หลุยส์วิตตอง ตะลึงมึนตึบ!?! โดน"หลุยส์จีน" ชี้หน้าละเมิดลิขสิทธิ์ ขวางเข้าตลาดจีน
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 มกราคม 2551 20:01 น.

ผลิตภัณฑ์หลุยส์วิตตองแห่งฝรั่งเศสที่ผงาดเป็นราชาเหนือเวทีแฟชั่นโลก
ผู้จัดการออนไลน์--หากเปรียบเปรยเป็นคน อาจเรียกได้ว่า เวลานี้ ราชาแบรนด์หรูแดนน้ำหอม หลุยส์ วิตตอง Louisvuitton (LV)กำลังน้ำตาตกอกกลัดหนอง ดิ้นพล่านเป็นเสือติดจั่นในจีน ที่วันดีคืนดี ก็มาโดนยึดสินค้าในจีน ด้วยข้อหาสุดเจ็บปวดคือ “เป็นสินค้าต้องสงสัยละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา” และยังโดนยื่นข้อเสนอขาย“หลุยส์จีน” ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของจีน ให้ในราคาเพียง 1 หยวน หากชักช้าไม่รับข้อเสนอแต่แรก....และยังอยากเข้ามาขายสินค้าในตลาดใหญ่ที่สุดในโลกของจีน“ลื้อ (หลุยส์ฝรั่งเศส) อาจจะต้องซื้อคืน “แบรนด์ตัวเอง”ในราคาถึง 120 ล้านหยวน” ! หรือไม่ก็ต้องเป็นฝ่าย “เปลี่ยนหน้า” คือ เปลี่ยนหน้าตาโลโก รูปลายสัญลักษณ์ของตัวเองในการนำสินค้าเข้าเจาะตลาดจีน !?! ทั้งนี้ สื่อยักษ์ใหญ่แห่งฮ่องกง“เหวินฮุ่ยเป้า”และกลุ่มสื่อจีนแผ่นดินใหญ่ ได้รายงานถึงข้อพิพาทดังกล่าวเมื่อวันพฤหัสฯ(17 ม.ค.)

หวัง จวินยื่นข้อเสนอให้ LV ซื้อสิทธิบัตร “หลุยส์จีน” ในราคาเพียง 1 หยวน ในภาพ: หวังจวิน พร้อมเอกสารรับรองสิทธิบัตร หลุยส์ เมด อิน ไชน่า
นับเป็นคดีประวัติศาสตร์ของวงการแบรนด์ดังโลก ที่ยืดยื้อมาร่วม 10 ปี นับจากในปี 2002 นายหวัง จวินพ่อค้าเสื้อผ้าขมองใสในอู่ฮั่น ลุกขึ้นมาศึกษากฎหมายเครื่องหมายการค้า ก็พบแสงสว่างฉายโชนออกมาจากช่องโหว่ทางกฎหมายตรงมาตรา “การจดทะเบียนสิทธิบัตรสำหรับสินค้าหนึ่งประเภท” (Single registration for one class) และได้ไปยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ในชื่อเทียบอักษรโรมัน คือ “LOUYIVEITEN” และในชื่อจีนคือ 《路易威登》ออกเสียงว่า “ลู่อี้เวยเติง” ซึ่งเป็นชื่อ Louisvuitton ที่จีนถ่ายเสียงออกมาเป็นภาษาจีน ต่อมา ในวันที่ 8 ตุลาคม 2003 สำนักงานคุ้มครองสิทธิบัตรแห่งชาติจีนยังได้รับรองสิทธิบัตรแก่นายหวัง จวิน ได้แก่การออกแบบ (design patent right) กระเป๋าถือลายตัวอักษร LV รูปแบบลายดอก ที่รูปพรรณสัณฐานเหมือนกับลายโลโกของราชาแบรนด์หรูโลก เรียกได้ว่าเป็นฝาแฝดกับ “หลุยส์ฝรั่งเศส"

เครื่องหมายการค้าหลุยส์ วิตตองแห่งฝรั่งเศส
สำหรับหลุยส์ วิตตองแดนน้ำหอม หรือ LV ได้ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าผลิตภัณฑ์ของตนในจีนได้แก่ สินค้าประเภทเสื้อผ้า เครื่องหนัง เครื่องประดับ และสินค้าโลหะราคาแพง แต่ไม่ได้จดทะเบียนคุ้มครองสินค้าประเภทกระเป๋า และอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งเป็นช่องโหว่ทางของกฎหมายสิทธิบัตร ที่พ่อค้าหัวใสจีนล้วงมือเข้าหยิบพุงปลาไปกินอย่างหวานคอแร้งดังที่กล่าวมา
ด้านLV โดดขึ้นสังเวียนกฎหมายสู้ศึกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ร้องขอให้ยกเลิกการรับรองสิทธิบัตร “หลุยส์จีน” ยื้อกันมาถึง 3 ปี ผลปรากฏ LVตัวจริง พ่ายยับหมดรูปในปลายปี 2006 โดยสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติจีน ได้ตัดสินยืนยันสิทธิบัตร “หลุยส์จีน” โดยคณะกรรมการแจงเหตุผลว่า LV ไม่มีหลักฐานเพียงพอในการพิสูจน์ความเสียหายจากการที่นายหวังจะใช้เครื่องหมายการค้าของตนในสินค้าของเขา
ในเดือนเมษายน ปี 2007 LVนำคำตัดสินของสำนักงานคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ไปอุทธรณ์ศาลชั้นกลางแห่งกรุงปักกิ่ง เจ็ดเดือนผ่านไป ศาลปักกิ่งก็ยังเงียบเป็นเป่าสาก
ต่อมา ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2007 หวัง จวิน ได้ยื่นข้อเสนอเจรจาออมชอมกับLV โดยเสนอขายสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาในมือของเขา ให้แก่LV เป็นเงิน 1 หยวน โดยมีเงื่อนไขว่าLVจะต้องอนุญาตให้นายหวัง จวินเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าหลุยส์ วิตตองแต่เพียงผู้เดียวในอู่ฮั่น แต่ “เสือ”หลุยส์แดนน้ำหอมที่ยึดถือรูปแบบการขายตรงด้วยตัวเองมาตลอดนั้น ดูจะรับไม่ได้
และในวันที่ 22 พฤศจิกายน นายหวัง จวินยังได้อ้างกฎหมายสิทธิบัตร ร้องให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเมืองอู่ฮั่น ยึดและกักกันสินค้านำเข้าที่ต้องสงสัยละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของหลุยส์ วิตตอง และยื่นข้อเสนอว่าหากLVต้องการสินค้าที่ถูกยึดเหล่านี้คืน จะต้องนำเงินหนึ่งแสนหยวนมา “ประกัน” สินค้าออกไป
ข่าวเรื่องการเจรจาออมชอมหายเข้ากลีบเมฆไปพักใหญ่ นายหวัง จวินก็ออกโรงมาเล่นลิ้นในช่วงก่อนคริสต์มาสปีที่แล้ว ว่า“ ผมมีทะเบียนเครื่องหมายการค้า “ลู่อี้เวยเติง” และสิทธิบัตรอยู่ในอุ้งมือ แต่ยังไม่ได้เริ่มผลิตสินค้าออกมา ก็เพราะ...ผมยังเคารพในแบรนด์สินค้าชั้นนำของLV แต่LVกลับมาทำโยกโย้ชักช้า ถ้ายังปล่อยให้ผมรออย่างไม่มีความหมายอยู่แบบนี้ หลังคริสต์มาส ผมก็จะไม่เจรจาออมชอมด้วยแล้ว และจะลงมือผลิตสินค้าในเครื่องหมายการค้าและสิทธิบัตรที่ผมได้มา และสินค้าภายใต้แบรนด์ “หลุยส์” จีน จะมีราคา เพียง 1 ใน 3 ของหลุยส์ฝรั่งเศสเท่านั้น ผมเชื่อว่าเมื่อบรรดาเจ้านายผู้บริหารและพนักงานในจีน หันมาใช้ “ลู่อี้เวยเติง” กันแล้วละก็ สถานภาพของหลุยส์ วิตตองฝรั่งเศส ก็จะมีอันจบเห่แน่ ”
นายหวัง จวิน ยังตอกย้ำเตือนอีกว่า ถ้าLV ไม่รับข้อเสนอให้เขาเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าหลุยส์วิตตองในจีนละก็ จะมาขอซื้อคืนสิทธิบัตรนี้ทีหลัง เขาอาจขึ้นราคาสูงถึง 120 ล้านหยวน และถ้ายังชักช้าอยู่อีก ราคาก็จะพุ่งสูงขึ้นๆ
ขณะนี้ หวัง จวิน ได้ยื่นข้อเสนอ 2 ข้อ ได้แก่ :
1) หลุยส์ วิตตอง จ่ายเงิน 120 ล้านหยวน ซื้อสิทธิบัตร
2) หลุยส์ วิตตองให้สิทธิการเป็นผู้แทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวแก่เขา (นายหวัง จวิน) แลกกับทรัพย์สินทางปัญญา "ลู่อี้เวยเติง"
“หากคิดจะขาย LV ในจีน หรือไม่ก็ต้อง “เปลี่ยนหน้า””
หวัง จวิน ได้ใช้สิทธิบัตรการออกแบบ (design patent) ที่จีนรับรองให้นั้น คุกคามLV ชนิดเด็ดขั้วหัวใจ รูปแบบลายที่นายหวัง จวินได้สิทธิมานั้น ดูไม่มีความแตกต่างแต่อย่างใดกับรูปแบบลายของหลุยส์แดนน้ำหอมเลย และบทเรียนในการเข้าเจาะตลาดจีนที่LV ต้องจดจำกันจนวันตายคือ “การมองข้าม” ขึ้นทะเบียน design patent ในจีน นายหวัง จวินจึงได้กล่าวอย่างอหังการ์ว่า รูปแบบลายบนประเภทสินค้าหลักของLVนั้น ได้ละเมิดผลประโยชน์สิทธิบัตรของเขา และหาก LV ต้องการหากินในตลาดจีน ก็มีทางเดียวเท่านั้น คือ “เปลี่ยนหน้า” (เปลี่ยนหน้าตารูปแบบโลโก ลวดลายสัญลักษณ์).
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9510000007287 หลุวย์ วิตตอง มาม่า ฯลฯ ในประเทศจีน.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า