ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 19:48
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  คิดต่างขวางทางสังคม : เหตุผลของความขัดแย้ง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
คิดต่างขวางทางสังคม : เหตุผลของความขัดแย้ง  (อ่าน 1700 ครั้ง)
davil amature
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 154


วันว่าง ยามพัก ใจสู้ศึก


« เมื่อ: 18-05-2006, 02:36 »

คิดต่างขวางทางสังคม : เหตุผลของความขัดแย้ง

โดย รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ความขัดแย้งครั้งใหญ่ในสังคมไทยขณะนี้ นอกจากจะเป็นการต่อสู้กันระหว่างรัฐบาล ที่ต้องการปฏิรูปสังคมไทย
ตามแนวทางทุนนิยมโลกาภิวัตน์ กับกลุ่มแนวร่วมต่อต้านโลกาภิวัตน์แล้ว ยังมีมิติทางชนชั้นอันแหลมคมคือ เป็นการต่อสู้ครั้งสำคัญระหว่างชนชั้นล่างในเมืองและชนบทที่สนับสนุนผู้นำรัฐบาลและระบอบประชาธิปไตยกับ
ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมือง ที่ต้องการขับไล่ผู้นำรัฐบาลและฉีกรัฐธรรมนูญ
ชนชั้นล่างในเมืองและชนบทประกอบด้วย ประชาชนระดับรากหญ้าที่ตั้งแต่เกิดจนตายมีชีวิตยากจน ลำบากยาก
แค้น ไม่แน่นอน ไม่มีการศึกษา ขาดเงินทุน มีแต่หนี้สินและโรคภัยไข้เจ็บ ยาเสพติดในละแวกบ้าน
อิทธิพลเถื่อนในพื้นที่ การข่มเหงรังแกของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากผู้ใด ไม่มีปากมีเสียง
ถูกละเลยผ่านพ้นรัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัย พวกเขามีข้อได้เปรียบเพียงประการเดียวคือ มีจำนวนคนมากนับ
สิบล้านคนทั่วประเทศ และระบบการเมืองที่พอจะเปิดโอกาสให้พวกเขาได้มีปากมีเสียงบ้างก็คือ ระบอบ
ประชาธิปไตย เพราะเป็นระบอบที่ทุกคนมี "หนึ่งเสียงเท่ากัน" ไม่ว่ายากดีมีจน การศึกษาสูงหรือต่ำ และยังเป็นระบบเดียวที่ทำให้พวกเขาพอจะส่งอิทธิพลไปยังนักการเมืองได้บ้าง
พวกเขาสนับสนุนผู้นำรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง ก็เพราะนี่เป็นรัฐบาลแรกที่หยิบยื่นผลประโยชน์รูปธรรมเฉพาะหน้าให้กับพวกเขาได้จริงผ่านโครงการประชานิยม
ต่างๆ เช่น หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ พักชำระหนี้ กองทุนหมู่บ้าน 30 บาทรักษาทุกโรค บ้านเอื้ออาทร
หมู่บ้านเอสเอ็มแอล ขจัดปัญหายาเสพติด ลดอิทธิพลเถื่อนในพื้นที่ แปลงหนี้นอกระบบเป็นหนี้ในระบบ ฯลฯ ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมืองไม่เคยเข้าใจสิ่งเหล่านี้
เพราะพวกเขาไม่ต้องเผชิญกับปัญหาสารพัดที่ชนชั้นล่างต้องประสบตลอดชีวิต
ชนชั้นกลางมีเงิน การศึกษา ตำแหน่งงาน บ้าน รถยนต์ มีช่องทางเข้าถึงเงินทุนและเงินกู้ในระบบ เจ็บป่วย
ก็มีเงินรักษา ไม่มีปัญหายาเสพติดในละแวกบ้าน ไม่เคยถูกเจ้าหน้าที่รัฐและอำนาจเถื่อนรังแก ไม่ต้องพึ่งรัฐบาล
และนักการเมืองท้องถิ่น พวกเขาจึงมองชนชั้นล่างอย่างดูถูกดูแคลน ว่า "ถูกซื้อ" โดยรัฐบาล พวกเขาต้องการ
โค่นล้มผู้นำรัฐบาลและเรียกร้อง "รัฐบาลพระราชทาน" ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งก็เพราะในระยะ 5 ปีมานี้ พวกเขาได้
สูญเสีย "สวรรค์ของอภิสิทธิ์ชน" ของตนไปเรื่อยๆ กลุ่มทุนเก่าที่ผูกขาดระบบเศรษฐกิจไทยมาหลายสิบปี
กำลังสูญเสียอำนาจทางเศรษฐกิจไปอย่างรวดเร็ว เพราะการเปิดเสรีการค้าและการลงทุนของรัฐบาล พวกเขาจึง
ต้องโค่นล้มรัฐบาล เพื่อยุตินโยบายดังกล่าว และฉุดรั้งให้เศรษฐกิจไทยถอยหลังไปสู่ระบบทุนนิยมอุปถัมภ์ดังเดิม
ผู้นำแรงงานรัฐวิสาหกิจต้องการขับไล่รัฐบาล เพราะสูญเสียประโยชน์และสถานภาพจากการแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจ
ให้เป็นบริษัทมหาชน องค์กรพัฒนาเอกชนที่ต่อต้านทุนนิยมต้องการโค่นล้มรัฐบาล
เพราะปฏิเสธการพัฒนาเศรษฐกิจให้ทันสมัย ปฏิเสธการค้าการลงทุนจากต่างประเทศ ต้องการฉุดรั้งให้เศรษฐกิจไทยถอยหลังไปเป็นสังคมเกษตรกรรมหมู่บ้านบุพกาลตามลัทธิชุมชนอนาธิปไตยของ
พวกตน ข้าราชการเทคโนแครตไม่ต้องการรัฐบาลและรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะทำให้พวกเขาสูญเสียอำนาจ
เกียรติภูมิและสถานภาพ จากเดิมที่เป็นผู้บริหารประเทศตัวจริงและมีอิทธิพลเหนือรัฐมนตรีนักการเมือง
แต่วันนี้ พวกเขาเป็นเพียงคนรับคำสั่งของนักการเมือง กลุ่มก๊วนการเมืองต้องการฉีกรัฐธรรมนูญ
เพราะทำให้พวกตนไม่มีอำนาจต่อรอง ต้องผูกติดกับระบบพรรค ไม่สามารถข่มขู่รัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีให้แบ่งปันผลประโยชน์แก่พวกตนได้เหมือนในอดีต
นักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย ราษฎรอาวุโสแม้จะเกลียดชังความไม่โปร่งใสในทรัพย์สินของผู้นำรัฐบาล
แต่ภูมิหลังคือ พวกเขาเป็นอนุรักษนิยม ไม่ต้องการโลกาภิวัตน์ แล้วยังสูญเสียสถานภาพและความน่าเชื่อถือ
ตลอด 5 ปีมานี้ เพราะรัฐบาลไทยรักไทยเป็นรัฐบาลที่ไม่สนใจนักวิชาการและอาจารย์มหาวิทยาลัย
ไม่ให้คุณค่าความสำคัญแก่ราษฎรอาวุโส อีกทั้งยังคอยกล่าวตอบโต้รุนแรงอยู่เสมอ นักวิชาการและราษฎรอาวุโส
เหล่านี้ปากพูดว่า "ต้องการประชาธิปไตย" แต่วันนี้ กำลังเรียกร้อง "รัฐบาลพระราชทาน" ให้ฉีกรัฐธรรมนูญ
เอาระบบจารีตนิยมเข้ามากุมอำนาจรัฐ
บางคนเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ฝ่ายทหารก่อรัฐประหารยึดอำนาจ เอาเผด็จการทหารกลับคืนมา ทั้งหมดนี้ เพื่อโค่น
ล้มผู้นำรัฐบาลเพียงคนเดียว ที่น่าสังเวชคือ นักวิชาการเหล่านี้บางคนปากอ้างมาตลอดชีวิต ว่า
เป็นทายาททางคุณธรรมของนายป๋วย อึ๊งภากรณ์ แม้แต่อดีตฝ่ายซ้ายและนักต่อสู้กับเผด็จการทหารในอดีต
มาวันนี้กลับขึ้นเวทีร้องเพลงเพื่อชีวิต วิงวอนร้องขอ "รัฐบาลพระราชทาน" ให้ฉีกรัฐธรรมนูญ ฟื้นระบอบจารีตนิยม แม้เฉพาะหน้าจะเป็นประเด็นความไม่โปร่งใสของผู้นำรัฐบาล แต่พื้นฐานความขัดแย้งคือ
รัฐธรรมนูญฉบับนี้และผู้นำรัฐบาลทำให้ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมืองสูญเสียประโยชน์และสถานภาพอภิสิทธิ์ ทำให้ชนชั้นล่างทั้งในเมืองและชนบทได้มีสิทธิมีเสียงทัดเทียมกัน แม้คำขวัญเบื้องหน้าคือ "กู้ชาติ" "ปฏิรูปการเมือง" และชื่อกลุ่มลงท้ายด้วยคำว่า "เพื่อประชาธิปไตย" แต่เนื้อแท้คือ ต้องการฉีกรัฐธรรมนูญและทำลายระบอบ
ประชาธิปไตย ที่แบ่งอำนาจให้กับชนชั้นล่างมากเกินไป และเปิดช่องให้มีการปฏิรูปทุนนิยมโลกาภิวัตน์ ฉะนั้น วาระของพวกเขาจึงเป็นปฏิกิริยาและถอยหลังเข้าคลอง
สิ่งที่ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมืองต้องการไม่ใช่ประชาธิปไตย ที่ "หนึ่งคนหนึ่งเสียงเท่ากัน"
แต่เป็นระบอบคณาธิปไตยที่ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมืองมีอำนาจอภิสิทธิ์ และมีเสียงเหนือชนชั้นล่าง
เป็นระบอบที่คนส่วนน้อยในเมืองจำนวนหนึ่งมีเสียงเหนือกว่า สามารถ "สั่ง" และขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญด้วยคะแนนเสียงข้างมากของประชาชนชั้นล่างนับสิบ
ล้านคนได้
ประชาธิปไตยไทย จึงไม่มีวันเป็น "ประชาธิปไตย" ไปได้ เป็นได้แค่คณาธิปไตยจารีตนิยม
....... นี่แหละฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ

http://www.thailand-post.net/col2.htm

เอามาฝากเฉย ๆ
บันทึกการเข้า

ความจริงมันก็แค่สิ่งที่เรารับรู้ และจิตใจเรายอมรับว่าจริง ทั้ง ๆ ที่ความจริงมันไม่ใช่เลยก้ได้
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 18-05-2006, 03:28 »

มองคนละมุม

การเมืองยุคเงินเป็นใหญ่ ก็รังแต่จะทำให้เงินเป็นพระเจ้า

รัฐบาลไทยรักไทยเห็นจุดอ่อนของประชาชนผู้ยากไร้ เลยไปหยิบยื่นความหวัง แจกเงิน แจกเครดิต

จะว่าไปมันไม่ใช่สิ่งที่ผิดอะไรหรอก หากทำไปอย่างมีขั้นมีตอนเพราะเป็นเงินภาษีอากรของคนทั้งชาติ

เป็นความคิดดีที่เห็นแก่คนรากหญ้าซึ่งไม่ค่อยได้รับการเอาใจใส่จากรัฐบาลก่อน ๆ

แต่วิธีปล่อยเลยตามเลย มันทำให้รากหญ้าเสพติด เครดิตที่ให้ไปมันส่งผลสัมฤทธิ์แค่ใหน

ตรงนี้ยังเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ

การต่อสู้ของชนชั้นกลาง ไม่ได้ต่อสู้ตรงนั้น แต่ต่อสู้กับการคอรัปชั่นต่างหาก

ถ้าหากมองปัญหาด้วยคิดว่า การต่อต้านระบอบทักษิณเพราะนโยบายรากหญ้า คงจะผิดประเด็นแน่นอน

การต่อต้านระบอบทักษิณ ไม่ใช่การต่อต้านการช่วยเหลือรากหญ้า

แต่ต่อต้านการใช้เงินเป็นตัวล่อให้มาติดกับ "ทุนนิยมเสรี" ซึ่งแน่นอนว่า อยู่ตรงข้ามกับเศรษฐกิจพอเพียง

ส่วนประเด็นการบริหารแบบใช้อำนาจเป็นใหญ่ ไม่นิยมอำนาจศาล เป็นอีกประเด็นที่รัฐบาลไทยรักไทย ทำเอาประชาชนเป๋ไปเหมือนกัน

เพราะการปราบปรามเด็ดขาดแบบเผด็จการ มันสะใจ ทันใจ แต่ผลในระยะยาวมันไปไม่ได้

คนเรามักไม่ชอบอะไรที่ยืดเยื้อ...แต่จริง ๆ แล้ว กฎหมายก็ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐตามสมควรแก่เหตุ

แต่การปราบผู้มีอิทธิพลหรือยาเสพติดแบบรุนแรง มันมิใช่การแก้ปัญหา

เพราะทุกวันนี้ สถิติมันก็บอกแล้วว่า ยาเสพติดยังคงรุนแรง และนับวันจะเพิ่มขึ้น

หากคิดว่า การฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ เป็นผลงาน บัดนี้ยาเสพติดก็กำลังกลับเข้ามาแล้ว

รัฐบาลทำไมไม่ทำให้มันเด็ดขาดล่ะ...นั่นแสดงว่า วิธีปราบปรามอย่างรุนแรง มิใช่ทางแก้ปัญหา

การต่อต้านระบอบทักษิณ เค้าต่อต้านการรวมศูนย์อำนาจ แบบผู้ว่า ซีอีโอ

การจัดงบประมาณ SML คือการทำลายระบบกระจายงบประมาณที่ควรลงไปที่องค์กรท้องถิ่น

การใช้งบประมาณลงไปที่หมู่บ้าน มันก็คือการซื้อเสียง โดยถูกกฎหมายนั่นเอง

ถ้าจะพูดถึง"ความขัดแย้ง" แน่นอน มันขักแย้งในรูปแบบวิธีการทำงาน

ชนิดที่เรียกว่า ประชาชนครึ่งหนึ่ง พวกนักการเมืองครึ่งหนึ่งนั่นเอง

เพราะหากทำให้ประชาชนคอรัปชั่นได้โดยไม่มีการตรวจสอบ รัฐบาลจะคอรัปชั่นบ้าง ผู้ใหญ่บ้านกำนันก็ไม่มีปากมีเสียง

เพราะรัฐบาลไปเปิดทางให้ผู้แทนในหมู่บ้านโกงกินมาก่อนนั่นเอง

เมื่อนักการเมืองเน่าเฟะ ยังไปปล่อยเชื้อเน่าเฟะให้กับชาวบ้าน ประเทศชาติก็ถึงคราวเน่าเฟะในเวลาอีกไม่นาน

เพราะถึงคราว "มือใครยาวสาวได้สาวเอา" ใครเป็นพวกรัฐบาล ก็อาศัยอำนาจ บารมีเข้าไปเช่าสัมปทานกันยกใหญ่

ประเด็นมันจึงอยู่ที่ว่า หากรัฐบาลไม่โกง ยอมรับการตรวจสอบ

อำนาจจากคนชั้นกลาง ไม่มีวันจะเข้าไปขับไล่นายกรัฐมนตรีได้หรอก

เพียงแต่ นายกรัฐมนตรีมีแผลเต็มตัว...แถมประชาชนมาลุกฮือเพราะการขายหุ้น

แล้วจะบอกว่ามันเป็นการต่อสู้ของกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ดูเหมือนจะมองใกลเกินไป

ถ้าหน้าเหลี่ยมมันไม่โกง ต่อให้ 100 สนธิ 1 ล้านพันธมิตร ก็ทำอะไรคนสุจริตไม่ได้

นี่มันโกง...โกงเห็น ๆ แล้วทำอะไรไม่ได้...มันจึงเหมือนผีห่าซาตานโดนน้ำมนต์
บันทึกการเข้า

Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #2 เมื่อ: 18-05-2006, 13:37 »

ไอ้ม็อบนอมินี่โสเภณีเก่า นั่นน่ะหรือ มันจะมีน้ำยาทำงานใหญ่อย่างนี้ได้
ถ้ามันไม่มีไอ้โม่งจอมบงการหนุนหลังมันอยู่ ไม่อย่างนั้น เช็คบิลเคลียร์เรียบร้อย
ไปนานแล้ว คงจำกันได้ ไอ้เอกยุทธ มันเคยพยายามก่อการในลักษณะนี้มาแล้ว
แต่จุดไม่ติด จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ ขายหุ้น สะท้านแผ่นดิน ขุดบ่อล่อปลา
กลายเป็นกับดัก จริยธรรม จนดิ้นไม่ออก เข้าทางไอ้โม่งที่วางหมากเอาไว้
เดินเกมส์เช็คบิล ประสานเสียงกับ ศักดินา คณาจารย์ที่มีสายสนกลใน
กับไอ้โม่งสอดคล้องกันเป็นขบวนการ
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 18-05-2006, 18:44 »

มันไม่ชัดเจนไง สหาย Killer

เจ้าเอกยุทธ์ มันแผลเต็มตัว แค่เดินเข้าประเทศผู้คนยังสะอิดสะเอียน

ผลงานออกมาแต่ละดอก เหมือนวัดวิชาน้ำเน่าใต้กระโปรงขึ้นมาเล่น

ถ้าคิดว่า เอกยุทธ์เป็น ไอ้โม่ง ก็คิดผิดแล้ว ประชาชนที่ออกมาต่อต้านหน้าเหลี่ยม

เพราะเค้าเห็นว่า "หน้าเหลี่ยมมันเลวจริง" ต่างหาก
บันทึกการเข้า

ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #4 เมื่อ: 18-05-2006, 19:44 »

ให้เงินมากก็รังแต่ทำให้สังคมเสื่อมโทรม  เงินนี่แหละตัวทำร้ายสังคม  ถ้ารักเงินมากก็ไม่สมควรเป็นคนที่มีจริยธรรมในจิตใจ
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #5 เมื่อ: 18-05-2006, 22:18 »

ไอ้โม่งคือใคร มันก็ชัดเจนแล้ว ว่าเป็นใคร
ลุแก่อำนาจ เหิมเกริม ถึงขนาด ทาบทามคน
จัดเตรียมนายกฯ ม.7 เอาไว้แล้วด้วยซ้ำ

เอกยุทธ นั่นผมยกตัวอย่างมาเท่านั้นว่า
ณ เวลานั้น ม็อบมันไม่ชอบธรรมจุดไม่ติด
เขาก็ไม่ส่งมือโปรเข้ามา แต่มาม็อบไอ้สนธิ
มันเข้าท่ากว่า มีเรื่องขายหุ้นมาเป็นเหยื่อล่อ
เขาก็เลยส่งมือโปร ไอ้มือโปรหัวเขียงมาจัดการ

ไอ้พวก NGOs มันยังงงเป็นไก่ตาแตก
ตกกระไดพลอยโจรชั่วไปด้วย 

ผมพูดในฐานะ หนึ่งในผู้ร่วมเหตุการณ์ในอดีต
เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญ และสร้างการปกครองนี้มาอย่างยากลำบาก
เห็นไอ้ NGOs มันทำแล้วทุเรศ สมคบกับไอ้พวกนอกระบบ
ทำลายระบอบ อย่างนี้มันรับไมได้ และต้องต่อต้านให้ถึงที่สุด

ถ้าพวกมันทำสำเร็จ ตั้งรัฐบาลที่พวกมันต้องการได้
ก็ต้องตามล้างตามล่า จิกหัวด่าไอ้พวกชั่วให้ถึงที่สุด

บันทึกการเข้า
narong
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 18-05-2006, 22:36 »

จริงๆแล้วผู้ปกครองเมืองไทยตอนนี้ก็ไม่ต่างจากซัดดัมเท่าไหร่
เมื่อถึงเวลาหมดอำนาจ แบ๊คอัพต่างชาติก็ถีบหัวส่งแล้วชูตัวใหม่ขึ้นมาเล่นแทน Cool
บันทึกการเข้า

ผู้ที่ไม่สามารถจะใช้คนดี
ก็ย่อมจะใช้คนไม่ดีหรือคนเลว
ถ้าไม่เชื่อผู้ซื่อสัตย์หวังดีต่อตน
ก็จะต้องไปเชื่อคนประจบสอพลอ
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #7 เมื่อ: 18-05-2006, 22:49 »

จริงๆแล้วผู้ปกครองเมืองไทยตอนนี้ก็ไม่ต่างจากซัดดัมเท่าไหร่
เมื่อถึงเวลาหมดอำนาจ แบ๊คอัพต่างชาติก็ถีบหัวส่งแล้วชูตัวใหม่ขึ้นมาเล่นแทน Cool

ไปกันใหญ่แล้ว
บันทึกการเข้า
narong
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 18-05-2006, 23:12 »

จริงๆแล้วผู้ปกครองเมืองไทยตอนนี้ก็ไม่ต่างจากซัดดัมเท่าไหร่
เมื่อถึงเวลาหมดอำนาจ แบ๊คอัพต่างชาติก็ถีบหัวส่งแล้วชูตัวใหม่ขึ้นมาเล่นแทน Cool

ไปกันใหญ่แล้ว

อ้าวก็เห็นวิ่งไปประเทศนั้นที ประเทศนี้ที ไม่ได้ไปขออนุมัตินโยบายจากเขาหรอกเหรอ 555
บันทึกการเข้า

ผู้ที่ไม่สามารถจะใช้คนดี
ก็ย่อมจะใช้คนไม่ดีหรือคนเลว
ถ้าไม่เชื่อผู้ซื่อสัตย์หวังดีต่อตน
ก็จะต้องไปเชื่อคนประจบสอพลอ
หน้า: [1]
    กระโดดไป: