ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 08:35
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เมื่อก่อนลิ่วล้อแม้วบอกไทยเหมือนพม่า วันนี้หมักเข้ามาเป็นนายกฯ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เมื่อก่อนลิ่วล้อแม้วบอกไทยเหมือนพม่า วันนี้หมักเข้ามาเป็นนายกฯ  (อ่าน 1108 ครั้ง)
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« เมื่อ: 30-01-2008, 19:00 »

ไทยเหมือนเขมร
ตรงที่ประเทศไทย 1 ประเทศ ปกครองโดยนายก 2 คน


 
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 30-01-2008, 19:04 »

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหมายเลข 1 ทำหน้าที่ขึ้นหิ้ง

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหมายเลข 2 ทำหน้าที่จัดตั้งรัฐบาล


 
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #2 เมื่อ: 30-01-2008, 19:29 »


อ๊ะ.. แบบนี๊ เราก็ต้องเรียกว่า..

นายกรัฐมนตรี  25.1
  กะ
นายกรัฐมนตรี  25.2 

 



เรียกรวมๆ..ก็
นายกหมักแม๊ว ...  นายกแม๊วหมัก
=
รัฐบาล M&M ..ช๊อตโกแล๊ต
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-01-2008, 19:35 โดย ลูกหินฮะ๛ » บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #3 เมื่อ: 30-01-2008, 20:04 »

อืม...

พอพูดแบบนี้ อยู่ๆ ก็นึกอยากรู้เรื่องราวความเป็นมาของเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยุคเขมรแดงขึ้นมาตะหงิดๆ (ตั้งแต่กระทู้โน้น "เหนื่อยใจกันบ้างไหมกับการถูกยัดเยียดให้เป็นชนชั้นกลาง" ละ) 

บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #4 เมื่อ: 30-01-2008, 20:06 »

เมื่อก่อนนั้น มีคำขวัญว่า "หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์"
เดี๋ยวนี้ มีคำขวัญใหม่ ว่า .. "หนึ่งสภา สองนายกฯ"   
...
บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #5 เมื่อ: 30-01-2008, 20:09 »

มีหน้าหมู แล้วมีหน้าเหลี่ยม โอ้ม่ายยยยยยยยยย555555
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 30-01-2008, 20:22 »

ถ้าเห็นว่า ไทย เหมือน เขมร
ดูรูปบุคคลนี้สิ การปกครองบ้านเราจะเหมือนมากๆ


บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #7 เมื่อ: 30-01-2008, 20:26 »

ถ้าเห็นว่า ไทย เหมือน เขมร
ดูรูปบุคคลนี้สิ การปกครองบ้านเราจะเหมือนมากๆ



พม่า ก็มี เนวิน 5555555
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 30-01-2008, 20:56 »

เหมือนพม่า บวก เขมร

เวลาถูกกล่าวหา ก็จะบอกว่า ถูกกลั่นแกล้ง อิจฉาละสิ

รักชาติกันหน่อย...ประมาณนี้
บันทึกการเข้า

พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #9 เมื่อ: 30-01-2008, 21:06 »

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000012504

อ้างถึง
กรุณาอย่าดันทุรัง
 
โดย วริษฐ์ ลิ้มทองกุล 30 มกราคม 2551 18:52 น.
 
 
       สัปดาห์ที่แล้ว วันที่ 23 มกราคม 2551 นายจอร์จ โซรอส (George Soros) พ่อมดทางด้านการเงินชื่อก้องของโลกเผยแพร่บทความวิพากษ์ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชื่อ “The worst market crisis in 60 years” หรือ “วิกฤตของตลาดที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 60 ปี” ออกสู่สายตาชาวโลก ผ่านทางหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์
       
        เนื้อหาในบทความชิ้นดังกล่าวของโซรอสมองไปที่วิกฤตฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาที่กำลังขยายตัวกลายเป็นวิกฤตใหญ่และกำลังจะก่อให้เกิดภาวะความตกต่ำของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยวิกฤตครั้งนี้โซรอสคาดการณ์ว่าจะเป็นวิกฤตครั้งที่หนักหนาที่สุดในรอบ 60 ปี หรืออีกนัยหนึ่งก็คือตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา ที่สำคัญครั้งนี้ด้วยปัจจัยความผันผวนหลายๆ ประการจะบีบให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก
       
       “ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในโลกพัฒนาแล้ว เวลานี้อย่างไรเสียก็คงเป็นสิ่งหลีกหนีไม่พ้น แต่สำหรับจีน, อินเดีย และผู้ผลิตน้ำมันบางประเทศ กลับกำลังอยู่ในสถานะที่สามารถสวนกระแสได้อย่างเข้มแข็ง ดังนั้น วิกฤตทางการเงินในปัจจุบันจึงไม่น่าจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก แต่น่าจะทำให้เกิดการปรับตัวกันอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจระดับโลกมากกว่า โดยที่สหรัฐฯ จะเสื่อมถอยลงโดยเปรียบเทียบ ส่วนจีนกับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ จะผงาดขึ้นมา
       
       “อันตรายนั้นอยู่ตรงที่ความตึงเครียดทางการเมืองต่างๆ ซึ่งตามมา รวมทั้งลัทธิการกีดกันการค้าในสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะก่อกวนเศรษฐกิจของโลก จนทำให้โลกจมดิ่งลงสู่ภาวะถดถอย หรือกระทั่งเลวร้ายกว่านั้น” โซรอส กล่าวไว้ในตอนท้ายของบทความ
       
       เมื่อได้ฟังคำทำนายของโซรอสแล้ว หลายคนหันหน้าไปหาหิ้งพระพนมมือและภาวนาว่า แม้ปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถดถอย แต่ก็ขอให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนและอินเดีย สองยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียช่วยกอบกู้หรืออย่างน้อยๆ ช่วยบรรเทาวิกฤตโลกครั้งนี้เสียหน่อย
       
       อย่างไรก็ตามการพนมมือและภาวนาดังกล่าวกลับถูกขัดคอโดย นายสตีเฟน โรช (Stephen Roach) นักเศรษฐศาสตร์ระดับกูรูของบริษัทมอร์แกน สแตนเลย์ ...
       
       โรชแย้งความเห็นของโซรอส โดยกล่าวว่า การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของประเทศจีนและอินเดียนั้นแม้ว่าจะเป็นการเจริญเติบโตที่รวดเร็วก็จริง แต่การไปตั้งความหวังว่า จีน และ อินเดีย จะสามารถเข้ามากอบกู้ภาวะตกต่ำของเศรษฐกิจโลกที่เกิดจากสหรัฐฯ นั้นถือเป็นเรื่องที่ “เพ้อฝัน” เกินไป
       
       ทั้งนี้เขาพิสูจน์คำพูดดังกล่าวให้เห็นผ่านสถิติง่ายๆ คือ ระดับการบริโภคของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ในปี 2550 นั้นสูงถึง 9.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เปรียบเทียบระดับการบริโภคของผู้บริโภคในจีนและอินเดียในช่วงระยะเวลาเดียวกันที่แม้ว่าจะมีจำนวนประชากรมากกว่าสหรัฐฯ หลายเท่า แต่กำลังการบริโภคของประชากรกลับอยู่ที่เพียงระดับ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และ 650,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับเท่านั้น เพราะฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ชาวจีนหรือชาวอินเดียจะช่วยชดเชยความเสียหายของเศรษฐกิจโลกที่เกิดจากความตกต่ำทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้
       
       มากกว่านั้น ในปัจจุบันเศรษฐกิจของจีนเองก็ยังอยู่ในสถานะที่พึ่งพาการส่งออกในระดับสูง กอปรกับภาวะการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่รวดเร็วเกินไปจนก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนและภาวะเงินเฟ้อ ดังนั้นส่วนตัวผมเองเห็นด้วยกับโรชที่ว่า การไปคาดหวังว่าจีนจะช่วยคนอื่นนั้นคงเป็นไปได้ยาก เพราะปัญหาภายในของจีนเองก็หนักหนาสาหัสอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
       
       กลับมาถึงบ้านเรากันบ้าง ......
       
       หลังจากที่พวกเราได้ยลโฉมท่านประธานสภาฯ ยงยุทธ ติยะไพรัช และ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวชไปแล้ว คิวต่อไปที่จะได้เห็นหน้าค่าตาก็คือ คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของคุณสมัคร สุนทรเวช ที่ถูกจัดสรรมาจากฮ่องกง โดยตำแหน่งรัฐมนตรีที่ถูกจับตามองมากที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นตำแหน่ง ขุนคลัง หรือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
       
        เป็นที่ทราบกันมาหลายเดือนแล้วว่า ถ้าพรรคพลังประชาชนได้เสียงข้างมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาล ประธานสภาฯ จะต้องชื่อ ยงยุทธ ติยะไพรัช และ นายกรัฐมนตรีจะต้องชื่อสมัคร สุนทรเวช อย่างไรก็ตามยังไม่มีใครทราบแน่นอนว่าตำแหน่งรัฐมนตรีต่างๆ นั้นจะมีการจัดสรรกันอย่างไร?
       
       ในส่วนของ ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้นมีการประกาศหยั่งเชิงกันตั้งแต่การเลือกตั้งเสร็จใหม่ๆ แล้วว่าอาจจะเป็น นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
       
        อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป กลับมีการยกเอา ‘เป้าหลอก’ ขึ้นมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและเพื่อลดกระแสแรงเสียดทานจากนักลงทุนและภาคธุรกิจที่แสดงความไม่เชื่อมั่นต่อ นพ.สุรพงษ์ โดยชื่อที่ถูกยกขึ้นมานั้นก็เป็นชื่อคุ้นๆ หูอย่างเช่น วีรพงษ์ รามางกูร, ทนง พิทยะ, สุชาติ ธาดาธำรงเวช เป็นต้น
       
        กระนั้นในสายตาของนักการเมืองระดับกูรูต่างอ่านขาดว่าผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาล ‘สมัคร 1’ ได้นั้นมีได้เพียงคนเดียว คือคนที่ชื่อ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี!
       
        ส่วนเหตุผลของการหาม นพ.สุรพงษ์ ขึ้นเก้าอี้ขุนคลังนั้นก็ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร ...
       
       ไม่ใช่เพราะว่าหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ ... ไม่ใช่เพราะไม่มีใครอยากรับเผือกร้อนบริหารเศรษฐกิจในปีที่เซียนเศรษฐกิจทั้งโลกเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นปีเผาจริงของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ... แล้วก็ยิ่งไม่ใช่อย่างที่ คอลัมนิสต์หลายๆ คนในหนังสือพิมพ์หลายๆ ฉบับเขียนไว้ว่า เพราะในอดีต ประเทศไทยเคยมีการนำเอาผู้รู้ทางด้านเศรษฐกิจมาบริหารเศรษฐกิจชาติหลายต่อหลายคนแล้วต่างก็ล้มเหลวหมด ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องลองหยิบเอา “นายแพทย์” บริหารเศรษฐกิจดูบ้าง
       
       เหตุผลที่แท้จริงก็คือ นพ.สุรพงษ์ คือสายตรงของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่ถูกวางตัวเอาไว้ว่าจะต้องเข้ามาแก้ปมปัญหาเกี่ยวกับ ‘ภาษี’ ที่ตระกูลชินวัตรติดบ่วงเป็นคดีความอยู่ และเหตุผลนี้เองก็เป็นเหตุผลเดียวกับการที่รองนายกรัฐมนตรีที่จะเข้ามาดูแลเรื่องการยุติธรรมต้องชื่อ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกวางตัวไว้ว่าจะต้องเข้ามาแก้ปมปัญหาเกี่ยวกับคดีความในศาล
       
       นี่แหละคือหน้าตา ครม.ที่เข้ามาแก้ไขปัญหาของทักษิณ มิใช่ ครม.ที่เข้ามาแก้ไขปัญหาของชาติของประชาชนชาวไทย!
       
       ในเรื่องของการหามเอา นพ.สุรพงษ์ ขึ้นเก้าอี้ รมว.คลัง พูดก็พูดนะครับ ยิ่งได้ฟังคำตะแบงของบรรดากระบอกเสียงของ ‘ระบอบทักษิณ’ มากเข้าๆ ผมก็ยิ่งรู้สึกคลื่นเหียนอาเจียน
       
       ไม่ใช่ว่าผมจะดูถูกสติปัญญาหรือความสามารถของ นพ.สุรพงษ์นะครับ แต่ในความเป็นจริง นพ.สุรพงษ์ ย่อมรู้อยู่แก่ใจและรู้ตัวเองว่าตัวเองมีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์เรื่องบริหารเศรษฐกิจในระดับมหภาคอะไรบ้าง? ไม่ใช่บอกว่าตัวเองเรียนจบเอ็มบีเอจากศศินทร์ ภรรยาเป็นผู้บริหารธุรกิจคลินิกลดความอ้วนแล้วจะสามารถเข้ามานั่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้
       
       พูดตามตรงนะครับ การเอา ‘หมอ’ มาบริหารเศรษฐกิจประเทศท่ามกลางวิกฤตโลก จะว่าไปมันน่าเศร้าสลดเสียยิ่งกว่าการเอา ‘หมอหมา’ มารักษาคนไข้อาการโคม่าเสียอีก.

ไม่เข้ากับกระทู้สักนิดเลยนะคะ แต่อยากให้อ่านเลยเอามาฝากไว้  เพราะถ้าเป็นอย่างที่เขาวิจารณ์ไว้ เราจะยิ่งกว่าเขมรอีกค่ะ 
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #10 เมื่อ: 30-01-2008, 21:15 »

Burmese Generals Probably Happy with Thailand’s New Government
By Kyaw Zwa Moe
January 29, 2008

Burma’s ruling generals in the isolated capital of Naypyidaw are probably smiling over the election of Thailand’s 25th prime minister on Monday.

The junta no doubt views the new prime minister, Samak Sundaravej, as a proxy for deposed Prime Minister Thaksin Sinawatra, as does most of the Thai public.

Thaksin, who makes many of the decisions for the newly formed government, was widely regarded as a Burma supporter who saw the country as a potential business partner.

...............


http://www.irrawaddy.org/article.php?art_id=10065

รู้สึกว่านายพลพม่าเค้าดีใจนะที่ไทยได้หมากเป็นนายกคนที่1 Laughing
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
หน้า: [1]
    กระโดดไป: