ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-03-2024, 23:27
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการเมือง คนอีสานทุกระดับควรเลิกคิดว่าตัวเองมีบุญคุณกับคนกรุง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 2 3 4 5 6 [7] 8 9 10 11 12
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการเมือง คนอีสานทุกระดับควรเลิกคิดว่าตัวเองมีบุญคุณกับคนกรุง  (อ่าน 59467 ครั้ง)
Gamobank
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229



« ตอบ #300 เมื่อ: 08-03-2008, 00:15 »

เข้ามาอ่านและนับถือความดื้อด้านของใครบางคน


เอ้ามามะมามา มาช่วยขุดหลุมฝังศพซากเดนกระหังที่ลืมพกสากตำข้าวมาเป็นหาง


กระจองงองเจ้าข้าเอ๋ย ในน้ำมีปลาในนามีง่าว


 
บันทึกการเข้า
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #301 เมื่อ: 08-03-2008, 00:15 »

ขอพยาบาลสาว ๆ และนมใหญ่ ๆ
...ไม่สวยไม่เป็นไร

..แล้วไอ้ตัวที่ชอบเข้ามาโพสขาย Cialis นั่นด้วย
ส่งตัวอย่างมาให้ใช้ก่อนซะ 1 แผงดิ๊





บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #302 เมื่อ: 08-03-2008, 00:19 »



ตามสะดวกครับ ถ้ายังแรงดี ก็ว่ากันไป

ชกได้ไม่จำกัดเวลา..

บันทึกการเข้า

Gamobank
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229



« ตอบ #303 เมื่อ: 08-03-2008, 00:33 »

ผมมันพวกโรคจิตชอบเห็นมวยน๊อคคาเวทีแบบ ที.เค.โอ จะได้หายคาใจ


และหลายๆสิ่งที่ได้เรียนรู้จาการตอบโต้จากสมาชิกที่นี่


ว่าระบบความคิดพื้นฐานของแต่ละคนมีการหล่อหลอมมาจากสิ่งแวดล้อมแบบไหน




"ของจริงมันไม่สั่นไม่ไหว แต่สงสัยแล้วทำไมชอบใส่ฟันปลอม


สงสัยข้างในคงใส่ของปลอม ที่พ่อเนื้อหอมปลอมไว้หลอกตัวเอง"


เพลงแต่เองทั้งดุ้นเอามาเอ็นเตอร์เทนพวกท่านๆทั้งหลายน่ะ



ใครเป็นกรรมการห้าม กาโม่ มีเคือง



 
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #304 เมื่อ: 08-03-2008, 01:05 »


จริงๆกระทู้แนวภาคนิยม ที่มุ่งประเด็นคนอีสานมีเยอะครับ

ผมว่าตั้งบ่อยๆมากไปก็ไม่ค่อยเหมาะ อ่านแล้วมันออกแนวชวนทะเลาะ แบ่งพรรคแบ่งพวก


กระทู้ภาคนิยม ภาควิเคราะห์ ภาควิพากษ์ ในเสรีไทยเว็บบอร์ด
http://forum.serithai.net/index.php?topic=23099.0


ว่ากันกระทู้เดียวจนกว่าจะหมดคู่ชกดีกว่า

บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #305 เมื่อ: 08-03-2008, 06:24 »

แถม

อันคนเลี้ยงหมูขายนั้น เขามีอาชีพเดียว คือ เลี้ยงหมูขาย ถ้าเขาขายหมูไม่ได้ หรือต้องขายหมูในราคาขาดทุน เพราะรัฐบาลไปบีบ

บังคับให้เขาขายในราคาขาดทุน เพื่อให้คนอีกกลุ่มหนึ่งได้กินเนื้อหมูราคาถูก ทั้งๆที่สามารถหาเนื้ออย่างอื่นมากินทดแทนได้ คนเลี้ยงหมูก็ต้องเจ๊ง และเลิกเลี้ยงหมูไปในที่สุด แล้วใครเดือดร้อน

นี่คือลอจิกในการแก้ปัญหาที่ยอดเยี่ยม ไม่มีใครต้องเจ็บตัวจากการแก้ปัญหา มีแต่ได้กับได้ทุกฝ่าย

เพราะสินค้าที่แพงมีหลากหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีวิธีแก้ไขที่แตกต่างกันไปตามพื้นฐานความจำเป็น คนแก้ไขปัญหาต่างหาก จะต้องมีความรู้ความเข้าใจในกลไกของปัญหา กลไกของตลาด และกลไกการบริหารจัดการ

ไม่ใช่แก้ปัญหาแบบกำปั้นทุบดินโดยไม่ต้องคิด สั่งควบคุมราคาอย่างเดียว ในที่สุด ความเดือดร้อนทั้งหมดก็จะหวนกลับไปที่เกษตรกรผู้ยากจน ซึ่งก็เดือดร้อนจากภาวะค่าครองชีพแพงเหมือนกัน แต่กลับต้องเป็นผู้เสียสละ ซึ่งไม่ยุติธรรม

ผมเอาเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อฝากไปยังรัฐบาล โดยเฉพาะ รองนายกฯ และรัฐมนตรีพาณิชย์ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อยากให้เข้าใจวิธีแก้ปัญหาครบวงจร ไม่ใช่ กระทรวงการคลัง อัดเงินลงไปช่วยเกษตรกรล้างหนี้ แต่อีกด้าน กระทรวงพาณิชย์ สั่งกดราคาสินค้าทั้งที่ต้นทุนเพิ่มขึ้น เพิ่มหนี้ให้กับเกษตรกร อย่างนี้ไม่รู้จะแก้กันอีกกี่ชาติ เกษตรกรไทยจะได้เงยหน้าอ้าปากเสียที.


ที่มา http://www.thairath.co.th/news.php?section=society03&content=81447
บันทึกการเข้า

ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #306 เมื่อ: 08-03-2008, 07:36 »

คนที่มาด่าทอคนอื่น
ถ้ามันดีกว่าคนอื่น ก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

เหมือนพวกเสพย์พีทีวีบอกว่าเป็นกลาง แล้วก็มาด่าทอพวกดูเอเอสทีวีว่าไม่ดี

ทรรศนะคติที่อ่อนด้อย นำไปสูการดำเนินชีวิตที่บัดซบจริงๆ
บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #307 เมื่อ: 08-03-2008, 07:56 »

มันเป็นความไม่เป็นธรรมเชิงโครงสร้าง

ปัญหายิ่งใหญ่ หากไม่ปรับทัศนคติ เรื่องการอยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออาทร

ไม่ว่าผู้แทนจะมาจากภาคไหน หากมีวิธีคิด วิธีแก้ปัญหาแบบให้ผู้มีโอกาสดีกว่า เป็นผู้กำหนดราคา

ความเป็นธรรมมันก็ไม่มีหรอก ....

นั่นคือคำตอบที่ว่า ชาวนา เกษตรกรทำไมจน ทำไมมีหนี้ ทำไมแก้ไม่ได้ซักที

คนใช้แรงงานขอขึ้นค่าแรงวันละบาทสองบาท ประชุมกันข้ามปี

คนกินเงินเดือนรัฐ เรียนสูงหน่อย ก็ได้ขึ้นเงินเดือนตามอัตราเงินเฟ้อเป็นอย่างน้อย

บางพวกได้ทุนไปเรียนนอก กลับมาใช้ทุนไม่กี่ปี ก็ออกไปแสวงหารายได้ที่ดีกว่าจากภาคเอกชน

บางพวกไม่เคยคิดว่ารัฐได้ลงทุนในเรื่องการศึกษาให้แล้วเท่าไหร่

แต้มต่อของคนกรุง คนมีการศึกษา คนมีเงิน มันย่อมมากกว่าพวกคนจนอยู่ดี

ไม่ว่าพวกผู้แทนที่มาจากคนจนนั่นก็เถอะ ถึงเวลาที่ต้องแก้ปัญหา ก็ใช้วิธีคิดแบบพวกเรียนสูง

อ้างเสรีนิยม การค้าเสรี

ทีแรกมีนโยบายอุดหนุนดีเซล เพราะเชื่อว่า เกษตรกรใช้มาก

ตอนหลังพวกมีเงินก็ดันไปใช้ดีเซลด้วย

สปก.ให้คนจน ก็ดันมีพวกอยากจนลงไปชิงรับจำนอง ใช้ชื่อเกษตรกรครอบครองทำรีสอร์ต

เรื่องพวกนี้พูดกันมานาน แต่พวกเรียนสูงมันไม่สำนึกว่า เกษตรกร ชาวนา ผู้ใช้แรงงานต้องเสียสละความยุติธรรมให้มันมากน้อยแค่ไหน

ยังดีที่ชาวบ้านเค้ารู้ เลยไม่ค่อยกินหมู สู้กินกะปอม กุ๊ดจี่ เสริมสมองดีกว่า ผักป่าหวานๆ ก็พอลวกพอต้มกินกันไปอย่างพอเพียง

ระวังนะครับ...วันหลังคนกรุง อาจโดยพิษยาฆ่าแมลงจากพืชผัก ของชาวนาเข้าซักวัน

เหมือนพวกหมอนักร้องคาราโอเกะ ที่โดนปืนกรอกปากตายไป 8 ศพ

เพราะไม่เคารพ อาชีพคนตัดยาง

บันทึกการเข้า

วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #308 เมื่อ: 08-03-2008, 08:02 »

จากกระทู้นี้ และจากที่ได้เห็นยุทธการป่าล้อมเมืองภาคพิสดารแบบไทยแลนด์มา

ทำให้ผมนึกขึ้นมาจริงๆ จังๆ ว่า...

สภาพสังคมแบบที่มีการแบ่งขั้วเป็นเมือง-ชนบทชัดเจนขนาดนี้ มันไม่น่าจะ work แล้ว 
บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #309 เมื่อ: 08-03-2008, 08:26 »

คุณ QuaOs

มันเป็นความอัปรียะของนักการเมืองเจ้าเล่ห์

บวกกับความเห็นแก่ตัวของคนเรียนสูง

แทนที่จะหาเพื่อนหาพวก ดึงคนด้อยโอกาสมาเป็นพวก

แต่กลับไปสร้างเงื่อนไขให้เป็นศัตรูกัน

ใช้การดูถูก แดกดันคนทั้งภาค ดูถูกคนทั้งชนชั้น

คนอีสานลงไปใช้แรงงานในสวนยางทางใต้ ขยันขันแข็งมากน้อยก็ดีกว่าทำนาที่บ้าน ได้ค่าแรงดี มีส่วนแบ่ง

ทำไปนานๆ เจ้านายแบ่งที่ให้ทำ 10 ไร่ 15 ไร่ มีเงินก็ไปสร้างสวนยางใหม่

บางทีกลับมาบ้าน ขายไร่ขายนาไปสร้างสวนยางทางใต้ ข้อมูลพวกนี้ไม่คค่อยได้รับการเผยแพร่

คนอีสานตั้งเนื้อตั้งตัวมีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมืองใต้ อยากเห็นลองแวะไปดูที่ท่าแซะ จังหวัดชุมพรมั๊ง

แม้ชื่อหมู่บ้านยังเป็นชื่อจังหวัดทางภาคอีสาน

ถ้าทรัพยากรเท่ากัน คนภาคใต้อึดสู้คนอีสานไม่ได้หรอกครับ

ลูกเรือตังเก ก็คนอีสานทั้งนั้น

การที่สถานที่เกิด มีทรัพยากรดีกว่าคนอื่น มันก็เป็นแต้มต่อทางการทำมาหากินอยู่แล้ว

ทัศนคติของคนใต้ในพื้นที่ มองคนอีสานในด้านดีเป็นส่วนใหญ่

ความขยันขันแข็งของหนุ่มอีสาน ทำเอานายหัวบอกลูกสาว อย่าไปแต่งเอากับคนใต้ที่สำมะเลเทเมา เช้ากินกาแฟ สายเล่นนก

ตกเย็นกินเหล้า เมาแล้วเตะเมีย

อยากได้ผัวดี ขยันเฮ็ดงาน ผัวอีสานซักคนมั๊ยครับ...อิ อิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2008, 08:32 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #310 เมื่อ: 08-03-2008, 08:44 »

แล้วคนอีสานที่เข้ามาก่อปัญหามลพิษ สิ่งแวดล้อม ก่อคดีอาชญากรรม ในกรุงนี่ คนกรุ่งควรขับไล่ออกไปไหม ทุกวันนี้กรุงเทพโคตรเน่าเลย รถแม่งก็ติด ท้องถนนสกปรก ควันพิษ น้ำเน่า แม่งกินเหล้าส่งเสียงดัง ทำตัวเป็นกุ้ยชอบแซวหญิง ไปไหนต้องระวังว่าแม่งจะมาปล้นกูไหม จะฉุดคนรู้จักกูไปข่มขืนไหม คนกรุ่งต้องทนเหรอครับ ทุกวันนี้คนกรุงจริงๆแม่งมีไม่ถึงครึ่ง ระแวกบ้านผมแม่งอีสานเกิน 70% กินเหล้าส่งเสียงดังทุกวัน นี่แม่งเคารพในอาชีพผมเหรอ แล้วอีกอย่างส่วนตัวผมว่าคนแม่งจะดีจะเลวจะเห็นแก่ตัว มันไม่ได้ดูที่ภูมิภาคหรอก เหมารวมกันหมดเลยหรือไง แล้วที่บอกคนกรุงดูถูกคนอีสานเนี่ย มันคนกรุงคนไหน คนกรุงทุกคนเลยหรือไง หรือผมซื้อของจากคนอีสานเนี่ย ผมไม่ต้องจ่ายเงินเหรอครับ แล้วที่คนอีสานเอาแผ่นผี แผ่นปั้มมาขายนี้ ไม่เป็นหนีบุญคุณ อาเอส แกรมมี่บ้างเหรอ
หรือผมต้องไปไหว้พวกพม่าด้วยไหม ตอนนี้เห็นมันเต็มประเทศเลย แล้วราคาสินค้าเกษตร ผมกำหนดเองได้เหรอ ที่คนเค้าบ่นกัน ไม่ใช่ว่ามันแพงจนคนเริ่มไม่มีปัญญาซื้อกันเหรอ สุดท้ายถ้าไม่มีใครซื้อแล้วราคามันตก จะโทษคนกรุงที่ไม่ซื้อหรือเปล่า ประเด็นมันอยู่ที่เขาเสี้ยมมา แล้วดันไปให้เขาเสี้ยม บ้านผม พ่อจีน แม่คนเหนือ พี่น้องผมลูกครึ่งจีน แฟนพี่คนอีสาน แฟนผมคนใต้ น้องเขยคนประจวบ แม่งไม่เห็นมีใครดูถูกใครเลย ท่าทางมุขไอ้หมัก ไอ้เหลี่ยมมันจะได้ผล เสี้ยมคนได้ตั้งเยอะ
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #311 เมื่อ: 08-03-2008, 08:47 »

"ชุมชนคนอีสาน" ให้ไปดูในสามจังหวัดชายแดนใต้

พวกที่เรียกว่านิคมสร้างตนเอง อะไรแบบนั้นแหละครับ

เป็นนโยบายสมัยจอมพลส. ณ ผ้าขะม้าแดง

ยุคต่อสู้กับคอมมูนิสต์ก็มี หาอาสาสมัครลงไปในพื้นที่ พาลูกพาเมียไปสร้างเนื้อสร้างตัว

ทางการออก สทก.ให้ ไม่ก็ เอกสารของกรมแรงงาน นค.2 ตอนนี้ขอออกโฉนดได้แล้วมั๊ง

พวกในนิคมสร้างตนเองต่างๆ ก็คนอีสานนั่นแหละ ลงไปเป็นกันชน ลงไปสลายความเป็นรัฐอิสลาม

เดี๋ยวนี้เค้าสร้างเนื้อสร้างตัวได้ดี ไม่แพ้เกษตรกรของภาคใต้ มีทั้งสวนยาง สวนผลไม้

คนใต้ทำอะไรได้ เค้าก็ทำได้...ไม่แพ้กันหรอกครับ

แต่หนุ่มอีสานไปอยู่ใหม่ๆ ให้ระวังพวกหนู หรือปลา นก จะหมดนะครับ อิ อิ

หนุ่มอีสานกลุ่มนี้ไปที่ไหน นกไม่กล้าขัน งูไม่กล้าออกหากิน หนูผอมโซ พวกหนุ่มอีสานจับกินหมด

เพราะติดตัวไปแต่ข้าวสารกับเกลือ ส่วนกับข้าวหาเอาข้างหน้า...ฮ่า ฮ่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2008, 10:29 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #312 เมื่อ: 08-03-2008, 08:57 »

คุณ QuaOs

คนเลวมีทุกภาคนั่นแหละครับ

คนเลวไม่ใช่เพราะเกิดที่นั่นที่นี่ มันเกิดเพระกิเลส ตันหา ความโลภ ของมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม

ซึ่งสังคมก็มีกฎหมายจัดระเบียบสังคม

ตำรวจชั่วๆ จากทางใต้ ที่กระทำผิดต่อประชาชนผู้บริสุทธ์ เป็นข่าวดังๆ ก็คนใต้

อย่าไปเหมารวมว่า คนภาคนั้นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ดีชั่วเป็นเรื่องปัจเจก


เด็กซิ่งสะก๊อย ก็มีไปทั่ว อย่าไปเหมารวมว่าคนชั่วคือคนภาคนั้นภาคนี้เท่านั้น

คนจนทำเลวก็เยอะ คนรวยทำเลวก็มาก

ไปดูในคุกสิ มันพวกไหนกันบ้าง

ญี่ปุ่น อเมริกา ยุโรป ลาติน

ยังมีคุกเลยคุณ


ในกรุงเทพ หรือทางใต้ ปลอดคุกเหรอครับ
บันทึกการเข้า

Puggi
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 182


« ตอบ #313 เมื่อ: 08-03-2008, 09:03 »

ไอ้เรื่อง ขอนู่น ขอนี่ กับ รัฐบาล มันก็ขอหมด ทั้งนั้นแหละ ลุงแคน

จะคนกรุง  คนอีสาน คนชนบท คนใต้ คนเหนือ  ขอนู่น ขอนี่ ให้ช่วย นู่นช่วยนี่

แต่มันต่าง ที่ คนกรุง มองว่า เค้าต้องทำให้  และเค้าทำให้ แต่ เค้าไปทำเฮงซวย อย่างอื่น

คนกรุงมันก็ ไม่เลือก    แต่คนต่างจังหวัด มันไม่ใช่   ดันมาถือ เป็นบุญคุณ  ต้องทดแทน กันอยู่นั่นแหละ

กะอีแค่ทำโครงการให้นิดหน่อย  และ สส มัน ก็ไปทำเฮงซวย กับประเทศ  คนอีสานก็ไม่สน  เพราะ เค้ามีบุญคุณกับ พวกเรา


มันคิดกันแค่นี้หรือไง
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #314 เมื่อ: 08-03-2008, 09:08 »

ใครบอกเค้าไม่สน คุณไปดูพันธมิตรสิ พวกไหนเข้มแข็งที่สุด ไม่ใช่พันธมิตรอีสานเหรอที่ลุยอยู่นั่น

NGO ที่เข้มแข็งที่สุดก็แถวๆ อีสาน สหายเก่าก็เยอะ แต่เค้าสังเคราะห์ปัญหาจนตกผลึกแล้ว

ไม่ว่าไอ้พรรคการเมืองหน้าไหน พรรคไหน พอเป็นรัฐบาลแล้วก็เลวพอกัน

แก้ปัญหาให้คนรวยพอๆ กัน...

ถ้ามันมีพรรคดี คนดี ประชาธิปไตย เกือบ 100 ปี มีอะไรให้ประชาชนชื่นใจ

มันก็วังวนเดิมๆ เปลี่ยนหน้ากันชนอยู่เหมือนเดิม


พวกที่ตกผลึกแล้ว เค้าไปเดินสายพอเพียง เชื่อมร้อยเครือข่ายสายการเมืองภาคประชาชน

ซึ่งเป็นทางแก้ที่ประชาชนต้องเริ่มแก้ที่ตัวประชาชนหรือจากหมู่บ้าน ชุมชน

เค้าไม่ได้มาหวังพิ่งพาอะไรมากมาย หรือคอยแบมือขออย่างที่เข้าใจกัน

งบประมาณก็ได้เล็กๆ น้อยๆ จาก สสส.บ้าง จากกระทรวงพัฒนาสังคมบ้าง

ในเมื่อการศึกษาในระบบมันล้มเหลว เค้าก็ไปหาทางแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีปราชญ์ชาวบ้าน ทำสวนสาธิต ผลิตกรรมวิธีอยู่ในสังคมอย่างไม่มีทุกข์

การเมืองภาคประชาชนสายนี้ เค้ารู้แล้วว่าการเมืองในระบบมันล้มเหลว เลยต้องไปสร้างความเข้มแข็งจากหมู่บ้าน

นักการเมืองเลว มันก็มีระบบตรวจสอบของมันอยู่แล้วนี่ครับ ถ้ามันชั่วก็ลงชื่อถอดถอนอยู่นี่ไง


ถ้าทำภาคประชาชนเข้มแข็ง นั่นคือความสำเร็จของประชาธิปไตย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2008, 09:29 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

Puggi
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 182


« ตอบ #315 เมื่อ: 08-03-2008, 09:29 »

ใครบอกเค้าไม่สน คุณไปดูพันธมิตรสิ พวกไหนเข้มแข็งที่สุด ไม่ใช่พันธมิตรอีสานเหรอที่ลุยอยู่นั่น

 พันธมิตร ณ สัดส่วนมันเท่าไหร่ กับประชากร ลุงแคน  คงไม่ลงรายละเอียดว่าเป็นชนชั้นกลางหรือเปล่า

 อ้อ  ผมมาแสดงความเห็นในฐานะ ชนชั้นกลางนะ  ไม่ใช่ในฐานะคนกรุง เพราะชีวิตผมต้องทำงานกับพวกรากหญ้า เห็นอะไรมาพอควร

 มุมมองผม จะมองในฐานะชนชั้นกลาง มองชาวชนบท แต่งวดนี้ ผมต้องสงสัยชาวอีสาน   แต่ผมไม่เคยรังเกียจหรอกนะ เพราะลูกน้องก็อีสาน แต่ ไม่เข้าใจว่าเอาความคิดเป็นบุญคุณ ต้องทดแทนตลอดก็ไม่ไหวเหมือนกัน

 อย่างที่บอก ลุงแคน

 ทุกชนชั้น  มันก็ขอ หมดแหละ ทุกชนชั้น ก็ต้องการตักตวงผลประโยชน์ กับ รัฐบาลให้ทำอะไรให้กลุ่มเค้าหมด อะไรที่เค้าได้ประโยชน์เค้าเอาหมด

 แต่  ในขณะเดียวกัน  หาก พวก  นักการเมือง แม้จะประเคน อะไรมาให้ ก็เถอะ  แต่มัน ไปทำ เลว ทำชั่ว  ชนชั้นกลางเค้าก็ถึบทิ้ง แม้จะหลง โง่ ไปเลือกมา

ตัวอย่างมันเห็นได้ตลอด   ไม่เคยถือเป็นบุญคุณ  กับพวกนักการเมืองที่มาทำมาประเคนผลประโยชน์ให้


  แต่ขณะเดียวกัน ชาวรากหญ้า มันถือเป็นบุญคุณ   โดย ที่ ไม่สนว่าพวกนักการเมืองจะทำยำยำกับประเทศยังไงก็ไม่สน


 และที่สำคัญ  นักการเมืองทางอีสานน่ะ  ยิ่งกว่าลูกสามพ่อ  ชายสามโบสถ์อีก   ย้ายพรรคไปทั่ว ยิ่งกว่า กะหรี่   

ในมุมมองชนชั้นกลาง มันมีความสงสัย ว่า  เพราะบุญคุณที่เค้าประเคนให้เลยต้องเลือกเท่านั้นเหรอ  แค่นี้ เองเหรอ  สรุป หวังผลกันเพื่อตัวเองอย่างเดียวอย่างอื่น กรูไม่สน หรือไง

 
  สมัย เติง  จิ๋ว ผมว่า ยังพออนุโลมได้ แต่สมัยเหลี่ยมนี่ มันยอมรับไม่ได้เลยจริงๆหว่ะ ลุงแคน

   นั่น คือ สิ่งที่ผมว่าชนชั้นกลาง กำลังสงสัยอยู่   ส่วนไอ้ พรรค สะตอ น่ะ อย่างไปหวังอะไรมากหรอก ผมแม้จะเลือก แต่ก็ไม่อยากให้มันโตอยู่แล้ว ตราบใดที่สะตอ ยังครองพรรค
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #316 เมื่อ: 08-03-2008, 09:33 »

เออ..ไอ้เรื่องคิดเอาบุญคุณ มันต้องดูว่าเรื่องไหน

แต่ถ้าคุณยอมรับว่า ประชาธิปไตยต้องใช้เสียงส่วนใหญ่ คุณก็ต้องยอมรับในกติกานั้น


ฝ่ายตรวจสอบแบบพันธมิตร ไม่ต้องเยอะหรอกครับ ใช้"หลักการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ"สู้

เวลาระดมก็ไม่ต้องใช้คนอีสานเป็นล้านหรอกครับ

แต่การเมืองภาคประชาชนฝ่ายพัฒนานี่สิ ต้องเพิ่มให้มาก กระจายตัว เชื่อมร้อยให้เป็นเครือข่าย ขยายแนวออกไป

ไปสร้างองค์ความรู้ในหมู่บ้าน ในชุมชน สร้างสหกรณ์เพิ่มอำนาจการต่อรอง

เมื่อประชาชนอยู่ได้ ไปรอด ก็จะปลดพันธนาการจากระบบอุปถัมป์ออกไปได้

ปัจจุบัน นักการเมืองท้องถิ่นก็ลงมาเล่นเรื่องชุมชนกันเยอะ ทำสหกรณ์กันเยอะ เค้าก็สร้างเครือข่ายของเค้าไป

ใช้งบประมาณจังหวัดลงไปพัฒนา...นั่นหมายถึง อบจ.ก้าวหน้านะครับ...ไม่ใช่ อบจ.โกงกิน


ส่วนการเมืองระดับชาติ จะว่าไปเลือกตั้งครั้งที่แล้ว หากเพื่อแผ่นดินกัน กับชาติไทย ได้มากขึ้นอีกซักพรรคละ 10 ที่นั่ง

การเมืองก็จะพลิกมาทางฟาก ปชป.

แต่ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ..อิ อิ

ก็อย่างที่ผมบอกแล้ว การเมืองในระบบมันก็เลวพอๆ กัน พรรคไหนมา ก็ใช้ เสรีนิยม นายทุน ขุนศึก ศักดินา ข้าราชการ คนชั้นกลาง


แต่คนส่วนใหญ่ที่อยู่เป็นฐาน ก็ถูกเหยียบอยู่ร่ำไป...

คุณรู้มั๊ยรัฐบาลนี้ มาจากรากหญ้า ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายของชนชั้นกลางไปเท่าไหร่แล้ว

นี่แค่เป็นรัฐบาลไม่ถึงเดือนมั๊ง...อิ อิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2008, 09:52 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

Puggi
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 182


« ตอบ #317 เมื่อ: 08-03-2008, 09:46 »

เย็น ๆ จะมาอ่านต่อ


ต้องไปให้ค่าจ้างลูกน้องแล้ว

 ทุกครั้งทีให้ค่าจ้าง  ผมก็จะบอกเสมอ ว่า เก็บนะ  อย่ากินเหล้าหมด   แม้ว่าจะมาทำงานมีเงินตลอดก็เถอะ

แต่สิ่งที่ได้รับ คือพวกนี้ เค้าใช้เงินวันต่อวัน ขนาด เค้ามั่นใจได้เรื่องรายได้ แล้วนะ ว่าไม่อด แต่ ก็ยังคิดแค่ระยะสั้น

มาบอกว่า เดี๋ยวอาทิตย์หน้า นายก็ต้องมาจ่ายเงินค่าแรงผมอยู่แล้ว

 
อันนี้ คือ ความคิดแบบ รากหญ้าหรือเปล่าลุงแคน 

หาก รากหญ้าคิดกันแค่นี้    ผมก็บอกตรงๆ ว่า ชนชั้นกลาง มันก็ต้องดูถูก ละลุงแคน

 เพราะชนชั้นกลางน่ะ มันโดนบีบมา จาก ชั้นบน พวกคนรวย   แล้วยังโดนรากหญ้า ที่โดนประเคนผลประโยชน์ ไป โดยที่ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ

ก็เลยอยากบ่น ดังๆ ว่า  อย่าคิด แค่ ระยะสั้น   คิดแค่ มีคนเอาเงินมาให้ทุกวัน  ชีวิต กรูพอแล้ว

ตอนเศรษฐกิจพังปี 40 น่ะ ผมยังเรียนอยู่  ที่มันพัง ไม่ใช่ เพราะคนกรุง คนชั้นกลางหรอกลงุแคน  พังเพราะคนรวย    แต่ผลประทบน่ะ คนเมืองโดนเต็มๆ แต่โดยความรู้ ความสามารถ  กัดฟัน น่ะ มันถึงกลับมาได้



แต่ตอนนี่น่ะ หากมันจะพัง  รากหญ้า มันจะ พัง  แบบฉิบหายเลยลุงแคน 
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #318 เมื่อ: 08-03-2008, 10:10 »

ก็ค่าแรงมันน้อย ไม่พอค่าเหล้านะสิครับ

นั่นคือความไม่เป็นธรรมอย่างหนึ่ง

ก็เพิ่มรายได้ให้เค้าพออยู่ได้แบบมีความหวังซีครับ

อย่าจ่ายแค่ให้รอดชีวิตไปวันๆ เพราะเค้าก็อยากกินหมู ราคา โลละ 120 บาทเหมือนกัน

แค่เหลือเงินให้ลูกไปซื้อขนม วันละ 20 บาท พ่อแม่ก็ต้องกลืนน้ำลายอยากกิน "ปิซซ่า" อยากกิน สุกี้ MK มั่ง

ทำไงได้ น้ำมันแพง ค่าแรงถูก ก็รอแต่นายจ้างใจดีแบบคุณนั่นแหละ จะช่วยให้เค้าลืมตาอ้าปาก

เวลาบอกเค้าอย่าบอกครั้งเดียวแบบดูถูกเค้า จัดคอร์สอบรมไปเลย เป็นลูกจ้างจะสร้างฐานะได้อย่างไร

ติดอาวุธทางปัญญาให้เค้าซีครับ....แบ่งเวลาให้เค้ารู้จักไปตั้งแผงบ้างสิ....ให้ทุนเค้าสิ...ดูแลแค่ให้ลูกน้องได้ดิบได้ดีในกลุ่มของเรา


ประเทศชาติก็จะดีไปเอง...ถึงเวลาเลือกตั้ง คุณก็บอกได้ แนะได้ มันให้เงินมึงเอา แต่อย่าไปกาให้มัน ก็แค่นั้น

มนุษย์ทุกผู้ทุกนาม มีสัญชาตญาณใฝ่ดีกันทุกคนนั่นแหละครับ...

แต่มันขาดโอกาส...ใครมีโอกาสก็รอดได้เยอะแยะไป แม้การศึกษาน้อยก็เป็นเถ้าแก่ได้ในซักวันหนึ่ง


คนงานอีสานที่ทำานโรงงานเย็บผ้าจำนวนไม่น้อย พอมีฝีมือก็ออกมาผ่อนจักรเย็บผ้า รับเสื้อโหลมาทำ ใส่ท้ายมอเตอร์ไซค์ส่งเครือข่าย

ส่งโบ๊เบ๊ ประตูน้ำ..เยอะครับ...ขอเพียงรัฐหรือโรงงานพัฒนาฝีมือแรงงานให้เก่งขึ้น ดีขึ้น พัฒนาขึ้น

และให้โอกาสเค้ามีทุนผ่อนจักรอุตสาหกรรมบ้าง เค้าก็ทำไปได้...รายละเอียดพวกนี้ ฝ่ายรัฐมองไม่ค่อยออก



ในซอยบ้านญาติที่กรุงเทพ พวกอีสานที่ฉลาดๆ ทำส้มตำ ไก่ย่าง ปลาย่าง ไปขาย ส่งลูกน้องไปตั้งแผงตามหอพักนักศึกษาเยอะแยะ

ขอแค่เค้ามีโอกาสเป็นตัวของตัวเอง...ก็สร้างฐานะได้..

ถ้าเห็นแผงส้มตำสะอาดๆ ก็ช่วยอุดหนุนกันด้วยนะครับ

บางเวลา บางโอกาส ส้มตำ น้ำตก ลาบก้อย ก็อร่อยกว่าเนื้อโกเบ แผ่นบางๆ จานละ 7-800 บาทนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2008, 10:17 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #319 เมื่อ: 08-03-2008, 10:32 »

แล้วคนอีสานที่เข้ามาก่อปัญหามลพิษ สิ่งแวดล้อม ก่อคดีอาชญากรรม ในกรุงนี่ คนกรุ่งควรขับไล่ออกไปไหม ทุกวันนี้กรุงเทพโคตรเน่าเลย รถแม่งก็ติด ท้องถนนสกปรก ควันพิษ น้ำเน่า แม่งกินเหล้าส่งเสียงดัง ทำตัวเป็นกุ้ยชอบแซวหญิง ไปไหนต้องระวังว่าแม่งจะมาปล้นกูไหม จะฉุดคนรู้จักกูไปข่มขืนไหม คนกรุ่งต้องทนเหรอครับ ทุกวันนี้คนกรุงจริงๆแม่งมีไม่ถึงครึ่ง ระแวกบ้านผมแม่งอีสานเกิน 70% กินเหล้าส่งเสียงดังทุกวัน นี่แม่งเคารพในอาชีพผมเหรอ แล้วอีกอย่างส่วนตัวผมว่าคนแม่งจะดีจะเลวจะเห็นแก่ตัว มันไม่ได้ดูที่ภูมิภาคหรอก เหมารวมกันหมดเลยหรือไง แล้วที่บอกคนกรุงดูถูกคนอีสานเนี่ย มันคนกรุงคนไหน คนกรุงทุกคนเลยหรือไง หรือผมซื้อของจากคนอีสานเนี่ย ผมไม่ต้องจ่ายเงินเหรอครับ แล้วที่คนอีสานเอาแผ่นผี แผ่นปั้มมาขายนี้ ไม่เป็นหนีบุญคุณ อาเอส แกรมมี่บ้างเหรอ
หรือผมต้องไปไหว้พวกพม่าด้วยไหม ตอนนี้เห็นมันเต็มประเทศเลย แล้วราคาสินค้าเกษตร ผมกำหนดเองได้เหรอ ที่คนเค้าบ่นกัน ไม่ใช่ว่ามันแพงจนคนเริ่มไม่มีปัญญาซื้อกันเหรอ สุดท้ายถ้าไม่มีใครซื้อแล้วราคามันตก จะโทษคนกรุงที่ไม่ซื้อหรือเปล่า ประเด็นมันอยู่ที่เขาเสี้ยมมา แล้วดันไปให้เขาเสี้ยม บ้านผม พ่อจีน แม่คนเหนือ พี่น้องผมลูกครึ่งจีน แฟนพี่คนอีสาน แฟนผมคนใต้ น้องเขยคนประจวบ แม่งไม่เห็นมีใครดูถูกใครเลย ท่าทางมุขไอ้หมัก ไอ้เหลี่ยมมันจะได้ผล เสี้ยมคนได้ตั้งเยอะ

นี่ถือเป็นตัวอย่างสิ่งที่ก่อนตายไอน์สไตน์ได้สอนไว้
ทรรศนะคติที่อ่อนด้อย นำไปสู่การดำเนินชีวิตที่บัดซบ (อันหลังเติมเอง)

เสียงดัง โวยวาย แหกปาก กินเหล้า มันมีทุกที่แหละครับ

ส่วนทำตัวกุ๊ย
แซวหญิง
คุณไปจำอะไรผิดๆมาหรือเปล่า คุณไปเห็นบุคคลเหล่านั้นมาจากหน้าเดอะมอลล์ บางกะปิหรือเปล่าครับ
ที่นั่งดูดกาแลม ถ่มน้ำลายปิ๊ดๆ แซวหญิง แหกปากเสียงดัง ทำตัวกุ๊ยๆน่ะ

เรื่องมลพิษ
จะพาลแถโชว์โง่ไปด่าแท๊กซี่สิท่า

ทบทวนความคิดผมใส่สมองที่น่าจะมีพัฒนาการเกิน 30+ ด้วยนะ
แท๊กซี่ใช่แก๊ส LPG มานานแล้ว
ตั้งแต่คนชั้นกลาง ยังใช่น้ำมันที่มีสารตะกั่วอยู่เลยครับ
ไม่รู้สุนัขตัวไหนมันสร้างมลพิษ
อยากจะพูดเหมือนไอ้หมักจริงๆว่า " ไอ้สัด กลูงงจริงๆ"
แท๊กซี่ปัจจุบัน ถ้าจำไม่ผิด น่าจะมีประมาณ 2-3 แสนคัน
แบ่งกะเช้ากะดึกอย่างละครึ่ง ก็ได้ 100000 -150000
แล้วจำนวนรถคนกรุงเทพที่ไม่ใช่แท๊กซี่ วิ่งตอนเช้าน่ะกี่คัน ตอนดึกน่ะกี่คัน
รถติดเพราะแท๊กซี่จริงหรือ

เรื่องซีดีผี ยังจะเถลือกไถลไปได้เนาะ
เดินไปถามทุกคนเหรอครับ ว่าคนขายมันเป็นคนอีสานมากกว่า
ผมเห็นพวก rayum เจ้าใหญ่ปั้มแผ่นซีดี มันคนแถวๆบ้านคุณนะ เป็นญาติเป็นโยมกะนักการเมืองอีก ไปไหว้อากู๋แกรมมี่ด้วย

เรื่องยอดเทปตก
จะลากไปด่าอีสาน ผมว่าคนคิดมีความคิดส้นเท้าจริงๆ
คนที่ไหนบริโภค MP3 มากกว่ากันครับ คิดให้ดี
จะไปรวมว่ายอดขายเทปของทาทา ยัง ตกแล้ว ต่าย อรทัยต้องตกด้วยเนี่ย ตลก

ไอ้วินโดวส์ ที่คุณใช้กะคอมคุณเนี่ย
ถ้าใช้ของจริงก็ขอให้เจริญ ถ้าใช้ของปลอมก็อย่าลืมจุดธูปบูชาบิล เกต กับ โปรแกรมเมอร์ชาวอินเดียเพื่อเป็นการขอบคุณเขาด้วยนะ

ขำจริงๆ ความคิดของชาว Metro
55
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2008, 10:38 โดย ดาร์ธ เวเดอร์ » บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #320 เมื่อ: 08-03-2008, 10:44 »

เอาน่า...เอ้า แต่  แต่  แต่
นิ่งเตะ ๆ

ถ้าใครกล้าจัด Meetings คราวหน้าแล้วคุณดาร์ธกล้าไป
...ผมจะส่ง Stripper ไปให้คุณเป็นการเฉพาะสัก 2 คน

...Stripper จากบาร์เกย์ นะ


..ข้าพเจ้าจะจัดให้เองค่ะ มีทติ้งนั่นน่ะ 
มีข้อแม้ว่าคนที่ตอบกระทู้นี้ต้องมาทุกคน ..เอาปะ?!

บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #321 เมื่อ: 08-03-2008, 10:49 »

ก็ค่าแรงมันน้อย ไม่พอค่าเหล้านะสิครับ


ประโยคนี้ไม่น่าหลุดออกมาจากปากลุงแคนเลยนะครับ
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #322 เมื่อ: 08-03-2008, 10:51 »

เมื่อก่อน รถใช้แก๊ส เป็นรถคนจน อันตรายก็ให้แท็กซี่ไปตายก่อน

พอพัฒนาได้มาตรฐานพิสูจน์ว่าปลอดภัย คราวนี้ก็ถึงทีการใช้รถของคนพอมีกะตังค์มั่ง อิ อิ

ราคาแก๊สก็เลยขึ้นไปอีก จัดการยาก

ก็เหมือนดีเซลนั่นแหละ หรือ 30 บาทนั่นแหละ

ของดี ของถูกที่รัฐจะจัดให้คนจน ก็ดันมีคนอยากจนมาช่วยใช้

มันก็เลยกลายเป็นคนจนคนรวยก็กินหมูราคา โลละ 120 บาทเหมือนกัน...
 
เวลาลงคะแนนเลือกตั้ง เค้าบอกว่า "1 คน 1  เสียง"  จะเป็นจะตายเอา

ทั้งๆ ที่หลากหลายเรื่องราวที่ "คนจนต้องตายก่อน" ตามระบบเสรีนิยม

ทีคนรวยใช้ของแพง อยู่ดีกินดี กลับบอกว่า เรื่องของกู กูมีตังค์ ใช้ของนอกซะโก้

พอของกินของแพงในประเทศ ตามที่เกษตรกรรับภาระต้นทุนสูง มันก็มาดันบอกว่า เฮ้ย ห้ามขายแพง...เอากะมัน

เหนื่อยครับ

บันทึกการเข้า

ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #323 เมื่อ: 08-03-2008, 10:51 »

ส่วนพวกที่ดัดจริตบอกว่าคนอีสานคิดว่าการเลือก สส เป็นบุญเป็นคุณ
เอามือตบปากตัวเองสังเวยความควายซักทีเถอะครับ

สส ในพื้นที่ เขาอยู่กะชาวบ้านมานาน
ทำอะไรทุกวันนี้ ก็ยื่นหมูยื่นแมวทั้งนั้น
น้ำ ไฟ ถนน เขาทำให้ชาวบ้าน ชาวบ้านเค้าก็ชอบ วันไหน สส มันไม่ทำ เลือกเข้าไปแล้วเป็นกลับทำตัวเป็นเทวดา เหมือน สส บางพรรค ที่เคยได้รับโอกาส
คนมันก็ไม่เอาอีกหนหรอกครับ
รอบเมื่อกี้ก็เสนอหน้าลงสมัครหลายคน แต่ก็ไม่ได้หรอก

ผู้ดีหลายคนในบอร์ดนี้คงเคยไปสุพรรณบ้านบรรหารอยู่สินะ
ต่อให้บรรหารเลวบัดซบแค่ไหน เขาก็เลือก เชื่อผมสิ แล้วเสรือกไม่ไปด่าคนสุพรรณที่เลือกไอ้ตระบัตย์สัตย์บรรหาร
บางจังหวัด มี สส ตัวเอง เอาที่ดินแจกคนจน ไปแจกคนรวย เลวบัดซบ ก็ยังก้มหน้าก้มตา กามันเขาสภาอีก ทีงีละไม่ผิด

แหม ส่วนพวกที่บอกว่าชาวกรุงเทพขอแค่งบ แล้วชาวกรุงจะบริหารเอง
โถ่ มันก็แหงล่ะครับ ก็ผู้ว่า พวกคุณเลือกมันมาเองนี่
ถ้ามันทำไม่ดี อนาคตมันก็ดับ

คิดถึงโอกาสของชาวต่างจังหวัดที่เหลือด้วย
ผู้ว่าเฮงซวยก็ไม่มีโอกาสได้เลือก
กระทรวงมหาดไทยเลือกมาทั้งนั้น
การเป็นผู้ว่าได้ ไม่ต้องถามความเห็นจากคนในพื้นที่เลย
เลียรัฐบาลก็พอ

ทีผู้ว่ากรุงเทพจะเอาเงินภาษีไปร้างส่วนต่อขยายเส้นทาง BTS
ชาวกรุงกรีดกราย ดีอกดีใจ ทั้งๆที่ไปทำให้บริษัทเอกชนแท้ๆ

แล้วทีนายก อบจ เล็กๆ(มันทำได้แค่นั้นแหละ โครงสร้างมันยังแพ้ผู้ว่า) ของอุบลที่ลุงแคนได้นำเสนอไปว่า เอาภาษีไปซื้อรถไถ มาให้ชาวบ้านยืมใช้ แต่สถานะก็คือของหลวง กลับโดนพวกผู้ดีดัดจริตเข้ามาด่าทอ

บอกได้ตรงๆว่า ควายจริงๆ
บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #324 เมื่อ: 08-03-2008, 11:02 »

ประโยคนี้ไม่น่าหลุดออกมาจากปากลุงแคนเลยนะครับ

วัฒนธรรมการดื่มเหล้ามีทุกสังคมครับ จะมากหรือน้อยนั่นเป็นอีกเรื่อง

กรรมกรทำงานหนัก เหนื่อยสายตัวแทบขาด ตกเย็นถ้าไม่มีเหล้ากรอกลงให้มึนชาเล็กน้อย คงผ่านพ้นความเหนื่อยล้าไปได้ยาก

บางพวกก็เข้าร่านยาดอง ต้องมีซักกรึ๊บ พอกินข้าวแซ่บ

บางครอบครัว พ่อบ้านดื่มแต่พองาม เมาแล้วน่ารัก ชอบร้องเพลง.."แม่ศรีเอย..แม่ศรีเรือน น้องเป็นทั้งเพื่อนและเมียที่รักบูชา..."

ตกเย็นแม่บักหำ ก็ตั้งวงรอ.....บ่กินเหล่าบ๊อ...มื่อนี่...มันเป็นเรื่องปัจเจก

 

บางทีมิวสิควิดิโอ...ก็เอาเรื่องเหล้ามาเป็นตัวแทนของหนุ่มอกหัก "ต้องดื่มให้ลืมเธอ"

เพลงสนุกๆ เกี่ยวกับวงเหล้ามันเยอะครับ.."เหล้าจ๋า"..นี่ขาดไม่ได้เลย

ถ้าอยากรู้เรื่องนี้ ต้องลงไปทำวิจัยดู ทำไมกรรมกรผู้ใช้แรงงานต้องดื่มเหล้า...

แต่ใช่ว่าผู้ใช้แรงงานที่ไม่ทำงานหนักต้องดื่มเหล้าทุกคนนะครับ มีดื่ม มีไม่ดื่ม ตามแต่การอบรมสั่งสอน

ดื่มแต่พอดี ก็เป็นยาครับ


ถ้าจะคุยเรื่องวัฒนธรรมเกี่ยวกับการดื่มเหล้า ต้องเล่นกันอีกกระทู้ครับ

เพราะมุมมองพวกนี้มีหลากหลาย เกี่ยวพันทั้งทัศนคติ ความเชื่อ ภูมิปัญญา ธุรกิจ ฯลฯ


อ้อ...สำหรับผมไม่ดื่มเหล้ามา 40 ปีแล้วครับ

เอ้อ...ที่ไม่ดื่มน่ะ..ไม่ใช่คนดีนะครับ หนุ่มๆ ดื่มจนไส้จะขาดน่ะครับ เลยต้องงดเหล้าตลอดชีวิต..แหะ แหะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2008, 11:50 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #325 เมื่อ: 08-03-2008, 11:05 »


..ข้าพเจ้าจะจัดให้เองค่ะ มีทติ้งนั่นน่ะ 
มีข้อแม้ว่าคนที่ตอบกระทู้นี้ต้องมาทุกคน ..เอาปะ?!



คัดคู่กรณีมา 4 คนก็พอน๊า
ผม ปู่เย็น ลุงแคน กะเจ้าของกระทู้

จากเดิมที่ผมกับลุงแคนอาจแค่ฟกช้ำดำเขียว ถ้าปล่อยให้มามากกว่านั้น ผมกับลุงแคนคงต้องเข้าห้อง ICU ละม๊าง 

เพราะหมดกระทู้เนี่ย รู้สึกจะมีเป้าให้รุมอยู่สองหน่อเองนิ! อิอิอิ!! มา 4 คนพอละ
บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
หน้าเหลี่ยมด้าน ณ ประชาไท
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 219


กูขอสู้พวกมึง ถึงเวลา กูจะออกไป แน่นอนขอให้เรียก


« ตอบ #326 เมื่อ: 08-03-2008, 11:10 »

นึ่จะเป็นพันธมิตร หรือจะ แตกคอ กันครับ  (อย่าลืมไป ซัดพวกเวปลิ่วล้อด้วยนะ)
บันทึกการเข้า

ผมไม่ใช่แฟน ประชาธิปัตย์ 
ไม่ใช่แฟน พลังประชาชน

แต่


สนับสนุน การกวาดล้างไอ้พวก นักการเมือง ชั่วๆ แบบเดิม

ไอ้เสนาะ ไอ้เตี้ยหมาตื่น ไอ้หนั่น ไอ้พวก***นี้ไม่ต้องไปเรียก ป๋านำหน้าหรอก



Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #327 เมื่อ: 08-03-2008, 11:20 »

แหมถามกันจั๊ง....พวก สส. ด่าพ่อล่อแม่กันในสภา ออกมาเจอกันข้างนอกมันก็พวกเดียวกัน

ประเด็นโต้แย้ง เป็นเรื่องปกติ ในโลกประชาธิปไตย...
บันทึกการเข้า

Gun
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 49



« ตอบ #328 เมื่อ: 08-03-2008, 11:24 »

กระทู้นี้มันจริง ๆ 
บันทึกการเข้า
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #329 เมื่อ: 08-03-2008, 11:29 »

คัดคู่กรณีมา 4 คนก็พอน๊า
ผม ปู่เย็น ลุงแคน กะเจ้าของกระทู้

จากเดิมที่ผมกับลุงแคนอาจแค่ฟกช้ำดำเขียว ถ้าปล่อยให้มามากกว่านั้น ผมกับลุงแคนคงต้องเข้าห้อง ICU ละม๊าง 

เพราะหมดกระทู้เนี่ย รู้สึกจะมีเป้าให้รุมอยู่สองหน่อเองนิ! อิอิอิ!! มา 4 คนพอละ

..ขืนมาแค่ ๔ คนน่ากลัวว่าจะเป็นบ๊อกซิ่งแทนมีทติ้งน่ะสิคะ 
เอาน่า.. ข้าพเจ้าว่าหากคู่กรณีได้เจอตัวประสานตากันละก็
ไทยมุง(คนอ่านที่วางอุเบกขา)ในงานคงไม่ปล่อยให้เกิดเลือดตกยางออกร้อก ..อิอิ

บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #330 เมื่อ: 08-03-2008, 11:57 »

นี่ยังไม่รู้ตัวกันอีก เวรกรรม ที่เค้าเสี้ยมมาก็เพราะ ในไม่ช้าคาดการณ์ว่า ถ้าเกิดมีเหตุการณ์ที่คนกรุงลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาล มันจะเกิณไอ้แก๊งค์คุณนั่นแหละมาเป็นแนวต้าน มันเลยฝั่งหัวเรื่องพวกนี้ บัดซบแล้ว
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #331 เมื่อ: 08-03-2008, 12:07 »

ทำไมมีแก๊งส์คุณ แก๊งส์ผม

พันธมิตรอีสานก็จัดตั้งไปแล้วนี่

บักใสก็คนอีสาน อ.สมเกียรติก็คนอีสาน

ผมยังไม่เห็นว่ามีอะไรที่ต้องออกมาต่อต้าน

ยังอีกนานครับ ช่วงนี้ก็คงแค่ยื่นตรวจสอบออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน

ถ้าสถานการณ์มันสุกงอมพอ ประชาชนเค้าจะออกมาเอง

เอ้อ..คนกรุงจะออกมาเล่นประเด็นไหนครับ ช่วยบอกที




บันทึกการเข้า

Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #332 เมื่อ: 08-03-2008, 12:10 »

ลุงแคนลองไปฟังคลื่นพวก 92 กว่าๆ ดูซิ มันเสี้ยมกันอยู่ ด่ากันออกอากาศเลย
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #333 เมื่อ: 08-03-2008, 12:15 »

โทษทีที่อาจทำให้เข้าใจผิด มันไม่ได้ออกอาศเสี้ยมกันตอนนี้ ที่พิมพ์ไปข้างบนอาจทำให้คิดเป็นอย่างนั้น แต่ผมนั่ง Taxi กลับบ้านประจำช่วง 4 ทุ่ม แล้วมันก็มักจะเปิดคลื่นนี้ เนื้อหายั่วยุให้คนอีสานเกลียดคนกรุงอย่างเดียว หลายวันแล้ว ไม่รู้หมดไปยัง เมื่อวานไม่ได้กลับ Taxi
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #334 เมื่อ: 08-03-2008, 12:18 »

พันธมิตรอีสานคงกลุ่มไม่ใหญ่ แต่คนอีสานที่เชียร์ไอ้แม้ว แล้วมันเสี้ยมอยู่หน่ะ ใหญ่มากๆ
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #335 เมื่อ: 08-03-2008, 12:29 »

เราทำอะไรเค้าไม่ได้หรอกครับ

มันเป็นสิทธิ์และเสรีภาพที่จะเคลื่อนไหว

คนกลุ่มที่จะมาก็คงเป็นกลุ่ม "จตุจักร" เดิมๆ ครับ

เมื่อกี้สนธิ ให้สัมภาษณ์ว่า เฉลิม ขอมาเคลียร์ แต่สนธิไม่เล่นด้วย

เพราะไม่อยากสร้างราคาให้เฉลิม

อ้อ...สนธิจะไปพักผ่อนเชียงราย นายชวนจะลงปักษ์ใต้ มาเจอกันที่สนามบินโดยบังเอิญ..เลยได้คุยกันเล็กน้อย

ส่วนหากจะมีกลุ่มอีสานมากทม. คงยากครับ...ยกเว้นจ้างมา

อย่าไปตื่นเต้นครับ หากรัฐบาลจัดมาชน รัฐบาลยิ่งจะถูกโค่นง่ายขึ้น

ลองฝ่ายพันธมิตร บาดเจ็บล้มตาย รัฐบาลอยู่ไม่ได้หรอกครับ


อย่าไปตื่นเต้นครับ...
บันทึกการเข้า

Gun
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 49



« ตอบ #336 เมื่อ: 08-03-2008, 12:39 »


อย่าไปตื่นเต้นครับ หากรัฐบาลจัดมาชน รัฐบาลยิ่งจะถูกโค่นง่ายขึ้น

ลองฝ่ายพันธมิตร บาดเจ็บล้มตาย รัฐบาลอยู่ไม่ได้หรอกครับ


อย่าไปตื่นเต้นครับ...

แน่ใจหรือครับ ว่ารัฐบาลจะอยู่ไม่ได้
Standard ประเทศนี้มันบิดเบี้ยวมานานแล้ว

อาจจะอยู่ได้ก็ได้ใครจะไปรู้
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #337 เมื่อ: 08-03-2008, 12:48 »

ประวัติศาสตร์มันเป็นเช่นนั้น

แนวทางการประท้วงของพันธมิตรยืนหยัดแนวสันติอหิงสาของแท้

ยืนหยัด อดทนตลอดไป ไม่มีทางจะสร้างความรุนแรงได้

รับประกันไม่มีเรื่องหรอก พวกแอบแฝงไปใช้วิชามารเค้าป้องกันไว้ดี

ที่สำคัญผมยังมองไม่ออกว่า พันธมิตรจะออกมาเดินขบวนหรือทำม้อบด้วยประเด็นไหน

มันยังไม่ถึงเวลาเลยครับ...มีแต่ต้องจับตาดู คอยตะโกนผ่านสื่อ กระแสยังไม่มีอะไรเข้มข้นพอ

อย่างมากก็จะมากก็มีกลุ่มปู่เดช พ่มคชา ไปเล่นงานรมต.สาธารณะสุข

ฝ่ายเชียร์ รมต. ก็ไม่มีเหตุผลพอที่จะออกมา

ฝ่ายเรายังคงเดินเกมอย่างสุขุมเหมือนเดิมครับ


หลักของการทำม้อบทีจะได้รับชัยชนะคือ

คุณต้องทำตัวเป็นพระเอก ยอมให้เค้าต่อยโดยไม่ตอบโต้

อาจารย์โต้ง บุกเข้าไปในม้อบเค้า โดนถีบออกมา พวก นปก.ก็เป็นผู้ร้ายทันที

และต้องให้ความมั่นใจกับม้อบว่าทุกคนจะต้องปลอดภัย

หากทำตัวเป็นผู้ร้ายแบบม้อบ นปก. ก็มีแต่ทางเดียวคือโดนข้อหา ติดคุก ต้องประกันตัว


และพ่ายแพ้ในที่สุด

ถ้าพวกเราจะไป ต้องมั่นใจว่า ไม่กลัวเจ็บหากถูกทำร้าย และต้องอดทนให้ฝ่ายเราเป็นฝ่ายถูกกระทำ

อย่าไปหลงกลตอบโต้ด้วยความรุนแรงเด็ดขาด


ความกล้าหาญของนักประท้วง คือกล้าที่จะให้คนอื่นทำร้าย ไม่ใช่กล้าต่อยคนอื่น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2008, 13:42 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #338 เมื่อ: 08-03-2008, 19:56 »

ขออนุญาตนอกเรื่องค่ะ 

สมัยก่อน ได้ยินคนเค้าพูดกันบ่อย ๆ ว่า " ตรุษฝรั่งพี่ไทยก็เมา ตรุษจีนพี่ไทยก็เมา ตรุษไทยก็เมา ตรุษไหน ๆ พี่ไทยก็เมา" 

สำหรับคนจีนรุ่นแรกที่อพยพมาเมืองไทยเมื่อประมาณหลายสิบปีก่อนอาจจะถึงร้อยปี กับรุ่นต่อมา เข้าใจว่าส่วนใหญ่ มักจะต่อต้านถ้าลูกหลานจะต้องแต่งงานกับคนที่ตัวเองเรียกว่า "ฮวงนั้ง" ซึ่งทัศนคติเช่นนี้ยังส่งผลมาถึงทุกวันนี้ ถ้าลูกหลานมีคนรัก ประโยคแรกที่จะสอบถามประวัติคนรักที่แปลได้ความว่า "ตึ่งนั้งหรือป่าว" อย่างน้อยขอให้มีเชื้อจีนสักน้อยนิดก็ยังดี  คนไทย(สมัยนั้น)จะถูกมองว่า ขี้เกียจทำมาหากิน เอาแต่เมาอีกต่างหาก

ส่วนคนที่เรียกตนเองว่า "ตึ่งนั้ง" ก็ยังมองคนอื่นที่ต่างเผ่าพันธุ์ออกไปแม้จะจีนเหมือนกันก็เถอะ ที่ได้เคยยินได้ฟังก็เช่น

ถ้าเป็นจีนแต้จิ๋ว -- หน้าใหญ่ (จนมีคำพูดว่า "บ่อเลี่ยงตึ้งซีเป๋"  Mr. Green)

จีนแคะ- และไหหลำ -- เค็ม ขี้เหนียว (ทั่นเหลี่ยมนี่เชื้อสายคนจีนแคะ ส่วนสนธิ ลิ้มก็เชื้อสายจีนไหหลำ สงสัยจะจริงแฮะ  Mr. Green Mr. Green Mr. Green อีกตัวอย่างหนึ่งที่คนเค้าชอบยกมาก็คือ กลุ่มเซ็นทรัล )

จีนกวางตุ้ง -- เชี้ยพิ้งบ่อเชี่ยจั่ว หัวเราะเยาะคนจน แต่จะชื่นชมคนรวย (รวยด้วยวิธีการอย่างไรไม่สำคัญขอให้มีเงินก็แล้วกัน จะ "จั่วกุ๊กเท้า" อย่างไรก็ไม่ว่า)

แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไป นิยามของ "คนไทย" เมื่อหลายสิบปีก่อน กับ "คนไทย" ในยุคนี้ มันคนละเรื่องกันเลย

ก็เลือกพิจารณาเอาว่า จะหลงไปกับทัศนคติแบบเหมารวมในแง่ลบแบบผิวเผิน ฉาบฉวย หรือจะมองในแง่ปัจเจก หรือจะศึกษาวิเคราะห์เจาะลึกต่อว่าปัญหาอยู่ที่ทัศนคติของคนมองที่หลงตัวเอง แต่อคติกับคนอื่น หรือไม่ 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2008, 21:27 โดย aiwen^mei » บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #339 เมื่อ: 08-03-2008, 20:37 »

เศรษฐีเมืองไทยติดอันดับโลกมี 3 คน

คนแรกเมื่อก่อนขายยา ตอนหลังขายกระทิงแดง

คนที่สองขายเหล้าขายเบียร์

คนที่สาม ขายสินค้าเกษตร ตั้งแต่เมล็ดพืช ไปจนสินค้าส่งออก


มันบอกอะไรในนั้นเยอะครับ
บันทึกการเข้า

An.mkII
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,984


Out of kontrol....!!!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #340 เมื่อ: 08-03-2008, 20:38 »

ขออนุญาตนอกเรื่องค่ะ 

สมัยก่อน ได้ยินคนเค้าพูดกันบ่อย ๆ ว่า " ตรุษฝรั่งพี่ไทยก็เมา ตรุษจีนพี่ไทยก็เมา ตรุษไทยก็เมา ตรุษไหน ๆ พี่ไทยก็เมา" 

สำหรับคนจีนรุ่นแรกที่อพยพมาเมืองไทยเมื่อประมาณหลายสิบปีก่อนอาจจะถึงร้อยปี กับรุ่นต่อมา เข้าใจว่าส่วนใหญ่ มักจะต่อต้านถ้าลูกหลานจะต้องแต่งงานกับคนที่ตัวเองเรียกว่า "ฮวงนั้ง" ซึ่งทัศนคติเช่นนี้ยังส่งผลมาถึงทุกวันนี้ ถ้าลูกหลานมีคนรัก ประโยคแรกที่จะสอบถามประวัติคนรักที่แปลได้ความว่า "ตึ่งนั้งหรือป่าว" อย่างน้อยขอให้เชื้อจีนสักน้อยนิดก็ยังดี  คนไทย(สมัยนั้น)จะถูกมองว่า ขี้เกียจทำมาหากิน เอาแต่เมาอีกต่างหาก

ส่วนคนที่เรียกตนเองว่า "ตึ่งนั้ง" ก็ยังมองคนอื่นที่ต่างเผ่าพันธุ์ออกไปแม้จะจีนเหมือนกันก็เถอะ ที่ได้เคยยินได้ฟังก็เช่น

ถ้าเป็นจีนแต้จิ๋ว -- หน้าใหญ่ (จนมีคำพูดว่า "บ่อเลี่ยงตึ้งซีเป๋"  Mr. Green)

จีนแคะ- และไหหลำ -- เค็ม ขี้เหนียว (ทั่นเหลี่ยมนี่เชื้อสายคนจีนแคะ ส่วนสนธิ ลิ้มก็เชื้อสายจีนไหหลำ สงสัยจะจริงแฮะ  Mr. Green Mr. Green Mr. Green อีกตัวอย่างหนึ่งที่คนเค้าชอบยกมาก็คือ กลุ่มเซ็นทรัล )

จีนกวางตุ้ง -- เชี้ยพิ้งบ่อเชี่ยปู่ หัวเราะเยาะคนจน แต่จะชื่นชมคนรวย (รวยด้วยวิธีการอย่างไรไม่สำคัญขอให้มีเงินก็แล้วกัน)

แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไป นิยามของ "คนไทย" เมื่อหลายสิบปีก่อน กับ "คนไทย" ในยุคนี้ มันคนละเรื่องกันเลย

ก็เลือกพิจารณาเอาว่า จะหลงไปกับทัศนคติแบบเหมารวมในแง่ลบแบบผิวเผิน ฉาบฉวย หรือจะมองในแง่ปัจเจก หรือจะศึกษาวิเคราะห์เจาะลึกต่อว่าปัญหาอยู่ที่ทัศนคติของคนมองที่หลงตัวเอง แต่อคติกับคนอื่น หรือไม่ 



อ้าววว  สรุปว่า เหลี่ยม นี่มัน จีนเเคระ หรือ... ผมนึกว่ามันเป็นพวก จีนเตี๊ยะ ซะอีกกกก
 
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #341 เมื่อ: 08-03-2008, 21:22 »

รู้สึกจะเคยมีรูป ทักษิณไปไหว้บรรพบุรุษที่เมืองจีน

มีเจ๊หน่อยแต่งชุดจีน ไปร่วมงาน

คนอีสานก็คล้ายๆ กรุงเทพ มีคนจีนไปตั้งรกรากกันมานาน

ผสมผสานเชื้อสายจากลาวเวียง ลาวจำปาศักดิ์

ช่วงพระวอพระตา อพยพผู้คนขามโขงมา เพื่อมาอาศัยเจ้าลาวจำปาศักดิ์ ก็ทิ้งผู้คนตามรายทางไว้เป็นกลุ่มๆ เมื่อ 200 ปี

ช่วงตั้งกรุงเทพนั่นแหละ

จะว่าไปก็พวกเจนละบก ที่กลายมาเป็นเผ่า "ศยาม"หรือ "เสียม" อพยพทำมาค้าขายไปทางสุโขทัย ผ่านเพชรบูรณ์

พวกที่ใกล้แม่น้ำโขง มีสัมพันธ์ไทยลาวลึกซึ้ง

บางกลุ่มเป็นญวนปนไทย...นั่นก็ไปอีกเชื้อชาติ...

แต่บ้านบักใส หรือบ้านเนวิน มีเชื้อสาย เขมร ส่วย ฯลฯ ปะปนกันอยู่เยอะ

อีกด้าน สุรินทร์ บุรีรัมย์ คนชายขอบทุ่งกุลาร้องไห้ ก็เป็นการผสมผสานชาติพันธุ์ที่แปลกไปอีก

การผสมผสานของหลายชาติพันธุ์ ในอีสานจึงหาคำนิยามยากครับว่า จริงๆ แล้ว คำว่า "คนอีสาน" คืออะไร

อยากรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับคนอีสาน ต้องอ่าน "ไทยน้อย ไทยใหญ่ ไทยสยาม" ของอาจารย์ศรีศักดิ์  และสุจิตต์ วงษ์เทศ

ไม่ก็ไปอ่านผลงานอาจารย์ธิดา ศาลายา

พวกชอบสรุปอะไรแบบมักง่าย ผมถึงบอกว่า พวกตาบอดคลำช้าง
บันทึกการเข้า

personal jesus
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 632



« ตอบ #342 เมื่อ: 08-03-2008, 21:35 »


อยากร้องไห้ กับ หัวเราะ สลับ กันไป ใช้อะไรคิดกัน????
แก๊งลักนอตทำวุ่น เสาไฟแรงสูงล้ม! ดูมันทำ !!! ใครจะเดือดร้อนก็ช่าง



โจรมักง่ายถอดนอตเสาไฟฟ้าแรงสูงล้มระเนระนาด ทำไฟฟ้าดับป่วนไปทั่วเมือง ทำมั่วนิ่มแกล้งไปตกปลาย่านหนองจอก เพื่อนร่วมแก๊งถอดนอตยึดเสาไฟฟ้าแรงสูง 36 ตัว จนเสาไม่มีแรงยึด กระชากสายไฟฟ้าแรงสูงขาดกระเด็น ตัดขาดระบบสายส่งภาคตะวันออก-กรุงเทพฯ กระแสไฟฟ้า 5 แสนโวลต์วิ่งลงดินจนไฟลุกพึ่บไหม้ทั่วทุ่ง ค่าเสียหายประมาณ 7 ล้านบาท ไม่นับค่าเสียโอกาสที่ไฟดับและเสียความเชื่อมั่น รองผู้ว่าฯกฟผ.แฉตรวจพบเสาไฟแรงสูงย่านฉะเชิงเทรา-ปราจีนบุรี กว่า 20 ก.ม. เจอถอดนอตไปแล้ว 18 ตัน ลักขายร้านของเก่าก.ก.ละ 10-12 บาท ทั้งที่กฟผ.ซื้อมาก.ก.ละ 50-60 บาท ส่วนในภาคอีสาน โคราช ขอนแก่น อุบลฯ ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม ชาวบ้านขโมยไปใส่รถอีแต๋นเพราะมีขนาดเดียวกัน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 มี.ค. ร.ต.ท.จาตุรนต์ จันทรวรชาต ร้อยเวรสน.หนองจอก กทม. รับแจ้งเหตุเสาไฟฟ้าแรงสูงล้ม บริเวณพื้นที่จัดสรรหมู่บ้านเกษตรปรีชา หมู่3 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดตรวจสอบพร้อมด้วยพล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.3 พ.ต.อ.นักรบ สุดใจ รองผบก.น.3 พ.ต.อ.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผกก.สน.หนองจอก และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบเสาไฟฟ้าแรงสูง ความสูงประมาณ 50 เมตร หักล้มได้รับความเสียหาย เสาไฟฟ้าดึงสายไฟที่ยึดติดอยู่ขาดทั้งหมด ทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวไฟฟ้าดับ ใกล้กันเจ้าหน้าที่พบถุงพลาสติกภายในบรรจุนอตที่ใช้ยึดเสาไฟฟ้าแรงสูงกว่า 100 ตัว น้ำหนักรวม 20 กิโลกรัม ประแจเลื่อน 1 อัน ขวดน้ำมันหล่อลื่นและรองเท้าแตะของคนร้ายตกอยู่ บริเวณฐานของเสาไฟฟ้าแรงสูง พบเหล็กที่ใช้ประกบยึดฐานเสาไฟฟ้าตกอยู่ นอกจากนี้พบคราบน้ำมันหล่อลื่นบริเวณโคนเสาไฟฟ้าแรงสูงต้นที่ 3 ฝั่งตะวันตก ซึ่งคาดว่าคนร้ายจะใช้ทา เพื่อให้ถอดนอตง่ายขึ้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญนายเอกสิงห์ เกิดกำไร เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย กฟผ. มาให้ข้อมูลด้านเทคนิค

พล.ต.ต.อนันต์กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกระจายกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน โดยมุ่งไปที่คนร้ายที่มีพฤติกรรมเคยก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้ สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากดูจากพฤติกรรมที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ มีความเชี่ยวชาญและชำนาญมาก อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

ด้านนายวิเชียร เนียมสอน หัวหน้ากองบำรุงรักษาสายส่งกฟผ. กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่ารุนแรงมาก เนื่องจากเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ล้มเป็นเสาไฟแรงดันขนาด 500,000 โวลต์ เมื่อเสาไฟฟ้าล้มลง ทำให้การเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าของภาคตะวันออกและกรุงเทพฯ ถูกตัดขาด เบื้องต้นตรวจสอบพบว่ามีคนร้ายได้ถอดนอตบริเวณฐานของเสาไฟฟ้า ซึ่งเสาไฟฟ้าแรงสูงเกือบทั้งหมดจะมีนอตยึดบริเวณฐานประมาณ 36 ตัว ซึ่งคนร้ายน่าขโมยนอตที่ยึดฐานกับเสาไฟฟ้าไปจำนวนมาก ทำให้ฐานรับน้ำหนักของเสาไม่ไหวและหักล้มลงมา

นายวิเชียรกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบประแจเลื่อน น้ำมันหล่อลื่น และรองเท้าแตะของคนร้ายตกอยู่ โดยก่อนเกิดเหตุมีเด็กที่เล่นน้ำอยู่เห็นกลุ่มชายต้องสงสัยประมาณ 20 คน ขับรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน 2 คัน เมื่อมาถึงกลุ่มชายดังกล่าวได้แยกย้ายกัน โดยบางคนทำทีจะจับปลา ส่วนอีกกลุ่มไปถอดนอต เมื่อเสาไฟฟ้าล้มกลุ่มคนร้ายได้ขึ้นรถหลบหนีไปทางถ.สุวินทวงศ์ ส่วนสาเหตุที่เกิดไฟไหม้บริเวณที่เกิดเหตุ เนื่องจากเมื่อเสาไฟฟ้าแรงสูงล้มทำให้เกิดประกายไฟและลุกลามไหม้หญ้าแห้ง สำหรับมูลค่าความเสียหายนั้น เสาไฟฟ้าแรงสูงจะมีราคาประมาณ 3.6 ล้านบาท สายไฟฟ้าประมาณ 3 ล้านบาท แต่ที่ถือว่าเสียหายมากที่สุดคือค่าเสียโอกาส เนื่องจากทำให้ระบบของกฟผ.ดูไม่มั่นคงและมีผลกระทบต่อการใช้ไฟฟ้า โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการเก็บกู้เสาไฟฟ้าแรงสูงที่ล้มประมาณ 5-6 วัน

"หลังรับแจ้งไม่อยากเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะผมทำงานมากว่า 30 ปี ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ อีกทั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงถือเป็นเสาไฟที่แข็งแรงที่สุดในประเทศไทย โดยเสามีน้ำหนักประมาณ 50 ตัน สำหรับเหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปีพ.ศ.2546 ที่อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ครั้งนั้นประชาชนแจ้งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบทันเวลา เสาไฟฟ้าแรงสูงจึงเอียงลงมาเท่านั้น โดยจากการตรวจสอบพบว่าถูกขโมยนอตเช่นกัน" หัวหน้ากองบำรุงรักษาสายส่งกล่าว

นายวิเชียรกล่าวอีกว่า ตอนนี้กฟผ.ถูกคนร้ายขโมยนอตยึดเสาไฟฟ้าไปเกือบทั่วประเทศ มีเพียงพื้นที่ภาคใต้เท่านั้นที่ถูกขโมยน้อยที่สุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้สำรวจเสาไฟฟ้าในจ.ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี ระยะทางประมาณ 20 ก.ม. พบว่าถูกขโมยชิ้นส่วนต่างๆของเสาไฟฟ้าน้ำหนักรวมประมาณ 18 ตัน โดยส่วนมากคนร้ายจะนำนอตที่ขโมยมาได้ไปขายตามร้านรับซื้อของเก่าในราคา 10-12 บาทต่อกิโลกรัม แต่กฟผ.ต้องซื้อนอตมาในราคา 50-60 บาทต่อก.ก. ต่อมาเจ้าหน้าที่กฟผ.ได้เชื่อมนอตยึดติดกับเสาไฟฟ้า แต่คนร้ายยังหาวิธีการมาขโมยนอต อาทิ ใช้น้ำกรดและน้ำมันหล่อลื่น จึงอยากฝากไปยังประชาชนหากพบเห็นคนร้ายที่มีพฤติกรรมขโมยนอตเสาไฟฟ้ากรุณาแจ้งมาที่ 0-2436-2413-4 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ควบ คุมตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุขโมยนอตยึดเสาไฟฟ้าแรงสูงมาสอบปากคำ โดยจากการสอบสวนเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยดังกล่าวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายจำนงค์ วงศ์สว่าง รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่าพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดคือจ.พระนครศรีอยุธยาและปราจีนบุรี ขณะนี้ได้หารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ค้าของเก่าในพื้นที่ให้ความร่วมมือกับทางการด้วยการไม่รับซื้อเหล็กที่ขโมยมาจากเสาไฟฟ้าแรงสูง ขณะเดียวกันกฟผ.ได้ขันหัวนอตแน่นขึ้น ซึ่งสามารถช่วยป้องกันการขโมยได้ระดับหนึ่ง

นายปรีชา จูสิงห์ ผอ.ฝ่ายปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กฟผ. กล่าวว่าชิ้นส่วนของโครงเหล็กเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ตั้งอยู่ตามพื้นที่ชนบท ซึ่งตามโครงสร้างมีนอตยึดระหว่างโครงเหล็กเพื่อกันไม่ให้ล้ม แต่ละเสามีนอตมากกว่า 1,000 ตัว ปัจจุบันในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม มีคนขโมยถอดเหล็กชิ้นส่วนของเสาไฟฟ้าแรงสูง โดยเฉพาะนอตและแผ่นเหล็กฉากความยาวประมาณ 3 เมตรไปจำนวนมาก สืบทราบว่าบางส่วนนำไปขาย แต่บางส่วนนำนอตไปใช้กับรถไถนาเดินตาม หรือรถอีแต๋น เพราะมีขนาดเดียวกัน



http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOakE0TURNMU1RPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09DMHdNeTB3T0E9PQ==
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2008, 21:41 โดย enjoy the silence » บันทึกการเข้า

ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #343 เมื่อ: 08-03-2008, 22:09 »

^
^

พอใจรึยัง 
คนอั*** มันมีทุกภาคแหละครับ

รวบแก๊งวัยรุ่นข้ามถิ่นขโมยยางแผ่น
ตำรวจรวบยกทีม 4 หัวขโมยวัยรุ่นเมืองคอน อายุระหว่าง 17-22 ปี เห็นยางมีราคาดี เลยรวมพวกบึ่งรถเครื่องออกจากจังหวัด ข้ามไปลักยางแผ่นชาวบ้าน อ.ห้วยยอด ขายหาเงินเที่ยว

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม สายตรวจ สภ.ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ร่วมกับสายตรวจชุมชน อ.รัษฎา จับกุมกลุ่มวัยรุ่นขณะลักยางพาราแผ่นในท้องที่หมู่ 1 ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด พร้อมด้วยของกลางยางพาราแผ่น 63 แผ่น มูลค่าประมาณ 5,200 บาท รถจักรยานยนต์ ซูซูกิ สีม่วง ดำ ทะเบียน ขพต 956 นครศรีธรรมราช และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ สีม่วง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน นำส่ง ร.ต.อ.จรูญ เอียดสีทอง ร้อยเวร สภ.อ.ห้วยยอด สอบสวนดำเนินคดี

ผู้ต้องหาประกอบด้วย 1.นายสมพงษ์ สงวนเชาว์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169/1 หมู่ 1 ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช 2.นายสุพล ด้วงฤทธิ์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122/5 หมู่ 2 ต.หินตก 3.นายอาณัติ พิศแลงาม อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 375 หมู่ 1 ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ 4.นายพล (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาว ต.เสาธง

ร.ต.อ.จรูญ เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากสายตรวจ สภ.อ.รัษฎา ได้วิทยุแจ้งว่ามีชายวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน นั่งซ้อนท้ายกันมารวม 4 คน ตามเส้นทางถนนสาย อ.รัษฎา โดยขนยางพาราแผ่นด้วยท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.ต.ห้วยนาง จึงประสานสายตรวจ สภ.อ.รัษฎา ให้สกัดกลุ่มดังกล่าว ก่อนออกติดตามไป จนร่วมกันควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้บริเวณสามแยกบ้านควนยอม ถ.บ่อล้อ-ลำทับ หมู่ 7 ต.หนองปรือ อ.รัษฎา นำมาสอบปากคำที่โรงพักก่อนแจ้งข้อหา

ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ช่วงนี้ยางพารามีราคาดี พวกตนจึงร่วมกันขี่รถจักรยานยนต์มาออกจาก จ.นครศรีธรรมราช มุ่งไปที่พื้นที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เพื่อลักยางพาราแผ่นโดยเฉพาะ โดยใช้ช่วงกลางดึกซึ่งปลอดผู้คน หลังจากได้ยางตามต้องการแล้วจะนำไปขายตามร้านรับซื้อยางพาราทั่วไปในจังหวัด แล้วนำเงินมาแบ่งกันใช้เที่ยวเตร่ จนกระทั่งถูกจับกุมได้ดังกล่าว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบสวนในที่เกิดเหตุ เลขที่ 280 หมู่ 1 ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด เพื่อสอบถามนางอุบล คงพรรณ อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านว่ายางพาราแผ่นหายไปหรือไม่ โดยเจ้าของบ้าน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนหลับอยู่ในบ้าน จึงไม่ทราบว่ายางพาราแผ่นที่ตากทิ้งไว้ในโรงรีดยางด้านหลังบ้านหายไปรวม 43 แผ่น ส่วนของนายไกรทิพย์ ไกรนรา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 1 ต.ห้วยนาง ยางพาราได้หายไป 20 แผ่น เช่นกัน

http://www.komchadluek.com/news/2005/08-22/cri-18397363.html

 
บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #344 เมื่อ: 08-03-2008, 22:13 »

ลุงแคน
ผมไปเจอบทความของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของภาค xx
เขาบอกว่าพรรคของเขาเลยน๊า....
มิน่าล่ะ 5555
เอาไปเถอะ ไม่มีใครอยากได้หรอก

"พรรคของเราคนของเรา" ...ประชาชนได้อะไร !?



หลังพรรคประชาธิปัติย์มีการอนุมัติให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ในองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นลงในนามพรรคทั้ง ในส่วนของเทศ บาลและ
องค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้ง 8 แห่งในภาคใต้ ได้แก่ นายอำนวย บัวเขียว อบจ. ชุมพร,นายนภา นาทีทอง อบจ.ระนอง,นายธานี เทือกสุบรรณ อบจ.สุราษฎร์ธานี,นางอั
ญชลี วานิช เทพบุตร อบจ.ภูเก็ต,นายสุพัฒน์ ธรรมเพชร อบจ.พัทลุง,นายธานินทร์ ใจสมุทร อบจ.สตูล,นายดาวุด ซา อบจ.ยะลาและนายไพร พัฒโน เทศบาลนครหาดใหญ่
เริ่มมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองและมีประเด็นที่น่าสนใจเกิดขึ้นว่า การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นลงในนามพรรคของพรรคประชาธิปัตย์นั้น
ก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองหรือไม่ และการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของพรรคประชาชนได้อะไร เมื่อพรรคประชาธิปั
ตย์คือพรรคของคนใต้

หลังพรรคประชาธิปัตย์อนุมัติให้นายสุพัฒน์ ธรรมเพชร อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 6 สมัยลงสมัครนายกอบจ.จังหวัดพัทลุงก็เกิดกระแสข่าวว่าบรรดาสมาชิกสภา
องค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุงและว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ต่างย้ายทีมมาเข้ากับนายสุพัฒน์ ธรรมเพชร อีกทั้งความแน่ชัดที่นายสานันท์
สุพรรณ ชนะบุรี นายกอบจ.พัทลุงคนปัจจุบันเริ่มไม่ชัดเจนว่าจะลงสมัครอีกหรือไม่ ทั้งที่เหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนก็จะหมดวาระลง
ย้อนกลับไปดูการเลือกตั้งอบจ.พัทลุงครั้งที่แล้วที่นายสานันท์ ได้รับการสนับสนุนจากนายนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในขณะที่นายสุพัฒน์
สนับสนุนนายบันเทิง วรศรี ลงนายกอบจ. มาครั้งนี้นายสุพัฒน์ ธรรมเพชร ยอมสละเก้าอี้ ส.ส.ส่งลูกสาวลงส.ส.แทน ตนหันมาลงสนามการ เมืองท้องถิ่นอย่างอบจ.ทำให้นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.ในมุ้งเดียวกันต้องถอยออกมา นายสานันท์ ขณะนี้จึงดูเหมือนไร้คนสนับสนุน ในสนามการเมืองภาคใต้ที่ยังขายความเป็นประชาธิปัตย์
นายสุพัฒน์ ธรรมเพชร ว่าที่ผู้สมัคร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุงและอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคมีมติอนุมัติให้ตนลงสมั
ครนายกอบจ.ในนาม พรรคแล้ว ด้านความแน่ชัดว่าใครบ้างที่จะมา เป็นคู่แข่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ยังไม่มีใครเปิด ตัวชัดเจน ด้านนายสานันท์ นายกอบจ.คนปัจจุบันจะลงสมัครหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ส่วนกระแสข่าวที่ว่าสมาชิกสภาองค์ การบริหารส่วนจังหวัด ต่างย้ายทีมมาอยู่กับ ตนขณะนี้ส.จ.เก่าจำนวน 26 คนมาอยู่กับตน ทั้ง นี้ส.จ.ทั้งหมดล้วนเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั้งสิ้นและแจ้งความประสงค์ที่จะลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ทั้งสิ้นเพราะฉะนั้น ส.จ.ทั้งหมดคือคนของพรรคประชาธิปัตย์และตนก็เป็นส่วนหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์
ด้านความได้เปรียบเสียเปรียบที่ตนลงในนามพรรคประชาธิปัตย์นายสุพัฒน์ กล่าวว่า มีทั้งความได้เปรียบและเสียเปรียบ ที่ผ่านมาทั้ง การเมืองท้องถิ่นและ
การเมืองระดับชาติเข้ากัน ไม่ได้ทำให้มีปัญหาเรื่องการพัฒนาจังหวัด เวลาส.ส.คิดอย่างไรท้องถิ่นไม่ได้คิดตาม ถึงเวลาแล้วที่พรรคประชาธิปั
ตย์ต้องเป็นพรรคแรกที่ทำให้การเมืองท้องถิ่นและการเมืองระดับชาติไปด้วยกันได้ ในวันนี้ถึงพรรคไม่ได้เป็นรัฐบาลแต่นโยบายของพรรคก็สามารถนำมาใช้ได้
ในจังหวัดพัทลุงที่ผ่านมาการเมืองท้อง ถิ่นกับการเมืองระดับชาติไม่เอื้อต่อกันทำให้มี ปัญหาในการพัฒนาพัทลุงเพราะฉะนั้นหากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจั
บมือกันเป็นเครือข่ายร่วมกันพัฒนากับการเมืองระดับชาติ หากการพัฒนาไปกันได้จะเป็นประโยชน์ ต่อบ้านเมืองและประชาชนได้ประโยชน์
ส่วนความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้ง นี้ตนมีความพร้อมมานานแล้ว ตนรอที่จะลง สมัคร นายกอบจ.มานานแล้วตามที่พรรคต้องการให้ตนลงส่วนคู่แข่งนั้น ยั
งไม่มีการเปิดตัวแต่อย่างใดนายสุพัฒน์กล่าวและว่า
ด้านนายสานันท์ สุพรรณชนะบุรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด พัทลุง กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่มีการเปิดตัวว่าจะลง สมัครอีกครั้ง หรือไม่ต้องรอหลังหมดวาระ
ส่วนเรื่องส.จ.ที่ไปอยู่กับนายสุพัฒน์นั้นตนไม่ทราบและไม่ขอให้ความคิดเห็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ส่งคนลงในนามพรรค
ด้านสนามการเลือกตั้งอบจ.สตูลซึ่งขณะนี้มีความแน่ชัดแล้วว่าจะมีผู้สมัครลงชิง นายกอบจ. 3คน คือนายธานินทร์ ใจสมุทร อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งลงสมั
ครในนามพรรคประชาธิปัตย์ นายปัจจุบัน อังโชติ พันธ์ อดีตนายกอบจ.และนายวิทูร หลังจิ นายกอบจ.สตูลคนปัจจุบัน
นายธานินทร์ ใจสมุทร อดีตส.ส. พรรคประชาธิปัตย์และว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.สตูลในนามพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า การเลือกตั้งอบจ.ครั้งนี้พรรคมีมติให้ตนลงใน นามพรรคประชาธิปัตย์ คนสตูลส่วนใหญ่ให้ การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว นี้เป็นครั้งแรกที่พรรคส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นในนามพรรค ด้านความได้เปรียบเสียเปรียบนั้นขณะนี้ยังมองไม่ออก ตนเป็นทีมเดียวที่ส.จ.ในการลงสมัครครั้งนี้เป็นทีมนอกนั้นลงนายกอบจ.คนเดียวทั้งสิ้น และตน มีความพร้อมเต็มที่สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ส่วนการลงในนามพรรคหรือไม่ลงในนามพรรคนั้น ตนมองว่ามีความแตกต่างกันมาก การที่พรรคสนับสนุนมีข้อดีที่ว่า เหมือนมีคนรับรองในเรื่องตัวผู้สมัคร ในความโปร่งใสในการทำงาน เหมือนมีพี่เลี้ยงทั้งในการตรวจสอบการทำงาน การจะทำอะไรต้อง คำนึงถึงพรรคด้วยเพราะเราเป็นคนของพรรคนายธานินทร์ กล่าว ด้านนายปัจจุบัน อังโชติพันธ์ อดีตนายกอบจ.กล่าวว่า ตนไม่ได้ให้ความสนใจว่าใครจะลงสมัครครั้งนี้ในนามอะไร ตนมอง ว่าเป็นผู้สมัครคนหนึ่งที่เข้ามาในสนามการเลือกตั้งอบจ.ซึ่งเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่น ด้านความได้เปรียบเสียเปรียบนั้นขึ้นอยู่กับพี่น้อง ประชาชนที่ต้องรับรู้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็น การเลือกตั้งอะไร แบบไหน เป็นการเมืองใหญ่ หรือการเมืองท้องถิ่นประชาชนจะตัดสินใจเอง ความได้เปรียบเสียเปรียบอยู่ที่ว่าใครจะมีกลยุทธ์การหาเสียงแบบไหน ความพร้อมที่จะเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชนต่างหากที่เป็นความได้เปรียบ และหากพูดถึงความพร้อมตนเป็นคนแรกที่ขึ้นป้ายหาเสียงเป็นคนแรกในจังหวัดสตูล ตนมีความพร้อมที่จะเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชนจริงๆ โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกั
บพรรคหนึ่งพรรคใด
การแข่งขันครั้งนี้ตนไม่ได้กังวลว่าใครเข้ามาเป็นคู่แข่งหรือใช้ยี่ห้ออะไรมาลงแข่ง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพร้อม ด้านความมั่นใจตนมีความมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนจะ
ได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าต้องการคนแบบไหน คนที่เป็นนักการเมืองมา หลายสมัยแต่เคยทำอะไรเพื่อชาวบ้านบ้างประชาชนรู้ดีว่าใครเป็นอย่างไร
เป็นใครมาจากไหน จะมาหลอกลวงประชาชนอีกไม่ได้ ประชาชนน่าแยกแยะได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้ง แบบไหนและเลือกคนเข้าไปทำอะไร ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนดูแลพี่น้องประชาชนมาตลอดเพราะฉะนั้น ฐานเสียงจึงมีอยู่ในทุกๆ กลุ่ม ตนสามารถยืนอยู่ได้ โดยไม่ต้องพึ่งการทำมาหากินทางการเมืองพร้อมที่จะทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง
ด้านนายวิทูร หลังจิ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็นเรื่อง ความได้เปรียบเสียเปรียบทาง การเมืองที่ใครลงในนามพรรคหนึ่งพรรคใด ตนมองการแข่งขันการเลือกตั้งอบจ.ครั้งนี้เหมือนครั้ง ที่ผ่านมา และมีความพร้อมที่จะรับใช้พี่น้องประชาชนมากกว่าครั้ง
ที่ผ่านมาเนื่องจากตนบริหารงานมาแล้วถึง 4 ปี
ด้านนายประสงค์ สุวรรณวงศ์ หรือปลัดอ๋อย หนึ่งในผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกเทศ มนตรีนครหาดใหญ่กับนายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ที่ลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่พรรคลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นสิทธิส่วนบุคคล ที่แต่ละคนจะมีผู้ให้การสนับสนุน ให้การช่วยเหลือ ตนไม่ขอให้ความคิดเห็นอะไรมากกว่านี้ อ.จรูญ หยูทอง นักวิจัยสถาบันทักษิณคดีศึกษาและนักวิชาการท้องถิ่น ให้ความเห็นเกี่ยวกับการที่พรรคประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในองค์การปกครอง ส่วนท้องถิ่นลงในนามพรรค ว่า ตนคิดว่าการ ลงสมัครในนามพรรคนั้นเป็นความประสงค์ของผู้สมัครที่ต้องการลงในนามพรรคเพราะในพื้นที่ภาคใต้การลงในนามพรรคประชาธิปัตย์นั้นทำให้ได้เปรียบคู่ต่อสู้
ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกของนักการเมืองท้องถิ่น ในภาคใต้ที่ต้องการให้ประชาชนรับรู้ว่าตนเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์แต่ประชาชนจะได้ประโยชน์หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากคนที่พรรคส่งลงในนามพรรคเป็นคนดีก็ดีไปแต่ถ้าคนที่พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนไม่ดีตามที่คาดหวังก็จะทำ ให้ประชาชนเสียประโยชน์ เพราะในพื้นที่ภาคใต้
ตรรกะของการเลือกคือเลือกเพราะเป็นประชาธิปัตย์ไม่ได้เลือกคนที่คุณภาพ การที่พรรคจะสนับสนุนใครลงในนามพรรคนั้นควรดูที่คุณสมบัติอื่นนอกเหนือจาก ความเป็นสมาชิกพรรค แต่ส่วนใหญ่ในภาคใต้นักการเมืองท้องถิ่นล้วนเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งสิ้นการจะได้ลงในนามพรรคหรือไม่ขึ้นอยู่กับความใกล้ชิดกับผู้บริหารพรรคเป็นสำคัญ การตัดสินใจเลือกของประชาชนส่วนใหญ่จึงดูว่าใครเป็น ประ ชาธิปัตย์มากกว่ากัน ใครเป็นคนของใครไม่ใช ่เรื่องเสียหายแต่การสนับสนุนใครควรดูที่คุณภาพของคนด้วย ถึงแม้เป็นคนของประชาธิ ปัตย์แต่ไม่มีศักยภาพก็ไม่น่าจะเป็นคนชี้ขาด ไม่ควรตัดโอกาสคนที่มีคุณภาพแต่ไม่มีโอกาสสังกัดพรรค ที่สำคัญคือประชาชนจะได้ประโยชน์จากการเมืองที่แท้จริง
ด้านความได้เปรียบเสียเปรียบทาง การเมืองการลงในนามพรรคประชาธิปัตย์โดยเฉพาะภาคใต้ ก่อให้เกิดความได้เปรียบทางการเมืองอย่างแน่นอน ซึ่งค่อนข้างขัดแย้งกับความเป็นจริงที่ว่าในอดีตใครสังกัดพรรคฝ่ายรัฐบาลจะได้เปรียบแต่ในภาคใต้ใครสังกัดพรรคฝ่ายค้านกลับได้เปรียบ ประชาชนควรพิจารณาคุณสมบัติอย่างอื่นด้วยประชาชนผู้เลือกควรเป็นผู้ตัดสิน กลายเป็นค่านิยมที่นักการเมืองท้องถิ่นในภาคใต้ต้องสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ด้วยเพราะหาเสียงได้ง่าย โอกาสชนะมีสูง ไม่ต้องทำอะไรมากก็ได้รับการเลือกจากพี่น้องประชาชน เราจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีดุลพินิจที่กว้างขึ้น ไม่ผูกติดอยู่กับพรรคหรือมติพรรค ยิ่งใน ปัจจุบันที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านด้วยแล้วไม่มีสิ่งใดยืนยันได้ว่าการลงในนามพรรคประชาธิปัตย์แล้วประชาชนจะได้ประโยชน์ ต้องถามประชาชนว่าคาดหวังอะไรจากการเมืองบ้าง ที่เราเลือกผู้แทนทุกวันนี้เราเลือกเป็นประเพณีนิยม เรื่องตามกันมาหรือไม่ ตนไม่ออกว่านโยบายของนักการเมืองท้องถิ่นที่จะนำมาแก้ไข พัฒนาท้องถิ่นของตน มีอะไรบ้างนอกจากการวิ่งเต้นเพื่อสังกัดพรรคใดพรรคหนึ่งภาคใต้กลายเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้นำเอาการเมืองมาแก้ไขปัญหาในพื้นที่แต่เป็นการนำการเมืองมาประดับ การเมืองต้องกินได้ ต้องแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนได้ การลงในนามพรรค การสังกัดพรรคเป็นเกมส์การเมือง เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้ตั
ดสิน
ในความคิดเห็นส่วนตัวตนมองว่านัก การเมืองท้องถิ่น ไม่ควรสังกัดพรรค เพราะพรรคสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบให้เกิดขึ้น และการสังกัดพรรคหรือลงในนามพรรคนั้นตนมองว่าควรจะสังกัดพรรครัฐบาลมากกว่า เพื่อสามารถดึงงบประมาณมาพัฒนาท้องถิ่นได้ง่ายกว่า ถ้านักการเมืองสังกัดพรรคจะก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องการพัฒนาเนื่องจากในพรรคเดียวกันก็มีการแบ่งขั้วกันเอง เกิดการแข่งขันเพื่อเอาชนะกันถามว่าประชาชนได้อะไร การพัฒนาในบางพื้นที่เกิดเงื่อนไข ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย นอกจากนั้นก่อให้เกิดความแตก แยกในหมู่ประชาชน
ด้านดร.บูฆอรี ยีหมะ ประธานกรรม การสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยา ลัยราชภัฎสงขลา กล่าวว่า การส่งนักการเมืองท้องถิ่นลงสมัครในนามพรรคการเมือง เป็นสิ่งที่มีมานานแล้ว เพียงแต่ในช่วงที่ผ่านมาอาจยังไม่มีความชัดเจน เป็นที่น่าสังเกตว่าที่ผ่านมาส.ส.หรือนักการเมืองระดับชาติบางคนก็มีการสนับสนุนนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็มีการสนับสนุนกันคนละคนและล้วนแต่เป็นประชาธิปัตย์ด้วยกันทั้งหมด ที่ผ่านมาการเมืองระดับชาติให้การสนับสนุนการเมืองท้องถิ่นในลักษณะเป็น การส่วนตัวมากกว่า คือเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ส่วนตัวกับคนในพรรค
ความพยายามจะส่งคนลงในนามพรรค ก่อให้เกิดปัญหาขึ้นเนื่องจากส.ส.ในพรรคเองก็จะมีนักการเมืองท้องถิ่นในเครือข่ายที่แตกต่างกันก่อให้เกิดความขัดแย้งกันเอง และจะเห็นว่าในพื้นที่จังหวัดที่พรรคส่งคนลง ในนามพรรคนั้น เป็นพื้นที่ที่พรรคเห็นแล้วว่า การส่งใครคนใดคนหนึ่งลงในนามพรรคนั้น จะไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง หรือมีสมัครที่ลงแข่งมีตัว แทนของพรรคเพียงคนเดียว
การที่การเมืองระดับชาติเข้ามาสนับ สนุนการเมืองท้องถิ่นย่อมก่อให้เกิดความได้เปรียบ ในกรณีของภาคใต้ใครลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ย่อมได้เปรียบ คือ
ความเป็นพรรคทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในความพร้องและทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกับการ เมืองระดับชาติทำให้สะดวกในการประสาน ประโยชน์ด้านงบประมาณ ด้านพัฒนาท้องถิ่นได้ นอกจากนั้นยังได้เปรียบใน การหาเสียงเลือกตั้ง โดยการนำแกนนำพรรค มาช่วยเหลือในการหาเสียง
การส่งคนลงในนามพรรคมีทั้งผลดีและผลเสีย ผลดี คือ ทำให้การเมืองท้องถิ่นเชื่อมโยงกับการเมืองระดับชาติในแง่ของแนว ทางในการพัฒนาหากพรรคนั้นเป็นพรรครัฐบาล หากเป็นคนละพรรคหรือพรรคที่นักการเมืองสังกัดเป็นพรรคฝ่ายค้าน ย่อมมีผลต่อแนวทางในการพัฒนาได้เช่นกันซึ่งอาจ ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของท้อง ถิ่นได้ เราจะให้การเมืองท้องถิ่นปลอดจากการเมืองระดับชาติดีหรือไม่และในทางปฏิบัติเป็นอย่างไร
สุดท้ายแล้วการเมืองระดับชาติย่อมเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองท้องถิ่นเพียงแต่ไม่ประกาศตัวว่าเป็นคนของพรรคชัดเจนแต่ในทางปฏิบัตินั้นใช่ จะเห็นว่านักการเมืองท้องถิ่นส่วนใหญ่ในภาคใต้มีความสัมพันธ์อันดีกับนักการเมืองระดับชาติทั้งสิ้น ใครที่ไม่อยู่ในเครือข่ายของพรรคประชาธิปัตย์โอกาสการประสบความสำเร็จก็ยาก คนในสังคมควรร่วมกันอภิปรายว่านักการเมืองท้องถิ่นควรจะสังกัดพรรคการเมืองหรือไม่

ด้านนายชาลี นพวงศ์ ณ อยุธยาผู้อำนวยการ สถานีวิทยุชุมชน เอฟ.เอ็ม 97 เมก กะเฮิร์ซ กล่าวว่า การส่งคนลงในนามพรรค ของพรรคประชาธิปัตย์จะมีผลมาถึงการบริหารท้องถิ่น หากท้องถิ่นเป็นคนของพรรค ทั้งหมดประชาชนต้องมองว่าถ้าส.ส.ทำงานดีก็จะมีผลมาถึงท้องถิ่นด้วยแต่หากส.ส.มีผลงานที่ไม่ดีย่อมมีผลต่อตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งในองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย แน่นอนว่าในพื้นที่ภาคใต้หากใครลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ย่อมได้เปรียบ ทุกวันนี้ที่ประชาชนเลือกประชาธิปัตย์ก็เลือกไปตามกระบวนการไม่ได้เลือกเพราะพิจาร ณาตัวบุคคลว่าดีหรือไม่เป็นการให้ความไว้วางใจกับพรรคเป็นที่ตั้ง

อยากฝากถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่าให้พรรคนึกถึงประชาชนตามสโลแกนที่ว่าประชาชนต้องมาก่อน ต้องฟังเสียงประชา ชนว่า บุคคลที่จะลงสมัครนั้นประชาชนต้องการหรือไม่ การทีผู้บริหารท้องถิ่นหรือนัก การเมือง ท้องถิ่นต้องลงในนามพรรคนั้น ตนมองว่า ประการแรกนักการเมืองหรือผู้บริหารนั้นอาจ ไม่มั่นใจว่าผลงานที่ตนทำนั้นเป็นที่ประทับใจ ของประชาชนและเพื่อตอกย้ำชัยชนะให้กับ ตนเองโดยไม่ต้องมีคู่แข่งและนอกจากนั้น เป็นการเอาเปรียบคนอื่นมากเกินไปหรือไม่เพราะคนในพรรคเองไม่ได้มีเพียงคนเดียวที่ลงสมัคร พรรคเลือกจะสนับสนุนเป็นบางคน การที่นักการเมืองท้องถิ่นลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ประชาชนไม่ได้อะไร เพราะการเมืองท้องถิ่นไม่ได้เกี่ยวข้องนโยบายระดับชาติ คนที่ลงในนามพรรคอาศัยพรรคเพื่อให้เกิดความมั่นใจในชัยชนะแต่ประชาชนไม่ได้อะไรเลย
นอกจากประชาชนไม่ได้อะไรแล้วประชาชนยังเสียโอกาส ที่จะเลือกผู้บริหาร พรรคควรมองประชาชนมาก่อน ในกรณีของจ.พัทลุงมีความชัดเจนที่สะท้อนให้เห็นว่า
พรรคเห็นแก่พวกมากกว่าประชาชน

http://www.focuspaktai.com/index.php?file=news&obj=news.view(id=10185)&PHPSESSID=e9964e23e646d402dec26d316ad98666

หลับหูหลับตากา สส เป็นเอาหนักกว่าอีสานอีกนะเนี่ย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2008, 22:18 โดย ดาร์ธ เวเดอร์ » บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #345 เมื่อ: 08-03-2008, 22:18 »

ขโมยเหล็กฉาก เสาไฟฟ้าแรงสูง มีมานานนับ สิบยี่สิบปีแล้วครับ

เค้าเอาไปทำรถเข็น


ที่นาผมไม่โดน เพราะผมสั่งให้คนช่วยดูแล ในนาผมมีเสาไฟฟ้าแรงสูง 2 ต้น อยู่ในสภาพดีเหมือนเดิม

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเอาเปรียบชาวบ้าน จ่ายเงินทีเดียวหายจ้อย เหมือนโดนเวนคืนนั่นแหละครับ

ที่ดินใต้สายไฟ ทำอะไรไม่ได้เลย บางที่ควรจะขายได้ราคาดี แต่มีเสาแรงสูงอยู่ในที่ดิน หมดโอกาสเลยครับ

ถ้าจะแก้ปัญหานี้ ต้องไปทำสัญญาใหม่กับชาวบ้าน ให้ช่วยดูแล


บันทึกการเข้า

personal jesus
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 632



« ตอบ #346 เมื่อ: 08-03-2008, 22:26 »


ดู ดู๊ ดู ดูมันทำ ทำไมถึงทำกับฉันได้ !!!

หนุ่มกรีก อวดรวย จะซื้อรถ ปลดหนี้ให้ได้แล้วหนี- ภาพงานแต่งงานของนายลีนอส ชาวกรีก และน.ส.นุช (นามสมมติ) สาวชาวหนองคาย ที่บิดามารดาน.ส.นุชใช้เป็นหลักฐานแจ้งจับภรรยาพี่ชายนายลีนอส ฐานหลอกให้ลูกสาวแต่งงานกับฝรั่ง แล้วหลบหนีไปหลังได้หลับนอน

 
หลอกสาวหนองคายให้แต่ง งานกับหนุ่มกรีก อ้างจะสร้างบ้านใหม่ ซื้อรถยนต์ปลดหนี้ให้ สุดท้ายเสียทั้งเงิน เสียตัว หนุ่มกรีกหนีกลับประเทศลอยนวล เผยสาวใหญ่อ้างน้องของสามีที่เป็นชาวกรีกอยากมีเมียคนไทย จะแต่งงานด้วยแต่ห้ามเรียกสินสอดทองหมั้น จัดงานแต่งงานใหญ่โต และไปอยู่ด้วยกัน 15 วัน จนหนุ่มกรีกกลับประเทศจึงรู้ว่าถูกหลอก เพราะไม่เคยได้เงินแม้แต่บาทเดียว แถมยังเสียตัวไปแล้ว ตร.เตือนสาวที่อยากมีสามีฝรั่งระวังถูกหลอก เพราะแก๊งนี้ลวงมาแล้วหลายราย

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ม.ค. พ.ต.ท.เนรมิตร นนสะเกตุ สารวัตรเวรสภ.เมืองหนองคาย รับแจ้งจาก ญาติของน.ส.นุช (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ว่า ถูกนางพวงเพชร บานเย็น อายุ 43 ปี กับสามีชาวต่างชาติ หลอกลวงให้ลูกสาวแต่งงานกับฝรั่งแล้วหลับนอนด้วย จากนั้นหลบหนีไป

ญาติของน.ส.นุชให้การว่า นางพวงเพชรซึ่งเป็นญาติกัน มีสามีชาวต่างชาติ ชื่อนายนิโคร ไม่ทราบนามสกุล ชาวกรีก และนายนิโครมีน้องชายชื่อ นายลีนอส เมื่อปลายปี 2550 นางพวงเพชรบอกว่าต้องการหาแฟนให้นายลีนอส จึงมาทาบทามน.ส.นุช โดยบอก ว่านายลีนอสจะช่วยสร้างบ้านหลังใหม่ ซื้อรถยนต์ และปลดหนี้สินให้ แต่ไม่ให้ตนขอสินสอด ขณะนั้นน.ส.นุชทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ จึง เรียกตัวน.ส.นุชกลับมาให้นายลีนอสดูตัว ปรากฏว่านายลีนอสพึงพอใจ และกำหนดหมั้นหมายกันในวันที่ 2 ธ.ค.2550 แล้วค่อยหาฤกษ์แต่งงานภายหลัง

ญาติของน.ส.นุชกล่าวว่า ต่อมานางพวงเพชรมา บอกว่า ต้องเร่งแต่งงานให้เร็วขึ้น เพราะนายลีนอสจะรีบกลับประเทศกรีซ เพื่อไปขายที่ดินนำเงินมาให้น.ส.นุช ตนจึงจัดงานแต่งงานให้น.ส.นุชกับนายลีนอสในวันที่ 3 ธ.ค.2550 มีชาวบ้านมาเป็นสักขีพยานจำนวนมาก ซึ่งนางพวงเพชรบอกว่าจะนำเงินสดมาให้ 199,999 บาท เป็นค่าสินสอดในภายหลัง เมื่อเสร็จพิธีแต่งงานในช่วงเช้า ตอนเย็นนางพวงเพชรกับสามีก็มารับตัวน.ส.นุชไปอยู่กินกับนายลีนอสที่บ้านของนางพวงเพชร เป็นเวลา 15 วัน จากนั้นนางพวงเพชรและสามีก็นำตัวนายลีนอสไปประเทศกรีซ ส่วนน.ส.นุชจึงกลับมาอยู่กับครอบครัว

ญาติของน.ส.นุชให้การต่อว่า เมื่อนายลีนอสกลับไปแล้ว ได้ส่งข้อความเข้าโทรศัพท์มือถือน.ส.นุชบอกว่า ตั้งแต่ก่อนแต่งงานกับน.ส.นุชหมดเงินไปแล้ว 4 แสนบาท พวกตนจึงเอะใจว่าเงินอยู่ไหน ไม่เคยได้เงินเลยแม้แต่บาทเดียว ค่าจัดงานแต่งงานพวกตนก็จ่ายทั้งหมด ต่อมาต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา นางพวงเพชรกับสามีก็มาที่บ้าน บอกว่านายลีนอสอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ขอให้น.ส.นุชไปหา แต่เมื่อไปถึงกลับไม่ปรากฏชื่อของนายลินอสจองห้องพักแต่อย่างใด น.ส.นุชจึงกลับจ.หนองคายมาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง จึงเชื่อว่าถูกนางพวงเพชรหลอกลวงแน่นอน ซึ่งการกระทำดังกล่าวของนางพวงเพชรได้สร้างความเสียหาย เสียชื่อเสียง และทำให้ลูกสาวอับอายและเสียความบริสุทธิ์ไปอย่างไม่สามารถทดแทนได้ จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังทราบจากชาวบ้านหมู่บ้านอื่นว่า เคยถูกนางพวงเพชรหลอกลวงเช่นเดียวกัน โดยหาชาวต่างชาติมาหลอกแต่งงานกับลูกสาว อ้างว่าจะมาสร้างบ้านหลังใหญ่ ซื้อรถยนต์ให้ โดยให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้ออกเงินจัดงาน เมื่อได้หลับนอนกับฝ่ายหญิงแล้วก็หายตัวไป

พ.ต.อ.จักกฤษณ์ จันทรรัตน์ ผกก.สภ.เมืองหนองคาย กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับหญิงสาวที่ต้องการมีสามีชาวต่างชาติ ขณะนี้พบว่ามีแก๊งหลอกลวงหญิงสาวให้มาแต่งงานกับชาวต่างชาติในพื้นที่จ.หนองคายแล้วหลายราย ใครหลงเชื่อก็ต้องเสียทั้งตัว เสียทั้งเงิน และยังอับอายอีก แต่ก็เป็นการยากที่จะห้ามปราม เพราะยังมีค่านิยมที่ต้องการให้ลูกสาวได้สามีชาวต่างชาติ เนื่องจากหวังว่าจะมีฐานะดีขึ้น มีรายได้ มีบ้านหลังใหญ่ มีรถยนต์ขับ จึงเตือนว่าหากต้องการให้ลูกสาวมีสามีชาวต่างชาติ ให้สังเกตพฤติกรรมและตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจ

http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOVEl6TURFMU1RPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09DMHdNUzB5TXc9PQ==


'ฝรั่งขี้นก'....
คนไทยส่วนหนึ่งยังคิดว่า 'ผมดำ-ผมขาว-ผมทอง' เป็น'ฝรั่ง'หมด.....
เต็มใจขายตัว ขายลูกสาว...



บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #347 เมื่อ: 08-03-2008, 22:31 »

คนอีสานเลือกทุกพรรคถ้าทำดี

อุบลราชธานีก็มี 4 พรรค กระจายกัน ไม่ทุ่มให้พรรคใดพรรคหนึ่ง ให้แข่งกันทำงาน

สำหรับการเมืองต่างจังหวัด การสร้างเครือข่าย สส. สจ. เทศบาล อบต. ถือเป็นเรื่องปกติ

ที่ใดมีการแข่งขัน ที่นั่นก็ต้องหาเพื่อน

ไปตัวคนเดียวโดดๆ แล้วเที่ยวไปด่าคนอื่น ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ดีกว่า แล้วจะไปซื้อใจเค้าได้ยังไง


ด่าเก่งอย่างเดียว คนอีสานไม่เลือกหรอกครับ ต้องมีดี มีผลงาน มีฐานชาวบ้านตลอดเวลา

แม้ตกคราวนี้ คราวหน้ามาใหม่ ทำดีๆ ให้เค้าเห็น เค้าก็เลือกเองแหละ

ถ้าแบบที่ปีกลองเลือกตั้งค่อยโผล่หน้า...หมายังเมินเลยครับ


บันทึกการเข้า

ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #348 เมื่อ: 08-03-2008, 22:39 »

 
เถียงกะ enjoy the silence นี่เหมือนเถียงกะเกรียนในเกมส์ออนไลน์เลย
คงได้แค่ปล่อยมันเห่าไปแหละ

กระทู้นี้เถียงด้วยสาระมีเหตุผลดีเหมือนกันนะ เพียงแต่มีเกรียนมาป่วนนิดหน่อย สีสันดี

 

ปล่อยมันพล่านไป

ส่งท้ายให้

สลดใจ! พ่อแท้ ๆ "ข่มขืน" ลูกสาวอ้างสอน "เพศศึกษา"

             ข่าว รายงานที่จังหวัดสงขลามีพ่อแท้ ๆ ข่มขืน มี sex กับลูกสาวมานานกว่า 10 ปี โดยอ้างว่าการมี sex ดังกล่าวไม่ได้เกิดจากความใคร่ เพียงแค่ต้องการสอน เรื่อง เพศศึกษา ลูกเท่านั้น เชื่อว่าไม่ผิด ศีล 5 เพราะไม่ได้ผิดลูกผิดเมียผู้อื่น


รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ พ.ต.อ.โพธ สวยสุวรรณ ผกก.สภ.หาดใหญ่  เปิดเผยว่าจากกรณี นางอ้อย(นามสมมุติ)  อายุ 60 ปี เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.(หญิง) อมรรัตน์ สุทธิเกิด พนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่  ว่าหลานสาว คือ ด.ญ.น้อย (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ถูกพ่อซึ่งเป็นน้องชายคนละพ่อของตนข่มขืน เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา

           จากนั้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหาย ทราบว่าพ่อแท้ๆ ได้ข่มขืนครั้งแรกเมื่อประมาณปี 2544 จากนั้นก็หยุดไป จนกระทั่งตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งพ่อแยกทางกับแม่ และนำลูกสาวมาเลี้ยง มาเช่าบ้านอยู่ในเมืองหาดใหญ่พ่อก็เริ่มข่มขืนเรื่อยมา จนกระทั่งครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับพ่อของเด็ก ชื่อนายหวัง(นามสมมุติ) อายุ 50 ปี  ชาว อ.จะนะ  จ.สงขลา ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี  ซึ่งศาลจังหวัดสงขลาได้อนุมัติหมายจับเลขที่  751/2550 ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2550 จากนั้นสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสายสืบเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าว

           กระทั่งในวันที่ 5 พ.ย. เวลา 13.30 น. พ.ต.ท.ศักดา เจริญกุล สว.สส.สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ขณะทำงานอยู่โรงไม้แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ นำส่งพนักงานสอบสวน

           ผู้ต้องหาให้การว่าตนเองไม่ได้มีเจตนาที่จะข่มขืนกระทำชำเราบุตรสาวของตัวเองแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการสอนวิชาเพศศึกษาให้บุตรสาว ประกอบกับตนเองได้บวชเรียนมาถึง 9 ปี เชื่อว่าสิ่งที่กระทำกับลูกสาวไม่ผิดเพราะตลอดระยะเวลาที่บวชเรียนมาศีล 5 ก็สอนมาตลอดว่าอย่าผิดลูก ผิดเมียผู้อื่น แต่นี้กระทำกับลูกสาวตัวเองจึงไม่ผิดศีลธรรม และไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย

           แต่ก่อนหน้านี้เคยไปดูดวงหมอดูทักว่าจะติดคุกเพราะลูกสาว ก็คาดว่าคงจะมีเรื่องกับวัยรุ่นที่มาติดพันธ์ลูกสาวไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นนี้ และยืนยันว่าทุกครั้งที่ความสัมพันธ์กับลูกสาวไม่ได้มีด้วยความใคร่ แต่ต้องการสอนเพศศึกษาให้ลูกสาวจริง ๆ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าวเพื่อดำเนินการต่อไป

http://hilight.kapook.com/view/17027

ดีเน๊าะ ไม่ขายลูกกิน เป็นคนดีมากๆเลย แต่ฟาดลูกเองเลย 5 5 5


ตร.หาดใหญ่รวบหนุ่มข่มขืนสาวใบ้ท้อง

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ตร.หาดใหญ่โชว์ฟอร์มรวบผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 รายซ้อนแรก รายแรกเป็นหนุ่มใหญ่ข่มขืนสาวใบ้จนท้องแล้วหนี ส่วนอีกรายเป็นพ่อเฒ่าวัย 59 คดีลักขโมย แต่ยังปากแข็งไม่รับผิด
     
      วันนี้ (7 ม.ค.) เวลาประมาณ 11.30 น. จากการสืบทราบของ พ.ต.ต.เอกรัฐ สวนแสน สว.สส.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่ามีผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับศาลจังหวัดสงขลาที่ 1037/2546 ลงวันที่ 1 พ.ค.46 หนีไปกบดานที่ อ.สทิงพระ จ.สงขลา จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนหาดใหญ่จำนวนหนึ่งพร้อมหมายจับเดินทางเข้าพื้นที่ อ.สทิงพระ
     
      เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงหน้าสถานีอนามัยวัดจันทร์ หมู่ 1 ต.วัดจันทร์ อ.สทิงพระ จ.สงขลา พบผู้ต้องหากำลังเดินอยู่ จึงเข้าแสดงตัวเป็นจนท.เข้าทำการจับกุมตัวทันที ทราบชื่อ นายแสม ศรีสุวรรโณ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/4 หมู่ 7 ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
     
      จึงนำหมายจับให้ดูก่อนแจ้งข้อหานายแสม ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นซึ่งมิใช้ภรรยาตน โดยขู่เข็ญ ด้วยประการใดฯ โดยเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 75/4 หมู่ 7 ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2545 ที่ผ่านมา โดยนายแสมได้ทำการข่มขืน น.ส.ศรัญญา (นามสมมติ) อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นสาวใบ้จนเกิดท้องแล้วหลบหนีไป จึงควบคุมตัวนายแสมส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีต่อไป ในชั้นนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
     
      ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนหาดใหญ่จำนวนหนึ่งพร้อมหมายจับศาลจังหวัดสงขลาที่ 713/2550 ลงวันที่ 5 ต.ค.50 เข้าจับกุมคนร้ายอีก 1 ราย โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงบ้านไม่มีเลขที่ ตรงข้ามซอย 20 ถนนโชคสมาน 5 อ.หาดใหญ่ พบผู้ต้องหากำลังเดินอยู่บริเวณหน้าบ้านดังกล่าว จึงเข้าแสดงตัวเข้าจับกุมทันที
     
      ทราบชื่อคือนายประสิทธิ์ เลื่อนแป้น อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 962 ถนนกาญจนวานิช อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงนำหมายจับให้ดูก่อนแจ้งข้อหานายประสิทธิ์ ข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยใช้ยานพาหนะฯ ตามหมายจับคุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีต่อไปในชั้นนี้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 มกราคม 2551 13:02 น.

http://songkhlatoday.com/index.php?file=focustrendy&obj=forum(24270)

ชอบของฟรีจังเน๊าะ 5 5 5 คนพิการยังไม่เว้น

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2008, 22:43 โดย ดาร์ธ เวเดอร์ » บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #349 เมื่อ: 08-03-2008, 22:50 »

รู้สึกจะเคยมีรูป ทักษิณไปไหว้บรรพบุรุษที่เมืองจีน

มีเจ๊หน่อยแต่งชุดจีน ไปร่วมงาน

คนอีสานก็คล้ายๆ กรุงเทพ มีคนจีนไปตั้งรกรากกันมานาน

ผสมผสานเชื้อสายจากลาวเวียง ลาวจำปาศักดิ์

ช่วงพระวอพระตา อพยพผู้คนขามโขงมา เพื่อมาอาศัยเจ้าลาวจำปาศักดิ์ ก็ทิ้งผู้คนตามรายทางไว้เป็นกลุ่มๆ เมื่อ 200 ปี

ช่วงตั้งกรุงเทพนั่นแหละ

จะว่าไปก็พวกเจนละบก ที่กลายมาเป็นเผ่า "ศยาม"หรือ "เสียม" อพยพทำมาค้าขายไปทางสุโขทัย ผ่านเพชรบูรณ์

พวกที่ใกล้แม่น้ำโขง มีสัมพันธ์ไทยลาวลึกซึ้ง

บางกลุ่มเป็นญวนปนไทย...นั่นก็ไปอีกเชื้อชาติ...

แต่บ้านบักใส หรือบ้านเนวิน มีเชื้อสาย เขมร ส่วย ฯลฯ ปะปนกันอยู่เยอะ

อีกด้าน สุรินทร์ บุรีรัมย์ คนชายขอบทุ่งกุลาร้องไห้ ก็เป็นการผสมผสานชาติพันธุ์ที่แปลกไปอีก

การผสมผสานของหลายชาติพันธุ์ ในอีสานจึงหาคำนิยามยากครับว่า จริงๆ แล้ว คำว่า "คนอีสาน" คืออะไร

อยากรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับคนอีสาน ต้องอ่าน "ไทยน้อย ไทยใหญ่ ไทยสยาม" ของอาจารย์ศรีศักดิ์  และสุจิตต์ วงษ์เทศ

ไม่ก็ไปอ่านผลงานอาจารย์ธิดา ศาลายา

พวกชอบสรุปอะไรแบบมักง่าย ผมถึงบอกว่า พวกตาบอดคลำช้าง



จะมีใครสักกี่คนที่มีเชื้อสายเผ่าพันธุ์เดียวอยู่ในตัวนะคะ แต่ก็ยังมีคนหลงยุค คลั่งเลือดบริสุทธิ์อยู่ได้ 

ถ้าว่าตามหลักการปรับปรุงพันธุ์พืชหรือการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ ลูกผสมที่เรียกว่า ไฮบริด ส่วนใหญ่จะได้ลักษณะเด่นของพ่อกับแม่รวมกัน ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ทั้งถูกใจนักวิชาการ และเกษตรกร ยิ่งนัก

คนไทยในผืนแผ่นดินแห่งนี้ก็เป็นคนหลากเชื้อชาติ ต่างเผ่าพันธุ์ที่หล่อหลอมให้อยู่ร่วมกัน ถ้าลดละอคติ และความหลง หรือคลั่งเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ของตน หัดมองคนอืนในทัศนคติที่ดี มองด้วยความเข้าใจบ้าง  ประเทศชาติก็คงเจริญก้าวหน้าพัฒนามากกว่านี้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2008, 22:52 โดย aiwen^mei » บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
หน้า: 1 2 3 4 5 6 [7] 8 9 10 11 12
    กระโดดไป: