งัดข้อ เล่นข่าวพาดหัว วังวนทางการเมืองของปชป.

[********Q********]

“สุเทพ” เชื่อ “ไชยวัฒน์” ถอนฟ้องเลือกตั้ง ตามมติพรรค
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 มกราคม 2551 13:00 น.
 
 
 
สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
 
 
       เลขาฯ ปชป.เชื่อ “ไชยวัฒน์” มีเหตุผล ให้เวลาถอนฟ้องเลือกตั้งโมฆะตามจุดยืนพรรค ยังมีความหวังส่งผู้สมัครลงสู้ศึกเลือกตั้งซ่อมโคราช ปฏิเสธร่วมรัฐบาลพลังแม้วเพื่อความสมานฉันท์
       
       วันนี้ (11 ม.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 บุรีรัมย์ ยื่นฟ้องร้องต่อศาลฎีกาเพื่อให้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นโมฆะว่า พรรคได้คุยกับนายไชยวัฒน์และอธิบายไปแล้ว แต่กรณีนี้ก่อนที่นายไชยวัฒน์จะยื่นฟ้องต่อศาล นายไชยวัฒน์ได้หารือกับเพื่อนฝูงที่เคารพนับถือที่ไม่ได้อยู่ในพรรค โดยนายไชวัฒน์ได้ขอเวลาที่จะไปอธิบายชี้แจงกับกลุ่มคนเหล่านั้นที่ร่วมคิดร่วมทำกันมา ซึ่งพรรคเองก็ให้เวลานายไชยวัฒน์
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวโน้มนายไชยวัฒน์จะมีการถอนฟ้องหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เฉพาะประเด็นเรื่องการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ตนคิดว่านายไชยวัฒน์ก็คงจะเข้าใจว่าพรรคมีจุดยืนอย่างไร เมื่อถามว่าหากนายไชยวัฒน์ไปพูดคุยกับเพื่อนที่ร่วมคิดทำกันมาแล้วไม่เห็นด้วยที่จะให้ถอนฟ้องอย่างที่พรรคต้องการจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่างเพิ่งไปคิดอย่างนั้น ให้ดูไปวันต่อวันก่อน เมื่อถามว่า นายไชยวัฒน์ระบุว่าจะต้องรอดูศาลว่าจะวินิจฉัยอย่างไรก่อน ขณะนี้ยังไม่สามารถตัดสินใจอะไรล่วงหน้าได้ นายสุเทพ กล่าวว่า เราก็รอดูต่อไป ต้องให้โอกาสและให้เกียรตินายไชยวัฒน์ด้วย
       
       “สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มีอิสระที่จะทำกิจกรรมทางการเมือง แต่ถ้าบางเรื่องที่ไม่ตรงกับจุดยืนของพรรคก็ต้องมาปรับให้ตรงกัน ได้คุยไปหนเดียว หลายวันแล้ว นอกนั้นก็มีผู้บริหารพรรคท่านอื่นๆ ไปพูดคุย อย่างไรก็ตาม นายไชยวัฒน์เป็นคนมีเหตุผล และพรรคเองก็มีเหตุผลก็คุยกันได้ ไม่มีปัญหา อย่าเพิ่งไปคาดการณ์อะไรในแง่ร้าย ต้องหัดคาดการณ์ในแง่ดี อย่าเพิ่งไปคำนวณท่าทีเอาเอง เดี๋ยวนายไชวัฒน์ ก็บอกเองว่าจะทำอย่างไร ผมไม่คิดว่าจะมีปัญหา”
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า นายไชยวัฒน์ได้แสดงความอึดอัดใจกับสิ่งที่พรรคให้ทำบ้างหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี นายไชวัฒน์เข้าใจเหตุผลของพรรคดี เพียงแต่ขอเวลาเท่านั้น เมื่อถามว่า วันนี้จะสอบถามไปยังนายไชยวัฒน์อีกรอบหรือไม่ หลังมีคำตัดสินของศาลออกมา นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องรอให้นายไชยวัฒน์ติดต่อกลับมา
       
       นายสุเทพกล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ว่าพรรคพยายามที่จะส่งผู้สมัครของเราลงเลือกตั้งในเขตต่างๆ ที่คิดว่ามีศักยภาพ บางพื้นที่ที่สู้ไม่ได้จริง ก็จนปัญญาก็จะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด โดย มีทีมงานนายไกรศักดิ์ ชุณะหวัณ นายสมเกียรติ์ พงษไพบูลย์ พล.อ.วินัย สมพงษ์ ส.ส.ระบบสัดส่วนของพรรคดูแลอยู่ ส่วนที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้เดินทางไปลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ต้องทำอะไรตามนายสมัคร คนละอย่าง
       
       “แต่ก็จะพยายามทำให้ได้ แต่อย่าเพิ่งไปประเมิน วันนี้ต้องไม่คุย เอาราคาจริง ไม่กี่วันก็รู้แล้ว” เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคพลังประชาชนยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่คุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ยังไม่ถึงเวลา
       
       ส่วนแนวคิดของ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เสนอว่า ถ้าจะให้เกิดความสมานฉันท์แล้วปัญหาของบ้านเมืองลดน้อยลงก็ให้มีรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมกับรัฐบาลพรรคพลังประชาชน นายสุเทพ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็จะฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่พรรคจะตัดสินใจ วันนี้เรายังอยู่ที่จุดยืนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

 
 

[********Q********]

“ไชยวัฒน์” ยันฟ้องล้มเลือกตั้งไม่เกี่ยวกลุ่มพันธมิตรฯ 
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 มกราคม 2551 15:48 น.
 
 
   
ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
 
 
       “ไชยวัฒน์” ไม่รับปากถอนฟ้องล้มเลือกตั้งเป็นโมฆะตามข้อเสนอมติพรรค แจงเหตุฟ้องเพื่อต้องการยุตินอมินี ไม่เกี่ยวกับกลุ่มพันธมิตรฯ ด้านว่าที่ ส.ส.เชาวริน ทำตัวเป็นข่าว โผล่มอบดอกไม้ชื่นชม “มาร์ค” ฐานแสดงจุดยืนทางการเมืองดี
       
       วันนี้ (11 ม.ค.) นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ 1 ในผู้ฟ้องร้องต่อศาล เพื่อให้วินิจฉัยว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค.2550 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และให้เพิกถอนการนับคะแนนเสียงในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 เป็นโมฆะ กล่าวว่า จะนำข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ที่ขอให้ถอนฟ้อง และการพิจารณาของศาลฎีกาในวันนี้ (11 ม.ค.) เสนอต่อคณะทนายความที่ดำเนินการคดีนี้เพื่อตัดสินใจร่วมกันอีกครั้ง เพราะต้องให้เกียรติทั้งนายอภิสิทธิ์ และทนายความ อย่างไรก็ตาม ตนไม่รู้สึกอึดอัดใจต่อข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ แต่ยอมรับว่าเสียงของประชาชนมีทั้งเห็นด้วยให้ถอน และให้ยืนหยัดต่อไป
       
       นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มองกันว่าการเคลื่อนไหวของตนเป็นเกมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเดิมนั้น ตนคิดว่าไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะที่ฟ้องร้องเรื่องนี้เพื่อต้องการให้ได้ข้อยุติเรื่องนอมินี เนื่องจากมีการพูดกันไปมา ส่วนที่ต้องการให้ปรองดองกันนั้น ขอยึดพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ต้องปรองดองกับคนดี เพื่อหยุดคนไม่ดีเข้าสู่อำนาจ
       
       “วันนี้ผมเชื่อโดยสุจริตใจว่าผมอยู่ฝ่ายคนดีที่จะหยุดคนที่ใช้อำนาจนอกลู่นอกทาง ใช้วิธีการไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายบัญญัติ เพื่อให้ได้อำนาจทางการเมือง ซึ่งตามคำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญ ได้ตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี เพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย แต่สุดท้ายก็ไม่เคารพกัน เอาสีข้างเข้าถู บ้านเมืองก็มีปัญหา แล้ววันนี้จะให้คนที่เคารพกฎเกณฑ์บ้านเมือง ไปจับมือคนเอาสีข้างเข้าถูได้อย่างไร ดังนั้น เราต้องหยุดคนเอาสีข้างเข้าถูเพื่อให้บ้านเมืองไปได้” นายไชยวัฒน์ กล่าว
       
       นายไชยวัฒน์ กล่าวอีกว่า การดำเนินการเรื่องนี้ยึดถือแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ที่ว่า ประโยชน์ของประชาชนต้องมาก่อน แต่ที่ฟ้องโดยไม่รอผ่านกระบวนการของพรรค เพราะเป็นเรื่องฉุกละหุก ต้องการให้มีการดำเนินการก่อนเทศกาลปีใหม่ที่มีวันหยุดหลายวัน และเกรงว่าหากปล่อยไว้แล้ว กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง นำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลจะไม่เป็นผลดีต่อบ้านเมือง
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.45 น. ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วนของพรรคพลังประชาชน ได้เดินทางมามอบแจกันดอกไม้ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแสดงความชื่นชมนายอภิสิทธิ์ที่ได้แสดงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์จากการให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) ที่ยืนยันว่าให้พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดจัดตั้งรัฐบาล และให้นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ ถอนฟ้องประเด็นที่ให้ศาลฎีกาเพิกถอนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา โดยนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้รับมอบแจกันดอกไม้ดังกล่าวแทนนายอภิสิทธิ์ที่ติดภารกิจนอกพรรค
       
       ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า ตนได้โทรศัพท์ไปพูดคุยนายอภิสิทธิ์แล้วว่าตนจะนำดอกไม้มามอบให้ ซึ่งนายอภิสิทธิ์แจ้งว่ามีนัดหมายข้างนอก จึงต้องให้นายอลงกรณ์รับแทน ถือเป็นไมตรีจิตที่ตนต้องขอบคุณนายอภิสิทธิ์ ทั้งนี้ ตนเดินทางมาเป็นการส่วนตัวและซื้อดอกไม้ด้วยเงินของตัวเอง ไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชาชน เพื่อแสดงความชื่นชมนายอภิสิทธิ์ที่ได้แสดงท่าทีซึ่งน่ายกย่องและถือเป็นภาพการเมืองในแนวทางสมานฉันท์และการสร้างความปรองดอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีสำหรับอนาคตของประเทศ ดีกว่าการทำงานการเมืองแบบการโยนก้อนหินใส่กัน ถ้ามีดอกไม้ให้กันบ้างก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี ตอนนี้น่าจะหมดยุคของการเล่นการเมืองแบบเอาเป็นเอาตายเหมือนในอดีตได้แล้ว ควรมาทำงานการเมืองแบบเป็นมิตรดีกว่า
       
       เมื่อถามว่า คิดว่าประชาชนจะมองเรื่องนี้ว่ากลายเป็นละครทางการเมืองหรือไม่ เพราะในการหาเสียงมีการวิพากษ์วิจารณ์ต่อกันอย่างรุนแรง แต่ตอนนี้ก็มามอบดอกไม้ให้กัน ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า ประชาชนเข้าใจดีกว่านักการเมืองเสียอีก เวลาหาเสียงพวกตนก็จำเป็น ถ้าตนไปขึ้นเวทีพูดยกย่องเทิดทูนว่าอีกฝ่ายดีวิเศษอย่างไรแล้วตนจะมาสมัครแข่งกับเขาทำไม ดังนั้น เมื่อขึ้นเวทีพูด เราก็ต้องนำสิ่งที่เขาบกพร่องหรือสิ่งที่เขาทำแล้วสร้างความเสียหายมาอภิปรายปราศรัยกัน เพื่อชี้ให้ประชาชนเห็นและตัดสิน แต่เมื่อการเลือกตั้งผ่านไปแล้วก็ควรหยุดแล้วหันมาร่วมมือกันทำงานเพื่อประเทศ

 
 

[********Q********]

อภิสิทธิ์และเทพเทือก จะหน้าแตกมติพรรค

หรือชัยวัฒน์ จะลากถึงรอศาล มาดูกัน..

55555

[********Q********]

ส้มมาอีกผล..

เด็ก “ประสงค์” ยื่นศาลฎีกาเพิกถอนผลการเลือกตั้ง
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000005866
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 15 มกราคม 2551 17:46 น.
 
 
       เด็ก “ประสงค์” ยื่นศาลฎีกาเพิกถอนผลการเลือกตั้ง พร้อมหลักฐานภาพถ่าย-ซีดี มัดการเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ชอบด้วย กม.เปิดโอกาสให้มีการทุจริตกันอย่างสะดวก ไม่มีระบบควบคุมตรวจสอบ
       
       วันนี้ (15 ม.ค.) นายกฤษศักดา วัฒนพงษ์ ทนายความในคณะทำงานของ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงว่า ตนได้ยื่นร้องต่อศาลฎีกาแผนกเลือกตั้ง คดีหมายเลขดำเลขที่ ลต.5/2551 ลงวันที่ 14 ม.ค.ว่า การเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 15-16 ธ.ค.เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. มาตรา 95 ขัดกับพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง และเป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรมให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
       
       นายกฤษศักดา กล่าวว่า เนื่องจากการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันดังกล่าวมีการอนุญาตไว้ล่วงหน้าการลงคะแนนเสียงและอนุญาตหลังจากลงคะแนนเสียงแล้ว โดยไม่มีการตรวจสอบหรือสอบสวนถึงความจำเป็นในการที่จะลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้า และได้มีการดำเนินการทั่วประเทศ อาทิ ในเขตเลือกตั้งที่ 6 กทม.มีการจัดเตรียมแบบฟอร์มเป็นแบบคำขอใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าของคณะกรรมการประจำที่เลือกตั้งกลาง ในเขตเลือกตั้ง และในแบบคำขอดังกล่าวได้มีประธานกรรมการประจำที่เลือกตั้งกลางลงลายมือชื่ออนุญาตให้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ณ ที่เลือกตั้งกลางในเขตเลือกตั้งได้วางเรียงบนชั้นมีจำนวนมาก
       
       ผู้ใช้สิทธิสามารถหยิบไปลงคะแนนได้ทันที จึงเห็นว่า การขอใช้สิทธิล่วงหน้ายังไม่มีการตรวจสอบก่อนวินิจฉัยอนุญาตแต่อย่างใด แต่ขณะที่ในเขต 7 กทม.ที่มีการนำแบบฟอร์มที่ยังไม่มีการอนุญาตจากประธานกรรมการประจำที่เลือกตั้งอนุญาตล่วงหน้า วางเรียงให้ผู้ใช้สิทธินำไปลงคะแนนเสียง โดยมีการอนุญาตในภายหลังการเลือกตั้งแล้ว ซึ่งตนที่มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายและซีดี อย่างชัดเจน
       
       “การดำเนินการดังกล่าวจึงเป็นการเปิดโอกาสให้มีการทุจริตกันอย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นให้สิ่งจูงใจทั้งทรัพย์สินและเงินทอง และขนคนมาลงคะแนนจากผู้ที่ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง จึงถือได้ว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าไม่มีระบบควบคุมตรวจสอบ เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีสิทธิมาลงคะแนนได้โดยไม่จำกัดจำนวน และเป็นการเลือกตั้งล่วงหน้าทั่วประเทศทุกเขต
       
       และยังมีการนำบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าไปนับรวมกับวันเลือกตั้งทั่วประเทศด้วย เท่ากับว่า การเลือกตั้งทั้ง 3 วันไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น จึงขอให้เพิกถอนการเลือกตั้งล่วงหน้า และการเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค.และเพิกถอนการรับรอง ส.ส.ที่ดำเนินการไปแล้วและส่วนที่ยังไม่ได้รับรองด้วย
       
       ทั้งนี้ นายกฤษศักดา ยืนยันว่า การยื่นคำร้องของตนเป็นคนละกรณีกับที่มีการยื่นฟ้องให้เพิกถอนผลการเลือกตั้งล่วงหน้า ที่ระบุเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต) ว่า ไม่มีอำนาจในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ แต่กรณีของตนเป็นเรื่องของการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ โดยศาลจะนัดฟังคำสั่งวันที่ 21 ม.ค.นี้ เวลา 10.00 น.
 
 

[********Q********]

ไชยวัฒน์” ยอมลาออก ไม่ยอมถอนฟ้องเลือกตั้งโมฆะ  
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000007326
 
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 มกราคม 2551 13:53 น.
 
 
   
ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
 
 
       “ไชยวัฒน์” โบกมือลาพรรคประชาธิปัตย์ หลังไม่ยอมถอนฟ้องประเด็นเลือกตั้งเป็นโมฆะตามมติพรรค ด้าน “สุเทพ” ระบุเหตุการฟ้องร้องดังกล่าวไม่ใช่เป็นจุดยืนพรรค
       
       
       วันนี้ (18 ม.ค.) นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จ.บุรีรัมย์ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า วันนี้ตนได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ ตามที่ตนได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคพลังประชาชน ขอให้ศาลมีคำสั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และขอให้มีคำสั่งให้เพิกถอนการเลือกตั้ง การนับคะแนนล่วงหน้า แต่ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ได้แจ้งให้ตนถอนฟ้องในเฉพาะข้อหาให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และต่อมาก็ได้แจ้งให้ตนลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค แต่ตนไม่ยอมถอนฟ้อง จึงได้พิจารณาแล้วว่าจะขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งอ่านคำพิจารณาคดีดังกล่าวเสร็จสิ้นเป็นต้นไป
       
       “ผมขอขอบคุณเลขาธิการพรรคที่เปิดโอกาสให้ผมได้มีโอกาสมาปฏิบัติงานทางการเมืองอีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นช่วงระยะเวลาเพียงสั้นๆ ก็ตาม รวมทั้งหัวหน้าพรรค และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคด้วย ผมจึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งผมได้ยื่นใบลาออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยอมรับว่าผมพยายามประคองภารกิจนี้ให้มาถึงวันนี้ให้ได้ ดังนั้น เมื่อภารกิจเสร็จแล้วก็ต้องสนองตอบ ต่อท่านเลขาธิการพรรคที่ขอให้ผมถอนฟ้องหรือลาออก ซึ่งผมก็ตัดสินใจที่จะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ผมรักษาคำมั่นสัญญาที่อยากให้ผมยื่นใบลาออกและหลังจากนี้จะขอไปทำงานเกี่ยวกับด้านสุขภาพ ส่วนจะหวนกลับมาทางด้านการเมืองอีกหรือไม่นั้นผมยังตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของอนาคต” นายไชยวัฒน์ กล่าว
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุผลที่ลาออกเพราะโดนกดดันจากผู้ใหญ่ในพรรคใช่หรือไม่ นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ตนได้ตัดสินใจว่าการไปฟ้องร้องครั้งนี้เป็นเรื่องที่หนักหนาพอสมควร แต่เมื่อตัดสินใจที่จะทำให้บ้านเมืองก็ต้องยอมรับสภาพทุกอย่าง ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หรือม่ นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า “ผมไม่ได้หารือกับหัวหน้าในเรื่องนี้ มีแต่ผ่านคนอื่น”
       
       ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนยอมรับว่าได้ยื่นข้อเสนอให้นายไชยวัฒน์ถอนฟ้องเฉพาะข้อหาให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ หรือถ้าไม่ถอนฟ้องทางพรรคก็มีมติให้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งนายไชยวัฒน์ยืนยันที่จะไม่ถอนฟ้อง และเลือกที่จะลาออก โดยจะมีผลในวันที่ 18 ม.ค.นี้ ซึ่งตนเห็นว่ากรณีที่นายไชยวัตน์ฟ้องศาลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะนั้นไม่ใช่จุดยืนของพรรค และถ้าจะฟ้องก็ควรฟ้องก่อนการเลือกตั้ง
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายไชยวัฒน์ระบุว่าขอให้การลาออกดังกล่าวมีผลภายหลังจากศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาคดีของนายไชยวัฒน์ คิดว่าจะเป็นการทำเพื่อให้พรรคยื้อให้อยู่กับพรรคต่อไปหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า “ใครจะยื้อก็ยื้อไป ยังไงผมก็ไม่สน คนไม่มีวินัยก็อยู่ร่วมกับเพื่อน กับพรรคไม่ได้”

 

ชอบอ้างมติพรรคจังเลย มันประชุมกันตอนไหนหว่า?

[********Q********]

ศาลยกคำร้องเลือกตั้งล่วงหน้าโมฆะ-ลุ้นนอมินี 16.00 น.วันนี้
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000007395

 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 มกราคม 2551 15:22 น.
 
 
   
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ 
 
 
       ศาลฎีกาฯยกคำร้องคดีเลขาธิการพรรคความหวังใหม่ ฟ้องการเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นโมฆะ โดยระบุ กกต.ทำตามหน้าที่ ขณะที่รอลุ้นอีกคดี “พรรคพลังประชาชน” เป็นนอมินีไทยรักไทย ไม่มีสิทธิส่งผู้สมัคร ส.ส.เวลา 16.00 น.
       
       วันนี้ (18 ม.ค.) ที่ศาลฎีกา ท้องสนามหลวง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น.ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ได้ขึ้นบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่ นายสราวุท ทองเพ็ญ เลขาธิการพรรคความหวังใหม่ยื่นคำร้องขอให้สั่งให้การเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค.2550 ที่ผ่านมา เป็นโมฆะ โดยศาลได้พิจารณาให้ยกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ทำตามหน้าที่
       
       ศาลได้พิจารณาเห็นว่า ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.พ.ศ.2550 มาตรา 95 ได้ให้สิทธิแก่ กกต.ในการออกระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ โดยให้ประชาชนที่ไม่สามารถไปลงคะแนนตามกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปได้ ก็สามารถไปลงคะแนนเลือกล่วงหน้าได้ โดยกำหนดสถานที่และเวลาขึ้นมา ดังนั้นการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค.2550 จึงเป็นไปโดยชอบตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งฯ มาตรา 95
       
       คดีดังกล่าว นายสราวุท ทองเพ็ญ เลขาธิการพรรคความหวังใหม่และอดีตผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วน กลุ่ม 3 ของพรรค ได้ยื่นร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ขอให้สั่งให้การเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นโมฆะ เพราะกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจ กกต.เปิดให้ประชาชนใช้สิทธิล่วงหน้าได้ตามอำเภอใจ ผู้ที่จะใช้สิทธิล่วงหน้าได้ต้องมีเหตุจำเป็นจริงๆ เท่านั้น การให้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าได้อย่างเสรีทำให้การเลือกตั้งทั่วไปที่ควรมีเพียง 1 วัน คือ 23 ธ.ค.กลายเป็น 3 วัน คือ 15-16-23 ธ.ค.ทั้งนี้ หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งรับคำร้องของ นายสราวุท แล้ว ได้นัดไต่สวนเมื่อวันที่ 11 ม.ค.และนัดฟังคำสั่งคดีในวันนี้
       
       อย่างไรก็ดี ยังมีอีกคดีสำคัญที่ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ ของพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นฟ้องใน 4 ประเด็น คือ พรรคพลังประชาชน เป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย และ นายสมัคร เป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย รวมทั้งในประเด็นที่ให้การเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเป็นโมฆะ โดยศาลนัดอ่านคำพิพากษาในเวลา 16.00 น.
       
       รายละเอียดอีกสักครู่

 
 
เทพเทือก อภิสิทธิ์ ชวน เอาแต่อ้างพรรค เดี๋ยวก็มีคนลาออกอีก ถ้าพวกนี้ไม่ออก ใครจะเป็นรายต่อไป? อภิรักษ์??

[********Q********]

มารอดูชัยวัฒน์ จะไปเข้าพรรคใดต่อไป?

หรือจะเป็น ละครชีวิต บทถนัดของพรรคนี้

[********Q********]

มารอดูชัยวัฒน์ จะไปเข้าพรรคใดต่อไป?

หรือจะเป็น ละครชีวิต บทถนัดของพรรคนี้

“ไชยวัฒน์” ลั่นฟ้อง “พลังแม้ว” นอมินี ต่อผู้ตรวจการฯ
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000011784
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 มกราคม 2551 14:36 น.
 
 
   
ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
 
 
       “อดีต ส.ส.ปชป.” ยังคงเดินหน้าเอาผิด “พลังแม้ว” เชื่อเป็นนอมินี “ทรท.” เตรียมยื่นหลักฐานต่อผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา คาดหวังจะไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจมืด ลั่นสู้เต็มที่ แต่หากกลไกไม่เอื้อ สุดท้ายคงต้องพึ่งศาลพระภูมิ
       
       วันนี้ (29 ม.ค.) นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 บุรีรัมย์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีฟ้องร้อง กรณีที่พรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นพรรคที่ถูกยุบตามคำสั่งของตุลาการรัฐธรรมนูญ ว่า ตนและคณะทนายได้หารือกันและได้ข้อสรุปแล้วว่า จะดำเนินการต่อในคดีดังกล่าว โดยจะไปยื่นเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาให้ตรวจสอบ ว่า พรรคพลังประชาชน เป็นนอมินีพรรคไทยรักไทยหรือไม่ คาดว่า ประมาณวันที่ 3 ก.พ.จะดำเนินเรื่องได้ ซึ่งระหว่างนี้ตนและทีมงานจะเร่งรวบรวมเอกสาร ข้อมูล หลักฐานต่างๆ เพิ่มเติมจากที่เคยยื่นที่ศาลฎีกาไปแล้ว เพื่อให้มีความครอบคลุมและครบถ้วน ส่วนที่จะไปยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือไม่นั้นจะหารือกับคณะทนายภายหลัง
       
       เมื่อถามว่า มั่นใจในกระบวนการว่าจะสามารถเดินเรื่องได้หรือไม่ นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นตนมั่นใจว่าจะทำได้ และคิดว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาจะไม่ตกอยู่ใต้อำนาจมืดใดๆ ทั้งนี้ ตนอยากเรียกร้อง ให้ผู้ที่มีหน้าที่ดำเนินการอย่างรวดเร็ว อย่าทำงานแบบขอไปที
       
       “ผมในฐานะประชาชนที่มีสิทธิ์และเป็นผู้เสียหาย ก็จะทำอย่างเต็มที่ แต่ผลออกมาจะเป็นอย่างไรก็พร้อมยอมรับสภาพ ก็ได้แต่ภาวนาว่าหลังจากที่ตนยื่นเรื่องเจ้าหน้าที่ก็จะเร่งทำงาน ไม่ตกอยู่ใต้การครอบงำของนักการเมืองพรรคใด แต่ท้ายสุดแล้วทำให้ไม่ได้ คงมีศาลเดียวที่ผมจะพึ่งได้ คือ ศาลพระภูมิ” นายไชยวัฒน์ กล่าว