ประชาเผยชมรมคนรักแม้วตั้งกลุ่มจับตาพันธมิตร ขู่พร้อมเคลื่อนไหวป้องรัฐบาล
นายประชา ประสพดี ส.ส.สุมทรปราการ พรรคพลังประชาชน
ในฐานะอดีตแกนนำกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกแถลงการณ์เรื่อง กลียุคมาแล้วโดยระบุว่การเคลื่อนไหวของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช มีพฤติการณ์ดูถูกภาคประชาชน ว่า ตนมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการเคลื่อนไหวโดยที่แกนนำพันธมิตรทั้ง 5 คนมีจิตใจหมกมุ่น และมีอคติกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ตนและแกนนำกลุ่มคนวันเสาร์ ได้ตั้งกลุ่ม มหาชนร่วมพิทักษ์ประชาธิปไตยขึ้น เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่ามีวัตถุประสงค์ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคม และมีแนวโน้มที่จะล้มล้างรัฐธรรมนูญ และระบอบประชาธิปไตยหรือไม่
นายประชา กล่าวว่า สำหรับคณะทำงานติดตามความเคลื่อนไหวนั้น มาจากตัวแทนหลายฝ่าย อาทิ กลุ่มคนขับแท็กซี่ กลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้าง กลุ่มกรรมกร นักวิชาการ นักเรียนนักศึกษาและประชาชนทั่วไป ที่มีความเห็นตรงกันว่าขณะนี้ประเทศไทยมีประชาธิปไตยแล้ว ซึ่งมีกระบวนการตรวจสอบผ่านทางนิติบัญญัติ ศาล และฝ่ายบริหาร
นายประชา กล่าวว่า การกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ อยู่ในลักษณะข่มขู่ โดยมีวิธีการที่อยู่นอกเหนือกติกา ซึ่งหากกลุ่มคนเหล่านี้ ยังใส่ร้ายและดูถูก พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไม่หยุดหย่อน ตนจะดำเนินการทุกมาตราการทางสังคมเพื่อการตอบโต้ ซึ่งจะเริ่มจากการดำเนินคดีทางศาล และจะจบลงด้วยการขับเคลื่อนของคลื่นมหาชนจำนวนมาก ที่มีความต้องการร่วมกันในการพิทักษ์ระบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ตามตนตั้งข้อสังเกตุว่าการที่กลุ่มพันธมิตรฯออกมาตั้งโต๊ะแถลงการณ์นั้น มีเหตุผลมาจากการแบ่งผลประโยชน์กันไม่ลงตัวใช่หรือไม่
รัฐบาลไม่ได้สร้างเงื่อนไขในการปฎิวัติอีกรอบ แต่คนกลุ่มนี้ต่างหากที่โยนไฟใส่คนอื่น และที่ผ่านมาความวุ่นวายก็เกิดจากกลุ่มคนเหล่านี้ทั้งนั้น คิดไปเองหรือเปล่าหรือกลุ่มพันธมิตรฯเตรียมที่จะคิดแผนชั่วรายอีกหน ผมของวิงวินให้หยุดถ้าไม่หยุดก็จะเจอคลื่นมหาชน ครั้งนี้ผมไม่ได้ขู่ แต่เอาแน่ ไม่ถอยด้วย ผมไม่ยอมปล่อยพวกทรราชย์ทั้ง 5 คนมาทำลายความสุขอย่างเด็ดขาด และเชื่อว่าไม่ต้องเป่านกหวีด แค่เคาะกะลา ก็มีคนออกมาเยอะแล้ว และหากเหตุการณ์หนักๆผมก็พร้อมที่จะถอดเครื่องแบบมาเป็นคนธรรมดาร่วมดำเนินการด้วยนายประชากล่าว
http://www.naewna.com/news.asp?ID=98820ใครแอบอ้างอย่างหน้าด้าน ๆ สักพักคงรู้