วันนี้ขอเสนอเมนูจานเด็ด
'ปลาร้าพม่าหน้าเขมร' เครื่องปรุง : ประกอบไปด้วย ปลาร้าเน่าจากบุรีรัมย์ 8 ตัว เลือกตัวที่ตาโปนๆ หัวเถิกๆ ประการสำคัญทุกตัวปากต้องห้อยร้อยยี่สิบ, ขิงแก่สับละเอียด 1 ถ้วย, เกลือป่น 1 ถ้วย, ผักยี้หร่า (ลักษณะคล้ายยี่หร่า ทว่าอยู่คนละสายพันธุ์ กรุณาอย่าสับสน ไม่แน่ใจให้ถามแม่ค้าชื่อ 'สดศรี' ที่อยู่แถวตลาดสด กกต. (ตรงข้ามตลาด อ.ต.ก.) ดูได้ เธอจะชี้ให้ดูผักยี้หร่า จากนั้นเลือกเอามาหนึ่งกำมือ ล้าง-เขย่า รูดเข้าแล้วรูดออกให้พอสะเด็ดน้ำ (อย่ารูดแรงเดี๋ยว (ก้านผัก) ถลอก
วิธีทำ : นำปลาร้าปากห้อยร้อยยี่สิบทั้ง 8 ตัวโยนลงไปในกระถางล้างเท้า จากนั้นให้ชักชวนสมัครพรรคพวกที่เท้าใหญ่ๆ หนาๆ ดำๆ ประมาณ 10-15 คน ค่อยๆ บรรจงเหยียบลงตรงหน้าและปากปลาร้าห้อยๆ ค่อยๆ นวด เน้น ถูสัก 5 นาที จากนั้นจึงเริ่มขยี้ฝ่าเท้าลงบนหน้าปลาร้าให้หนักขึ้นเรื่อยๆ จนหนำใจ ทิ้งไว้สักครู่ ปลาร้าจะเริ่มฟูคล้ายฟองโซดาซึ่งแสดงว่าถึงเวลาจะโรยขิง เกลือป่นลงไปคลุกเคล้าได้แล้ว พอได้ที่ดีให้นำมาใส่ในจาน จากนั้นโรยผักยี้หร่าลงแต่งหน้า เสิร์ฟพร้อมรับประทานได้ทันที
'เนื้อวัวเรียงหินสุโขทัย' เครื่องปรุง : เนื้อวัวเพศเมียคัดจากฟาร์มเมืองเก่า-สุโขทัย 1 กิโลกรัม, ผงชูรส 1 ถ้วยตวง ซอสหอยกระจี๋หลี 1 ช้อนโต๊ะ รากผักตดหมูตดหมา 1 กำนำไปบดให้ละเอียด
วิธีทำ : เลือกเนื้อวัวเพศเมียที่คัดมาจากฟาร์มเมืองเก่า-สุโขทัย จากนั้นนำไปหมักไว้ในไหโบราณริมเขื่อนเรียงหิน กะพอให้จมูกของเนื้อวัวเพศเมียโด่งเด้งประหนึ่งเพิ่งไปผ่าตัดศัลยกรรมมา หมาดๆ ยกขึ้นมาตากเปียกตากแห้งสัก 7 วัน 7 คืน แล้วค่อนคลุกเคล้าเข้ากับเครื่องปรุง ทอดไฟอ่อนๆ กินแกล้มกับทรายขี้เป็ด โบราณว่าเด็ดจนต้องตะโกน 'ฮ้อแรด'
'ลูกตาปลาดุกแกงส้ม' เครื่องปรุง : เสาะหานัยน์ตาปลาดุกที่เหล่เกินบรรยาย หรือถ้าหาไม่ได้จริงๆ ให้ใช้ตาปลาดุกที่ส่อนๆ แทนก็ได้ แม้รสชาติอาจจะไม่ดีเสมอกัน แต่รับประทานเข้าไปแล้วจะรู้สึกว่าเป็นอาหารที่น่าทานเพื่อเรียกน้ำอ้วกออก มาจริงๆ, มะละกอสับ, น้ำปลา, น้ำมะนาว,
วิธีทำ : เมนูนี้ทำไม่ยาก แต่จะลำบากอีตอนตระเวนหาปลาดุกตาเหล่เท่านั้น เมื่อได้ปลาดุกตาเหล่ หรือตาส่อนมาแล้ว ให้ลงมือแงะลูกตาปลาออก ส่วนอื่นๆ ของปลาทิ้งหมด อย่าเสียดาย นำตาปลาดุกทั้งเหล่ๆ นั่นแหละโยนลงไปในหม้อน้ำเดือด จากนั้นให้มองดูมันด้วยความสมน้ำหน้า (555) ทิ้งไว้จนกว่าน้ำตาปลาดุกจะค่อยๆ ไหลเพราะเริ่มสำนึกผิด โยนมะละกอใส่ลงไป บีบน้ำมะนาว เหยาะน้ำปลา กินกับข้าวสวยร้อนๆ แพทย์แผนจีนบอกว่าจะช่วยเยียวยาอาการลืมคุณแผ่นดินได้ชะงัดดีนักแล
'ปลาไหลสุ 1,000 ต้มเปรต' เครื่องปรุง : ปลาไหลเลือกตัวแก่ๆ ลักษณะป้อมสั้น หน้าตาห่ามหื่น แลบลิ้นแผล็บๆ เมือกเยอะๆ, ข่า, ตะไคล้, ใบมะกูด, พริกกะเหรี่ยง, น้ำมะขามเปียก
วิธีทำ : จับปลาไหลหูใหญ่ หนังยาน ตัวไม่ยาว (สั้นๆ) รูดเอาเมือกออกโดยใบข่อยสด (ริมรั้วบ้านชูวิทย์) จากนั้นหั่นปลาไหลโดยไม่ต้องแล่หนังออก เท่านั้นยังไม่พอต้องใช้มีดกรีด กรีด กรีดสัก 100 หรือ 1,000 แผล เสร็จสรรพแล้วเอาเกลือทาให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้บนแผ่นสังกะสีที่ตากแดดร้อนระอุ คอยจนมันดิ้นทุรนทุราย สารภาพว่าชาติหน้าจะไม่ทรยศต่อคำพูดตัวเองอีกแล้ว (ที่รอชาตินี้ไม่ได้เพราะมันกำลังจะตายในไม่ช้า ไปดีเถิดนะข้าฯ ขออวยพร จงเป็นทุกข์เป็นทุกข์เทอะ ซ้า...ถุ) จึงโยนในหม้อน้ำเดือด เป็นอันเสร็จพิธีฌาปนกิจ อ้อ! เกือบลืม ปลาไหลสุ1,000 ต้มเปรต ต้องกินกับแบมถึงจะเข้ากัน (อิอิอิ)
*** พิเศษสุดวันนี้ (มีเฉพาะวันอดอยากปากเป็นมัน) ไดโนเสาร์กะเพราจานด่วน (สูตรฮ่องกง) สั่ง 3 จานร้องคาราโอเกะฟรี แถมมีนักข่าวสาวไปสำพรวดถึงบ้าน (ก๊าก) ผลไม้ : จันทร์-อาทิตย์ ชมพู่เน่า เราบริการ (กินอาหารครบ 10,000 บาท แถมแมวสีสะหวาด 1 ตัว ครบ 100,000 บาท แจกรถดับเพลิง กทม. รุ่นผู้ว่าฯ หน้าหมู 1 คัน (ฮา)
คำเตือน : นายทหารห้ามพกพารถถัง และปืนต่อสู้อากาศยานเข้ามาเพ่นพ่านในครัวออหมักเด็ดขาด อ้ายกระพ้มไม่กลัวหรอก แต่เฮียแม้วเข้าเสียวซ้ำสองว่ะ แดกสด งดเชื่อ เบื่อจังอ่านแล้วอยากทำตัวเ้ป็นชายแปะ ฮ่าๆๆๆๆ
