"อภิรักษ์" ประกาศยุติหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม.หลัง คตส.ชี้มูลผิดคดีรถดับเพลิง ตั้ง "วัลลภ สุวรรณดี" รักษาการแทน ด้าน พปช.เหน็บอภิรักษ์สร้างภาพ-มุ่งกดดันสมัคร ขณะที่ "สดศรี" อุ้ม พปช.โวยอย่ายัดเยียดข้อหานอมินี เตือนสติ กกต.อย่าอคติ ต้องเป็นกลาง ภายหลังถูกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีมติเป็นเอกฉันท์ 8 ต่อ 0 เสียง ให้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ผู้เกี่ยวข้อง 6 ราย ในคดีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างรถและเรือดับเพลิง กทม. โดยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นหนึ่งในรายชื่อที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาด้วยนั้น ล่าสุด นายอภิรักษ์ได้ตัดสินใจประกาศยุติบทบาทการทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม.เป็นการชั่วคราวแล้ว เพื่อใช้เวลาในการรับทราบข้อกล่าวหาและรวบรวมหลักฐานต่อสู้ทางกระบวนการยุติธรรมต่อไป
วันที่ 13 มีนาคม นายอภิรักษ์เปิดแถลงข่าวว่า สาเหตุที่ได้ประกาศยุติบทบาทการทำหน้าที่ เนื่องจาก คตส.มีมติแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 6 ราย ซึ่งตนมีรายชื่อรวมอยู่ในนั้นด้วย ดังนั้น จึงต้องการแสดงสปิริตและสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง และเพื่อความสบายใจ ความโปร่งใสในกระบวนการตรวจสอบ เพราะจะต้องรับผิดชอบในการที่ประชาชนได้ให้ความไว้วางใจเลือกตนเข้ามาทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม.เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2547 ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปีกว่าที่ได้ทำงานให้ประชาชน ได้ตั้งใจทุ่มเททำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ทั้งนี้ เห็นควรยุติบทบาทการทำหน้าที่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยจะไม่มีการรับเงินเดือนแต่อย่างใด
"การที่ผมถูกกล่าวหานั้น เพื่อความสบายใจความโปร่งใส ผมได้ตัดสินใจหารือกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองผู้ว่าฯ กทม. และผู้ใหญ่ท่านอื่นๆ แล้ว ก็เห็นควรที่จะยุติบทบาทหน้าที่ตัวเอง และได้มอบหมายให้นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม. รักษาราชการในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.แทน ผมจะได้ใช้เวลาในการแก้ข้อกล่าวหา มั่นใจกระบวนการต่อสู้ชี้แจงข้อกล่าวหาทั้งหมด เพื่อให้ชัดเจนและเป็นบรรทัดฐานต่อไป" นายอภิรักษ์ กล่าว
ส่วนการยุติบทบาทดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณบอกไปถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายอภิรักษ์กล่าวว่า เป็นการตัดสินใจของแต่ละบุคคล และตนก็เคารพการตัดสินใจของคนอื่น ดังนั้น การยุติบทบาทดังกล่าวเป็นการตัดสินใจของตนเพียงคนเดียวไม่ว่าจะวันนี้หรือวันข้างหน้าก็ตามตนก็ต้องตัดสินใจอย่างนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศในการแถลงข่าวเป็นไปอย่างคึกคัก มีกองทัพผู้สื่อข่าวทุกแขนงมาเฝ้ารอทำข่าว อีกทั้งสถานีโทรทัศน์บางช่องยังมีการถ่ายทอดสดด้วย ขณะเดียวกันยังมี ส.ส.กรุงเทพฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 17 คน บรรดา ส.ก. ข้าราชการ กทม. และประชาชนนับพันคนจากหลายพื้นที่เขตมาให้กำลังใจคับคั่ง ซึ่งหลังแถลงข่าวเสร็จนายอภิรักษ์ได้ลงไปพบปะกับ ส.ส. และ ส.ก.ของพรรค ข้าราชการและประชาชน ที่ห้องรัตนโกสินทร์ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าเพราะข้าราชการและประชาชนหลายคนถึงกับหลั่งน้ำตาในการตัดสินใจยุติบทบาทในครั้งนี้ ขณะที่นายอภิรักษ์เองก็กล่าวอำลาด้วยเสียงสั่นเครือ
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด และยืนยันว่านายอภิรักษ์มีการพยายามหลายครั้งในการรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมนับตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา และมีข้อสงสัยในเรื่องความถูกต้องของสัญญาจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง และได้สอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตั้งแต่ในอดีตก็ได้รับคำยืนยันจากทุกหน่วยงานว่าจำเป็นต้องดำเนินการ ไม่เช่นนั้นจะถูกบริษัทฟ้องร้องและเป็นความเสียหายแก่ประเทศชาติได้ หลังจากนั้นเป็นต้นมาจะสังเกตได้ว่า กทม.โดยผู้ว่าฯ กทม.พยายามตลอดเวลาที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้ว่าสัญญามีปัญหาหรือไม่ เพราะถ้าสัญญามีปัญหา กทม.ก็พร้อมที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายต่างๆ หรือความเสียหายระงับทันที แต่ทุกหน่วยงานยืนยันมาตลอดว่า ทุกสัญญามีผลและต้องเดินหน้าต่อ แต่เมื่อ คตส.ชี้มาเช่นนี้ ก็ต้องเคารพคำวินิจฉัย
ส่วนการประกาศยุติบทบาทการทำหน้าที่ชั่วคราวของนายอภิรักษ์จะเป็นการส่งสัญญาณไปยังคนในรัฐบาลที่ถูก คตส.ชี้มูลมาก่อนหน้านี้หรือไม่
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มาตรฐานทางการเมืองต้องขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่ผู้ว่าฯ กทม.กับพรรคเห็นตรงกันในชั้นนี้ว่าอยากจะแสดงเจตนาให้ชัดเจน เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบเดินไปอย่างไม่มีอุปสรรค ฝ่าย ก.ม.ปชป.มั่นใจ"อภิรักษ์"พ้นข้อหา นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแนวทางการต่อสู้คดีการจัดซื้ออุปกรณ์ และรถดับเพลิง ที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูก คตส.ชี้มูลความผิด ว่า นายอภิรักษ์มีทีมกฎหมายส่วนตัวคอยแก้ต่างคดีให้อยู่แล้ว แต่ฝ่ายกฎหมายของพรรคก็พร้อมให้การช่วยเหลือนายอภิรักษ์อีกทางหนึ่ง
"ผมมั่นใจว่านายอภิรักษ์จะสามารถแก้ข้อกล่าวหาได้ เพราะเมื่อดูตามข้อเท็จจริง จะเห็นว่านายอภิรักษ์ไม่ทราบว่าการเซ็นสัญญาของนายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะรักษาการผู้ว่าฯ กทม.ในขณะนั้น กับบริษัท สไตเออร์ฯ มีการฉ้อฉล อีกทั้งถ้านายอภิรักษ์ไม่รับดำเนินการต่อ ทาง กทม.จะถูกบริษัท สไตเออร์ฯ เรียกร้องค่าเสียหายได้ นอกจากนี้ นายสมัครยังยืนยันอยู่ว่า การเซ็นสัญญาเป็นไปอย่างถูกต้อง ดังนั้น เมื่อวันนี้ คตส.ชี้มูลว่ามีการทุจริต จึงมีความชัดเจนว่านายอภิรักษ์ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำที่เกิดขึ้น" นายถาวร กล่าว
"ณฐนนท"พับโครงการลงชิงผู้ว่าฯกทม. คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน อดีตปลัด กทม. ซึ่งถูก คตส.แจ้งข้อกล่าวหากรณีซื้อรถและเรือดับเพลิง ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังไม่รู้ข้อกล่าวหาที่ คตส.ส่งฟ้อง จึงยังไม่รู้ว่าบกพร่องในหน้าที่อย่างไร แต่พร้อมที่จะชี้แจงข้อกล่าวหาให้กระจ่าง และยืนยันว่าการทำหน้าที่ของตนเองที่ผ่านมา ทำอย่างบริสุทธิ์ใจ โดยเฉพาะกรณีจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง เป็นการดำเนินการตามโครงการที่เป็นนโยบายของรัฐบาล ที่มอบให้ กทม.ปฏิบัติ โดยตนแสดงเจตนาบริสุทธิ์ในการคัดค้านการเปิดแอลซี และชะลอการเปิดแอลซีมาตลอด แต่ไม่มีอำนาจในการสั่งระงับ เพราะไม่ใช่อำนาจของปลัด กทม.จะทำได้
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้คุณหญิงณฐนนทมีแนวคิดจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.ต่อจากนายอภิรักษ์นั้น คุณหญิงณฐนนทกล่าวว่า แนวคิดที่จะเข้าสู่การเมืองมีอยู่ตลอด ตั้งแต่จะสมัคร ส.ส. และ ส.ว. ที่ผ่านมาคิดที่จะสมัคร แต่ก่อนสมัครก็จะมีข่าวที่ตนต้องเสียหาย รวมทั้งแนวคิดที่จะสมัครผู้ว่าฯ กทม.ด้วย ตนเป็นผู้หญิง และรับราชการมาตลอดจนเกษียณ และตั้งใจตลอดว่าจะทำงานรับใช้ประชาชน แต่ก็มักมีข่าวคราวที่สร้างความเจ็บช้ำมาตลอด อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหากัน ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้กระจ่างก่อน แล้วจะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่
"สมัคร"รูดซิปปากไม่พูดเรื่อง"อภิรักษ์" ขณะที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี อดีตผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งถูก คตส.ชี้มูลผิดคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง กทม.ไปก่อนหน้านี้ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นกรณีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ประกาศยุติการทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.หลังถูก คตส.ชี้มูลความผิด โดยนายสมัครได้แต่ยิ้มๆ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่นายสมัครจะเดินทางกลับ นายชัย ชิดชอบ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิป) ได้นำรายชื่อประธานคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ มาส่งให้นายสมัครได้ดู
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารายชื่อประธานคณะกรรมาธิการทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า "เรียบร้อยแล้ว"
พปช.อัด"อภิรักษ์"สร้างภาพกดดัน"หมัก" นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า การยุติหน้าที่ของนายอภิรักษ์ เป็นการวางเกมการเมืองเอาไว้แล้วตั้งแต่ต้น เพื่อให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง พยายามจะกดดันนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ขณะที่ตัวนายอภิรักษ์ เองพยายามทำให้ตัวดูเหมือนมีสปิริต ทั้งๆ ที่นายอภิรักษ์ ได้ประโยชน์ใน 2 สถานะ คือ 1.มีเวลาไปหาเสียงผู้ว่าฯ กทม.ที่จะลงในสมัยหน้า และ 2.ทำให้ตัวเองมีภาพลักษณ์ที่ดี
"ตอนนี้เกิดสุญญากาศทางการเมือง ในสภานายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาก็ยุติบทบาท นายอภิรักษ์ ก็มาจังหวะพักงานในช่วงนี้ ทำให้ กทม.ว่างงาน และพยายามจะให้มีผลต่อนายสมัคร ให้ยุติบทบาทในการเป็นนายกฯ ด้วย อีกทั้งตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ชื่อของนายอภิรักษ์ ไม่ได้มีชื่ออยู่ในคดีนี้ตั้งแต่ต้น เรื่องนี้เหมือนกับกรณีหวยบนดินที่ คตส.ทำตัวเหมือนเด็กแว้น ไปฟ้องร้องเองโดยใช้ทนายความ และพยายามโยงกฎหมายมาตรา 55
จนมีการกดดันให้ 3 รัฐมนตรีในรัฐบาลนายสมัคร ลาออก เพื่อกดดันนายสมัคร อีก ตรงนี้เราอ่านเกมออกและจะไม่ยอมให้ คตส.เอาตำแหน่งมาใช้ในเกม เพราะคนที่ควรลาออกคือ คตส.[/color]" นายจตุพร กล่าว
มท.1 เหน็บ "หล่อเล็ก" ด่วนแสดงสปิริต ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวว่า การยุติหน้าที่ของนายอภิรักษ์ ไม่ใช่เป็นการแสดงสปิริต นายอภิรักษ์ ไม่จำเป็นต้องยุติบทบาทการปฏิบัติหน้าที่ เพราะ คตส.เพียงแค่ชี้มูล ทั้งนี้ นายอภิรักษ์ ยังมีสิทธิที่จะชี้แจงข้อกล่าวหา ซึ่งสุดท้าย คตส.อาจจะยุติไม่ดำเนินคดีกับนายอภิรักษ์ ก็ได้ ตนว่าควรทำงานต่อไปไม่ต้องรีบแสดงสปิริตอะไร เพราะว่าเดือนกรกฎาคม 2551 ก็จะหมดอายุการทำงานของผู้ว่าฯ กทม.แล้ว ต้องมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ขึ้นมาใหม่
และกรณีของนายอภิรักษ์ แตกต่างจากท่านอื่นๆ เพราะว่าเป็นผู้ว่าฯ กทม.แล้วอนุมัติและมีส่วนร่วมในการจัดซื้อจัดหารถและเรือดับเพลิง หากถูกชี้มูลความผิดและส่งขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง ก็ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่อย่างชัดเจน เพราะว่าถูกกล่าวหาขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าฯ กทม. ส่วนคนอื่นเป็นคนละกรณีคนละประเด็น ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า กรณีของนายสมัคร ที่ถูกชี้มูล ขณะนั้นก็เป็นผู้ว่าฯ กทม. โดย กทม.ก็เป็นเขตปกครองพิเศษที่มาจากการเลือกตั้ง ใครจะก้าวก่ายไม่ได้ แต่วันนี้เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นคนละเรื่อง เรียกได้ว่าต่างกรรมต่างวาระ การพิจารณาจะแตกต่างกัน หากนายอภิรักษ์ จะไปจริงควรรอเวลาอีกนิด เรื่องนี้อยู่ในการสอบสวนของ คตส. คงไม่มีใครไปแทรกแซงได้ ดังนั้น ทุกอย่างควรรอให้ คตส.ส่งสำนวนไปยังศาลอาญาแผนกคดีการเมืองก่อน จากนั้นจึงมาว่ากันอีกครั้ง
คตส.ชม "อภิรักษ์" สร้างมาตรฐานการเมือง นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส.ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนคดีการทุจริตเรือและรถดับเพลิงของ กทม. กล่าวถึงการพักงานของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ว่า ความจริงนายอภิรักษ์ ไม่ต้องหยุดทำงานก็ได้ เพราะเป็นแค่เพียงข้อกล่าวหา แต่การกระทำเช่นนี้ก็ถือว่าเป็นข้อดีที่จะสร้างมาตรฐานทางการเมืองที่ดีต่อไป ส่วนนายสมัคร และรัฐมนตรีอีก 3 คนที่ถูก คตส.ชี้มูลไปก่อนหน้านี้ควรจะทำเหมือนนายอภิรักษ์ หรือไม่ ตนไม่อยากไปก้าวก่าย
เมื่อถาม คตส.สรุปว่าการทำเอโอยู เป็นโมฆะ ส่งผลให้สัญญาซื้อขายเป็นโมฆะด้วย เหตุใดนายอภิรักษ์ จึงถูกตั้งข้อกล่าวหาด้วย เพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง นายนาม กล่าวว่า สัญญาดังกล่าวมีการเซ็นมาก่อนหน้านี้หมดแล้ว จึงถือว่ามีผลบังคับ ในส่วนของนายอภิรักษ์ ได้เข้ามาดำเนินการต่อด้วยการลงนามเปิดแอลซี และทำให้สัญญานั้นสามารถเดินหน้าต่อไปอีก ซึ่งเป็นความเห็นที่แตกต่างของ คตส. เมื่อเสียงส่วนใหญ่เห็นอย่างนี้ก็ต้องปฏิบัติตาม
เมื่อถามว่า หาก คตส.ยืนยันว่า เอโอยูถือเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น มีโอกาสที่นายอภิรักษ์ จะหลุดจากข้อกล่าวหาในชั้นไต่สวนหรือไม่ นายนามกล่าวว่า นายอภิรักษ์ ต้องมาแก้ข้อกล่าวหาก่อน และต้องดูว่าสามารถชี้แจงหักล้างข้อกล่าวหาได้หรือไม่ ถ้าทำได้ก็ถือว่าไม่ผิด
ส่วนการที่ คตส.แจ้งข้อกล่าวหานายอภิรักษ์ เพื่อแสดงว่า คตส.ไม่ได้เลือกปฏิบัติตามที่พรรคพลังประชาชนเคยกล่าวหามาก่อนหน้านี้ใช่หรือไม่ ประธาน คตส.กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่ต้องถือตามมติเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุม คตส.จึงต้องปฏิบัติตาม เพราะเป็นเรื่องของความเห็นทางกฎหมาย จะถูกหรือผิด ก็ยังมีเวลาที่จะชี้แจง โดยส่วนตัวเชื่อว่า หลังจากที่ คตส.แจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่เกี่ยวข้องครบแล้ว คดีนี้ก็จะสามารถเดินต่อไปได้และสามารถสรุปได้ในเร็วๆ นี้ คาดว่าจะทันตามกรอบเวลาที่วางไว้
ที่มา คม ชัด ลึก
http://news.hunsa.com/html/1/2/00005/news_5568.html?rand=816077620สาเหตุที่ได้ประกาศยุติบทบาทการทำหน้าที่ เนื่องจาก คตส.มีมติแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 6 ราย ซึ่งตนมีรายชื่อรวมอยู่ในนั้นด้วย ดังนั้น จึงต้องการแสดงสปิริตและสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง และเพื่อความสบายใจ ความโปร่งใสในกระบวนการตรวจสอบ เพราะจะต้องรับผิดชอบในการที่ประชาชนได้ให้ความไว้วางใจเลือกตนเข้ามาทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม...........'นายกฯนอมินี' 'รมว.ฆ่าตัดตอน' และอดีตแกนนำ นปก.(แนวร่วมเป็ดไก่) จะเห็นว่า'การแสดงออก'ของผู้ว่าฯ กทม.อภิรักษ์ จะเป็น'สปิริต' หรือ'กดดัน' หรือ 'ประจาน' แกนนำ'พปช'(พรรคปล้นชาติ) หรือไม่ ก็แล้วแต่จะพิจารณา....
แต่ผู้ว่าฯ กทม.อภิรักษ์ ได้แสดงออกถึง'สปิริต'ของนักการเมืองรุ่นใหม่ ที่ไม่ต้องการให้วิพากษ์วิจารณ์หรือขับไล่อย่าง'สามหนาห้าห่วง' แล้ว....นักเลง'หมากรุก' เรียกว่าเสียม้าแลก'ขุนนอมินี' และ 'หมากนกแล' หรือไม่......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่าปล. ขอคัดลอก....
หณุมานอาสาท่านว่าไว้ ข้างหมากไล่เรือกับม้าอย่าฉงน
อีกเบี้ยหงายรายคุมโคนระคน ม้าผจญโจมบุกเข้ารุกรัน
ข้างหมากหนีมีเรือคอยรารับ โคนกำกับเคียงข้างไม่ห่างหัน
ต่างประชิดติดต่อไม่รอกัน กำหนดนั้นหกสิบสี่มีอัตรา
ควายสู้เสือเหลือลำบากพวกหมากหนี คือโคนมีอยู่กับเบี้ยไม่เสียท่า
คอยป้องปิดติดแว้งทะแยงตา เข้ารับหน้ากันรุกทุกกระบวน
ข้างหมากไล่ได้เรือไว้กับเม็ด คอยลอดเล็ดล้อมเลี้ยวตลบหวน
มีเกณฑ์กฎบทบังคับนับจำนวน ไม่จนถ้วนหกสิบสี่เสมอกัน
http://www.tv5.co.th/service/mod/heritage/nation/thaichess/ct000.htm