ผมเข้าใจ "ที่มาของความคิด" ของลุง Can ละ
ว่ามาจาก "รัฐศาสตร์" แบบเกือบจะเพียว ๆ
คือ "การได้มาซึ่งอำนาจและการใช้อำนาจรัฐ"
ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเป็นหลักการที่ถูกต้องยืนยงหรือเปล่า
เพราะเท่าที่เหนก็คือ แทบไม่มีอะไรที่จะใช้รับประกันได้ว่า "ผู้แสวงหาอำนาจรัฐ" และ "ผู้มอบอำนาจรัฐ" นั้น
จะช่วยกันผดุงรักษาสิ่งที่เรียกว่า "ธรรม" ไว้ในสังคมมนุษย์หรือเปล่า
เพราะเหมือนกับว่า ถ้าประชาชนสัก 70% ชอบพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งมีแนวนโยบาย "ยึดทรัพย์จากไอ้พวกเจ๊กในเมือง" แล้ว "ควบคุมไอ้พวกเจ๊กในเมือง" ไว้
...ย่อมเป็นที่คาดเดาได้ว่าพรรคการเมืองนั้นจะกลายเป็นผู้ได้รับอำนาจปกครองรัฐ ( รัฐถาธิปัตย์ ) อย่างแน่นอน
และเจ๊กในเมือง ซึ่งอาจจะเป็นผู้กุมทรัพยากรและปัจจัยในการผลิตของประเทศไว้สัก 50% ก็จะต้องถูกริดรอนอำนาจลง
โดยรัฐถาธิปัตยอาจจะเอาทรัพยากรและปัจจัยในการผลิต 50% นั้นไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชน 70% ที่มอบฉันทามติให้แก่พวกตน
...ทั้ง ๆ ที่อีก 50% ของทรัพยากรและปัจจัยในการผลิตทั้งระเทศ อาจจะอยู่ในมือรัฐถาธิปัตย์ "กลุ่มชนจำนวนไม่ถึง 1%" นั้นแล้ว
........................นี่เป็นเรื่องชอบธรรมหรือไม่ ?
ถ้าใช่ ก็ไม่แปลกอะไรที่พรรคนาซีจะเกิดขึ้นใหม่ในโลกนี้อีกครั้ง
ซึ่งไม่ว่าอย่างไรผมก็ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่า "การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์" ไปพร้อม ๆ กับแนวคิด "The Winner Take It All" โดยหวัง ๆ วาด ๆ ว่า "แต่ผลประโยชน์นั้น มันต้องได้ทั้งสองด้าน คือทั้งส่วนตัวและส่วนรวม"
คือ
1. อยู่ ๆ จู่ ๆ มันจะเริ่มต้นกระบวนการที่ "กิเลส" ของกลุ่มบุคคลหลายฝักฝ่าย
2. แล้วจากนั้นแต่ละฝ่ายก็ใช้ "อุบายหรือกลยุทธ" โดย "ไม่จำกัดความเหมาะสม - รูปแบบ ( เช่น ใช้ระบอบอุปถัมป์ )"
มาแก่งแย่งสิ่งที่เรียกว่า "คะแนนเสียง" ซึ่งเป็น "อำนาจ ( แท้จริง ) ของรัฐ" เพื่อให้อำนาจนั้นมาอยู่ในมือของพวกตน
3. โดยผู้ที่เป็นอำนาจรัฐหรือประชาชนเอง ก็ไม่สนใจนำพาว่า หาก "คนที่ตนนชอบ - พวกที่ตนรัก" เข้าไปมีอำนาจแล้ว จะไปสร้างความเดือดร้อนให้ "อีกฝ่าย" อย่างไร หรือสร้างความเสียหายให้แก่ทรัพยากร - ปัจจัยการผลิตส่วนรวมอย่างไร
...เพียงเพราะ "พอใจกับผลประโยชน์ที่ตนจะได้รับ หรือคุ้นชินกับการได้รับ"
ถ้า 70% ของประชาชนเลือกรัฐบาล ก. ที่นำพาประเทศเข้าสู่สงคราม
ีอีก 30% ที่ไม่ได้เลือกรัฐบาล ก. ก็จะต้องร่วมรับชะตากรรมจากสงครามด้วย ?
สมมติว่า ถ้า 70% ที่เป็นประชากรซึ่งอาศัยอยู่รอบนอกเมืองหลวงเลือกรัฐบาล
แล้วรัฐบาลนั้นประกาศสงครามกับรัฐอื่น อันเป็นเหตให้รัฐอื่นถล่มขีปนาวุธเข้าใส่
...ซึ่งก็แน่นอนว่าย่อมถล่มเข้าใส่เมืองหลวงที่ประชาชนส่วนใหญ่มิได้เลือกรัฐบาลนั้น ๆ
...แบบนี้ยุติธรรมไหม ?
สิ่งที่ผมทวงถาม เมื่อเห็นกระทู้้นี้ ก็คือ
"มันยุติธรรมไหมที่จะต้องมาเอาอะไร ๆ ไปจากคนกรุงเทพ ฯ
เสร็จแล้วยังต้องให้คนกรุงเทพ ฯ แสดงอาการสำนึกบุญคุณ + แสดงอาการละอายใจ
ต่อ "ประชาชนเสียงส่วนใหญ่ที่เลือกพรรคพลังประชาชน"
ซึ่งชี้บ่งได้ว่าเป็นคนอีสานและพวก "รากหญ้า"
เมื่อคุณอ้างว่าพวกคุณยากจน - การศึกษาน้อย เพราะ "เข้าไม่ถึง" ซึ่งโอกาส
แล้วคนกรุงเทพ ฯ ผิดตรงไหนที่เรา "มีการศึกษา" และ อยู่ในพื้นที่ซึงสะดวกกว่าในการเข้าถึง "โอกาส"
เดิมทีแล้วคนกรุงเทพ ฯ ก็คือผู้คนที่อาศัยอยู่ในบ้านเช่าหลังเล็ก ๆ ที่มักจะเป็นห้องแถวขนาดไม่เกิน 60 ตารางเมตร
...พ่อแม่เราต้องจ่ายเงิน "ค่าที่พักอาศัย" โดยไม่ได้รับสวัสดิการใด ๆ จากรัฐ
พ่อแม่เราไม่มีอะไรเลย
...ไม่มีบ้าน
...ไม่มีที่ดินทำกิน
...การศึกษาก็ไ่ม่ได้สูงไปกว่า ม.3 หรืออย่างดีก็ ม.8
เป็น "คนกรุงเทพฯ" ที่ต้องปากกัดตีนถีบ อดทนทำงานเพื่อส่งให้ลูก ๆ ได้รับการศึกษา
...
ซึ่งเป็็นสมบัติอย่างเดียวที่พ่อแม่เราสามารถทิ้งไว้ให้เราได้พอพวกเราเติบโต - เรียนจบ - ทำงาน ครอบครัวเราจึงพอจะ "มีโอกาสได้พักหายใจหายคอบ้าง" เป็นครั้งคราว ไม่ต้องวิตกกังวลว่าวันใดจะไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ วันใดจะต้องกินเกี้ยมฉ่ายกระป๋องตลอด 3 มื้อ
...เรากู้เงิน ซื้อบ้าน - ดาวน์รถ
ที่กว่าจะผ่อนหมด ก็ต้องใช้เวลาทั้งค่อนชีวิตที่เหลือ หรืออาจจะผ่อนไม่หมดในรุ่นชีวิตของเราก็เป็นได้
^^^ นี่อ้ะนะ คือสภาพของคนที่จะต้องมีหน้าทีอุดหนุนเจือจาน

แล้วกลับไปดู "คนอีสาน" ซิ
ก่อนหน้านี้ มีที่ดิน - ที่นา บางครอบครัวมีเป็นร้อยไร่ ที่จนหน่อยก็มีหลักสิบไร่
แล้วไปทำอย่างไรเข้าล่ะที่ทำให้ที่ดิน - ที่นานั้นหายไปหมดหรือเปลี่ยนมือไปหมด ?
หมดไม่เป็นไร บุกรุกเข้าป่า ไปหักร้างถางพง
...รัฐก็ตามไป "ออกหนังสือทำกิน
สค.1 สปก. ฯลฯ"
จนวันดีคืนดีก็เปลี่ยนสภาพกลายเป็น "โฉนด" ที่สามารถเอาไปขายได้อีก !
...ผลิตพืชผลออกมาแล้วราคาไม่ดี รัฐก็เข้าไป
พยุงราคา จำนำพืชผล ฯ...จะทำนารอบต่อไปไม่มีเงินก็ "
กู้ ธกส."
...ไม่มีปัญญาจ่ายเงินกู้ ธกส. รัฐก็ประกาศ "
พักชำระหนี้"
ฯลฯ
โอ้โฮ..."แต้มต่อ"
แฮนดิแค็ป เหลือเฟือเลยว่ะ !!แล้วไงล่ะตอนนี้
1 แมน 1 โวต
1 เสียงเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นไอ้พวกคนเมืองกรุง หรือคนอีสาน และรากหญ้า
จน "สส.ของพวกคุณ - พรรคการเมืองของพวกคุณ" ได้เป็นรัฐบาล - ได้เป็นผู้ใช้อำนาจรัฐ
พวกคุณก็หันมาตะคอกใส่คนกรุงเทพว่า
"พวกมรึงได้อะไร ๆ ไปหมดทุกอย่าง ดังนั้น มรึงต้องรับผิดชอบสิ...พวกมรึงต้องจ่ายเยอะกว่าสิ...พวกมรึงต้องยอมจำนนสิ ว่าพวกมรึงนั่นล่ะคือเสียงส่วนน้อย !"
1 แมน 1 โวต
หนึ่งเสียงเท่ากัน
แต่ฝ่ายหนึ่งแฮนดิแคปล้นหลาม + จำนวนคนล้นเหลือ
...โคตรยุติธรรม !