมติว่ารัฐแห่งหนึ่ง มีประชาชนอยู่รวมกัน = 100 คน
แล้วผู้คนจำนวน 51 คน รวมทั้ง็เลือกนาย ก. ได้ลงคะแนนเสียงเลือกนาย ก.ให้เป็น "หัวหน้า"
จากนั้นนาย ก. ก็ออกกฏเกณฑ์ว่า ให้ผู้คนจำนวน 49 คนที่ไม่ได้เลือกตนต้องทำงานหนักกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง 2 เท่า และยังต้องส่งมอบทรัพย์สินให้แก่ นาย ก. และผู้คนอีก 50 คนครอบครองไว้
...ซึ่งผู้คนจำนวน 50 คนที่เลือกนาย ก.ต่างเห็นด้วย + ลงคะแนนสนับสนุนกฎเกณฑ์นี้กันจนหมด
เช่นนี้แล้ว ถือว่ากฎเกณฑ์ - กฎหมายที่ออกโดย "เสียงส่วนใหญ่" จำนวน 51 เสียงนี้
"ชอบธรรม" หรือไม่ ?
สังเกตุได้ว่าข้อขัดแย้งนี้ ไม่มีตอนใดระบุเรื่อง "การซื้อเสียง"
เพราะเป็นการชี้บ่งให้เห็นว่าผู้ตั้งกระทู้เป็นคนคิดอ่านอย่าง "หยาบ ๆ มั่ว ๆ"
แยกไม่ออกระหว่าง "ชอบธรรม" และ "อำเภอใจ"
หรือเข้าใจว่าประชาธิปไตย เป็นหลักการเดียวกันกับ "ผู้ชนะได้ไปหมด ( The Winner Take it all )"
"หลักธรรรม" จะต้องอยู่สูงกว่า "วิธีการสรรหาตัวบุคคล ( การเลือกตั้ง & ตัวแทน ปชช. )" เสมอ
เฉกเช่นเดียวกันกับ "หลักธรรม" ในศาสนาทุกศาสนา ย่อมอยู่สูงกว่า "พระวินัย ( การบวช & นักบวช )" เสมอ
====================================================================
2. รัฐธรรมนูญบางฉบับเปิดโอกาสให้คนนอกเป็นนายก ฯ ได้ แต่ถูกต่อต้านจนเกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ และเกิดวีระบุรุษประชาธิปไตยทั้งที่วีระบุรุษประชาธิปไตย ไปเชิญคนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันนายก ฯ มาจากการเลือกตั้ง แต่มีมือที่มองไม่เห็นมองว่าขาดความชอบธรรม พยายามทุกวิถีทางเพื่อกำจัด สับสนจริง ๆ
คำว่า "มือที่มองไม่เห็น" เป็นคำที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยอดีตนายกรัฐมนตรีผู้ไร้ธรรมที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร
เพื่อใช้แก้ตัวหรือ "โยนบาป" อันเกิดขึ้นจากการกระทำอันเป็นอธรรม - ฉ้อฉล - โป้ปด - ไร้สำนึก - ไร้จริยธรรมของตยและบริวาร ไปให้
ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีการพิสูจน์ทราบว่าหมายถึงใคร - บุคคลผู้ใด ( ไอ้ปื้ด ? )
บรรดาบริวารและผู้หลงใหลคลั่งไคล้ในระบอบทักษิณ ก็ยินดีที่จะ "งมงายหัวปักหัวปำ" ไม่ต่างจาก คนป่าที่เชื่อถือในเรื่องผีสางเทวดาตามคำบอกเล่าของหัวหน้าเผ่าและหมอผี
ดังนั้นอยู่ ๆ จู่ ๆ ผู้ตั้งประทู้จะยกเอาเรื่อง "ผีสางเทวดา" ที่ "หมอผีและหัวหน้าเผ่า ( ทักษิณและสมัคร )" กุขึ้นไว้หลอกหลอนบริวารของพวกมันขึ้นมาถก - ขึ้นมาอ้าง
...ย่อมเป็นเรื่องยากที่ "ผู้คนซึ่งยังมีสติดี" จะให้ราคากับ "ข้อกล่าวหา" อันเพ้อเจ้อเลื่อนลอย
==================================================================
3. สับสนมากที่สุด องค์กรที่เกิดขึ้นช่วงปฏิวัติ มีความชอบธรรมทั้งๆที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย และขาดโอกาสแข่งขันในเวทีโลก การปฏิวัติครั้งนั้นได้รับความชื่นชมจากประชาชนกลุ่มหนึ่งที่นิยมเผด็จการ และสนับสนุนการปฏิวัติ อย่าลืมว่าการปฏิวัติใช้กับประเทศที่เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน และการปฏิวัติถ้าชนะคือถูกต้องแต่ถ้าแพ้คือกบฏ
สิ่งที่เหล่า "บริวารของทักษิณ" มักใช้อ้างมากที่สุดก็คือ "คมช.-รัฐบาลซึ่งนำโดยพลเอกสุรยุทธ จุลานนท์ได้ทำให้ประเทศชาติเสียหาย"
...ก็ไหนลองแจกแจงมาซิว่า "มีอะไรเสียหาย" ไปบ้าง
ทั้ง ๆ ที่ช่วงเวลาที่ "คมช.-รัฐบาลซึ่งนำโดยพลเอกสุรยุทธ จุลานนท์" ปกครองบ้านเมือง กลับเป็นช่วงที่ประเทศไทยมีการส่งออกมากที่สุด - ได้ดุลการค้าสูงสุดในรอบ 6 ปี ( ตลอดช่วงที่ทักษิณ ชินวัตร + พรรคพลังประชาชนเป็นนายก )
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแทบไม่ได้มีผลกระทบ และค่าเงินบาทก็ไม่ได้ตกต่ำ อัตราเงินเฟ้อก็ไ่ม่มาก แถมหนี้สินรายหัวขแงประชาชาติก็ยังลดน้อยลง
...ที่ผ่านมา ในช่วงที่ทักษิณ ชินวัตร + พรรคไทยรักไทย ปกครองบ้านเมือง ต่างหาก ที่ประเทศไทยย่แย่ที่สุด
มีการก่อหนี้ครั้งมโหฬาร ทั้งหนี้ภาครัฐ อันได้แก่บรรดาเม็กกะโปรเจ็คที่ "เตะหมูเข้าปาก***" คือ "ทำเสร็จแแล้วก็มีแต่พรรคพวกและบริวารของกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม"
...หนี้ภาคครัวเรือนพุ่งขึ้นสูงลิบลิ่ว ทั้ง ๆ ที่เป็นชนชั้นกรรมาชนหรือ "รากหญ้า" ก็ยังเป็นหนี้อันมาจากการใช้เงินซื้อสิ่งของและบริการอันฟุ้งเฟ้อ ผู้คนในชนบทที่เดิมทีแ้ล้วเป็นหนี้สินเฉพาะ "การลงทุนภาคเกษตร" กลับขยายช่องทางการเป็นหนี้ภาคอื่น ๆ ด้วย "ความเข้าใจอย่างลม ๆ แล้ง ๆ" ว่านั่นเป็นการลงทุนทำธุรกิจ
...เป็นช่วงเวลาที่คุณภาพทางการศึกษาของเยาวชนไทยตกต่ำที่สุด จากเดิมที่อยู่ในระดับกลาง ๆ ค่อนไปทางต้นของเอเชีย กลับร่วงหล่นไปอยู่เกือบโหล่รั้งท้าย ภาษาอังกฤษของเด็กไทยคุณภาพเดียวกับกะหรี่เมียเช่าจีไอสมัยสงครามเวียดนาม ในขณะที่ภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาราชการก็ตกต่ำเลวร้าย เขียนหนังสือผิดทั้งทางนิรุกติศาสตร์และหลักภาษา ขนาดสื่อสารในวัยเดียวกันเองแต่ต่างสังคมยังไม่เข้าใจ จะไปสำมะหาอะไรกับหนังสือราชการ
...ฯลฯ
หรือแม้แต่ในช่วงที่คณะรัฐประหารอยู่ในอำนาจ "ใครล่ะ บุคคลฝ่ายไหนล่ะ" ที่พยายามสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนประเทศชาติบ้านเมืองมาโดยตลอด ?
...ไม่ว่าจะเป็นการออกข่างรายสัปดาห์ ถึงขนาดมีารว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์
...ไ่ม่ว่าจะเป็นกลุ่ม นปก. พีทีวี กลุ่มชิดชอบ กลุ่มคนวันเสาร์ฯ กลุ่มแท็กซี่เรดิโอ
...ฯลฯ
แล้วเป็นอย่างไร สร้างกระแสให้บ้านเมืองไม่สงบสุขจนทุกวันนี้ถึงขั้นแตกแยก "ทำให้มันยุ่ง ๆ เข้าไว้" แล้วทำอะไรกับไอ้พวกคณะรัฐประหารหน่อมแน้มนั้นได้บ้าง
...รธน.ปี 2550 ก็ผ่าน การเลือกตั้ง "ตามกำหนด" ก็สำเร็จลุล่วง ฯลฯ
...ไม่เห็นว่าบรรดากลุ่มคณะบุคคลเหล่านั้นมันจะทำอะไรแก่คณะรัฐประหารได้สักอย่าง
...ได้แต่สร้างความปริแยก - แตกถ่างขึ้นในสังคมประเทศชาติ และตั้งหน้าตั้งตาเป็นอริ- ปฎิปักษ์กับประชาชนด้วยกันเอง
>> การปฏิวัติใช้กับประเทศที่เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน และการปฏิวัติถ้าชนะคือถูกต้องแต่ถ้าแพ้คือกบฏ <<
...คุณผู้ตั้งกระทู้ "คิดเอง - เออเอง"
เพราะรัฐประหาร เป็นการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จกระทำกับผู้ปกครองที่เป็นอธรรม
...ซึ่งการทำรัฐประหารครั้งที่ผ่านมานั้น ผู้ปกครองที่แสดงตัวอย่างอธรรม คือ พตท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร
ถ้าคุณผู้ตั้งกระทู้ยังหลับหูหลับตา "มั่วด่า" ฝ่าที่ทำรัฐประหารว่าป่าเถื่อน
คุณผู้ตั้งกระทู้ก็น่าจะดูพฤติกรรมของ "นปก." บ้าง ว่าเป็นเช่นไร
ทหารที่คุณผู้ตัั้งกระทู้เรียกว่า "ป่าเถื่อน" คือพวกที่ไม่ได้ทำร้ายใครสักแอะ ไม่ได้ก่อกวนบ้านเมือง ไม่ได้ยั่วยุให้ใช้ความรุนแรง
แม้แต่หัวหน้า่รัฐบาลที่เป็นทหารนั้นก็มีแต่ความสุภาพ นุ่มนวล เป็นสุภาพบุรุษ
...ในขณะที่บรรดานักการเมืองรัฐบาลพรรคพลังประชาชน อันได้รับคะแนนเลือกตั้งมาไม่ถึงครึ่งสภา
กลับสำแดงพฤติกรรมหยาบถ่oย อวดเก่ง ปากหล้า ถือดี ครั้งแล้วครั้งเล่า
4. มือที่มองไม่เห็นและคอยซ้ำเติมประเทศไทย ควรยุติได้แล้วครับ กรรมมีจริงนะครับไม่ต้องรอชาติหน้า จะสนองทันทีในชาตินี้ เรียกว่า “กรรมติดจรวด”
มือที่มองไม่เห็นเป็นใคร ยังไม่มีใครรู้เลยครับ
เห็นก็มีแต่เดาส่งเดชกันไปมากมาย
หรือถ้าจะหมายถึงพลเอกเปรม ติณสูลานนท์
ก็อยากจะรูู้้นักว่า
ขนาดพวกที่รวมตัวกันออกไปด่าท่านอย่างหยาบคายหน้าบ้านพัก ทุกวันนี้ยังเป็นใหญ่เป้นโต อำนาจล้นมือ
โดย พณฯ พลเอกเปรมไม่มีปัญญาทำอะไรได้
"ไร้น้ำยา" แบบนี้น่ะหรือที่ "กลัวกันหนักหนา" ถึงขนาดตั้งให้เป็น "มือที่มองไม่เห็น"
อย่ามั่วมากนัก - อย่าเพ้อเจ้อมากนัก
เรื่องของเรื่องก็มีแค่ผู้ปกครองบ้าอำนาจ - ใจอธรรม อวดก่ง ถือดี ว่าตน "มีคนเลือกเข้ามาเยอะ" ชื่อทักษิณ ชินวัตร
โดนประชาชนกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า "พันธมิตรประชาชน" ออกมาทวงถามหา "หลักธรรมของแผ่นดิน"
แล้วมันก็เล่นลิ้น - เล่นเล่ห์ แกล้งเขา - ข่มเหงเขา รวมทั้งข้าราชการ - พ่อค้าที่ออกมาสนับสนุนฝ่ายพันธมิตรประชาชน แบบหวังจะบีบบังคับข่มขืนใจเขาให้ยอมจำนน
...อันเป็นสันดานของเศรษฐีอันธพาล
...แต่ฝ่ายพันธมิตรประชาชนก็สู้ไม่ถอย ทั้ง ๆ ที่ไม่มีอะไรอยู่ในมือ - เสียเปรียบทุกอย่าง
จนวันดีคืนดีทำท่าว่าเหตุการณ์จะบานปลาย เมื่อลิ่วล้อของฝ่ายเศรษฐีอัธพาล มันจะะพากองกำลังติดอาวุธ - ไม่จำกัดสัญชาติเข้ากรุง ฯ มาในวันเดียวกับที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนกำลังจัดชุมชุมครั้งใหญ่
"ผู้มีอาวุธในมือ" ในขณะนั้นรู้สึกว่า "ไว้ใจไม่ได้" จึงเอาตัวออกมาขวาง กลายเป็นเหตุการณ์ที่เรียกว่า "รัฐประหาร"
...ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานมันก็ "บอกโต้ง ๆ ชัด ๆ" ว่า "เข้ามาแค่ปีเดียว เพื่อจัดการให้ทุกอย่างเรียบร้อย" และจะเขียนกติกาใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ "อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอยู่ที่ตัวคนเดียว" อันเป็นผลมาจากกติกาที่ชื่อ รธน.ปี 2540 ที่เขียนขึ้นโดย "เชื่อว่านักการเมืองคือผู้มีจริยธรรม"
...เป็นกติกาที่ดี แต่ "คนเล่นเป็นเxี้ย" จึงต้องเพิ่มเติมรายละเอียดเพื่อ "มิให้เxี้eมีโอกาสกลับเข้ามาเล่น"
ฯลฯ
เรื่องง่าย ๆ มีแค่นี้
จะบิดเบือนบิดเบี้ยวเพื่อให้เxี้ยเข้ามามีอำนาจทำไม ?
หรือเพราะว่าคุณเป็น "สมุนเxี้ย" ???