Şiłąncē Mőbiuş
|
 |
« เมื่อ: 06-03-2008, 11:36 » |
|
จำได้ว่าอีมิ่งขวัญเคยบอกว่าจะคุมราคาสินค้าไม่ให้ราคาสูงขึ้น และ ไอ้นายกหัวด.. มันบอกว่าจะเอาทฤษฎีเศษสตางค์มาใช้ เพื่อควบคุมราคาสินค้าไม่ให้สูงเกินไป และจะควบคุมราคาอาหารตาม Food คอร์ท ในห้างสรรพสินค้าไม่ให้ราคาแพง และ เพื่อให้มีการขึ้นราคาตามราคาจริง ครั้งละ 1 - 2 บาท (ไม่ใช่ขึ้นทีละ 5 บาท) หลังจากพูดล่วงเลยมาได้ระยะเวลาพอสมควรแล้ว และ ล่าสุด ผมไปเยือนห้าง 2 - 3 ห้างที่มีพวก Food คอร์ท ซึ่งเท่าที่ดู บรรดาร้านอาหารใน Food คอร์ทเหล่านั้น ต่างก็ขึ้นราคากันหมดแล้ว (ใช้วิธีการแปะราคาใหม่ทับไปเลย) โดยจะขึ้นทีเดียว 5 บาท (มีแต่ข้าวเปล่าเท่านั้นแหล่ะ ที่ขึ้นเพียง 1-2 บาท) ไหนล่ะครับ มาตรการควบคุมราคาสินค้า ไม่เห็นทำได้จริงเลย ล่าสุดออกมาบอกว่าหมูต้องขายราคาเท่านั้น เท่านี้ ถามจริงๆเหอะ ถ้าต้นทุนทุกอย่างมันแพง คนขายมันจะยอมขายราคานี้ไปสักเท่าไหร่กันเชียว (ถนัดนักชอบออกมาตรการควายๆ มาเพื่อให้ควายมันเลื่อมใสหรือไงวะ  ) ทีราคาอาหารสัตว์มันแพง ทำไมไม่ไปดูแลตรงนั้น น้ำมันแพง ทำไมไม่ไปดูแลตรงนั้น ปุ๋ยแพง ทำไมไม่ไปดูแลตรงนั้น ทำไมมานั่งแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ หรือว่า เพราะคณะรัฐมนตรี มันมัวแต่เสพเมถุนอยู่่ เลยไม่รู้จักวิธีการคุมกำเหนิด รู้จักแต่วิธีการทำยังไงให้แท้งอย่างเดียวรึไงว๊ะ ไอ้ควายเอ๊ยยยยย 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 “People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.” . “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
|
|
|
gunner Dear GTO
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: 06-03-2008, 14:27 » |
|
..." มันมัวแต่เสพเมถุนอยู่่ เลยไม่รู้จักวิธีการคุมกำเหนิด รู้จักแต่วิธีการทำยังไงให้แท้งอย่างเดียวรึไงว๊ะ " ไอ้ควายเอ๊ยยยยย   เปรียบเทียบ ให้เห็นภาพชัดเจน  เยี่ยมจริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: 06-03-2008, 15:14 » |
|
เข้าไปอ่านข่าวมติชนสิ
เจ๊เพ็ญ บอกว่าขอเป็นกาวใจให้รัฐบาลกับข้าราชการ ก็มันเพิ่งย้ายอธิบดีหยกๆ
ส่วนสมัครก็โดนสส. พปช. ตัดหางปล่อยวัด บอกว่า คาสิโน ไม่ใช่นโยบายพรรค...เหอ เหอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Şiłąncē Mőbiuş
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: 06-03-2008, 16:19 » |
|
 งานนี้ จะเป็นแบบ เพื่อนรัก หักเหลี่ยมโหด หรือเปล่าว๊าาาา 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 “People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.” . “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
|
|
|
Solidus
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: 06-03-2008, 17:56 » |
|
เนื้อแต่ละส่วนราคาก็ไม่เท่ากันจะขายได้อย่างไรราคานั้น ถ้าต้นทุนที่ใช้เลี้ยงมันขึ้น ราคาหมูมันก็ขึ้น จะควบคุมราคาหมูได้อย่างไร 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
truly
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: 06-03-2008, 18:11 » |
|
เจ๊มิ่งแกเอาแต่โม้จนน้ำลายจะท่วมสภา ไม่เห็นมีใครฟังมันพูดรู้เรื่องซักคน สงสัยคราวก่อน..แม้แต่ตัวเองยังมึน เลยล้มหัวฟาดไป 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
qazwsx
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: 06-03-2008, 18:27 » |
|
เจ๊มิ่งแกเอาแต่โม้จนน้ำลายจะท่วมสภา ไม่เห็นมีใครฟังมันพูดรู้เรื่องซักคน สงสัยคราวก่อน..แม้แต่ตัวเองยังมึน เลยล้มหัวฟาดไป   ได้ยินว่าคราวที่แล้วมีอาการ "วิงเวียน...คล้ายจะเป็นลม" แบบโฆษณายาหม่องน้ำยี่ห้อหนึ่ง ก็เพราะดันหยิบโพยสำหรับกล่าวปราศรัยมาผิดฉบับ ไพล่ดันไปหยิบเอา "โพยแถลงการเปิดงานปาร์ตี้ชาวเกย์" มาแทนได้ซะนี่ ...ก็เรย...หน้ามืด
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-03-2008, 18:34 โดย qazwsx »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: 06-03-2008, 20:02 » |
|
ถ้าจะนินทาเจ๊มิ่ง ต้องเอาเรื่องแถลงการส่งออกของรัฐบาลขิงแก่ มาเป็นผลงานตัวเอง
วันนี้เห็นมีคนบอกว่าสัญญาณดีๆ เรื่องส่งออกมันมาตั้งแต่ 4-5 เดือนที่แล้ว
พอเค้าจับได้ไล่ทัน ดันเป็นลมซะนี่
ดีไม่ร้องว่า...เจ๊อยากตายยยยย...เจ๊อายจังเลย...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mebeam
|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: 06-03-2008, 23:21 » |
|
" ทีราคาอาหารสัตว์มันแพง ทำไมไม่ไปดูแลตรงนั้น น้ำมันแพง ทำไมไม่ไปดูแลตรงนั้น ปุ๋ยแพง ทำไมไม่ไปดูแลตรงนั้น ทำไมมานั่งแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ" -ถ้าตอนนี้ไปดู ควบคุมอาหารสัตว์ ก็จะอ้างกากถั่ว ข้าวโพดมันแพง เกษตรกรออกมาโวยอีก อยู่ไม่ได้ โดนร.ง.อาหารกดราคา หรือราคาพืชอาหารสัตว์ถูกอยู่ไม่ได้กันอีก ก็ต้องไปเรื่มคุมราคาปุ่ยก่อน กว่าจะปลูกข้าวโพดใส่ปุ๋ย กว่าจะโต ราคาพออยู่ได้ กว่าจะเอาไปทำอาหารสัตว์ราคาถูก กว่าจะเอาไปเลี้ยงหมู ต้นทุนไม่สูง กว่าจะโต แล้วชาติไหนเราจะกินหมู ราคาโลละ 98 บาท ตอนนี้มันต้อง บีบทางปลายทางก่อน แล้วไล่ช่วยลงไป ไม่ใช่ช่วยแต่ต้นทาง กว่าจะถึงปลายทาง ก็ยังโลละ120
อย่างน้อยตอนนี้ เขาก้ช่วยให้คุณได้กินหมู โลละ 98 แทนที่จะกินกิโลละ 120 อาจจะไม่ทุกพื้นที่แต่ก็ยังดี ส่วนเรื่องคนเลี้ยงหมูอยู่ไม่ได้ จริงไม่จริงยังไม่รู้เลย ถ้าอยู่ไม่ได้จริงๆ เขาต้องแก้ไขเอง คุณเคยคลุกคลีกับคนเลียงหมู กับ คนขายหมูเหรือเปล่า รู้ไหมคนฆ่าและขายชินส่วนหมูกำไรขนาดไหน
ตอนนี้คนเลี้ยงอาจขาดทุน (แต่เวลาได้กำไร ได้สูงและไม่เคยป่าวประกาศ สังเกตุจะเป็นเสี่ยกันทุกคน) เขียงที่ขายเป็นกิโลอาจกำไรน้อย แต่คนที่ซื้อหมูเป็นๆ แล้วมาฆ่าขายให้เขียงกำไรบานเบอะ
- ส่วนน้ำมันแพง แก้ไงครับ ถ้าคุยเรื่องหมู เรื่องสินค้าก็ดีเซล คราวที่แล้วเขาตั้งกองทุนน้ำมันช่วยคนใช้ดีเซล ราคาสินค้า ค่าขนส่งจะได้ไม่เพิ่มมาก คนในเวปนี้ก็ด่า หาว่า เอาเปรียบพวกใช้เบนซิน เป็นนโยบายที่ผิด โดยที่จะไม่สนใจเลยว่า คนใช้เบนซินก็ได้ประโยชน์ใน เรื่องค่าครองชีพ จะลดภาษีน้ำมันเหรอครับ ทำไงครับ อย่าเอาแต่ด่าครับ แนะนำหน่อย ปัญหาเรื่องข้าวของแพงมัน ก็มาจากน้ำมันแพง มันเลยแก้ยาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
taecu
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: 07-03-2008, 00:19 » |
|
 เห็นว่าที่หมูแพง คือ อาหารสัตว์ราคาเพิ่ม 100% แล้วฟารม์หมูแถบชล เกิดโรคระบาด ทำให้ลูกหมูตายเยอะมากๆๆ เกือบ 2 -3 ล้านตัว ตอนนี้ราคาหมูยังไม่แพงสุดครับ ช่วงหมดชุดต่อไปแพงกว่านี้มากๆๆๆ ไปกำหนดราคาขาย คนเลี้ยงตายดิครับ ทุน 50 จะให้ขาย 45 บาทเหรอครับ รายย่อย ตายหมดพอดี แล้วถ้าทำไม่คิด ชิบหายดิ เหลือแต่รายใหญ่ผูกขาดตลาด หมูขาดแคลนราคาไม่พุ่งไป 200 เหรอครับ ถ้าราคาอาหารสัตว์แพงขึ้น 300% คิดดูละกัน แล้วมองออกยังว่าน่าจะแก้ปัญหาที่ไหน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เราต้องการความจริงจากท่าน ไม่ใช่ต้องการคำโกหกจากท่าน
|
|
|
Caocao
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: 07-03-2008, 00:25 » |
|
จริงๆหันมากินปลา เดี๋ยวราคาหมูมันก็ลง ตราบใดที่ความต้องการมีมากกว่าจำนวนผลผลิต ผู้ขายก็กำหนดราคาเองได้ง่ายๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
|
|
|
RiDKuN
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: 07-03-2008, 00:59 » |
|
ตอนแรกก็กะจะไม่ขึ้นราคามั้งครับ แต่พอเค้าเห็นว่ามีนโยบายเศษสตางค์ ก็เลยขึ้นซักบาทสองบาท สนองนโยบายรัฐบาล 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
|
|
|
Solidus
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: 07-03-2008, 01:42 » |
|
" ทีราคาอาหารสัตว์มันแพง ทำไมไม่ไปดูแลตรงนั้น น้ำมันแพง ทำไมไม่ไปดูแลตรงนั้น ปุ๋ยแพง ทำไมไม่ไปดูแลตรงนั้น ทำไมมานั่งแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ" -ถ้าตอนนี้ไปดู ควบคุมอาหารสัตว์ ก็จะอ้างกากถั่ว ข้าวโพดมันแพง เกษตรกรออกมาโวยอีก อยู่ไม่ได้ โดนร.ง.อาหารกดราคา หรือราคาพืชอาหารสัตว์ถูกอยู่ไม่ได้กันอีก ก็ต้องไปเรื่มคุมราคาปุ่ยก่อน กว่าจะปลูกข้าวโพดใส่ปุ๋ย กว่าจะโต ราคาพออยู่ได้ กว่าจะเอาไปทำอาหารสัตว์ราคาถูก กว่าจะเอาไปเลี้ยงหมู ต้นทุนไม่สูง กว่าจะโต แล้วชาติไหนเราจะกินหมู ราคาโลละ 98 บาท ตอนนี้มันต้อง บีบทางปลายทางก่อน แล้วไล่ช่วยลงไป ไม่ใช่ช่วยแต่ต้นทาง กว่าจะถึงปลายทาง ก็ยังโลละ120
อย่างน้อยตอนนี้ เขาก้ช่วยให้คุณได้กินหมู โลละ 98 แทนที่จะกินกิโลละ 120 อาจจะไม่ทุกพื้นที่แต่ก็ยังดี ส่วนเรื่องคนเลี้ยงหมูอยู่ไม่ได้ จริงไม่จริงยังไม่รู้เลย ถ้าอยู่ไม่ได้จริงๆ เขาต้องแก้ไขเอง คุณเคยคลุกคลีกับคนเลียงหมู กับ คนขายหมูเหรือเปล่า รู้ไหมคนฆ่าและขายชินส่วนหมูกำไรขนาดไหน
ตอนนี้คนเลี้ยงอาจขาดทุน (แต่เวลาได้กำไร ได้สูงและไม่เคยป่าวประกาศ สังเกตุจะเป็นเสี่ยกันทุกคน) เขียงที่ขายเป็นกิโลอาจกำไรน้อย แต่คนที่ซื้อหมูเป็นๆ แล้วมาฆ่าขายให้เขียงกำไรบานเบอะ
- ส่วนน้ำมันแพง แก้ไงครับ ถ้าคุยเรื่องหมู เรื่องสินค้าก็ดีเซล คราวที่แล้วเขาตั้งกองทุนน้ำมันช่วยคนใช้ดีเซล ราคาสินค้า ค่าขนส่งจะได้ไม่เพิ่มมาก คนในเวปนี้ก็ด่า หาว่า เอาเปรียบพวกใช้เบนซิน เป็นนโยบายที่ผิด โดยที่จะไม่สนใจเลยว่า คนใช้เบนซินก็ได้ประโยชน์ใน เรื่องค่าครองชีพ จะลดภาษีน้ำมันเหรอครับ ทำไงครับ อย่าเอาแต่ด่าครับ แนะนำหน่อย ปัญหาเรื่องข้าวของแพงมัน ก็มาจากน้ำมันแพง มันเลยแก้ยาก สันนอก สันใน หัวไหล่ สะโพก คอ ซึ่โครง ฯลฯ แต่ละส่วนราคาเท่ากันหรือไม่ แล้วที่กำหนดมานะมันส่วนไหน ราคาหมูหน้าฟาร์มนะมันประมาณ 60 บาท/กก. แต่ราคานี้มันทั้งตัวเป็น ๆ ยังไม่ชำแหละ แล้วจากฟาร์มถึงเขียงหมูนี่ผ่านกี่ทอดครับ ค่าชำแหละกินไปแล้วเท่าไหร่ ค่าขนส่งอีกเท่าไหร่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: 07-03-2008, 06:04 » |
|
ธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อบีบให้ราคาต่ำ คุณภาพก็ต้องตามราคา
ระวัง อย่านึกว่าหมูเป็นไข่เยี่ยวม้า สีแค่เหมือนน่ะ หึหึ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Şiłąncē Mőbiuş
|
 |
« ตอบ #16 เมื่อ: 07-03-2008, 10:07 » |
|
อุตส่าห์เอาสำนักพิมพ์ของคุณพ่อสินธิมาโคดนาเชียวฤานี่!?!  ใครเชิญมรึงมา ไอ้สัตว์หมา!!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 “People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.” . “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
|
|
|
ริวเซย์
|
 |
« ตอบ #17 เมื่อ: 07-03-2008, 10:17 » |
|
สมกับเป็นรัฐบาลเหรี้ยจริงๆ พอกลับมาก็เริ่มทำเรื่องเหรี้ยๆเลย ปากเก่งแต่ทำดีไม่ขึ้นสักอย่าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^  
|
|
|
BeastGuy
|
 |
« ตอบ #18 เมื่อ: 07-03-2008, 10:35 » |
|
98 บาท เอามันหมูไปล่ะกัน ไม่ได้กำหนดนี่หว่า ว่า 98 บาทต้องเป็นส่วนสันใน เหอ ๆ 98 บาท เอาหมูสามชั้นไปก่อน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Şiłąncē Mőbiuş
|
 |
« ตอบ #19 เมื่อ: 07-03-2008, 12:53 » |
|
SM ใช้ภาษาที่บ้านมาพ่นในเว๊บนี้แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของคนส่วนใหญ่ในเว๊บนี้ได้เป็นอย่างดี สมแล้วจริงๆที่อยู่ฝ่ายพ่ายแพ้พลังประชาชนอย่างซ้ำซากและจำเจ ก็เพราะพวกมันคิดไม่เป็นไง หุ หุ  เหอๆๆ ไม่เห็นจะเกี่ยวกันตรงไหนเลย คิดเป็นหรือไม่เป็นเนี่ย มันไม่ได้อยู่ที่คำด่าว่ะ เหอๆๆๆ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 “People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.” . “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
|
|
|
(ก้อนหิน) ละเมอ
|
 |
« ตอบ #20 เมื่อ: 07-03-2008, 12:57 » |
|
เขียงหมูไม่ตอบรับการลดราคาเนื้อหมู อ้างเหตุต้นทุนสูง ที่ขายอยู่แทบไม่มีกำไร อันนี้ข่าวช่อง 3 ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #21 เมื่อ: 07-03-2008, 13:12 » |
|
ไหนๆ..มีอะไร...อ๋อ..หมูแพงเหรอ
ก็ไปกินซี่โครงไก่ต้มฟักแทนซีครับ เดี๋ยวหมูก็ลดราคาเอง
แหมไอ้เรื่องกินไปบ่นไปมันต้องแบบไอ้กระพ้มมาแก้ไข
มะนาวแพงก็ไปหามะม่วงมาใส่แทนก็ได้..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Şiłąncē Mőbiuş
|
 |
« ตอบ #22 เมื่อ: 07-03-2008, 13:35 » |
|
วิธีแก้ปัญหาหมูแพง...แบบหมูๆ [7 มี.ค. 51 - 17:09]เมือง ไทยวันนี้ก้าวสู่ “ยุคข้าวยากหมากแพง” เต็มตัวแล้ว เมื่อราคาอาหารพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื้อสัตว์ ราคาสูงขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ ผักสด ราคาสูงขึ้น 22.3 เปอร์เซ็นต์ ผลไม้สด ราคาสูงขึ้น 13.3 เปอร์เซ็นต์เครื่องประกอบอาหาร ราคาสูงขึ้น 10.7 เปอร์เซ็นต์ และ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง สูงขึ้น 27.1 เปอร์เซ็นต์ ยังมีสินค้าทยอยขอขึ้นราคาอีกเยอะ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์กำลังพิจารณาอยู่ เนื้อหมูที่ร้องกันว่าแพง ราคาสูงขึ้น 23.9 เปอร์เซ็นต์ และ คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รัฐมนตรีพาณิชย์ สั่งให้ลดราคาจากกิโลกรัมละ 120 บาท เหลือ 98 บาท ในขณะที่เขียงหมูเองก็ขายไม่ค่อยออก เพราะหมูแพงคนกินน้อยลง ซึ่งก็เป็นไปตามกลไกตลาด ก็ไม่รู้รัฐมนตรีพาณิชย์สั่งลดราคาหน้าเขียงทำไม ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับหมู ตั้งแต่คนเลี้ยงหมูไปจนถึงคนขายหมู ก็พลอยเดือดร้อนไปด้วยอีกกลุ่มใหญ่โดยไม่จำเป็น เพราะหมูแพงยอดขายก็ลดลงไปเองอยู่แล้ว เป็นการปรับสมดุลตาม กลไกตลาด คนส่วนใหญ่หันไปกินไก่แทน เพราะราคาไก่ถูกกว่าสูงขึ้นแค่ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น การแก้ปัญหาแบบนี้ จึงแก้ไม่ถูกจุด ไปแก้ที่ปลายเหตุ และไปเพิ่มความเดือดร้อนให้กับคนมากขึ้น คือ กลุ่มผู้เลี้ยง ผู้ซื้อ ผู้ฆ่า และผู้ขาย มีเพื่อนนักธุรกิจจากนครเซี่ยงไฮ้เล่าให้ผมฟัง ราคาหมูที่เมืองจีนก็แพงขึ้นมากเหมือนที่เมืองไทย เพราะราคาอาหารสัตว์แพงขึ้น แต่ ผู้ว่าการนครเซี่ยงไฮ้ เก่งมาก เขาใช้วิธีแก้ปัญหาแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น คือ รู้เหตุแห่งปัญหา และแก้แบบนุ่มนวลให้เกิดความสมดุลและพึงพอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย วิธีการแก้ปัญหาหมูแพงของ ผู้ว่าการนครเซี่ยงไฮ้ ก็คือ เขาสั่งจ่ายเงินอุดหนุนให้กับข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ เป็นค่าซื้อหมูกินเดือนละ 17 หยวนต่อราย โดยให้เหตุผลว่า เพื่อชดเชยราคาหมูที่แพงขึ้น พร้อมกับให้ข้อแนะนำว่า เงินชดเชยที่ให้ไป 17 หยวนนี้ ไม่จำเป็นต้องเอาไปซื้อเนื้อหมูกินหรอก เพราะหมูมีราคาแพง เอาไปซื้อเนื้ออย่างอื่นที่มีราคาถูกกว่ากินดีกว่า เช่น เนื้อไก่ จะได้เหลือเงินเพิ่มขึ้น ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจนับแสนคนก็ยินดีปรีดา เมื่อคนกลุ่มใหญ่ไม่กินเนื้อหมูชั่วคราว ราคาเนื้อหมูก็ปรับลดลงโดยอัตโนมัติ โดยรัฐบาลไม่ต้องไปหักคอลดราคา คนเลี้ยงหมูก็ไม่เดือดร้อนมาก สามารถปรับตัวได้ตามกลไกตลาด คนเลี้ยงไก่ที่ราคายังขึ้นไม่มากนัก ก็ได้ลูกค้าเพิ่ม ขายได้เพิ่มขึ้น ผู้ว่าการนครเซี่ยงไฮ้ ให้เหตุผลที่ใช้มาตรการกลไกตลาดอันเฉียบแหลมนี้ว่า อันคนเลี้ยงหมูขายนั้น เขามีอาชีพเดียว คือ เลี้ยงหมูขาย ถ้าเขาขายหมูไม่ได้ หรือต้องขายหมูในราคาขาดทุน เพราะรัฐบาลไปบีบ บังคับให้เขาขายในราคาขาดทุน เพื่อให้คนอีกกลุ่มหนึ่งได้กินเนื้อหมูราคาถูก ทั้งๆที่สามารถหาเนื้ออย่างอื่นมากินทดแทนได้ คนเลี้ยงหมูก็ต้องเจ๊ง และเลิกเลี้ยงหมูไปในที่สุด แล้วใครเดือดร้อน นี่คือลอจิกในการแก้ปัญหาที่ยอดเยี่ยม ไม่มีใครต้องเจ็บตัวจากการแก้ปัญหา มีแต่ได้กับได้ทุกฝ่าย เพราะสินค้าที่แพงมีหลากหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีวิธีแก้ไขที่แตกต่างกันไปตามพื้นฐานความจำเป็น คนแก้ไขปัญหาต่างหาก จะต้องมีความรู้ความเข้าใจในกลไกของปัญหา กลไกของตลาด และกลไกการบริหารจัดการ ไม่ใช่แก้ปัญหาแบบกำปั้นทุบดินโดยไม่ต้องคิด สั่งควบคุมราคาอย่างเดียว ในที่สุด ความเดือดร้อนทั้งหมดก็จะหวนกลับไปที่เกษตรกรผู้ยากจน ซึ่งก็เดือดร้อนจากภาวะค่าครองชีพแพงเหมือนกัน แต่กลับต้องเป็นผู้เสียสละ ซึ่งไม่ยุติธรรม ผมเอาเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อฝากไปยังรัฐบาล โดยเฉพาะ รองนายกฯ และรัฐมนตรีพาณิชย์ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อยากให้เข้าใจวิธีแก้ปัญหาครบวงจร ไม่ใช่ กระทรวงการคลัง อัดเงินลงไปช่วยเกษตรกรล้างหนี้ แต่อีกด้าน กระทรวงพาณิชย์ สั่งกดราคาสินค้าทั้งที่ต้นทุนเพิ่มขึ้น เพิ่มหนี้ให้กับเกษตรกร อย่างนี้ไม่รู้จะแก้กันอีกกี่ชาติ เกษตรกรไทยจะได้เงยหน้าอ้าปากเสียที. ที่มา http://www.thairath.co.th/news.php?section=society03&content=81447ไม่มีอะไรครับ เอามาแปะเฉยๆ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 “People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.” . “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
|
|
|
truly
|
 |
« ตอบ #23 เมื่อ: 07-03-2008, 17:09 » |
|
SM ใช้ภาษาที่บ้านมาพ่นในเว๊บนี้แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของคนส่วนใหญ่ในเว๊บนี้ได้เป็นอย่างดี สมแล้วจริงๆที่อยู่ฝ่ายพ่ายแพ้พลังประชาชนอย่างซ้ำซากและจำเจ ก็เพราะพวกมันคิดไม่เป็นไง หุ หุ  อ้าวว...ทำไมต้องแว้งกัดคนอื่นด้วยวะ สันดานแบบนี้ สมควรแล้วที่ถูกด่าเหมือนไล่หมา ชนะเลือกตั้งแบบซื้อเสียงจากควาย แล้วยังมีหน้ามาโม้อีก หน้าด้านว่ะ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อธิฏฐาน
|
 |
« ตอบ #24 เมื่อ: 07-03-2008, 19:16 » |
|
ฮ่าๆๆๆ....มุกเดิมๆจังที่เวลาพ่ายแพ้แล้วก็ไปกล่าวหาว่าฝ่ายชนะซื้อเสียง กกต.ก็เป็นกลาง กระบวนการยุติธรรมก็เป็นกลาง เอ๊ะ...หรือว่าเป็นเพราะ Gasohol จึงทำให้พปช.ชนะขาดลอย 233 Vs. 162 อ่ะ
แพ้แล้วกรุณาเจียมตัวหน่อยดิ๊...ฝ่ายชนะเค้าจะกร่างก็ดูน่ารักดูดีไปหมดว่าม่ะ!?!  มุกเดิม ๆ คะแนนใน กทม.สู้ไม่ได้ก็หาว่าเขาโกง เก่งจริงก็ลงไปทำงานใน 3 จังหวัดใต้สิ เห่าออกทีวีอยู่ทำไม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Solidus
|
 |
« ตอบ #25 เมื่อ: 08-03-2008, 03:30 » |
|
มุกเดิม ๆ คะแนนใน กทม.สู้ไม่ได้ก็หาว่าเขาโกง เก่งจริงก็ลงไปทำงานใน 3 จังหวัดใต้สิ เห่าออกทีวีอยู่ทำไม
ใช้วิธีร้องขอให้รัฐบาลเงาช่วยแทนแล้วครับเรืื่องนี้ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mebeam
|
 |
« ตอบ #26 เมื่อ: 08-03-2008, 13:53 » |
|
เมื่อก่อน
หมูเป็น 40 บาท/กก เนื้อแดง 80 บาท/กก
ตอนนี้ หมูเป็น 60 บาท/กก เนื้อแดง 120 บาท/กก
ใครเห็นตัวเลขแปลกๆ อย่างที่ คุณมิ่งขวัญเห็นมั่ง คนเลี้ยงหมู ได้เพิ่ม 20 บาทต่อกก คนขายได้เพิ่ม 40 บาท/กก
( บางคนบอกไม่เห็นแปลกเลย หมูเป็นขึ้น 50% หมูแดงขึ้น 50% ก็ถูกแล้ว ) แต่อย่าลืม ถ้ามันเป็นอย่างนั้น กำไร ที่เขียงเคยได้ก็จะเพิ่มเป็น 50 % เช่นกัน แล้วเค้าควรได้หรือเปล่า ไม่มีใครประโคมเรื่องที่คุณมิ่งขวัญพูดเลย มัวแต่ไปพูดเรื่องที่คนเลี้ยงหมูจะตาย
ไม่มีใครตามวิสัยทรรศน์คุณมิ่งขวัญ ทันเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Şiłąncē Mőbiuş
|
 |
« ตอบ #27 เมื่อ: 08-03-2008, 14:01 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 “People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.” . “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
|
|
|
mebeam
|
 |
« ตอบ #28 เมื่อ: 08-03-2008, 15:43 » |
|
เมื่อก่อน หมูเป็น 40 บาท เนื้อแดง 80 บาท /กก เขียงอยู่ได้ เพราะรวมค่าขนส่ง+ค่าจ้างคนแล่+ค่าภาษี+ค่าโรงเชือด ไปในราคาเนื้อแดง 80 บาทแล้ว ( จะรู้เรื่องมั๊ยเนี่ย ว่าต้นทุนต่างๆมันอยู่ในราคา เนื้อแดง 80 บาทแล้ว ขายราคานี้ก็กำไรแล้ว)
ตอนนี้ เขียงขายเนื้อแดง ราคาเพิ่มอีก50% เพราะฉนั้น ก้จะได้ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่ม 50% ค่าชำแหละเพิ่ม 50 % ภาษี เพิ่ม50% และในส่วนกำไรเพิ่ม 50 % ด้วย แล้วอีกอย่าง ต้นทุน ทีเพิ่มจริงๆ มีแค่ค่าขนส่ง เพราะฉนันก็เหลือส่วนต่างเก็บเข้ากระเป๋าอีก
กลัวจะไม่เข้าใจเอาใหม่
เช่น เมื่อก่อน ซื้อหมูเป็น100 กก. 1ตัว โลละ 40 ใช้ทุน 4000 บาท ค่าใช้จ่าย 500 กำไร 500 ต้องขายได้เงินทั้งตัว 5000 บาท ( ราคานี้เนื้อแดง80 บาท ) ปัจจุบัน เนื้อแดงขึ้น 50% ส่วนอื่นขึ้น50% หมูทั้งตัวจะขายได้ 7500 ในขณะที่ซื้อมา 6000 ( 100*60) คราวนี้เหลือ ค่าใช้จ่าย +กำไร 1500 (เพิ่มขี้น 50% ) ตอนนี้ต้นทุนประจำที่เพิ่มขึ้น เห็นมีแต่ค่าน้ำมัน ขึ้นถึงตัวละร้อยหรือเปล่าครับ ถ้าให้100 กำไรของเขียง จะเป็น ตัวละ 900 ต่อตัว สูงไหม วันนี่งขาย 10 ตัว กำไรวันละ9000 ผมรู้จักอยู่เจ้านึง เชือดหมูวัน ละ150 ถึง 200 ตัว คุณลองคิดดู
ตอนนี้คุณ มิ่งขวัญถึงบังคับเขียงให้ขายโลละ98 พวกก็เอาคนเลี้ยงเป็น ตัวประกันซะนี่ ส่วนพวกที่บอกบิดเบือนราคาหมู ถ้ามันจริง
ผมจะพาพวกขายข้าวแกงจานละ 20 25 ไปประท้วงร้านธงฟ้า ที่บิดเบือนราคาข้าวแกงบ้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
taecu
|
 |
« ตอบ #29 เมื่อ: 08-03-2008, 16:28 » |
|
คิดอะไรข้ามไปหรือครับ ราคาหมู 58 ผ่านโรงเชือด เค้า ส่งหมูไปให้พ่อค้า โลละ 99 บาท จะให้ขาย 98 งง ครับ ตีง่ายๆๆว่า หมูโลละ 60 จากฟาร์ม ทุกส่วน ไส้หมูโลเท่าไร ม้ามโลเท่าไร ตับ สำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ขาหมู หัวหมู ซี่โครงเท่าไร ส่งต่อเนื้อแดง โลละ 100 ละกัน ตีเลขสวยๆ ส่วนต่าง 40 บาท ค่าน้ำมันเท่าไรแล้ว ค่าเชื่อดเท่าไร ค่าภาษี ส่งให้พ่อค้าขายหมู กำไรโลละ 20 บาท กว่าจะขายได้อีก ปล่อยให้รายย่อยตายหมดก็ได้ รายใหญ่ผูกขาดตลาดกันมันเลย 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เราต้องการความจริงจากท่าน ไม่ใช่ต้องการคำโกหกจากท่าน
|
|
|
taecu
|
 |
« ตอบ #30 เมื่อ: 08-03-2008, 16:34 » |
|
พูดตรงๆๆ ความจริงราคาหมูควรจะพุ่งไป 140 แล้วนะครับ ที่ผมรู้เพราะลุงผมเป็น สัตว์แพทย์ใหญ่คุมฟาร์มเลี้ยงหมูที่ชลบุรี กับ สุราด  แต่จริงๆๆ หมูที่เจ๊มิ่งขายอ่ะ เป็นแบบกำจัดจำนวนครับ คือขายไม่ทุกที่ ขายตามบางแห่ง และมีปริมาณน้อยครับ ตามห้างดัง ห้าที่เองมั้ง ถ้าที่ตลาดไม่กี่ที จำนวน แต่เสือกไปประกาศว่าลดราคาหมู 98 บาท เอาหน้าครับ หมกเม็ดอย่างแรง พ่อค้าต่างจังหวัดมันขายไม่ได้ไง เลยโดนด่าซะ วุ่นวายดี ไหมละ 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2008, 16:37 โดย taecu »
|
บันทึกการเข้า
|
เราต้องการความจริงจากท่าน ไม่ใช่ต้องการคำโกหกจากท่าน
|
|
|
mebeam
|
 |
« ตอบ #31 เมื่อ: 08-03-2008, 19:03 » |
|
เมื่อกี้ดูข่าวเย็นช่อง3 ออกสำรวจ ราคาหมูในตลาดพบว่า โครงการหมูราคา 98 บาท กำลังเป็นไปได้สวย หลายตลาด เริ่มลดลงมา แม้จะไม่ได้อยู่ในโครงการ ราคาในต่างจังหวัดก้ลดลงหลายที่ พ่อค้าหลายคนให้ความร่วมมือ ส่วนที่มีจำนวนจำกัด นั้นไม่จริง เพราะเตรียมไว้เต็มที่
เพราะถ้าซื้อหมูเป็น 60 บาท แล้วมาขายเนื้อแดงในราคา 98 นั้นไม่มีใครเจ๊งนะ นอกจาก จะมีพ่อค้าในระบบคนไหน ค้ากำไรเกินเหตุ
ปิดท้ายข่าวเรื่องเทพไทโชว์โง่ด่านายก ซื่อบื้อจริงๆ คนนี้ ปชปทำไมไม่เก็บไว้ให้ดีๆ ทำไมการจุดกระแสหมูแพงให้หันมากินไก่กันบ้างจะไม่ช่วยเรื่องราคาหมู
แล้วที่ "ความจริง ราคาหมูควรจะพุ่งไป 140 แล้วนะครับ" ก็คงจะจริง ถ้าเรามีรัฐบาลเป็นขิงแก่ หรือปชป แต่พลังประชาชน ชอบอะไรที่สมเหตูสมผลครับ
" แต่เสือกไปประกาศว่าลดราคาหมู 98 บาท เอาหน้าครับ หมกเม็ดอย่างแรง" เค้าประกาศว่า จะมีหมูราคาธงฟ้า กิโล 98 ช่วยชาวบ้านครับ ใครอยากขาย 120 140 ก็ขายไปครับ ไม่ได้บังคับ เหมือนสินค้าธงฟ้า ข้าวแกงธงฟ้า
เริ่มเบื่อกระทู้นี้แล้ว เขาเหนื่อยหาหมูโลละ 98 แทนที่จะ 120 หรือ140 ก็ไปด่าเขา ถ้าเขาปล่อยสินค้าตามมี ตามเกิด ก็ด่าเขาอีก สรุปของแพงก็ด่า ของถูกก็ด่า อยากรู้จริง คนที่ด่าเขานี่ มีข้อมูลอยู่ในมือ เหมือนเขาหรือเปล่าว่า ต้นทุนหมูเท่าไหร่ ควรขายราคาเท่าไหร่ เห็นแต่เชื่อคนเลี้ยงที่ออกมาโวย แล้วรีบสรุปกันทันที 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Şiłąncē Mőbiuş
|
 |
« ตอบ #32 เมื่อ: 12-05-2008, 17:07 » |
|
ขอขุดกระทู้นี้หน่อย  เพราะล่าสุดมันเมาน้ำลายเรื่องแบงค์อีกแล้ว แล้วเพื่อนๆคิดว่า ต่อไป มันจะเมาน้ำลายเรื่องอะไรอีกว๊าาาาา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 “People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.” . “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
|
|
|
|