ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
26-04-2024, 14:42
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ==รัฐบาลพลังประชาชน เกิดง่ายแต่อยู่ไม่ง่าย== 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
==รัฐบาลพลังประชาชน เกิดง่ายแต่อยู่ไม่ง่าย==  (อ่าน 1620 ครั้ง)
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« เมื่อ: 28-01-2008, 13:49 »

จากหน้าการเมืองเดลินิวส์ครับ บทความเขียนก่อนวันเลือกนายกรัฐมนตรี
อ่านแล้วก็เห็นด้วยว่า คุณสมัครมาเป็นนายกฯ คราวนี้อยู่ลำบาก 

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=152764&NewsType=1&Template=1
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รัฐบาลพลังประชาชน เกิดง่ายแต่อยู่ไม่ง่าย
วันที่ 27 มกราคม 2551 เวลา 00:00 น.

แม้จะมีเสียงสนับสนุนของ ส.ส. ในสภาอย่างเหลือเฟือ 313 คน จนคล้ายกับว่า รัฐบาลพรรคพลังประชาชน
เป็นรัฐบาลอีกชุดหนึ่งที่น่าจะมีเสถียรภาพมั่นคง แต่พอกะเทาะเปลือกเข้าไปดูเนื้อในกลับไม่ได้เป็นดังที่คิด

เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 28 ม.ค. ซึ่งวางตัวนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค
พลังประชาชนเอาไว้อาจจะมีปัญหาแทรกซ้อน หรือเป็นเชื้อชนวนความขัดแย้งในอนาคต เพราะก่อนจะถึง
วันโหวตนายกรัฐมนตรี บรรดา ส.ส.ในพรรคพลังประชาชนก็ออกมาเรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรี โดยเฉพาะ
กลุ่ม ส.ส.อีสาน ซึ่งมีจำนวนมากถึง 110 คน

นายสมัคร ในฐานะหัวหน้าพรรคจะต้องปวดเศียรเวียนเกล้าต่อปัญหาการจัดสรรตำแหน่งให้ ส.ส. ทุกคน
เกิดความพึงพอใจด้วยข้อจำกัดสำคัญ 2 ประการ

ประการแรก พรรคพลังประชาชนได้ ส.ส.ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของ ส.ส.ทั้งสภา ทำให้ต้องไปง้อพรรคขนาดกลาง
และเล็กมาร่วมรัฐบาล จนกลายเป็นรัฐบาลผสม 6 พรรค ประเด็นปัญหามีอยู่ว่า หากพรรคการเมืองเหล่านี้
จับมือกันสลับขั้วไปอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ก็สามารถโค่นล้มรัฐบาลพรรคพลังประชาชนได้ทันที ด้วยเหตุนี้
พรรคพลังประชาชนในฐานะแกนนำรัฐบาล จะต้องเอาใจพรรคร่วมรัฐบาลเหล่านี้เป็นพิเศษ โดยเห็นจากการ
แบ่งโควตารัฐมนตรีให้กับพรรคร่วมรัฐบาลในอัตราสัดส่วนเก้าอี้รัฐมนตรี 1 คน ต่อ ส.ส. 5-6 คน ขณะที่พรรค
พลังประชาชนต้องยอมขาดทุน โดยกำหนดอัตราสัดส่วนเก้าอี้รัฐมนตรี 1 คนต่อ ส.ส. 9 คน

เมื่อพรรคพลังประชาชนยอมขาดทุนเพื่อเอาใจพรรคร่วมรัฐบาล ก็ทำให้เกิดปัญหาแรงกดดันภายในพรรค
จากการแย่งเก้าอี้กันเองตามเงื่อนไข “ของดีมีน้อย” โดย ส.ส.ภาคอีสานที่มีเสียงดังที่สุดได้รวมตัวกัน
ทวงสัญญาจากผู้บริหารพรรคพลังประชาชนที่เคยบอกว่า ในภาคอีสานหากจังหวัดใดได้ ส.ส.ยกจังหวัด
ก็จะได้เก้าอี้รัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง ปรากฏว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคพลังประชาชนชนะยกจังหวัด
ในหลายจังหวัด ยิ่งทำให้การจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีที่มีอยู่จำกัดเกิดความยุ่งยากมากขึ้น

นอกจากนี้ ส.ส.หลายคนที่มีความรู้ความสามารถไม่ถึงระดับ ต่างก็หวังจะได้เป็นรัฐมนตรีในรอบนี้ เนื่องจาก
 ตัวบุคลากรที่เคยเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งมีความรู้ความสามารถมากกว่าถูกตัดสิทธิทางการเมือง
มากถึง 111 คน จึงเป็นนาทีทองของ ส.ส.เหล่านี้จะได้เป็นรัฐมนตรี หากพลาดในรอบนี้ก็จะหมดโอกาส
ในรอบต่อ ๆ ไป จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มีการแย่งชิงเก้าอี้กันมากผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม ศูนย์อำนาจของพรรคพลังประชาชนได้ประเมินไว้ว่า หากการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีไม่ลงตัว
อาจจะกระทบกับการโหวตนายกรัฐมนตรี เพราะรัฐธรรมนูญให้เอกสิทธิ์ ส.ส.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
โดยไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามมติพรรค ดังนั้นจึงแก้ปัญหาด้วยการเลื่อนจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรค
พลังประชาชนออกไป รอให้ผ่านการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเสียก่อน เพื่อป้องกันปัญหา “งูเห่า” ภาค 2

ประการต่อมา นอกจากพรรคพลังประชาชนจะมีปัญหาจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลอื่น ๆ
ก็มีปัญหาไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติไทย พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา หรือแม้กระทั่งพรรคมัชฌิมาธิปไตย

แม้พรรคการเมืองเหล่านี้จะได้รับโควตารัฐมนตรีอย่างจุใจ แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความอยากของ ส.ส.ทุกคน
อีกทั้ง ส.ส.ส่วนใหญ่ประเมินว่า รัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้ไม่นาน และอาจจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ในเร็ว ๆ นี้
จึงจำเป็นต้องเข้าไปเป็นรัฐมนตรีเพื่อสะสมเสบียงกรังสำหรับการสู้ศึกรอบต่อไป หรือบางคนลงทุนไปแล้ว
และถูกหักหลัง โดยไม่ได้รับตำแหน่งใด ๆ ก็จะส่งลูกน้องออกมาขับไล่ ผู้บริหารของพรรคตัวเอง เพื่อสร้าง
แรงกดดันส่งผลกระทบไปถึงพรรคพลังประชาชน ให้หันกลับมาคิดพิจารณาจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีด้วยความรอบคอบ

ประการสุดท้าย แรงกดดันจากประชาชนรากหญ้าที่ตั้งความหวังไว้กับรัฐบาลชุดนี้มากมาย โดยเฉพาะช่วงหาเสียง
ที่มีการสัญญาจะดำเนินนโยบายต่าง ๆ เช่น การปลดหนี้ให้กับชาวรากหญ้าที่เป็นหนี้กองทุนหมู่บ้าน การฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ให้มีเงินทองไหลมาเทมา ซึ่งเป็นเรื่องยาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย การเก็บภาษีอาจจะต่ำกว่าเป้า
และท้ายสุดไม่มีเงินไปปลดหนี้กองทุนหมู่บ้าน

ภายหลังการตั้งรัฐบาลแล้วน่าจะเกิดภาพของชาวรากหญ้ามาปักหลักประท้วงหน้าทำเนียบเพื่อทวงสัญญาหรือเรียกร้อง
ให้รัฐบาลแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่หมักหมม มาตั้งแต่สมัย รัฐบาลฤาษีเลี้ยงเต่าของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์

ประกอบกับรัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถตอบคำถามประชาชนได้ถนัดปาก เพราะเคยหาเสียงว่าจะเข้ามากอบกู้เศรษฐกิจ
แต่จนป่านนี้ยังไม่สามารถหา “มืออาชีพ” มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง เท่ากับบอกให้รู้ว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีความพร้อม
เหมือนกับรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งชาวรากหญ้าเคยวาดหวังเอาไว้ คำสัญญาที่เคยให้ไว้จึงเป็นเพียง
คำหวานซึ่งหวังให้เกิดชัยชนะในการเลือกตั้งมากกว่าหวังให้เกิดผลในทางปฏิบัติ

นอกจากจะเผชิญแรงกดดันจากชาวรากหญ้าแล้ว ในขณะเดียวกันรัฐบาลพรรคพลังประชาชนยังต้องพบกับแรงกดดัน
จากชนชั้นกลางหรือคนกรุงเทพฯ ซึ่งประกาศตัวเป็นฝ่ายตรงข้าม ด้วยการลงคะแนนเลือก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มากถึง 27 คน

อย่าลืมว่าชนชั้นกลางเป็นกำลังหลักเมื่อครั้งที่เกิดการชุมนุมขับไล่รัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนเกือบเป็น
วิกฤติที่สุดของโลก สำหรับในครั้งนี้แม้พรรคพลังประชาชนจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคไทยรักไทยโดยนิตินัย
แต่ในทางพฤตินัยหรือในทางปฏิบัติแล้ว ชนชั้นกลางเชื่อว่า ยังมีความเกี่ยวข้องและมีเป้าหมายที่จะเปิดทางให้
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมามีอำนาจอีกครั้ง

การกลับมายังประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจเป็นเงื่อนไขสำคัญที่อาจทำให้การเผชิญหน้าระหว่าง
ชนชั้นกลางกับพรรคพลังประชาชน

ในเวลานั้นรัฐบาลพรรคพลังประชาชนจะถูกชนชั้นกลางเปิดเกมรุกไล่ ตั้งแต่เรื่องคุณสมบัติว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงใหญ่บางคน
 เคยถูกร้องเรียนเรื่องปลอมวุฒิการศึกษาและยังไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบให้เกิดความกระจ่างมาจนถึงบัดนี้ เรื่อยไปจนถึง
ผลสะเทือนจากการพิจารณาคดีเลือกตั้งของ กกต.ต่อบุคคลสำคัญในพรรคพลังประชาชน อาจถูกชนชั้นกลางนำมาขยายผล
ซ้ำเติมเพื่อให้เกิดความบอบช้ำมากที่สุด

จากเหตุผลข้างต้น แม้รัฐบาลชุดนี้จะเกิดง่าย แต่การดำรงอยู่ยาว ๆ กลับไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีเหตุปัจจัยต่าง ๆ
บั่นทอนอายุขัยมากมาย

ทั้งแรงกดดันภายในพรรคพลังประชาชนที่เป็นแกนนำรัฐบาล และแรงกดดันภายในพรรคร่วมรัฐบาล ที่อาจทำให้เกิดปัญหา “งูเห่า”
ผลที่ตามมาก็คือ ใคร มาเป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องคอยเอาใจ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เพื่อไม่ให้แตกแถวไปจับมือกับฝ่ายค้าน
หรือแรงกดดันภายนอกเนื่องจากรัฐบาลฤาษีเลี้ยงเต่าได้หมักหมมปัญหาต่าง ๆ ไว้พอสมควร โดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจ
หากชาวรากหญ้ารู้สึกอึดอัด กับสภาพข้าวยากหมากแพง เงินทองหาลำบาก แล้วไปร่วมผสมโรงกับชนชั้นกลาง ที่ไม่พอใจพรรคพลังประชาชนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ถึงวันนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้

ลาภที่นายสมัครได้รับเป็นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี จะเป็นทุกขลาภหรือไม่อย่างไร อีก 4-5 เดือนข้างหน้าเดี๋ยวก็รู้เอง.
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
chaturant
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 499



« ตอบ #1 เมื่อ: 28-01-2008, 15:48 »

เห็น ด้วยกับหัวข้อนี้ครับ ได้อ่านในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์เหมือนกัน  ยังไงคุณหมักก็อย่ามาทุจริต อย่ามาทำตัวเหมือนเก่าๆ และอยากให้โชว์วิสัยทัศน์  นี้อะไรเล่นไม่โชว์ความรู้ความสามารถให้คนในสภา อย่างนี้ใครจะยอมรับ
บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 28-01-2008, 15:51 »

เห็น ด้วยกับหัวข้อนี้ครับ ได้อ่านในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์เหมือนกัน  ยังไงคุณหมักก็อย่ามาทุจริต อย่ามาทำตัวเหมือนเก่าๆ และอยากให้โชว์วิสัยทัศน์  นี้อะไรเล่นไม่โชว์ความรู้ความสามารถให้คนในสภา อย่างนี้ใครจะยอมรับ

แกโชว์ความปากxมา เป็นอย่างเดียวครับ

สมองหมา ปัญญาควาย ก็เงี้ย
 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 28-01-2008, 15:58 »

ถ้าสมัครหลบสื่อเก่งๆเหมือนตอนเป็นผู้ว่ากทม

อาจอยู่ได้นานครับ

แต่ก็ไม่รู้จะตบะแตกเมื่อไหร่

 Wink
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 28-01-2008, 19:26 »

ปากมันต้องพาจนอยู่แล้วสำหรับคนอย่างสมัคร

ผมเห็นด้วยกับบทความในกระทู้นี้นะครับ รัฐบาลนี้ไม่มีทางอยู่ครบวาระแน่นอนด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #5 เมื่อ: 28-01-2008, 19:34 »

*  ไม่คิดว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้นานหรอกค่ะ ....

    คิดว่า .... พอถึงช่วงเวลาหนึ่ง    นายกหุ่นกระบอก   ก็คงหมดค่า   

    เพราะ  แลกเปลี่ยน ~ ตอบแทน  กันจบแล้ว

    เดาใจ  ลุงหมัก ...  เล่น ๆ ว่าคงพอจะรับรู้เรื่องนี้อยู่ในใจลึก ๆ

    ในช่วงเวลาที่เป็นก็คงต้องทำตามสัญญาแลกเปลี่ยนที่ประกาศเอาไว้ว่า  คือ  นอมินี

    ส่วนเรื่อง  ....  พรรคตัวเสียบ  ก็คงช่วยอะไรไม่ได้   

    หมูไป  ไก่มา   ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร  ....  คำพูด  สัจจะ  ไม่มีในหมู่โจรและนักการเมือง  !!!
บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #6 เมื่อ: 28-01-2008, 20:10 »

บทความโดย คุณราวี เวียงพยัคฆ์ ก็วิเคราะห์ไปในทางเดียวกันนะครับ
ที่ผมเห็นด้วยอย่างเด่นชัดก็คือ คุณสมัครไม่มีอำนาจในการเลือกรัฐมนตรี
แต่ใครอยากได้ตำแหน่งอะไรก็ไปขอกันที่ฮ่องกง

..รสชาติแบบนี้คุณสมัครจะทนนั่งเป็นผู้นำกำมะลอไปได้นานแค่ไหน..

มีทิ้งท้ายให้ประชาธิปัตย์ว่าจะตรวจสอบคนอื่น ก็ต้องเข้มงวดตัวเองก่อน
โดยอ้างอิงกรณีการบริหาร กทม. ที่ ปชป. กำลังมีอำนาจบริหารงานอยู่
ผมก็เห็นด้วยว่า ปชป. ต้องรักษาตัวให้ดีๆ .. ตอนนี้ได้เวลาตุนคะแนน

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000011450
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หวังว่าประชาธิปัตย์จะตรวจสอบให้ดี
โดย ราวี เวียงพยัคฆ์    28 มกราคม 2551 16:55 น.

       ป่านนี้นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน น่าจะกำลังครึ้มอกครึ้มใจอยู่กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ที่ได้มาอย่างไม่คาดฝัน ทั้งที่ฝันมานานตั้งแต่ที่แยกตัวออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ จัดตั้งพรรคประชากรไทย
เอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ พรรคที่ให้กำเนิดชีวิตทางการเมืองของเขาอย่างถล่มทลายมาแล้ว
       
        การได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นั่นคิดว่าน่าจะเป็นงานสุดท้ายในชีวิตทางการเมืองของเขา
แต่ที่ไหนได้ บุญพาวาสนาส่งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มองเห็นความเหมาะสมที่จะให้ทำงานแทนเขา จึงได้ชักชวน
ให้มาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน
       
        ได้เสียงข้างมาก ได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมความมุ่งมาดปรารถนา
       
        นับจากนี้ไปจะเป็นงานค่อนข้างยุ่งยากของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศไทย เนื่องจาก
       
        1. พรรคพลังประชาชน มิใช่พรรคที่นายสมัคร สุนทรเวช ลงทุนลงแรงก่อตั้งอย่างที่เขาเคยทำมาแล้วในอดีตคือ
พรรคประชากรไทย นายสมัคร สุนทรเวช เป็นเพียงแขกรับเชิญให้มาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเท่านั้นเอง เมื่อใดที่สมาชิก
พรรคพลังประชาชนโหวตไม่เอานายสมัคร สุนทรเวช นายสมัคร สุนทรเวช ก็จะรู้ว่า ตัวเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีอยู่ในพรรค
ไม่มีสมาชิกพรรคยืนเคียงข้างเขาแม้แต่น้อย
       
        ต่างไปจากสมัยที่เขาเป็นหัวหน้าพรรคประชากรไทย เขาคือ ธงนำของพรรค
       
        2. นายสมัคร สุนทรเวช ย่อมแตกต่างไปจากคนอื่นตรงที่เขาเป็นตัวของเขาเอง ทุกวันนี้อาจจะสงบปากสงบคำ
สงบจิต สงบใจ เพื่อให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตามคำชี้แนะของนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี แต่เมื่อเขาได้ตำแหน่งแล้ว
และเมื่อเขาเป็นตัวของตัวเองขึ้นมา ใครก็หยุดเขาไม่ได้
       
        เขาจะอดรนทนสงบเสงี่ยมได้นานสักแค่ไหนกันเชียว
        เว้นเสียแต่นายสมัคร สุนทรเวช คนเก่าคนเดิมตายไปแล้วเท่านั้นเอง
        เป็นนายสมัคร สุนทรเวช คนใหม่ ที่สงบเสงี่ยมเจียมตัว บอกได้ ใช้ฟัง
       
        3. พรรคพลังประชาชนได้เสียงข้างมาก แต่เมื่อเทียบสัดส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีที่พรรคพลังประชาชนได้รับคือ 9 ต่อ 1
ต่างไปจากพรรคชาติไทย ต่างไปจากพรรคเพื่อแผ่นดิน ต่างไปจากพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา
       
        สมาชิกพรรคพลังประชาชนจะอดทนได้สักแค่ไหนกับตำแหน่งที่ได้รับ แม้ว่าอาจจะให้ตำแหน่งอื่นทดแทน เช่น
เลขาฯ ผู้ช่วยเลขาฯ แต่พรรคที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล จะต้องยอมพรรคการเมืองเล็กๆ อื่นๆ เช่น พรรคชาติไทย
พรรคเพื่อแผ่นดินไทย พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาไปได้นานสักแค่ไหนกันเชียว
       
        4. ในพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ต่างก็รู้ว่านายที่บงการพรรคคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเห็นได้จาก
ใครที่อยากลงสมัครรับเลือกตั้งก็ดี ใครที่อยากจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีก็ดี จะติดต่อโดยตรงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
       
        ไม่ได้มาเอ่ยปากขอกับนายสมัคร สุนทรเวช
        เรื่องอย่างนี้นายสมัคร สุนทรเวช จะทนได้สักแค่ไหน
        เรื่องอย่างนี้ภายในพรรคร่วมรัฐบาลจะมองหน้านายสมัคร สุนทรเวช อย่างไร?
       
        5. ปัญหาคดีความที่ยังคาราคาซังอยู่ ไม่ว่าจะเป็นนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง
ถ้าหากนายยงยุทธ ติยะไพรัช ได้ใบแดงจะกระทบกระเทือนพรรคหรือไม่ เพราะเขาคือรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน
       
        ตัวนายกรัฐมนตรีคือ นายสมัคร สุนทรเวช เอง ก็มีปัญหากรณีซื้อรถและเรือดับเพลิงก่อนที่จะพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการ
กรุงเทพมหานครไม่กี่ชั่วโมง เป็นกรณีที่ คตส.ตรวจสอบและชี้มูลความผิดอยู่
       
        หาก ป.ป.ช.เห็นว่าเขาผิด และสั่งเสนออัยการสั่งฟ้อง เขายังจะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่
       
        นี้ล้วนแต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวพันกับอนาคตของประเทศชาติ ถ้าหากพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลายที่รวมเสียงกันได้เกินครึ่งหนึ่ง
ของสภาฯ คิดถึงอนาคตของประเทศชาติ ปัญหาเหล่านี้ก็จะไม่เกิด และจะต้องหาทางออกที่ดีกว่านี้ เป็นต้นว่า คัดสรรหาคน
ที่เหมาะสมที่ไม่มีปัญหาเหล่านี้เข้ามารับหน้าที่
       
        แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะนี่คือชะตากรรมของประเทศ

        เราก็ได้แต่หวังว่า พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านพรรคเดียวที่เหลืออยู่จะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มแข็ง จริงจัง
       
        ที่สำคัญพรรคประชาธิปัตย์จะต้องทำให้เห็นว่า แตกต่างไปจากพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลายขณะนี้ เป็นต้น จะต้องคำนึงถึง
ผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ มิใช่ พูดเอาดีแต่ตัว เช่น ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่บริสุทธิ์ที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์
(ทำยังกับว่าบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่พรรคเดียว) หรือพูดถึงรัฐมนตรีที่เข้ามาบริหารประเทศจะต้องซื่อสัตย์ เป็นคนดีให้สังคมยอมรับได้
       
        เรียกร้องคนอื่นเขาแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำเป็นแบบอย่างให้เห็น

        ไม่ต้องดูอะไรอื่น มองไปที่ กทม.หน่วยงานแห่งเดียวที่พรรคประชาธิปัตย์มีอำนาจอยู่ในขณะนี้ เราได้พูดถึงข้าราชการชั่ว
คนหนึ่งมีเมีย 3-4 คนในหน่วยงานนี้ และส่งเสริมให้ได้ดิบได้ดี ข้ามหัวข้าราชการคนอื่น ข้าราชการ กทม.เองก็พูด สมาชิกสภา
กรุงเทพมหานครเองก็พูด แต่ปรากฏว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ทำเป็นโง่อยู่คนเดียว ไม่รู้ว่า
ข้าราชการชั่วคนนี้เป็นใคร
       
        ทั้งที่คนเขารู้กันทั่วเสาชิงช้า
       
        และทั้งที่การปกป้องคนชั่วนั้นเท่ากับร่วมกันเป็นคนชั่วด้วย แต่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ในฐานะรองหัวหน้าพรรคกลับทำเฉย
       
        การทำเฉยเช่นนี้จะยังความเสียหายให้เกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
       
        อย่างน้อยที่ประกาศว่าจะตรวจสอบคนอื่นเขา ก็ต้องเข้มงวดตัวเองก่อน
       
        เว้นแต่คิดจะสนับสนุนคนชั่ว คนเลว ก็ทำไปไม่ว่ากัน
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ปลัดแรมโบ้
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 19



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 29-01-2008, 05:16 »

   ผู้ที่รับวิบากกรรมไม่ใช่สมัคร แต่เป็นประชาชน
บันทึกการเข้า

อำนาจอาจสยบทั่วหล้า แต่ไม่อาจสยบคนกล้าได้
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #8 เมื่อ: 29-01-2008, 06:47 »

*  ไม่คิดว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้นานหรอกค่ะ ....

    คิดว่า .... พอถึงช่วงเวลาหนึ่ง    นายกหุ่นกระบอก   ก็คงหมดค่า   

    เพราะ  แลกเปลี่ยน ~ ตอบแทน  กันจบแล้ว

    เดาใจ  ลุงหมัก ...  เล่น ๆ ว่าคงพอจะรับรู้เรื่องนี้อยู่ในใจลึก ๆ

    ในช่วงเวลาที่เป็นก็คงต้องทำตามสัญญาแลกเปลี่ยนที่ประกาศเอาไว้ว่า  คือ  นอมินี

    ส่วนเรื่อง  ....  พรรคตัวเสียบ  ก็คงช่วยอะไรไม่ได้   

    หมูไป  ไก่มา   ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร  ....  คำพูด  สัจจะ  ไม่มีในหมู่โจรและนักการเมือง  !!!




'หมัก เมถุน' จะพ้นตำแหน่ง'นายกรัฐมนตรี' ไม่ใช่'รูทวาร' หรือ 'เสพเมถุน'หรอกครับ
แต่ขึ้นอยู่ว่าจะ'รับใช้'อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทยที่ถูก'ยุบพรรค'ได้'เสมอต้นเสมอปลาย' และ ไม่'ลามปาม'เท่านั้นแหละ......


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #9 เมื่อ: 29-01-2008, 06:59 »



'หมัก เมถุน' จะพ้นตำแหน่ง'นายกรัฐมนตรี' ไม่ใช่'รูทวาร' หรือ 'เสพเมถุน'หรอกครับ
แต่ขึ้นอยู่ว่าจะ'รับใช้'อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทยที่ถูก'ยุบพรรค'ได้'เสมอต้นเสมอปลาย' และ ไม่'ลามปาม'เท่านั้นแหละ......




นี่แหละครับ สำคัญมาก
แค่การเมืองระดับนายกเทศมนตรีแถวบ้านผมน่ะ ครั้งนึง คนชื่อ ต โดนอะไรซักอย่างนี่แหละ ลงสมัครไม่ได้ ก็เลยส่งนอมินีชื่อ ส ลงแทน
พอคนชื่อ ส เลยได้เป็นปุ๊บ
ไอ้ ต ก็พยายามจะเชิดอยู่นั่น

เอาไปเอามาคนชื่อ ส เกิดสปิริต ไม่อยากเป็นหุ่นเชิด ก็เลยโดนนาย ต ปั้นหลักฐานเท็จ ส่งทางการ แล้วก็สำเร็จซะด้วย

สรุป เลือกตั้งใหม่ นาย ต ลงเอง
แต่คนเค้ารู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองถึงพฤติกรรมของนาย ต

ตำแหน่งนายกเทศมนตรีเลยตกไปอยู่กะคู่แข่งอีกฝั่งซะ...ชื่อนัง ร อย่างเซอร์ไพรส์

กลับมาทางลุงสมัคร
ซึ่งครั้งนี้ แกเป็นหัวหน้าพรรคที่สบายมากๆเลย
ไม่ต้องคุมลูกน้องเอง
ไม่ต้องปวดหัวเวลาลูกน้องแตกแถว เพราะมีผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญคอยเสี้ยมคอยสอนลูกน้องให้

และเรื่องที่สมัครจะลามปาม หน พรรคตัวจริงนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้มั้ย ... อาจมีครับ แต่น้อยสุดๆ..
บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 29-01-2008, 07:10 »

หมาเห็นขี้ กินทุกตัว
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #11 เมื่อ: 29-01-2008, 08:04 »



http://www.opapatikamovie.com/

เห็นแซวเรื่องการเกิดกัน
หลังจากแซวเรื่องสัมภเวสีมามากมาย ขอติดเทรนกระแสหนังโอปปาติกหน่อยละกันครับ

"สัมภเวสี" ที่ว่า คือพวกที่ต้องแสวงหาพ่อแม่หรือแสวงหาที่เกิดนั้นพวกเราที่เป็นปุถุชนก็เป็น "สัมภเวสี" ด้วยกันทั้งนั้นเพราะยังไม่นิพพาน ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดหรือตายแล้วต้องเกิด หรือแสวงหาที่เกิดกันทุกคน..... แต่ที่บอกว่าเป็นวิญญาณที่เร่ร่อนยังหาที่เกิดไม่ได้นั้นและยังไม่เกิดนั้น...ไม่ถูกต้องตามพระอภิธรรมครับ... เพราะในพระอภิธรรมบอกว่า เวลาสัตว์ที่อยู่ใน 31 ภพภูมินั้นกำลังตายนั้น "จุติจิต" คือจิตขณะที่กำลังตายจะเกิดขึ้น....และเกิดขึ้น"ขณะ"เดียวเท่านั้น.... "ปฏิสนธิจิต" ก็จะเกิดต่อทันทีไม่มีจิตดวงใดมาคั่น....และเมื่อเกิด "ปฏิสนธิจิต" แล้วก็คือเกิดในภพใหม่แล้ว...คือ "จุติจิต" เกิด "ปฏิสนธิจิต" ต้องเกิดต่อทันที....ยกเว้นพระอรหันต์ที่ไม่มี "ปฏิสนธิจิต" เกิดต่อเพราะท่านไม่ต้องมาเกิดอีกแล้ว.......ดังนั้นที่บอกว่าตายแล้วยังไม่ไปเกิดนั้นไม่ถูกต้องครับ ส่วนที่บอกว่าเป็นวิญญาณหรือมีแต่วิญญาณเร่ร่อนนั้นก็ไม่ถูกอีกเพราะที่พูดถึงกันนี้คือ กามภูมิ คือ อบายภูมิ 4 มนุษย์ 1 และ เทวดาอีก 6 กามภูมินี้เป็นภูมิที่มีขันธ์ 5 ครบ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่มีภูมิไหนที่ไม่มีรูปขันธ์ ดังนั้นที่บอกว่ามีแต่วิญญาณนั้นไม่ถูกต้องส่วนภูมิที่ไม่มีรูปขันธ์นั้นมีครับคือ "อรูปภูมิ" เป็นภูมิที่มีแค่ 4 ขันธ์ คือเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (สังขารขันธ์นั้นพระองค์หมายถึง เจตสิก ที่ปรุงแต่งจิตครับซึ่งเป็นนาม ไม่ใช่รูป) ดังนั้นการที่บอกว่ามีแต่วิญญาณเร่ร่อนและยังไม่เกิดนั้นก็ไม่ถูกต้อง......ที่ถูกคือ (กามภูมิปุถุชน) ตายแล้วต้องเกิดทันทีไม่มีระหว่างคั่น.....คำว่า "สัมภเวสี" นั้นหมายถึงเราทุกคนที่เป็นปุถุชนที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดกันอยู่.....ไม่ใช่ผีหรือวิญญาณเร่ร่อนอย่างที่เข้าใจกัน.

ญาติที่ไม่ห่างไกลของสัมภเวสีคือ " โอปปาติก" บางคนก็บอกว่าเป็นพวกเทวดาเป็นผีหรือเปรตหรืออสูรกายที่ไม่ใช่มนุษย์ ที่จริงตามนัยแห่ง พระอภิธรรมเป็นชื่อแห่งกำเนิด 4 คือ ที่ที่สัตว์จะอาศัยเกิด มี4 คือ

1) ชลาพุชกำเนิด คือพวกที่อาศัยเกิดในท้องมารดาแล้วคลอดมาเป็นตัวเลย

2) อัณฑชกำเนิด คือ พวกที่อาศัยท้องมารดาเหมือนกันแต่ออกมาเป็นฟองไข่ไม่ได้ออกมาเป็นตัว

3) สังเสทชกำเนิด คือ ไม่ได้อาศัยเกิดจากท้องมารดา แต่อาศัยเกิดจากต้นไม้ดอกไม้ โลหิต หรือที่เปียกชื้น เกิดมาก็เล็กเป็นทารก แล้วจึงค่อยๆเติบโตขึ้นมาเช่นนาง จิญจมานวิกา เกิดจากต้นมะขาม นางปทุมวดีเกิดจากดอกบัวและโอรสของนางปทุมวดีรวม 499 องค์ เกิดจากโลหิตเป็นต้น

4) โอปปาติกกำเนิด ไม่ได้อาศัยเกิดจากท้องมารดา ไม่ได้อาศัยสิ่งใดเกิด แต่เกิดโดยโผล่ขึ้นมา และโตใหญ่เต็มที่ในทันทีทันใดเลย สัตว์ที่เป็นโอปปาติกกำเนิดได้แก่





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2008, 08:07 โดย ตามหารักแท้ในสถานเริงรมย์ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล » บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
chaturant
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 499



« ตอบ #12 เมื่อ: 31-01-2008, 07:22 »

555+ รูปฮามากครับ  ทำเองหรือไป copy เค้ามาครับ   
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: