คัดมาให้อ่านกัน
เห็นว่าเข้าที
อายไม่เป็น
ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
ความรู้จักอาย เป็นคุณสมบัติล้ำค่าของความเป็นมนุษย์
ปัญหาของบ้านเมืองเราทุกวันนี้ เกิดขึ้นก็เพราะผู้บริหารระดับสูงของประเทศ อายไม่เป็น
๑) ผู้คนจับได้ รู้ทันกันถ้วนทั่ว ว่าผู้บริหารประเทศ เหลี่ยมจัด บริหารงาน กำหนดนโยบาย แก้กฎหมาย หลบเลี่ยงกฎหมาย พลิกแพลงตะแบงกฎหมาย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับผลประโยชน์ธุรกิจของตนและเครือญาติบริวาร กระทั่งตอบคำถามของสังคมไม่ได้ ถูกรังเกียจ ไม่ได้รับการยอมรับนับถือ แต่ก็ อายไม่เป็น จึงไม่ ลาออก แต่เลี่ยงไป ยุบสภา
๒) จัดการเลือกตั้งที่เอาเปรียบคู่แข่ง ชงเองกินเอง หวังเพียงผลชนะเลือกตั้ง ต้องการเอาผลชนะมาฟอกตัว จนถูกพรรคการเมืองอื่นๆ คว่ำบาตร ไม่มีพรรคการเมืองใหญ่ลงสมัครเลือกตั้งด้วย ก็ยัง อายไม่เป็น เดินหน้าลากตั้งต่อไป โดยสนับสนุนพรรคไม้ประดับลงสมัครเป็นเครื่องมือทางการเมือง
๓) ประชาชนแสดงพลังความคิด แสดงออกด้วยการไปเลือกช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนนให้ใครอย่างมากมายเป็นประวัติการณ์ของโลกประชาธิปไตย มากกว่า ๑๐ ล้านเสียง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์สูงกว่า ๔๐% ทั้งยังมีการแสดงออกด้วยการเขียนข้อความด่าทอ วิพากษ์วิจารณ์ลงในบัตรเลือกตั้งจนกลายเป็นบัตรเสียหลายล้านใบ และยังมีประชาชนอีกหลายล้านคนที่ไม่ยอมไปเลือกตั้งในระบอบเลือกตั้งจอมปลอม แต่ก็ อายไม่เป็น จึงได้ตากหน้าไปออกโทรทัศน์ เอาคะแนนปาร์ตี้ลิสต์มาอ้างว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรี
๔) ผู้สมัคร ส.ส.ที่ชนะเลือกตั้ง แต่ได้คะแนนน้อยกว่าคะแนนที่ประชาชนประสงค์ไม่เลือกผู้ใด ก็ อายไม่เป็น ตากหน้าบอกว่าตนเป็น ผู้แทนราษฎร ทั้งๆ ที่เสียงข้างมากในเขตนั้นๆ ไม่ได้เลือกตน ส่วนผู้สมัครในเขตที่ไม่มีคู่แข่ง แต่ได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ก็ อายไม่เป็น ยังดันทุรังจะเดินหน้าลงรับเลือกตั้งต่อด้วยสารพัดวิชามาร จะข่มขืนจิตใจประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งกี่ครั้งก็ยัง อายไม่เป็น
๕) กกต.ก็ อายไม่เป็น ทั้งๆ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง มีข้อครหาเกี่ยวกับความไม่ชอบธรรมและความไม่น่าเชื่อถือของ กกต.ชุดนี้ร่วมๆ สิบข้อ แต่ก็ยังเดินหน้าใช้อำนาจต่อไป มิหนำซ้ำ เมื่อเขตใดผู้สมัครได้คะแนนน้อยกว่าร้อยละ ๒๐ ก็ยังจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เปิดรับสมัครใหม่ ขัดแย้งกับมาตรฐานการปฏิบัติเดิม ไม่มีการออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้มีคนลงรับสมัครเป็นคู่แข่งไม้ประดับ เพื่อจะได้หลุดรอดกฎเกณฑ์ ๒๐% ถึงขนาดว่าปล่อยให้ผู้สมัครเดิมที่เคยสมัครอยู่ในเขตเลือกตั้งอื่น ย้ายมาลงสมัครใหม่ในอีกเขตหนึ่ง โดย อายไม่เป็น
๖) คนสงขลาจำนวนมาก บางคนเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ รวมตัวกันเพื่อ ขอร้องอย่างสันติ ถึงกับ ก้มกราบเท้า ผู้สมัครพรรคไม้ประดับ วิงวอนมิให้ลงสมัคร ไม่เป็นเครื่องมือของการเลือกตั้งจอมปลอม แต่เขาก็ยังสมัคร ก็เพราะ อายไม่เป็น
๗) ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลาออกไปบวช เพื่อกระตุ้นความละอายให้แก่พรรคไทยรักไทย ปรากฏเป็นข่าวใหญ่โตทั่วประเทศ ผู้สมัครท่านนั้นจึงหมดสิทธิเป็นผู้สมัคร ส.ส. ทำให้พรรคมีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ในระบบปาร์ตี้ลิสต์เพียง ๙๙ คน แต่ กกต. ก็บอกว่า ยังไม่ได้รับแจ้งว่าไปบวช ด้วยความ อายไม่เป็น จึงถือว่ายังอยู่ครบ ๑๐๐ รายชื่อ
๘) เพราะความ อายไม่เป็น ก็จะมีการจัดการเลือกตั้งไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ ส.ส.ครบ แม้คุณภาพจะเป็นอย่างไรก็ไม่สนใจ จะโกงกันอย่างไรก็ไม่ให้ใบแดง ใบเหลือง มุ่งรับใช้ คนที่อายไม่เป็น ด้วยกัน
๙) ถ้าได้ ส.ส.ครบจำนวน คนที่อายไม่เป็น ก็จะขอเปิดสภา โดยไม่สนใจว่าคุณภาพ ความสง่างาม และความครบถ้วนชอบธรรมจะเป็นอย่างไร อ้างว่าเป็นตัวแทนของประชาชน แม้ไม่ได้ครบก็จะขอรักษาการณ์บริหารประเทศต่อไปอย่างคน อายไม่เป็น
๑๐) คนอายไม่เป็น จะส่งคนของตัวลงสมัคร ส.ว. เพื่อให้ได้เสียงข้างมากในวุฒิสภา ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญมีเจตนาที่จะให้ ส.ว.อิสระจากพรรคการเมือง เพราะเป็นผู้ไปตรวจสอบรัฐบาล แต่ คนอายไม่เป็น ก็จะทำไปอย่างไม่สนใจคำครหา
๑๑) ส.ว.ชุดใหม่ หลัง ๑๙ เมษายน จะได้ครบจำนวน ๒๐๐ คนโดยเร็ว โดยไม่ต้องพิจารณาเรื่องคุณภาพ ไม่ต้องให้ใบแดง ใบเหลือง เพราะต้องการให้เปิดสมัยประชุมรัฐสภาให้ได้ใน ๓๐ วัน นับจากวันที่ ๒ เมษายน แต่ถ้าต้องการเป็นรัฐบาลรักษาการณ์นานๆ ก็ อายไม่เป็น ที่จะให้ใบแดง ใบเหลือง เลือกตั้งใหม่ต่อไป
๑๒) เมื่อได้ ส.ว. ๒๐๐ คน และถ้ามั่นใจว่าครอบครองเสียงส่วนมากในวุฒิสภาได้แล้ว ก็จะเปิดประชุม เพื่อให้ ส.ว.เลือก ป.ป.ช.ที่ค้างอยู่ เพื่อเอาพวกของตนเข้าเป็น ป.ป.ช. แล้วก็จะได้เอาความผิดของท่านผู้นำเข้าพิจารณา ในที่สุด ด้วยความ อายไม่เป็น ป.ป.ช.ที่เป็นคนของท่านผู้นำ ก็จะจำหน่ายคดีโดยตัดสินว่า ข้อกล่าวหามีหลักฐานไม่พอ
๑๓) อายไม่เป็น ทำให้ประกาศ เว้นวรรค โดยพยายามสร้างภาพให้ดูเหมือนถูกเรียกให้เข้าเฝ้า ทั้งๆ ที่ตัวเองขอเข้าเฝ้า แล้วยังประกาศบิดเบือน ไม่ ลาออก แต่ขอ เว้นวรรค เอาลูกเมียร่วมแสดงละครบีบน้ำตาในทำเนียบ ห้อมล้อมด้วยลิ่วล้อและบริวารที่ อายไม่เป็น
๑๔) อายไม่เป็น ทำให้อ้างว่าต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อเป็นประธานจัดงานเฉลิมฉลอง ๖๐ ปี ของการครองราชย์ ที่เป็นงานมหามงคลสำคัญ แต่แล้วก็มอบหมายให้คนอื่นทำ โดยที่ตัวเองลาพักไปตีกอล์ฟ ไปพักผ่อนอังกฤษ แสดงว่าพูดอย่างแต่ทำอย่าง ปากบอกว่าอยู่เพื่อทำหน้าที่ แต่จริงๆ อยู่เพื่อคุมอำนาจคุมเกมอย่าง อายไม่เป็น
วัฒนธรรมการเมืองแบบ อายไม่เป็น ของผู้บริหารประเทศนี้ เมื่อเทียบกับนายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้ อินเดีย และที่อื่นๆ จะเห็นว่าผู้นำของเขามี ยางอาย มากกว่า ความสำนึกผิดต่อความชั่ว แม้เรื่องจะเล็กนิดเดียว เขาก็ต้องแสดงความสำนึกรับผิดชอบด้วยการลาออก เพื่อให้บ้านเมืองได้แก้ไขปัญหา ผลัดเปลี่ยนเอาคนอื่นๆ เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาของประเทศ
ผู้นำที่ อายไม่เป็น นอกจากจะมุ่งเดินหน้า ทำความชั่ว ยึดเอาโอกาสของบ้านเมืองไว้เพื่อแก้ไขปัญหาของตัวเองไปเรื่อยๆ แล้ว ยังทำให้รัฐมนตรีที่ร่วมทำงานด้วย อายไม่เป็น และนำให้องค์กรอิสระอย่าง กกต. ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ สามารถดำเนินการได้โดย อายไม่เป็น
พูดเรื่อง อายไม่เป็น ยังมีอีกมาก วันหลังจะนำมาเล่าให้ฟังว่า มีการ อายไม่เป็น ในเรื่องจริยธรรมการศึกษาของลูกๆ อย่างไร? อายไม่เป็น ในการสร้างภาพ สร้างการชุมนุมของชาวบ้านให้มาเชียร์ สู้ๆ อย่างไร? และ อายไม่เป็น ในเรื่องคนใกล้ตัวอย่างไร?
น่าเศร้าใจ... ในขณะที่วัฒนธรรมการเมืองแบบ อายไม่เป็น กำลังแพร่หลายในแวดวงการเมืองระดับสูง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการณ์นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ก็หลุดวาจาเป็นคติธรรมการเมืองเฉพาะตัวว่า จำต้องเปลืองตัวบ้าง เมื่อคิดจะเป็นใหญ่
ไม่แปลกใจ... คนในแวดวงอำนาจการเมืองสมัย คิดใหม่ทำใหม่ ถึงได้มีพฤติกรรม อายไม่เป็น ก็เพราะพากันถือคติ ด้านได้ อายอด นั่นเอง
-จบ-
