ในที่สุด กระบวนการช่วยนายใหญ่ ตามแผนการนำบิดาบังเกิดเกล้ากลับเมืองไทยก็เริ่มดำเนินการแล้วค่ะ
การนำนายใหญ่กลับมาเมืองไทยนั้น ต้องเตรียมการเพื่อมิให้มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ฉวยโอกาศในการควบคุมตัวนายใหญ่ไว้ในตาราง ซึ่งอันที่จริงตามกระบวนการยุติธรรมธรรมดา นายใหญ่ย่อมได้รับสิทธิ์เช่นเดียวกับภรรยา ที่ล่วงหน้ามาทดลองมอบตัวก่อนหน้านี้แล้ว แต่ด้วยความหวาดกลัวสุดขีด เช่นเดียวกับ กลุ่ม ตชด.โหดที่ซ้อมผู้ต้องหา แล้วไปจนมุมในคุก ซึ่งต้องอยู่อย่างหวาดผวา เพราะมีผู้เจ็บแค้นจากการกระทำของพวกมันอยู่เต็มคุก นายใหญ่ก็ผวาเช่นกัน ภายในคุกนั้น ไม่ว่าคุกไหนๆ ก็มีผู้บริสุทธิ์ถูกกักขังอยู่ทั้งนั้น โดยเฉพาะในยุคฆ่าตัดตอน และเมื่อหัวเรือใหญ่ที่ก่อเรื่องนี้เข้าไปเยี่ยมถึงที่ สงสัยจะมีงาน เอาคืน
อีกทั้งยังอาจมีกลุ่มผู้ไม่หวังดี แอบสอดแทรกมือสังหารปะปนเข้าไปกับกลุ่มนักโทษ เพื่อตัดตอนคนบางคนในคุก คิดแล้วก็เสียวจนขนหัวลุก อีกทั้งในคุกถึงอาหารจะอร่อย เพราะญาตินำไปส่งได้ไม่อั้น แต่คงหาของสดของคาวที่ชอบไปสังเวยได้ลำบาก ดังนั้น ต้องวางแผนกันหนักหน่อย
การถอนรากถอนโคน ข้าราชการที่ไม่ยอมสยบ จึงบังเกิดขึ้น ประเดิมเริ่มแรกด้วยหัวของดีเอสไอ ที่กุมคดีไว้ไม่น้อย ตามติดมาด้วยตำแหน่งสำคัญ ที่มีผู้กะไว้แล้วอีกมากมาย โดยเฉพาะ ผบ.ตร. ติดตามมาด้วย ปลัดยุติธรรม และอีกหลายต่อหลายตำแหน่ง ที่จะติดตามมาเป็นสายๆ
ยังมีความต้องการยุบหรือรบกวนองค์กรอิสระเช่น คตส. การล้างบาง ปปช. เร่งเปลี่ยนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จัดระบบศาลฎีกา และอีกมากมาย เพื่อกรุงทางให้คนคนเดียวเท่านั้น พ้นผิดในทุกคดีให้ได้ หรือถ้าไม่ได้ ต้องยื้อไปให้ได้นานที่สุด เพื่อจัดระบบประเทศใหม่ ล้างมลทินรวดเดียวยกแก๊งค์
เรามาดูกันว่า ความยุติธรรม จะดำรงอยู่ได้หรือไม่ในประเทศนี้ จุดเปลี่ยนของประเทศมาถึงแล้ว ประเทศจะเข้าสู่ยุคอานารยชนหรือไม่ อีกไม่นานได้รูกันค่ะ
หลังสงกรานต์ วัดดวงกันค่ะ