ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-03-2024, 17:02
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  =="ประดาบ" เชียร์หมอเลี๊ยบนั่ง รมต.คลัง + โจมตีคนอื่นว่าแย่ไปหมด== 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
=="ประดาบ" เชียร์หมอเลี๊ยบนั่ง รมต.คลัง + โจมตีคนอื่นว่าแย่ไปหมด==  (อ่าน 3163 ครั้ง)
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« เมื่อ: 01-02-2008, 05:18 »

บทความยาวมากๆ ครับ ใช้วิธีโจมตีคนอื่นทั้งหมดที่มีชื่อเสียงทางเศรษฐกิจ
แล้วสรุปว่าหมอเลี๊ยบจะเป็น รมต.คลังได้ดี โดยมีทักษิณอยู่เบื้องหลัง 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ว่าด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
http://www.hi-thaksin.net/contentdetail.php?ParamID=77634
27/01/08 21:20

ในขณะที่ใครหลายคนตั้งคำถามว่า คนอย่าง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้อย่างไร ในเมื่อไม่มีประสบการณ์ด้านการเงินการคลัง มาก่อน

           ผมกลับตั้งคำถามกับใครหลายคนว่า ทำไมคนอย่าง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไม่ได้ ในเมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หลายคนในอดีต ไม่ได้มีคุณสมบัติดีเด่นกว่านพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี

           ผมตั้งคำถามกับใครหลายคนว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่อยากได้เป็นอย่างไร คำตอบโดยรวมๆ ก็คือว่า ต้องเป็นคนที่อยู่ในแวดวงการเงินการคลังการธนาคาร หรือ เป็นนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์

           ผมตั้งคำถามให้ใครบางคนตอบสเปกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ต้องการ และคาดหมาย คือ

           อดีตนายแบงก์ หัวหน้าดรีมทีมเศรษฐกิจ อย่าง นายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ ใช่หรือไม่ ?

           อดีตผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก อย่าง นายศุภชัย พานิชภักดิ์ ใช้ได้ไหม ?

           อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย อย่าง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ดีพอไหม ?

           อดีตประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพ อย่าง นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ จะถูกใจไหม ?

           อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อย่าง นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ไปรอดไหม ?

           อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อย่าง นายวีรพงษ์ รามางกูร เชื่อมั่นไหม ?

           อดีตประธานทีดีอาร์ไอ อย่าง นายฉลองภพ สุสังกรกาญจน์ อยากได้อีกสักรอบไหม ?

           อดีตรองนายกรัฐมนตรี อย่าง นายอำนวย วีรวรรณ ยังน่าสนใจไหม ?

           คนเหล่านี้เคยเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจในรัฐบาลที่ผ่านมา ครบถ้วนทุกคนแล้ว บ้างเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บ้างเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บ้างเป็นรัฐมนตรีอุตสาหกรรม บ้างเป็นรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ

           ยังมีอีกหลายชื่อ หลายคนที่ผมพอจะคิดออกและพยายามนึกถึงผลงานที่แต่ละท่านแต่ละคนฝากไว้ให้แก่ประเทศไทย หลังจากที่ท่านพ้นตำแหน่งไปแล้ว

           ไม่น่าเชื่อว่า แต่ละชื่อที่ผมนึกได้ ผมกลับนึกถึงผลงานที่แต่ละท่านทำไว้ไม่แม่นยำนัก เห็นภาพไม่แจ่มชัดนัก แต่ผมจำชื่อเสียงของท่านได้แม่นยำ ไม่รู้ลืม เหมือนกับว่าตัวตนของท่านยิ่งใหญ่กว่างานที่ทำไว้ เหมือนกับว่าผมก็เป็นคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อความคิด ติดยึดความเชื่อเช่นเดียวกับคนทั่วไปว่า เมื่อพูดถึงมืออาชีพด้านเศรษฐกิจ ที่พอจะมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ ก็อยู่ในแวดวงอันจำกัดเพียงไม่กี่ชื่อนี้เท่านั้น

           ความเชื่อเช่นนี้ติดตัวผมมานานแสนนาน นานจนเรียกได้ว่าตกเป็นเหยื่อของผู้ที่สร้างความเชื่อเช่นนี้ให้แก่ผม ได้อย่างหัวปักหัวปำ กว่าจะถอนตัวขึ้นมาเป็นตัวของตัวเองได้ ก็ต่อเมื่อได้มานั่งพิจารณาย้อนเหตุการณ์ว่าแต่ละท่านแต่ละคนทำอะไรไว้บ้างนั่นล่ะ ผมจึงได้คิดใหม่ว่า ชื่อเสียง และ ความเชื่อ ตลอดจน สถานะ “กูรู” ที่สังคมยกย่องมอบให้แต่ละคนแต่ละท่าน ไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันความสำเร็จ และผลงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแต่อย่างใด

           เหมือนกับโฆษณาชี้ชวนซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างๆ ที่จะพูดเร็วปรื๋อราวกับกลัวว่าประชาชนจะฟังทัน ในตอนท้ายของสปอตโฆษณาว่า “ผลประกอบการในอดีตไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต”

           เช่นเดียวกันกับชื่อและชั้นของมืออาชีพ หรือเทคโนแครต ที่สังคมเชื่อถือว่ามีความเหมาะสมและมีฝีมือฉกาจฉกรรจ์มากพอที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ ที่ผลงานในอดีต ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จของงานในอนาคต หากได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่า การกระทรวงการคลัง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2008, 05:58 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #1 เมื่อ: 01-02-2008, 05:19 »

ลองไล่เรียงกันมาตั้งแต่....

           1.อดีตนายแบงก์ที่ประสบความสำเร็จได้เป็นนายธนาคารยอดเยี่ยม อย่างนายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ หัวหน้าดรีมทีมเศรษฐกิจ ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศหลงเชื่อคำโฆษณากันเป็นตุเป็นตะว่า ต้องเป็นคนพวกนี้ล่ะ จึงจะกอบกู้ประเทศที่กำลังประสบวิกฤติต้มยำกุ้งได้ แต่เอาเข้าจริง ก็ได้เห็นกันถ้วนหน้าแล้วว่า นอกจากจะไม่ได้ช่วยบรรเทาพิษภัยของต้มยำกุ้ง ได้อย่างที่คุยโม้ไว้ แต่ยังไม่สามารถรับมือกับค่าเงินบาท ที่ร่วงลงมาจนถึง 55 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งผู้นำเข้า และผู้ส่งออก เจ๊งกันระเนระนาด ที่เคยเป็นหนี้ 100 ล้านบาท ก่อนดรีมทีมเศรษฐกิจของประชาธิปัตย์เข้ามา ก็กลายเป็น 200 ล้านบาททันที เมื่อดรีมทีมพ้นวาระจากไป เรื่องนี้ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เจ้าพ่อทีพีไอ ยืนยันได้ดีว่าหนี้แสนล้านบาท มาจากการบริหารงานของรัฐบาลไหน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชื่ออะไร

           นับจากหมดวาระรัฐบาลชวน หลีกภัย ไปพร้อมกับการถูกประชาชนจับได้ไล่ทันว่าดรีมทีมเศรษฐกิจ เป็นเพียงเรื่องโฆษณาชวนเชื่อ ไม่ใช่เรื่องจริงตามที่ประชาชนรอคอยและตั้งความหวัง กอบกู้เศรษฐกิจไม่ได้ นายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ ก็หนีหน้าหายไปจากแวดวงการเมือง และถูกลืมหายไปจากความทรงจำของประชาชนในเวลาอันรวดเร็ว

           อดีตนายแบงก์ยอดเยี่ยมอย่างที่ประชาชนเฝ้าหวังว่าจะเป็นผู้กอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของชาติ อย่างนายธารินทร์ พิสูจน์ฝีมือแล้วว่าแม้เขาจะไม่สามารถทำให้ทุกคนรวยเสมอกันได้ แต่สามารถทำให้ทุกคนจนเท่าเทียมกันได้ ทั้งเจ้านาย และ ลูกน้อง หลายบริษัท ต้องเปลี่ยนอาชีพจากพนักงานบริษัท มาเปิดท้ายขายของกันครึ่งค่อนประเทศ ซึ่งเป็นผลงานที่ดรีมทีมเศรษฐกิจทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ในยามคิดถึงกัน

           ไม่เพียงแต่กอบกู้วิกฤติไม่ได้เท่านั้น หากแต่ยังมีการสืบค้นลงลึกในเวลาต่อมาว่าวิกฤติต้มยำกุ้งที่เกิดจากประเทศไทย แล้วขยายผลทำให้ปวดแสบปวดร้อนไปหลายประเทศทั่วโลก เกิดจากการเปิดเสรีทางการเงิน หรือ BIBF ของนายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาลชวน 1 โดยไม่มีมาตรการรองรับผลกระทบ ส่งผลให้คนไทยเป็นลูกหนี้รายใหญ่ของโลก ใช้เงินมือเติบ ก่อหนี้ในอนาคต โดยไม่มีแผนการชำระหนี้ที่ดีพอ เพราะมาตรการทางการเงินของรัฐบาล ที่เสนอโดยมืออาชีพอย่างนายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ นั่นเอง
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #2 เมื่อ: 01-02-2008, 05:22 »

2. อดีตผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) อย่างนายศุภชัย พานิชภักดิ์ ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในดรีมทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผลงานที่นายศุภชัย ฝากไว้ให้คนไทยได้ดูต่างหน้าก่อนบินไปรับจ้างฝรั่งบริหารองค์การการค้าโลก ก็คือ กฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ต้องจำไปจนวันตาย และ กฎหมายประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ที่บางคนบอกว่าปิดกั้น แต่บางคนบอกว่าเปิดกว้าง การเข้ามาของผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกต่างชาติ และได้รับเงื่อนไขทางกฎหมายแพร่ขยายบกระจายตัวไปทั่วประเทศ ก็เกิดขึ้นในยุคที่นายศุภชัย พานิช ภักดิ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นี้เอง

           ธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็ก ขนาดกลาง ห้างภูธร นอนรอความตายไปทีละรายๆ จนในที่สุดทุกวันนี้ธุรกิจค้าปลีกไทย ตกอยู่ใต้อิทธิพลของต่างชาติแบบเบ็ดเสร็จไปแล้ว ก็เป็นฝีมือที่ศุภชัย พานิชภักดิ์ ฝากไว้ให้ดูต่างหน้า

           ด้วยฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ที่เข้ามารับภาระกอบกู้บ้านเมืองจากพิษต้มยำกุ้ง ที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ทิ้งไว้ นายศุภชัย ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านั่งดูประเทศไทยล่มสลายไปต่อหน้าต่อหน้าในหม้อต้มยำกุ้ง

           นักลงทุนในตลาดหุ้นยิงตัวตายประชดหุ้นราคาตกต่ำก็ยุคนี้

           นักธุรกิจจำนวนมาก ปิดบริษัท ไปทำไร่ไถนา ก็ยุคนี้

           พนักงานบริษัท กระโดดตึกฆ่าตัวตาย เพราะรับสภาพตกงานไม่ได้ ก็ยุคนี้

           นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ต้องเปลี่ยนอาชีพไปเป็นคนขายไข่ปิ้ง ไก่ย่าง ก็ยุคนี้

           หากถามว่า นายศุภชัย พานิชภักดิ์ มีฝีมือแค่ไหน ผลงานที่ปรากฎออกมาสมกับที่ประชาชนฝากความหวังไว้ในฐานะ “กูรู” ในฐานะมืออาชีพ ด้านการเงินการคลัง ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจหรือไม่ ก็ต้องดูผลงานของรัฐบาล ชวน หลีกภัย สมัยที่สอง ว่า ประชาชนเป็นทุกข์ หรือเป็นสุขมากกว่ากัน

           หลังจากสิ้นภารกิจจากรัฐบาลชวน 2 นายศุภชัย ไปรับตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก ก็ต้องถามกันแบบเปิดเผยไปเลยว่า 2 ปีที่เป็นผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก นายศุภชัย ทำอะไรให้ประเทศไทยได้ประโยชน์ในเวทีการค้าระหว่างประเทศ และ เวทีการค้าระดับโลก บ้าง ที่เราได้ยิน ได้เห็นจากข่าวโทรทัศน์ มีแต่สินค้าไทยถูกกีดกันในหลายๆ ประเทศ ทั้ง ไก่ กุ้ง ตลอดจนสินค้าเกษตร พืชผักผลไม้

           จนกระทั่งนายกฯทักษิณ ชินวัตร ต้องรับบทนักเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เดินสายขายสินค้าไทยไปทั่วโลก การค้าของไทย จึงเริ่มกระเตื้องขึ้น เพราะมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำทีมการค้า ด้วยตนเอง
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 01-02-2008, 05:22 »



มีใครเป็นสาวกของประดาบที่นี่หรือ?

ประดาบไม่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจ? 
บันทึกการเข้า

jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #4 เมื่อ: 01-02-2008, 05:23 »

3. อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย อย่าง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ที่เข้ามาเป็นความหวังให้กับประชาชน ในยุคเผด็จการครองเมือง กับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และจากไปในเวลาอันรวดเร็ว เพียงแค่ไม่ถึง 4 เดือน พร้อมๆ กับการทิ้งหนี้ก้อนใหญ่ไว้ให้กับคนไทย ต้องตามชดใช้ เป็นเงินมากกว่า 3 แสนล้านบาท จากการตัดสินใจของคนเพียงแค่ 2 คน คือ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่กำหนดมาตรการกันสำรอง 30% เงินตราต่างประเทศ ที่นำเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ส่งผลให้ตลาดหุ้นตกอย่างรุนแรง และ นักธุรกิจจต่างชาติ ชะลอการลงทุน บางรายตื่นตระหนกตกใจจนถึงกับถอนการลงทุนออกไปเลย

           มาตรการกันสำรอง 30% ที่ประกาศออกมาจากผู้ว่าการธปท. โดยการสนับสนุนของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เพื่อแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งตัวนั้น ไม่ได้ผลแม้แต่น้อย และขณะนี้ค่าเงินบาทก็ยังคงแข็งตัวกว่าเมื่อครั้งที่ประกาศมาตรการกันสำรอง 30 % ด้วยซ้ำ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการประกาศมาตรการดังกล่าว เป็นความผิดพลาดของม.ร.ว.ปรีดิยาธร ที่ทำให้ประเทศไทยเสียหาย และก่อหนี้ให้แก่ประเทศไทย มากกว่า 300,000 ล้านบาท โดยที่คนไทยทุกคนต้องร่วมกันชดใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ แต่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ไม่ต้องรับผิดชอบจากการทำให้ประเทศชาติเสียหายมากมายขนาดนี้

           ในขณะที่ประเทศชาติเสียหาย แต่กลับมีบุคคลใกล้ชิดผู้มีอำนาจรัฐในขณะนั้น ได้ประ โยชน์จากการล่วงรู้ข้อมูลภายใน และเก็งกำไรกับค่าเงินบาท และราคาหุ้น ได้เงินไปไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท เรื่องนี้ นักลงทุนในตลาดหุ้นรู้กันดีว่าใครได้กำไร เช่นเดียวกับนักค้าเงินตราระหว่างประเทศ ก็พูดกันให้แซ่ดว่าลูกชายใคร ได้เงินจากการเก็งกำไรอัตราแลก เปลี่ยน ไปหลายร้อยล้านบาท

           หลังจากล้มเหลวไม่เป็นท่ากับมาตรการกันสำรอง 30 % ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ก็ฉวยโอกาสลาออกจากตำแหน่ง โดยอ้างความขัดแย้งทางการเมือง และทำตัวเป็นพระเอก แฉเรื่องราวไม่ชอบมาพากลในคณะรัฐบาล ให้ประชาชนฟัง โดยไม่พูดถึงเรื่องการทำงานที่ล้มเหลว ของตนเองแม้แต่คำเดียว

           พฤติกรรมของม.ร.ว.ปรีดิยาธร ไม่แตกต่างจากคนที่ทำงานผิดพลาด แล้วหนีหน้า ไม่กล้ารับผิดชอบ เพราะเขาไม่ได้มาจากประชาชน จึงไม่ต้องตอบคำถามประชาชน เช่นผู้ที่มาจากการเลือกตั้ง นั่นเอง
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #5 เมื่อ: 01-02-2008, 05:26 »

4. อดีตประธานกรรมการธนาคากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) อย่าง นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ของรัฐบาลนี้ เป็นรัฐมนตรีขาประจำของรัฐบาลเผด็จการ แบบไม่เคยพลาด หลังปฏิวัติรัฐประหารครั้งใด รัฐบาลที่ตั้งขึ้นมาจากอำนาจเผด็จการ จะต้องเรียกโฆสิต มาเป็นรัฐมนตรี ทุกครั้งไป ตั้งแต่ยุครสช. มาจนถึงคมช. เรียกว่าเป็นบุคคลในสายตา และมีเสน่ห์ต่อเผด็จการทหารทุกยุคทุกสมัย

           การเป็นประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ ของ โฆสิต เป็นเพราะ ป๋า สนับสนุน และโฆสิต เข้ามาอยู่กับธนาคารกรุงเทพ ในวันที่ธนาคารกรุงเทพ เป็นปึกแผ่นมั่นคงอยู่แล้ว มิใช่ผู้ที่เข้ามาช่วยสร้างธนาคารกรุงเทพ ให้เติบโตขึ้นมาเช่นทุกวันนี้

           โฆสิต เคยเป็นรองเลขาธิการสภาพัฒน์ ยุคป๋าเปรม เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นข้าราชการมืออาชีพ ที่รู้ใจป๋าดีที่สุด อาจจะเป็นด้วยเหตุนี้จึงเข้าใจดีว่า “เผด็จการ” ต้องการอะไร และเป็นที่ชอบใจของเหล่า “เผด็จการ” ในยุคต่อๆ มา

           1 ปีกับ 4 เดือน ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาห กรรม ของรัฐบาลชุดปัจจุยันที่กำลังจะถึงวาระสุดท้ายอยู่รอมร่อ โฆสิต มีผลงานอะไรให้ได้จดจำกันบ้าง ใครบอกได้ มีรางวัลให้ 100 บาท (จะได้นำมาเป็นชข้อมูลเขียนหนังสือ) ผมนึกไม่ออกจริงๆ

           ไม่ใช่เพียงแต่นึกไม่ออกว่ามีผลงานอะไรบ้าง บางทีผมก็ลืมไปด้วยว่ารัฐบาลชุดนี้มีมือเศรษฐกิจที่สื่อมวลชนยกย่องว่าเป็นมือเซียน มืออาชีพในการบริหารเศรษฐกิจ เพราะว่าความตกต่ำ ความพินาศฉิบหายของเศรษฐกิจไทย ในห้วงเวลา 1 ปีเศษที่ผ่านมา มันไม่เหมือนกับว่าเรากำลังว่าจ้างมืออาชีพด้านเศรษฐกิจที่สื่อมวลชนชื่นชมยกย่อง และสังคมธุรกิจเห็นว่าเป็นสุดยอดของนักบริหารเศรษฐกิจ มาทำงานแก้ไขปัญหาอยู่เลย

           ตรงกันข้าม เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทุกวงการ ทั้งสื่อมวลชน และนักธุรกิจทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ทุกรายสาขา ต่างพากันส่ายหน้า สั่นหัว และทุกข์ระทมกับสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำที่เหมือนกับว่า ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น ยังไงยังงั้นเลย

           คำพูดที่ดังระงมไปทั่วทุกวงสนทนาของนักธุรกิจเมื่อปีที่แล้วที่ บอกว่า “ปีนี้ (2550)เผาหลอก ปีหน้า(2551)เผาจริง” เกิดขึ้นในยุคสมัยที่เรามีมืออาชีพด้านการบริหารเศรษฐกิจ อย่าง โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ กูรูการเงินการคลังคนหนึ่ง ที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดคนหนึ่งของประเทศนี้ เป็นผู้บริหาร เป็นกัปตันทีม ได้อย่างไร

           หากวัดจากเสียงสะท้อนสภาพเศรษฐกิจไทย ที่ออกมาในรอบ 1 ปีเศษที่ผ่านมา ก็ต้องบอกว่า โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ไม่ใช่ของจริง แต่เป็นของปลอม ที่ย้อมแมวขาย นั่นเอง

           ถ้า โฆสิต มีฝีมือจริง บริหารเศรษฐกิจได้ดีจริง เราคงไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับการหารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ มารับใช้ประเทศ เช่นทุกวันนี้

           ต้องกล่าวหาว่าปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่หนักหนาเช่นทุกวันนี้ ก็เพราะเราได้มืออาชีพแบบของปลอม มาเป็นผู้บริหารยาวนานกว่า 1 ปีเศษที่ผ่านมา
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #6 เมื่อ: 01-02-2008, 05:28 »

ว่าจะเมลไปหามันอยู่เหมือนกันครับ ไอ้ประดาบเนี่ย

ไอ้ที่บอกว่าเลือก
ชาติไทย = ป สี่เสา
รวมใจไทย = สมคิด เบ้ คมช
มัชฌิมา = TPI
เพื่อแผ่นดิน = สุรเกียรติ คนทรยศ

สรุปแล้วกาพรรคพลังมหาโจรได้ทุกอัน


ส่วนเรื่อง รมต คลัง
อย่างที่คุณจีพูดแหละครับ

ไม่ว่าผีห่าหรือซาตานที่ไหนมาเข้าพรรคมัน ไอ้พวกนี้ก็จะเลียแบบไม่ลืมหูลืมหูลืมตาจริงๆนั่นแหละ

ผมอยากส่งคุณธารินทร์ ไปให้มันจัง
มันจะว่ายังไงกัน
บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #7 เมื่อ: 01-02-2008, 05:29 »

สำหรับกรณีผลงานของ นายโฆษิต รมต.อุตสาหกรรม ที่ประดาบท้าให้เงิน 100 บาทเอาไว้
ผมเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่กระทู้หนึ่งคือ

==โปรดจำว่า: อีโคคาร์ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน โฟล์ก โตโยต้า เป็นผลงานสมัยสุรยุทธ์==
http://forum.serithai.net/index.php?topic=20710.0

แต่คงไม่สามารถไปขอรับเงินจากประดาบได้ เพราะชาตินี้คงไม่มีโอกาสรู้ว่าคนๆ นี้เป็นใคร 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #8 เมื่อ: 01-02-2008, 05:30 »

5. อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อย่างนายณรงค์ชัย อัครเศรณี ที่วันนี้ตำแหน่งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีภาพลักษณ์สวยหรูดูดีเหลือเกินในสายตาของสื่อมวลชน และเป็นชื่อที่ลอยมาตามลมหล่นบนหน้าหนังสือพิมพ์ ทุกครั้งที่มีการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลเผด็จการหรือรัฐบาลเลือกตั้ง ว่าได้รับการทาบทามให้มาเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจของรัฐบาล

           เรื่องแบบนี้ ต้องไปถามพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี หัวหน้ารัฐบาลที่มีนายณรงค์ชัย อัครเศรณี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า 1 ปีบนเก้าอี้รัฐมนตรีพาณิชย์ นายณรงค์ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “ของจริง” หรือ “ของปลอม”

           ในฐานะ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด หรือ ซีอีโอ ของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์จีเอฟ นายณรงค์ชัย ไม่ได้ให้ข้อมูลแก่รัฐบาลพล.อ.ชวลิต เลยว่าสถานการณ์บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ สถานการณ์ด้านการเงิน เป็นอย่างไรบ้าง จนกระทั่งวาระสุดท้ายของรัฐบาลพล.อ.ชวลิต มาเยือนนั่นเอง ประชาชนทั้งประเทศ จึงได้รู้ว่าบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์จีเอฟ ที่มีนายณรงค์ชัย เป็นผู้บริหาร มาหลายปี ก่อนจะดีดตัวมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้กับรัฐบาลพรรคความหวังใหม่ เป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่ก่อหนี้เสียให้แก่ประเทศไทยจำนวนมากมาย จนถูกสั่งปิดกิจการ

           หลังจากพล.อ.ชวลิต ประกาศนโยบายลอยตัวค่าเงินบาท ส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่ระดับ 27 บาทต่อดอลลาร์ หล่นไปอยู่ที่ 50 บาทต่อดอลลาร์ในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน นายณรงค์ชัย เป็นคนที่บอกให้นักข่าว ใช้คำว่า “ลอยตัวค่าเงินบาท” แทน “ลดค่าเงินบาท” และบอกว่าการลอยตัว แปลว่าอาจจะขึ้นก็ได้ ลงก็ได้ เพื่อให้ความหวังแก่ประชาชน ให้แตกตื่นตกใจกับอันตราแลกเปลี่ยน แต่ปรากฎว่าเงินบาทมีแต่ไหลลงไม่เคยขึ้นแม่แต่วันเดียว ส่งผลให้นักธุรกิจที่เชื่อนายณรงค์ชัย พากันเจ๊งกันมากขึ้นกว่าเดิม

           ในฐานะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ของรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายณรงค์ชัย หายหน้าไปนานหลังจากแพ้พิษต้มยำกุ้ง และไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใดๆ ต่อการล่มสลายของรัฐบาลพล.อ.ชวลิต เลยแม้แต่น้อย

           นายณรงค์ชัย เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนปัจจุบัน ทำงานต่อ เนื่องมากว่า 1 ปี มีอะไรที่ควรค่าแก่การจดจำบ้าง มีอะไรที่จะอวดอ้างกับประชาชนได้บ้างว่าเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการให้คำปรึกษาของตนเอง หากคิดออกแล้ว กรุณาตอบให้ประชา ชนชื่นใจด้วย
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #9 เมื่อ: 01-02-2008, 05:33 »

ว่าจะเมลไปหามันอยู่เหมือนกันครับ ไอ้ประดาบเนี่ย

ไอ้ที่บอกว่าเลือก
ชาติไทย = ป สี่เสา
รวมใจไทย = สมคิด เบ้ คมช
มัชฌิมา = TPI
เพื่อแผ่นดิน = สุรเกียรติ คนทรยศ

สรุปแล้วกาพรรคพลังมหาโจรได้ทุกอัน

ส่วนเรื่อง รมต คลัง
อย่างที่คุณจีพูดแหละครับ

ไม่ว่าผีห่าหรือซาตานที่ไหนมาเข้าพรรคมัน ไอ้พวกนี้ก็จะเลียแบบไม่ลืมหูลืมหูลืมตาจริงๆนั่นแหละ

ผมอยากส่งคุณธารินทร์ ไปให้มันจัง
มันจะว่ายังไงกัน

คราวนี้มันมือมากกว่าตอนโจมตีพรรคการเมืองครับ
น่าจะเป็นบทความยาวที่สุดที่เคยลง Hi-Thaksin
ผมเอามาลงไว้เป็นหลักฐาน

และถ้าใครมีความเห็นแย้งประัดาบก็จะได้สะดวก
บทความยืดยาวขนาดนี้แสดงว่าหมอเลี๊ยบมาชัวร์ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #10 เมื่อ: 01-02-2008, 05:35 »

6. อดีตรองนายกรัฐมนตรี อย่างนายวีรพงษ์ รามางกูร “ลูกโกร่งสุดที่รักของป๋าเปรม” และมีความสนิทสนมกับสื่อเครือมติชน มากที่สุด เป็นทั้งวิทยากรอบรมนักข่าว เป็นทั้งคอลัมนิสต์ให้กับมติชน อันน่าจะเป็นที่มาของการปล่อยข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์มติชน เพียงฉบับเดียวว่า “พรรคพลังประชาชนทาบทาม วีรพงษ์ เป็นรมว.คลัง และ วีรพงษ์ ตอบรับแล้ว” ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น หนังสือพิมพ์มติชน เสนอข่าวว่า “พรรคพลังประชาชนทาบทามวีรพงษ์ เป็นรมว.คลัง แต่วีรพงษ์ ไม่รับ”

           หลังจากมีข่าวว่า “วีรพงษ์ ไม่รับ” จึงมีข่าวออกมาจากพรรคพลังประชาชน ว่า “หมอสุรพงษ์ รับเป็นรมว.คลัง แล้ว” เป็นเหตุให้หนังสือพิมพ์มติชน เสนอข่าวแบบไม่เห็นด้วยกับ “หมอสุรพงษ์ เป็นรมว.คลัง” และ ตามด้วยข่าว “นักธุรกิจไม่เชื่อมั่น” จนมาจบที่ “วีรพงษ์รับการทาบทาม เป็นรมว.คลัง”

           ทางเดินของข่าวในลักษณะนี้ อธิบายความเป็นข่าวในข่าว หรือ อ่านนัยยะระหว่างบรรทัดของข่าวที่หนังสือพิมพ์มติชน นำเสนอได้ว่า

           “นายวีรพงษ์ รามางกูร อยากเป็นรมว.คลัง แต่เกรงว่าจะไม่มีราคาค่างวดมากนัก หากตอบรับทันทีที่ได้รับเชิญในครั้งแรก จึงปฏิเสธไป เพื่อให้พรรคพลังประชาชนมาคุกเข่าร้องขอความช่วยเหลืออีกครั้ง แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อพรรคพลังประชาชน เชื่อมั่นว่าหมอสุรพงษ์ เป็นรมว.คลัง ได้ จึงไม่ย้อนกลับไปทาบทามอีกครั้ง ส่งผลให้ต้องเสนอข่าวเองว่า ตอบรับแล้ว ยินดีที่จะเป็นรมว.คลัง แล้ว ทั้งๆ ที่ไม่มีใครขอร้องเป็นครั้งที่สอง ”

           ถามว่าทำไมชื่อของนายวีรพงษ์ รามางกูร จึงลอยมาทุกครั้งเมื่อจะตั้งรัฐบาลทุกชุด และจะต้องได้รับการคาดหวังว่าจะลงตัวที่เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทุกครั้งไป ทั้งๆ ที่นายวีรพงษ์ เป็นรัฐศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

           ผลงานอันโดดเด่นของนายวีรพงษ์ ที่กลายมาเป็นตำนนานดร.โกร่ง เล่ามาไม่รู้จบ มีอยู่เพียงเรื่องเดียว คือ เป็นผู้มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจหลังการประกาศลดค่าเงินบาท สมัยรัฐบาลพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เมื่อปี 2527

           แต่สถานการณ์ในขณะนั้นไม่ซับซ้อนและยุ่งยากมากเท่าขณะนี้ ที่หนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้เอกชน ไม่ใช่หนี้ราชการ และปริมาณหนี้ก็มีจำนวนมหาศาล โดยรัฐเข้าไปแทรกแซง มากไม่ได้เท่ากับในสมัยพล.อ.เปรม เนื่องจากกติกาการเงินของโลกเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว

           ความสามารถอันเอกอุของ นายวีรพงษ์ ดูเหมือนว่าจะหยุดยั้งไว้เฉพาะรัฐบาลพล.อ.เปรม เท่านั้น เพราะในเวลาต่อมาเมื่อได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ของรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายวีรพงษ์ ไม่สามารถที่จะหยุดยั้งและกอบกู้ภาวะเศรษบกิจที่ตกต่ำของประเทศไทย ได้เลย จนกระทั่งพล.อ.ชวลิต ต้องลาออกจากนายกรัฐมนตรี เพื่อรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น

           ว่ากันว่าบางเสี้ยวของการทำงานในฐานะมืออาชีพ นายวีรพงษ์ เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับนายอัดนัน คาช็อกกี และ นายราเกซ สักเสนา 2 พ่อมดการเงินคนสำคัญที่ถล่มธนาคากรรุงเทพพานิชยการ จนขาดทุนมหาศาล ต้องปิดกิจการไปในที่สุด แต่ไม่เป็นที่ยืนยันว่าเกี่ยวข้องกันในฐานะใด ซึ่งเรื่องนี้คนที่รู้เรื่องดี ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อยืนยันได้ คือ นายนิพัทธ พุกกะณะสุต อดีตข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการคลัง

           ปัญหาเศรษฐกิจของไทยในวันนี้ ไม่ใช่ปัญหาเดียวกับเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ผลงานในอดีตของนายวีรพงษ์ จึงไม่ใช่เครื่องรับประกันความสำเร็จในอนาคต หากมาเป็นรมว.คลัง อีกครั้งในยุคนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2008, 06:05 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #11 เมื่อ: 01-02-2008, 05:38 »

7. อดีตประธานสถาบันการวิจัยการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ อย่างนายฉลองภพ สุงสังกรกาญจน์ ที่มานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้กับรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ต่อจาก ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ซึ่งมาพร้อมกับความคาดหวังของนักธุรกิจ และประชาชนจำนวนมาก ในฐานะ “กูรู” คนหนึ่ง คนเก่งที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทย แต่กำลังจะจากไปพร้อมกับทิ้งความผิดหวังให้แก่นักธุรกิจ และประชาชน ไว้ดูต่างหน้า ยามคิดถึง

           เกือบ 1 ปีที่ผ่านมา นายฉลองภพ ไม่ได้ทำอะไรให้ประชาชนเชื่อมั่นกับเศรษฐกิจของประเทศ และมีความหวังกับการทำงานของรัฐบาล แม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับทำให้ประชาชนหมดหวัง และเลิกหวังกับรัฐบาลนี้ ไปตั้งแต่ก่อนทีรัฐบาลจะหมดอายุ

           นายฉลองภพ เป็นกรณีตัวอย่างที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง ในฐานะนักวิชาการ ที่ได้รับความเชื่อถือจากนักธุรกิจ นักวิชาการ และประชาชน อย่างมาก เมื่อนำเสนอบทวิพากษ์วิจารณ์ แนวคิดแนวทางการทำงานที่แหลมคมให้แก่รัฐบาลหลายยุคหลายสมัย แต่เมื่อถึงเวลา มีโอกาสได้เข้ามาทำงานเอง หรือ มาลงมือปปฏิบัติ ไม่ใช่แค่พูดอย่างเดียว กลับไม่ประสบความสำเร็จ ไม่สร้างความประทับใจใดๆ ไว้เลย นับแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย

           หากนายฉลองภพ ทำงานได้ดีในฐานะรมว.คลัง เช่นเดียวกับการพูด การวิจารณ์ในฐานะประธานทีดีอาร์ไอ หรือ พูดง่ายๆ มีฝีมือเท่ากับฝีปาก เศรษฐกิจไทย ก็คงไม่ตกต่ำจนหาทางแก้ไขไม่เจอเช่นทุกวันนี้

           การที่เศรษฐกิจไทยตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย ก็เพราะการทำงานที่ไม่มีประสิทธิ ภาพของนายฉลองภพ นั่นเอง

           1 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทย เสียเวลาไปกับนายฉลองภพ โดยไม่คุ้มค่าเลย เมื่อเปรียบ เทียบกับความคาดหวังของประชาชนทั้งประเทศ ที่หลงเชื่อว่านายฉลองภพ คือผู้บริหารเศรษฐกิจ ที่จะมากอบกู้ชาติบ้านเมืองเหมือนกับอัศวินขี่ม้าขาว
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #12 เมื่อ: 01-02-2008, 05:39 »

8. อดีตรองนายกรัฐมนตรี อย่างนายอำนวย วีรวรรณ ซึ่งเคยได้รับการยกย่องให้เป็น“ซาร์เศรษฐกิจ” คนที่สองต่อจากนายบุญชู โรจนเสถียร ก็เคยเป็นความหวังให้แก่คนไทย ในเรื่องการกอบกู้เศรษฐกิจ นับแต่รัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา มาจนถึง รัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แต่กลับกลายเป็นว่านายอำนวย นำประเทศไทย เข้าสู่สงครามเงินบาท และพ่ายแพ้ย่อยยับ จนต้องเข้าสู่โปรแกรมไอเอ็มเอฟ เป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือนของคนไทยทั้งประเทศ ว่าชีวิตมีความทุกข์ยากเพียงใดภายใต้เงื่อนไขของไอเอ็มเอฟ กว่าจะลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง ก็ต่อเมื่อนายกฯทักษิณ ชินวัตร มาปลดปล่อยคืนความเป็นไทให้แก่เศรษฐกิจไทย ไม่ต้องอยู่ใต้ข้อกำหนดของไอเอ็มเอฟ อีกต่อไป

           นายอำนวย วีรวรรณ จากไปพร้อมกับทิ้งหนี้อันเกิดจากการทำสงครามเงินบาท ไว้ให้แก่ประเทศไทยกว่า 1,000,000 ล้านบาท โดยไม่ต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องชดใช้ แต่คนไทยทั้งประเทศ ที่ไม่ได้รู้เห็นกับการก่อหนี้ก้อนนี้ ต้องชดใช้ร่วมกัน
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #13 เมื่อ: 01-02-2008, 05:43 »

ทั้ง 8 ตัวอย่างนี้ คือ “กูรู” คือ “มืออาชีพ” คือ “เทคโนแครต” ที่สังคมไทย โดยเฉพาะสื่อมวลชน นักธุรกิจ และ นักวิชาการ ยกย่องว่าคือสุดยอดฝีมือด้านการบริหารเศรษฐกิจของประเทศไทย ชนิดหาตัวจับยาก และทุกวันนี้ก็ยังจับตัวยาก เพราะแต่ละคน แต่ละท่าน หลบเร้นซ่อนกายอยู่ในที่ตั้ง หลังจากที่ก่อความเสียหายให้แก่ประเทศไทย ไว้มากมายดังที่ยกมากล่าวอ้างให้เห็นกันแล้ว

           บางคนยังอยาก บางคนเข็ดขยาด บางคนอยากๆ แหยงๆ

           แต่สำหรับผม บอกตรงๆ ว่ากลัวเหลือเกินกับ บรรดา “กูรู” ที่สังคมยกย่องเกินจริง จนกลายเป็นภาพลวงตา และ ภาพติดตาว่าเรามีบุคคลที่จะเป็นผู้บริหารด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย ได้เพียงเท่านี้ มีจำนวนจำกัดมากๆ แม้จะทำงานผิดพลาดให้ชาติเสียหายไปบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับสภาพ และสนับสนุนให้โอกาสอีกครั้ง และ อีกครั้ง ๆๆๆๆๆ

           ผมอยากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า “กูรู” เหล่านี้เมื่อมาทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรี ก็เหมือนเราใช้บัตรเครดิต วันไหนล้มเหลว ก็หนีไปโดยไม่รับผิดชอบ หนี้สินที่เกิดจากการรูดบัตรเครดิต ประชาชนต้องร่วมกันชดใช้ทุกทีไป

           จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเราอยากใช้บัตรเครดิต เชื่อถือในชื่อเสียง และเครดิตของเขา มากเกินไป ก็ต้องยอมรับสภาพที่ต้องชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ยที่เกิดจากบัตรเครดิต

           ในขณะที่สมัยรัฐบาลนายกฯทักษิณ ชินวัตร เหมือนกับเราใช้บัตรเดบิต คือเป็นบัตรเงินสด ทันทีที่รัฐบาลทักษิณ เริ่มต้นทำงาน ประชาชนก็ได้เงินสดมาใช้ ทำธุรกิจสร้างเนื้อสร้างตัว แล้วทยอยผ่อนชำระคืน ลืมตาอ้าปากได้ ถึงแม้จะเป็นหนี้ ก็เป็นหนี้ที่เกิดจากการใช้จ่ายของตัวเอง ไม่ใช่หนี้ที่เกิดขึ้นจากการก่อหนี้ของผู้อื่น

           ลองมองย้อนกลับไปรัฐบาลนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่ทุกคนได้ประจักษ์ผลงานด้านการบริหารเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศไทยฟื้นตัวจากพิษไข้ต้มยำกุ้ง และฟื้นฟูร่างกายได้รวดเร็ว กลายเป็นดาวรุ่งแห่งภูมิภาค อย่างย่าทึ่ง ทุกคนต่างก็รู้กันดีว่า หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และ ตัวจักรที่สำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจที่ตายคามือดรีมทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ ให้กลับคืนมามีชีวิตได้ ก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

           พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ จบปริญญาเอกด้านอาชญวิทยา ไม่เคยได้รับการยกย่องให้เป็นกูรู ไม่เคยถูกเรียกว่าเป็นมืออาชีพด้านเศรษฐกิจ ไม่ใช่นักวิชาการด้านเศรษฐกิจ เพียงแต่ประสบความสำเร็จสูงสุดในการบริหารธุรกิจของตัวเอง

           แต่ด้วยความตั้งใจดี ความเอาใจใส่ และความใฝ่ศึกษา จากปัญหาจริง ของจริง และการมีทีมงานที่ดี ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ประสบความสำเร็จอย่างมากในการบริหารเศรษฐกิจไทย จนได้รับการกล่าวขาน ชื่นชม และลอกเลียนแบบแนวทางการทำงานแบบ ทักษิโณมิกส์ ไปใช้ในหลายประเทศ

           วันนี้ หากจะเปลี่ยนจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็น นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ผมเชื่อว่าด้วยความตั้งใจดี เป็นทุนเริ่มต้น ด้วยคำปรามาส ที่จะแปรเปลี่ยนมาเป็นแรงขับดันให้ทำงานหนักขึ้น ด้วยทีมงานที่พร้อมพรั่งเหมือนเดิมเกือบ 100 % สมัยรัฐบาลทักษิณ คอยสนับสนุน ผมเชื่อว่า นพ.สุรพงษ์ จะทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คนก่อนๆ

           โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คอยให้คำแนะนำ เป็นที่ปรึกษาด้วยแล้ว ผมเชื่อว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่ดีที่สุดคนหนึ่งได้ไม่ยากนัก และจะเป็นรัฐมนตรีที่ใช้ผลงานหักปากกาเซียนจากทุกสำนักสื่อ และปิดปากนักวิชา การทุกสำนักการศึกษา ที่เคยวิพากษ์วิจารณ์ปรามาสได้สนิท

           ผมมองเห็น “สิ่งหนึ่ง” ที่นพ.สุรพงษ์ มีเหมือนกับ นายกฯทักษิณ ก็คือ ความตั้งใจดีต่อประเทศชาติ และความจริงใจต่อประชาชน

           นักการเมืองทุกคนหากมีสิ่งนี้ ไม่ว่าจะทำงานในหน้าที่ตำแหน่งใด ก็จะประสบความ สำเร็จมากกว่าล้มเหลว

           เกือบลืมไป จำได้ไหมว่า เราเคยมีนายบรรหาร ศิลปอาชา และ นายประมวล สภาวสุ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาแล้ว และ ทั้งสองท่านก็ทำหน้าที่ได้ดี ไม่มีเรื่องราวความเสียหายให้บันทึกไว้เหมือนบรรดา “กูรู” ทั้งหลายที่ผมยกมาเป็นตัวอย่าง

           แม้แต่ สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นักวิชาการด้านกฎหมาย ในคราบของล็อบบี้ยิสต์ ก็เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาแล้ว  และทำได้ไม่แบบขายขี้หน้าพวก "กูรู" หรือ "กูรู้ แต่ ทำไม่เป็น" แบบพวก 8 คน ข้างบนนั้นมาแล้วด้วย

           เพราะฉะนั้น หากนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีข้อจำกัด หรือ ข้อด้อยที่ตรงไหน เมื่อเปรียบเทียบกับอดีตรัฐมนตรีคนก่อนๆ

           อาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำไป เพราะ รัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ย่อมจะรับผิดชอบต่อความต้องการ และความคาดหวังของประชาชน อย่างจริงใจ มากกว่ารัฐมนตรีที่มาจากการแต่งตั้งของเผด็จการ

           ขอเพียงแต่นำความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้ง

           ขอเพียงนำความทุกข์เข็ญของประชาชนเป็นเครื่องเตือนใจ

           ขอเพียงแต่ไม่ลืมที่มาของตนเอง

           ขอเพียงแต่มีความกล้าหาญและจริงใจที่จะทำเพื่อประชาชน

           ผมก็เชื่อว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี จะทำหน้าที่ได้ดีในทุกตำแหน่ง รวมทั้งรัฐมนตรีว่า การกระทรวงการคลัง ที่ทุกคนมองว่า “เป็นไม่ได้”

           แต่ผมเชื่อว่า “คุณทำได้”
 
ประดาบ
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 01-02-2008, 05:45 »


เอาเป็นว่าในรายชื่อทั้งหมดนี่ผม

เชื่อถือ ศุภชัย และโฆษิต มากกว่าคนอื่น..

ส่วนในด้านการทำงานลงมือก็ต้องคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ทีดี

มีการจัดลำดับงานเก่งๆ


สุรพงษ์ คงต้องอาศัยมืออาชีพช่วย ความรู้เฉพาะทางคงไม่ถึง
ส่วนเรื่องคนส่วนใหญ่ เป็นเรื่องพัฒนาคุณภาพประชากรจะดีกว่า
เสียงส่วนใหญ่ไม่ใช่ข้อตัดสินในกรณีนี้
สส.ไทยยังไม่มีใครเก่งด้านนี้สักเท่าไรเลย ที่เก่งๆนับหัวได้..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2008, 05:48 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #15 เมื่อ: 01-02-2008, 05:54 »

ผมเอามาลงเพราะมีประเด็นที่กลุ่มเชียร์ทักษิณโจมตี
คนอื่นๆ ที่เป็นมือเศรษฐกิจ รวมหลายคนในบทเดียว
จะจริงเท็จอย่างไรอย่างน้อยก็ได้เห็นหัวข้อที่ใช้โจมตี
ถ้าข้อไหนมีข้อมูลก็คงแย้งไปเป็นคนๆ ครับ

ส่วนที่เยินยอทักษิณเป็นเทวดาก็อ่านผ่านๆ ไปนะครับ
ผมเองก็ทนอ่านอยู่นานเหมือนกัน (สงสัยจะมีวางยา
สำหรับกลุ่ม AT ที่เข้าไปอ่านกระมัง  Very Happy)


...

บทความยาวมากๆ ไม่รู้จะเขียนทำไมให้ยืดยาวขนาดนี้
แต่ก็ดีที่ในอีกทางหนึ่งก็สรุปได้ว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง
ถ้าเข้ามานั่งในช่วงวิกฤติก็ไม่ใช่งานที่ง่ายๆ ขนาดคนที่
มีความรู้เฉพาะทางโดยตรงยังลำบาก

..สถานการณ์ตอนนี้น่าจะเสี่ยงเกิดวิกฤติไม่น้อย..
การเลือกหมอเลี๊ยบเป็น รมต.คลัง ก็คือ "วัดดวงล้วนๆ" 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2008, 05:56 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 01-02-2008, 05:59 »

ผมยังไม่มีความคิดเห็นครับ แต่ขอแหลมไว้ก่อน
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 01-02-2008, 06:01 »

ผมเอามาลงเพราะมีประเด็นที่กลุ่มเชียร์ทักษิณโจมตี
คนอื่นๆ ที่เป็นมือเศรษฐกิจ รวมหลายคนในบทเดียว
จะจริงเท็จอย่างไรอย่างน้อยก็ได้เห็นหัวข้อที่ใช้โจมตี
ถ้าข้อไหนมีข้อมูลก็คงแย้งไปเป็นคนๆ ครับ

ส่วนที่เยินยอทักษิณเป็นเทวดาก็อ่านผ่านๆ ไปนะครับ
ผมเองก็ทนอ่านอยู่นานเหมือนกัน (สงสัยจะมีวางยา
สำหรับกลุ่ม AT ที่เข้าไปอ่านกระมัง  Very Happy)


...

บทความยาวมากๆ ไม่รู้จะเขียนทำไมให้ยืดยาวขนาดนี้
แต่ก็ดีที่ในอีกทางหนึ่งก็สรุปได้ว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง
ถ้าเข้ามานั่งในช่วงวิกฤติก็ไม่ใช่งานที่ง่ายๆ ขนาดคนที่
มีความรู้เฉพาะทางโดยตรงยังลำบาก

..สถานการณ์ตอนนี้น่าจะเสี่ยงเกิดวิกฤติไม่น้อย..
การเลือกหมอเลี๊ยบเป็น รมต.คลัง ก็คือ "วัดดวงล้วนๆ" 

ผมว่าประดาบเป็นแค่สื่อ พีอาร์
สุรพงษ์คงไม่ถึงกับโง่
แต่ถ้าโกงต่อจากนี้คงคิดผิด เสียงเป็นล้านๆ ที่ไม่ต้องการคนโกง มองข้ามไม่ได้หรอก
จะหลอกให้ทำงานเสียภาษีให้ฟรีๆ ก็คงไม่มีใครยอม..

ไม่ถึงกับวัดดวง แต่จะต้องขยันตรวจสอบ จนกว่าระบบจะเดิน
บันทึกการเข้า

cafein
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 96



« ตอบ #18 เมื่อ: 01-02-2008, 06:24 »

รมต คลัง ต้องสายตรงคนทักษิณเท่านั้น ยิ่งกว่าแช่แป้ง
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #19 เมื่อ: 01-02-2008, 07:15 »

บทความยาวมากๆ ครับ ใช้วิธีโจมตีคนอื่นทั้งหมดที่มีชื่อเสียงทางเศรษฐกิจ
แล้วสรุปว่าหมอเลี๊ยบจะเป็น รมต.คลังได้ดี โดยมีทักษิณอยู่เบื้องหลัง 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ว่าด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
http://www.hi-thaksin.net/contentdetail.php?ParamID=77634
27/01/08 21:20

ในขณะที่ใครหลายคนตั้งคำถามว่า คนอย่าง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้อย่างไร ในเมื่อไม่มีประสบการณ์ด้านการเงินการคลัง มาก่อน

           ผมกลับตั้งคำถามกับใครหลายคนว่า ทำไมคนอย่าง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไม่ได้ ในเมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หลายคนในอดีต ไม่ได้มีคุณสมบัติดีเด่นกว่านพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี

           ผมตั้งคำถามกับใครหลายคนว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่อยากได้เป็นอย่างไร คำตอบโดยรวมๆ ก็คือว่า ต้องเป็นคนที่อยู่ในแวดวงการเงินการคลังการธนาคาร หรือ เป็นนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์

           ผมตั้งคำถามให้ใครบางคนตอบสเปกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ต้องการ และคาดหมาย คือ

           อดีตนายแบงก์ หัวหน้าดรีมทีมเศรษฐกิจ อย่าง นายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ ใช่หรือไม่ ?

           อดีตผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก อย่าง นายศุภชัย พานิชภักดิ์ ใช้ได้ไหม ?

           อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย อย่าง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ดีพอไหม ?

           อดีตประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพ อย่าง นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ จะถูกใจไหม ?

           อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อย่าง นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ไปรอดไหม ?

           อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อย่าง นายวีรพงษ์ รามางกูร เชื่อมั่นไหม ?

           อดีตประธานทีดีอาร์ไอ อย่าง นายฉลองภพ สุสังกรกาญจน์ อยากได้อีกสักรอบไหม ?

           อดีตรองนายกรัฐมนตรี อย่าง นายอำนวย วีรวรรณ ยังน่าสนใจไหม ?

           คนเหล่านี้เคยเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจในรัฐบาลที่ผ่านมา ครบถ้วนทุกคนแล้ว บ้างเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บ้างเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บ้างเป็นรัฐมนตรีอุตสาหกรรม บ้างเป็นรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ

           ยังมีอีกหลายชื่อ หลายคนที่ผมพอจะคิดออกและพยายามนึกถึงผลงานที่แต่ละท่านแต่ละคนฝากไว้ให้แก่ประเทศไทย หลังจากที่ท่านพ้นตำแหน่งไปแล้ว

           ไม่น่าเชื่อว่า แต่ละชื่อที่ผมนึกได้ ผมกลับนึกถึงผลงานที่แต่ละท่านทำไว้ไม่แม่นยำนัก เห็นภาพไม่แจ่มชัดนัก แต่ผมจำชื่อเสียงของท่านได้แม่นยำ ไม่รู้ลืม เหมือนกับว่าตัวตนของท่านยิ่งใหญ่กว่างานที่ทำไว้ เหมือนกับว่าผมก็เป็นคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อความคิด ติดยึดความเชื่อเช่นเดียวกับคนทั่วไปว่า เมื่อพูดถึงมืออาชีพด้านเศรษฐกิจ ที่พอจะมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ ก็อยู่ในแวดวงอันจำกัดเพียงไม่กี่ชื่อนี้เท่านั้น

           ความเชื่อเช่นนี้ติดตัวผมมานานแสนนาน นานจนเรียกได้ว่าตกเป็นเหยื่อของผู้ที่สร้างความเชื่อเช่นนี้ให้แก่ผม ได้อย่างหัวปักหัวปำ กว่าจะถอนตัวขึ้นมาเป็นตัวของตัวเองได้ ก็ต่อเมื่อได้มานั่งพิจารณาย้อนเหตุการณ์ว่าแต่ละท่านแต่ละคนทำอะไรไว้บ้างนั่นล่ะ ผมจึงได้คิดใหม่ว่า ชื่อเสียง และ ความเชื่อ ตลอดจน สถานะ “กูรู” ที่สังคมยกย่องมอบให้แต่ละคนแต่ละท่าน ไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันความสำเร็จ และผลงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแต่อย่างใด

           เหมือนกับโฆษณาชี้ชวนซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างๆ ที่จะพูดเร็วปรื๋อราวกับกลัวว่าประชาชนจะฟังทัน ในตอนท้ายของสปอตโฆษณาว่า “ผลประกอบการในอดีตไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต”

           เช่นเดียวกันกับชื่อและชั้นของมืออาชีพ หรือเทคโนแครต ที่สังคมเชื่อถือว่ามีความเหมาะสมและมีฝีมือฉกาจฉกรรจ์มากพอที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ ที่ผลงานในอดีต ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จของงานในอนาคต หากได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่า การกระทรวงการคลัง



'ประดาบ' น่าจะอ้างอิงถึงอดีตรัฐมนตรีว่าการคลังประมวล สภาวสุ อดีตนักการเมือง ผู้รับเหมาก่อสร้างใหญ่
ผู้สามารถ'จัดการ'สร้างศูนย์ประชุม'สิริกิตต์'สำเร็จได้เป็นที่ประชุม World Bank....มากกว่าจะอ้างถึงบุคคลเหล่านั้น.......

บุคคลเหล่านั้นมีพื้นฐานการศึกษา ประสบการณ์ในด้านเศรษฐกิจ การคลัง การเงินโดยตรงเป็นที่ยอมรับและอ้างถึง คิดถึงเกือบทุกครั้งที่มีการสรรหารัฐมนตรีว่าการคลัง....

ไม่ได้เป็น'ตัวเลือกตัวสุดท้าย' ที่ครวญว่า ไม่มีบุคคลภายนอกต้องการเป็นรัฐมนตรีว่าการคลังในรัฐบาลที่มีหัวหน้าพรรคพลังประชาชนเป็น'นายกรัฐมนตรี' จึงจำเป็นต้องเป็น'หมอเลี๊ยบ-หมอยา' ที่เคยเป็นรัฐมนตรีไอซีทีที่แก้ไข 'พรบ.'โทรคมนาคมให้ต่างด้าวถึอหุ้นได้ 49% จนทำให้'นายผู้ชาย'และครอบครัวขายหุ้นให้กองทุนต่างด้าว 73,000 ล้านบาทโดยไม่ต้องเสียภาษี.....

ในความเป็นจริง กองทุนต่างด้าวได้อ้างอิงในรายงานกองทุนในประเทศของเขาว่ากองทุนฯและนอมิถือหุ้นกว่า 90% Exclamation

ทำให้ดาวเทียม'ไทยคม'ตามสิทธิประโยชน์เป็นของไทยต้องตกเป็นของต่างด้าว,สิงคโปร์, ทำให้ประเทศไทยสูญเสียความมั่นคงด้านโทรคมนาคมและการสื่อสารฯ... Exclamation


ข้อกล่าวหาว่าได้แก้ไข พรบ.โทรคมนาคม เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของอดีตนายกฯและครอบครัวก็เป็น'ข้อหาร้ายแรง' ไม่โปร่งใสขาดคุณธรรม จริยธรรม ความรับผิดชอบต่อหน้าที่รัฐมนตรีที่จะต้องรักษาผลประโยชน์ของชาติ ไม่สมควรจะให้เป็นดำรงตำแหน่งใด ๆ ทั้งสิ้นในรัฐบาลทีสุจริต โปร่งใสแล้ว....

ถ้าจะคิดคล้อยตาม'ประดาบ'ของจำเลยคดีทุจริตต่าง ๆของคณะกรรมการ คตส. จำเลยหนีหมายจับของศาลยุติธรรมไทย และบริวารแล้ว...

คนอื่น ๆในพรรคพลังประชาชนยังมีคุณสมบัติเท่าเทียม และไม่มีมลทินข้อกล่าวเอื้อประโยชน์ให้อดีตนักธุรกิจการเมือง อดีตนายกฯรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล เช่น พวก นปก. ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ, จตุพร พรหมพันธุ์ และอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง....
หรือ สส.อิสาน ธีรชัย แสงแก้ว, นายศักดา กงเพชร และ นายไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ที่ใกล้ชิดกับอดีตนายกฯ/นายกฯตัวจริงที่ฮ่องกง....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2008, 07:20 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #20 เมื่อ: 01-02-2008, 07:19 »

อ่านแล้้วนึกถึงไอ้หมากระเป๋าของสาวแก่แถวบ้านผมเลย

เห่าทุกคนที่เข้าใกล้บ้านมัน แต่เห่าอยู่ในรั้วบ้าน

ตัวเล็กเท่าลูกแมว แต่ซ่าซะไม่มี Very Happy

บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
Albert Einsteins
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 146



« ตอบ #21 เมื่อ: 01-02-2008, 09:24 »



'ประดาบ' น่าจะอ้างอิงถึงอดีตรัฐมนตรีว่าการคลังประมวล สภาวสุ อดีตนักการเมือง ผู้รับเหมาก่อสร้างใหญ่
ผู้สามารถ'จัดการ'สร้างศูนย์ประชุม'สิริกิตต์'สำเร็จได้เป็นที่ประชุม World Bank....มากกว่าจะอ้างถึงบุคคลเหล่านั้น.......

บุคคลเหล่านั้นมีพื้นฐานการศึกษา ประสบการณ์ในด้านเศรษฐกิจ การคลัง การเงินโดยตรงเป็นที่ยอมรับและอ้างถึง คิดถึงเกือบทุกครั้งที่มีการสรรหารัฐมนตรีว่าการคลัง....

ไม่ได้เป็น'ตัวเลือกตัวสุดท้าย' ที่ครวญว่า ไม่มีบุคคลภายนอกต้องการเป็นรัฐมนตรีว่าการคลังในรัฐบาลที่มีหัวหน้าพรรคพลังประชาชนเป็น'นายกรัฐมนตรี' จึงจำเป็นต้องเป็น'หมอเลี๊ยบ-หมอยา' ที่เคยเป็นรัฐมนตรีไอซีทีที่แก้ไข 'พรบ.'โทรคมนาคมให้ต่างด้าวถึอหุ้นได้ 49% จนทำให้'นายผู้ชาย'และครอบครัวขายหุ้นให้กองทุนต่างด้าว 73,000 ล้านบาทโดยไม่ต้องเสียภาษี.....

ในความเป็นจริง กองทุนต่างด้าวได้อ้างอิงในรายงานกองทุนในประเทศของเขาว่ากองทุนฯและนอมิถือหุ้นกว่า 90% Exclamation

ทำให้ดาวเทียม'ไทยคม'ตามสิทธิประโยชน์เป็นของไทยต้องตกเป็นของต่างด้าว,สิงคโปร์, ทำให้ประเทศไทยสูญเสียความมั่นคงด้านโทรคมนาคมและการสื่อสารฯ... Exclamation


ข้อกล่าวหาว่าได้แก้ไข พรบ.โทรคมนาคม เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของอดีตนายกฯและครอบครัวก็เป็น'ข้อหาร้ายแรง' ไม่โปร่งใสขาดคุณธรรม จริยธรรม ความรับผิดชอบต่อหน้าที่รัฐมนตรีที่จะต้องรักษาผลประโยชน์ของชาติ ไม่สมควรจะให้เป็นดำรงตำแหน่งใด ๆ ทั้งสิ้นในรัฐบาลทีสุจริต โปร่งใสแล้ว....

ถ้าจะคิดคล้อยตาม'ประดาบ'ของจำเลยคดีทุจริตต่าง ๆของคณะกรรมการ คตส. จำเลยหนีหมายจับของศาลยุติธรรมไทย และบริวารแล้ว...

คนอื่น ๆในพรรคพลังประชาชนยังมีคุณสมบัติเท่าเทียม และไม่มีมลทินข้อกล่าวเอื้อประโยชน์ให้อดีตนักธุรกิจการเมือง อดีตนายกฯรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล เช่น พวก นปก. ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ, จตุพร พรหมพันธุ์ และอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง....
หรือ สส.อิสาน ธีรชัย แสงแก้ว, นายศักดา กงเพชร และ นายไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ที่ใกล้ชิดกับอดีตนายกฯ/นายกฯตัวจริงที่ฮ่องกง....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า 





ชอบใจจริงๆครับ
กำลังรอดูว่าใครจะเป็น รมว คลัง

ถ้าเป็นหมอเลี๊ยบ
ผมก็พูดได้เต็มปากว่า

พรรคพลังประชาชนโกหกประชาชน
ชอบอ้างว่ามีมือเศรษฐกิจเก่งๆมากมาย
สุดท้ายเป็นพรรคที่ไม่รับผิดชอบ เอาหมอรักษาความอ้วนมาเป็น รมว คลัง
แทนที่จะหาบุคคลที่มีพื้นฐานการศึกษา ประสบการณ์ในด้านเศรษฐกิจ การคลัง การเงินโดยตรง
เพิ่มความเสี่ยงให้ประเทศโดยไม่จำเป็น

ชอบด่าคนอื่นว่าการบริหา่รประเทศไม่ใช่ที่ทดลองการบริหาร ต้องการคนมีความรู้ความสามารถ
แล้วถ้าเอาหมอลดความอ้วนมาบริหารการคลัง
พรรคพลังประชาชนกำลังทำอะไรอยู่
พรรคนี้ชอบเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง




 
บันทึกการเข้า
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 01-02-2008, 09:37 »

สำหรับกรณีผลงานของ นายโฆษิต รมต.อุตสาหกรรม ที่ประดาบท้าให้เงิน 100 บาทเอาไว้
ผมเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่กระทู้หนึ่ง
...
แต่คงไม่สามารถไปขอรับเงินจากประดาบได้ เพราะชาตินี้คงไม่มีโอกาสรู้ว่าคนๆ นี้เป็นใคร
 

สั้นๆ ว่าเป็น "อีแอบหน้าเหลี่ยม"

ป.ล.ผมไม่ค่อยอยากจะให้น้ำหนักหรือราคากับ "ประดาบ" เท่าไหร่นัก เพราะรู้กันอยู่ว่า เว็บไฮ-ทักษิณเกิดมาเพื่ออะไร และทำเพื่ออะไร ใครๆ ก็รู้ว่าเว็บไซต์นี้ขาดความน่าเชื่อถือ เพียงแค่ทำตัวเป็น "ผงฟูให้คนตี" เท่านั้นแหละ
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

Albert Einsteins
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 146



« ตอบ #23 เมื่อ: 01-02-2008, 09:41 »

อีกอย่างวิธีการไม่เคยเปลี่ยน
ชอบป้ายสีผู้อื่นก่อนเสมอ
เล่นวิธีนี้มาตั้งแต่ปีสี่สอง ซื้อสื่อ คอลัมภ์นิสต์เขียนเชียร์ข่าว ป้ายสีฝ่ายตรงข้าม
วิธีการเลวๆ ไม่เคยเปลี่ยน
เป็นสันดานเลวๆ ตั้งแต่ทำธุรกิจ
ชอบทำบัตรสนเท่ห์ ป้ายสีข้าราชการที่ไม่ใช่พวกพ้อง
ล๊อบบี้พวกเดียวกันให้เป็นใหญ่เป็นโต จะได้วิ่งเต้นง่ายหน่อย
เลวจิงจิง


สำหรับผมก็ขอยกย่องนายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์
อาจเป็นคนเลวในสายตาคนอื่น
แต่คุณคือคนดีที่ทำเพื่อประเทศในสายตาของผม


 
บันทึกการเข้า
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: 01-02-2008, 09:52 »

อ่าน คห ของพี่  โรเบิรต 

ไม่มีคำวิจารย์

 
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
drop
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 737



« ตอบ #25 เมื่อ: 01-02-2008, 10:16 »

 จากการสัมภาษณ์ นพ.สุรพงศ์ สืบวงศ์ลี  ในรายการตาสว่างช่วงเลือกตั้ง  บอกมีนโยบายสร้างศูนย์แพทย์ตำบล 1600 กว่าแห่ง ทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ป่วยสะดวกที่จะพบแพทย์  และแก้ปัญหา ไม่ต้องไปหาแพทย์ตาม  รพ ขอต่าง  พูดเปรียบเทียบเหมือนไปซื้อของ (shoping around)
 – ประมาณนี้ นะ เพราะนานแล้ว

ทำยังกับ คน เป็น สินค้า  ๑ ผลิตภัณฑ์ ๑ ตำบล  แล้ว  ดูถูก  รากหญ้า ชาวชนบท  แบบไม่เห็นว่า คนมีคุณค่าเลย
เหมือนคนชนบท นี่ เอาอะไรไปให้ ก็เอาทั้งนั้น  sences เป็นอย่างนั้น 

ถ้าทุกจังหวัดจะมีศูนย์แพทยตำบล 20- 30 แห่ง -- แค่นี้  ก็จั๊ดง่าว แล้ว

แล้วแพทย์มาจากไหน  สงสัยต้อง import  มาจาก ลาว เขมร  เวียตนาม  ถึงจะสู้ราคาไหว
แพทยตาม์รพ.จังหวัด รพ.ชุมชน  60 -70 % จากรพ.รัฐ
อาจต้องผลัดกันไปประจำศูนย์แพทย์ตำบล

มันคิดอะไร  มองออกใหม่  ไม่ให้ด่า  เชี่ย  ไม่รู้จะพูดว่าไง 
 
จำนโยบาย  สปา  ได้มั๊ย  แล้วไง  เมีย  ออกมาตั้ง  โรงสปา  ฮ่าาาาาาาาาาา  ทุเรศ

เฮ้อ ไม่อยาก ด่า จริง ๆ  เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยย

ส่วน ประดาบ  หน้าตัวเมีย  หญิงแกร่ง คุณสดศรี  ด่า หน้าตัวเมีย  เพราะเป็น อีแอบ  จึงไม่มีเหตุผลต้องไปอ่านบทความมันว่า
พูดว่าอไร แล้ว แสดงความเห็น  เพราะในทาง วิชาการ  แล้ว คนแบบนี้ ไม่มีใคร  ให้ราคา

ชาวเสรีไทย เสียอีก เขียนน่าอ่านและ เป็นคนสมบูรณ์มากกว่า  ประดาบ หน้าตัวเมีย

-------------------------------------
ป.ล. เห็นด้วยกับ  ไอนสไตล์  ถ้าลงลึก ๆ เรื่อง วิกฤตเศรษบกิจ แล้ว ดูแนวทางแก้ปัยหาชาติ ที่ต้องเข้าห้อง ไอซียู แล้ว
ต้องยอมรับว่า  รักษามาได้ขนาดนั้น ก็เก่งมากแล้ว

แต่เพราะสื่อ..... ที่กระพือ จนหมดสภาพเลย

ขี้เกียจพูดอดีตแระ คิดว่า ทุกท่าน คงรู้

คนที่อยู่ในสถานการณ์เลวร้าย  แล้วแก้ปัญหาเท่าที่สภาวะตอนนั้นเอื้อ แล้วทำให้ดีที่สุดแล้ว  ก็ต้องเข้าใจ และยอมรับ

 
บันทึกการเข้า

A  Few  Good  Men

Downey: What did we do wrong? We did nothing wrong.

Dawson: Yeah, we did. We were supposed to fight for the people who couldn't fight for themselves. We were supposed to fight for Will.

************************
I  only  want  to  fight  for  my  country as  long as  I ' m alive. I  do nothing  wrong  .  The tyrant  is  still  the  tyrant, I  have  to  expel  them  in  every  step  of  life. When the  time  come,  the  tyrant   will  absolutely  extinguish. That  ‘ s  the   dharma  truth.
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #26 เมื่อ: 01-02-2008, 10:39 »

แปลกจริง ๆ ประดาบไม่เห็น บอกว่า หมอเลี๊ยบ ดีกว่า ทนง พิทยะ....

 
บันทึกการเข้า
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #27 เมื่อ: 01-02-2008, 10:42 »

ลืม ทนง พิทยะไปคนนึง เพ่

ใครเข้าเวปมันช่วย ไปตามให้หน่อย ว่ามันทำอะไรไว้กับ สถาบันการเงิน แล้ว มีคนหน้า ลูกเต๋าได้อะไรไป
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
Albert Einsteins
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 146



« ตอบ #28 เมื่อ: 01-02-2008, 10:46 »

อีกอย่างขอกล่าวหาไว้เลย

คิดว่าผู้ไร้บารมีนอกรัฐธรรมนูญนอกประเทศฯ ส่งคนไปนั่งกระทรวงการคลัง
คุมสำนวนจัดส่งให้ทนายชั่วคอยแก้ต่าง
คอยข่มขู่พยานที่เป็นข้าราชการ ซื้อเวลา

แมร่งโรคจิตโคดๆ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน มากกว่าความเสียหายของประเทศ
ถ้าความเชื่อมั่นคลอนแคลน แล้วเศรษฐกิจตกต่ำ
ขอให้รับรู้ไว้เลยเพราะพรรคพลังประชาชน นายหมักหมม นายเลี๊ยบ และ ผู้ไร้บารมีนอกรัฐธรรมนูญนอกประเทศฯ
อย่าไปโทษอย่างอื่น


 
บันทึกการเข้า
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: 01-02-2008, 10:56 »

แปลกจริง ๆ ประดาบไม่เห็น บอกว่า หมอเลี๊ยบ ดีกว่า ทนง พิทยะ....

 

บ้าจิจ๊ะ เด๋วเค้า งอลกัน ยิ่ง เคืองๆกันอยู่ นะ
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #30 เมื่อ: 01-02-2008, 11:14 »

ลองไล่เรียงกันมาตั้งแต่....

           1.อดีตนายแบงก์ที่ประสบความสำเร็จได้เป็นนายธนาคารยอดเยี่ยม อย่างนายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ หัวหน้าดรีมทีมเศรษฐกิจ ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศหลงเชื่อคำโฆษณากันเป็นตุเป็นตะว่า ต้องเป็นคนพวกนี้ล่ะ จึงจะกอบกู้ประเทศที่กำลังประสบวิกฤติต้มยำกุ้งได้ แต่เอาเข้าจริง ก็ได้เห็นกันถ้วนหน้าแล้วว่า นอกจากจะไม่ได้ช่วยบรรเทาพิษภัยของต้มยำกุ้ง ได้อย่างที่คุยโม้ไว้ แต่ยังไม่สามารถรับมือกับค่าเงินบาท ที่ร่วงลงมาจนถึง 55 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งผู้นำเข้า และผู้ส่งออก เจ๊งกันระเนระนาด ที่เคยเป็นหนี้ 100 ล้านบาท ก่อนดรีมทีมเศรษฐกิจของประชาธิปัตย์เข้ามา ก็กลายเป็น 200 ล้านบาททันที เมื่อดรีมทีมพ้นวาระจากไป เรื่องนี้ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เจ้าพ่อทีพีไอ ยืนยันได้ดีว่าหนี้แสนล้านบาท มาจากการบริหารงานของรัฐบาลไหน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชื่ออะไร

           นับจากหมดวาระรัฐบาลชวน หลีกภัย ไปพร้อมกับการถูกประชาชนจับได้ไล่ทันว่าดรีมทีมเศรษฐกิจ เป็นเพียงเรื่องโฆษณาชวนเชื่อ ไม่ใช่เรื่องจริงตามที่ประชาชนรอคอยและตั้งความหวัง กอบกู้เศรษฐกิจไม่ได้ นายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ ก็หนีหน้าหายไปจากแวดวงการเมือง และถูกลืมหายไปจากความทรงจำของประชาชนในเวลาอันรวดเร็ว

           อดีตนายแบงก์ยอดเยี่ยมอย่างที่ประชาชนเฝ้าหวังว่าจะเป็นผู้กอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของชาติ อย่างนายธารินทร์ พิสูจน์ฝีมือแล้วว่าแม้เขาจะไม่สามารถทำให้ทุกคนรวยเสมอกันได้ แต่สามารถทำให้ทุกคนจนเท่าเทียมกันได้ ทั้งเจ้านาย และ ลูกน้อง หลายบริษัท ต้องเปลี่ยนอาชีพจากพนักงานบริษัท มาเปิดท้ายขายของกันครึ่งค่อนประเทศ ซึ่งเป็นผลงานที่ดรีมทีมเศรษฐกิจทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ในยามคิดถึงกัน

           ไม่เพียงแต่กอบกู้วิกฤติไม่ได้เท่านั้น หากแต่ยังมีการสืบค้นลงลึกในเวลาต่อมาว่าวิกฤติต้มยำกุ้งที่เกิดจากประเทศไทย แล้วขยายผลทำให้ปวดแสบปวดร้อนไปหลายประเทศทั่วโลก เกิดจากการเปิดเสรีทางการเงิน หรือ BIBF ของนายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาลชวน 1 โดยไม่มีมาตรการรองรับผลกระทบ ส่งผลให้คนไทยเป็นลูกหนี้รายใหญ่ของโลก ใช้เงินมือเติบ ก่อหนี้ในอนาคต โดยไม่มีแผนการชำระหนี้ที่ดีพอ เพราะมาตรการทางการเงินของรัฐบาล ที่เสนอโดยมืออาชีพอย่างนายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ นั่นเอง

ไอ้ ประดาบ มันมั่ว เห็น ๆ ...สงสัย มันเอาไว้ หลอกควายแถวเว็ปนั้น.....มันไม่พูดว่า ใครเป็นคนลอยตัวค่าเงินบาท...มิน่า มันถึงไม่พูด ถึง ทนง พิทยะ กับ ดร.โกร่ง....
มันไม่ได้บอกว่า ไอ้ พวกนั้นมัน ทำต้มยำกุ้งไว้.....

ส่วนเรื่อง ใครเป็นคน พาประเทศไทย ออกจากวิกฤติต้มยำกุ้ง ....บังเอิญ ควายแถวนั้น มันดูตัวเลขเศรษฐกิจ ไม่เป็น......มัน ก็เลย หลอกไปเลย ว่าทักษิณ เป็นคนฟื้นเศรษฐกิจ
มันไม่ได้บอก ว่า หลัง เดือน มกราคม 41 ความเชื่อมัน ประเทศ ค่อย ๆ ดีขึ้น...เงินบาทเริ่ม แข็งค่า ขึ้น....เงินทุนเริ่มไหลเข้า......

รัฐบาลชวน 2  สามปี ครึ่ง เงินทุน ยังไหลเข้ามากกว่า รัฐบาลทักษิณ 6 ปี ซะอีก...หรือ ไอ้ ประดาบ จะเข้ามาเถียง ก็ได้ น๊ะ....อย่ามัว เขียน บทความอยู่ในรู แล้ว ไม่มาอธิบาย

แล้วที่ ธารินทร์ เค้าหายไป ก็ เพราะ เค้าสู้ เล่ห์ เหลี่ยม ชั่ว ๆ ของแก๊งค์ เหลี่ยมไม่ไหว....ก็ พวกมันเล่น เอาดีใส่ ตัว เอาชั่วใส่คนอื่นหมด... แก๊งเหลี่ยม ทำชั่วเอาไว้ สร้างความฉิบหาย เอาไว้...แต่ เสือก โฆษณา ป้ายสี เค้า จนเสียหาย....แล้ว ตอนนั้น คนเค้า ก็เชื่อมั้นซะด้วย.....

ส่วนไอ้ กฏหมาย 11 ฉบับ ที่ว่า มันขายชาติ....มันขายชาติ ตรงไหน...เห็นมีแต่ คนพูดกัน ไม่เห็นมีใครบอกซักคนว่า ขายชาติยังไง.....แล้ว ทักษิณ มันอยู่มาหกปี...ไม่เห็นมันจะมีทีท่าว่าจะยกเลิก....มิหนำซ้ำ มันยังแก้ ให้ขายชาติ หนักกว่าเดิมซะอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2008, 11:26 โดย 55555 » บันทึกการเข้า
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #31 เมื่อ: 01-02-2008, 12:18 »

เป็นการพูดเอาดีแต่ฝ่ายเดียว วิชาเอกของพวกนี้จริงๆๆนะ
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
jnaj1
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 170


« ตอบ #32 เมื่อ: 01-02-2008, 15:38 »

รมว. คลัง คุม กรมสรรพากร

ต้องเป็นคนสายตรง นายใหญ่ อยู่แล้ว



ไอ้คดีที่ค้างๆไว้ คือ คำตอบ
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #33 เมื่อ: 01-02-2008, 17:49 »

ทำไม ไม่ถามถึง ดร.สมคิด

ไม่เป็นไรหรอก อีกซักพัก สมัครต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว

ถึงวันนั้น ชนักจะปักหลังสมัคร แน่นอน

พวกเราก็ควรเก็บข้อมูล การบริหารงานของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เอาไว้ดูต่างหน้าบ้างละกัน
บันทึกการเข้า

ไม่อยากสมานฉันท์กับคนชั่ว
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 592


เตือนให้นึกถึง Icarus ผู้ไม่ประมาณตน


« ตอบ #34 เมื่อ: 01-02-2008, 18:20 »

ไอ้ ประดาบ มันมั่ว เห็น ๆ ...สงสัย มันเอาไว้ หลอกควายแถวเว็ปนั้น.....มันไม่พูดว่า ใครเป็นคนลอยตัวค่าเงินบาท...มิน่า มันถึงไม่พูด ถึง ทนง พิทยะ กับ ดร.โกร่ง....
มันไม่ได้บอกว่า ไอ้ พวกนั้นมัน ทำต้มยำกุ้งไว้.....

ส่วนเรื่อง ใครเป็นคน พาประเทศไทย ออกจากวิกฤติต้มยำกุ้ง ....บังเอิญ ควายแถวนั้น มันดูตัวเลขเศรษฐกิจ ไม่เป็น......มัน ก็เลย หลอกไปเลย ว่าทักษิณ เป็นคนฟื้นเศรษฐกิจ
มันไม่ได้บอก ว่า หลัง เดือน มกราคม 41 ความเชื่อมัน ประเทศ ค่อย ๆ ดีขึ้น...เงินบาทเริ่ม แข็งค่า ขึ้น....เงินทุนเริ่มไหลเข้า......

รัฐบาลชวน 2  สามปี ครึ่ง เงินทุน ยังไหลเข้ามากกว่า รัฐบาลทักษิณ 6 ปี ซะอีก...หรือ ไอ้ ประดาบ จะเข้ามาเถียง ก็ได้ น๊ะ....อย่ามัว เขียน บทความอยู่ในรู แล้ว ไม่มาอธิบาย

แล้วที่ ธารินทร์ เค้าหายไป ก็ เพราะ เค้าสู้ เล่ห์ เหลี่ยม ชั่ว ๆ ของแก๊งค์ เหลี่ยมไม่ไหว....ก็ พวกมันเล่น เอาดีใส่ ตัว เอาชั่วใส่คนอื่นหมด... แก๊งเหลี่ยม ทำชั่วเอาไว้ สร้างความฉิบหาย เอาไว้...แต่ เสือก โฆษณา ป้ายสี เค้า จนเสียหาย....แล้ว ตอนนั้น คนเค้า ก็เชื่อมั้นซะด้วย.....

ส่วนไอ้ กฏหมาย 11 ฉบับ ที่ว่า มันขายชาติ....มันขายชาติ ตรงไหน...เห็นมีแต่ คนพูดกัน ไม่เห็นมีใครบอกซักคนว่า ขายชาติยังไง.....แล้ว ทักษิณ มันอยู่มาหกปี...ไม่เห็นมันจะมีทีท่าว่าจะยกเลิก....มิหนำซ้ำ มันยังแก้ ให้ขายชาติ หนักกว่าเดิมซะอีก



บทความบ้าๆบอๆแบบนี้  ใช้เทคนิค เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น (โดยไม่มีข้อมูล support)
วิธีการแบบนี้  เป็นเครื่องมือหากินของไอ้หมักเลย

ผมก็ไม่แน่ใจในความสามารถในการวิเคราะห์ของ คนส่วนใหญ่  ในประเทศนี้เหมือนกัน
เห็นไอ้พรรคพลังประชาชั่วมันชอบใช้วิธีการ propaganda แบบนี้ตลอดเวลา

แสดงว่า วิธีนี้แหละ ได้ผลชะงัด  กับคนในประเทศนี้.......



บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #35 เมื่อ: 01-02-2008, 22:57 »

แปลกจริง ๆ ประดาบไม่เห็น บอกว่า หมอเลี๊ยบ ดีกว่า ทนง พิทยะ....

 


วันนี้'ประดาบ' คิดว่า'หมอเลี๋ยบ'ไม่ได้เชี่ยวชาญ'เศรษฐกิจ'มากกว่า 'ทนง ลำใย'
เพราะ'หมอเลี๊ยบ'ทำให้ทักษิณ ไม่ต้องเสียภาษีซื้อขายหุ้น 73,000 ล้านบาทเท่านั้น....
ในขณะที่'ทนง ลำใย'ทำให้ทักษิณไม่ต้องล้มละลายกับการ'ลดค่าเงินบาท'คราวนั้น
มี'แต้มต่อ'มากกว่านักธุรกิจอื่นๆ..........
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #36 เมื่อ: 02-02-2008, 00:07 »

ประเทศนี้ ต้องมาแอบๆ ซ่อนๆ บริหารประเทศ เห็นแล้วยิ่งอนาถ

ตกลงต่างชาติ หรือ พ่อค้านักธุรกิจ จะถามเรื่องการค้า มิต้องไปที่ทำเนียบฮ่องกงหรือไง

เป็นตัวบังคับบัญชาอยู่นอกประเทศแบบนี้...แค่นี้ก็ หวดกำไร สบายแฮ...

บันทึกการเข้า

แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #37 เมื่อ: 03-02-2008, 00:34 »

มีเรื่องจริงอยู่อย่างนึงคือว่า เรื่องกระทรวงการคลัง รมต ทำงานคนเดียวไม่ได้ แม้แต่อาจารย์ฉลองภพ ที่บอกว่าจะยกเลิกมาตรการ 30% แน่ๆ เจอพรีเซนเตชั่นของแบงค์ชาติเข้าไปยังเงียบเป็นเป่าสาก หงายเก๋งออกมา 

แต่ไม่แน่ หมอเลี๊ยบอาจจะทำได้ก็ได้ ยกเลิก 30% หน่ะ เพราะความระวังระไวมันต่างกัน อยากให้เงินไหลเข้าเย๊อะ เยอะ ผู้ส่งออกตายเรียบก็ช่างมัน มีเงินกู้ มีตังไปอุดปากชาวบ้านเป็นใช้ได้
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #38 เมื่อ: 03-02-2008, 05:32 »

มติชน ก็ลงบทสัมภาษณ์ โฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกฯ และ รมว.อุตสาหกรรม
ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาทำอะไรไปบ้าง

'ผมไม่ได้น้อยใจ แต่ก็อยากทำความเข้าใจ ผมเองก็ได้ตรวจตัวเองแล้วว่า ไม่ทำอะไรบ้าง ก็ทำเยอะ
แต่ที่ไม่ได้ทำอะไรเลย หรือทำน้อยมีอยู่ 2 เรื่องคือ การเมือง และพีอาร์ (ประชาสัมพันธ์)
ผมไม่มีผลงานใน 2 ด้านนี้ ก็โอเค ถ้าใครสนใจมิตินั้น ก็ยอมรับว่าไม่มีผลงาน'

สรุปว่าต้องทำเรื่องการเมือง และพีอาร์เยอะๆ จึงจะเป็นเทวดาเข้าตาของ ประดาบ 

http://www.matichon.co.th/news_title.php?id=1287

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
'โฆสิต' เปิดอกช้ำๆ อำลาเก้าอี้รัฐบาลขิงแก่ 'ผมเพิ่งรู้ว่า ถูกมองว่าเป็นคนไม่ทำงาน'
วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา 12:47:04 น.
     
'ผมเพิ่งจะรู้เมื่อเดือนกว่าๆ มานี่เองว่า ผมถูกมองว่าเป็นคนไม่ทำงาน ไม่มีผลงาน เป็นคนโง่ นั่งรอเวลาให้หมดวาระรัฐบาลเท่านั้น'

หมายเหตุ : เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
นัดสื่อมวลชนเลี้ยงอาหารกลางวันอำลาตำแหน่ง ที่โรงแรมสยามซิตี

'ผมเพิ่งจะรู้เมื่อเดือนกว่าๆ มานี่เองว่า ผมถูกมองว่าเป็นคนไม่ทำงาน ไม่มีผลงาน เป็นคนโง่ นั่งรอเวลาให้หมดวาระรัฐบาลเท่านั้น'

เป็นสิ่งที่ 'โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์' อยากจะชี้แจงก่อนอำลาตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ด้วยเหตุผลว่า 'ผมก็เป็นปุถุชนคนหนึ่ง ที่ไม่อยากจะถูกมองอย่างนั้น เพราะผมทำงาน ทำตามหน้าที่ เพียงแต่ไม่ได้ทำต่อหน้าใคร'

'โฆสิต' บอกว่า ในช่วงการทำงานที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นงานด้านการวางโครงสร้างพื้นฐาน เป็นนามธรรม โดยเฉพาะยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข
ที่เป็นการวางรากฐานพัฒนาชุมชนให้สามารถพึ่งพาตัวเองได้ เหมือนการสอนให้ตกปลา

'การสอนให้ตกปลา คือกระบวนการทำงาน แต่กลายเป็นว่า ใครสอนตกปลาคือคนไม่ทำงาน เป็นคนโง่ ซึ่งไทยไม่น่าจะคิดล้าหลังขนาดนั้น'
นายโฆสิตกล่าวด้วยความอัดอั้น

ตลอดเวลาการทำงาน 16 เดือนที่ผ่านมา 'โฆสิต' ยอมรับว่าอาจจะหายหน้าหายตาไปจากกระทรวงและทำเนียบโดยที่สื่อมวลชน
ไม่รู้ว่าไปไหน ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลให้คนจำนวนไม่น้อยคิดว่าไม่ทำการทำงานได้ แต่ที่หายไปก็เพราะตระเวนเดินทางไปต่างจังหวัด
แทบทุกจังหวัดเพื่อลงพื้นที่พบปะผู้นำชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน สำหรับการจัดทำยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข และเดินทางไปต่างประเทศ
เพื่อพบกับผู้บริหารบริษัทที่เป็นเป้าหมายในการดึงเข้ามาลงทุนในไทย เพราะการลงทุนเป็นเรื่องหลัก (Priority) แรกของรัฐบาลชุดนี้

'ผมไม่ได้น้อยใจ แต่ก็อยากทำความเข้าใจ ผมเองก็ได้ตรวจตัวเองแล้วว่า ไม่ทำอะไรบ้าง ก็ทำเยอะ แต่ที่ไม่ได้ทำอะไรเลย หรือทำน้อย
มีอยู่ 2 เรื่องคือ การเมือง และพีอาร์ (ประชาสัมพันธ์) ผมไม่มีผลงานใน 2 ด้านนี้ ก็โอเค ถ้าใครสนใจมิตินั้น ก็ยอมรับว่าไม่มีผลงาน'

สำหรับผลงานที่ทำมา เจ้าตัวบอกว่า ส่วนใหญ่เป็นงานที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งเปลี่ยนไปเรื่อย ที่เห็นได้ชัดคือ
การดูแลภาพรวมเศรษฐกิจ จนสามารถเติบโตได้ถึง 5% ในไตรมาสสุดท้าย เป็นประธานการเร่งรัดการใช้จ่าย การลงทุนจากต่างประเทศ
ซึ่งในช่วง 2 ปีก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามา แทบจะไม่มีการลงทุนสะสมอยู่เลย แต่ในปี 2550 มีเอกชนยื่นขอรับการลงทุนสูงสุดตั้งแต่ปี 2540
การแก้ปัญหามาบตาพุด ส่วนเรื่องนโยบายสำคัญคือการส่งเสริมอีโคคาร์ และเหล็กต้นน้ำคุณภาพสูง รวมถึงการเริ่มศึกษาเซาธ์เทิร์นซีบอร์ดอีกครั้ง

'สิ่งที่ยากมาก คือ การทำความเข้าใจกับคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทฤษฎีเยอะ ผมก็ไม่ใช่ขุนพลเศรษฐกิจ แต่ต้องเดินไปด้วย
ความเห็นชอบ แล้วก็ต้องมาดูภาพรวมแทนรัฐมนตรีคลังที่ลาออกไป (ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล) ส่วนงานไอซีทีนั้น ท่านนายกฯไม่ได้
เอ่ยขอให้ช่วย ท่านยื่นให้ผม ผมก็เรียนท่านว่าผมมีงาน ท่านก็รู้แต่บอกว่าภาระรัฐบาลจะหมดแล้ว ก็รับไป'

เมื่อถามว่าเคยท้อและคิดจะลาออกหรือไม่ อดีตรองนายกฯก็ยืนยันว่า 'ไม่มีความคิดแม้แต่น้อยว่าจะออก ยกเว้นว่านายกฯจะออก
เพราะผมมาช่วยท่าน ถ้ารัฐบาลจะทำงานต่ออีก 5 เดือน ผมก็จะทำ ถ้านายกฯยังอยู่'

สำหรับชีวิตหลังอำลาตำแหน่งนั้น ตั้งใจจะท่องเที่ยวสักระยะ และเขียนหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศจากประสบการณ์ทำงาน
ในตำแหน่งรองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หลังจากนั้นก็คงจะกลับไปสมัครทำงานที่เดิม (ธนาคารกรุงเทพ)

เมื่อถามว่าหากมีการทาบทามให้มารับตำแหน่งรัฐมนตรีอีกครั้ง คำตอบที่ได้คือ 'ผมอายุ 65 ปีแล้ว พอแล้ว..'

ไม่ใช่รังเกียจนะ แต่เป็นเรื่องของอายุ!!
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #39 เมื่อ: 03-02-2008, 11:40 »

ไอ้ ประดาบ มันมั่ว เห็น ๆ ...สงสัย มันเอาไว้ หลอกควายแถวเว็ปนั้น.....มันไม่พูดว่า ใครเป็นคนลอยตัวค่าเงินบาท...มิน่า มันถึงไม่พูด ถึง ทนง พิทยะ กับ ดร.โกร่ง....
มันไม่ได้บอกว่า ไอ้ พวกนั้นมัน ทำต้มยำกุ้งไว้.....

ส่วนเรื่อง ใครเป็นคน พาประเทศไทย ออกจากวิกฤติต้มยำกุ้ง ... บังเอิญ ควายแถวนั้น มันดูตัวเลขเศรษฐกิจ ไม่เป็น......มัน ก็เลย หลอกไปเลย ว่าทักษิณ เป็นคนฟื้นเศรษฐกิจ
'รากหญ้า' ดูตัวเลข อ่านตัวเลขเข้าใจ ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเปลี่ยนไป....
มันไม่ได้บอก ว่า หลัง เดือน มกราคม 41 ความเชื่อมัน ประเทศ ค่อย ๆ ดีขึ้น...เงินบาทเริ่ม แข็งค่า ขึ้น....เงินทุนเริ่มไหลเข้า......

รัฐบาลชวน 2  สามปี ครึ่ง เงินทุน ยังไหลเข้ามากกว่า รัฐบาลทักษิณ 6 ปี ซะอีก...หรือ ไอ้ ประดาบ จะเข้ามาเถียง ก็ได้ น๊ะ....อย่ามัว เขียน บทความอยู่ในรู แล้ว ไม่มาอธิบาย
รับบาล'ขิงแก่'เก่งกว่า 2 รัฐบาล อยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไร มีเงินไหล มีเงินทุนสำรองมากกว่า 2 รัฐบาลรวมกัน.....
ต่อไปนี้คนรักทักษิณที่ไม่ได้เป็น 'รากหญ้า' ไม่ได้เป็น'อเวไนยสัตว์' จะไม่กล้าอ้างเงินทุนสำรองฯอีกแล้ว....
แต่พวกที่เป็น'อเวไนยสัตว์' จะอ้างต่อไป......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

แล้วที่ ธารินทร์ เค้าหายไป ก็ เพราะ เค้าสู้ เล่ห์ เหลี่ยม ชั่ว ๆ ของแก๊งค์ เหลี่ยมไม่ไหว....ก็ พวกมันเล่น เอาดีใส่ ตัว เอาชั่วใส่คนอื่นหมด... แก๊งเหลี่ยม ทำชั่วเอาไว้ สร้างความฉิบหาย เอาไว้...แต่ เสือก โฆษณา ป้ายสี เค้า จนเสียหาย....แล้ว ตอนนั้น คนเค้า ก็เชื่อมั้นซะด้วย.....

ส่วนไอ้ กฏหมาย 11 ฉบับ ที่ว่า มันขายชาติ....มันขายชาติ ตรงไหน...เห็นมีแต่ คนพูดกัน ไม่เห็นมีใครบอกซักคนว่า ขายชาติยังไง..... แล้ว ทักษิณ มันอยู่มาหกปี...ไม่เห็นมันจะมีทีท่าว่าจะยกเลิก....มิหนำซ้ำ มันยังแก้ ให้ขายชาติ หนักกว่าเดิมซะอีก
รัฐบาลกลุ่มอำนาจเก่ายังต้องใช้กฏหมายขายชาติ 11 ฉบับ แล้วจะให้พวกเขา ยกเลิกได้อย่างไร....
คอยดูว่า 'หมัก เมถุน' ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้กล่าวหา..
เป็นคนพ่นน้ำลายผ่านหน้าจอทีวี จะกลืนน้ำลายตนเองไหม.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #40 เมื่อ: 03-02-2008, 11:48 »

พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคไทยรักไทย(ยุบพรรคแล้ว)กับพรรคพลังประชาชน
มีความเหมือนกันคือความเป็นพรรคการเมืองและนักการเมือง......

แต่รัฐบาลกลุ่มอำนาจเก่าที่มีอำนาจตลอดเวลา 5-6 ปี
ไม่สามารถนำนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ลงโทษด้วยกรณีทุจริต
ฉ้อราษฎร์บังหลวง ผลประโยชน์ทับซ้อน ได้เลย......
ต่างกับคมช./รัฐบาล'ขิงแก่' ใช้เวลาปีกว่า ๆ
ให้คณะกรรมการอิสระ เช่นคณะกรรมการ คตส. คณะกรรมการ ปปช.
ตรวจสอบ สอบสวนได้คดีความทุจริตมากมาย กำลังนำสู่ขบวนการศาลยุติธรรมไทย...

ดังนั้นนายกรัฐมนตรีคนใด รัฐบาลใด 'ขายชาติ' น่าจะเป็นที่รู้ ที่เข้าใจของคนมีสติปัญญา
วุฒิภาวะ ใช้หลักการ'กาลามสูตร'คิดอ่านด้วยตนเอง....
ไม่พึ่งพา'ใบบอก' อย่างคนรักทักษิณและบริวาร......


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #41 เมื่อ: 03-02-2008, 12:04 »

เรื่อง "พีอาร์" ผมเคยพูดคุยกับ "ผู้รู้" หลายคน

ก็ได้แต่ "ส่ายหน้า" ในการทำงานของ "วอร์รูมรัฐบาล"

งานที่ควรทำกลับไม่ทำ มุ่งเน้นแต่งานที่มีผลประโยชน์

แม้แต่ในห้วงเวลาสุดท้ายก่อนแยกย้ายลงจากอำนาจ

รัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์เชิงรุก เรียกประชุมกรรมการ

ปรากฎว่าไม่มีใครเข้าร่วมประชุม ล้วนแต่ส่ง "ตัวแทน" เข้าไปรับฟัง ท่านรัฐมนตรี "พล่าม"

แล้วการประชุมก็จบลงอย่างหงอย ๆ

นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ถ้าทำงานไม่เป็น หรือทำงานตามใบสั่งผู้มีอิทธิพลทางสื่อ

อย่าเข้าไปทำงานให้ประเทศชาติเสียโอกาส ความผิดพลาดนี้ต้งตามไปดูว่า

รมต. ที่ดูแล้เรื่องสื่อในรัฐบาลขิงแก่ เข้าไปในตำแหน่งนั้นได้ด้วยการผลักดันของใคร

ใช่ "สื่อจอมแบล็คเมล์" คนนั้นหรือไม่
บันทึกการเข้า

Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #42 เมื่อ: 03-02-2008, 23:36 »


เมื่อถามว่าหากมีการทาบทามให้มารับตำแหน่งรัฐมนตรีอีกครั้ง คำตอบที่ได้คือ 'ผมอายุ 65 ปีแล้ว พอแล้ว..'

ไม่ใช่รังเกียจนะ แต่เป็นเรื่องของอายุ!!


ฟังไม่ขึ้นครับ..

นายกหมากอายุปาเข้าไปตั้งเลขเจ็ดแล้ว

รังเกียจก็บอกมาเถอะ.. เช๊อะ Mr. Green
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
หน้า: [1]
    กระโดดไป: