ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 20:49
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  "อลัชชีกฏหมาย"ว่า'รัฐบาลนอมินี'มีความชอบธรรมแก้ รธน.ม.237 ไม่ให้ยุบพรรค พปช.ได้ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
"อลัชชีกฏหมาย"ว่า'รัฐบาลนอมินี'มีความชอบธรรมแก้ รธน.ม.237 ไม่ให้ยุบพรรค พปช.ได้  (อ่าน 1023 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 23-03-2008, 11:04 »

"ชูศักดิ์"ยันรัฐบาลชอบธรรมแก้ รธน.มาตรา237ปลดล็อคยุบพรรค
 
22 มีนาคม พ.ศ. 2551 13:05:00
 
 
“ชูศักดิ์”อ้างมาจากประชาชน มีความชอบธรรมแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 237 ดันแก้เพียงมาตราเดียวเพื่อปลดล็อคยุบพรรค เตรียมถกพรรคร่วมรัฐบาลจะเสนอแก้ในนาม ครม.หรือ ส.ส.

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองเลขาธิการพรรคปลังประชาชน (พปช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค ถึงข้อเสนอของเลขาธิการพรรคพลังประชาชน ที่ให้แก้รัฐธรรมนูญมาตรา 237 ว่า คงต้องคุยกันในพรรคก่อนว่าแนวทางควรจะเป็นอย่างไร จะให้พรรคร่วมรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการเสนอแก้ไข หรือให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นเจ้าภาพเอง

ทั้งนี้ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้โดย 1.ครม.2.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือวุฒิสภา ตามจำนวนที่รัฐธรรมนูญกำหนด และ 3.ประชาชนเข้าชื่อกัน แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้น่าจะใช้ 2 แนวทางแรกมากกว่า

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือต้องพูดคุยกันก่อน เพราะท้ายที่สุดจะต้องให้รัฐสภาเห็นชอบ ทั้งนี้คงต้องรีบหารือ เพราะเลขาธิการพรรคต้องการให้เรื่องนี้ปลดล็อคทางการเมือง

เมื่อถามว่า หากจะเสนอแก้ไข จะแก้เฉพาะมาตรา 237 มาตราเดียว หรือพ่วงมาตราอื่นเข้าไปด้วย นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เลขาธิการพรรคอยากให้แก้ในมาตราเดียวไปก่อน

ต่อข้อถามว่า จะน่าเกลียดหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญเพิ่งประกาศใช้ได้ไม่นาน แต่มีการเสนอแก้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง นายชูศักดิ์ ย้อนถามว่า “แล้วคุณว่ากฎหมายพวกนี้เกิดในยุคใด เกิดขึ้นมาในยุค คมช.ที่มาจากการปฏิวัติยึดอำนาจแต่พวกผมมาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นพวกผมมีความชอบธรรมที่จะแก้ ถ้าเห็นว่ามันไม่เป็นประชาธิปไตย ขัดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน”

สำหรับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 237 ระบุว่า  ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ใดกระทำการ ก่อ หรือสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา หรือระเบียบหรือประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งมีผลทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของบุคคลดังกล่าวตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา

ถ้าการกระทำของบุคคลตามวรรคหนึ่ง ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าหัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารของพรรคการเมืองผู้ใด มีส่วนรู้เห็น หรือปล่อยปละละเลย หรือทราบถึงการกระทำนั้นแล้ว มิได้ยับยั้งหรือแก้ไขเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้ถือว่าพรรคการเมืองนั้นกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ตามมาตรา 68 และในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองนั้น ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมืองดังกล่าวมีกำหนดเวลาห้าปีนับแต่วันที่มีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมือง


http://www.bangkokbiznews.com/2008/03/22/WW01_0101_news.php?newsid=241369



เมื่อถามว่า หากจะเสนอแก้ไข จะแก้เฉพาะมาตรา 237 มาตราเดียว หรือพ่วงมาตราอื่นเข้าไปด้วย นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เลขาธิการพรรคอยากให้แก้ในมาตราเดียวไปก่อน...............
แต่พวกผมมาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นพวกผมมีความชอบธรรมที่จะแก้........


'วิษณุ' และ 'บวรศักดิ์' เป็น 'นิติกรบริการ'...
แกนนำพรรคฯ นักกฏหมาย พปช.แก้รัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้พรรคการเมืองของตนเอง ถูก'ยุบพรรค' นั้นชั่วร้ายยิ่งกว่า'นิติกรบริการ'ในอดีตเสียอีก
สมควรจะเป็น'อลัชชีกฏหมาย'ที่ใช้'อำนาจเป็นธรรม' ใช้'มือ'ที่ซื้อมา'ข่มขืน' ความชอบธรรม และ คุณธรรม ในรัฐสภา.... Exclamation

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-03-2008, 11:06 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #1 เมื่อ: 23-03-2008, 11:34 »

น่าจะบอกว่า "รัฐบาลนอมินี"  มีความ "ชอบกล" ที่จะแก้รัฐธรรมนูญมากกว่า 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #2 เมื่อ: 23-03-2008, 11:41 »

ถ้ายุบ3พรรคจะมีใครตายมั้ย? คำตอบ:ตายแค่ "กรรมการบริหาร"
 
23 มีนาคม พ.ศ. 2551 06:00:00
 

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : สังคมจะต้องจับตาพรรคร่วมรัฐบาลอย่างน้อย 3 พรรค คือ พรรคพลังประชาชน, พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย กำลังดิ้นรนจุดประเด็น "ร้อน" จนอาจจะลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งทางสังคมขั้นรุนแรงในอีกไม่นานนับจากนี้

ระดับแกนนำของ 3 พรรค "ดาหน้า" กันออกมาแสดงความเห็นในทำนองไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ, คณะกรรมการการเลือกตั้งและศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งในคดีของตัวเอง ในคดีซื้อเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา ซึ่งล้วนแต่เกิดขึ้นมาจาก "ผลกรรม" จากการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งขั้นร้ายแรงขั้น "ใบแดง" ของกรรมการบริหาร 3 พรรค

หากกรรมการบริหารพรรคของพรรคพลังประชาชน คุณยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ศาลฎีกาแผนกเลือกตั้งรับฟ้องแล้ว, พรรคชาติไทย คุณมณเฑียร สงฆ์ประชา และพรรคมัชฌิมาธิปไตย คุณสุนทร วิลาวัลย์ ที่ถูกใบแดง และคณะกรรมการเลือกตั้งกำลังจะส่งเรื่องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าจะมีความผิดถึงขั้น "ยุบพรรค" ได้หรือไม่ ไม่ได้กระทำความผิดในการเลือกตั้งขั้นร้ายแรงจนคณะกรรมการการเลือกตั้งลงมติให้ใบแดง ปัญหาที่ร้องโวยวายกันก็จะไม่เกิดขึ้นเลย

ทำไม พวกคุณที่ "กุมอำนาจรัฐ" จะต้องออกมาร้องโวยวายจะเป็นจะตายให้ได้ในวันนี้พรุ่งนี้

ทั้งๆ ที่คดีต่างๆ ยังไม่ได้เริ่มต้นกระบวนการไต่สวนที่ยังเปิดโอกาสให้แสดงหลักฐานแก้ต่างลบล้างข้อกล่าวหาได้

ทำไม พวกคุณที่กุมกลไกอำนาจรัฐทุกอย่างในประเทศนี้ จึงดิ้นเร่าๆ ตีตนไปก่อนไข้แสดงความไม่เชื่อมั่นในการวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและศาลฎีกาแผนกเลือกตั้ง

ทั้งๆ ที่ "ก่อนกุมอำนาจรัฐ" ปากของพวกคุณเคย "พล่ามน้ำลายสอ" ออกไปว่าเชื่อมั่นและยอมรับในกระบวนการยุติธรรม

ทำไม พวกคุณ "ก่อนชนะเลือกตั้ง" จนสามารถกุมอำนาจรัฐ ยอมรับกติกาลงเลือกตั้งภายใต้กฎหมายเลือกตั้งของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ที่มี กกต.ชุดปัจจุบันทำหน้าที่ในการจัดการการเลือกตั้ง

น่าจะศึกษาข้อกฎหมายรับรู้กติกาเดียวกันกับพรรคการเมืองทุกพรรค ว่าความผิดใดจะถึงขั้นยุบพรรค หากละเว้นหรือระมัดระวังไม่ให้ "กรรมการบริหาร" ไปทำผิดใช้สันดานเดิมๆ "ซื้อเสียง" เลือกตั้งก็คงไม่ถูก "ใบแดง" จาก กกต. ความผิดถึงขั้นยุบพรรคก็จะไม่เกิดขึ้น

ทำไม พรรคการเมืองที่เหลืออีก 4 พรรค คือ พรรคประชาธิปัตย์, พรรคประชาราช, พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และพรรคเพื่อแผ่นดิน จึงไม่มีปัญหานี้

]เพราะกรรมการบริหารพรรคไม่ได้กระทำความผิดจนถูก "ใบแดง" แล้วเกิดปัญหากับรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 มาตรา 237 กับกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง มาตรา 103 วรรคสอง

ระบุการกระทำความผิดของกรรมการบริหารพรรคที่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง แล้วไม่ได้ยับยั้งหรือแก้ไข "ให้ถือ" ว่าพรรคการเมืองจะถูกลงโทษจนถึงขั้นยุบพรรคตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่กระทำความผิดเป็นเวลา 5 ปี

ขอแย้งความเห็น "นายกรัฐมนตรีของเรา" ที่พยายามผูกโยงชะตากรรมของพรรคพลังประชาชน, พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ไว้กับอนาคต ประเทศชาติกำลังถูกฆ่าเพราะมีการวางยาในรัฐธรรมนูญไว้

เมื่อดูข้อกฎหมายแล้ว คงต้องขอยืมสำนวน "นายกรัฐมนตรีของเรา" จำเป็นต้องถามกลับไปว่า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบ 3 พรรค "แล้วจะมีใครตายมั้ย"

พุดโธ่! พูดกันอยู่ได้ ทำไม ก็ไม่เห็นมีใครจะตาย พวกคุณจะหยุดพูดได้มั้ย จะมีใครตายมั้ยถ้าไม่พูดอีก (ขอยืมสำนวน "นายกรัฐมนตรีของเรา")

ยกเว้นกรรมการบริหารพรรคของ 3 พรรคถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง และห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปีเท่านั้นเอง เช่น คุณสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน, คุณสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน, คุณบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย, คุณอนงค์วรรณ เทพสุทิน หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ฯลฯ

แค่นี้คงไม่ถึงขั้นทำให้ประเทศชาติ "ฉิบหาย" (ขอยืมสำนวน "นายกรัฐมนตรีของเรา") หรือตายไปต่อหน้าต่อตา อาจจะทำให้รัฐบาลสะดุดไปบ้างเท่านั้นเอง
[/size

แต่เมื่อนับนิ้วจำนวน ส.ส.แล้วคงจะมี ส.ส.ที่เป็นกรรมการบริหารพรรค 3 พรรคถูกเพิกถอนสิทธิ์ไป 50-60 คนเท่านั้นเอง คะแนนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล 6 พรรค ยังน่าจะรวบรวมได้เสียงข้างมากเช่นเดิมเพราะ ส.ส.ที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคสามารถหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน 60 วัน เรื่อง "พรรคนอมินี" ถนัดอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?

ผลเสียพอเห็นอยู่บ้าง กกต.จะเสียเวลาและเสียเงินจัดการเลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งที่กรรมการบริหาร 3 พรรคถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง อย่างมากที่สุดไม่น่าจะเกิน 50-60 ที่นั่งเท่านั้นเองจริงๆ

ไม่เห็นว่าประเทศชาติจะตายหรือฉิบหายไปต่อหน้าต่อตา อย่างที่ "นายกรัฐมนตรีของเรา" พยายามพูดทำลายความเชื่อมั่นของรัฐบาลตัวเอง จนกลายเป็นอัปมงคลให้กับประเทศชาติ

ประเทศควรจะต้องปกครองกันภายใต้กฎหมายและหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด ไม่ใช่อยู่ภายใต้ "เสียงข้างมาก" ลากไปที่กำลังเกิดขึ้นมาจาก "อารมณ์" ของ 2 ผู้เฒ่าทางการเมืองที่อายุเลยเลข 70 ไปแล้ว

ทั้งสองคนจัดอยู่ในกลุ่ม "คนชราหรือคนสูงวัย" ที่ควรละวางละเว้นจาก "ความกระสัน" อยากมีอำนาจรัฐ ซึ่งอาจจะนำมาไปสู่การสร้างบารมีและสะสมทรัพย์ศฤงคารได้ไม่ยาก

ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญลงมติให้ยุบพรรคพลังประชาชนและพรรคชาติไทย 2 ผู้เฒ่านักการเมืองอย่าง "นายกรัฐมนตรีของเรา" กับ "อดีตนายกรัฐมนตรีของเรา" คุณบรรหาร ศิลปอาชา ก็คงไม่ถึงขั้นจะต้องลงไปนอนหน้าศาลแล้วชักดิ้นชักงอ ตายไปต่อหน้าต่อตา แต่ทั้งสองผู้เฒ่าควรจะปลงถึง "ผลกรรม" จากการละเลยที่ไม่ป้องกันไม่ห้ามปราม "ลูกพรรค" ที่เป็นกรรมการบริหารไปซื้อเสียงจนถูก กกต.ให้ใบแดง

ลูกพรรคชาติไทยที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค อาจจะแอบ "ดีใจ" ที่ "อดีตนายกรัฐมนตรีของเรา" หัวหน้าพรรคชาติไทยที่ไม่เคยแสดงออกว่าเมื่อไรจะยอมละวางจากเวทีการเมือง ถึงเวลาเก็บฉากเลิกทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง นั่งคาหัวโด่อยู่ในพรรค จนกลายเป็นพรรคครอบครัวศิลปอาชาไม่ใช่พรรคของประชาชน

"คนรุ่นใหม่" จำนวนมากในพรรคชาติไทยชะเง้อรอจนเมื่อยคอมานาน ไม่เคยมีใครกล้าถามว่าเมื่อไรพวกผู้เฒ่านักการเมืองเหล่านี้จะรู้จักสะกดคำว่า "เสียสละ" หรือ "พอแล้ว" ยอมลงจากเวทีเสียที เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงฝีมือบริหารประเทศบ้าง คนกล้าถามอย่างคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็อยู่ในพรรคชาติไทยไม่ได้

"นายกรัฐมนตรีของเรา" ที่เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนเพื่อ "ขัดตาทัพในการเลือกตั้ง" จะเอาอะไรกันนักหนากับชีวิตในบั้นปลายที่นั่งตำแหน่งสูงสุดของฝ่ายบริหารตามความใฝ่ฝันแล้ว หลังจากบอกเลิกศาลาล้างมือในอ่างทองคำไปหมาดๆ ยังเช็ดมือไม่ทันแห้ง กลับต้องถูกขอร้องให้มานำทัพพรรคพลังประชาชนให้ "อดีตนายกรัฐมนตรีของเราคนที่ 23" พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

"นายกรัฐมนตรีของเรา" ห่วงหาอาลัยอาวรณ์ตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรีหุ่นไล่ฟาง" ไปหา "หอก" อะไร (ขอยืมสำนวน "นายกรัฐมนตรีของเรา" อีกแล้ว)

การออกมาเคลื่อนไหวจุดพลุของ นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่มีตำแหน่งใหญ่โตในรัฐบาลเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังกับเลขาธิการพรรคพลังประชาชน บอกว่าจะรณรงค์ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญในบางมาตราเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนจากต่างประเทศก่อนจะเดินทางไปโรดโชว์

จึงอาจจะส่งผลตรงกันข้ามในสายตาต่างชาติ เพราะบ้านเมืองใดก็ตามที่ไม่เคารพรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ แล้วส่งสัญญาณผิดๆ ว่าจะใช้ระบบเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญและยกเลิกกฎหมายเพื่อให้ "ตัวเอง" และพรรคการเมืองของตัวเอง "พ้นผิด" จากการกระทำความผิดในการเลือกตั้งที่ผ่านมาแล้ว

ย่อมจะทำให้เกิดความไม่น่าไว้วางใจในสายตาต่างชาติ เพราะอำนาจการเมือง (ที่ไม่ค่อยมีใครเชื่อมั่นศรัทธา) กำลังมุ่งทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญไทยและระบบกฎหมายไทย ให้อยู่ภายใต้อำนาจทางการเมืองระบบ "เสียงข้างมาก" ลากถูไปตามอำเภอใจเพื่อผลประโยชน์ของพรรคพวก

อย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ที่ถูกป้ายสีอยู่เป็นประจำว่ามาจากอำนาจเผด็จการ ผ่านกระบวนการการลงประชามติได้เสียงข้างมาก 56% ของจำนวนผู้มาใช้สิทธิ จึงเป็นความชอบธรรมเหนืออำนาจเผด็จการทหารที่สลายตัวไปแล้วหลังการเลือกตั้งและการโยกย้ายกลางปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

"มือที่มองไม่เห็น" แต่ "นายกรัฐมนตรีของเรา" มองเห็นบอกรู้แล้วว่าคือใคร จ้องทำลายพรรคพลังประชาชนมาตั้งแต่ช่วงก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้งยังไม่ยอมหยุด จึงเป็น "นิยาย" ประโลมโลกย์ไว้หลอกชาวบ้านคนไทยซื่อๆ ที่ไม่ค่อยได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเพียงพอ

ถ้าหาก"เผด็จการทหาร"คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติมีอำนาจลึกลับจาก"มือที่มองไม่เห็น"คอยรังควานพรรคพลังประชาชนจริง คงจะใช้"อำนาจรัฐ"โกงเลือกตั้งเพื่อไม่ได้พรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 ได้

แต่ทำไมพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้งได้อย่างท่วมท้นท่ามกลางเสียงสรรเสริญเยินยอว่า กกต.จัดการเลือกตั้งได้เรียบร้อยดี ในขณะที่"นายกรัฐมนตรีของเรา"ยังพยายามเติมแต่งนิยาย"มือที่มองไม่เห็น"อยู่บ่อยๆ

ทำไม"นายกรัฐมนตรีของเรา"ไม่ใช้อำนาจรัฐที่ยึดกุมอยู่กระชาก"มือที่มองไม่เห็น"ออกมาให้ชาวบ้านได้เห็นหน้าเห็นตา

ใครกันวะที่กำลังใช้อำนาจแฝงเร้นและนิสัยชั่วช้าสามานย์มุ่งทำลายบ้านเมือง ด้วยการจองล้างจองผลาญรัฐบาลพรรคพลังประชาชนไม่เลิกราเสียที อย่ามัวแต่คุยโม้น้ำลายแตกฟองโทษคนอื่นอยู่เลย อยากเห็นโฉมหน้า"ไอ้มือที่มองไม่เห็น"มันเป็นใครกันแน่วะ ประเทศชาติจะได้สงบสุขเสียที

(อ่านข้อเขียนย้อนหลังและแสดงความเห็นตลอด 24 ชั่วโมง ทาง www.oknation.net/blog/adisak
 
http://www.bangkokbiznews.com/2008/03/23/WW12_1239_news.php?newsid=241460



คนพรรค์นี้ คนพวกนี้เลือกจะรักรัฐธรรมนูญปี 2550 บางมาตราเท่านั้น Question
มาตราที่ทำให้พวกเขาชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นรัฐบาลนอมินี......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #3 เมื่อ: 23-03-2008, 11:45 »

น่าจะบอกว่า "รัฐบาลนอมินี"  มีความ "ชอบกล" ที่จะแก้รัฐธรรมนูญมากกว่า 



"อลัชชีกฏหมาย"ว่า'รัฐบาลนอมินี'มีความชอบธรรมแก้ รธน.ม.237 ไม่ให้ยุบพรรค พปช.ได้ ....
เป็น"อลัชชีกฎหมาย"ว่า รัฐบาลนอมินีมีกลอุบายแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 ไม่ให้ยุบพรรค พปช. ได้.... Question
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #4 เมื่อ: 23-03-2008, 11:48 »

กฎหมายไม่มีผลย้อนหลัง แก้แล้วก็ยุบได้
แต่พวกหน้าด้าน ย่อมทำไม่รู้ไม่ชี้ แก้ให้กฎหมายมีผลย้อนหลังก็ได้
หรือหน้าด้าน+โง่มากๆจะอ้างว่ากฎหมายที่แก้ ใช้ได้ตลอดกาลทั้งในอดีตและอนาคต(แม้ตอนแก้จะไม่ได้ระบุไว้)
ก็ย่อมทำได้และก็เห็นทำมาแล้วอย่างตอนรับรองวุมฺการศึกษาปลอมๆนั่นไง

 
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 23-03-2008, 12:56 »

ว่าแต่ จะกล้าแก้กันรึเปล่า?

บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #6 เมื่อ: 23-03-2008, 12:58 »

เงินมีอำนาจ
บันดาลได้ทุกสิ่ง
นักกฎหมาย นักกฎแมว
แพ้เงินทั้งนั้น
รับเงินมาแล้วต้องภักดีต่อนายจ้าง เรื่องธรรมดา
ผลประโยชน์ประชาชนอยู่ที่ไหน?
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #7 เมื่อ: 23-03-2008, 22:04 »

กฎหมายไม่มีผลย้อนหลัง แก้แล้วก็ยุบได้
แต่พวกหน้าด้าน ย่อมทำไม่รู้ไม่ชี้ แก้ให้กฎหมายมีผลย้อนหลังก็ได้
หรือหน้าด้าน+โง่มากๆจะอ้างว่ากฎหมายที่แก้ ใช้ได้ตลอดกาลทั้งในอดีตและอนาคต(แม้ตอนแก้จะไม่ได้ระบุไว้)
ก็ย่อมทำได้และก็เห็นทำมาแล้วอย่างตอนรับรองวุมฺการศึกษาปลอมๆนั่นไง

 


พวกนิติกรบริการ อลัชชีกฎหมาย และ โสเภณีในรัฐสภา
สามารถ'ตีความ'ให้เป็นประโยชน์แก่'นายใหญ่' และ พรรคปล้นชาติ.....


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
stromman
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 526



« ตอบ #8 เมื่อ: 25-03-2008, 13:03 »

ได้ฟังพี่เหลิมพูดเมื่อวานมั๊ยล่ะครับ ประชาชนเลือกผมมาแล้ว ผมทำไรก็ได้ ประชาชนให้สิทธิผมมา
แหม มันพูดเหมือนใครคนนึงที่หน้าสี่เหลี่ยมเลยครับ ฟังแล้ว เห็นหน้ามาสวมกันเลย   
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: