ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 20:02
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  มุสลิมในแผ่นดินสยามกับความเป็นชาติสยาม 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
มุสลิมในแผ่นดินสยามกับความเป็นชาติสยาม  (อ่าน 3294 ครั้ง)
Nharahs
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 33


« เมื่อ: 14-01-2008, 15:41 »

ทำความเข้าใจมุสลิมในไทย
      มุสลิมบนแหลมสุวรรณภูมิเท่าที่มีหลักฐานปรากฎมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา (สมเด็จพระนารายณ์) ตอนนั้นมีแบ่ง
ได้เป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่มาจากชวา และกลุ่มที่มาจากอาหรับ ส่วนหนึ่งเป็นทหารที่วังลพบุรี และอีกส่วนหนึ่งมา
ค้าขาย โดยพวกอาหรับจะมาค้าขายจำพวกผ้าไหม เครื่องเงิน ตั้งหลักแหล่งอยู่แถวบางกอกฝั่งตะวันตก ปัจจุบันอยู่ใน
บริเวณคลองบางกอกน้อย (แม่นํ้าเจ้าพระยาเดิม) ซึ่งสืบเชื้อสายมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนลูกหลานของทหารชวาที่เข้ามารับ
ใช้พระนารายณ์ก็อยู่แถบเมืองพระนครศรีอยุธยาปัจุบัน ส่วนพวกยะหวา (ชวา) ที่อยู่แถวๆ ถนนเจริญกรุง เข้ามา
แผ่นดินสยามลุสมัยรัตนโกสินทร์แล้ว มีอีกกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาอย่ในบางกอก คนกลุ่มนี้เป็นพวกมลายู ส่วนใหญ่เป็น
พวกช่างต่างๆ ที่ถูกเกณฑ์ขึ้นมาจากทางใต้ในสมัยรัชกาลที่ 1 ช่วงสงครามเก้าทัพ ตั้งรกรากอยู่เขตคูพระนครชั้นนอก 
(บ้านครัว, พญาไท) ในสมัยรัชกาลที่ 5  เมื่อมีการขุดคลองสำคัญขึ้นโดยรอบ และคลองเชื่อมต่อกับทิศเหนือและตะวัน
ตก คนไทยส่วนหนึ่งที่ไปทำงานขุดคลองก็ได้รับที่ดินทำกินอยู่ตามริมฝั่งคลอง เช่นคลองแสนแสบ ส่วนใหญ่เป็นมุสลิม 
 กลุ่มนี้คือคนไทยที่นับถืออิสลามในภาคกลาง
          คนมุสลิมเชื้อสายมลายูที่อยู่เมืองปัตตานี เมื่อรัชกาลที่ 5 รวมเมืองต่างๆ ที่รายรอบอาณาจักรสยาม ไทยมลายูก็
มีสถานะเป็นคนไทย เท่า ๆ ที่พระองค์รวมกับคนล้านนา คนลาว คนเขมร และไม่ปฏิเสธคนเชื้อสายจีนที่เข้ามาพึ่ง
พระบรมโพธิสมภารเช่นเดียวกัน ทุกคนที่อยู่ในรัฐสยาม มีความเป็นไทยอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งไม่ถูกแบ่งแยกโดยการ
ปกครองในสมัยนั้น คือรวมคนหลายเชื้อชาติรวมเป็นชาติเดียว มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน ร้องเพลงชาติร่วมกัน ใช้
 ภาษาเหมือนกัน
        ยังมีอีกกลุ่มหนึ่ง มุสลิมกลุ่มนี้เป็นคนเชื้อสายจีน มาจากมณฑลยูนานบ้าง ซิืนเกียงบ้าง และหนีเซียะบางส่วน เข้า
มาตอนที่ประเทศจีนเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ ส่วนใหญ่พวกนี้เป็นทหารฝ่ายก๊กมินตั๋งที่พ่าย
แพ้ต่อกองทักปลดแอก มาอยู่แถบบนดอยแม่สลอง (กองพล 93 เดิม) 
มีมัสยิดของคนจีนกลุ่มนี้อยู่บนดอยแม่สลอง ส่วนมุสลิมเชื้อสายจีนอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในเมืองเชียงใหม่ พวกนี้
เป็นจีนฮ่อส่วนหนึ่ง และคนจีนที่เราเคยเรียกว่าจีนคณะชาติ (ไต้หวัน) มีมัสยิดและโรงเรียนอยู่แถวๆ ถนนช้างคลาน
        ฉะนั้น คนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามไม่ได้มีเฉพาะคนไทยเชื้อสายมลายูเท่านั้นที่อยู่ในแผ่นดินสยามมาเท่านั้น
       การเรียกคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามว่า "ไทยมุสลิม" จึงถือว่าเป็นการแบ่งแยกคนในชาติทางศาสนา ซึ่งไม่ถูกต้อง
ในหลักการปกครองแบบรัฐเดียว ผู้ปกครองควรยอมรับในความเป็นเชื้อชาติของไทยมลายู เช่นเดียวกันกับที่เรา
เรียกคนไทยเชื้อสายจีน คนไทยเชื้อสายลาว เป็นต้น เพราะคนมุสลิมในประเทศไทยไม่ได้มีเชื้อชาติเดียว

บันทึกการเข้า
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #1 เมื่อ: 14-01-2008, 15:50 »

  ชาว มุสลิม มาตั้งแต่ สมัย  พระนเรศวรแล้วฮะ
เป็น ชาว อิหร่าน .. (เปอร์เซีย แท้) เข้ามา ขายอุปกรณ์ แลกเปลี่ยน กับข้าว

บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 14-01-2008, 16:04 »

สมัยพระนารายณ์มีการก่อกบฏครั้งนึงของพวกแขก(ไม่รู้ว่าเป็นมุสลิมรึเปล่า) นั่นคือกบฎแขกมักกะสัน

มีทหารและชาวบ้านตายไป200กว่าคน

พวกแขกตายไปไม่กี่คน พวกนี้โหด***มมาก จนคนสยามกลัวกันมากๆเลย

สุดท้ายคนพวกนี้ก็จับคนสยามเป็นตัวประกันแล้วลงเรือหลบหนีไป
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


Priateľ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 395



« ตอบ #3 เมื่อ: 14-01-2008, 16:27 »

กำลังคิดว่าหากเป็นไทย 40% จีน 40% และมอญ 20% เราควรจะเรียกเขาว่าอะไรเพื่อเป็นการเคารพต่อเชื้อชาติ
บันทึกการเข้า

If you ever want something badly, let it go. If it comes back to you, then it's yours forever. If it doesn't, then it was never yours to begin with.

ก๊อปมาจากหนัง Indecent proposal
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #4 เมื่อ: 14-01-2008, 17:16 »

เชื้อชาติใด ศาสนาใด ชาติใด ก็เป็นพี่น้องกันทั้งโลก
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
Nharahs
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 33


« ตอบ #5 เมื่อ: 14-01-2008, 18:44 »

A: Priatel ความเป็นชาติ กับ ความเป็นหนึ่งเดียวของการปกครองภายใต้กฎหมายที่เท่าเทียมกัน
มึความเคารพต่อวัฒนธรรม ศาสนาที่ต่างกัน ไม่มีประเทศใดในโลกที่ประกอบด้วยคนเชื้อชาติเดียวกัน
อย่างเช่น จีน อินเดีย อเมริกา รวมทั้งไทย ซึ่งการอยู่ร่วมกันโดยสันติและยึดเอาอุดมการชาติเป็นหลัก
ประเทศนั้นก็จะมีความมั่นคงทางการเมือง เศรษฐกิจ เหมือนอเมริกา ประกอบด้วยคนหลากเชื้อชาติ
แต่คนอเมริกันมีความเป็นชาติ คนหลากเชื้อชาติมีความเป็นชาตินิยมอเมริกาสูง เพราะการเมือง
การปกครองที่ถูกต้อง
เพราะฉะนั้น ชาติ กับเชื้อชาติคนละความหมายกัน แต่ขึ้นต่ออุดมการชาติ ชาตินั้นถึงจะร่มเย็น
และสงบสุข
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 14-01-2008, 18:58 »

ถ้าให้น้ำหนักเรื่องการแบ่งแยก

ผมว่า มันก็แปลกมาตั้งแต่ แบ่งแยกเป็นแต่ละประเทศแล้ว

ไม่รู้ใครคิดไม่รู้ใครทำ แบ่งแยกประเทศเป็นประเทศต่างๆ บนโลกใบนี้

เราก็สืบประวัติศาสตร์กัน สืบค้น(เรียนรู้)ไปเพื่ออะไร?

ถ้าเราสืบค้น เพื่อหาข้อดี ข้อเด่นของฝ่ายหนึ่ง

เพื่อหาข้อด้อยของอีกฝ่าย

ผมว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะ


แต่หาข้อดี ด้อย เพื่อพัฒนาสิ่งที่เป็นอยู่ให้เจริญรุ่งเรือง

หาจุดร่วมที่สามารถพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืนต่อไปได้

ผมว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดี

หรือ

ผมว่ามองจากปัจจุบัน เอาประวัติศาสตร์เป็นบทเรียน

แล้วร่วมมือกัน ดูความเจริญรุ่งเรืองที่เป็นไปได้

เป็นหลัก ในอนาคต น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า

 Very Happy
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-01-2008, 19:01 โดย นทร์ » บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
lekapuk
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 279



« ตอบ #7 เมื่อ: 14-01-2008, 23:54 »

อย่าแบ่งแยกเชื้อชาติกันเลยค่ะ ทั้งหมดก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน

ที่เกิดเหตุการณ์ร้ายๆอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะตัวกู ชาติกูทั้งนั้นค่ะ

เอ.... ขอนอกเรื่องนะค่ะ

มีเชื้อจีน 100% แบบตัวเองนี่ จะนับว่าเป็นคนไทยได้หรือเปล่าค่ะ 

ประมาณว่าอากงทั้ง 2 ท่านนั่งเรือมาจากเมืองจีน ส่วนอาม่าอีก 2 ท่านเป็นลูกคนจีนที่อพยพครอบครัวมาเมืองไทย 

แต่ตัวเองพูด ฟัง อ่าน เขียนภาษาจีนไม่ได้เลยค่ะ 

งานนี้ถ้าไม่นับว่าเป็นคนไทย ก็ไม่รู้จะกลับไปจีนได้หรือเปล่า 
บันทึกการเข้า

เกลียดทักษิณ ใช่ว่าจะชอบประชาธิปัตย์ อย่าเหมารวม ใช้ความคิดก่อนแสดงความคิดเห็นนะจ๊ะ
Nharahs
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 33


« ตอบ #8 เมื่อ: 19-01-2008, 00:17 »

A: Lekapuk
ไม่มีประเทศไหนในโลกที่คนในประเทศเ็นคยเชื้อชาติเดียวกันทั้งหมด การยอมรับให้เป็นประชาชนของรัฐนั้นๆ
ไม่ได้แ่บ่งแยกทางเชื้อชาติ (ประชาชนคือผู้ที่มีสิทธิทางการเมือง สมัครหรือลงคะแนนเลือกตั้งได้ ส่วนพลเมือง
คือผู้ยังไม่มีสทธิทางการเมือง เช่นเด็ก คนบ้า) สิ่งที่คุณพูดถึงคือการมีสิทธิในความเป็นคนไทย
       ในความจริง ราชอาณาจักรไทยเพิ่งจะเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการปกครองรวมศูนย์เป็นรัฐเดียว
เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่เกิดและอยู่มานับแต่ช่วงนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนสยาม คนจีน คนลาว คนเขมร คนล้านนา
คนมลายูหรือแม้กระทั่งคนมอญฯลฯ ย่อมมีความเป็นคนไทยอย่างเท่าเทียมกัน
ย่อมมีความรักชาติ รักแผ่นดินสยามไม่ต่างกัน สำนึกของความเป็นชาติไทยย่อมไม่น้อยกว่ากัน
        เพราะก่อนนั้น ยังไม่มีรัฐสยามอยู่ในประชาคมโลก ที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม
หรือยุคประวัติศาสตร์สมัยใหม่ แต่หลังจากมีการรวมเมือง อาณาจักรต่างๆขึ้นเป็นรัฐสยาม ประวัติศาสตร์
ของประเทศสยามก็เรืมต้นตั้งแต่นั้น
ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #9 เมื่อ: 19-01-2008, 00:28 »

ลิ้มรสเมนูลูกครึ่ง “มะกะโรนีหมูผัดพริก” / กุ๊กเล็ก






        กินข้าวกันทุกวันๆ เบื่อกันบ้างไหม วันนี้มาเปลี่ยนจากข้าวเป็นอาหารประเภทเส้นอย่างมะกะโรนีกันบ้างดีกว่า “กุ๊กเล็ก” มีเมนู “มะกะโรนีหมูผัดพริก” มาแนะนำ เป็นเมนูลูกครึ่งที่เอาเส้นมะกะโรนีอาหารของชาวอิตาเลียนมาผสมกับรสชาติแบบไทยๆ อย่างหมูผัดพริก แต่ก็ให้รสชาติถูกปาก เป็นการผสมผสานกันได้อย่างลงตัวทีเดียว
       
       ส่วนผสม       
       เส้นมะกะโรนีต้มสุก 2 ขีด
       เนื้อหมู 1 ขีด
       กระเทียม 1 หัว
       พริกขี้หนู 4-5 เม็ด
       หอมหัวใหญ่ 1/2 ลูก
       มะเขือเทศ 1/2 ลูก
       ซีอิ้วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
       น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
       น้ำตาล 1/2 ช้อนชา

       
       วิธีทำ เริ่มจากเทน้ำมันพืชลงในกระทะรอให้ร้อน จากนั้นนำกระเทียมและพริกขี้หนูมาสับให้ละเอียดแล้วลงไปผัดในกระทะให้หอมฟุ้งจนคนข้างๆ จามฮัดเช้ย แล้วจึงนำหมูลงไปผัดด้วยจนสุก แล้วปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาลจนรสชาติอร่อยดีแล้ว จึงโรยด้วยหอมหัวใหญ่และมะเขือเทศที่หั่นเอาไว้เป็นรูปครึ่งวงกลม ผัดต่อจนเข้ากันดี แล้วจึงนำมาราดบนเส้นมะกะโรนี เป็นอันได้อาหารมื้อเด็ดในวันหยุดสุดสัปดาห์ให้คนในครอบครัวกินกัน
 
: อาหย่อย..เหาะ
บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #10 เมื่อ: 19-01-2008, 00:33 »

“พิซซ่า Vegetarian”บางกรอบ ถูกปาก / กุ๊กเล็ก




“พิซซ่า” จัดว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารต่างชาติยอดนิยม ที่นักกินชาวไทยพิสมัยการลิ้มรสพิซซ่าร้อนๆ ที่แป้งบางกรอบ แน่นนุ่ม มีชีสยืดๆ และมีหน้าสารพัดหน้าให้ได้เลือกลิ้มรสชาติกัน
       
       ในมื้อนี้ “กุ๊กเล็ก” เลยขอนำเสนอเมนูพิซซ่าให้บรรดาคนชอบกินพิซซ่าได้ลองไปทำกินกันเองที่บ้าน เป็น “พิซซ่า Vegetarian” ที่ไม่มีเนื้อสัตว์ แต่เน้นใส่เครื่องเป็นพวกผักและเห็ด ซึ่งเราไปได้สูตรการทำพิซซ่าหน้านี้มาจากห้องอาหารอิตาเลี่ยน วีวาวีโน โรงแรม แกรนด์เมอร์เคียว ปาร์คอเวนิว (สุขุมวิท 22 )
       
       ส่วนผสมที่ต้องเตรียมมีดังนี้
       
       แป้งพิซซ่า 2 ขีด (แบบที่มีขายกันทั่วไป)
       ซอสมะเขือเทศ 1½ ขีด
       มอสซาเรลล่าชีส 2 ขีด
       อาติโช้ค 1 ขีด
       มะกอกดำ 1 ขีด
       เห็ดชิตาเกะ ½ ขีด
       แตงกวาญี่ปุ่น  1 ขีด (หรือใช้ซูกินี่ก็ได้)
       มะเขือม่วง 1 ขีด
       พริกยักษ์ย่าง 1 ขีด
       ผักร็อกเก็ต (สำหรับโรยหน้า)

       
       สำหรับขั้นตอนการทำพิซซ่าไม่ได้ยุ่งยากเลย เริ่มจากตีแป้งพิซซ่าให้เป็นแผ่นกลมๆ จากนั้นเติมซอสมะเขือเทศ และ มอสซาเรลล่าชีสลงไป แล้วจึงโรยหน้าพิซซ่า ด้วยเห็ดชิตาเกะ มะกอกดำ อาติโช้ค แตงกวาญี่ปุ่น (หรือซูกินี่ก็ได้) มะเขือม่วง และ พริกยักษ์ย่าง จากนั้นก็นำเข้าเตาอบอาหาร (ที่ไม่ใช่ไมโครเวฟ) ด้วยความร้อนประมาณ 200 องศาเซลเซียส อบนาน 3-4 นาที เมื่อครบกำหนดเวลาก็จะได้ “พิซซ่า Vegetarian” ร้อนๆ หอมกรุ่น นำออกมาโรยหน้าด้วยผักร็อกเก็ต และตัดแบ่งเป็นชิ้นๆ พร้อมเสิร์ฟ ลิ้มรสพิซซ่าที่แป้งบางกรอบ อร่อยถูกปากกันไป
บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #11 เมื่อ: 19-01-2008, 00:37 »

สดชื่นรับปีใหม่ กับเครื่องดื่ม "ซานต้า มาร์เวล" / กุ๊กเล็ก


      ใกล้จะปีใหม่แล้ว มีใครเตรียมตัวไปเที่ยวไหนกันหรือเปล่า บางคนอาจจะกำลังเก็บกระเป๋าเตรียมตัวเดินทาง แต่สำหรับบางคนที่เบื่อกับการเบียดเสียดผู้คนตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็อาจจะเลือกการฉลองปีใหม่ด้วยการเชิญเพื่อนฝูงที่สนิทสนมหรือเพื่อนบ้านใกล้เคียงมาจัดปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันก็น่าสนุกดี
       
       และเพื่อให้งานปาร์ตี้นี้มีสีสันมากขึ้น "กุ๊กเล็ก" ก็มีเมนูเครื่องดื่มที่ดื่มกันได้ทุกเพศทุกวัย ได้รสชาติสดชื่นจากสตรอเบอร์รี่ นั่นก็คือเครื่องดื่ม "ซานต้า มาร์เวล" ที่ได้สูตรมาจากร้านอาหาร "บั๊ก แอนด์ บี" มาฝาก
       
       ส่วนผสม
       
       สตรอเบอร์รี่ 3-4 ลูก
       ราสป์เบอร์รี่ 3-4 ลูก
       น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
       สาคูใบเตย 1 ขีด
       สตรอเบอร์รี่ (สำหรับตกแต่ง) 1 ลูก
       วิปปิ้งครีม
       ใบสะระแหน่ (สำหรับตกแต่ง)

       
       วิธีทำ นำเม็ดสาคูที่ต้มสุกแล้วใส่ลงในแก้วที่เตรียมไว้ จากนั้นนำผลสตรอเบอร์รี่และราสป์เบอร์รี่ น้ำมะนาว และน้ำแข็งมาปั่นเข้าด้วยกัน ปั่นจนเนียนแล้วจึงเทลงในแก้วที่ใส่สาคูไว้แล้ว เพื่อตัดความเปรี้ยวของเครื่องดื่มก็บีบวิปปิ้งครีมลงบนส่วนผสมนั้น ตกแต่งด้วยผลสตรอเบอร์รี่และใบสะระแหน่ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ได้ "ซานต้า มาร์เวล" เครื่องดื่มแสนสดชื่นไว้ต้อนรับปีใหม่อันสดใสที่กำลังจะมาถึงของผู้อ่านทุกท่าน
บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 19-01-2008, 00:53 »

แต่ละอย่างน่ากินทั้งนั้น 

แล้วถ้าเกิดมีคนอยากทำอย่างที่ลูกหิน เอามาให้ดู
โดยเอาส่วนผสมทั้งหมดใส่พร้อมกันไปทีเดียว
แล้วบอกว่าส่วนผสมก็เหมือนในสูตรทุกอย่าง 
เมื่อทำออกมาแล้วมันก็น่าที่จะได้ผลลัพธ์เหมือนกัน
ไม่เห็นจะต้องมีวิธีทำใส่โน่นก่อนนี่หลังให้มันยุ่งยาก
ใส่พร้อมกันทีเดียวนี่ละ เพราะทุกอย่างต้องเท่าเทียมกัน

ไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างที่เค้าบอกมั้ยฮะ 
บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
หน้า: [1]
    กระโดดไป: