ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-03-2024, 20:50
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  ระบอบทักษิณทำลายรธน. ‘วรเจตน์’ห่วงวิกฤติตุลาการหากแก้ปัญหายืดเยื้อ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ระบอบทักษิณทำลายรธน. ‘วรเจตน์’ห่วงวิกฤติตุลาการหากแก้ปัญหายืดเยื้อ  (อ่าน 930 ครั้ง)
ผู้ทำลาย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,496


lynnicky


เว็บไซต์
« เมื่อ: 22-05-2006, 08:16 »

โดย ผู้จัดการรายวัน 22 พฤษภาคม 2549 08:09 น.
 
              ผู้จัดการรายวัน - ประธาน กก.สิทธิมนุษยชนฯ ชี้ “ระบอบทักษิณ” นำกระแสประชานิยมทำลายการเมืองและสร้างความล่มสลายให้ รธน. เพียงเพื่อให้ตัวเองสามารถดำรงอยู่ได้ ระบุอ้าง 19 ล้านเสียงขัดต่อหลักประชาธิปไตยชัดเจน “วรเจตน์” ห่วงตุลการเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมือง หากสถานการณ์ยืดเยื้ออาจเกิดปัญหาวิกฤติตุลการ เชื่อ กกต.ชุดนี้ลาออกแน่หลังวินิจฉัยเลือกตั้งเสร็จ ส่วน “ทักษิณ” น่าจะเว้นวรรคการเมือง
       
       ที่ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วานนี้ (21 พ.ค.) จัดเสวนาเรื่อง “ เมืองไทย:หลังทักษิณ 3” โดย นายเสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ปาฐกถานำ ในหัวข้อเรื่อง “อนาคตการเมืองไทย:แลไปข้างหน้า”ว่า ในระบอบทักษิณเสมือนเป็นประชานิยม ซึ่งระบอบทักษิณเป็นระบบการปกครองของรัฐบาลที่เป็นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญไทย ที่ใช้รัฐธรรมนูญ2540 เป็นช่องทางขึ้นสู่อำนาจของทุนนิยมโดยกระแสทุนนิยมข้ามชาติ   
   
       ส่วนระบอบทักษิณเป็นระบอบอยู่ในบริบทเศรษฐกิจและทุนข้ามชาติของโลก คือการตลาดโดยการกระจายเงินตราสู่ชนบทที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เป็นการสร้างฐานทางการเมืองจากชนบท จึงไม่น่าประหลาดใจเมื่อมีการประท้วงผู้นำประเทศของเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชิปไตยจึงมีคาราวานคนจนขึ้นมา       

       นอกจากนี้ระบอบทักษิณยังมีการละเมิดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจนในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งพันธมิตรฯ เป็นตัวสะท้อนของพฤติการณ์ของนักการเมืองที่ล้มรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่การละเมิดรัฐธรรมนูญไม่ได้เริ่มขึ้นตอนที่มีระบบทักษิณ แต่นับจากหลัง 2540 ไม่มีรัฐบาลชุดใดที่จะใส่ใจเคารพในรัฐธรรมนูญ
       
       นายเสน่ห์ กล่าวว่า ปัจจุบันการเมืองไทยมีมิติใหม่ของทุนข้ามชาติโดยมีระบอบทักษิณเป็นสัญลักษณ์ ระบอบทักษิณไม่ใช่ทักษิณหรือพรรคไทยรักไทย แต่เป็นระบอบที่สะท้อนความล้มเหลวของการเมืองไทย ล่มสลายของรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ที่นักการเมืองสามารถพลิกแพลงได้โดยใช้กระแสประชานิยม เพื่อให้ตัวเองสามารถดำรงคงอยู่ได้ เช่น พฤติกรรมที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่อ้างถึง 19 ล้านเสียง ถือว่าเป็นความล้มเหลวของรัฐธรรมนูญ เพราะการเอาเสียงข้างมากมาเป็นตัวชี้ขาดถือว่าเป็นการขัดแย้งระบอบประชาธิปไตยชัดเจน ซึ่งความคิดแบบนี้มีมากในหมู่นักการเมือง และนักเลือกตั้งมาทุกยุคทุกสมัย
       
      นายเสน่ห์ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่ตนอยากจะฝากไว้กับการปฎิรูปการเมืองที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ คือ การพัฒนาและการสร้างความเข้มแข็งให้กับท้องถิ่นจะต้องขึ้นให้ได้ และจะต้องเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องใช้ระยะเวลาบ้างก็ตาม ดังนั้นการที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ หากทำได้ควรจะกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลว่าให้ทุกรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศจะต้องพัฒนาและกระจายอำนาจให้กับท้องถิ่นเกิดความเข้มแข็งให้ได้
       
       หลังจากนั้นเป็นการเสวนาเรื่อง “เมืองไทย:หลังทักษิณ3” โดย นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า สภาพการเมืองในเวลานี้การต่อสู้ทางการเมืองที่เป็นอยู่มีความซับซ้อนมากที่สุด และอาจจะนำไปสู่ความรุนแรงในอนาคตได้ และการต่อสู้จะขยายวงกว้าง โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของวงการ ตุลาการในครั้งนี้ หากการต่อสู้ยือเยื้อและยาวนานอาจจะก่อให้เกิดผลเสียและก่อให้เกิดวิกฤตในวงการตุลาการได้
       
       “การใช้อำนาจของตุลการที่เข้ามาแก้วิกฤติการเมืองของประเทศที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ผมมองว่าอาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย ถึงแม้ว่าทุกคนจะยอมรับการออกมาของวงตุลาการแต่เชื่อว่าต้องมีวาระพิเศษ และกรณีของ กกต. ที่เหลืออยู่ 3 คน ไม่ยอมลาออกก็น่าจะมีอะไรพิเศษเหมือนกัน แต่ตุลาการไม่ควรที่จะแสดงบทบาทอะไรออกมาให้มากนัก และไม่ควรที่จะมากเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยง เนื่องจากการต่อสู้ครั้งนี้มีการเดิมพันสูง ถ้าหากศาลยังไม่ปรับบทบาทของตัวเองที่เป็นอย่างในเวลานี้ต่อไปอาจจะทำให้สังคมหรือคนบางส่วนจะไม่มีความเชื่อมั่นในศาล”
       
       “โดยเฉพาะในระยะเวลาอันใกล้นี้จะมีคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งของที่จะเข้าสุู้การพิจารณาของศาลอีกหลายคดี ผมมีความเป็นห่วงสิ่งที่จะเกิดขึ้นสังคมไทย คือประชาชชนจะหมดคนที่จะมาชี้ขาดความถูกต้องให้กับสังคมอีกต่อไป และถ้าหากศาลให้ กกต.มีความผิดอาจจะสร้างความไม่พอใจกับบุคคลที่อยู่ข้างกกต.จ นเกิดความรุนแรงตามมาได้”
       
       นายวรเจตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวแล้วเชื่อว่ากกต.ชุดนี้จะอยู่ทำหน้าที่อีกไม่นาน เพราะยังมีงานที่สะสางไม่เสร็จสิ้น โดยในระดับท้องถิ่นเนื่องจากต้องสรุปคำวินิจฉัยแล้วเขียนสำนวนเพื่อประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา
       
       อย่างไรก็ตาม กกต.จำเป็นต้องลาอกจากตำแหน่งเพราะหากยังฝืนต่อไป การทำงานของ กกต.ก็จะไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากไม่เป็นที่ไว้วางใจของสังคม และถึงแม้ กกต.จะไม่ยอมลาออกเชื่อว่ากระบวนการของศาลจะมีขั้นตอนที่รองรับเพื่อหาทางออกเพราะเมื่อมีคนยื่นฟ้องคดีอาญากับ กกต. เชื่อว่าศาลจะรับพิจารณา และหากศาลตัดสินว่ามีความผิด กกต.ก็จะต้องหลุดจากตำแหน่งตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของกกต.
       
       นายวรเจตน์ กล่าวว่า ประเด็นที่จะทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คือ 1. การเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงกกต.ทั้งชุด ซึ่งจะส่งต่อการพิจารณาคดีฟ้องร้อง ที่อยู่ในการพิจารณาชี้ขาดของ กกต.โดยเฉพาะเรื่องการฟ้องร้องยุบ 2 พรรคการเมืองใหญ่ 2. การปลดล็อค 90 วัน ที่จะส่งผลให้มีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้น เพราะจะเป็นตัวช่วยให้สภาพทางการเมืองเบาบางลง เนื่องจากประชาชนจะมีทางเลือกใหม่ในการตัดสินใจในการเลือกตั้งมากขึ้น อย่างไรก็ตามก็ยังเชื่อว่าพรรคไทยรักไทยก็ยังคงได้เปรียบอยู่ เพราะมีนโยบานที่ชัดเจนและมีเงินทุนที่มากกว่าพรรคการเมืองอื่น       

       3. กรณีการยุบพรรคการเมือง กกต.จะต้องมีการสืบหาข้อเท็จจริงว่าจะสามารถ เอาผิดพรรคการเมืองที่ทำผิดได้หรือไม่ ซึ่งถ้าหากสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ว่า เป็นการกระทำของพรรคจริงหัวหน้าพรรคจะต้องเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปีและจะต้องถูกดำเนินคดีอีกด้วย หากเป็นเช่นนั้นจริง พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องเว้นวรรค และพรรคไทยรักไทย รวมทั้งการเมืองไทยก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้วย แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่าการสอบสวนจะสามารถสาวไปถึงตัวบุคคลได้หรือไม่ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยากเพราะสุดท้ายกกต.จะต้องเป็นผู้เสนอเรื่องการยุบพรรคให้ศาลรัฐธรรมเป็นผู้ตัดสิน”
       
       นายวรเจตน์ กล่าวว่าหากมีการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะประกาศเว้นวรรคทางการเมือง และเสนอบุคคลเข้ามารับตำแหน่งนายกฯแทน ในช่วงหลังเลือกตั้งที่จะมีการปฏิรูปการเมือง
บันทึกการเข้า

แสนยานุภาพผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน
หน้า: [1]
    กระโดดไป: