ทดสอบการนำเสนอความเห็นแนวใหม่...ไม่มีชื่อคนเสนอ..."ระบอบทักษิณ"

[Can ไทเมือง]

อยากทดสอบการนำเสนอแนวคิดอีกวิธี เพื่อตัดความเป็นตัวตนของผู้นำเสนอ
ขอให้ท่านผู้อ่านพิจารณาที่ตัวประเด็นและมุมมอง ขอย้ำว่านี่มิใช่ความเห็นของผมนะครับ
ผมจะแยก ๆ เป็นหมายเลขนะครับ จะแสดงความคิดเห็นเชิงเห็นด้วยหรือเสริมต่อหรือคัดค้านตามสบายครับ

หมายเลข 1 .....

ระบอบทักษิณเป็นระบอบการปกครองที่นำกระแสของระบบทุนนิยมขึ้นสู่อำนาจในรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ภายใต้ยี่ห้อเศรษฐกิจเสรี ซึ่งระบบทุนนิยมเป็นนโยบายการตลาดที่กระจายเงินสู่ชนบท เพื่อสร้างการตลาดในประเทศ จึงเห็นได้ว่าภาคการเกษตร ชาวไร่ชาวนา ที่ไม่เคยได้รับสิ่งเหล่านี้มาก่อน จึงกลายมาเป็นปรากฏการณ์ของคาราวานคนจน ประกอบกับรัฐบาลทักษิณแตกต่างจากรัฐบาลอื่น ๆ ที่ผ่านมา ที่สามารถเข้าถึงนักการเมือง เพราะเป็นแหล่งที่มาของผลประโยชน์ จึงทำให้การเมืองเปลี่ยนโฉมหน้า โดยเกิดภาพการละเมิดรัฐธรรมนูญชัดเจน เป็นความล้มเหลวทางการเมืองไทย เป็นความล้มเหลวของรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยใช้เสียงข้างมากที่ไม่คำนึงถึงกฎเกณฑ์อื่นๆ เป็นการตั้งพรรคการเมืองทางลัด โดยใช้เงินดึงนักการเมืองมาเป็นบริวาร และระบอบดังกล่าวยังทำลายฐานการเมืองท้องถิ่น ดูได้จากนโยบายการปราบปรามยาเสพติดและผู้มีอิทธิพล

........เรื่องการปฏิรูปการเมือง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญจากนี้ไป ถ้าทำไม่ดีก็จะเป็นวัฏจักรที่กลับไปจุดเดิม เป็นเพียงการปรับกลเกมอำนาจทางการเมือง ไม่ใช่การปลดปล่อยนักการเมือง และไม่ทำให้เกิดการถ่วงดุลอำนาจ ที่ผ่านมา ระบอบทักษิณประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง แต่เมื่อใช้อำนาจมากเกินไปก็เกิดปัญหากับตัวเอง การใช้เสียงข้างมากแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทำให้เกิดกระแสต่อต้าน เป็นกับดักตัวเอง ทั้งนี้ การปฏิรูปการเมือง ต้องพัฒนาและสร้างความเข้มแข็ง ความรู้ความเข้าใจ และที่สำคัญต้องพัฒนาฐานการเมืองท้องถิ่นให้เข้มแข็ง

[Can ไทเมือง]

ขอย้ำว่านี่มิใช่ความเห็นของผมนะครับ

หมายเลข 2....

.....ความวิตกกังวลในขณะนี้คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะกลับมาได้หรือไม่ ซึ่งหากกลับมาได้ ก็เป็นเพราะคะแนนเสียงสนับสนุนจากประชานิยมและคุณสมบัติส่วนตัวที่พรรคอื่นไม่มี ส่วนจะบอกว่าไม่กลับมาเลยคงเป็นไปไม่ได้ ....

หมายเลข 3 ......

....การจะเข้าสู่การเมืองรอบที่ 3 ของ พ.ต.ท.ทักษิณคงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะ 5 ปีของการบริหารที่ผ่านมา เกิดจากองค์ประกอบ 3 กลุ่ม คือ

1.การเมืองประชานิยมใหม่ ที่เกิดจากในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประสบปัญหาคดีซุกหุ้น ทำให้พบว่ามีคนมาสนับสนุนจำนวนมาก โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบธุรกิจขนาดย่อม กลุ่มเกษตรกร กลุ่มแรงงานเศรษฐกิจนอกระบบ ซึ่งรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ได้หยิบยื่นความแน่นอนให้ เช่น เรื่องหลักประกันสุขภาพ สินเชื่อราคาถูก โครงการเอื้ออาทร คนกลุ่มดังกล่าวนี้ ถือว่ามีจำนวนร้อยละ 60 ของประเทศ และเป็นฐานการเมืองที่สำคัญของระบอบนี้

ส่วนองค์ประกอบที่ 2 คือ ธนกิจการเมือง เป็นการใช้เงินซื้อการเมือง ถือเป็นการบ่อนทำลายระบบรัฐสภา เพราะรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณไม่สามารถแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ของพรรคได้

องค์ประกอบที่ 3 คือ ชนชั้นกลาง เป็นตัวแปรที่ทำให้การเมืองพลิกผัน โดยบทบาทของชนชั้นกลางนี้ จะยอมรับผู้นำที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโต

[Can ไทเมือง]

ขอย้ำว่านี่มิใช่ความเห็นของผมนะครับ

หมายเลข 4....

.....สิ่งที่รัฐบาลใหม่จะต้องสร้างคือ การยอมรับความชอบธรรมของอำนาจ และสิ่งรัฐบาลใหม่จะต้องเจอคือปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นตัวอย่างของการปฏิเสธระบอบทักษิณ อย่างไรก็ตาม ในการแก้ปัญหาที่ผ่านมา สิ่งที่รัฐบาลทักษิณทำ ดูเผิน ๆ เหมือนจะต่างกับรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าผลของความรุนแรง การตอบโต้ และผู้เสียชีวิตมีจำนวนสูงกว่า แต่ที่น่ากลัวคือ การโจมตีที่มีทั้งเป้าหมายและไม่มีเป้าหมาย สิ่งที่ไม่แตกต่างเมื่อเปรียบเทียบกับที่รัฐบาลจอมพล ป. เคยนำไปใช้ในการแก้ปัญหาโดยใช้นโยบายการพัฒนา อย่างไรก็ตาม ต้องถือว่าการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลทักษิณล้มเหลว หากใช้ความรุนแรงต่อไป จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ นโยบายระบอบทักษิณไม่สามารถให้ความสุขกับคนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง

หมายเลข 5....

....การต่อสู้ทางการเมืองในครั้งนี้ซับซ้อนที่สุด เบื้องต้นอาจมองถึงเรื่องผลประโยชน์ ความไม่พอใจในระบอบทักษิณ ในอนาคตอาจเป็นการต่อสู้เรื่องอุดมการณ์ทางการเมืองที่ลึกขึ้น และปัจจุบันการต่อสู้ได้ขยายวงกว้าง คือมีฝ่ายตุลาการเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเชื่อว่าการต่อสู้จะยืดเยื้อ ใช้เวลายาวนาน และประเมินได้ยาก ขณะเดียวกัน เราอาจไม่ไกลจากการรัฐประหาร แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพการณ์ที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

หมายเลข 6....

.....ระบอบทักษิณเป็นผลผลิตของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งเกิดจากคดีซุกหุ้นที่มีการต่อสู้โดยใช้หลักกฎหมาย แต่เป็นหลักกฎหมายที่ไม่แน่น ไม่เช่นนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะดำรงตำแหน่งต่อไปไม่ได้ และในวันนี้ก็มีการนำกฎหมายมาต่อสู้กันทางการเมืองค่อนข้างมาก จนไม่รู้ว่าใครถูกใครผิด และบางส่วนก็นำกฎหมายมาใช้ไม่ถูกหลัก มีการใช้อำนาจศาลมาแก้ปัญหาค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระวัง เพราะจะทำให้เกิดปัญหาใหม่ ๆ ขึ้นได้ ทั้งนี้ ศาลไม่ควรออกมามากเกินไป เพราะจะเป็นการเสี่ยง หากศาลยังไม่ปรับบทบาท อาจมีคนส่วนหนึ่งไม่ไว้ใจ ทั้งนี้ บทบาทของศาลควรชี้ผ่านคดีต่าง ๆ ที่มีอยู่

หมายเลข 7....

......การที่ กกต.ควรจะลาออกจากตำแหน่ง ไม่ใช่เพราะการทำหน้าที่ถูกหรือผิด แต่เป็นเพราะความน่าเชื่อถือที่มีอยู่ในขณะนี้ การเปลี่ยน กกต.จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเมือง เนื่องจากจะมีผลต่อการยุบพรรคการเมืองที่มีการร้องเรียนกันอยู่ขณะนี้ ทั้งนี้ ประเด็นที่จะเป็นปัจจัยต่อการเมืองในอนาคต ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ การเปลี่ยนตัว กกต. การยุบพรรคการเมือง และการปลดล็อก 90 วัน

อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปการเมืองที่จะมีขึ้น คงไม่ใช่เรื่องง่าย พ.ต.ท.ทักษิณเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญคือใครจะมาเป็นผู้นำในการปรับเปลี่ยนกติกา ซึ่งบุคคลนั้นจะต้องเป็นที่ยอมรับ และจำเป็นต้องมีการปรับกติกาใหม่ เนื่องจากกติกาที่มีอยู่ เอื้อประโยชน์ต่อระบอบทักษิณ

[Can ไทเมือง]

ถ้าเห็นด้วย จากข้อมูลนี้ สามารถเขียนบทความดี ๆ ได้ ไม่น้อยกว่า 3-4 สำนวน

เค้าเรียกว่า ยำข้อมูล...แล้วก็ใส่ชื่อตัวเองส่งให้น้องหนูอ่านเล่น ๆ...ดีมะ.....

สมัยนี้เขียนบทความง่ายครับ...หากรู้จัก..."ยำข้อมูล"

เห็นมั๊ยล่ะว่าไม่ยาก...ไม่เชื่อลอง ๆ ยำข้อมูลเหล่านี้ออกมาซีครับ ตัดต่อใส่สำนวนลีลาใหม่

ตรงใหนมีจุดอ่อนก็ตัด ๆ ออกซะ แล้วทำความเข้าใจให้ชัด...

ปกติ คนเขียนบทความก็มักเกิด "ระบบคิด" จากข้อมูลทั่ว ๆ ไปนี่แหละ

หาได้จากแหล่งข้อมูลเยอะแยะ

จากการอ่าน คิด แล้วเขียนใหม่...ลำดับ หัว...กลาง...ท้าย...ไม่ยากใช่มั๊ยครับ

เราเรียกว่าเขียนตามเหตุการณ์และสามัญสำนึก...เหมาะสำหรับหนังสือพิมพ์...ในลักษณะเป็นบทความ "ความคิดเห็น"

และมิใช่ "บทความเชิงวิชาการ" ( ซึ่งต้องอ้างอิงอะไรต่อมิอะไรรุงรัง )

[Killer]

อ่านตอนท้ายๆ ที่เกี่ยวกับ สถาบันตุลาการ ชักเห็นคล้อยตาม คุณ K_9
ที่บอกว่า สถาบันตุลาการ ควรถอนตัวออกมาเสียจาก ความขัดแย้งนี้เสีย
แต่เหตุผล ผมกับ คุณ K_9 ไม่เหมือนกันหรอก
รายนั้นเค้า หมั่นไส้ ก็เลย ยุส่งไปเสียเลย ให้ถอนตัว

แต่ผมคิดว่า การถอนตัวเป็นการรักษาสถานภาพ
สถาบันหลักสุดท้ายในการปกครองของไทยเอาไว้
ไม่ให้ต้องมาสุ่มเสี่ยง....

ตั้งรับ ดีกว่า รุก... ให้สถานการณ์มันตกผลึกจะสวยกว่า