รู้สึกว่าคุณทักษิณจะไม่ใช่แค่สมาชิกธรรมดา แต่พบข้อมูลอ้างอิงว่า
ไปนั่งอยู่ใน board of directors ของ Carlyle Group ด้วยครับ
เพิ่งจะลาออกมาในปี 2544 เมื่อรับตำแหน่งนายกฯ สมัยแรก
ผมไปเจอข่าวจากเว็บทำเนียบรัฐบาล ในสมัยรัฐบาลชวน 2
พบว่าคุณทักษิณ มีบทบาทนำทีมผู้บริหาร Carlyle Group
เข้าพบนายกรัฐมนตรีของไทย แม้ตามข่าวจะอ้างอิงตำแหน่ง
ว่านำ นายจอร์จ บุช อดีต ปธน.สหรัฐอเมริกา มาเยี่ยมคารวะ
แต่เมื่อพิจารณาโดยรวมทั้งคณะ สรุปได้ง่ายๆ ก็คือคุณทักษิณ
วิ่งเต้นนำผู้บริหาร Carlyle Group มาพบผู้นำรัฐบาลไทย
สังเกตตอนท้ายข่าวมีแต่ผู้บริหาร Carlyle Group ทั้งนั้น
และตอนนั้นตัวคุณทักษิณเองอาจนั่งเป็นบอร์ดอยู่ด้วยก็ได้ 
------------------------------------------------------------------------------
ข่าวที่ 06/12
วันที่ 5 มิถุนายน 2541
http://spokesman.go.th/t-press98/bush05.txtนายจอร์จ บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี วันนี้ ณ ศูนย์แถลงข่าว ตึกนารีสโมสร นายอรรคพล สรสุชาติ โฆษกประจำ
สำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงว่า เมื่อเวลา 11.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้นำนายจอร์จ บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เข้าเยี่ยมคารวะ
นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย โดยมีผู้เข้าร่วม
สนทนาฝ่ายไทยที่สำคัญ ได้แก่ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงพาณิชย์ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม
นายสาวิตต์ โพธิวิหค และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น
ในโอกาสนี้ ได้มีการสนทนา สรุปได้ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับในการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของอดีตประธานาธิบดี
สหรัฐฯ พร้อมกับได้กล่าวสรุปถึงพัฒนาการและการปฏิรูปทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทย
ในขณะนี้ว่า รัฐบาลได้มีการดำเนินการในหลายเรื่องและมีความคืบหน้าไปด้วยดี เช่น กฏหมาย
ประกอบรัฐธรรมนูญ (organic laws) ได้ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาไปแล้ว อย่างไรก็ดี
จากประสบการณ์ของไทยในระบอบประชาธิบไตย 64 ปีที่ผ่านมา มีข้อสังเกตว่า กฏหมายต่างๆ
เป็นเพียงแต่กรอบโครงสร้างหลักๆ เท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ การนำไปปฏิบัติ
ดังนั้นไม่ว่ากฏหมายจะเขียนดีอย่างไร หากมีการละเลยในทางปฏิบัติแล้ว ปัญหาต่างๆ ก็จะ
เกิดขึ้นได้ ดังนั้น รัฐบาลจึงพยายามที่จะเตรียมความพร้อมให้กับองค์กรต่างๆ นอกจากนี้แล้ว
ยังได้เร่งรัดในเรื่องการแก้ไขกฏหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (Alien Business
Law) และรวมถึงเรื่องการปฏิรูประบบราชการควบคู่ไปด้วยกัน ซึ่งในเรื่องการปฏิรูประบบ
ราชการนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายและต้องใช้เวลาพอสมควร ซึ่งหลายรัฐบาลที่ผ่านมาก็ได้มีความ
พยายามที่จะดำเนินการเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ รัฐบาลชุดนี้ได้มีนโยบายที่จะลดกำลังคนในภาค
ราชการให้น้อยลง และส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจการของรัฐมากขึ้น
อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวแสดงความเห็นด้วยว่า การปฏิรูประบบ
ราชการเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก และยังเกี่ยวข้องกับกฏระเบียบต่างๆ
แต่สิ่งสำคัญที่เป็นหลักการพื้นฐานก็คือ หากประเทศต่างๆ สามารถให้หลักประกันได้ในเรื่อง
ของการจัดการที่ดี และความโปร่งใส ตลอดจนนโยบายการเปิดเสรี เชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่จูงใจให้
นักลงทุนจากประเทศต่างๆ เข้ามาลงทุน เนื่องจากภาคเอกชนจะมีส่วนอย่างสำคัญต่อการ
พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความเห็นด้วยว่า การเติบโตทาง
เศรษฐกิจของไทยในทศวรรษที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากการเข้ามาลงทุนของนักธุรกิจและ
นักลงทุนจากต่างชาติ รัฐบาลไทยจึงมีนโยบายและยึดมั่นในเรื่องนโยบายการเปิดการค้าเสรีมา
โดยตลอด
ในโอกาสนี้ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังได้แสดงความสนใจสอบถามเกี่ยวกับ
นโยบายของรัฐบาลไทย ในเรื่องการเปิดโอกาสให้นักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุนได้มากขึ้น
รวมถึงนโยบายการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของไทยว่าจะส่งผลต่อความรู้สึกของคนไทยในการต่อต้าน
การเข้ามาลงทุนของต่างชาติอย่างไร ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ได้ชี้แจงว่า สิ่งที่คนไทยและนักวิชาการบางกลุ่มโดยทั่วไปมีความห่วงใย ได้แก่ บุคคลจะเข้ามาซื้อหุ้น
ในกิจการของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งอาจจะเข้ามาร่วมลงทุนในลักษณะของการเป็นหุ้นส่วนพันธมิตร หรือ
strategic partner มากกว่าการเข้ามาซื้อกิจการโดยกองทุนต่างๆ รวมถึง การเปิดโอกาสและ
สิทธิให้กับคนไทยอย่างเท่าเทียมกับต่างชาติในการเข้าซื้อกิจการของรัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้
ยังรวมถึงความห่วงใยในเรื่องการผูกขาดกิจการโดยกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติ ซึ่งในเรื่องนี้
เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจว่า การแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้นเป็นการ
เปิดโอกาสให้มีการหาผู้ร่วมลงทุนรายใหม่ และไม่ใช่เป็นการขายกิจการหรือทรัพย์สมบัติของ
ชาติแต่อย่างใด นอกจากนี้ พนักงานต่างๆของรัฐวิสาหกิจ ก็จะได้รับการจ้างงานโดยบริษัทที่จะ
จัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งในเรื่องการปลดพนักงานออกนี้ อาจมีความแตกต่างไปจากการแปรรูป
รัฐวิสาหกิจในบางประเทศ ซึ่งเป็นการปิดกิจการรัฐวิสาหกิจเดิมอย่างสมบูรณ์ และแม้ว่ากฏหมาย
ที่รัฐบาลกำลังผลักดันในเรื่องการเข้ามาลงทุนของต่างชาติในไทย (foreign investment law
ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ต่างชาติเป็นเจ้าของกิจการต่างๆ ในไทยนั้น ในทางปฏิบัติจะมีกฎระเบียบ
ควบคุมในเรื่องคุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพชาวต่างชาติ และมีกำหนดในเรื่องจำนวนด้วย
นอกจากนี้ ซึ่งเจ้าของกิจการซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ยังคงสามารถจ้างพนักงานคนไทยได้เช่นเดิม
ภายหลังการสนทนา นายกรัฐมนตรีได้เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารกลางวันแก่
อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และคณะฯ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงใน
คณะของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกอบด้วย นาย Frank C. Carlucci ประธานบริษัท
Carlyle Group นาย William E. Conway, Jr. นาย Daniel A. D’Aniello
นาย David M. Rubenstein กรรมการผู้จัดการบริษัท Carlyle Group
นาย Steve Orlins กรรมการผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศของบริษัท Carlyle Group
นาย Anthony Miller นาย John Ying กรรมการผู้จัดการ Carlyle Group
ภูมิภาคเอเชีย และนาง Kathy Super ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯบุช
