ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 10:12
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ‘อมธ.’เรียกร้อง'สมัคร-เฉลิม'ขอโทษวีรชน 6 ตุลาฯ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
‘อมธ.’เรียกร้อง'สมัคร-เฉลิม'ขอโทษวีรชน 6 ตุลาฯ  (อ่าน 1403 ครั้ง)
drop
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 737



« เมื่อ: 23-02-2008, 10:09 »

‘อมธ.’เรียกร้อง'สมัคร-เฉลิม'ขอโทษวีรชน 6 ตุลาฯ
22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 18:21:00

"อมธ."แถลงข่าว "นายกฯกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ 6 ตุลา 19"เรียกร้องให้มีการชำระประวัติศาสตร์ให้อนุชนรุ่นหลังได้เรียนรู้เป็นบทเรียนประวัติศาสตร์ของไทย

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :

องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) แถลงข่าว "นายกรัฐมนตรีกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ 6 ตุลา 19" โดย น.ส.ณัชฎา  คงศรี นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์( อมธ.) กล่าวเรียกร้องต่อการให้สัมภาษณ์ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ว่ามีคนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ เพียง 1 คน และไม่มีใครเสียชีวิตในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่บอกว่าเหตุการณ์เกิดจากตำรวจเมาสุราทำปืนลั่น หน้าหอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ตามข้อเท็จจริงมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1 คน และเป็นความเจ็บปวดที่คนไทยต้องมาฆ่ากันเอง

น.ส.ณัชฎา กล่าวว่า อมธ.ขอเรียกร้องต่อนายสมัคร และ ร.ต.อ.เฉลิม 3  ข้อคือ 1. หยุดให้สัมภาษณ์ข่าวกรณีนี้อีก 2. ให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการกล่าวคำว่าขอโทษต่อญาติวีรชนและผู้เสียชีวิตในลักษณะเดียวกันที่ได้พูดถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ คือตามสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ 3. เรียกร้องให้มีการชำระประวัติศาสตร์เหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ให้อนุชนรุ่นหลังได้เรียนรู้เป็นบทเรียนประวัติศาสตร์ของไทย

ทั้งนี้ อมธ.ไม่ประสงค์ให้ข้อเรียกร้องกลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่ผู้ใด กลุ่มใด หรือพรรคการเมืองใด สร้างกระแสเป็นประเด็นทางการเมือง และหากว่าข้อเรียกร้องไม่เป็นผลอมธ.จะหารือว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

----------------------------55555555555555555+ 
มันไม่ขอโทษหรอก  มันจะด่าเอานะซิ   ตอนนี้  กินขี้แม้วกันหมด  พวกซ้ายนรก  ขวาอเวจี  กินขี้แม้ว ทั้งนั้น


--------------------เห็นด้วยที่ออกแถลงการณ์-----------แค่นี้ ปชช  ที่รักชาติ ก็แซ่ซร้องสรรเสริญแล้ว ---------------
บันทึกการเข้า

A  Few  Good  Men

Downey: What did we do wrong? We did nothing wrong.

Dawson: Yeah, we did. We were supposed to fight for the people who couldn't fight for themselves. We were supposed to fight for Will.

************************
I  only  want  to  fight  for  my  country as  long as  I ' m alive. I  do nothing  wrong  .  The tyrant  is  still  the  tyrant, I  have  to  expel  them  in  every  step  of  life. When the  time  come,  the  tyrant   will  absolutely  extinguish. That  ‘ s  the   dharma  truth.
drop
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 737



« ตอบ #1 เมื่อ: 23-02-2008, 10:25 »

http://www.bangkokbiznews.com/2008/02/22/WW01_0104_news.php?newsid=232110

ประวัติศาสตร์บาดแผล
22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 06:55:00

ลมปาก “นายหมอดี” ที่โหมเชื้อด้วยคำพูด “6 ตุลา มีคนตายเพียงคนเดียว” ก่อให้เกิดปฏิกิริยาอย่างกว้างขวาง

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ฉวยโอกาสนำประเด็นร้อนมาสู่เวทีสภาทันที

 ท่าทีของแกนนำ ปชป.ตรงกันข้ามกับท่าทีของ “คนรุ่น 6 ตุลา” ในพรรคพลังประชาชนหรืออดีตไทยรักไทย

 “มิ้ง-เลี้ยบ-อ้วน-อ๋อย-โป๊ะ-แก้ว” ปิดปากเงียบราวกับพวกเขาหายไปจากสังคมไทย

 ขณะที่ “ขบวนการคนเดือนตุลา” ยังขุ่นมัวด้วยอารมณ์ “แยกขั้ว-เลือกข้าง” อันตกค้างมาจากปี 2549-2550 จึงดูแผ่วเบาในสุ้มเสียงที่ออกมาประท้วง “นายหมอดี”

 เท่าที่จับสัญญาณการเคลื่อนไหวของขบวนการคนเดือนตุลา แยกออกได้ 4 กลุ่ม

 กลุ่มแรก - คณะกรรมการญาติวีรชน 6 ตุลา และเครือข่ายพิทักษ์เจตนารมณ์ 14 ตุลา ที่แสดงจุดยืนเรียกร้องให้ “นายหมอดี” ชี้แจงข้อเท็จจริง และจัดรายการเสวนาที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา

 การเคลื่อนไหวดังกล่าวกลับไร้พลัง เพราะคนตุลาอีกปีกหนึ่งมองว่า แกนนำเครือข่ายพิทักษ์เจตนารมณ์ เป็นพวกที่ยืนทางฝั่งฟาก “ไม่เอาทักษิณ”

 ยิ่งเห็นภาพ อมร อมรรัตนานนท์ ออกมาชูป้ายหรา ก็ยิ่งทำให้อดีตผู้ปฏิบัติงานศูนย์กลางนักเรียนแห่งประเทศไทย หรือ “ตุลากระโปรงบาน-ขาสั้น” ซึ่งถูกล้อมปราบในธรรมศาสตร์เมื่อ 6 ตุลา จำนวนมากปฏิเสธที่จะร่วมประท้วง “นายหมอดี”

 เพราะ “อมร” เคยเป็นคนทำงานของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินของ “ประมุขลิ้ม”

 กลุ่มที่สอง - คนเดือนตุลาที่ร่วมขบวน นปก. ต้านเผด็จการ คมช. เช่น น.พ.เหวง โตจิราการ,จรัญ ดิษฐาอภิชัย และสมยศ พฤกษาเกษมสุข พ่วงด้วย “ตุลากระโปงบาน-ขาสั้น” กลุ่มหนึ่งที่สนิทสนมกับ “พี่มิ้ง” กลับมีท่าทีเมินเฉย

 ด้วยพวกเขาประเมินว่ามันเป็น “เกม” ของกลุ่มรับใช้เผด็จการ ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์และสื่อฝ่ายตรงข้ามคนรักทักษิณที่ต้องการขยายผลขยายแผล 6 ตุลา หวังล้มรัฐบาลสมัคร

 “นายหมอดี” อาจพูดผิด แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ และตัวนายหมอดีก็ไม่ใช่ “จอมบงการ” เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในเกมอำนาจ พ.ศ.โน้น

 คนกลุ่มนี้คิดเหมือน “สหายเพ็ญ” หนึ่งในแกนนำ นปก.ที่ประเมินว่า 6 ตุลา เกิดจากระบอบอำมาตยาธิปไตยไม่ต้องการให้ “พลังประชาธิปไตย” เติบโต จึงต้องหาทางกำจัดด้วยการปราบปรามอย่าง***มโหด

 กลุ่มที่สาม - คนรุ่น 6 ตุลา ซึ่งเคยจัดงานชำระประวัติศาสตร์นองเลือดมาแล้วเมื่อครบวาระ 20 ปี 6 ตุลา

 คนรุ่น 6 ตุลา มีความเห็นสอดคล้องกับบทความชิ้นล่าสุดเรื่อง “อย่าหยุดแค่นายสมัคร” ของ ธงชัย วินิจจะกูล

 “ธงชัย” พยายามชี้เป้าไปที่ “ยังเติร์ก” คนหนึ่ง และ “นายพล” อีกคนหนึ่ง ซึ่ง พ.ศ.นั้นเป็น “ขุนศึกบ้านนอก” แต่ พ.ศ.นี้น่าจะเป็น “ผู้มีบารมี” ว่ามีส่วนร่วมในการเข่นฆ่านักศึกษาเช่นกัน

 “ธงชัย” และเพื่อนพ้องมีความคิดคล้ายกับ “สหายเพ็ญ” ที่เคยเขียนบทความโจมตีระบอบอำมาตยาธิปไตย

 “ธงชัย” วิเคราะห์ว่าการเปิดประเด็นชำระประวัติศาสตร์ 6 ตุลา ในวันนี้ เป็นแค่เครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มอำนาจเก่า

 กลุ่มที่ 4 - คนเดือนตุลาที่ไม่เลือกขั้ว กลุ่มนี้วางตัวไม่ฝักฝ่ายไหนมาตั้งแต่การเคลื่อนไหวของพันธมิตรตะเพิดทักษิณ และแนวร่วมไล่ คมช.

 คนเดือนตุลาที่ไม่เลือกขั้วรู้สึกไม่พอใจคำพูดของ “นายหมอดี” แต่ก็ไม่ขอเข้าร่วมเคลื่อนไหวกับฝ่ายใด เพราะประวัติศาสตร์ 6 ตุลา มีการชำระมาแล้ว 2 ครั้ง คือครั้งแรกเมื่อ 20 ปี 6 ตุลา และครั้งที่สอง 25 ปี 6 ตุลา แต่มันก็ยังไม่รอบด้าน เนื่องจากคนกลุ่มนี้ต้องการให้มีการชำระประวัติศาสตร์ทั้ง “ฝ่ายขวา” และ “ฝ่ายซ้าย”

 ข้อเสนอดังกล่าวเคยถูกนำเสนอในวาระ 20 ปี 6 ตุลา แต่ถูกต่อต้านจากบางปีกของคนรุ่น 6 ตุลา โดยเฉพาะกลุ่มที่ถูกเรียกว่า “เรดการ์ดไทย”

 ฉะนั้นหลายฝ่ายจึงเชื่อว่า การชำระประวัติศาสตร์ 6 ตุลา คงทำไม่สำเร็จ

 เพราะมันเป็น “สงครามชนชั้น”...ชนชั้นใดเขียนประวัติศาสตร์ก็เพื่อรับใช้ชนชั้นนั้น

ประชา บูรพาวิถี

อ่านนี่ดีกว่า  ------------------------ เฮี้ยแม้ว  มันยิงปืนนัดเดียว  ได้นก หลายตัว
 กลัวการขยายผล  การโยกย้ายข้าราชการ การเช็คบิล  เริ่มต้นแล้ว  รวมทั้งการที่ สะพรั่งจูบปาก ทักษิณ
--------------------------

ป.ล.  อย่างน้อยบทความยังวิเคราะห์  ให้คนอ่านไปคิดต่อเอง  ไม่ปรักปรำไปที่ใคร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2008, 10:37 โดย drop333 » บันทึกการเข้า

A  Few  Good  Men

Downey: What did we do wrong? We did nothing wrong.

Dawson: Yeah, we did. We were supposed to fight for the people who couldn't fight for themselves. We were supposed to fight for Will.

************************
I  only  want  to  fight  for  my  country as  long as  I ' m alive. I  do nothing  wrong  .  The tyrant  is  still  the  tyrant, I  have  to  expel  them  in  every  step  of  life. When the  time  come,  the  tyrant   will  absolutely  extinguish. That  ‘ s  the   dharma  truth.
drop
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 737



« ตอบ #2 เมื่อ: 23-02-2008, 10:48 »

พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ฉวยโอกาสนำประเด็นร้อนมาสู่เวทีสภาทันที

ถ้า ปชป  จุดไฟ ติด  ไล่ รบ  ออกไปได้  ไม่ให้ เฮี้ยแม้ว กลับมา มีอำนาจ ได้ยินดีอย่างยิ่ง

ทหารเขาจูปปากกะทักษิณ  ก็จูบเงียบ ๆๆ   สะพรั่ง กลับตะโกน ซะลั่นเมือง  จะเหลืออะไร




 



บันทึกการเข้า

A  Few  Good  Men

Downey: What did we do wrong? We did nothing wrong.

Dawson: Yeah, we did. We were supposed to fight for the people who couldn't fight for themselves. We were supposed to fight for Will.

************************
I  only  want  to  fight  for  my  country as  long as  I ' m alive. I  do nothing  wrong  .  The tyrant  is  still  the  tyrant, I  have  to  expel  them  in  every  step  of  life. When the  time  come,  the  tyrant   will  absolutely  extinguish. That  ‘ s  the   dharma  truth.
drop
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 737



« ตอบ #3 เมื่อ: 23-02-2008, 11:01 »

ท่าทีของแกนนำ ปชป.ตรงกันข้ามกับท่าทีของ “คนรุ่น 6 ตุลา” ในพรรคพลังประชาชนหรืออดีตไทยรักไทย

 “มิ้ง-เลี้ยบ-อ้วน-อ๋อย-โป๊ะ-แก้ว” ปิดปากเงียบราวกับพวกเขาหายไปจากสังคมไทย


 พวกซ้ายนรก   จะไปคิดว่า จะพุดอะไร  กินขี้แม้ว เต็มปาก

 
บันทึกการเข้า

A  Few  Good  Men

Downey: What did we do wrong? We did nothing wrong.

Dawson: Yeah, we did. We were supposed to fight for the people who couldn't fight for themselves. We were supposed to fight for Will.

************************
I  only  want  to  fight  for  my  country as  long as  I ' m alive. I  do nothing  wrong  .  The tyrant  is  still  the  tyrant, I  have  to  expel  them  in  every  step  of  life. When the  time  come,  the  tyrant   will  absolutely  extinguish. That  ‘ s  the   dharma  truth.
drop
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 737



« ตอบ #4 เมื่อ: 23-02-2008, 11:06 »

 กลุ่มแรก - คณะกรรมการญาติวีรชน 6 ตุลา และเครือข่ายพิทักษ์เจตนารมณ์ 14 ตุลา ที่แสดงจุดยืนเรียกร้องให้ “นายหมอดี” ชี้แจงข้อเท็จจริง และจัดรายการเสวนาที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา

 การเคลื่อนไหวดังกล่าวกลับไร้พลัง เพราะคนตุลาอีกปีกหนึ่งมองว่า แกนนำเครือข่ายพิทักษ์เจตนารมณ์ เป็นพวกที่ยืนทางฝั่งฟาก “ไม่เอาทักษิณ”

 ยิ่งเห็นภาพ อมร อมรรัตนานนท์ ออกมาชูป้ายหรา ก็ยิ่งทำให้อดีตผู้ปฏิบัติงานศูนย์กลางนักเรียนแห่งประเทศไทย หรือ “ตุลากระโปรงบาน-ขาสั้น” ซึ่งถูกล้อมปราบในธรรมศาสตร์เมื่อ 6 ตุลา จำนวนมากปฏิเสธที่จะร่วมประท้วง “นายหมอดี”

 เพราะ “อมร” เคยเป็นคนทำงานของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินของ “ประมุขลิ้ม”

-------------------------------
จุดอ่อนที่เฮี้ยแม้ว มันรู้ดี  ----------------- ต้องร่วมพลังกันไล่เฮี้ยแม้ว  ก่อนจะ สิ้นแผ่นดิน เพราะพวกเฮี้ยครองเมือง


 
บันทึกการเข้า

A  Few  Good  Men

Downey: What did we do wrong? We did nothing wrong.

Dawson: Yeah, we did. We were supposed to fight for the people who couldn't fight for themselves. We were supposed to fight for Will.

************************
I  only  want  to  fight  for  my  country as  long as  I ' m alive. I  do nothing  wrong  .  The tyrant  is  still  the  tyrant, I  have  to  expel  them  in  every  step  of  life. When the  time  come,  the  tyrant   will  absolutely  extinguish. That  ‘ s  the   dharma  truth.
drop
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 737



« ตอบ #5 เมื่อ: 23-02-2008, 21:50 »

http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=23/Feb/2551&news_id=154954&cat_id=200

เปลวสีเงิน   เรื่อยๆ มาเรียงๆ แบบเลี่ยงๆ ๖ ตุลา

23 กุมภาพันธ์ 2551    กองบรรณาธิการ

บ้าน-ไม่มีเสา ก็ตั้งอยู่ไม่ได้ ต้นไม้-ไม่มีราก ก็มีชีวิตอยู่ไม่ได้ คน-ไม่สนเรื่องชาติกำเนิด ก็ยากเป็นคน "ประเทศชาติ" ก็เหมือนกัน

    ถ้าไม่ยึดประวัติศาสตร์ มันจะเป็นประเทศชาติอยู่ได้อย่างไร?
    ผมเคยดูข่าวต่างประเทศอยู่บ่อยๆ ที่ญี่ปุ่น  พอใครขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี  สิ่งหนึ่งและสิ่งแรกที่เขายึดเป็นประเพณีปฏิบัติสืบต่อกันมา
    ต้องไปคารวะ "ศาลเจ้ายาสุกุนิ"
    แล้วทางประเทศจีนก็คอยจ้องตาเขม็ง นายกฯ ญี่ปุ่นไปคารวะปุ๊บ ก็จะออกข่าวประท้วง พร้อมแสดงปฏิกิริยาไม่พอใจปั๊บ
    ต่างฝ่ายต่างก็ยึดในประเพณีปฏิบัติของประเทศตัวเองเคร่งครัด หัวเด็ดตีนขาดนายกฯ ญี่ปุ่นก็ต้องไปคารวะศาลเจ้า และก็หัวเด็ดตีนขาดอีกเหมือนกันที่จีนก็ต้องคอยประท้วง
    เพราะนั่นคือ "ศักดิ์ศรีสัญลักษณ์"
    สัญลักษณ์แต่ละวงรอบ แห่งเส้นทางแต่ละเผ่าพันธุ์ที่อัดแน่นกันแต่ละชั้นสืบเนื่องยาวนานต่อๆ มา อันเรียกว่า "บรรพชนชาติ"
    ไม่ว่าจะทำในรูปแบบไหน ล้วนเป็นการพิทักษ์เทิด "ประวัติศาสตร์" คือรากของชาติตัวเองที่ต้องศึกษาและรักษาทั้งสิ้น!

    ผมไม่ได้ตั้งใจมาคุยเรื่อง "ศาลเจ้ายาสุกุนิ" จึงไม่ขอขยายความให้ยืดยาวนะครับ เผอิญเห็นท่าน  "นายกฯ  สมัคร" ต้องใช้ลีลา "วัวพันหลัก" ในการตอบคำถามนักข่าวกรณี ๖ ตุลา ๑๙ วานนี้
    ทุลัก-ทุเลเต็มที ก็อยากจะช่วยท่านเท่าที่จะทำได้!
    คือท่านอายุมากแล้ว ๖ ตุลา ๑๙ ก็นานมาแล้ว ท่านอาจเลอะๆ เลือนๆ ในเหตุการณ์ อย่างนักข่าวเอารูปที่ท่านยืนอยู่ข้างหลังจอมพลประภาส  จารุเสถียร ไปให้ท่านดู ท่านก็ร้องแบบเก๋-ไก๋ว่า
    "โอ้โห นั่นผมเหรอ ผมยังไม่รู้เลย ไปยืนที่ไหน เมื่อไหร่ ทำไมถึงจำไม่ได้ ไหน..กางหนังสือพิมพ์ให้ดูหน่อย ผมไม่เห็น ผมไม่ได้รับรูปนี้"

    นักข่าวเดี๋ยวนี้ก็ทำการบ้านกันมาดีผิดหู-ผิดตา และชักรู้ทางมวยท่านนายกฯ ก็สกัดแย็บตามติดไปอีกชุดว่า
    "ท่านยังยืนยันใช่ไหมว่า ไปยืนสนามหลวง และเห็นคนตายเพียงคนเดียวใช่หรือไม่?"
    เจอเข้าปากครึ่ง-จมูกครึ่งหมัดนี้ ทำเอา "โมฮัมหมัด อาลี" ต้องอมเลือดตีกรรเชียงกรูดๆ ปัดป่ายเปะปะไปตามสัญชาตญาณนักชกเท่านั้นว่า
    "รู้หรือไม่ว่า ข่าวออกมาบอกว่ามีคนถูกเผาที่สนามหลวง ใครก็ไปดูว่าจริงหรือไม่ เพราะอยากไปดูว่าจริงหรือไม่ว่ามีการเอายางมาวางแล้วจุดไฟเผา ใครๆ ก็ไปดูทั้งนั้น ผมอยู่ในกรุงเทพฯ ก็ไปดู หรือสื่อคิดว่ามากกว่า ๑ คน"
    นักข่าวเห็นออกอาการเป๋ รัวหมัดใส่อีกชุดทันทีว่า
    "มีการระบุว่านายกฯ เคยไปพูดกับนักศึกษาไทยในฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๐ ว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก?"
    ก็ไม่เสียทีที่เป็นถึงระดับแชมป์โลก โมฮัมหมัดเอาหลังแตะเชือกแล้วฉากแว้บ  ปลิ้นตัวจากมรสุมหมัดไปน้ำขุ่นๆ

    "เวลานี้ผ่านมาแล้ว ๓๑ ปี ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าพูดไปอย่างนั้น ทำไมผมพูดไปอย่างนั้นก็ไม่ทราบ"
    นักข่าวขยิกติด  ทิ่มขวาตรงเข้าไปอีกหมัด  "จนถึงขณะนี้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ว่า มีคนตายมากกว่า ๑ คน?"
    หมัดนี้พิงเชือกไปเลยครับ ชูมือขอยุติการชกไปดื้อๆ
    "ผมบอกแล้วว่า  จะไม่พูดเรื่องนี้แล้ว  ก็จะไม่พูด และเชื่อว่าไม่ใช่ความเสียหายอะไรที่พูดไปอย่างนั้น ผมพูดกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เมื่อเขาถาม ผมก็ตอบ เป็นสิทธิเสรีภาพของผมแท้ๆ"

    นี่แหละครับ อาการเพลี่ยงพล้ำชนิดไม่เคยปรากฏมาก่อนที่เกิดขึ้น ผมก็เป็นห่วงท่าน  ความจริงช่วงรอยต่อ "รัฐบาล ม.ร.ว.พลตรีเสนีย์  ปราโมช" กับรัฐบาลหอย "นายธานินทร์  กรัยวิเชียร" ตอน  ๖  ตุลาคม ๒๕๑๙ ช่วงนั้นเหตุการณ์แต่ละวันค่อนข้างไปเร็ว

    ถึงแม้ "ท่านนายกฯ สมัคร" จะเป็นตัวละครมีตำแหน่งอยู่ทั้ง ๒ ด้าน คือทั้งด้านถูกปฏิวัติและด้านปฏิวัติ  แต่การเปลี่ยนข้างนั้น ใช้เวลาเป็นรอยต่อแคบจริงๆ

    เพราะฉะนั้น  ท่านอาจจะเบลอๆ จำไม่ได้ว่าได้ทำอะไร ได้พูดอะไรไปบ้าง และอยู่ข้างไหนกันแน่ตอนนั้น วันนี้ผมจึงอยากนำบันทึกแต่ละช่วงสั้นๆ ในรอยแต่พลิกขั้ว-พลิกข้างมากระตุ้นต่อมความจำให้ท่าน

    -๑๙ ก.ย.๑๙ จอมพลถนอม กิตติขจร บวชเป็นเณรจากสิงคโปร์เข้าไทย มาบวชเป็นพระอยู่วัดบวรนิเวศวิหาร
    -๒๓ ก.ย.๑๙ ม.ร.ว.เสนีย์  ปราโมช นายกรัฐมนตรี ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกฯ
    -๒๕  ก.ย.๑๙ นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานรัฐสภา ประชุม ๔ พรรคร่วม  มีมติให้ ม.ร.ว.เสนีย์เป็นนายกฯ ต่ออีกวาระ  และนำความขึ้นกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    -๒๕  ก.ย.๑๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ ม.ร.ว.เสนีย์ เป็นนายกรัฐมนตรี

    ก็ขอแทรกให้ทราบนะครับว่า ครม.ของรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช แห่งพรรคประชาธิปัตย์นี้ มีนายสมัคร  สุนทรเวช และนายสมบุญ ศิริธร ฉายาหมูหิน ร่วมเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย และท่านเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น

    ในช่วงนี้ นับจากจอมพลถนอมบวชเข้าประเทศไทย บรรยากาศ "ซ้ายพิฆาตขวา-ขวาพิฆาตซ้าย" ตึงเครียด  เข้มข้นมาก นิสิตนักศึกษา-ประชาชนไม่ยอม เดินขบวนชุมนุมประท้วง พลุ่งพล่านทั้งเมือง
    เมื่อ ม.ร.ว.เสนีย์ได้รับโปรดเกล้าฯ กลับเข้ามาเป็นนายกฯ ก็ต้องฟอร์ม ครม.ใหม่อีก ข่าวมีว่า ครม.ใหม่นี้จะไม่มีชื่อนายสมัคร-นายสมบุญเป็นรัฐมนตรีอีก ฉะนั้น ในปฏิทินบันทึกจึงมีว่า
    -๑  ต.ค.๑๙ นายสมบุญ ศิริธร และนายสมัคร สุนทรเวช รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย  ได้ยื่นหนังสือถึง ม.ร.ว.เสนีย์ ว่าหากมีการเปลี่ยน หรือย้ายให้ไปอยู่กระทรวงอื่น จะไม่ยอมรับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
    -๓ ต.ค.๑๙ ม.ร.ว.เสนีย์กล่าวว่า เมื่อนายสมัคร กับนายสมบุญ ไม่เต็มใจรับตำแหน่งใหม่ ก็จะไม่แต่งตั้งให้
    -๔  ต.ค.๑๙  ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย  ชุมนุมการต่อต้านการกลับมาของพระถนอมที่สนามหลวง มีนักศึกษา-ประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก ต่อมาย้ายไปชุมนุมที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
    -๕ ต.ค.๑๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี และ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    -๕ ต.ค.๑๙  กลุ่มผู้รักชาติชุมนุมประท้วงที่หน้าทำเนียบรัฐบาล คัดค้านการตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่  ซึ่งนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมบุญ ศิริธร รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ไม่ได้รับการแต่งตั้ง
    -๖  ต.ค.๑๙ กลุ่มต่อต้านศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย และประชาชน พยายามบุกเข้าธรรมศาสตร์ เกิดการยิงต่อสู้ ตำรวจเข้าเคลียร์พื้นที่
    มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก 
    -๖ ต.ค.๑๙ พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน  เข้ายึดอำนาจการปกครองแผ่นดินจากรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์  เมื่อเวลา ๑๘.๐๐  น.
    -๘   ต.ค.๑๙ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรี

    ครับ..ที่ผมลำดับเหตุการณ์ไปตามวันให้ท่านเห็น ก็เพื่อคลายความจำสับสนน่ะครับ เพราะช่วงรอยต่อรัฐบาลใหม่ ม.ร.ว.เสนีย์เข้าทำหน้าที่ กับช่วงทหารเข้ายึดอำนาจเป็น "รัฐบาลหอย" มีนายธานินทร์เป็นนายกฯ

    เรียกว่า "วันชนวัน"!

    หลายคน  อาจรวมถึงเจ้าตัวคือ "นายสมัคร" เองด้วย อาจเบลอไปว่า เอ๊ะ..แล้วในบรรยากาศ  ๖ ตุลา เราเป็นรัฐมนตรีอยู่ในรัฐบาลฝ่ายไหนกันแน่?
    นายสมัครเป็นรัฐมนตรีอยู่ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายปฏิวัตินั่นแหละครับ เพียงตกร่องอยู่ช่วงที่ ม.ร.ว.เสนีย์ลาออก และกลับเข้าเป็นใหม่ นายสมัครก็ว่างอยู่ระหว่างฟอร์ม ครม.ใหม่ จาก  ๒๓  กันยา ถึง  ๕ ตุลา ที่มีพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้ง ครม.ชุดใหม่ โดยไม่มีชื่อนายสมัคร แค่ ๑๑-๑๒ วันเท่านั้น

    แต่จากวันที่ ๖ ต.ค.ที่ พล.ร.อ.สงัดปฏิรูปล้มรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ และนายธานินทร์มาเป็นนายกฯ รัฐบาลปฏิรูปวันที่ ๘ ต.ค.
    นายสมัคร-จากอดีตรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยของพรรคประชาธิปัตย์ "ซ้ายอ่อนๆ" ก็ข้ามฟากมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของฝ่าย "ขวาจัด" เต็มตัว

    ครับ..ค่อยๆ จัดเส้นประสาทให้เข้าที่ "ทีละน้อย" ก่อนนะครับ จะได้จำความหลัง-หายเลอะเลือน เพื่อตอบข้อสงสัยของนักข่าวรุ่นลูกๆ หลานๆ ที่ชอบซักกันอยู่เรื่อยว่า "ตายกี่คนกันแน่?" ได้แม่นยำ ท่านจำชื่อ "สุรินทร์  มาศดิตถ์" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สมัยนั้นได้ใช่ไหมครับ แล้ววันจันทร์ ถ้าไม่มีอะไรติดขัด..ไม่ชัด ก็คงมีใครต้อง "ช็อค" กันไปข้างแหละครับ.

เฮี้ยหมักจำอะไรไม่ได้  แตวิญญูชน  ่คนดี ๆ ที่ยังจำได้ ย่อมมี และเคารพผู้ตาย
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2008, 22:06 โดย drop333 » บันทึกการเข้า

A  Few  Good  Men

Downey: What did we do wrong? We did nothing wrong.

Dawson: Yeah, we did. We were supposed to fight for the people who couldn't fight for themselves. We were supposed to fight for Will.

************************
I  only  want  to  fight  for  my  country as  long as  I ' m alive. I  do nothing  wrong  .  The tyrant  is  still  the  tyrant, I  have  to  expel  them  in  every  step  of  life. When the  time  come,  the  tyrant   will  absolutely  extinguish. That  ‘ s  the   dharma  truth.
Familie
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 369



« ตอบ #6 เมื่อ: 23-02-2008, 23:35 »

ผมขอพูดเรื่อง 6 ตุลา 19 หน่อยนะครับ
คือผมได้อ่านความคิดหนึ่งมีคนเขียน และตรงกับความคิดของผม
ก็เลยอยากจะเอามาบอกเล่า
ช่วงนั้น ผมเรียนอยู่ มศ.5 ใน กทม.
ย้อนไปตอน 14 ตุลา 16 เหตุการณ์ครั้งนั้น ทุกคนมีความรู้สึกตรงกัน
ในการขับไล่เผด็จการ
หลังจากนั้น นักศึกษาซึ่งเป็นแกนหลักในการต่อสู้
แยกกันเป็นกลุ่มต่างๆ แก่งแย่งชิงดีกันเอง
มีบทบาทจนเหมือนเข้าใจว่าตัวเองใหญ่คับฟ้า
ประชาชนทั่วไปเริ่มรู้สึกหมั่นใส้ จนทนไม่ไหว เกิดความเบื่อหน่าย
มีการออกเรี่ยไรเงินสนับสนุนกิจกรรม จนชาวบ้านเอือมระอา
นักศึกษาส่วนใหญ่ กำลังครั่งไคล้ระบบสังคมนิยมคอมมิวนิตส์
6 ตุลา19 ประชาชนส่วนใหญ่ เข้าร่วม เพื่อต่อต้านนักศึกษาหัวเอียงซ้าย
และระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิตส์
เพื่อปกป้องสถาบันเบื้องสูง และประเทศชาติ
ที่คอมมิวนิตส์หวังล้มล้าง หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ไปสู่ระบบสังคมนิยม โดยมี จีนและ รัสเซีย ให้การสนับสนุนทั้งคนและอาวุธ
คำว่า ขวาพิฆาตซ้าย เกิดจากเหตุการณ์ 6 ตุลา19 นี้เอง
ขวา คือผู้ปกป้องรักษาแผ่นดิน และสถาบันเบื้องสูง
ซ้าย คือพวกเทิดทูนระบบสังคมนิยมคอมมิวนิตส์ ฝักใฝ่ในตัวประธาน เหมาเซตุง
ใครทราบใหมครับ ว่าหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา19
พวกนักศึกษาที่หนีเข้าป่าไปฝึกอาวุธ ไปเป็นคอมมิวนิตส์
เขาทั้งหลายไปถูกที่ถูกทางได้อย่างไร
ทั้งๆที่ป่าดงพงไพรกว้างใหญ่ไพศาล ขุนเขาสูงตระหง่านมากมาย
ฐานคอมมิวนิสต์ซ่อนอยู่ในป่า แม้แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐยังหาไม่เจอ
แต่เหตุไฉนพวกที่หนีเข้าไป จึงเก่งกาจไปถึงได้โดยปลอดภัย
แทนที่จะหลงป่าหรือโดนสัตว์ร้ายฆ่าตาย
เขาเหล่านั้นหลบหนีเข้าไปถึงฐานคอมมิวนิสต์ได้อย่างไร
จึงยืนยันได้ว่า นักศึกษาบางกลุ่มหรือพวกแกนนำ
ได้รับการสนับสนุนจากคอมมิวนิสต์
นักศึกษาระดับแกนนำในเหตูการณ์ 6 ตุลา 19 ทำไมไม่มีใครตายสักคน
รู้ได้อย่างไรว่าจะมีการปราบปราม
รู้ล่วงหน้าแล้ว ทำไมไม่บอกคนอื่น ทำไมหนีเอาตัวรอด
ปัจจุบัน พวกที่หนีเข้าป่า ทำไมปิดปากเงียบ ไม่ยอมบอกเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมา
ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นของผมส่วนตัว กับเหตุการณ์นั้น
ถ้ามีความคิดเห็นที่แตกต่าง ผมยินดีรับฟัง
ส่วนตัวผม ผมถึอว่าเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 ไม่มีวีระชนเกิดขึ้น
วีระชนของผมคือ ตำรวจ ทหารและข้าราชการ
ที่สละชีวิต ต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์
ที่ตอนนั้น ปกคลุมไปทั่วเพื่อนบ้านเรา
ขอโทษนะครับ ความเห็นนี้
ผมได้เอาไปตั้งเป็นกระทู้ไว้แล้ว
เพื่อรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง
ขอบคุณนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-02-2008, 00:05 โดย Familie » บันทึกการเข้า


บรรพบุรุษ ของไทย แต่โบราณ      ปกบ้าน ป้องเมือง คุ้มเหย้า
เสียเลือด เสียเนื้อ มิใช่เบา           หน้าที่เรา รักษา สืบไป
ลูกหลาน เหลนโหลน ภายหน้า      จะได้มี พสุธา อาศัย
อนาคต จะต้องมี ประเทศไทย       มิยอมให้ ผู้ใด มาทำลาย
หน้า: [1]
    กระโดดไป: