ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
23-04-2024, 14:00
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  สิ้นยุค คมช. อภิรักษ์หรือจะพ้นบ่วงกรรม..!?! 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
สิ้นยุค คมช. อภิรักษ์หรือจะพ้นบ่วงกรรม..!?!  (อ่าน 1001 ครั้ง)
ส.นครไท
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 14-03-2008, 23:39 »

วันนี้เราขอกล่าวคำว่า “ไม่แปลก” ที่ คตส.องค์กร “หลุดโลก” ของระบอบเผด็จการ ถึงจุดที่ “ไร้ทางเลี่ยง” จำต้องเกี่ยวเอานายอภิรักษ์ เข้าไปติดในร่างแหกรณีรถดับเพลิงฉาวด้วย ทั้งๆที่สมัย คมช.เรืองอำนาจนั้น บุคคลในพรรคการเมืองเก่าแก่เคยเอ่ยไว้อย่างอหังการว่า “กรณีรถดับเพลิง ถ้าทางพรรคไม่ช่วยวิ่งเต้น อภิรักษ์คงไม่รอด..?”
ซึ่งประเด็นนี้น่าสนใจอย่างยิ่งว่า พรรคการเมืองเก่าแก่ได้ดำเนินกรรมวิธีการวิ่งเต้นอย่างไร..? ใช้อิทธิพลอะไร..? พึ่งพาบุคคลที่มากบารมีระดับไหน..? และใช้กระบวนการบิดเบือนอย่างไร..?
ครั้นสิ้นยุค คมช. และรัฐบาลขิงเปื่อยหอบเสื่อลาโรง คตส. ก็เลี่ยงไม่พ้น ที่ต้องกวาดเอานายอภิรักษ์เข้าบ่วงไปด้วย เหตุเพราะประจักษ์หลักฐานปรากฏทนโท่ และไม่มีทางเลี่ยงกระแสสังคมพ้น
ก่อนหน้านี้ ในยุคเผด็จการคุ้มหัว ดูเหมือนว่า คตส. พยายามเลี่ยงที่จะแตะต้องนายอภิรักษ์ในทุกกรณี ถึงขั้นมองไปว่าแอ่นอกรับแทนด้วยซ้ำ ทว่าการดำเนินการเช่นนั้น เสมือนพายเรืออยู่ในอ่าง หาทางออกไม่ได้ เพราะในกระบวนการจัดซื้อ ขั้นตอนสำคัญคือการจ่ายเงิน ซึ่งนายอภิรักษ์มารับลูกตรงนี้พอดี ถือเป็นการปิดฉากเช็คบิล แม้จะปฏิเสธว่าโดนบีบให้กระทำการ แต่ก็ยังเป็นที่กังขาถึงข้อครหานานัปการ
สิ่งใดที่รู้ว่าชั่วร้าย หากถูกบีบบังคับโดยมิชอบ คน “ดีจริง” ย่อม “ปฎิเสธ” ได้ในระบอบราชการ ทว่าหากไม่ยอมทวนกระแส ตรงกันข้ามกลับ “รับลูกชั่ว” วิ่งเข้าเส้นชัย ก็ย่อมถือว่ามีส่วนในการกระทำอันมิชอบนั้นอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะหากนายอภิรักษ์ไม่ยอมที่จะลงนาม หากพบความไม่ชอบก็สามารถโวยวายร้องเรียนได้ ซึ่งคงไม่มีใครสามารถบังคับขืนใจให้นายอภิรักษ์หรือข้าราชการคนใดกระทำการทุจริตได้ จากเจ้าตัวไม่ยินยอมพร้อมใจ
นายอภิรักษ์นั้น ในยุคเผด็จการ คมช. เป็นผู้ที่เสนอตัวรับใช้ คมช.อย่างออกนอกหน้า เช่นในกรณีการกีดกันกลุ่ม นปก. ในการใช้พื้นที่สนามหลวง การนำเอารถขยะ รถดับเพลิงเข้าสนับสนุนเผด็จการอมาตยา กระทั่งการนำเอาเจ้าหน้าที่เทศกิจไปร่วมกับฝ่ายเผด็จการเพื่อคุกคามประชาชนอย่างเหิมเกริมเกินหน้าที่ เมื่อนายอภิรักษ์โดน “พวกเดียวกัน” ลงมือ “ขอดเกล็ด” เอาเที่ยวนี้เพื่อ “สร้างภาพ” กลุ่มที่คงได้รับความสะใจเป็นล้นพ้น ก็เห็นจะได้แก่กลุ่มประชาชนต้านเผด็จการ ที่นายอภิรักษ์เคยแสดงอำนาจบาตรใหญ่ รับใช้เคล้าแข้งเลียขา คมช. กดหัวพวกเขา
ถึงอย่างไรเราขอชื่นชม “สปิริต” ของนายอภิรักษ์ ที่กล้าแหวกมารยาทการเมืองด้วยการ “ยุติบทบาท” ทางการเมืองลงชั่วคราวในตำแหน่งผู้ว่า กทม. ซึ่งนักการเมืองที่มีหัวใจเป็น “สุภาพบุรุษ” ควรศึกษามารยาทแบบนี้ไว้ เพื่อสร้างมาตรฐานอันงดงามให้กับการเมืองไทยในอนาคต
แต่..อย่าลืมว่า พรรคเก่าแก่ของนายอภิรักษ์นั้น เป็นพรรคการเมืองที่ “เล่นการเมืองเป็น”  มีเหลี่ยมคูแพรวพราว เดินเล่ห์วางกลยุทธ์เกมกดดันฝ่ายตรงกันข้ามทุกรูปแบบอย่างเหนือชั้น การแสดงมารยาทของนายอภิรักษ์ครั้งนี้ จึงดูเสมือนว่า “เปิดเกม” กดดันนายสมัคร ซึ่งติดร่างแหอยู่ในกรณีเดียวกัน และเป็นการชิงเชิง “หาเสียง” ปูทาง “สร้างภาพ” สำหรับพรรคการเมืองพรรคนี้ ที่จะยึดสนาม กทม.อีกสมัย แม้กระทั่งการเดินแต้มการเมืองระดับชาติเพื่อทอนอำนาจฝ่ายตรงกันข้าม ตามที่บางคนได้ “ตั้งธง” ไว้
และอาจเป็นการสร้าง “ความชอบธรรม” ให้ คตส. องค์กรของเผด็จการ คมช. ในการกำจัดฝ่ายที่อมาตยาต้องการกำจัด ซึ่งถึงเวลานั้น นายอภิรักษ์อาจถูกเขี่ยให้พ้นออกจากบ่วงกรมนี้อย่างเหนือชั้นใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะสิ่งเหลือเชื่อหลายอย่างในแผ่นดินนี้ ได้อุบัติให้เห็นมาหลายครั้งแล้ว ภายใต้ “มือที่(แกล้ง)มองไม่เห็น” ของผู้มากบารมีเหนืออำนาจรัฐ
อย่าลืมว่า นายอภิรักษ์คนนี้ คือ “มือวาง” รุ่นใหม่ในระดับแถวหน้าของพรรค ที่จะถูกส่งขึ้นอยู่หัวแถวในอนาคตอันใกล้ หากนายอภิสิทธิ์ถึงคราว “หมดน้ำยา” ยังป้อแป้ไม่สามารถนำพาพรรคสู่แท่นฝ่ายผู้ครองอำนาจรัฐให้สมาชิกได้อิ่มหมีพีมันในการเสพอำนาจได้ จึงไม่มีทางที่พรรคเก่าแก่อันมากไปด้วยชั้นเชิง จะปล่อยให้นายอภิรักษ์ต้องจบอนาคตกับเรื่องนี้
หรือว่า..นี่เป็นเกมอีกเกมหนึ่งที่พรรคเก่าแก่ชั้นเชิงสูง เข้าสมทบกันกับกลุ่มอมาตยาอันมากกลยุทธ์ยึดเมือง กำลังตบเท้า “เดินหน้า” แหกตาประชาชน..ก็น่าจับตานัก..?
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: