ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 14:31
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เฮ้ย..จักรภพ เอ็งเปิดรัฐธรรมนูญดูเรื่องสิทธิ์ของปวงชนหรือยัง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เฮ้ย..จักรภพ เอ็งเปิดรัฐธรรมนูญดูเรื่องสิทธิ์ของปวงชนหรือยัง  (อ่าน 2487 ครั้ง)
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« เมื่อ: 08-02-2008, 01:58 »

สายใยไทยทั้งเมือง


วันศุกร์ ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2551
เฮ้ย..จักรภพ เอ็งเปิดรัฐธรรมนูญดูเรื่องสิทธิ์ของปวงชนหรือยัง
Posted by Canไทเมือง , ผู้อ่าน : 1933 , 00:04:29 น.     


งานแรก 'จักรภพ' ลุยจัดระเบียบสื่อ อัด! ที่ผ่านมาเอนเอียง
ไม่หวั่นครหาใช้อำนาจแก้แค้น

มติชน วันที่ 07 กุมภาพันธ์ 2551 - เวลา 14:11:25 น.

นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันแรกของการรับตำแหน่ง ว่า  ตนต้องดูงานด้านสื่อ รวมถึงยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ของภาครัฐที่สำคัญ เพราะที่ผ่านมาถูกเป็นเหยื่อของการแบ่งข้าง จึงต้องเข้าไปสร้างความเป็นกลางให้สื่อ ซึ่งตนต้องเข้าไปประเมินว่า สื่อรัฐได้ให้ข้อมูลที่สมดุลและเป็นกลางจริงหรือไม่ โดยยืนยันว่า จุดนี้จะไม่กระทบการเปลี่ยนแปลงของบุคลากรในองค์กร

"สื่อของรัฐทุกสื่อ รัฐบาลก็ต้องเข้าไปประเมิน และภายใน 1 เดือน ในส่วนที่ผมรับผิดชอบจะมีการวางทิศทางชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยเฉพาะ บริษัท อสมท. จำกัด กรมประชาสัมพันธ์ (กปส.) และไทยพีบีเอส ซึ่งความจริงอยากจะเรียกว่าไอทีวีมากกว่า นอกจากนี้ ยังรวมถึงสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมด้วย จะมาจัดระบบให้มีการเปิดวงสัมนาเอาผู้มีส่วนได้เสียมาคุยกันว่า มันเป็นดาบ 2 คมอย่างไร และรวมถึงวิทยุชุมชนด้วย ไปจนถึงที่ไม่ใช่สื่อ เช่น เอสเอ็มเอสมือถือ ซึ่งจะไปหารือกับนายมั่น พัธโนทัย รมว.ไอซีที รวมถึงจะผลักดันให้เกิดคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์แห่งชาติ( กสช.)ให้ได้ ที่ผ่านมา กสช.กลายเป็นเหยื่อของความขัดแย้งในวงการสื่อเอง หักกันไม่ลง เพราะสื่อแต่ละค่ายต่างมีประโยชน์ของตัวเอง. นายจักรภพกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวถูกมองว่าเข้ามาแก้แค้นสื่อหรือไม่ นายจักรภพกล่าวว่า “ไม่กลัวเลย เพราะตนก็พร้อมถูกประเมินด้วยเช่นกัน อย่าลืมว่าบ้านเมืองกลียุคที่ผ่านมา เพราะมีสื่อบางส่วนไม่เป็นกลาง ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์ให้คนบางส่วน บางที่ยืนยันว่า งานนี้ไม่มีใบสั่ง และไม่ได้ตั้งใจไปอุ้มใครทั้งนั้น เพราะที่ผ่านมาเป็นความเสียหายประเทศ คนอยู่บ้านไม่ได้ต้องออกาประท้วงบนถนน เพราะไม่อยากดูสื่อ”  เมื่อถามว่า ไม่กลัวสงครามสื่อเกิดขึ้นหรือ นายจักรภพกล่าวว่า ไม่มองอย่างนั้น การแข่งขันระหว่างสื่อมีประโยชน์ แต่ต้องไม่ใช้วิชามารมาแข่งกัน

"ผมพร้อม เพราะงานในด้านสื่อของผมทุกอย่างก็ยุติไปแล้ว รายการและอันที่จะมีส่วนได้ส่วนเสียก็ไม่ทำ ผมทำตัวเองให้บริสุทธิ์ก่อนถึงจะมาวางนโยบายด้านสื่อได้ ดังนั้นใครที่กำลังเล่นบทบาททั้งเป็นคนออกสื่อและเป็นสื่อเสียเองก็ต้องดูให้ดี นี่ไม่ใช่ท่าทีแข็งกร้าว ไม่ได้ว่าเขาไม่ดี แต่ละไปดูว่า อะไรเกิดขึ้นที่เบี่ยงเบนไปในทางไม่ดี ขอให้ดูกันต่อไปก็แล้วกัน" นายจักรภพกล่าว


***********************************

เปิดปากขึ้นมา จิตใจเผด็จการก็โผล่ออกมาจากปากอันแดงจิ้มลิ้มเลยนะครับ ท่าน รมต.
ก่อนพูด ก่อนจา น่าจะศึกษาเรื่อง สิทธิเสรีภาพในการสื่อสารของประชาชนให้จงหนัก

ตอนไปเดินสายทำพีทีวี ก็น่าจะรู้นี่นะ การปิดปากชาวบ้านมันเจ็บปวดยังไง

แต่ถึงกระนั้นพวกรัฐบาลเผด็จการเค้ายังปล่อยให้พวกเอ็งพล่ามเอียงเข้าข้างคุณพ่อหน้าเหลี่ยม

เสรีภาพสื่อ มีรัฐธรรมนูญกำกับให้สิทธิ์อยู่แล้ว ใครเอียง ใครไม่เอียง เอ็งเกี่ยวอะไรด้วยวะ

คนอย่างเอ็งตัดสินคนอื่นเองได้เหรอ ไอ้หนู

ว่างๆ เปิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 45-46-47  ดูบ้างนะ จะได้ไม่แสดงอำนาจบาทใหญ่เกินเหตุ

ส่วนมาตรา 48 เอาไว้ตรวจสอบตัวเอง ถอนหุ้นจาก พีทีวี จริงหรือ?

แบบนี้ไงที่เค้าเรียกประชาธิปไตยตามรูปแบบ แต่จิตใจและการปฏิบัติมันเผด็จการชัด ๆ

ยังไม่ทันไรก็ส่อสันดาน รมต.กร๊วก ตั้งแต่วันแรกเลยนะ "เจ๊เพ็ญ"



แคน ไทเมือง

********************
 
สายใยไทยทั้งเมือง

Permalink : http://www.oknation.net/blog/


http://www.oknation.net/blog/canthai/2008/02/08/entry-1 อ่านต่อ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-02-2008, 21:50 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 08-02-2008, 15:06 »

พระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๑

http://www.weopenmind.com/board/index.php?topic=6106.0

การประเมินทำได้โดย มาตรา 52 เท่านั้น
นอกนั้นไปยุ่งเกี่ยวกับคณะกรรมการนโยบายเค้าไม่ได้

ลองเข้าไปสั่งการสิ จะได้ดำเนินการในข้อหาใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา 157

ถูกถอดทันทีเลยนะ ทำเป็นเล่น

กฎหมายที่เจ๊เพ็ญต้องศึกษาอีกคือ มาตรา 45-46-47 ในรัฐธรรมนูญซึ่งคุ้มครองการแสดงความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ในสื่อของรัฐ

ส่วนมาตรา 48 ให้เจ๊เพ็ญเอาไว้ตรวจสอบตัวเอง เรื่องหุ้น พีทีวี
บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 08-02-2008, 15:34 »

ปชป.ชี้ จักรภพ มีนัย ให้เรียก TPBS เป็น ITV
เนชั่นทันข่าว  11:36 น.

นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรี

ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุจะจัดระบบสื่อของรัฐใหม่ รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ซึ่งเป็นโทรทัศน์สาธารณะ ว่า นายจักรภพคงมีความนัยบางอย่างที่บอกว่า อยากให้เรียกไทยพีบีเอส ว่าเป็นไอทีวี ซึ่งน่าสงสัยว่าทำไมถึงอยากให้เป็นไอ

ทีวีรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า การที่นายจักรภพประกาศจะเข้าไปจัดการกับสื่อของรัฐที่อ้างว่าบางส่วนยังยึดติดกับการเมือง ไม่เป็นกลาง และจะประเมินปรับเปลี่ยนภายใน 1 เดือนนั้น เป็นอำนาจของรัฐมนตรีอยู่แล้ว แต่ให้ระวังการก้าวก่ายการทำหน้าที่ของสื่อรัฐ ที่มีรัฐธรรมนูญมาตรา 46 คุ้มครองอยู่ จะไปชี้ซ้ายหันขวาหันไม่ได้ อย่างไรก็ตาม อยากให้นายจักรภพเปิดเผยออกมาว่าสื่อของรัฐรายใดที่ทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง หรือเอนเอียงเข้าข้างใด เพื่อว่าสังคมและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมกันตรวจสอบด้วย
 
 
 
บันทึกการเข้า

ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #3 เมื่อ: 08-02-2008, 15:35 »



น้อง..ป๋า...กู
นำ..ไป..กรง
หน่วย..แปด..เกรียน
นรก..ป่วน..กรุง

นู๋...เป็น.....เกย์
นอน..ปล่อย..แก่
แนว...ปล่อย..ไก่
นอน..เปลือย ...กาย
นั่ง....ปลอก...กล้วย
นวด...ปลาย...ก้น

น้อง...ปลุก...ไก่
เน้น ...ปาก....กัด
แนบ...ปลาย...กด
น้ำ...เปรอะ...แก้ม
นิ่ง...ปล่อย...กาย
นอน...ปวด...ก้น
ใน...เปล..กล้วย

น้า...ไป...ก่อน
น้อง..เปลี่ยน..กลุ่ม
นอน..ปล้ำ..เกย์
..แน๊...ปล่อย..กรู...
 

(เกาะแข้ง..เกาะขา..น้า...เลยโดนซะ..1 ผลั๊ว! ..)


 
(ฝึก แต่ง กลอน..เจ๋ยๆ..อ่ะ )

คิดถึง เหมือนกันฮะ
บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #4 เมื่อ: 08-02-2008, 15:50 »

เพ็ญไม่เปิดหรอกของแบบนี้ เพ็ญชอบเปิดอยู่อย่างเดียวค่า 
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 08-02-2008, 16:15 »

คนเก่งคือคนที่เรียนรู้จากประสบการณ์ของตนเอง 

คนฉลาดคือคนที่เรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่น

คนโง่คือคนที่ไม่ยอมเรียนรู้อะไรเลย 

ท่าทางเค้าจะคิดได้แค่นี้จริงๆ สงสัยดูหนังจีนมากไปหน่อย คิดแต่เรื่องแก้แค้น
บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
ไม่อยากสมานฉันท์กับคนชั่ว
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 592


เตือนให้นึกถึง Icarus ผู้ไม่ประมาณตน


« ตอบ #6 เมื่อ: 08-02-2008, 17:17 »

เพ็ญแข

เมื่อก่อนผมก็ยังงงๆว่า เพราะคุณออกตัวมาเสมอว่า เกลียดศักดินา อะไรประมาณนั้น ผมก็นึกว่าคุณมันคนจริง

ที่ไหนได้  อ้าปากก็เห็นเดือยลิ้นไก่เลยนะครับ
สื่อนำเสนอข้อเท็จจริง ทำไมต้องไปห่วงเรื่องความเป็นกลาง  มันมีสื่อทุกฝ่ายอยู่แล้ว

จริงๆแล้วคือพลีกายถวายชีวิตให้ทักษิณ
สื่อไหนนอกคอกพวกเอ็ง ก็ต้องจับมันมาเข้าแถวให้หมด ว่างั้นเถอะ
แต่ทำเป็นอ้าง  พูดเอาดีใส่ตัว อ้างความเป็นกลาง สมานฉันท์ อ้างศักดินา

พฤติกรรมน่าอนาถ....


บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 09-02-2008, 04:06 »

เพิ่มเติม ฝากมาตรา 56 ตามพรบ. องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย


มาตรา ๕๖ การกระทำใด ๆ ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ว่า
ทางตรงหรือทางอ้อมอันมีลักษณะเป็นการขัดขวางหรือแทรกแซงองค์การให้เผยแพร่รายการที่ขัดหรือ
แย้งต่อวัตถุประสงค์ตามมาตรา ๗ หรือดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามมาตรา ๘ และมาตรา ๙ หรือ
ข้อบังคับด้านจริยธรรมของวิชาชีพที่ได้จัดทำขึ้นตามมาตรา ๔๒ ให้ถือเป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่
โดยมิชอบและไม่มีผลบังคับใช้ เว้นแต่เป็นการกระทำเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย


บันทึกการเข้า

RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 09-02-2008, 17:21 »

ผมเห็นออกอากาศแต่สารคดี มันไม่เป็นกลางตรงไหน
หรือต้องออกอากาศแต่ละครน้ำเน่า จะได้ล้างสมองชาวบ้านให้จงรักภักดีได้ง่ายๆ
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #9 เมื่อ: 09-02-2008, 18:23 »

ปชป.ชี้ จักรภพ มีนัย ให้เรียก TPBS เป็น ITV
เนชั่นทันข่าว  11:36 น.

นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรี

ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุจะจัดระบบสื่อของรัฐใหม่ รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ซึ่งเป็นโทรทัศน์สาธารณะ ว่า นายจักรภพคงมีความนัยบางอย่างที่บอกว่า อยากให้เรียกไทยพีบีเอส ว่าเป็นไอทีวี ซึ่งน่าสงสัยว่าทำไมถึงอยากให้เป็นไอ

ทีวีรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า การที่นายจักรภพประกาศจะเข้าไปจัดการกับสื่อของรัฐที่อ้างว่าบางส่วนยังยึดติดกับการเมือง ไม่เป็นกลาง และจะประเมินปรับเปลี่ยนภายใน 1 เดือนนั้น เป็นอำนาจของรัฐมนตรีอยู่แล้ว แต่ให้ระวังการก้าวก่ายการทำหน้าที่ของสื่อรัฐ ที่มีรัฐธรรมนูญมาตรา 46 คุ้มครองอยู่ จะไปชี้ซ้ายหันขวาหันไม่ได้ อย่างไรก็ตาม อยากให้นายจักรภพเปิดเผยออกมาว่าสื่อของรัฐรายใดที่ทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง หรือเอนเอียงเข้าข้างใด เพื่อว่าสังคมและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมกันตรวจสอบด้วย
 
 
 


        มาตรา ๔๖ พนักงานหรือลูกจ้างของเอกชนที่ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง

วิทยุโทรทัศน์ หรือสื่อมวลชนอื่น ย่อมมีเสรีภาพในการเสนอข่าวและแสดงความคิดเห็นภายใต้ข้อจำกัด

ตามรัฐธรรมนูญ โดยไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือ

เจ้าของกิจการนั้น แต่ต้องไม่ขัดต่อจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพ และมีสิทธิจัดตั้งองค์กรเพื่อ

ปกป้องสิทธิ เสรีภาพและความเป็นธรรม รวมทั้งมีกลไกควบคุมกันเองขององค์กรวิชาชีพ

        ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ

ในกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรือสื่อมวลชนอื่น ย่อมมีเสรีภาพเช่นเดียวกับพนักงานหรือ

ลูกจ้างของเอกชนตามวรรคหนึ่ง


       การกระทำใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่

ของรัฐ หรือเจ้าของกิจการ อันเป็นการขัดขวางหรือแทรกแซงการเสนอข่าวหรือแสดงความคิดเห็น

ในประเด็นสาธารณะของบุคคลตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ให้ถือว่าเป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่

โดยมิชอบและไม่มีผลใช้บังคับ
เว้นแต่เป็นการกระทำเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายหรือจริยธรรม

แห่งการประกอบวิชาชีพ

***************************

ผมว่า เจ๊แกคงมัวแต่อ่าน รัฐธรรมนวย ก็เลยไม่รู้เรื่อง กะจะมาไล่ขวิดชาวบ้าน

หันซ้ายโดนตีปาก หันขวา ก็จะโดนตบ จนปากห้อย แล้วห้อยอีก

อนาจจริง ๆ   อยากให้มันทำงานสักสองสามเดือน ดูท่าจะไม่ไหว

ลองดูถ้ามันปรับตัวทัน ก็เลี้ยงมันใว้ดูเล่นหน่อย โง่ขนาดนี้ หายาก 
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #10 เมื่อ: 09-02-2008, 19:40 »

ผมเห็นออกอากาศแต่สารคดี มันไม่เป็นกลางตรงไหน
หรือต้องออกอากาศแต่ละครน้ำเน่า จะได้ล้างสมองชาวบ้านให้จงรักภักดีได้ง่ายๆ
ถ้าไม่เลียเหลี่ยมพวกนี้ถือว่าไม่เป็นกลางหมด 
บันทึกการเข้า
นิธิพจน์
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 99


« ตอบ #11 เมื่อ: 09-02-2008, 21:34 »

รัฐบาลหมัก เมถุน  มันจะเจ๊ง ส่วนหนึ่งก็จะมา
จาก จักรภพ ปากเอ๋ง นี่แหละ
ไอ้หมอนี่มันเก็บอาการไม่อยู่จริงๆ
มันยิ่งอยากจะจัดระเบียบตามใจของมัน
สื่อๆ ต่างๆ ก็จะยิ่งรวมตัวต่อต้านมันมากเท่านั้น
[/size][/b]
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 09-02-2008, 21:51 »

โฆษกทีพีบีเอสมั่นใจ รบ.ไม่แก้ ก.ม.ทีวีสาธารณะ
 
โฆษกทีพีบีเอส มั่นใจ รัฐจัดระเบียบสื่อ ไม่กระทบทีวีสาธารณะ ระบุ กม.ไม่เปิดช่อง ดักคอ “รัฐบาล” อย่าทำลายความสุขของประชาชน

(9 ก.พ.) นายอภิชาติ ทองอยู่ โฆษกกรรมการนโยบายชั่วคราวองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย กล่าวถึงแนวทางการจัดระเบียบสื่อของรัฐบาล ว่า ไม่เป็นห่วงว่าการจัดระเบียบสื่อของรัฐบาลจะกระทบต่อการดำเนินการของโทรทัศน์สาธารณะเนื่องจากพ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ.2550 ไม่เปิดช่องให้รัฐบาลเข้ามาใช้อำนาจแทรกแซงหรือควบคุมโทรทัศน์ช่องนี้ได้ นอกเสียจากว่ารัฐบาลจะใช้เสียงในรัฐสภาแก้กฎหมาย

ซึ่งส่วนตัวเห็นว่ารัฐบาลคงไม่ทำเพราะโทรทัศน์สาธารณะเป็นความต้องการของสังคม เป็นไปเพื่อความสุขของประชาชน ดังนั้นรัฐบาลคงอยากเห็นประชาชนมีความสุข ส่วนแนวคิดจะทวงไอทีวีคืนนั้นรัฐบาลต้องไปหาทางเอาเองจะเปลี่ยนจากโทรทัศน์สาธารณะนั้นไม่ได้เพราะเราดำเนินการตามพ.ร.บ.ฉบับใหม่ ไม่มีข้อผูกพันกับอดีตไอทีวีใดๆทั้งสิ้น

สำหรับความพร้อมในการออกอากาศในวันที่ 15 ก.พ.นี้ นายอภิชาติ กล่าวว่า ขณะนี้รายการรอที่จะออกอากาศแล้วรวมทั้งรายการข่าว ซึ่งในวันที่ 15 ก.พ.นี้ประชาชนจะได้เห็นหน้าตาของโทรทัศน์สาธารณะประมาณ 60-70 เปอร์เซนต์

 
 
ข่าวเนชั่น
บันทึกการเข้า

สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #13 เมื่อ: 09-02-2008, 22:00 »

เขาคงจะกร่างแบบ "อึ่งอ่าง" ที่คิดเอาเองว่า ..
"เวลาที่ข้าฯพองตัวแล้ว  ตัวข้าฯจะใหญ่กว่าควาย"   
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #14 เมื่อ: 12-02-2008, 00:12 »

คางคกขึ้นวอ
 คิดถึงสำนวนที่ว่า “งาช้างไม่ได้งอกออกมาจากปากสุนัข” ขึ้นมาครั้งใด ทำให้ไม่ได้แปลกใจกับท่าทีของ “นายจักรภพ เพ็ญแข” รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่ออกมาบอกว่า จะเข้ามาจัดระบบสื่อของรัฐ โดยอ้างว่าคนที่ประกอบวิชาชีพทางด้านนี้ทำตัวเป็น “นาย หน้านอกระบอบประชาธิปไตย”
 
เพราะรู้ดีว่าเมื่อกลุ่มอำนาจเก่าที่กลับกลายมาเป็น “กลุ่มอำนาจใหม่” ก็ต้องหามาตรการมาจัดการกับสื่อ เพื่อไม่ให้เป็นปัญหากับตนเอง เพราะรู้ดีว่าถ้าหากสื่อยิ่งมีอิสระในการทำหน้าที่มากเท่าไหร่ ผลร้ายจะตกกับคนที่คิดจะใช้อำนาจปล้นชาติบ้านเมือง เนื่องจากประชาชนจะรู้ถึงพฤติกรรมของคนเหล่านี้
 
และงานนี้จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม “นายสมัคร สุนทรเวช” ที่ระยะหลังถึงต้องมาทำตัว “ญาติดีกับสื่อ” เพราะรู้ดีว่าถ้าหากคนเป็นนายกรัฐมนตรี มัวมานั่งทะเลาะกับนักข่าวกันแบบสามเวลาหลังอาหาร ภาพข่าวที่เผยแพร่ออกไปจะกระทบภาพลักษณ์ของคนที่เป็นผู้นำประเทศมากแค่ไหน วันนี้จึงต้องหาคนมาชนกับสื่อแทน และภารกิจนี้ก็ตกอยู่กับคนชื่อ “จักรภพ”
 
ผมอยากให้ความต้องการในการจัดระบบหรือจัดระเบียบสื่อ ภายใต้รัฐบาลที่มี “พลังประชาชน” เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทำให้เสร็จเรียบร้อยโดยเร็ว เพราะอยากจะเปรียบเทียบว่าระหว่าง ยุคเผด็จการทหารครองเมือง ที่มีปรากฏการณ์หลายอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน
 
อย่างเช่นการนำม็อบ นปก. ไปชุมนุมหน้าบ้านพักของ   “พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” ประธานองคมนตรี และมีการด่าทอด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย พร้อมทั้งขว้างปาสิ่งของเข้าไปในบ้านพัก
 
กับยุคประชาธิปไตยที่หลายคนถวิลหา และนักการเมือง ที่มาจากการเลือกตั้งที่ชอบอ้างว่า สิทธิเสรีภาพของประชาชนได้ กลับคืนมาแล้ว ช่วงเวลาไหนประชาชนจะได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็น ความจริงมากกว่ากัน เพียงแต่เป็นห่วงว่าภารกิจของชายหนุ่มที่ชื่อ   “จักรภพ เพ็ญแข” จะทำไม่เสร็จ หากต้องใช้เวลาพอสมควร ที่จะทำให้สื่อบางคนยอมสยบอยู่ใต้อุ้งเท้า หรือ คอยเลียแข้งเลียขา เหมือนในอดีตที่ผ่านมา

 
เพราะถ้าหากผมจำไม่ผิด ทั่น รมต.ประจำสำนักนายกฯ  ยังมีคดีความที่ต้องไปต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ในช่วงที่รับเป็น แกนนำ นปก. ทั้งกรณีการนำประชาชนไปชุมนุมหน้าบ้านพักประธานองคมนตรี หรือการนำเทปเสียงของข้าราชการตุลาการมาเผยแพร่ให้สาธารณชนได้ยินได้ฟังกัน
 
จะว่าไปแล้วแผนการจัดระบบสื่อของรัฐบาลที่มีนายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี ก็อาจจะเหมือน บันได 4 ขั้น ของ คมช. ที่เพิ่งลาโรงไปไม่นานนี้ โดยเริ่มตั้งแต่ 1. คว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง 2. ควบคุมสื่อให้เป็นไปในทิศทางที่ตนเองต้องการ 3. นำ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กลับสู่บ้านเกิดเมืองนอน และ 4. ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับอดีตกรรมการพรรคไทยรักไทย  111 คน
 
เท่าที่ดูยุทธวิธีทุกอย่างก็ใกล้บรรลุผลแล้ว เพียงแต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมาจะทำให้รัฐบาลมีปัญหามากน้อยแค่ไหน คงต้องวัดใจกับประชาชนที่ติดตามการทำงานของรัฐบาล แม้ว่านายจักรภพจะมีความกล้าหาญในการ เปิดแนวรบกับสื่อ ตั้งแต่ช่วงแรกของการทำงานรัฐบาล เพราะเชื่อจะยังไม่มีใครกล้าลุกออกมาต่อต้าน โดยอ้างเรื่องผลการเลือกตั้งที่พรรคพลังประชาชนได้รับชัยชนะ
 
ดูแล้วช่วงนี้รัฐบาลที่มี นายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรีกำลังสะสมแต้มความไม่พอใจของชาวบ้านให้มากขึ้นเรื่อย ๆ ไล่ตั้งแต่  รูปร่างหน้าตาของรัฐบาล หรือการกระทำบางอย่างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประชาชน หรือว่านี่เป็นเกมของ เซียนเหยียบเมฆทางการเมืองบางคน ที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเร็ว ๆ
 
แต่พฤติกรรมบางอย่างที่ผมได้เห็นจากการกระทำของบางคน ทำให้ชวนคิดไปถึงคำพังเพยที่ว่า “คางคกขึ้นวอ” ขึ้นมาตะหงิด ๆ หรือใครคิดว่าไม่แปลกที่จะทำพฤติกรรมเช่นนี้ ก็ไม่ว่ากัน.

"เขื่อนขันธ์"
 

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=52736&NewsType=2&Template=1


ไม่มีความเห็นเสริม นอกจากใช้สัญลักษณ์'สีม่วง'......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 12-02-2008, 00:20 »

สายใยไทยทั้งเมือง


วันจันทร์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2551
เทพชัย หย่อง / อธิบดีปราโมช สอนมวยรัฐบาลใหม่
Posted by Canไทเมือง , ผู้อ่าน : 74 , 16:27:23 น.   


ไม่หวั่นการเมืองล้วงลูก “เทพชัย” ไล่ไปอ่านกม.ใหม่
ไทยรัฐ[11 ก.พ. 51 - 05:12]
 
นายเทพชัย หย่อง รักษาการผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กล่าววานนี้ (10 ก.พ.) ถึงกรณีที่นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า จะทำให้ไทยพีบีเอส กลับคืนเป็นทีไอทีวีว่า ตนยังไม่เข้าใจที่นายจักรภพพูด คืออะไร เห็นแต่ข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ ดังนั้น จึงยังไม่อยากตีความในเวลานี้ อย่างไรก็ตาม หากการเมืองคิดจะเข้ามาแทรกแซง ควรจะไปอ่านกฎหมาย พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ให้ชัดเจนว่า การเมืองสามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวกับทีวีสาธารณะได้หรือไม่

“แม้ว่ารัฐบาลจะมีเสียงข้างมากในการแก้กฎหมายในสภา เราจะไปห้ามก็ไม่ได้ แต่อย่าลืม ต้องฟังเสียงประชาชนว่า คิดอย่างไร เพราะทุกคนคาดหวังกับทีวีสาธารณะและจากการที่ตนเดินทางไปพบปะกับประชาชนในหลายๆ พื้นที่ ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้มีกำลังใจที่จะเดินหน้าทำรายการต่อไป เชื่อว่ารายการดีๆ จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสถานีข่าวก็จะออกมาในวันที่ 15 ก.พ.นี้” นายเทพชัย กล่าว

นายเทพชัย กล่าวด้วยว่า งานด้านการข่าวจะมีความหลากหลายในการนำเสนอเป็นการรายงานเหตุการณ์บ้านเมือง มีการตรวจสอบ ทุกภาคส่วนในสังคมไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งตนได้ให้นโยบายไปว่าการทำงานของไทยพีบีเอส จะต้องทำงานด้วยความเป็นกลาง ไม่มีภาพของการเชียร์ข้างใดข้างหนึ่ง และยืนยันว่า มีเป้าหมายที่ชัดเจน เสียงอื่นๆ ที่ดังเข้ามา เราก็รับฟังแต่ไม่มีผลกระทบต่อการทำงาน ซึ่งหลังจากนี้เชื่อว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ   คงจะออกมาเร็วๆ นี้ โดยจะทำหน้าที่กำกับดูแลวิทยุโทรทัศน์ แต่ทั้งนี้ ก็คงรับประกันไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าการเมืองจะเข้ามาแทรกแซงไม่ได้

'ปราโมช' เตือนเปิดทีวีช่องใหม่ไม่ได้ ชี้ติดขัดกม.
ไทยรัฐ[11 ก.พ. 51 - 15:10]
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.00 น. วันนี้ (11 ก.พ.) นายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นำข้าราชการระดับสูงสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ เข้าแสดงความยินดีกับนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีเข้ารับตำแหน่งดังกล่าว ที่ทำเนียบรัฐบาล

นายปราโมช กล่าวก่อนเข้าแสดงความยินดีกับนายจักรภพว่า ในฐานะที่กรมประชาสัมพันธ์เป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกฯ จึงมารับทราบแนวทางการดำเนินงาน ที่จะต้องรอฟังว่า รัฐมนตรีประจำสำนักนายฯ คนใหม่จะมอบกรอบการทำงานอย่างไรบ้าง เพราะกรมประชาสัมพันธ์เป็นหน่วยงานของรัฐที่จะต้องสนองนโยบายด้วยการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร สร้างความเข้าใจในกิจการและนโยบายของรัฐบาลไปยังประชาชน

อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า ได้พบกับ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมวานนี้ (10 ก.พ.) ระหว่างจัดรายการ “พูดจาประสาสมัคร” แต่นายกฯ ไม่ได้มอบหมายงานอะไรล่วงหน้าไว้และไม่ได้พูดถึงแนววิธีการทำงาน อย่างไรก็ตาม หากจะมีการตั้งสถานีโทรทัศน์ขึ้นมาใหม่ในช่วงนี้ ยังไม่สามารถทำได้ เพราะภายใต้รัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องมีคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้

“ปัญหา คือ การดำเนินการที่จะให้มีการจัดตั้งสถานีในวันนี้ พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2543 ยังมีผลบังคับใช้อยู่ โดยให้หน่วยงานราชการที่รับผิดชอบดำเนินการไปตามกฎหมายในระหว่างที่ยังไม่มี กสช. ทั้งนี้ ในมาตรา 80 ที่เขียนห้ามอนุญาตให้ตั้งสถานีใหม่ ห้ามอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และห้ามอนุญาตให้ขยายบริการเพิ่มเติม ซึ่งเป็นอำนาจของ กสช. และแม้กฎหมายประกอบกิจการวิทยุโทรทัศน์ฯ ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญัติแห่งชาติ 3 วาระรวดไปแล้ว แต่อยู่ในชั้นการจัดส่ง รอลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา จึงต้องใช้กฎหมายเดิมก่อน” นายปราโมช กล่าว

อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวอีกว่า หากรัฐบาลจะแก้ไขกฎหมายในเรื่องของทีวีสาธารณะต้องเป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภา แต่วันนี้ ต้องทำไปตามกฎหมายก่อน เช่น การเปลี่ยนทีไอทีวีให้เป็นทีวีสาธารณะ ส่วนที่รัฐบาลมองว่า การเปลี่ยนทีไอทีวีเป็นสื่อสาธารณะเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมนั้น ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน โดยเรื่องนี้ ได้เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย แต่เมื่อมีกฎหมายออกมาก็ต้องดำเนินการตาม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตรงนี้ จะทำให้การทำงานในตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์มีความยุ่งยาก หรือ ตกที่นั่งลำบากหรือไม่ นายปราโมช กล่าวว่า ถือเป็นการทำหน้าที่ เป็นเรื่องสำคัญของกรมประชาสัมพันธ์ทุกยุคทุกสมัย ตนเติบโตมากับสายงานนี้ ชีวิตก็มีแค่นี้ อะไรจะเกิดขึ้นก็ปกติ คิดว่า ผู้ใหญ่เข้าใจการทำหน้าที่ว่าเป็นอย่างไร


( มีต่อ)
บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 12-02-2008, 00:22 »

'จักรภพ'ไม่รับลูก'หมัก'เปิดทีวีช่องใหม่ ติดข้อ กม.ขอตั้ง กก.ศึกษาข้อมูลก่อน

มติชน วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา 13:01:01 น.


อ้างเพิ่มช่องใหม่ ให้ปชช.ได้ข่าวสารรอบด้าน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสื่อของรัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าอาจจะมีการตั้งสถานีโทรทัศน์ช่องใหม่ขึ้นมา เพื่อแข่งกับสถานีไทยพีบีเอส ว่า นายกฯ ได้พูดถึงทางเลือกที่สำคัญ ซึ่งตรงตามแผนงานที่วางไว้คือการแก้ไขปัญหาการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน โดยอาจมีการเปิดสถานีโทรทัศน์ช่องใหม่ เพื่อเพิ่มผู้เล่นให้มากขึ้น โดยในเบื้องต้นจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาความสมดุลของข้อมูลข่าวสาร เพื่อประเมินว่าในช่วงที่ผ่านมาประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นธรรมและรอบด้านหรือไม่ หากได้รับข้อมูลข่าวสารไม่ครบถ้วน จึงนำมาสู่การหาทางเลือกให้แก่ประชาชนด้วยการเพิ่มช่องสถานีโทรทัศน์ใหม่

'เราจะนำปัญหาของประชาชนมาเป็นตัวตั้ง เพราะช่วงที่ผ่านมาเราอยู่ภายในระบอบเผด็จการมาเป็นปี เมื่อเปลี่ยนเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย ก็ต้องทบทวน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการต่างๆ จะต้องทำอย่างถูกต้องภายใต้กฎหมาย แต่ถ้ากฎหมายไม่เป็นธรรมก็ต้องทบทวน' นายจักรภพกล่าว

มี.ค.นี้แถลงแนวทางบริหารสื่อ

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานีโทรทัศน์ช่องใหม่ที่จะเกิดขึ้นจะเป็นทีวีสาธารณะ หรือฟรีทีวี นายจักรภพกล่าวว่า คงต้องศึกษาก่อน คาดว่าต้นเดือนมีนาคมตนจะแถลงแนวทางบริหารสื่อภาครัฐทั้งหมดให้รับทราบ ทั้งกรมประชาสัมพันธ์  (กปส.) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ไทยพีบีเอส  รวมถึงทีวีดาวเทียม ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าการบริหารงานสื่อภาครัฐ ทำแบบสมบัติผลัดกันชม ไม่เกิดประโยชน์แก่ประชาชน จึงถึงเวลาที่ต้องมาดูภาพรวมทั้งหมด

อ้างนายกฯ พูดถึงไอทีวี แค่เห็นใจ

รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ส่วนความเป็นไปได้ในการฟื้นไอทีวีขึ้นมานั้น ต้องยอมรับว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับไอทีวีเป็นผลจากนโยบายภาครัฐ ไม่ใช่ความผิดของคนทำงาน ดังนั้น สิ่งที่นายกฯพูดจึงเป็นการแสดงความเห็นใจ

ยันไม่เกี่ยวข้องกับพีทีวีแล้ว ยันให้ความเป็นธรรมทุกช่อง

เมื่อถามว่า การเกิดขึ้นของทีวีช่องใหม่ จะสอดรับกับกระแสข่าวพีทีวีจะกลับมาให้บริการในวันที่ 15 กุมภาพันธ์หรือไม่ นายจักรภพกล่าวว่า ขณะนี้ตนไม่เกี่ยวข้องกับพีทีวีแล้ว เพราะได้ลาออกจากทุกตำแหน่งแล้ว ไม่มีหุ้น และไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน หรือการเอื้อประโยชน์ให้แก่พวกพ้อง ทั้งนี้ พีทีวีก็ต้องมาเข้าระบบอยู่ภายใต้การบริหารงานสื่อภาครัฐเหมือนสื่ออื่นๆ และขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกช่องเท่าเทียมกัน แต่ขณะนี้ทีวีดาวเทียมอยู่ในระยะสูญญากาศ ไม่มีกฎหมายรองรับ จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของกปส. ก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการปรับย้ายนายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกปส. หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาถูกวิจารณ์ว่าเอนเอียงเข้าข้างคมช. นายจักรภพกล่าวว่า 'จะแยกแยะข้าราชการเป็น 2 กลุ่มคือ 1.กลุ่มที่ปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล ไม่ว่ารัฐบาลเผด็จการ หรือประชาธิปไตยเข้ามาบริหาร เขาก็ต้องทำตามนโยบาย ไม่อย่างนั้นจะขัดระเบียบวินัยข้าราชการ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าเห็นใจ 2.ข้าราชการบางส่วนที่มีความเอนเอียงอย่างชัดเจน พูดง่ายๆ คือทำนอกหน้าที่ ก็ต้องพิจารณาอีกแง่หนึ่ง ส่วนกรณีของอธิบดีกปส. เป็นแบบไหนนั้น ยังไม่ได้พิจารณา'

อึดอัด'หมัก'พูดมั่วตั้งทีวีใหม่ กม.ไม่ให้อำนาจ

รายงานข่าวแจ้งว่า การที่นายจักรภพให้สัมภาษณ์ว่าแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาความสมดุลของข้อมูลข่าวสาร เพื่อประเมินว่าในช่วงที่ผ่านมาประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นธรรมและรอบด้านหรือไม่ นั้นเพราะนายจักรภพรู้ดีว่า การเปิดสถานีโทรทัศน์ช่องใหม่ติดขัดในแง่กฎหมายที่รัฐบาลไม่มีอำนาจในการจัดสรรคลื่นความถี่ แต่เป็นอำนาจของคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์แห่งชาติ(กสช.) แต่เมื่อนายสมัครพูดโดยมิได้ศึกษาข้อกฎหมมาย ทำให้นายจักรภพอึดอัดอย่างมาก จึงหาทางเลี่ยงด้วยการบอกว่าจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาข้อมูลข่าวสารก่อน

***********

กร๊ากกกกกกกก

ถอย...ดีกว่า...ไม่อาววว ดีกว่า..

อย่าไปยุ่มย่ามมากนะเจ๊...ผิดกฎหมายทั้งนั้น...เดี๋ยวก็ได้ไอ..คุก คุก คุก!!!

แคน ไทเมือง


 
**************
สายใยไทยทั้งเมือง

Permalink : http://www.oknation.net/blog/canthai

Permalink : http://www.oknation.net/blog/canthai/2008/02/11/entry-3 [/color]
บันทึกการเข้า

ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #17 เมื่อ: 12-02-2008, 09:44 »

ยันไม่เกี่ยวข้องกับพีทีวีแล้ว ยันให้ความเป็นธรรมทุกช่อง

เมื่อถามว่า การเกิดขึ้นของทีวีช่องใหม่ จะสอดรับกับกระแสข่าวพีทีวีจะกลับมาให้บริการในวันที่ 15 กุมภาพันธ์หรือไม่ นายจักรภพกล่าวว่า ขณะนี้ตนไม่เกี่ยวข้องกับพีทีวีแล้ว เพราะได้ลาออกจากทุกตำแหน่งแล้ว ไม่มีหุ้น และไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน หรือการเอื้อประโยชน์ให้แก่พวกพ้อง ทั้งนี้ พีทีวีก็ต้องมาเข้าระบบอยู่ภายใต้การบริหารงานสื่อภาครัฐเหมือนสื่ออื่นๆ และขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกช่องเท่าเทียมกัน แต่ขณะนี้ทีวีดาวเทียมอยู่ในระยะสูญญากาศ ไม่มีกฎหมายรองรับ จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของกปส. ก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการปรับย้ายนายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกปส. หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาถูกวิจารณ์ว่าเอนเอียงเข้าข้างคมช. นายจักรภพกล่าวว่า 'จะแยกแยะข้าราชการเป็น 2 กลุ่มคือ 1.กลุ่มที่ปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล ไม่ว่ารัฐบาลเผด็จการ หรือประชาธิปไตยเข้ามาบริหาร เขาก็ต้องทำตามนโยบาย ไม่อย่างนั้นจะขัดระเบียบวินัยข้าราชการ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าเห็นใจ   2.ข้าราชการบางส่วนที่มีความเอนเอียงอย่างชัดเจน พูดง่ายๆ คือทำนอกหน้าที่ ก็ต้องพิจารณาอีกแง่หนึ่ง ส่วนกรณีของอธิบดีกปส. เป็นแบบไหนนั้น ยังไม่ได้พิจารณา'


1. นายจักรภพกล่าวว่า ขณะนี้ตนไม่เกี่ยวข้องกับพีทีวีแล้ว เพราะได้ลาออกจากทุกตำแหน่งแล้ว ไม่มีหุ้น และไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัว ........
เพิ่งรู้ว่าคนอย่าง'เจ๊เพ็ญ' เลิกอะไรก็ง่าย ๆ ตัดบัวไม่ทิ้งใย
หรือ ได้ดี ถีบหัวเรือส่ง...........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


2.   2.ข้าราชการบางส่วนที่มีความเอนเอียงอย่างชัดเจน พูดง่ายๆ คือทำนอกหน้าที่ ก็ต้องพิจารณาอีกแง่หนึ่ง....
ผู้สื่อข่าว''จอม' ถือว่าปฎิบัติตามหน้าที่ หรือ มีความเอนเอียงอย่างชัดเจน ทำนอกหน้าที่.... Question

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 12-02-2008, 21:55 »

ฝากข้อมูล นายก/รมต. หน้าแหก ไว้กระทู้นี้ละกัน อิ อิ

นายกฯดิ้นกู้หน้า ตั้งทีวีใหม่ขอศึกษากม.ก่อน ยันไม่ยุ่ง'ไทยพีบีเอส'-'จักรภพ'ขอทำแค่เว็บไซต์
มติชน วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2551 - เวลา 20:35:18 น. 
 
'สมัคร'ดิ้นกู้หน้า หลังปากไวบอกจะตั้งทีวีช่องใหม่ใน 2-3วัน  ขอศึกษากฎหมายก่อน ยันไม่รอ กสช. จัดสรรคลื่น แต่ทำในรูปแบบใหม่  'จักรภพ เพ็ญแข'เอ้อออรับลูก ไม่จำเป็นต้องใช้ช่องสัญญาณ แต่อาจแพร่ภาพในรูปเว็บไซต์ แต่ขอดุความเป็นไปได้ก่อน

'สมัคร'ขอดูกฎหมายทำสถานีโทรทัศน์ช่องใหม่

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์แห่งใหม่ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ โดยรับรองว่า 1.จะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสถานีโทรทัศน์สาธารณะที่กำลังดำเนินการอยู่  2.หากจะทำทีวีช่องใหม่ขึ้นมาจะต้องถูกต้องตามกฎหมาย และ 3.ถ้ามีความคิดที่จะทำโทรทัศน์ที่มีอยู่แล้วให้มันดีขึ้น เอาคนมีฝือมาทำ ก็น่าจะเป็นสิทธิของเรา โดยมีหลักการว่า ไม่ต้องการที่จะทำให้เห็นว่า รัฐบาลนี้อยากได้ทีวีมาเชียร์ตัวเอง ไม่ต้องการให้ทีวีช่องไหนมาเชียร์รัฐบาล แต่ต้องการให้ทีวีเสนอข่าวตรงไปตรงมา คือเสนอข่าวทั้ง 2 ด้านเท่านั้น

'ไปตื่นเต้นกันมากเกินไปเรื่องทีวีเสรี เพราะข้อเท็จจริงนั้นมี 2 ช่องทางคือ หากเป็นสถานีโทรทัศน์ช่องใหม่ ถ้าทำได้ก็จะทำ แต่ใจจริงที่จะทำนั้น ขอให้คุยกันให้สรุปก่อน และขอให้ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้ามีอยู่แล้วก็ขอให้มีคุณภาพดีขึ้นกว่าปกติ แต่ผมพูดเร็วไปหน่อย เพราะคุณจักรภพ (นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) กำลังดำเนินการอยู่' นายกรัฐมนตรีกล่าว

ลั่นเดินหน้าแน่ไม่สนให้จัดตั้ง กสช.

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานีโทรทัศน์ไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากยังไม่มีการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) นายสมัครกล่าวว่า จะไปคุยกับคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง 3 ตัวย่อที่ว่านั้นละเอียดอ่อน เมื่อมีการตั้งขึ้นมาก็มี 2 ก๊ก ที่มาล้มแล้วอีกก๊กก็ตั้งใหม่ จึงจะไม่ไปหวังอะไรด้วย จะให้ดำเนินการไป แต่จะเสนอให้ว่า จริงๆ แล้วควรเป็นอย่างไร แต่สถานีโทรทัศน์ที่เราจะทำนั้นไม่ต้องไปขอ กสช. หรือต้องไปกราบไปไหว้ใคร แต่จะทำด้วยความสามารถของเราเอง ให้มีสถานีโทรทัศน์ที่เสนอข่าวดี เสนอสารคดีดี และไม่ต้องมาเชียร์รัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่า ต้องใช้ช่องว่างทางกฎหมายให้สถานีโทรทัศน์ออกอากาศหรือไม่ นายสมัครกล่าวว่า ไม่ต้องใช้ช่องทางทางกฎหมาย แต่มันเป็นวิธีการ ซึ่งขอเอาไว้ก่อน แล้วสัปดาห์หน้าจะอธิบายให้ฟังว่า จะทำอย่างไร จะบอกทีหลัง ซึ่งใช้เวลาไม่กี่วันก็สามารถทำได้ แต่จะดูว่า ในช่องทางตามกฎหมายที่เราจะทำแบบนี้แล้วให้ได้โทรทัศน์ที่ดีจะทำอย่างไร ตนปากไวไปหน่อยแต่ก็จะทำให้เร็ว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายสมัครพูดในรายการ'สนทนาประสาสมัคร'ว่า จะใช้เวลา 2-3 วันก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ช่องใหม่ที่มีคุณภาพ

'จักรภพ'บอกไม่จำเป็นต้องใช้ช่องสัญญาณ  ใช้ในรูปเว็บไซต์

ด้านนายจักรภพกล่าวหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า สัปดาห์หน้าจะประชุมหารือกับกรมประชาสัมพันธ์ (กปส.) ถึงการทำงาน รวมถึงการทำสื่อโทรทัศน์ให้มีความเป็นกลาง ซึ่งมีหลายวิธี รวมทั้งหน้าตาของคณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นมาศึกษาว่า จะสามารถดำเนินการช่องทางไหนได้บ้าง เพราะทำได้หลายช่องทาง ซึ่งไม่จำเป็นต้องออกเป็นช่องสัญญาณ เพราะปัจจุบันมีสื่อบางชนิดให้ผลเหมือนทีวี อาทิ เว็บไซต์ต่างๆ ที่สามารถออกอากาศผ่านได้ แต่คณะกรรมการจะต้องลงไปศึกษาความเป็นไปได้ว่า จะสามารถออกได้ในช่องทางใด และต้องศึกษาความต้องการที่แท้จริงจากประชาชน ไม่ได้คิดเองหรือกำหนดเองว่าจะเป็นในทิศทางใด

'ดังนั้น สิ่งที่จะพิจารณาคือ รูปแบบในการนำเสนอ โดยไม่ต้องออกช่องใหม่ จะใช้ช่องทางที่มีอยู่แล้ว คือ กปส. ไทยพีบีเอส หรือออกช่องสัญญาณใหม่ แต่เรื่องออกช่องสัญญาณใหม่นั้นยังติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมายอยู่' นายจักรภพกล่าว 

ส่วนกระแสข่าวเตรียมปลดนายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นายจักรภพกล่าวว่า เรื่องปลดเรื่องปลอดทั้งหลายก็เป็นเรื่องที่เราต้องคิด แต่ตอนนี้ไม่มีการเปลี่ยนหรือการเอาออก มีแต่การต่อยอด เพราะยังมีเวลาอยู่ ไม่อยากเร่งรีบ ขอพายเรือน้อยลอยเอื่อยในสาคร

อธิบดีกรมประชาฯแปลกใจเกาเหลา'จักรภพ'

นายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ (กปส.) กล่าวถึงกระแสข่าวการถูกปลดออกจากอธิบดี กปส. ว่าไม่รู้สึกหวั่นไหวกับข่าวที่ออก ความเป็นข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ ยังแปลกใจว่า ทำไมเกิดเป็นประเด็นต่างๆ ขึ้น ซึ่งไม่ได้มีความขัดแย้ง เป็นแค่การเริ่มต้นของการนำเสนอข้อมูล ได้รายงานไปตามข้อเท็จจริงต่อนายจักรภพ เมื่อวันที่ 10 มกราคม และนายจักรภพได้บอกให้ตนนัดหมาย วันเวลา ที่จะมอบหมายนโยบายให้ กปส.เพื่อนำไปปฏิบัติ

เมื่อถามว่า ถ้าถูกโยกย้าย ถือว่า เป็นเหยื่อการเมืองหรือไม่ นายปราโมช กล่าวว่า อย่าไปพูดถึงเรื่องอนาคต เพราะข้าราชการก็รอรับนโยบายอยู่แล้ว นายจักรภพเพิ่งเข้ามาไม่กี่วันเอง ขั้นตอนและกระบวนการต่างๆต้องใช้เวลา คงไม่ใช่เป็นเป้าที่จะมาเปลี่ยนคน

'อภิสิทธิ์'ชี้ปลด ขรก. ต้องมีเหตุผล

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การปลดข้าราชการระดับสูงต้องมีเหตุผลที่ชัดเจน ว่าเกี่ยวข้องกับการบริหารงานหรือเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ส่วนรวมอย่างไร เราคงไม่ต้องการเห็นสภาพที่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้วมีปัจจัยทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องในการโยกย้ายข้าราชการ แต่หากการโยกย้ายเกี่ยวข้องกับระบบคุณธรรมและประโยชน์ของประเทศชาติคงไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ดี เพราะเคยเจอปัญหาที่ระบบราชการสูญเสียบุคลากรเพราะฝ่ายการเมืองไม่มีคุณธรรมมามากแล้ว

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนการจัดระเบียบสื่อยังไม่ทราบว่าหมายถึงอะไร แต่หวังว่าจะไม่ใช่การเข้าไปก้าวก่าย ส่วนการจะมีโทรทัศน์เสรี ก็สนับสนุน เช่นเดียวกับในยุคก่อนที่สถานีโทรทัศน์ไอทีวีจะถูกแทรกแซง ซึ่งก็ต้องว่าไปตามกระบวนการการตั้งโทรทัศน์เสรี และต้องรอการจัดสรรคลื่นความถี่ก่อน หากพร้อมที่จะตั้งโทรทัศน์เสรี ก็ต้องเสรีจริงๆ ไม่ใช่เพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตามข้อเท็จจริงแล้วการเปิดสถานีโทรทัศน์ช่องใหม่จะต้องขออนุญาตกรมประชาสัมพันธ์ และตามจริง จะทำไม่ได้เพราะมีกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจน แต่หากจะอ้างกรณีเดียวกันกับสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ก็เป็นเรื่องที่เคยโต้แย้งและได้ข้อสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

'ผมมองว่า ที่คุณสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี บอกว่า จะดึงพนักงานทีไอทีวี ที่พลาดเข้าไปทำงานที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสให้ไปทำงานที่สถานีโทรทัศน์อีกช่องที่กำลังจะเปิดใหม่นั้น เป็นเพียงแค่ยาหอมเท่านั้น เพราะการทำทีวีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้ภายใน 3 วัน 7 วัน'นายบุญยอดกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายจักรภพระบุว่า จะมีการจัดระเบียบสื่อของรัฐ นายบุญยอดกล่าวว่า ภารกิจแรกที่นายจักรภพควรทำคือ การไปทวงหนี้ 73,000ล้านบาท จากบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่ติดค้างกับสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีไม่จ่ายค่าบริหารสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีมากกว่าที่จะออกมาบอกว่าจะมีการจัดระเบียบ หรือควบคุมสื่อมวลชน เพราะเป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี


http://www.matichon.co.th/news_title.php?id=1352
บันทึกการเข้า

แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 13-02-2008, 11:11 »

ล่าสุด เพราะข่าวเรื่องที่นายกฯ พูดไม่รู้จักคิดหรือไม่ก็อัลไซเมอร์ ไปให้สัมภาษณ์ คนตายตอนหกตุลามีแค่คนเดียว
เมื่อวานจานเจิมเลยมาเล่าเหตุการณ์ให้ฟังคร่าวๆ แต่ท้ายๆ รายการ เอาหนังสือที่วีระเขียนว่าหมัก
และเล่าเหตุการณ์ที่มาที่ไป ว่าหมักโกหกหน้าจอแบบหน้าตาเฉยๆ หน้าด้านๆ อย่างไร
อ่ายยังไม่จบ เวลาหมดจะมาอ่านต่อวันนี้ ปรากฎว่า เช้ามาเปิดอีกที เป็นภาษากับข่าวซะงั้น 
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 13-02-2008, 11:33 »

เรื่องหมักกับ 6 ตุลา มเขียนไว้ให้อ่านเยอะแล่วนะครับ ในบล็อคนั่นแหละ

ว่างๆ จะทำ "หมักรวมฮิต" อิ อิ
บันทึกการเข้า

แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 13-02-2008, 11:50 »

ลุงคะ point อยู่ตรงนี้ค่ะ 

บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 13-02-2008, 16:27 »

อาจารย์เจิมศักดิ์ โดนตัดรายการที่ไหนครับ
บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 13-02-2008, 17:07 »

นายกฯ กับสื่อ...วจีไม่ต้องไพเราะแต่ต้องเคารพสิทธิการทำหน้าที่ตรงไปตรงมาของสื่อ
 
13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 00:00:00
 
แปลกแต่จริง...บางที่ผู้นำไทยเวลาตอบคำถามของสื่อฝรั่งนั้น สะท้อนถึงความรู้สึกจริงๆ ของตัวเองมากกว่าการตอบคำถามของสื่อไทยเอง

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายกฯ สมัคร สุนทรเวช บอกตอนหนึ่งในการให้สัมภาษณ์นักข่าวชื่อ Dan Rivers ของ CNN เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของตนกับสื่อมวลชนไทย เมื่อถูกถามว่า "มโนสำนึก" หรือ conscience ของตัวเองนั้นบริสุทธิ์หรือไม่เกี่ยวกับกรณี 6 ตุลาฯ

"If I do something wrong, I cannot come this far. I think my hand is clean and then I can live with it. The people of this country know me, who I am, so I am not afraid. But why they put a stamp on me? Because I don't like the press. I don't like the media. I think actually when they talk good to me, I talk good to them. When they put something slash out to me, I just slash back to them. When you punch me, I punch back. There is no written document that says by human feeling that the Prime Minister should be a good guy, should talk soft..."

และอีกตอนหนึ่งคุณสมัครบอกว่า

"...I was accepted by the people everywhere but not the media. This is okay. It's up to you. You do your duty, I will do mine..."

คุณสมัคร บอกตรง ๆ กับซีเอ็นเอ็นว่า "I don't like the press. I don't like the media..." ซึ่งแปลว่า ท่านไม่ชอบสื่อ (ไม่ได้บอกว่าเฉพาะสื่อไทยเท่านั้นหรือไม่) ซึ่งก็ย่อมเป็นสิทธิส่วนบุคคลของทุกคนที่จะชอบหรือไม่ชอบสื่อ

แต่ห่างกันไม่กี่วันหลังจากให้สัมภาษณ์นักข่าวซีเอ็นเอ็น คุณสมัครก็บอกสื่อไทยว่า "ผมจะเป็นมิตรกับสื่อ ผมไม่ใช่ศัตรูของสื่อ"

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างไม่กี่วันของการตอบคำถามซีเอ็นเอ็น กับการทำกับข้าวเลี้ยงนักข่าว

แต่ที่คุณสมัครพูดถูก ก็คือ "They do their duty. I will do mine." ซึ่งแปลว่าสื่อกับนายกรัฐมนตรีนั้นต่างคนต่างมีหน้าที่ต่อประชาชนของตนที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น ถ้าต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ โดยมีผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักแล้วไซร้ ก็ย่อมเป็นการทำงานตามบทบาทของตนที่ถูกต้องและแน่นอน

หากทั้งสองฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเคร่งครัด บนพื้นฐานของจริยธรรมและกติกาของตน ก็ไม่มีความจำเป็นที่นายกฯ สมัคร จะต้องปรับตัวเองเป็น "นายแสนดี วจีไพเราะ" กับนักข่าว และไม่ต้องบอกว่าจะ "เป็นมิตร" กับสื่อหรือกลัวสื่อไทยต่อว่าเมื่อให้สื่อต่างประเทศสัมภาษณ์

เพราะนายกฯ ที่ทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีต่อประชาชนนั้น ไม่จำเป็นต้องเกรงใจหรือกลัวหรือเอาใจสื่อแต่อย่างไรเลย

และสื่อที่ทำหน้าที่ของตนเองอย่างแท้จริง ภายใต้กรอบแห่งจรรยาบรรณและความรับผิดชอบต่อสาธารณชนอย่างเต็มที่ ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องเกรงใจ เอาใจหรือกลัวนายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาลแต่อย่างไรเช่นเดียวกัน

ถ้าคนเป็นนายกฯ และคนทำสื่อเชื่อในหลักการของระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ก็ย่อมไม่ได้มองความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายเป็นเรื่อง "ส่วนตัว" เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ในฐานะที่แตกต่าง และด้วยความคาดหวังที่ต่างกันของประชาชน

ดังนั้น คนเป็นนายกฯ ก็ไม่ควรจะมีความรู้สึกว่า การวิพากษ์วิจารณ์ หรือตีความของสื่อมวลชนที่อิสระนั้นเป็นเรื่องของการฟาดฟันกันเป็นส่วนตัวอย่างที่คุณสมัครบอกว่า "ถ้าสื่อซัดผม ผมก็ซัดกลับ" อย่างที่ตอบคำถามนักข่าวซีเอ็นเอ็น

เพราะฟังดูเหมือนกับว่า คนเป็นผู้นำรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยฟังเสียงวิจารณ์ไม่ได้...หากใครวิพากษ์มาก็จะ "อัด" กลับ

เพราะการทำหน้าที่ของสื่อที่รับผิดชอบ ก็คือการสะท้อนถึงความคิดความอ่านของประชาชนหลากหลายที่เป็นเจ้าของประเทศ

ยิ่งเป็นรัฐบาลที่มีเสียงข้างมากเยอะ และมีความมั่นใจว่าสิ่งที่ตนทำและตนคิดเป็นเรื่องดีเรื่องถูกต้อง ก็ยิ่งต้องฟังเสียงที่ไม่เห็นด้วย หรือเสียงส่วนน้อยที่อาจจะถูกรัฐบาลมองข้าม เพราะ "ไม่ใช่พวกตน"

เพราะสื่อของรัฐไม่ว่าจะเป็นทีวีหรือวิทยุนั้นจะถูกแรงกดดันทั้งทางตรง และทางอ้อมจะกลายเป็น "กระบอกเสียง" แห่งอำนาจรัฐไปเสียแล้ว และความน่าเชื่อถือของข่าวสาร และความเห็นจากสื่อเหล่านี้ ก็จะลดน้อยถอยลงไป

จะมีก็แต่สื่อที่เป็นอิสระเช่นหนังสือพิมพ์และสื่อที่ไม่ขึ้นอยู่กับอำนาจการเมืองของรัฐบาล และสื่อที่กฎหมายกำหนดให้เป็นของสาธารณะอย่างแท้จริงเท่านั้น ที่จะมีความน่าเชื่อถือ และ "มีความเป็นมืออาชีพ" อย่างได้มาตรฐานจริงๆ

ฉะนั้น คุณสมัครพูดถูกแล้วที่บอกกับซีเอ็นเอ็นว่า "They do their duty, I will do mine."

แปลเป็นภาษาไทยให้ไฉไลก็คือ "นายกฯ กับสื่อต่างมีหน้าที่ต่อประชาชน...คุณทำหน้าที่คุณ ผมทำหน้าที่ผม..."

ที่สำคัญอย่างยิ่งยวดก็คือว่า นายกฯ ต้องแน่ใจว่าจะไม่ใช้หรือไม่ยอมให้ใครในรัฐบาลใช้อำนาจการเมืองมาพยายามแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อเพื่อประชาชนก็แล้วกัน

(เข้ามาร่วมแสดงความเห็นตรงไปตรงมาที่ blog ของผมที่ www.oknation.net/blog/black ได้ตลอด 24 ชั่วโมง)

กาแฟดำ
 

 
บันทึกการเข้า

Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: 13-02-2008, 17:30 »

อาจารย์เจิมศักดิ์ โดนตัดรายการที่ไหนครับ

มุมมองของเจิมศักดิ์ FM 105 MHz.
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 13-02-2008, 17:45 »

วันพฤหัสบดี ที่ 4 ตุลาคม 2550
ย้อยรอยเดือนตุลา..คนปาก***(น) ปิดปากคน
Posted by Canไทเมือง , ผู้อ่าน : 918 , 02:13:39 น.

 
http://www.oknation.net/blog/canthai/2007/10/04/
บันทึกการเข้า

55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #26 เมื่อ: 13-02-2008, 18:48 »

'เจิมศักดิ์'ถูกปลดรายการกลางอากาศ สังเวยวิจารณ์'สมัคร'บิดเบือน6ตุลาฯ
 
13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 16:36:00
 
 
เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
 
"สมัคร"พิฆาตสื่อ "เจิมศักดิ์”เจอดีรายแรก โดนปลดรายการวิทยุกลางอากาศเหตุวิจารณ์บิดเบือนประวัติศาสตร์ 6 ตุลา แฉ รมต.ดูแลสื่อโทรขู่ปลดรายการวิทยุยกผัง

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเกิดการเคลื่อนไหวของอดีตคนเดือนตุลาถึงคำให้สัมภาษณ์ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีต่อสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่ากรณี 6 ตุลา 2519 มีผู้เสียชีวิตแค่คนเดียว ล่าสุดผู้ที่ออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้กลับถูกตอบโต้กลับจากรัฐบาลของนายสมัครหลายรูปแบบ

โดยล่าสุดได้มีรายงานข่าวว่าหลังจากที่นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการชื่อดัง ได้แสดงความคิดเห็นผ่านรายการ”มุมมองของเจิมศักดิ์” ซึ่งออกอากาศที่คลื่นวิทยุ 105 วิสดอม เรดิโอ โดยจัดเป็นประจำทุกวันในเวลา 08.00 น. ถึง 9.00 น. ซึ่งคลื่นดังกล่าวเป็นคลื่นในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงคำให้สัมภาษณ์ของนายสมัครเกี่ยวกับเหตุการณ์เดือนตุลาฯมีผู้เสียชีวิตพียงคนเดียวนั้นเป็นการบิดเบือนข้อมูลทางประวัติศาสต ร์โดยนายเจิมศักดิ์ได้กล่าวอ้างหนังสือของนายวีระ มุสิกพงษ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและและประธานสถานีโทรทัศน์พีทีวีที่ตีพิมพ์เมื่อเดือนสิงหาคม 2521 โดยมีเนื้อหาจับโกหกนายสมัครในเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ

รายงานข่าวแจ้งว่าในวันที่ 12 ก.พ. ในขณะที่นายเจิมศักดิ์จัดรายการอยู่โดยได้นำจดหมายของนายสุรินทร์ มาศดิตถ์ ซึ่งในขณะนั้นบวชเป็นพระที่เขียนบอกเล่าถึงความจริงที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 พร้อมทั้งนำข้อมูลเทปคำต่อคำที่นายสมัครไปพูดกับนักเรียนไทยในประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2520 ในขณะที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น โดยนายสมัครยืนยันชัดเจนกับนักศึกษาไทยในฝรั่งเศสในขณะนั้นว่ามีผู้เสียชีวิต 48 คน

ซึ่งในระหว่างที่นายเจิมศักดิ์กำลังอ่านคำชี้แจงของนายสมัครต่อนักศึกษาอยู่นั้น ได้มีรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายสมัครที่ดูแลด้านสื่อ ได้โทรศัพท์เข้ามายังคลื่นวิทยุวิสดอม ว่าจะโละทิ้งผังรายการทั้งหมดของคลื่นวิทยุวิสดอม ซึ่งฝ่ายรายการก็ได้โทรมาสอบถามยังนายเจิมศักดิ์ว่า จะช่วยลดความเสียหายให้กับคลื่นวิทยุอย่างไรบ้าง ซึ่งนายเจิมศักดิ์ก็ได้แสดงสปริตด้วยการถอนตัวเองออกจากการจัดรายการเพื่อที่จะบรรเทาความเสียหายให้คลื่นวิทยุวิสดอม

รายงานข่าวยังแจ้งอีกว่าในช่วงเช้าของวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมานายเจิมศักดิ์ไม่ได้เดินทางไปจัดรายการกับนายเถกิง สมทรัพย์ ผู้ดำเนินรายการ โดยนายเถกิงได้ชี้แจงในรายการว่าคลื่นลมแรงทำให้นายเจิมศักดิ์ไม่สามารถเดินทางมาจัดรายการได้ โดยตลอดทั้งวันได้มีโทรศัพท์สอบถามไปยังฝ่ายรายการของคลื่นวิทยุวิสดอม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้เหตุผลว่านายเจิมศักดิ์ต้องการหยุดพักผ่อนหลายอาทิตย์และอาจจะกลับมาจัดรายการอีกในเร็วๆวันนี้ อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ไปสอบถามไปยังฝ่ายรายการของคลื่นวิทยุวิสดอมแต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถที่จะให้ข้อมูลในเรื่องนี้ได้ เพราะไม่มีอำนาจในการให้สัมภาษณ์โดยให้ไปสัมภาษณ์นายเถกิงแทน

ทางด้าน นายเถลิง สมทรัพย์ ผู้ดำเนินรายการเปิดเผยว่า ปกติสถานีวิทยุในเครือข่ายของรัฐต้องทำตามนโยบายรัฐบาล สำหรับกรณีที่อาจารย์เจิมศักดิ์ จัดรายการ ได้มีเสียงออกมาว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลหนักข้อเกินไป ก็ต้องระมัดระวัง เพราะอาจเป็นเหตุให้ทางบริษัทไม่ได้รับการต่อสัญญาเมื่ออาจารย์เจิมศักดิ์ทราบเรื่องก็เลยขอหยุดจัดรายการ

“เราเป็นเพียงผู้รับจ้างไม่ใช่เจ้าของสถานี ถ้าอาจารย์จัดรายการต่อไปอาจจกระทบกระเทือนคลื่นวิสดอม เจ้าของสัมปทาน อาจารย์เจิมศักดิ์ เลยแสดงสปิริตขอหยุด ยาว ไม่มีกำหนด โดยจะเอารายการภาษาอังกฤษกับข่าว มาแทนโดยจัดยาวตั้งแต่ 09.00น. ถึง 11.00 น. โดยอาจารย์เจิมศักดิ์ ได้จัดรายการทางคลื่น105 ทั้งหมด หนึ่งปีกับ สี่เดือน “นายเถกิงกล่าว
 
 
http://www.bangkokbiznews.com/2008/02/13/WW10_WW10_news.php?newsid=229496

ผมก็กำลังฟังอยู่เหมือนกันเมื่อวานนี้....ฟังถึงตอนที่ อ.เจิมพูดถึง นายสมัคร ไปเปิดประมูลรูปเพื่อการกุศล....แล้ว โดน คุณธรรมนูญ เทียนเงิน โทรมาด่า เนื่องจาก นายสมัคร สุนทรเวช เอาชื่อ นาย ธรรมนูญ ไปกล่าวอ้างปั่นราคาประมูล โดย ที่ไม่รู้เรื่อง.....แต่ ไม่ได้ฟังจนจบรายการเพราะ ต้องขึ้นไปทำธุระ ที่สถานฑูต......เมื่อเช้า ก็ไม่ได้ฟัง....แต่ ก็รู้เรื่องจากข่าวข้างบน นี่แหละ....

พวกเค้าคงทนไม่ได้ ที่ อ.เจิมฯ เอา เรื่องจริง มาพูด.....มาทำงานไม่กี่วัน ก็เริ่ม สานงานเก่า ซะแล้ว...
บันทึกการเข้า
plankton
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 89



« ตอบ #27 เมื่อ: 13-02-2008, 21:07 »

'เจิมศักดิ์'ถูกปลดรายการกลางอากาศ สังเวยวิจารณ์'สมัคร'บิดเบือน6ตุลาฯ
 
13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551


 นปก.ก้อยังเป็น นปก. แต่ก่อนใครหว่าบอกว่าเกลียดดด เผด็จการรัฐประหาร ตอนนี้ละปลดรายการกันแบบนี้ ่เรารู้สึกว่าตอนนี้แหละจะกลับไปสู่ยุคทักสิน

ยิ่งกว่ารัฐประหาร รัฐบาลเผด็จการชัดๆ 
บันทึกการเข้า
นายเกตุ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,289



« ตอบ #28 เมื่อ: 13-02-2008, 21:30 »

มีรายการตุ๊ดแก้แค้นด้วย....

สงสัยจะไม่ครบปีจริงๆ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: