จากที่คุณมิ่งขวัญเคยมีแผนส่งเสริมการท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ 4 เท่าดังที่ผมเคยตั้งกระทู้มั่วฝันไปแล้ว
ตอนนี้เพิ่งไปเห็นข่าวใหม่ว่าที่เคยส่งเสริมการท่องเที่ยว และมีการแจกโบนัสพนักงาน ททท. ปีละ 2 เดือน
ติดต่อกันหลายปี ตอนนี้กฤษฎีกามีความเห็นว่าเป็นการแจกที่ผิดกฎหมาย และทาง ททท. ต้องนำเงินโบนัส
ที่เคยแจกไปแล้วช่วงปี 2546-48 รวม 3 ปี มาส่งคืนให้กระทรวงการคลัง
..ตอนนี้เลยวุ่นวายกันใหญ่ เพราะพนักงาน ททท. ที่เคยได้รับโบนัสต่างก็เอาเงินไปใช้จ่ายกันหมดแล้ว.. โบนัสที่แต่ละคนได้รับไปก็เป็นหลายแสนบาท ถึงตอนนี้กลายเป็นว่าอาจถูกยึดโบนัสคืน ซึ่งจะเอาที่ไหนมาคืน
และก็น่าพิจารณาว่าเรื่องนี้พนักงานต้องรับผิดชอบในการคืนเงินหรือไม่ ถ้าต้องรับผิดชอบก็เท่ากับเป็นหนี้หัวโต
บางคนรับไปเกินกว่าครึ่งล้านก็มี
เรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบซึ่งถ้าดูจากผู้พิจารณาอนุมัติโบนัสก็จะมี
นายสนธยา คุณปลื้ม และ
นายประชา มาลีนนท์ ที่เป็น รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และเป็นประธานบอร์ด ททท. โดยตำแหน่ง และอีกคนคือ
นางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการ ททท. ในขณะนั้น (คดีสินบนที่พัวพัน คุณจุฑามาศ ก่อนเลือกตั้งไปถึงไหนแล้ว มีใครทราบไหมครับ?)
ไม่แน่ใจว่าตอนนั้น คุณมิ่งขวัญ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ไปนั่งเป็นบอร์ด ททท. กับเขาด้วยหรือเปล่า --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พนักงาน ททท.กระอักกฤษฎีกาชี้ผิดกฎหมาย สั่ง ยึดคืนโบนัสย้อนหลัง 3 ปี [6 ก.พ. 51 - 04:20]http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=77863นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และเลขาธิการคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(บอร์ด ททท.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นยืนยันตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ ททท.นำเงินโบนัส
ที่จ่ายให้พนักงาน ททท. ระหว่างปี 46-48 รวม 3 ปี คิดเป็นเงิน 150 ล้านบาท หรือโบนัสปีละ 2 เดือน รวมปีละเกือบ 50 ล้านบาท
ส่งกลับคืนกระทรวงการคลังทั้งหมด เนื่องจากการจ่ายโบนัสในช่วงดังกล่าวไม่เป็นไปตามกฎหมายที่บัญญัติใน พ.ร.บ.แรงงานวิสาหกิจ
สัมพันธ์ พ.ศ.43 ที่ระบุไว้ว่า คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ (บอร์ดรัฐวิสาหกิจ) มีอำนาจสั่งจ่ายและกำหนดสภาพการจ้าง ซึ่งหมายถึง
เงินเดือนให้แก่พนักงานในสังกัดได้เอง แต่ไม่สามารถจ่ายค่าตอบแทนผลงานหรือโบนัสได้
ดังนั้น จึงถือว่ามติคณะกรรมการ ททท. ที่เห็นชอบให้จ่ายค่าตอบแทนผลงานระหว่างปี 46-48 ไม่เห็นชอบตามกฎหมาย และต้อง
ส่งเงินที่จ่ายให้กับพนักงาน ททท. ทั้งหมดกลับคืนกระทรวงการคลัง ซึ่ง ททท.ยอมรับว่าเป็นการตีความที่คลาดเคลื่อนทางกฎหมาย
ไม่ได้มีเจตนาทำผิด พ.ร.บ.แรงงานวิสาหกิจสัมพันธ์แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขั้นตอนการกำหนดจ่ายโบนัสของพนักงานหน่วยงานรัฐวิสาหกิจตั้งแต่ปี 46 ได้กำหนดว่า
ทุกรัฐวิสาหกิจจะได้รับโบนัสจากการประเมินผลงานของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ก่อนทุกครั้ง
ยกเว้นจะได้รับพิจารณาเป็นกรณีพิเศษจาก ครม. อีกทั้งผลการประเมินผลงาน ททท. สคร.ระบุว่า ททท.มีสิทธิได้รับโบนัส
เพียง 0.5 เดือนเท่านั้น ไม่ใช่ได้ 2 เดือนตามบอร์ด ททท.อนุมัติ
ทั้งนี้ การพิจารณาให้โบนัสกับพนักงาน ททท.เกิดขึ้นสมัยนายสนธยา คุณปลื้ม และนายประชา มาลีนนท์ เป็น รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา
อีกทั้งนั่งเป็นประธานบอร์ด ททท.ในตำแหน่ง ขณะที่มีนางจุฑามาศ ศิริวรรณ เป็นผู้ว่าการ ททท. ได้มีการหารือกันว่าก่อนหน้านั้น
ททท.เคยได้รับการพิจารณาจาก ครม.เป็นกรณีพิเศษให้จ่ายโบนัสให้พนักงาน ททท. ในปี 45 มาแล้ว เนื่องจาก ททท.
ได้ดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาลและหารายได้เข้าประเทศทะลุเป้า
ดังนั้น ในปี 46-48 เมื่อบอร์ด ททท.มีมติให้จ่ายโบนัสให้กับพนักงานอีก จึงเป็นที่เข้าใจกันว่าสามารถยืนตามมติ ครม.ในปี 45 ได้
โดยสั่งจ่ายโบนัสในปีถัดไปได้คือปี 46-48 ได้อีก ทั้งยังเข้าใจผิดในเรื่องของคำว่า สภาพการจ้าง ว่าเป็นโบนัส ทำให้มีการอนุมัติไป
โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ส่วนทางด้านความรู้สึกพนักงานร่วม 900 ชีวิต รู้สึกมึนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นและมองว่าการจ่ายโบนัสที่ผิดพลาด พนักงานไม่ได้ผิด เพราะอยู่ดีๆ
บอร์ด ททท.ก็มีมติให้จ่ายโบนัสให้ แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นจากความผิดพลาดเกี่ยวกับการตัดสินใจที่ไม่รอบคอบของบอร์ด ททท. จึงควรให้
บอร์ด ททท.ในช่วงนั้นรับผิดชอบ เพราะเงินใช้กันไปหมดแล้ว ทั้งนี้ กรณีที่เกิดขึ้นถึงกับมีพนักงานเห็นว่าหากต้องถูกเรียกเงินคืนจริง ๆ
บรรดาพนักงาน ททท.จะฟ้องร้องต่อบอร์ด ททท.ที่อนุมัติเงินโบนัสจำนวนดังกล่าวให้ จนเป็นผลให้พนักงาน ททท.ต้องเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากประเมินจากพนักงาน ททท.ระดับกลาง เช่น ระดับ 5 จะมีเงินเดือนเฉลี่ยเดือนละ 30,000 บาท เท่ากับรับเงินโบนัส
ไป 6 เดือน หรือประมาณ 180,000-200,000 บาท ขณะที่พนักงานระดับสูงระดับรองผู้ว่าการ ททท. มีเงินเดือนร่วม 100,000 บาท
จะต้องคืนโบนัสถึงคนละ 600,000 บาท แต่ก็ยังหวังว่ารัฐบาลใหม่ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้.