ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-04-2024, 03:10
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  นายกรัฐมนตรี เลือกตั้ง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
นายกรัฐมนตรี เลือกตั้ง  (อ่าน 2047 ครั้ง)
h_e_a_t
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


น้ำข้าว อร่อยกว่า ไวน์ เยอะเลยย


« เมื่อ: 26-02-2008, 11:11 »

ความจริง ในระบบประธานาธิบดี แบบอเมริกานั้น มันมีข้อดีอยู่ไม่น้อยทีเดียว

เพราะ มันเป็นการเลือกผู้นำประเทศ(ตามแต่ประชาชนเห็นเหมาะสม) ขึ้นมาดูแล บริหารประเทศ

โดยผู้นำนั้น ชูนโยบายตนเองให้ชัดแจ้ง รวมทั้งวิสัยทัศน์ แก่ประชาชน เช่นนี้ ผู้ได้รับประโยชน์ก็คือ ประชาชน แถม สิ่งที่ผู้สมัครนั้นชูนโยบายไว้แล้วก็จะเป็นสัญญาประชาคมกลายๆ

ความอิสระในการจัดทีมบริหารประเทศ ก็มีเต็มที่ ไม่ต้องกริ่งเกรงหรือกังวลใดๆ จะจัดบุคคลใดลงตำแหน่งใดเพื่อให้เกิดความเหมาะสมที่สุดก็ย่อมทำได้ อีกทั้งระยะเวลาในการบริหารประเทศ ก็มีระยะเวลายาวนานพอที่จะแก้ไข ปรับปรุง และพัฒนา นั่นคือ 6 ปี
เวลา 4 ปีนั้น ผมว่าน้อยไป เพียงแก้ไขปัญหาบางอย่างก็กินเวลามากกว่า 4 ปีแล้ว เช่นปัญหาละเอียดอ่อนเกี่ยวกับสามจังหวัดชายแดนใต้

....................4 ปี กับนโยบายต่างประเทศกับเพื่อนบ้านและมิตรนานาชาติ นั้น สั้นไป ไม่เพียงพอต่อการสร้างความเชื่อมั่นในบางอย่างได้เลย  6 ปี จึงน่าเป็นเวลาที่เหมาะสมกว่าในการทำงาน


หากจะต้องมีการแก้ไข ปรับรัฐธรรมนูญอีกสักครั้ง ผมอยากให้ เมืองไทยลองพิจารณาดูในระบบอื่นๆดูบ้าง เพราะ ปัจจุบัน หากมองกันจริงๆ ระบบที่ใช้อยู่นี้ ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ปัญหาก็ยังคงเดิมๆ นั่นเป็นเพราะแนวทางหลักๆในรัฐธรรมนูญ ตีกรอบไว้ว่า ต้องเป็นแบบนี้


ความขัดแย้งของคนในชาตินั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากคนในชาติกันเอง  แต่มันเกิดมาจากระบบที่มีและนักการเมืองในระบบนั้นๆ

ถ้าเราคิดกันให้ดีๆ การเปลี่ยนระบบ ก็ไม่ได้มีอะไรที่จะเสียหาย กลับทำให้ความชัดเจนมีมากขึ้น ผู้แทนทั้งหลายที่ได้มาในระบบนั้นๆ(อเมริกาเรียกเป็นวุฒิสมาชิก) นอกจากจะถูกตัดตอนไม่ให้มีการคอร์รัปชั่นแล้ว ยังต้องแข่งขันกันสร้างประโยชน์แก่ประชาชน  ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้รับอย่างเดียวในคำตอบสุดท้าย

กฏหมายต่างๆ จะกลั่นกรองอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วนอำนาจตุลาการนั้น เป็นอิสระจริงๆและไม่ได้ขึ้นตรงแก่ผู้ใด

ผมอยากให้ประเทศเรา เปลี่ยนระบบดูบ้างเถอะ ตั่งแต่ 2475 เป็นต้นมา ไม่เห็นว่า ระบบนี้จะทำให้เราไปได้ถึงไหนเลย
บันทึกการเข้า

โลกนี้ ไม่มีใครสูงกว่าใคร  แต่ที่เรามองเห็นคนอื่นสูงกว่า ก็เพราะเราไปคุกเข่าให้เขาเอง
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 26-02-2008, 11:18 »

ตราบใดที่หัีวหน้าพรรค คือเจ้าของพรรค

เราก็ไม่มีทางหนีวังวนแบบนี้ได้หรอกครับ
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
h_e_a_t
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


น้ำข้าว อร่อยกว่า ไวน์ เยอะเลยย


« ตอบ #2 เมื่อ: 26-02-2008, 11:23 »

ตราบใดที่หัีวหน้าพรรค คือเจ้าของพรรค

เราก็ไม่มีทางหนีวังวนแบบนี้ได้หรอกครับ

เราไม่จำต้องเอารูปแบบใดมาทั้งหมดก็ได้ครับ เพียงแต่มาพิจารณาว่าส่วนใดดี และน่าเอามาใช้

ตัวอย่างเรื่องพรรคการเมือง ของอเมริกานั้น ประชาชนมองเป็นสถาบันไปแล้ว ดังนั้น คำว่าหัวหน้าพรรค หรือ เลขาธิการพรรค จึงไม่ได้สำคัญไปกว่า นโยบายพรรคและวิสัยทัศน์ของพรรคนั้น

ตัวแทนของพรรคผู้สมัครเข้าชิงเอง ยังต้องแข่งกันเอง นี่คือจุดดี ที่แสดงต่อประชาชนว่า พรรคนั้น ได้คัดสรรผ่านประชาชน นำเสนอผู้ที่เหมาะสมที่สุดในพรรค เป็นผู้นำประเทศ..........นี่เป็นจุดดีที่ผมเห็นว่าเอามาใช้กับประเทศเราเองก็ได้ ไม่เสียหายอะไรเลย  แถมเป็นการทำให้เกิดการพัฒนาบุคคลากรในพรรคนั้นๆ เพื่อจะได้ลงสมัครแข่งขันกันในวาระสืบๆไป

บันทึกการเข้า

โลกนี้ ไม่มีใครสูงกว่าใคร  แต่ที่เรามองเห็นคนอื่นสูงกว่า ก็เพราะเราไปคุกเข่าให้เขาเอง
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #3 เมื่อ: 26-02-2008, 11:32 »

คนไทยบางคนยังเชื่อหัวปักหัวปรำด้วยการล้างสมองผ่านพิธีกรรมรูปแบบเทพพรหมต่างๆที่ทำให้เชื่อว่า คนไทยไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้โดยลำพังหากแต่ต้องมีเทพจุติในคราบชนชั้นสูงสุดเท่านั้นที่จะนำประเทศอยู่รอด

ต่างกับอเมริกันชนที่เชื่อว่าพลังประชาชนเท่านั้นที่กำหนดชะตาชีวิตของประเทศ....คนไทยเราถึงจนไม่เลิกแบบนี้ไงครับ
บันทึกการเข้า
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #4 เมื่อ: 26-02-2008, 11:41 »

เราไม่จำต้องเอารูปแบบใดมาทั้งหมดก็ได้ครับ เพียงแต่มาพิจารณาว่าส่วนใดดี และน่าเอามาใช้

ตัวอย่างเรื่องพรรคการเมือง ของอเมริกานั้น ประชาชนมองเป็นสถาบันไปแล้ว ดังนั้น คำว่าหัวหน้าพรรค หรือ เลขาธิการพรรค จึงไม่ได้สำคัญไปกว่า นโยบายพรรคและวิสัยทัศน์ของพรรคนั้น

ตัวแทนของพรรคผู้สมัครเข้าชิงเอง ยังต้องแข่งกันเอง นี่คือจุดดี ที่แสดงต่อประชาชนว่า พรรคนั้น ได้คัดสรรผ่านประชาชน นำเสนอผู้ที่เหมาะสมที่สุดในพรรค เป็นผู้นำประเทศ..........นี่เป็นจุดดี ที่ผมเห็นว่าเอามาใช้กับประเทศเราเองก็ได้ ไม่เสียหายอะไรเลย  แถมเป็นการทำให้เกิดการพัฒนาบุคคลากรในพรรคนั้นๆ เพื่อจะได้ลงสมัครแข่งขันกันในวาระสืบๆไป




   ลูกหิน ..เข้าใจประโยค ที่ พี่ Heat ...กำลังพูด..ฮะ
และ เข้าใจ ..ความรู้สึก พี่ อะไรจ๊ะ เรื่อง ..ให้คนไทยเลิก งมงาย..
 
อืมม... อืมม.. USA  ดูดีจังเร๊ยย ..อยากไปเที่ยวบ้างจัง
ไหน..พี่ Heat ลอง.. อธิบาย  จุด ไม่ดี.  บ้างสิฮะ ?
ว่า มีอะไรเป็นตัวแปร..บ้าง ?  Environment  Calture  ฯลฯ 


เมื่อ เปรียบเทียบกับ ประเทศไทย

 
บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #5 เมื่อ: 26-02-2008, 11:46 »

คนไทยบางคนยังเชื่อหัวปักหัวปรำด้วยการล้างสมองผ่านพิธีกรรมรูปแบบเทพพรหมต่างๆที่ทำให้เชื่อว่า คนไทยไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้โดยลำพังหากแต่ต้องมีเทพจุติในคราบชนชั้นสูงสุดเท่านั้นที่จะนำประเทศอยู่รอด

ต่างกับอเมริกันชนที่เชื่อว่าพลังประชาชนเท่านั้นที่กำหนดชะตาชีวิตของประเทศ....คนไทยเราถึงจนไม่เลิกแบบนี้ไงครับ

ไม่ต้องยกเทพอะไรมาอ้างหรอกครับ
พวกที่เลวที่สุดก็พวกประชาชนโง่ๆเหมือนควายบางจำพวก
หมาห้าขา น้ำส้วมก็ยังกราบไหว้มาแล้ว
เอาเงิน 80บาทมาล่อก็ขี้คร้านจะกระโดดขึ้นรถให้เขาพาไปไหนต่อไหน
เอาเหล้าแบนนึงก็แลกคะแนนเสียงได้
ไอ้ประชาชนโง่ๆแบบนี้แหละครับชาติมันถึงไม่เจริญ
บันทึกการเข้า
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #6 เมื่อ: 26-02-2008, 11:54 »

คนไทยบางคนยังเชื่อหัวปักหัวปรำด้วยการล้างสมองผ่านพิธีกรรมรูปแบบเทพพรหมต่างๆที่ทำให้เชื่อว่า คนไทยไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้โดยลำพังหากแต่ต้องมีเทพจุติในคราบชนชั้นสูงสุดเท่านั้นที่จะนำประเทศอยู่รอด

ต่างกับอเมริกันชนที่เชื่อว่าพลังประชาชนเท่านั้นที่กำหนดชะตาชีวิตของประเทศ....คนไทยเราถึงจนไม่เลิกแบบนี้ไงครับ

ใน ส่วน ความเห็น.. ของ พี่อะไรจ๊ะ..
 ลูกหิน เห้นด๊วย และขอยอมรับ.. หลักการความคิด ของ พี่นะฮะ ( ไม่ซีเรียส)
 เพราะ ลูกหิน ก็ (เคย) คิดเช่นนั้น..เช่นกัน (มาก่อน)ฮะ


   ลูกหิน เข้าใจในความหวัง ดีของ อาแม๊วฮะ ..
อาแม๊ว ท่าน.. ก็เป้นบุคคล หวังดี และ มีหัวก้าวหน้า. จริง( ลูกหิน ..สนับสนุนข้อนี้)
ลูกหิน .. อยาก ยกเครดิส เรื่องนี้ ให้   ลุงจิ๋ว.. ด๊วยซ้ำฮะ

เพราะคนคิดเรื่องนี้ .. คือ ลุงจิ๋ว  
(ตัวจริง ท่านไม่ได้..เพี๊ยน อย่างที่หลายคนเข้าใจฮะ )

เพียงแต่ .. ทฤษฎี ของลุงจิ๋ว ที่ท่าน เคยสอนแห่งหนึ่ง!?
 อาแม๊ว ..และลูกหิน..แหละอีกหลายคน ก็เคยไปฟังบรรยาย ในวันนั้น (นานแล้ว)
ทฤษฎี ของลุงจิ๋ว ที่ออกมา  .. คนบางกลุ่ม..จับใจความไม่กระชับ
และ ไม่อ่าน บทที่ลุงจิ๋ว พูด ในเชิง ..ทิศทางต่อไปในอนาคต

ส่วนตัว อาแม๊ว ท่านเข้าใจ >>>.. แต่ ลูกน้อง เข้าใจอีกแบบ 



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2008, 12:22 โดย ลูกหินฮะ๛ » บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
h_e_a_t
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


น้ำข้าว อร่อยกว่า ไวน์ เยอะเลยย


« ตอบ #7 เมื่อ: 26-02-2008, 12:03 »



   ลูกหิน ..เข้าใจประโยค ที่ พี่ Heat ...กำลังพูด..ฮะ
และ เข้าใจ ..ความรู้สึก พี่ อะไรจ๊ะ เรื่อง ..ให้คนไทยเลิก งมงาย..
 
อืมม... อืมม.. USA  ดูดีจังเร๊ยย ..อยากไปเที่ยวบ้างจัง
ไหน..พี่ Heat ลอง.. อธิบาย  จุด ไม่ดี.  บ้างสิฮะ ?
ว่า มีอะไรเป็นตัวแปร..บ้าง ?  Environment  Calture  ฯลฯ 


เมื่อ เปรียบเทียบกับ ประเทศไทย

 


จุดไม่ดีของเขา ผมเองก็พยายามมองอยู่นะครับ แต่อย่างว่าแหละ เป็นธรรมดาที่เราไม่ได้อยู่บ้านเขา ก็เลยอาจไม่ทราบรายละเอียดต่างๆที่จะมาประมวลเรื่องดีหรือไม่ดี

ผมเพียงดูหลักการเบื้องต้นของเขาเท่านั้นว่า จุดดีที่เรายืมมาใช้ได้โดยไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย

อย่างเรื่อง ตัวแทนพรรคที่จะลงชิงตำแหน่งอาจมาปรับเปลี่ยนเป็น ว่าที่รัฐมนตรีก็ได้

เช่น ในพรรค กอ ไก่ อาจมีการลงคะแนนกันเองให้ คนในพรรค ท่านใดเป็นรัฐมนตรี  อย่างนี้ ก็แสดงให้เห็นว่าเป็นเรื่องของประชาธิปไตยในพรรค มันก็ตัดเรื่องใบสั่งออกไปได้ส่วนหนึ่ง แม้จะไม่ทั้งหมด

หากเป็นพรรคร่วม ก็ยิ่งดี ก็เสนอตัวออกมาเลยว่า ใครจะเป็นรัฐมนตรี แล้วก็เลือกกันไปเลย คนชนะก็ เทคออล ไป

จุดเสียน่ะมันมีแน่ครับถ้าเราเอามันมาทั้งระบบ เพราะ อะไรๆหลายอย่างมันก็ต่างกัน ตั้งแต่รูปแบบการปกครองท้องถิ่น

แต่ผมเพียงพิจารณาจุดดี ที่สามารถนำมาใช้ได้ เอามาปรับใช้ได้กับของเราเท่านั้นครับ




บันทึกการเข้า

โลกนี้ ไม่มีใครสูงกว่าใคร  แต่ที่เรามองเห็นคนอื่นสูงกว่า ก็เพราะเราไปคุกเข่าให้เขาเอง
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #8 เมื่อ: 26-02-2008, 12:14 »

จุดไม่ดีของเขา ผมเองก็พยายามมองอยู่นะครับ แต่อย่างว่าแหละ เป็นธรรมดาที่เราไม่ได้อยู่บ้านเขา ก็เลยอาจไม่ทราบรายละเอียดต่างๆที่จะมาประมวลเรื่องดีหรือไม่ดี

ผมเพียงดูหลักการเบื้องต้นของเขาเท่านั้นว่า จุดดีที่เรายืมมาใช้ได้โดยไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย


อย่างเรื่อง ตัวแทนพรรคที่จะลงชิงตำแหน่งอาจมาปรับเปลี่ยนเป็น ว่าที่รัฐมนตรีก็ได้

เช่น ในพรรค กอ ไก่ อาจมีการลงคะแนนกันเองให้ คนในพรรค ท่านใดเป็นรัฐมนตรี  อย่างนี้ ก็แสดงให้เห็นว่าเป็นเรื่องของประชาธิปไตยในพรรค มันก็ตัดเรื่องใบสั่งออกไปได้ส่วนหนึ่ง แม้จะไม่ทั้งหมด

หากเป็นพรรคร่วม ก็ยิ่งดี ก็เสนอตัวออกมาเลยว่า ใครจะเป็นรัฐมนตรี แล้วก็เลือกกันไปเลย คนชนะก็ เทคออล ไป

จุดเสียน่ะมันมีแน่ครับถ้าเราเอามันมาทั้งระบบ เพราะ อะไรๆหลายอย่างมันก็ต่างกัน ตั้งแต่รูปแบบการปกครองท้องถิ่น

แต่ผมเพียงพิจารณาจุดดี ที่สามารถนำมาใช้ได้ เอามาปรับใช้ได้กับของเราเท่านั้นครับ


   ฮะ เข้าใจ..
  แต่ลูกหินก็คิดว่า พี่ Heat ตอบ มาส่วนหนึ่งแล้ว
 ตามที่..ลุกหิน... Bold ไว้

  ดีแล้วฮะ.. ที่ พี่ Heat ยังมี ... ขอบเขตในการ อ้างอิง (ในส่วนที่ ยังไม่แน่ใจ)

  เดี๋ยวไว้ ว่างๆลูกหิน.. จะมาคุยต่อด๊วยฮะ ( ทั้ง พี่ Heat  และ พี่ จ๊ะ )

วันนี้ ขอตัว ไปทำ ...ธุระ บนโลกใบจริง ก่อง..
  ( ลูกสัญญา ..ว่า จะกลับมาคุย สนุกเรื่องนี้กันฮะ ..เพราะมันคงจะยาว) 

 
บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #9 เมื่อ: 26-02-2008, 12:40 »

ใน ส่วน ความเห็น.. ของ พี่อะไรจ๊ะ..
 ลูกหิน เห้นด๊วย และขอยอมรับ.. หลักการความคิด ของ พี่นะฮะ ( ไม่ซีเรียส)
 เพราะ ลูกหิน ก็ (เคย) คิดเช่นนั้น..เช่นกัน (มาก่อน)ฮะ


   ลูกหิน เข้าใจในความหวัง ดีของ อาแม๊วฮะ ..
อาแม๊ว ท่าน.. ก็เป้นบุคคล หวังดี และ มีหัวก้าวหน้า. จริง( ลูกหิน ..สนับสนุนข้อนี้)
ลูกหิน .. อยาก ยกเครดิส เรื่องนี้ ให้   ลุงจิ๋ว.. ด๊วยซ้ำฮะ

เพราะคนคิดเรื่องนี้ .. คือ ลุงจิ๋ว  
(ตัวจริง ท่านไม่ได้..เพี๊ยน อย่างที่หลายคนเข้าใจฮะ )

เพียงแต่ .. ทฤษฎี ของลุงจิ๋ว ที่ท่าน เคยสอนแห่งหนึ่ง!?
 อาแม๊ว ..และลูกหิน..แหละอีกหลายคน ก็เคยไปฟังบรรยาย ในวันนั้น (นานแล้ว)
ทฤษฎี ของลุงจิ๋ว ที่ออกมา  .. คนบางกลุ่ม..จับใจความไม่กระชับ
และ ไม่อ่าน บทที่ลุงจิ๋ว พูด ในเชิง ..ทิศทางต่อไปในอนาคต

ส่วนตัว อาแม๊ว ท่านเข้าใจ >>>.. แต่ ลูกน้อง เข้าใจอีกแบบ 






อันนี้ พูดจากใจนะฮะ

   หากถ้า ประเทศไทย มีคนที่มีความคิดเห็น หัวก้าวหน้าแบบ .. พี่ อะไรจ๊ะ   
ไม่ต้อง ทั้งหมด .. เอาสัก 70 % ของประเทศ

ลูกหินรับรองว่า ประเทศไทย จะ เป้น มหาอำนาจ ทางเศรษกิจ
และ  ประชาธิปไตยเต็มใบ..อย่างสวยงาม

  ลูกหินหวังว่า... พี่ อะไรจ๊ะ คงเห็นด๊วย กับที่ลูกหิน.. กล่าว
(ไม่ได้ ..ยอ นะ พูดจริงจากใจฮะ)



แต่ลุกหินมี.. ปัญหาคำถาม..อย่างหนึ่ง ? 
(ลูกหิน..อยากทราบคำคิดเห็นฮะ)
เป็นคำถามคล๊ายๆ ที่ถามพี่ Heat คือ ..

  คำถาม : เราต้องมี ปัจจัย อะไรบ้าง .. และ หรือ  Environment Calture .. ฯลฯ
อย่างไรดี...  ถึงจะ..ไปถึงจุด แบบดีๆแบบพี่ อะไรจ๊ะ  .. ปรารถนาได้?
บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
h_e_a_t
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


น้ำข้าว อร่อยกว่า ไวน์ เยอะเลยย


« ตอบ #10 เมื่อ: 26-02-2008, 12:47 »

   ฮะ เข้าใจ..
  แต่ลูกหินก็คิดว่า พี่ Heat ตอบ มาส่วนหนึ่งแล้ว
 ตามที่..ลุกหิน... Bold ไว้

  ดีแล้วฮะ.. ที่ พี่ Heat ยังมี ... ขอบเขตในการ อ้างอิง (ในส่วนที่ ยังไม่แน่ใจ)

  เดี๋ยวไว้ ว่างๆลูกหิน.. จะมาคุยต่อด๊วยฮะ ( ทั้ง พี่ Heat  และ พี่ จ๊ะ )

วันนี้ ขอตัว ไปทำ ...ธุระ บนโลกใบจริง ก่อง..
  ( ลูกสัญญา ..ว่า จะกลับมาคุย สนุกเรื่องนี้กันฮะ ..เพราะมันคงจะยาว) 

 

การยึดมั่นถือมั่นในระบบ บางสถานการณ์ก็อาจเป็นเรื่องดี

แต่การยึดติดมากไปก็เป็นผลเสีย เพราะไม่มีหลักประกันใดๆว่า ระบบที่ใช้อยู่จะสร้างผลที่ดีเสมอไป

การปรับเปลี่ยน ผมว่ามันเป็นจีรังและเป็นสิ่งที่จะต้องทำเมื่อเวลาและสถานการณ์เปลี่ยนไป

หลายๆวงการ ระบบได้ถูกปรับเปลี่ยนไป ให้เข้ากับวันเวลาที่ผ่านๆไป ดังนั้น การทบทวนสิ่งใหม่ๆในระบบเพื่อให้เกิดความเหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่เราต้องนำมาพิเคราะห์ครับ

บางคราวการพูดเร็วไป ทั้งที่ความพร้อมไม่เกิดขึ้น มันก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ อย่างที่น้องลูกหินยกตัวอย่างเรื่องลุงจิ๋ว
อันนั้นผมว่า แกไม่ได้มีนัย เฉกเช่นผมแน่ๆ

สิ่งที่ผมกล่าวคือ สำหรับเมืองไทยเวลานี้ ประชาชนมองหาความศรัทธาอยู่สามอย่าง

1. ศรัทธาในเชิงคุณธรรม ความดี อันได้แก่ มองไปที่ ธรรมของประมุขของสถาบันสูงสุด ศาสนา และลัทธิความเชื่อ

2. ศรัทธาในเชิงความเป็นอยู่ ประชาชนมองหา ผู้นำหรือผู้แทนของประชาชนที่จะมาเป็นผู้นำ ทำให้เขา ได้กินดี อยู่ดี มาบริหารบ้านเมือง (ซึ่งไม่เกี่ยวอันใดกับข้อ 1.)

3. ศรัทธาต่อความเป็นอยู่เชิงยั่งยืน อันหมายถึงสัญญาญต่างๆ ทั้งข้อ 1 และ 2 ประกอบกัน แล้วพิเคราะห์ว่า มีความยั่งยืน มากน้อยเพียงไร?


สำคัญมากๆ คือ ข้อ 2 และ 3 เพราะ ข้อ 1 นั้นเปรียบเสมือน เข็มทิศในมโนธรรมของคน
ข้อ 2 และ 3 เสมือนเข็มทิศ ในการดำรงชีวิต และแผนที่ที่จะไปยังเป้าหมายของชีวิต

ข้อ 2 และ 3 ต้องการระบบที่วางแผนระยะยาวไว้ในตัวครับ ว่า ระบบนั้นๆจะตอบรับประชาชนและความอยู่รอดของประเทศได้เพียงใด

ประเทศเราเป็นประเทศที่ดูเหมือนมีการศึกษาที่ดี แต่ความจริงแล้วไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นเลย
ความคิด และวิธีคิดของคนในประเทศนั้น ยังมีคนอีกมากที่ยังไร้วิธีคิดที่เหมาะสม

การศึกษาในประเทศจะเป็นสิ่งที่สร้างให้คนเรารู้จักคิดและกำหนดวิธีคิด ซึ่งต่างกับ อเมริกา ซึ่งการศึกษาของเขาจะทำให้คนคิดเป็นและค้นหาวิธีคิดได้อย่างเหมาะสม


สภาพของประเทศตอนนี้ ก็น่าจะมีการพิจารณาระบบที่เหมาะสมกันใหม่ (ระบบการค้นหาผู้นำมาบริหารประเทศ นะครับ)

การยึดติดอยู่กับระบบการเลือกผู้นำแบบเดิมๆนั้น ยิ่งเป็นการทำร้ายตนเองครับ

บันทึกการเข้า

โลกนี้ ไม่มีใครสูงกว่าใคร  แต่ที่เรามองเห็นคนอื่นสูงกว่า ก็เพราะเราไปคุกเข่าให้เขาเอง
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #11 เมื่อ: 26-02-2008, 13:02 »

การยึดมั่นถือมั่นในระบบ บางสถานการณ์ก็อาจเป็นเรื่องดี

แต่การยึดติดมากไปก็เป็นผลเสีย เพราะไม่มีหลักประกันใดๆว่า ระบบที่ใช้อยู่จะสร้างผลที่ดีเสมอไป

การปรับเปลี่ยน ผมว่ามันเป็นจีรังและเป็นสิ่งที่จะต้องทำเมื่อเวลาและสถานการณ์เปลี่ยนไป

หลายๆวงการ ระบบได้ถูกปรับเปลี่ยนไป ให้เข้ากับวันเวลาที่ผ่านๆไป ดังนั้น การทบทวนสิ่งใหม่ๆในระบบเพื่อให้เกิดความเหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่เราต้องนำมาพิเคราะห์ครับ

บางคราวการพูดเร็วไป ทั้งที่ความพร้อมไม่เกิดขึ้น มันก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ อย่างที่น้องลูกหินยกตัวอย่างเรื่องลุงจิ๋ว
อันนั้นผมว่า แกไม่ได้มีนัย เฉกเช่นผมแน่ๆ

สิ่งที่ผมกล่าวคือ สำหรับเมืองไทยเวลานี้ ประชาชนมองหาความศรัทธาอยู่สามอย่าง

1. ศรัทธาในเชิงคุณธรรม ความดี อันได้แก่ มองไปที่ ธรรมของประมุขของสถาบันสูงสุด ศาสนา และลัทธิความเชื่อ

2. ศรัทธาในเชิงความเป็นอยู่ ประชาชนมองหา ผู้นำหรือผู้แทนของประชาชนที่จะมาเป็นผู้นำ ทำให้เขา ได้กินดี อยู่ดี มาบริหารบ้านเมือง (ซึ่งไม่เกี่ยวอันใดกับข้อ 1.)

3. ศรัทธาต่อความเป็นอยู่เชิงยั่งยืน อันหมายถึงสัญญาญต่างๆ ทั้งข้อ 1 และ 2 ประกอบกัน แล้วพิเคราะห์ว่า มีความยั่งยืน มากน้อยเพียงไร?



สำคัญมากๆ คือ ข้อ 2 และ 3 เพราะ ข้อ 1 นั้นเปรียบเสมือน เข็มทิศในมโนธรรมของคน
ข้อ 2 และ 3 เสมือนเข็มทิศ ในการดำรงชีวิต และแผนที่ที่จะไปยังเป้าหมายของชีวิต

ข้อ 2 และ 3 ต้องการระบบที่วางแผนระยะยาวไว้ในตัวครับ ว่า ระบบนั้นๆจะตอบรับประชาชนและความอยู่รอดของประเทศได้เพียงใด

ประเทศเราเป็นประเทศที่ดูเหมือนมีการศึกษาที่ดี แต่ความจริงแล้วไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นเลย
ความคิด และวิธีคิดของคนในประเทศนั้น ยังมีคนอีกมากที่ยังไร้วิธีคิดที่เหมาะสม

การศึกษาในประเทศจะเป็นสิ่งที่สร้างให้คนเรารู้จักคิดและกำหนดวิธีคิด ซึ่งต่างกับ อเมริกา ซึ่งการศึกษาของเขาจะทำให้คนคิดเป็นและค้นหาวิธีคิดได้อย่างเหมาะสม


สภาพของประเทศตอนนี้ ก็น่าจะมีการพิจารณาระบบที่เหมาะสมกันใหม่ (ระบบการค้นหาผู้นำมาบริหารประเทศ นะครับ)

การยึดติดอยู่กับระบบการเลือกผู้นำแบบเดิมๆนั้น ยิ่งเป็นการทำร้ายตนเองครับ




Wow!  Greatest!

นานๆ ที มีคำตอบ ถูกใจฮะ.. (ไม่ด๊ายยอ พี่ Heat )

  เหตุผล ของการ ศึกษา .. > ลูกหิน เชื่อว่า ..
คนที่ เป้น KING  และ  นายกรัฐมนตรี ทุกคน ก็มองเห็น ( แม๊ว จิ๋ว ชวน เติ้ง หมัก ฯลฯ)
และท่านเหล่านั้น ก็กำลัง ปลูกฝัง .. ให้ คนไทยรุ่นใหม่..กันอยู่
มีความคิด ได้เอง.. วิเคราะห์ ได้เอง... ในอนาคต
นี่คือ .. ปัจจัยสำคัญ (อีกหนึ่งปัจจัย)  ที่  ระดับผู้นำกำลัง ทำอยู่ฮะ

<<ไม่มีใคร..คิดจะอยู่ค้ำฟ้า...ดอกฮะ..ท่านผู้ใหญ่..เขาก็ รู้เป็นรู้ ตาย >>>

ไม่ว่า " มือที่มองไม่เห็น " หรือ  ฝ่าย นิยมอาแม๊ว   และ " ฝ่าย สะตอ "
ท่าน.. กำลัง ช่วย กันวางรางฐาน ตรงนี้อยู่


 แต่เมื่อ หาก ประชาชน มีการศึกษา.ฯ
ไม่เป็น เบี๊ยบ่อน ล่าง ..ไม่ถูกชักจูง จาก
ระบอบ.. ประชานิยม ..หรือแม้นแต่ Policy Motive system ได้

 ลูกหินคิดว่า .. เมื่อนั้น..ประเทศ ไทย จะ เริ่ม ไปในทิศทาง.. ที่สวยหรู แบบ
ประเทศ อเมริก๊า ..ที่ พี่ Heat หวังไว้ !

แต่ ถึงตอนนั้น..  ก็อีกน่านแหละฮะ .. คงต้องคุยกัน ต่อเรื่องอื่นอีก...

   เช่น    ก่อนมี..การศึกษา..
ก้อต้อง กินอื่มกันก่อน.. ถึงจะมีเวลาหาโอกาส นั่งอ่านหนังสือ
กองทัพ เดินด๊วยท้อง ..ตามตำรา  ไม่พ้นปัจจัย 4

คำถาม( ต่อ) :  ถ้า คนไทย .. มีปัจจัย 4 ครบสมบูรณ์ .. ยังม่ายนับที่ พี่ Heat กล่าวเรื่อ 3 ข้อนั้น
  พี่คิดว่า .. จะเป็น ปัจจัย+ เพิ่มเติมที่ดี ..ให้แก่ คนไทยแข้งแรง
เพื่อ สนับ สนุน ประชาธิปไตย..  ขึ้นได้บ้างไหมฮะ ?


คำถาม ย่อย : พี่ คิดว่า  ("ความพอเพียง" ของ King + "การประหยัด" ของ อาแม๊ว + "สุขภาพดี" น้าชวน)
มีสว่นช่วยเหลือ .. สนับสนุน เรื่องนี้ ได้ไหม ?.. เกี่ยวกันมั๊ยหนอ ?




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2008, 13:31 โดย ลูกหินฮะ๛ » บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #12 เมื่อ: 26-02-2008, 13:09 »

ไม่ต้องยกเทพอะไรมาอ้างหรอกครับ
พวกที่เลวที่สุดก็พวกประชาชนโง่ๆเหมือนควายบางจำพวก
หมาห้าขา น้ำส้วมก็ยังกราบไหว้มาแล้ว
เอาเงิน 80บาทมาล่อก็ขี้คร้านจะกระโดดขึ้นรถให้เขาพาไปไหนต่อไหน
เอาเหล้าแบนนึงก็แลกคะแนนเสียงได้
ไอ้ประชาชนโง่ๆแบบนี้แหละครับชาติมันถึงไม่เจริญ

เอาอีกแล้ว...พวกไม่ยอมรับชะตากรรม ไม่ยอมรับกติกา และไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ หากคุณคิดว่าพปช.ชนะมาได้เพราะซื้อเสียง กกต.ชุดที่ให้ยุทธใบแดงวันนี้จะถูกกล่าวหาว่าลำเอียงเข้าข้างเผด็จการปล้นอำนาจอธิปไตย หรือว่าทำงานแบบโง่ๆกันแน่เอ่ย?
บันทึกการเข้า
h_e_a_t
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


น้ำข้าว อร่อยกว่า ไวน์ เยอะเลยย


« ตอบ #13 เมื่อ: 26-02-2008, 13:21 »

ไม่ต้องยกเทพอะไรมาอ้างหรอกครับ
พวกที่เลวที่สุดก็พวกประชาชนโง่ๆเหมือนควายบางจำพวก
หมาห้าขา น้ำส้วมก็ยังกราบไหว้มาแล้ว
เอาเงิน 80บาทมาล่อก็ขี้คร้านจะกระโดดขึ้นรถให้เขาพาไปไหนต่อไหน
เอาเหล้าแบนนึงก็แลกคะแนนเสียงได้
ไอ้ประชาชนโง่ๆแบบนี้แหละครับชาติมันถึงไม่เจริญ

อือม์ ผมไม่ค่อยจะสบายใจเท่าไรนัก เมื่อมีคำกล่าวว่า ประชาชนโง่ๆ เหมือนควายบางจำพวก อะไรทำนองนี้นะครับ

อย่าลืมว่า ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง อายุก็ต้อง 18 ปีเต็ม
มองย้อนไปในอดีต ก่อนเขาอายุ 18

ใครกันที่ทำให้เขาโง่เป็นควาย???? รัฐบาลไหน?

หากจะมาเถียงด้วยเหตุผลเช่นนี้ มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น เพราะมันเน้นสำนวนมากกว่า เหตุผล

แต่ต้องยอมรับว่า ระบบการศึกษาของไทยต่างหากที่มันไม่ได้เรื่อง ยกเครื่องกันกี่หนก็ไม่ได้เรื่อง ต้องมองไปตรงนั้น ต้องมองไปที่นโยบายและวิสัยทัศน์ทางด้านการศึกษา แล้วเอามาพิเคราะห์กันน่าจะดีกว่าครับ

หากพูดถึงชาติที่เป็นองค์รวมและต้องการให้ชาติเจริญ

เราก็ต้องมามององค์รวมที่เป็นพื้นฐาน โดยเฉพาะที่การศึกษากันครับ เพราะความรู้เท่านั้น ที่จะช่วยให้เราคิดได้ ทำได้ และทำให้ชาติเจริญได้

คำว่าความรู้นั้น ต้องรู้ และคิดเป็น คิดเป็นก็ต้องรู้จักวิธีคิด
ไม่ต้องพูดถึงคุณธรรมเลยก็ได้ เพราะหากคิดเป็น คำว่าคุณธรรม จะถูกแฝงเข้าไปโดยปริยายในวิธีคิดนั้นๆ
แต่หากไม่แฝง ความคิดนั้นๆ แม้จะทำได้อย่างเกิดผล ก็ไม่ยั่งยืนเท่าไรนัก และจะตายไปในที่สุด หรือไม่ได้รับการยอมรับจากนานาอารยะประเทศ


การเมืองนั้น ไม่ว่าระบบระบอบใด ก็หนีไม่พ้นเรื่องฉาวๆ
แต่การปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์นั้น จะช่วยบรรเทาและช่วยลดเรื่องซ้ำซ้อนแย่ๆทางการเมืองได้เช่นกัน

ผมอยากให้เข้าสู่ประเด็นเดิมน่ะครับ คือ นายกรัฐมนตรี เลือกตั้ง นั้น มันเหมาะสมมากน้อยเพียงไร และจะมาปรับใช้กับประเทศไทยเราได้ไหม?
บันทึกการเข้า

โลกนี้ ไม่มีใครสูงกว่าใคร  แต่ที่เรามองเห็นคนอื่นสูงกว่า ก็เพราะเราไปคุกเข่าให้เขาเอง
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #14 เมื่อ: 26-02-2008, 13:32 »


อันนี้ พูดจากใจนะฮะ

   หากถ้า ประเทศไทย มีคนที่มีความคิดเห็น หัวก้าวหน้าแบบ .. พี่ อะไรจ๊ะ   
ไม่ต้อง ทั้งหมด .. เอาสัก 70 % ของประเทศ

ลูกหินรับรองว่า ประเทศไทย จะ เป้น มหาอำนาจ ทางเศรษกิจ
และ  ประชาธิปไตยเต็มใบ..อย่างสวยงาม

  ลูกหินหวังว่า... พี่ อะไรจ๊ะ คงเห็นด๊วย กับที่ลูกหิน.. กล่าว
(ไม่ได้ ..ยอ นะ พูดจริงจากใจฮะ)



แต่ลุกหินมี.. ปัญหาคำถาม..อย่างหนึ่ง ? 
(ลูกหิน..อยากทราบคำคิดเห็นฮะ)
เป็นคำถามคล๊ายๆ ที่ถามพี่ Heat คือ ..

  คำถาม : เราต้องมี ปัจจัย อะไรบ้าง .. และ หรือ  Environment Calture .. ฯลฯ
อย่างไรดี...  ถึงจะ..ไปถึงจุด แบบดีๆแบบพี่ อะไรจ๊ะ  .. ปรารถนาได้?

พี่จ๊ะคิดว่า ประเทไทยน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายใน 10 ปีข้างหน้านี้ครับ อะไรที่มีล้าสมัยและไม่ส่งเสริมให้คนในสังคมพัฒนาในทางที่ดีขึ้นย่อมแตกดับไปตามกาลเวลา สื่ออินเตอร์เน็ตคือเครื่องมือการแสวงหาความจริงช่องทางหนึ่งที่ใครก็ไม่สามารถปิดกั้นความจริงได้ โชคดีที่ช่องทางนี้ยังเป็นทางเลือกสำหรับคนไทยผู้ใฝ่หาความรู้/ความจริง เมื่อปัญญาเกิดจากการแสวงหาความรู้...ความศรัทธาที่มีมานานโดยการล้างสมองย่อมจางหายไป

พี่จ๊ะคิดว่า คนๆเดียวไม่สมควรกำหนดโชคชะตาของคนทั้งประเทศ...เพียงพอและพอเพียงมากพอแล้วครับ!!
บันทึกการเข้า
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #15 เมื่อ: 26-02-2008, 13:55 »

พี่จ๊ะคิดว่า ประเทไทยน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายใน 10 ปีข้างหน้านี้ครับ อะไรที่มีล้าสมัยและไม่ส่งเสริมให้คนในสังคมพัฒนาในทางที่ดีขึ้นย่อมแตกดับไปตามกาลเวลา สื่ออินเตอร์เน็ตคือเครื่องมือการแสวงหาความจริงช่องทางหนึ่งที่ใครก็ไม่สามารถปิดกั้นความจริงได้ โชคดีที่ช่องทางนี้ยังเป็นทางเลือกสำหรับคนไทยผู้ใฝ่หาความรู้/ความจริง เมื่อปัญญาเกิดจากการแสวงหาความรู้...ความศรัทธาที่มีมานานโดยการล้างสมองย่อมจางหายไป

พี่จ๊ะคิดว่า คนๆเดียวไม่สมควรกำหนดโชคชะตาของคนทั้งประเทศ...เพียงพอและพอเพียงมากพอแล้วครับ!!


ขอบคุณพี่อะไรจ๊ะ ที่ อธิบาย ในแง่ดีๆฮะ

  พี่ก้อ ..มีขอบเขต..ในความปรารถนา เหมือนพี่ Heat
ตามที่ลูกหิน Bold ไว้

  แต่ ตรง Blod สีแดง  .. ถ้าลุกหิน จะขอ พี่อะไรจ๊ะ
เพิ่มเติม หรือ ดัดแปลงคำ( ด๊ายป่าวฮะ) 

เปลี่ยนเป็น...   จาก
[ สื่ออินเตอร์เน็ตคือเครื่องมือการแสวงหาความจริงช่องทางหนึ่งที่ใครก็ไม่สามารถปิดกั้นความจริงได้

  สื่อ อินเตอร์เน้ต เป้นเครื่องมือ ในการ ค้นหาข้อมูลส่วนหนึ่ง เพื่อประกอบ.. การตัดสินใจ.. !?!?! 

   พี่ว่า จะ เก๋ ขึ้นไหมฮะ ? ..
หวังว่า ม่ายซีเรียสนะฮะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2008, 15:15 โดย ลูกหินฮะ๛ » บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #16 เมื่อ: 26-02-2008, 14:15 »

จบจากคำถาม  อเมริกา... แล้ว
ลูกหิน คิดว่า... ถ้า อ่าน ของ พี่ Heat  นับว่า พอได้คำตอบ..พอสมควร
  แต่ก็ น่านแหละ เพราะ ...อาจจะ ไกลไปหน่อย..
เลยลอง.. ไกล้ๆ ดูประเทศ ที่ เจริญแล้ว .ในเอเชียบ้าง?

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
คำถาม ต่อไป.ฮะ :
พี่ Heat กะ พี่ อะไรจ๊ะ...
มีความคิดเห้น   ... กรณี  ระบบการปกครอง ของ  ประเทศ
 ญี่ปุ่น และ ใต้หวัน อย่างไรบ้างฮะ

 Idea 1 . แนวโน้ว .. ระบอบการปกครอง จะแตกต่าง  อเมริกา   อย่างไร  ?
 Idea 2 . แนวโน้ว .. ระบอบการปกครอง จะแตกต่าง  จีน อย่างไร  ?  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2008, 14:18 โดย ลูกหินฮะ๛ » บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
h_e_a_t
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


น้ำข้าว อร่อยกว่า ไวน์ เยอะเลยย


« ตอบ #17 เมื่อ: 26-02-2008, 15:10 »

จบจากคำถาม  อเมริกา... แล้ว
ลูกหิน คิดว่า... ถ้า อ่าน ของ พี่ Heat  นับว่า พอได้คำตอบ..พอสมควร
  แต่ก็ น่านแหละ เพราะ ...อาจจะ ไกลไปหน่อย..
เลยลอง.. ไกล้ๆ ดูประเทศ ที่ เจริญแล้ว .ในเอเชียบ้าง?

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
คำถาม ต่อไป.ฮะ :
พี่ Heat กะ พี่ อะไรจ๊ะ...
มีความคิดเห้น   ... กรณี  ระบบการปกครอง ของ  ประเทศ
 ญี่ปุ่น และ ใต้หวัน อย่างไรบ้างฮะ

 Idea 1 . แนวโน้ว .. ระบอบการปกครอง จะแตกต่าง  อเมริกา   อย่างไร  ?
 Idea 2 . แนวโน้ว .. ระบอบการปกครอง จะแตกต่าง  จีน อย่างไร  ?  


เฮ่ย...........ลูกหินนนนนน น้องเล่นถามพี่ เหมือนเมื่อ 6 ปีที่แล้วเลย!!!!!~

ไม่ตอบก็ไม่ได้ ขืนตอบก็ตอบยาวแน่ๆ เล่นถามแบบนี้

แนวโน้มน่ะเหรอ.........อีกหน่อย ไต้หวัน ก็กลับสู่สภาพที่เป็นประเทศในอารํติของจีนแดงโดยสมบูรณ์ ยื้อไปอีกได้ไม่นานหรอก แต่จีนแดงก็ต้องปรับเปลี่ยนตนเองเพื่อความเหมาะสม ให้ไต้หวันเข้ามาอยู่ในปกครองอย่างสมบูรณ์ด้วยครับ(ความเห็นของผมอยากได้รายละเอียดต้องหาไวน์ดีๆ แพงๆมากินกันก่อน)
ดังนั้นต้องรอดูท่าทีจีนแดงว่า จะปกครองแบบไหน เพื่อให้เหมาะสมกับประเทศหน้าด่าน แบบฮ่องกง แต่ไม่เหมือนฮ่องกงแน่ๆ

ส่วนญี่ปุ่นนั้น
แนวโน้มที่จะเลือกนายกรัฐมนตรี แบบเลือก ประธานาธิบดีของอเมริกา มีครับ และอีกไม่นานเกินรอ
ตอนนี้พรรคต่างๆในญี่ปุ่น ก็เริ่มที่จะสร้างความเชื่อมั่นในพรรคมากกว่า ตัวบุคคลแล้ว แต่ ต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย 

ความคิดเชิงอนุรักษ์นิยมนั้น มีมากกว่าคนไทยด้วยซ้ำไป แต่คนประเทศเขา คิดเป็น และมีวิธีคิด  จึงดูเหมือนกับว่า เขาไม่ค่อยมีแนวคิดอนุรักษ์เท่าไร? แต่หากได้ลองคลุกคลีแล้วจะพบว่า แนวคิดของเขายังผูกพันกับเรื่องอนุรักษ์นิยมบางอย่างอยู่

ญี่ปุ่นนั้น ไม่เป็นตัวของตัวเองมาตั้งแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่สองแล้วครับ น้องลูกหิน  ทุกวันนี้ ก็ยังเป็นเช่นนั้น

แต่ แม้จะไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไรนัก วิธีคิด และระบบการคิดของเขา ก็ไม่ได้ทำให้เขาเป็นทาสของอเมริกาแต่อย่างใด กลับทำให้เกิดโมเมนตั้มย้อนรอยไปหาอเมริกาอีกด้วย ในเชิงเศรษฐกิจ

ญี่ปุ่น มีโอกาสสูงมากที่จะหมดไปซึ่งระบอบเก่าๆ และคนในระบอบเก่าเองจะเป็นผู้กำหนดให้ระบอบนั้นหมดไป ไม่ใช่เพราะอื่นใด แต่เพราะวิสัยทัศน์ของคนในระบอบเก่านั้นต่างหาก


ผมชื่นชมมาก และนับถือมากๆด้วย
บันทึกการเข้า

โลกนี้ ไม่มีใครสูงกว่าใคร  แต่ที่เรามองเห็นคนอื่นสูงกว่า ก็เพราะเราไปคุกเข่าให้เขาเอง
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #18 เมื่อ: 26-02-2008, 15:43 »

พี่จ๊ะห่วงคนไทยบางคนมากกว่าที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงในหลายๆเรื่องที่ผ่านมาหลายสิบปี ห่วงว่าคนเหล่านี้จะไม่ยอมรับความจริง ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ไม่ยอมรับในกระแสโลกาภิวัฒน์ และไม่ยอมทำใจให้ได้ว่า ไม่มี God เดินดินที่ถูกปลุกเสกขึ้นมาเพียงเพื่อให้เกิดแรงศรัทธา

พฤติกรรมของบางคนในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมาย่อมฟ้องในตัวอยู่แล้วว่าเป็นคนดีหรือว่าซาตาน? เป็นฆาตกรหรือว่าเป็นนักบุญ? เป็นจอมสร้างภาพหรือว่าเป็นคนจริง? เป็นผู้สนับสนุนเผด็จการหรือว่าเป็นผู้สนับสนุนปชต.?  เป็นผู้ไม่สะสมทรัพย์สินใดๆหรือว่าเป็นผู้ที่ปากว่าตาขยิบ?  ฯลฯ


สรุปก็คือ ไม่มีใครใหญ่เกินกรรมที่ตัวเองเป็นผู้สร้างหรอกครับ....คนที่ทำบุญหรือมีบุญอย่างน้อยๆก็คือ คนที่มีอวัยวะครบ 32 มิใช่หรือ!?!
บันทึกการเข้า
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #19 เมื่อ: 26-02-2008, 15:56 »

พี่จ๊ะห่วงคนไทยบางคนมากกว่าที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงในหลายๆเรื่องที่ผ่านมาหลายสิบปี ห่วงว่าคนเหล่านี้จะไม่ยอมรับความจริง ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ไม่ยอมรับในกระแสโลกาภิวัฒน์ และไม่ยอมทำใจให้ได้ว่า ไม่มี God เดินดินที่ถูกปลุกเสกขึ้นมาเพียงเพื่อให้เกิดแรงศรัทธา

พฤติกรรมของบางคนในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมาย่อมฟ้องในตัวอยู่แล้วว่าเป็นคนดีหรือว่าซาตาน? เป็นฆาตกรหรือว่าเป็นนักบุญ? เป็นจอมสร้างภาพหรือว่าเป็นคนจริง? เป็นผู้สนับสนุนเผด็จการหรือว่าเป็นผู้สนับสนุนปชต.?  เป็นผู้ไม่สะสมทรัพย์สินใดๆหรือว่าเป็นผู้ที่ปากว่าตาขยิบ?  ฯลฯ


สรุปก็คือ ไม่มีใครใหญ่เกินกรรมที่ตัวเองเป็นผู้สร้างหรอกครับ....คนที่ทำบุญหรือมีบุญอย่างน้อยๆก็คือ คนที่มีอวัยวะครบ 32 มิใช่หรือ!?!

ทักษิณมันเหี้eขนาดนั้นเชียวหรือ ?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2008, 16:00 โดย qazwsx » บันทึกการเข้า

qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #20 เมื่อ: 26-02-2008, 17:14 »


เอี้ยแบบไหนกันหนอถึงทำทีม MCFC รุ่งกว่าเก่า ไปไหนทั่วโลกก็มีแต่คนให้เกียรติ์และยอมรับ ขนาดตัวอยู่ไกล...พปช.ยังชนะขาดลอยเพราะบารมีแท้ๆ

เห็นไหมครับว่า The truth shall set you free จริงๆ


ถ้าเอา "การทำทีมฟุตบอล" มาเป็นข้อพิจารณาได้
อีกไม่นานถ้ามี "หมาออกไข่" หมาตัวนั้นก็คงได้รับการยกย่องว่า "เจ๋งกว่าทักษิณ ( ทักษิณออกไข่ได้เปล่า ?? )"

คนทั่วโลกเขารู้จักให้เกียรติคนอื่นเพราะ "เขารู้จักมารยาทและมีความเป็นวิญญูชน"
ในขณะที่ "คนเชียงใหม่ไล่กึ๊ด" และ "ขีข้ารื้อเวทีปราศรัย" นั่นก็เพราะมีสันดานแบบ "ขี้ข้าทักษิณ"
อันเป็น "วิธีการแสดงมารยาทและวัฒนธรรมแบบคนเชียงใหม่ - ถิ่นฐานสันดานเกิดของทักษิณ"

ส่วนการยอมรับ  ก็เป็นเพราะเขายอมรับใน "เงิน" ที่ทักษิณมี
แบบเดียวกับที่คนเชียงใหม่สอนสั่งกันว่า "จิกปิกไหนก็ป้อ - จ้อว้อไหนก็ขวัก ( คนรวยไปไหนก็ได้รับการป้อยอชื่นชม  คนซำเหมาไปไหนก็มีแต่โดนขับไล่ )"
..."สันดานแบบคนเชียงใหม่ - ถิ่นฐานสันดานเกิดของทักษิณ" อีกนั่ล่ะ

ขนาดอยู่ไกล พปช.ยังชนะขาดลอย
โอ๊ย...ก่อนหน้านี้ "ไอ้พวกที่ได้รับเลือกตั้ง" ในพื้นที่เหล่านั้น  มันก็ล้วนแต่เป็นญาติโกโหติเกของ สส.เก่า
ที่ก่อนหน้านั้นเป็นมาหมดแล้วทุกพรรค  ตั้งแต่ชาติไทย  ชาติพัฒนา  เอกภาพ  ความหวังใหม่
...ต่อให้ทักษิณหกล้มกระdorจมหัวเหน่าเข้าไปอุดเส้นเลือดใหญ่ตายที่อลาสก้า
...ไอ้หน้าเดิม ๆ พวกนี้ที่ย้ายไปอยู่พรรคเหวพรรคห่าหรือแม้แต่ "ประชาธิปัตย์" ก็ยังได้รับเลือกอยู่ดีนั่นล่ะ


สรุป...ไม่ว่าจะเป็นข้ออ้างขี้โม้ คำโอ่อวดวิเศษใด ๆ
ก็ล้วนแล้วแต่ "ฟังไม่ขึ้น" ทั้งนั้น

บันทึกการเข้า

qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #21 เมื่อ: 26-02-2008, 17:42 »



ขอโทษนะไอ้เตี้ย
พี่ก็ไม่เห็นน้องจะ "ขยี้" ห่าเหวอะไรเลย
มีแต่แร่ดแถ่ด ๆๆ ยั่วยวน แต่หาข้อขัดแย้งหรือข้อมูลมาหักกลบลบความไม่ได้สักเรื่อง

คงจะเป็นอาการเดียวกับไอ้เจ๊กเตี้ยขี้โม้ที่มักจะโอ่อวดว่าหิ้วกะหรี่โคโยตี้จากร้านไม้เอกไปอึ๊บทีละ 2 คนนั่นล่ะ
...เด็กมันกลับมาบอกว่า "ขี้เหนียวก็ขี้เหนียว แถมเอาเข้าจริงแหม้งไม่สู้ - Joo อันเท่าไม้จิ้มฟัน"

ขี้โม้เอ๊ย
บันทึกการเข้า

อมพระมาพูด
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 918


สนิมเกิดแต่เนื้อในตน


« ตอบ #22 เมื่อ: 26-02-2008, 17:51 »

โห.....ปู่เย็น.......กร๊ากกกกก  ยิ่งกว่าซีม่าโลชั่น !!!!! 
บันทึกการเข้า

พึงทำความเพียรในวันนี้ ใครเล่าจะรู้วันตายในวันพรุ่ง
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 26-02-2008, 18:15 »

อยู่บอร์ดคนขับรถ APV บุโรทั่งแล้วมันเหงามากหรือไง
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #24 เมื่อ: 26-02-2008, 19:00 »


เฮ้อออ...กู่ไม่กลับจริงๆน้องคนนี้ กลับไปนอนเลียแผลเถอะไป๊

เป็นอะไร ?
นอกจากขี้โม้แล้วยังเพ้อเจ้อไร้สติ
...ไปกินเอโปรหรือเพ็ดดีกรีซะไป๊ 
หาอาหารที่เหมาะสมกับสายพันธุ์กินซะบ้าง  อย่าเอาแต่กินขี้ไอ้แม้ว
บันทึกการเข้า

พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #25 เมื่อ: 26-02-2008, 20:33 »

ประชาชนเป็นอย่างไร รัฐบาลเป็นอย่างนั้น

รัฐบาลเป็นอย่างไร ประชาชนเป็นอย่างนั้น

สัจธรรมนี้ วันนี้ได้พิสูจน์แล้ว  รัฐบาลขี้ข้าแม้ว ก็มาจาก ประชาชนขี้ข้าเงิน นั่นเอง

คนปัญญาอ่อนปกครองตนเองไม่ได้ คนไร้เดียงสาปกครองตนเองไม่ได้ คนโง่ปกครองตนเองไม่ได้

ถ้าคนทุกคน มีคุณสมบัติปกครองตนเองได้ บ้านเมืองก็ไม่ต้องมีคุกมีตาราง แต่ที่มันต้องมี เพราะคนส่วนหนึ่งปกครองตนเองไม่ได้ เมื่อปกครองตนเองไม่ได้ ก็ทำชั่ว

การเลือกตั้งผู้นำประเทศโดยตรงนั้น ใช้ไม่ได้กับประเทศที่มีพลเมืองเห็นแก่ได้ ประเทศด้อยพัฒนาทั้งหลาย พินาศเพราะผู้นำชั่วมามากแล้ว และประเทศไทยก็หนีไม่พ้น หากปล่อยให้เลือกตั้งผู้นำโดยตรง โดยใช้กฎเกณฑ์การเลือกตั้งเพียงแค่ อายุเกิน 18 เขาจะงอกหรือไม่ก็ไม่เป็นไร เลือกได้ทั้งนั้น ก็จะได้ไอ้ชั่ว ที่มีเงิน มาปกครองบ้านเมือง แล้วก็ถึงกาลฉิuหาย

ประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็มีข้อจำกัด

เสียงส่วนใหญ่บอกความต้องการได้ แต่บอกความถูกต้องไม่ได้

โดยเฉพาะเสียงส่วนใหญ่ที่มันขายเสียง จะยกบ้านยกเมืองให้ใครก็ได้เพื่อแลกกับเงิน ประเทศที่มีพลเมืองบัดซบมากขนาดนั้น ถ้าให้เลือกผู้นำโดยตรง สิ้นชาติแน่นอนค่ะ

คราวนี้ชักเห็นด้วยกับกระทู้ไหนจำไม่ได้แล้วขออภัย ที่จะให้สอบ IQ คนที่จะไปเลือกตั้ง ถ้าเลือกผู้นำโดยตรง ต้องสอบหนักๆหน่อยค่ะ 
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #26 เมื่อ: 27-02-2008, 00:44 »

ความจริง ในระบบประธานาธิบดี แบบอเมริกานั้น มันมีข้อดีอยู่ไม่น้อยทีเดียว

เพราะ มันเป็นการเลือกผู้นำประเทศ(ตามแต่ประชาชนเห็นเหมาะสม) ขึ้นมาดูแล บริหารประเทศ

โดยผู้นำนั้น ชูนโยบายตนเองให้ชัดแจ้ง รวมทั้งวิสัยทัศน์ แก่ประชาชน เช่นนี้ ผู้ได้รับประโยชน์ก็คือ ประชาชน แถม สิ่งที่ผู้สมัครนั้นชูนโยบายไว้แล้วก็จะเป็นสัญญาประชาคมกลายๆ

ความอิสระในการจัดทีมบริหารประเทศ ก็มีเต็มที่ ไม่ต้องกริ่งเกรงหรือกังวลใดๆ จะจัดบุคคลใดลงตำแหน่งใดเพื่อให้เกิดความเหมาะสมที่สุดก็ย่อมทำได้ อีกทั้งระยะเวลาในการบริหารประเทศ ก็มีระยะเวลายาวนานพอที่จะแก้ไข ปรับปรุง และพัฒนา นั่นคือ 6 ปี
เวลา 4 ปีนั้น ผมว่าน้อยไป เพียงแก้ไขปัญหาบางอย่างก็กินเวลามากกว่า 4 ปีแล้ว เช่นปัญหาละเอียดอ่อนเกี่ยวกับสามจังหวัดชายแดนใต้

....................4 ปี กับนโยบายต่างประเทศกับเพื่อนบ้านและมิตรนานาชาติ นั้น สั้นไป ไม่เพียงพอต่อการสร้างความเชื่อมั่นในบางอย่างได้เลย  6 ปี จึงน่าเป็นเวลาที่เหมาะสมกว่าในการทำงาน


หากจะต้องมีการแก้ไข ปรับรัฐธรรมนูญอีกสักครั้ง ผมอยากให้ เมืองไทยลองพิจารณาดูในระบบอื่นๆดูบ้าง เพราะ ปัจจุบัน หากมองกันจริงๆ ระบบที่ใช้อยู่นี้ ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ปัญหาก็ยังคงเดิมๆ นั่นเป็นเพราะแนวทางหลักๆในรัฐธรรมนูญ ตีกรอบไว้ว่า ต้องเป็นแบบนี้


ความขัดแย้งของคนในชาตินั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากคนในชาติกันเอง  แต่มันเกิดมาจากระบบที่มีและนักการเมืองในระบบนั้นๆ

ถ้าเราคิดกันให้ดีๆ การเปลี่ยนระบบ ก็ไม่ได้มีอะไรที่จะเสียหาย กลับทำให้ความชัดเจนมีมากขึ้น ผู้แทนทั้งหลายที่ได้มาในระบบนั้นๆ(อเมริกาเรียกเป็นวุฒิสมาชิก) นอกจากจะถูกตัดตอนไม่ให้มีการคอร์รัปชั่นแล้ว ยังต้องแข่งขันกันสร้างประโยชน์แก่ประชาชน  ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้รับอย่างเดียวในคำตอบสุดท้าย

กฏหมายต่างๆ จะกลั่นกรองอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วนอำนาจตุลาการนั้น เป็นอิสระจริงๆและไม่ได้ขึ้นตรงแก่ผู้ใด

ผมอยากให้ประเทศเรา เปลี่ยนระบบดูบ้างเถอะ ตั่งแต่ 2475 เป็นต้นมา ไม่เห็นว่า ระบบนี้จะทำให้เราไปได้ถึงไหนเลย

ผมก็คิดเหมือนกับอีกหลายๆ คนว่าระบบการเมืองการปกครองของเรามันมีข้อบกพร่องมากเกินไป
ไม่สมควรนำมาใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน นอกจากไม่สามารถกำจัดคนเลวออกจากระบบ
ยังไม่สามารถคัดสรรคนที่เหมาะสมให้มาบริหารประเทศอีกด้วย

เรื่องนี้ผมก็เลยคิดระบบบริหารประเทศอีกแบบเอาไว้ คล้ายๆ ระบบของเราแต่ไม่ใช่ประธานาธิบดี
(เรื่องนี้คงไม่แปลกนะครับที่คิดระบบใหม่ๆ เพราะประธานาธิบดีก็เคยเป็นระบบประหลาดมาก่อน)

...

ผมเคยคิดว่าความจริงน่าจะให้แต่ละพรรคนำเสนอ ครม. ทั้งคณะมาให้เลือกแต่แรก ระบุมาให้หมด
จะให้ใครนั่งกระทรวงไหน มีประวัติยังไง มีนโยบายอะไร และให้ประชาชนเลือกได้เพียงพรรคเดียว
(นี่คือการ "เลือกพรรค" ให้มาบริหารประเทศอย่างแท้จริง) และพอชนะเลือกตั้งก็ต้องรับตำแหน่ง
ตามที่หาเสียง ไม่ใช่ตอนหาเสียงชูคนนึงเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พอได้เป็นรัฐบาลก็เปลี่ยนตัว
เอาใครก็ได้มานั่งทำงานแทน แบบนั้นแหกตาประชาชน

และในการนำเสนอก็ควรมีตัวสำรองสักตำแหน่งละ 2 คนมาเตรียมเอาไว้ด้วย เผื่อตัวจริงทำงานไม่ดี
ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจนต้องออกจากตำแหน่ง หรือพลาดพลั้งบาดเจ็บล้มตายระหว่างปฏิบัติงาน

ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร ให้จัดเลือกตั้งแยกต่างหาก โดยที่ผู้สมัคร สส.จะสังกัดพรรคหรือไม่
ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป และวาระการดำรงตำแหน่ง ส.ส. 4 ปีอาจให้คร่อมกับวาระ 4 ปีของรัฐบาลก็ได้
จะทำให้มีการเลือกตั้งทุก 2 ปีสลับกันระหว่างเลือกรัฐบาล กับเลือก ส.ส. เพื่อคานอำนาจ

โดยที่ต้องรับรองการดำรงตำแหน่งของรัฐบาลให้อยู่ครบวาระเสมอ คล้ายๆ สหรัฐอเมริกา ไม่ใช่แบบ
อยู่ได้แค่ปีเดียวยุบสภาหนีอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในทำนองเดียวกันต้องไม่ให้นายกฯ ยุบสภาได้ง่ายๆ
ถ้าเล่นกันแบบระบบการเมืองไทย ไม่มีวันมีเสถียรภาพอะไรเลย หรือมีเสถียรภาพก็กลายเป็นเผด็จการ

ในส่วนของ ส.ว. ผมไม่ชอบที่มี ส.ว. แต่งตั้ง ผมอยากให้แต่ละจังหวัดมี ส.ว. จำนวนคงที่จังหวัดละ
สัก 2 คนไม่ว่าเป็นจังหวัดเล็กหรือใหญ่ (อย่างที่อเมริกาจะรัฐเล็กหรือใหญ่ก็มีจำนวน ส.ว. เท่ากัน)
ให้ดำรงตำแหน่งสัก 6 ปี ทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย และในสมัยแรกที่เริ่มระบบให้มีจับฉลากออก
ตอนกลางเทอม 3 ปีจังหวัดละ 1 คน เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ และเริ่มวงจรเลือกตั้งใหม่ครึ่งสภา
ในทุกๆ 3 ปีต่อไป เพื่อเป็นการคานอำนาจเช่นเดียวกัน

ผมคิดว่าควรมีงบประมาณสำหรับจัดตั้ง+บริหารสำนักงาน ส.ว. แต่ละจังหวัดให้ประชาชนสามารถ
ติดต่อเข้าถึง ส.ว. ของตัวเองได้เป็นที่เป็นทาง

ในความคิดผม ส.ว. จะสังกัดพรรคการเมือง หรือได้รับการสนับสนุนจากพรรคไม่ใช่เรื่องแปลกครับ
แต่จะต้องมีเอกสิทธิ์ เป็นอิสระไม่ขึ้นอยู่กับมติพรรค

...

ส่วนเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งของรัฐบาลที่ คุณ h_e_a_t เสนอว่าน่าจะยืดเป็น 6 ปี ผมคิดว่า 4 ปี
ีก็ใช้ได้แล้วครับ เพราะถ้าทำงานได้ดีก็มีโอกาสได้ทำต่ออีกสมัย (น่าจะจำกัดให้นายกฯ ทำงานได้แค่
2 สมัย ตามแนวทางของ รธน.2550)
เห็นด้วยครับว่า ตั้งแต่ 2475 เป็นต้นมา ไม่เห็นว่า ระบบเดิมๆ จะทำให้เราไปได้ถึงไหนเลย 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2008, 00:50 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #27 เมื่อ: 27-02-2008, 01:04 »

คนไทยบางคนยังเชื่อหัวปักหัวปรำด้วยการล้างสมองผ่านพิธีกรรมรูปแบบเทพพรหมต่างๆที่ทำให้เชื่อว่า คนไทยไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้โดยลำพังหากแต่ต้องมีเทพจุติในคราบชนชั้นสูงสุดเท่านั้นที่จะนำประเทศอยู่รอด

ต่างกับอเมริกันชนที่เชื่อว่าพลังประชาชนเท่านั้นที่กำหนดชะตาชีวิตของประเทศ....คนไทยเราถึงจนไม่เลิกแบบนี้ไงครับ

คนไทยอย่างที่คุณอะไรจ๊ะพูดถึงสมควรไปเกิดใหม่ และไม่ต้องลากโยงไปถึงเรื่องระดับประเทศ
แค่ควายออกลูกมาดูคล้ายคน ซากลูกควายก็กลายเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจให้กราบไหว้บูชา
เจลลดไข้ยังเคยเป็นของวิเ้ศษบูชากันหัวปักหัวปำ ขนาดน้ำซึมจากส้วมยังกลายเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์

..แต่สิ่งที่ควรเ้ทินทูนเคารพบูชาจริงๆ กลับมองไม่เห็น และถึงเห็นก็ไม่ได้เคารพบูชาด้วยปัญญา..

พอมีนักการเมืองขี้โกงเอางบประมาณแผ่นดินมาแจกให้ ก็รู้สึกหลงไหลว่าเขาเป็นคนดีมีเงินให้ใช้
บูชาทูนหัวทูนเกล้าไม่ว่ามันจะไปโกงชาติบ้านเมืองวอดวายยังไงก็ไม่สน คิดแต่ประโยชน์ส่วนตัว
พลังประชาชนแบบนี้หรือที่จะกำหนดชะตาชีวิตของประเทศ .. จะไปกันรอดไหม? 

...
ปล. อเมริกันชนมันก็เอาตัวไม่รอดกันอยู่ตอนนี้ไม่ใช่หรือ พาคนอื่นเดือนร้อนไปทั่วโลกต่างหาก 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2008, 01:06 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #28 เมื่อ: 27-02-2008, 12:53 »

พี่จ๊ะคิดว่า ประเทไทยน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายใน 10 ปีข้างหน้านี้ครับ อะไรที่มีล้าสมัยและไม่ส่งเสริมให้คนในสังคมพัฒนาในทางที่ดีขึ้นย่อมแตกดับไปตามกาลเวลา สื่ออินเตอร์เน็ตคือเครื่องมือการแสวงหาความจริงช่องทางหนึ่งที่ใครก็ไม่สามารถปิดกั้นความจริงได้ โชคดีที่ช่องทางนี้ยังเป็นทางเลือกสำหรับคนไทยผู้ใฝ่หาความรู้/ความจริง เมื่อปัญญาเกิดจากการแสวงหาความรู้...ความศรัทธาที่มีมานานโดยการล้างสมองย่อมจางหายไป

พี่จ๊ะคิดว่า คนๆเดียวไม่สมควรกำหนดโชคชะตาของคนทั้งประเทศ...เพียงพอและพอเพียงมากพอแล้วครับ!!



ถึงเวลานั้น นายกฯนอมินี 'หมัก เมถุน' ยังกล้าบอกว่า 'มีคนตายคนเดียวในเหตุการณ์ 6 ตุลา 19' ไหม  Question
ปล.1 อินเตอร์เนทในเมืองไทยในขณะนี้ นายกรัฐมนตรี(ตัวจริง) ไม่กล้าบิดเบือนอย่างนายกฯตัวแทนเชิดหรอก......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ปล.2 ข้อมูลในห้องราชดำเนิน ห้องสังคมและการเมือง,ประชาไท ทำให้คนไทยเกิดปัญญา.... Question
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #29 เมื่อ: 27-02-2008, 15:02 »

พี่จ๊ะคิดว่า ประเทไทยน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายใน 10 ปีข้างหน้านี้ครับ อะไรที่มีล้าสมัยและไม่ส่งเสริมให้คนในสังคมพัฒนาในทางที่ดีขึ้นย่อมแตกดับไปตามกาลเวลา สื่ออินเตอร์เน็ตคือเครื่องมือการแสวงหาความจริงช่องทางหนึ่งที่ใครก็ไม่สามารถปิดกั้นความจริงได้ โชคดีที่ช่องทางนี้ยังเป็นทางเลือกสำหรับคนไทยผู้ใฝ่หาความรู้/ความจริง เมื่อปัญญาเกิดจากการแสวงหาความรู้...ความศรัทธาที่มีมานานโดยการล้างสมองย่อมจางหายไป

พี่จ๊ะคิดว่า คนๆเดียวไม่สมควรกำหนดโชคชะตาของคนทั้งประเทศ...เพียงพอและพอเพียงมากพอแล้วครับ!!


ถ้าจะเกิดเปลี่ยนแปลงอะไรก็อย่าลืม "ข้ามศพ" คุณแม้วไปก่อนนะครับ
เห็นเขาประกาศความจงรักภักดีอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่หรือ
สื่ออินเตอร์เน็ตมีแต่ความจริงหรืออย่างไร ส่วนใหญ่เห็นมีแต่ข่าวลือ 

เรื่องคนๆ เดียวกำหนดชะตาประเทศได้ เห็นสมุนแม้วยึดถือเรื่องนี้กันอยู่
ขนาดเอาไปทำซีดีแจกหาเสียง จนถูกฟ้องร้องดำเนินคดี

ที่คุณสมัครได้เป็นนายกฯ อยู่ตอนนี้ไม่ใช่เพราะรับเป็นนอมินีหรอกหรือ
ถ้าคุณสมัครสามารถได้รับเลือกด้วยตัวเอง ก็ไม่ต้องทิ้ง ประชากรไทย
มานั่งพรรคที่ไม่มีคนของตัวอยู่สักคนเดียว

..ประมุขของประเทศมีเพียงพระองค์เดียวก็ถูกต้องสมควรอยู่แล้ว..

แต่การงมงายกับนักธุรกิจการเมืองคนเดียว ว่าเป็นผู้กอบกู้ประเทศ
โดยเชื่อตามบทโฆษณาหาเสียง แต่กลับแกล้งโง่ไม่เห็นว่าเขาโกง
เรื่องนี้ต่างหากที่ก่อปัญหาแตกแยกให้กับประเทศชาติในตอนนี้ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
หน้า: [1]
    กระโดดไป: