มีการพูดถึงคุณอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ที่คุณไชยวัฒน์ เพิ่งลาออกมา
หลังฟ้องศาลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และทางประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วย
คราวนี้เรียกร้องให้ประชาธิปัตย์เข้าร่วมอีก เขาคงไม่เอาด้วยกับคุณไชยวัฒน์
คงจะต่างคนต่างทำมากกว่า และกลุ่มนี้คงเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรเช่นเคย
ก็มาแนะนำให้รู้จักกลุ่มการเมืองอีกกลุ่มที่อยู่ต่างขั้วกับทักษิณนะครับ 
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตั้งสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ต้านทักษิณโดย คม ชัด ลึก วัน อังคาร ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 00:00 น.
http://news.sanook.com/politic/politic_253202.phpเตรียมเปิด "สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย" จับมือพันธมิตรฯ ต้านทักษิณ ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
เรียกร้อง"อภิสิทธิ์" อย่าเป็นอีแอบต้องกล้าต่อสู้ร่วมกับประชาชน
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสาน (สปอ.) 19 จังหวัด ในฐานะที่เลขาธิการ
สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกมาเคลื่อนไหว
เรื่องการเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ฝ่ายที่เคยร่วมกับ
ระบอบทักษิณอย่างเข้มข้นได้เข้าไปควบคุมกลไกในการบริหารประเทศ และกลไกนิติบัญญัติเรียบร้อยแล้ว
เหลือเพียงกลไกตุลาการ ที่ผ่านมาพันธมิตรฯยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเพื่อรอดูพฤติกรรมของรัฐบาลว่า
จะใช้อำนาจอย่างไร
ล่าสุดรัฐบาลได้ตัดสินใจย้ายอธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ หรือดีเอสไอ ที่เกี่ยวข้องกับคดีของ
อดีตนายกทักษิณฯ และยังมีเบาะแสมาว่าจะมีการโยกย้ายถึงปลัดกระทรวงยุติธรรม ขณะเดียวกัน
ก็รุกคืบจะไปหยุดการทำงานของคตส.รวมทั้งการวางตัวตำรวจพวกพ้องของตนเองใน สตช.อีก
เมื่อประมวลเป็นภาพทุกอย่างแล้วถ้าปล่อยให้รัฐบาลรุกคืบหน้ามากกว่านี้คงจะสายเกินแก้
ฉะนั้นพันธมิตรก็เลยเดินไปเป็นขั้นตอนโดยประกาศจุดยืนภายใต้กรอบกฎหมายที่ไม่ได้เรียกร้อง
ให้เกิดความรุนแรงซึ่งถือเป็นความชอบธรรมตามกฎหมายและเป็นการลดกระแสความรุนแรงเอาไว้
เพื่อทำให้ผู้ที่อยู่ในอำนาจได้ยั้งคิดบ้างว่าไม่ควรจะใช้อำนาจเลยเถิดเกินไป เพราะเท่าที่ทราบมา
ไม่ใช่เฉพาะเท่านี้ รัฐบาลชุดนี้กำลังจะรุกคืบไปถึงกรมประชาสัมพันธ์ และทีวีต่างๆ ตลอดจนเคเบิ้ล
ทั่วประเทศอีกด้วยเพื่อจะคุมทิศทางการนำเสนอของสื่อเพราะคนในรัฐบาลชุดนี้เคยทำมาแล้วระหว่าง
ที่อยู่ในรัฐบาลชุดที่แล้ว
ในฐานะประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสาน (สปอ.) 19 จังหวัดและเครือข่ายแนวร่วม จะร่วมกัน
ตั้งองค์กรที่เป็นภาพรวมทั่วประเทศในนามสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย (สปท.) โดยในเร็วๆ นี้
โดยจะมีการเปิดรับสมาชิกและจะยื่นรายชื่อเข้าสู่องค์กรที่รับผิดชอบ เพื่อการตรวจสอบรัฐบาล
ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 87 เพราะกลไกการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลปัจจุบันไม่ได้ทำหน้าที่
อย่างสมบูรณ์
" ทุกคนล้วนอยากให้ท่านทักษิณฯ กลับมาสู้คดีที่ประเทศไทยแต่ไม่ต้องการให้มีการแทรกแซง
กระบวนการยุติธรรมและองค์กรอิสระ เพราะจริงๆแล้วการหลบหมายศาล หลบหมายจับ ไม่ใช่ไปพูด
ว่า คมช.ยังอยู่ในตำแหน่งจึงถูกกลั่นแกล้งก็เลยกลับประเทศไม่ได้ขอให้พี่น้องประชาชนไปเลือก
พรรคพลังประชาชนผมจะได้กลับประเทศไทยได้ เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เป็นการหลบหมายจับ
วันนี้ที่กล้ากลับเพราะกลุ่มตัวเองได้เป็นรัฐบาลคุมการบริหารแล้ว สามารถใช้อำนาจแฝงได้แล้ว
จึงกลับมาหน้ากากอยู่ตรงนั้น" นายไชยวัฒน์ กล่าว
นายไชยวัฒน์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ร่วมเคลื่อนไหว
กับกลุ่มพันธมิตรซึ่งบางฝ่ายมองว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมเคลื่อนไหวด้วยนั้นว่า การต่อสู้อย่าไป
แยกว่าพรรคการเมืองก็อยู่ส่วนพรรค ภาคประชาชนก็อยู่ส่วนประชาชน ข้อเท็จจริงประชาชนคือ
เจ้าของอำนาจอธิปไตย พรรคคือกลไกที่ประชาชนไปรวมตัวกันเพื่อต่อสู้ให้ได้มากขึ้น เพราะฉะนั้น
ถ้าเรามีเป้าหมายร่วมกันทำไมจะต่อสู้ร่วมกันไม่ได้เพราะปัญหานี้เป็นปัญหาส่วนรวมของประเทศ
ฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์จะต้องคิดให้ได้ว่านายสมเกียรติ ต่อสู้เรื่องนี้เพื่อใครไม่ใช่เพื่อประเทศชาติ
หรอกหรือ พรรคประชาธิปัตย์ จะต้องหาทางส่งเสริมการต่อสู้ของนายสมเกียรติ กับพันธมิตร
ได้อย่างไรไม่ต้องกลัวว่าจะถูกมองว่าเป็นพวกเดียวกันเพราะสิ่งที่เราทำนั้นเป็นเป้าหมายร่วมกัน
คือล้มล้างระบอบทักษิณถ้าจะจับมือกันกับพันธมิตรทำไมจะทำไม่ได้
"ผมขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศตัวอย่างชัดเจน
ว่าพรรคจะร่วมต่อสู้กับพันธมิตรและสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยหรือไม่ ไม่ต้องเป็นอีแอบ
เพราะพรรคการเมืองจะต้องนำการต่อสู้กับประชาชน เมื่อประชาชนมีปัญหาพรรคการเมืองจะต้อง
กระโดดเข้ามานำการต่อสู้เลยไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนต่อสู้โดดเดี่ยวแล้วพรรคก็เงียบ
แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ประกาศอย่างชัดเจนว่าขอนำการต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชน
ก็จะได้รับเสียงปรบมือจากประชาชนอย่างท่วมท้น" นายไชยวัฒน์ กล่าว
