ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 02:33
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  วาระเร่งด่วน 99 วัน พาทักษิณกลับบ้าน กุมภาก็แล้ว เมษาก็แล้ว พฤษภาคมยังไม่แน่ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
วาระเร่งด่วน 99 วัน พาทักษิณกลับบ้าน กุมภาก็แล้ว เมษาก็แล้ว พฤษภาคมยังไม่แน่  (อ่าน 958 ครั้ง)
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« เมื่อ: 27-01-2008, 18:12 »

ทำไมต้องเลื่อนมาเป็นเดือนพฤษภาคม

ก่อนจะพิเคราะห์ว่าทำไม ต้องดูก่อนว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก่อนเดือนพฤษภาคม

1.การโยกย้ายนายทหารต้นฤดูกาลในต้นเดือนเมษายน

หาก มีการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกลาโหม "สายตรง" ที่สามารถผนึกกับนายกรัฐมนตรี หักขั้วอำนาจ "คมช." แล้วสร้างขั้วอำนาจใหม่ในกองทัพได้สำเร็จ ตรงนี้เท่ากับยกระดับความมั่นใจในความปลอดภัยเมื่อกลับมาเมืองไทยได้ รวมถึงจะปราศจาก "อำนาจสูงสุด" คุกคาม

เมื่อเชื่อมโยงตัวรัฐมนตรี ว่าการกลาโหมเข้ากับการเลื่อนเวลากลับเมืองไทยเข้าด้วยกันแล้ว ผมยังเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กับพวกจะไม่ยอมรับข้อเสนอของ คมช. แต่จะตั้งรัฐมนตรีว่าการจากนายทหารเกษียณที่ต้องไม่เดินสวนทางเขา ตลอดจนนายกฯคนใหม่ ก่อนเข้าสู่เป้าหมายสำคัญคือลดอำนาจคุกคามอันดับหนึ่งที่มีต่อเขา ครอบครัว และรัฐบาล "นอมินี"

2.รัฐบาลบริหารประเทศครบ 3 เดือน

นพ.สุ รพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน มือขวาของเขา เคยบอกว่า ช่วง 3 เดือนแรกรัฐบาลเป็นช่วง "ฮันนีมูน" ถ้าผ่านตรงนี้ไปได้อย่างราบรื่น อานิสงส์ก็แผ่ไปถึงอดีตนายกฯด้วย แต่ถ้าเกิดปัญหาวุ่นวายรายวัน ก็ยังสามารถอ้างโน้นอ้างนี่ต่อรองศาลฎีกาฯ ขอเลื่อนกลับได้อีกระยะหนึ่ง

3.การผ่านร่างกฎหมายฉบับแรกคือร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกกฎอัยการศึก

แนว คิดที่จะผลักดันยกเลิกกฎอัยการศึก ถือเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการหยั่ง "ปฏิกิริยา""ผู้นำกองทัพ จะได้รู้ว่ากล้าหือกล้าอือกับรัฐบาลหรือไม่ ขณะที่ฝ่ายต่างๆ ในสังคมถึงไม่หนุนก็คงไม่ค้าน ทำไปไม่มีทางเสียมวลชน

4.พฤษภาคมคือเดือนสุดท้ายที่ คตส.เหลือเวลาส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุดก่อนครบวาระในสิ้นเดือนมิถุนายน

ช่วง นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ และคณะทนาย จะรู้แล้วว่ามีคดีอะไรบ้างที่ คตส.ส่งสำนวนไม่ทันพ้นวาระ มีคดีอะไรบ้างอยู่ในมืออัยการสูงสุด มีคดีอะไรบ้างอยู่ในชั้นศาลฎีกาฯ และจะต่อสู้คดีอย่างไร

ดังนั้น เดือนพฤษภาคม 2551 คือจังหวะเวลาที่อดีตผู้นำและกุนซือ ได้ทราบสถานการณ์เกือบทั้งหมดในไทย และได้เห็นอะไรต่างๆชัดเจนมากพอที่จะประเมินว่า

ทางโล่งตลอดปลอดโปร่งพอที่จะเดินทางกลับเมืองไทยหรือไม่



http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act01270151&day=2008-01-27&sectionid=0130


ได้เป็นรัฐบาลแล้วใช่ว่าจะเสร็จงาน
ลิ่วล้อต้องสู้ต่อไปเพื่อนายใหญ่คนเดียว


วาระแห่งชาติ
ไม่รู้จะมีในแถลงนโยบายหรือเปล่า Money in mouth

บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 27-01-2008, 18:22 »



เออ อันนี้อ่านดูแวบๆ แล้วค่อยดูเป็นบทความ ที่เข้าเค้าหน่อย..
บันทึกการเข้า

พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #2 เมื่อ: 27-01-2008, 18:29 »

ภาระเร่งด่วนอาจจะมีมากกว่านั้นแล้วค่ะ

คดีความในกระบวนการยุติธรรม  เท่าที่ส่งฟ้องแล้ว และจ่อคิวรอ รวมถึงรอ คตส.ทิ้งทวนไว้เป็นครั้งสุดท้าย เป็นงานหนักที่เชื่อได้ว่ายังไม่เห็นทางแก้ไข นอกจากจะยื้อเวลาไปเรื่อยๆก่อน เผื่อจะแก้ไขได้ในภายหลัง การเตะถ่วงคดีอาจจะทำได้หลายปี ถ้าเป็นฝ่ายที่ครองอำนาจรัฐ และการคุกคามกระบวนการยุติธรรม การโยกย้าย รังแกข้าราชการตุลาการ ที่ไม่ยอมช่วยเหลือให้รูปคดีเป็นไปตามที่ต้องการ อาจทำได้ง่ายขึ้น หากครองอำนาจได้เป็นเวลายาวนาน

สำคัญคือคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นศาลเดียว ตัดสินครั้งเดียว และกระบวนการไม่ยืดเยื้อ หากจำเลยเข้ากระบวนการยุติธรรม ไม่เกินสองปีก็รู้ผลแน่นอน จุดนี้ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน โดยอาจจะแก้ไขกฎหมายให้คดีเหล่านี้กลับเข้าสู่กระบวนการศาลปกติ ซึ่งจะเตะถ่วงไปได้นานนับสิบปีทีเดียว มีเวลาทำอะไรได้เยอะ

แต่ปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้า คือคดีของทั่นประธาน ที่รอคิวเชือดเบื้องต้นด้วยการไปให้ปากคำกับ กกต. ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้น หาก กกต.เพียงสามเสียง เห็นว่ามีมูลความผิด จะต้องส่งเรื่องไปให้ศาลฎีกาตัดสินความต่อ และทั่นประธานจะต้องหยุดการทำหน้าที่ทันที ในขณะเดียวกัน คดีของกรรมการบริหารพรรคอีกสองพรรค จะถูกส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญในเวลาไม่นานนี้ ซึ่งจะมีการดำเนินคดีไปตามลำดับ หากมีการยุบพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นเบื้องต้น ฐานของรัฐบาลจะสะเทือนชนิดอยู๋ไม่ได้ ต้องมีการยุบสภาเพื่อให้สมาชิกไปจัดกระบวนกันในพรรคใหม่ และรีบใช้อำนาจรัฐช่วยเหลือในการเลือกตั้ง ให้ได้เสียงข้างมากเข้ามาเพียงพรรคเดียว หาไม่ขืนรอให้เข้าสู่กระบวนการยุบพรรคตนเอง พรรคอาจจะแตกได้โดยง่าย

การดึงเวลากลับประเทศไทย ก็คือการยืดเวลาเพื่อหาทางออก เมื่อต้องยืดเวลาไปเช่นนี้ ก็เป็นการแน่นอนว่าขณะนี้ไม่มีทางออก การสืบพยานคดีที่ดินรัชดา ผู้ที่ต้องเข้าให้ปากคำจำนวนหนึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ซึ่งไม่อาจเตะถ่วงต่อศาลได้ จะมากลับคำให้การอย่างไรก็ต้องมาตามเรียก ดังนั้นคดีนี้ดึงเวลาได้เฉพาะฝ่ายจำเลยไม่กี่ปาก แต่ยิ่งถ่วงเวลาเท่าไหร่ ภาพความผิดก็จะยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น เพราะจะถูกขุดคุ้ยมิรู้จบ

บางที่คราวนี้ เราจะได้เห็นการต่อสู้กันระหว่าง ความดีและความชั่ว ประเทศของเราอาจจะมีอนาคตที่ถูกกำหนดได้ ด้วยเหตุการณ์ในปีสองปีนี้ หากความชั่วชนะความดีได้ด้วยพลังอำนาจ พลังเงิน ภาพลักษณ์ของประเทศเราก็คือประเทศป่าเถื่อน ด้อยพัฒนา และเยาวชน ประชาชนของชาติ คงเสื่อมถอยไปตามค่านิยมที่ว่า มีเงินจ้างผีโม่แป้งได้  
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: