ไปเจอบทความพูดถึงเรื่องคุณชัยวัฒน์ ก็เลยเอามาลงประกอบกระทู้นะครับ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ตุลาการภิวัตน์”ออกฤทธิ์http://www.bangkokbiznews.com/2008/01/18/WW01_0104_news.php?newsid=22135618 มกราคม พ.ศ. 2551 00:00:00
ไม่มีใครรู้ว่า ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งจะพิพากคดีอันเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 23 ธ.ค.2550 ในวันนี้อย่างไร?
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : การเลือกตั้งจะโมฆะหรือไม่โมฆะ? พรรคพลังประชาชนจะถูกยุบหรือไม่ถูกยุบ ก็ต้องติดตามกันด้วยใจระทึก!
แต่ก่อนถึงวันชี้ชะตา..ผลพวงแห่งการฟ้องร้องคดีดังกล่าว ก็ทำให้เกิด “รอยร้าว” ในพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อ “เทพ ท่าสะท้อน” ยื่นข้อเสนอให้ ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 บุรีรัมย์ ถอนฟ้องคดีที่ให้ศาลวินิจฉัยการเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ชอบด้วยกฎหมาย และประกาศเพิกถอนการนับคะแนนทั้งหมด
เพราะหากศาลพิพากษาการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ มันจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ตกเป็นเป้าโจมตีจากทั้งพรรคคู่แข่งและประชาชนทั่วประเทศ
ประเด็น “นอมินีแม้ว” พรรคไม่ว่า..แต่ “เลือกตั้งล่วงหน้า” หัวหน้า “มาร์ค” เครียดจนลงกระเพาะ
ว่ากันว่า “เทพ ท่าสะท้อน” เลขาธิการพรรคฯ เปิดการเจรจากับ “ไชยวัฒน์” ร้องขอให้ถอนฟ้องถึง 2-3 หน!
แต่คนจริงสายวัด “ไม่ยอมถอนฟ้อง” เพราะมั่นใจว่าในสิ่งที่ตนเองกระทำลงไปนั้นถูกต้อง และตัวเขาเองเป็นผู้เสียหายโดยตรง ไม่เกี่ยวกับพรรค!
ลึกๆ เขาเชื่อในกระบวนการตุลาการภิวัตน์!
จึงมีเสียงนินทากาเลแถวถนนสามเสน “รับคนแบบนี้เข้าพรรคได้ยังไง”
คำว่าคนแบบนี้ ถอดความได้ว่า “วัฒน์ สายวัด” เป็นคนเชื่อมั่นตัวเอง ไม่ฟังใครมาตั้งแต่สมัยอยู่พรรคพลังธรรม
คนที่พลอยเดือดร้อนไปด้วยคือ “โต้ง ราชครู” ผู้ที่ชักนำอดีตหัวหน้าพรรคพลังธรรมยุคสุดท้ายมาเข้าสังกัด “พรรคอภิสิทธิ์”
จิ้งจกแถวตึกหน้าเล่าว่า ตอนที่เสี่ยโต้งนำรายชื่ออดีต ส.ว.สายพันธมิตรฯ มากางให้แกนนำ ปชป.ดู ก็ยอมรับได้เกือบหมด แต่ติดอยู่ที่รายที่ไม่ใช่อดีต ส.ว.คือ “วัฒน์ สายวัด” นี่แหละ
พูดตรงๆ ไม่อยากได้เท่าไหร่ แต่ตอนหลังเสี่ยการุณ ใสงาม ดันหิ้ว ส.ว.สายพันธมิตรฯ ไปซบอกลุงประชัยใจดี เสี่ยโต้งก็ต้องดันคนสายวัดเข้าพรรคให้ได้ ไม่งั้น..เหงาแย่!
“โต้ง” จึงถูกคนในพรรคบีบให้ช่วยเคลียร์ประเด็นคดีดังกล่าว แต่ทายาทน้าชาติตกอยู่ในอาการพูดไม่ออกบอกไม่ได้ ผู้ยื่นฟ้องจึงไม่ยอมเปลี่ยนใจ
เมื่อเป็นดังนี้ จึงมีข่าวลือสะพัดว่า “เทพ ท่าสะท้อน” จึงยื่นคำขาดให้ “วัฒน์ สายวัด” ถ้าไม่ถอนก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ และเลือกเอาว่าจะ “ออก” แบบไหน?
จะยื่นใบลาออกเอง หรือให้พรรคขับออก!
ยังไม่รู้ว่ามือขวามหาจำลองจะเลือกอย่างไหน? เพราะคดีความใกล้ยุติเต็มทีแล้ว
ขณะที่ภายใน “พรรคพลังแม้ว” ก็ส่อเค้าวุ่น เมื่อลูกพรรคสายเมืองกรุง สังกัดมุ้ง “เจ๊ใหญ่ใจถึง” จะขอพึ่งตุลาการภิวัตน์บ้าง
เพราะผลคะแนนการเลือกตั้งล่วงหน้าในเขต “อภิรักษ์นคร” มันผิดปกติ
ตอนแรก “เด็กเจ๊ใหญ่” จะยื่นฟ้องตั้งแต่หลังเลือกตั้งหมาดๆ แต่ผู้ใหญ่ในพรรคออกโรงห้าม ด้วยเกรงผลแห่งคดีจะกระทบถึง “หัวหน้าหมัก” ต้องกินแห้ว อดเป็นนายกรัฐมนตรี
ลึกๆ อีกเช่นกัน “เจ๊ใหญ่” ก็อยากให้เป็นอย่างนั้น เพราะเจ๊แกเล่นเดินสายล็อบบี้พรรคเล็กบีบให้เงื่อนไขไม่เอา “ซ่าส์หมัก” อยู่แล้ว
ไม่งั้น “ตู่ ศรัทธาธรรม” มิออกงิ้วว้ากเพ้ย “เจ๊ใหญ่” เล่นกันแบบไม่ไว้หน้า ถึงขั้นจะเข็นม็อบสู่ท้องถนน หาก “พ่อทูนหัว” ไม่ได้เป็นนายกฯ
เพราะใครก็รู้ว่า เจ๊ใหญ่เล่นกำลังภายในขวางตัวเขา และแกนนำ นปก.ไม่ให้ลงสมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วน ดีแต่ว่า “ซ่าส์หมัก” เห็นดีเห็นงาม เรื่องมันจึงยุติ
นี่แหละฤทธิ์เดชตุลาการภิวัตน์ ขนาดคดีความยังไม่มีผล ก็ทำเอาสองพรรคใหญ่ปั่นป่วน!
นักเลือกตั้งบ้านเรา มันก็ได้เท่านี้จริงๆ ไม่เคยมองไกลเกินกว่าหัวแม่ตีนตัวเอง!
……………………………………………….
ประชา บูรพาวิถี