ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
24-04-2024, 07:52
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  กองทุนรัฐสภา(รักษาการ) - เงือนเดือนของท่าน & ภาษีของใคร .. กล้ารับ ? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
กองทุนรัฐสภา(รักษาการ) - เงือนเดือนของท่าน & ภาษีของใคร .. กล้ารับ ?  (อ่าน 1873 ครั้ง)
เด็กเตรียม(อนุบาล)
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3


« เมื่อ: 17-05-2006, 00:15 »

ทำอะไรกันบ้างที่ผ่านมา กว่า 2 เดือน และกำลังจะผ่านไป (...ตุลาโน่น!! ??)
เขียนรายงานเสนอผลงาน(ในมโนสำนึก)ก่อนรับตังค์กัน?

จัดทำกองทุน(มีที่มา..สำคัญ=ที่ไป) ให้คนในชาติดีกว่าไหม?

('มาชิกท่านใด บวก-ลบ-คูน-หาร $$$ท่านเหล่านี้ได้บ้าง .. ขอตัวเลข แต่ละเดือน ให้คนไทยรู้หน่อย)

....
เด็กเตรียมสู่รู้

บันทึกการเข้า

อีกหนึ่งธุลีใต้ฝ่าพระบาท
ที่อยากโต ทั้งร่างกาย-ความคิด-จิตใจ
ทำประโยชน์ให้ คนและสังคมไทย ตามคำ(พระราชดำรัส)ที่พ่อสอน
"ขอพระองค์ทรงพระเจริญ"
ฉิกตี๋
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 186



« ตอบ #1 เมื่อ: 17-05-2006, 00:33 »

 ครม.เห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ ครม.คณะที่7ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
ให้ออกพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.)เงินประจำตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธาน ประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ส.ส. ส.ว. และบำเหน็จบำนาญด้วย โดยจะมีผลทันทีที่สำนักงานกฤษฎีกาตรวจสอบแล้วโดยไม่จำเป็นต้องนำเข้าพิจารณาในสภาอีก และให้ครอบคลุมถึง ส.ส. ส.ว. ที่อยู่ในตำแหน่งนับจากวันที่ 11 ตุลาคม 2540 ที่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ย้อนหลังไปกว่า 7 ปี สำหรับรายละเอียดเงินประจำตำแหน่งที่จะปรับเพิ่มมีดังนี้ คือ
ประธานสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นประธานรัฐสภา เดิม มีเงินประจำตำแหน่ง 63,000 เพิ่มเป็น 65,920 บาท บวกเงินเพิ่มอีก 5 หมื่นบาท รวมเงินเดือนใหม่ 115,920 บาท จากเดิมที่ได้รวม 114,000 บาท ทั้งนี้เพื่อให้เทียบเท่ากับนายกรัฐมนตรีเพราะถือเป็นประมุขของหนึ่งในสามอำนาจของระบบประชาธิปไตย ประธานวุฒิสภา มีเงินประจำตำแหน่ง 63,000 บาท เพิ่มเป็น 64,890 บาท บวกเงินเพิ่มอีก 45,500 บาท รวมเงินเดือนใหม่ 110,390 บาท จากเดิมได้ 108,500 บาท ส่วนรองประธานสภาฯ รองประธานวุฒิฯและผู้นำฝ่ายค้าน เดิมได้เงินประจำตำแหน่ง 62,000 บาท เพิ่มเป็น 63,860 บาท บวกเงินเพิ่มอีก 42,500 บาท รวม 106,360 บาท จากเดิมได้ 104,500 บาท
****ส.ส.และ ส.ว. ปรับเงินประจำตำแหน่งจาก 38,500 บาท เป็น 62,000 บาท และปรับเงินเพิ่มจาก 38,500 บาท เป็น 42,330 บาท รวมเงินเดือนใหม่ 104,330 บาท เพิ่มจากเดิมที่ได้ 77,000 บาท คิดเป็นเงินเพิ่มขึ้น 27,330 บาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 35.50% ซึ่งนับว่าได้รับการปรับเพิ่มสูงสุด นอกจากนี้คนเหล่านี้จะได้บำเหน็จบำนาญ ดังนี้ อายุทำงาน 2-3 ปี จะได้บำเหน็จหรือบำนาญ 20% อายุงาน 3-7 ปี ได้ 30% อายุงาน 7-11 ปี ได้ 40% อายุงาน 11-15 ปี ได้ 50% อายุงาน 15-20 ปี ได้ 60% และอายุงาน 20 ปีขึ้นไป ได้บำเหน็จหรือบำนาญ 70% ซึ่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเพิ่มบำเหน็จบำนาญเหล่านี้เป็นการพัฒนาบุคลากร หาก ส.ส.ลาออกมาเป็นรัฐมนตรีก็ให้เลือกรับเงินเดือนหรือบำเหน็จบำนาญของตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งหรือที่มากกว่า


ครม.ยังได้เห็นชอบในหลักการในการปรับเงินประจำตำแหน่งและบำเหน็จบำนาญให้ ครม.ด้วย โดยที่ประชุมเห็นชอบในหลักการให้ได้บำเหน็จบำนาญเท่ากับ ส.ส. ส.ว.แต่ไม่ได้กำหนดกรอบเงินเดือนที่จะปรับเพิ่มไว้ ซึ่งจะต้องรอเสนอเป็น พ.ร.บ.ในสภาสมัยประชุมหน้าอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการเสนอเพิ่มเงินให้ประธานสภาฯจะทำให้ได้รับเงินเดือนเท่ากับนายกรัฐมนตรีที่ปัจจุบันได้เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งอยู่ที่ 115,520 บาท


**นี้หรือเปล่าครับ ข้อมูลที่น้องต้องการ รู้ เอาตัวเลขไปคูณกับอายุสภา ก็แล้วกัน นะครับ****
บันทึกการเข้า
ฉิกตี๋
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 186



« ตอบ #2 เมื่อ: 17-05-2006, 00:43 »

**ต่อให้ครับ ยิ่งฟังยิ่งอยากอ๊วก***


  **อ้างขึ้นเงินเดือนสอดรับแผนปราบคอร์รัปชั่น
       
       นายจักรภพ เพ็ญแข โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่าการเพิ่มเงินให้ ส.ส. ส.ว.ครั้งนี้ถือว่าสอดคล้องกับแผนการกวาดล้างปัญหาคอร์รัปชันของรัฐบาล และเพื่อไม่ให้มีผลประโยชน์ทับซ้อนในอนาคต ถือเป็นการกวาดล้างทำความสะอาดของประเทศ
       
       “ค่าตอบแทนของผู้แทนฯไทยยังอยู่ในอัตราไม่สูงนักเมื่อเปรียบเทียบแล้วผู้นำเขมรยังมีเงินเดือนมากกว่าผู้นำประเทศไทยอีก”
       
       การเสนอออก พ.ร.ฎ.ครั้งนี้ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ได้เสนอให้ ส.ส.ทุกชุดที่เกิดจากรัฐธรรมนูญและมีชีวิตอยุ่ได้รับบำเหน็จบำนาญทุกคน แต่คณะกรรมการเงินเดือนแห่งชาติไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวเพราะเห็นว่าบำเหน็จบำนาญของ ส.ส. ส.ว.เกิดจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มาตรา 229 ที่กำหนดให้ออกเป็น พ.ร.ฎ.ได้ โดยให้เหตุผลว่าผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งดังกล่าวจะต้องละทิ้งอาชีพเดิมและเมื่อพ้นวาระการดำรงตำแหน่งแล้วไม่อาจประกอบอาชีพได้ การกำหนดให้มีบำเหน็จบำนาญก็เพื่อใช้ยังชีพสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวและไม่มีสวัสดิการอื่นมารองรับ ถือเป็นการผดุงเกียรติยศของบุคคลเหล่านี้
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้รุมซักถามโฆษกและรองโฆษกรัฐบาลอย่างหนัก จนนายจักรภพชิงปิดการแถลงข่าวทั้งที่ยังตอบคำถามไม่หมด
       
       รายงานข่าวแจ้งว่า นายกรัฐมนตรีได้บอกกับที่ประชุมครม.ว่า เงินเดือนของผู้แทนฯเมืองไทยน้อยมาก วันนี้ต้องพัฒนาการเมืองและมุ่งเน้นพัฒนาบุคลากร ต้องให้มีเงินเดือนที่มากพอสมควร ต้องปรับสถานะให้ส.ส. และส.ว.อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้คนที่ทุ่มเททำงาน
       
       **นายกฯประกาศข่าวดีต่อส.ส.และส.ว.
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเย็นวานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี พร้อม ส.ส.ของพรรคไทยรักไทย ได้ไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ ในโอกาสปิดสมัยประชุมของวุฒิสภา โดยมี ส.ว.มาร่วมงานประมาณ 120 คน ในงานดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาล และวุฒิสภาได้ทำงานร่วม ครบ 4 ปี ซึ่งในวันนี้ (24 พ.ย.) ขอเชิญ ส.ว.ไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมงานเลี้ยงที่รัฐบาลจัดขึ้นร่วมกับ ส.ส. เพื่อฉลองการทำงานครบ 4 ปีเต็ม ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์การเมืองไทย โดยในงานจะมีการประกาศข่าวดี เกี่ยวกับการขึ้นเงินเดือน เงินบำเหน็จบำนาญแก่สมาชิกรัฐสภา ซึ่งเรียบร้อยแล้ว
       
       นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า วุฒิสภาคงต้องทำหน้าที่ต่อไป เราจะกลับมาพบกันใหม่ ในเดือนกุมภาพันธุ์ 2548 เพราะพวกตนจะต้องไปเลือกตั้งตามกติกา เมื่อเลือกตั้งเสร็จก็จะกลับมาทำงาน โดยรัฐบาลใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นหน้าเดิม โดยเฉพาะตนเอง
       
       "วันนี้เทอม 4 ปีของรัฐบาลครบลงแล้ว และต้องไปเลือกตั้ง ส.ส.บางคนอาจจะสอบได้ หรือสอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับประชาชนตัดสินใจ แต่แน่นอนว่า ส.ส.ชุดนี้จะต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อหาทางกลับมาให้ได้ เพราะเงินเดือนของ ส.ส.ที่จะเพิ่มขึ้นจะมีผลในสมัยหน้า แต่ของ ส.ว.มีผลทันที อีกปีเศษ ส.ว.ยังสามารถทำงานได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว
       
       **ส.ส.รัฐบาลขานรับ ไม่เชื่อจะกระทบพรรค
       
       นายวัฒนา เซ่งไพเราะ ส.ส.กทม. และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับมติดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาส.ส.ทำงานหนัก ดังนั้นการขึ้นเงินเดือนให้ส.ส.จึงเป็นเรื่องที่เหมาะสม ความจริงน่าจะทำมาก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ เพราะรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้โดยเฉพาะเรื่องของบำเหน็จบำนาญที่ควรดูแลสวัสดิการของส.ส.ให้อยู่ในระดับมาตรฐาน โดยหากส.ส.คนใดทำงานอย่างเต็มที่ ก็ควรได้รับค่าตอบแทนอย่างคุ้มค่า เรื่องนี้ไม่น่าจะทำให้กระแสของพรรคตกเพราะครม.เองก็ได้พิจารณากลั่นกรองอย่างเหมาะสมแล้ว อีกทั้งร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวก็จะมีผลบังคับใช้หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า
       
       **ปชป.ระบุขึ้นเงินเดือนหวังแจกเงินหาเสียง
       
       นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การขึ้นเงินเดือนของครม.ในครั้งนี้เห็นได้ชัดเจนว่า ไม่มีเจตนาอื่น นอกจากแจกจ่ายเงินเพื่อหาเสียง เรื่องนี้ฝ่ายค้านเคยพูดมานานแล้วว่าเห็นควรให้มีการขึ้นเงินเดือนโดยเสนอต่อที่ประชุมสภาฯ แต่ควรมีการออกกฎเกณฑ์และระเบียบก่อน แล้วรอให้ครม. และสภาชุดใหม่เข้ามาดำเนินการจะเหมาะสมกว่า
       
       “มาตัดสินใจขึ้นเงินเดือนแบบนี้ทั้งที่เหลืออีกไม่นานก็จะเลือกตั้งแล้ว ผมว่าทำไม่ถูกจังหวะเป็นการแจกเพื่อหาเสียงมากกว่า รัฐบาลใช้เงินหลวงแจกจ่ายไปทั่วเพื่อหาเสียง แล้วตอนนี้ก็มาแจกเพื่อหาเสียงกับส.ส.นี่เป็นอีกตัวอย่างหนี่งของประชานิยม แม้ส.สงทุกคนจะมีส่วนได้เสียกับตรงนี้แต่ก็ควรจะทำให้มันเหมาะสมและโปร่งใสไม่ใช่รีบเร่งทำกันแบบนี้” นายวิทยากล่าว
       
       **ครป.จวกลักไก่-ไม่ยุติธรรมกับประชาชน
       
       นายสุริยะใสส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า ถ้าคำนวณจำนวนเงินเดือน สส.และ สว.ที่เพิ่มขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ถือว่ามากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของฐานเงินเดือนเดิม ไม่ทราบเหมือนกันว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นคิดจากฐานอะไร อยู่ๆ ก็มาลักไก่ขึ้นเงินเดือนให้ตัวเอง หรือว่าเป็นการจ่ายโบนัสก่อนสิ้นปีให้กับบรรดา สส.และ สว. ผู้ทรงเกียรติที่ทำงานค้ำอำนาจรัฐบาล เล่นบทสภาตรายางได้อย่างน่าชื่นชม ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำของชาวบ้านผู้ใช้แรงงานจะเพิ่มครั้งละ 3 บาท หรือ 5 บาท ต้องทำวิจัยหรือมีการศึกษารองรับอย่างเป็นระบบไม่ได้ทำกันง่ายๆ แบบนี้
       
       “รัฐบาลต้องชี้แจงกับประชาชนถึงเหตุผลและความจำเป็น โดยเฉพาะต้องตอบคำถามให้ได้ว่าเงินเดือนหรือเงินประจำตำแหน่งหรือสวัสดิการอื่นๆ ที่ ส.ส.ได้รับในปัจจุบันนั้นไม่เพียงพอหรืออย่างไรไม่ฉะนั้นก็จะเป็นการเอาเปรียบประชาชนในฐานะผู้เสียภาษี ต้องไม่ลืมว่า สส.และ สว. เป็นผู้ที่อาสาตัวเองเข้ามาทำงานให้กับประเทศชาติและประชาชน ถ้าคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ของตนเอง ผมคิดว่าไม่ยุติธรรมกับประชาชน ประการสำคัญ ส.ส.และ ส.ว.ที่ทำหน้าที่ในสภาจริงๆ แล้วมีไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ ประชุมสภาแต่ละครั้งลุ้นให้ครบองค์ประชุมก็ยาก กรรมาธิการบางคนมาเซ็นชื่อรับเบี้ยประชุมแล้วกลับก็มี หาก ส.ส. ส.ว.ทำงานตามหน้าที่จริงๆ และยกระดับหรือพัฒนาการทำงานให้ประชาชนเห็นผลงาน ผมคิดว่าประชาชนก็คงไม่ค้านเรื่องขึ้นเงินเดือนหรือสวัสดิการอื่นๆ”
       
       ส่วนเงินบำเหน็จบำนาญของ สส.และ สว.นั้น ไม่ควรมีเพราะโดยข้อเท็จจริงมีนักการเมืองจำนวนมากใช้ตำแหน่งไปหาประโยชน์อยู่แล้ว และ สส. สว.บางคนไม่ค่อยเข้าประชุมสภา หรือไม่มีผลงาน ซ้ำร้าย สส. สว.บางคนมีพฤติกรรมโกงและไม่มีผลงาน แบบนี้ก็เท่ากับว่านำเอาภาษีประชาชนไปให้กับโจรหรือไม


**ส่วนนี้ แถมให้น้องครับ



โก๊ะจ๊กตง นายกรัฐมนตรี สิงคโปร์เงินเดือน ปีละ26,000,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 2,166,667 บาท
( เคยเป็นผู้นำเงินเดือนแพงที่สุดในเอเชีย คือ 43 ล้านบาท/ปี หรือ 3.58 ล้านบาท/เดือน )

จุนอิชิโร โคอิซูมิ นายกรัฐมนตรี ญี่ปุ่น
เงินเดือน ปีละ 13,200,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 1,100,000 บาท

มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรี มาเลเซีย
เงินเดือน ปีละ 2,795,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 223,000 บาท

ต่งจี้หวา ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ของจีน
เงินเดือน ปีละ 34,320,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 2,860,000 บาท

พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไทย
เงินเดือน ปีละ 1,384,084 บาท เฉลี่ยเดือนละ 115,340 บาท

ส่วน...นี่เป็น รายได้ของคนในรัฐบาล และ คนสำคัญทางด้านเศรษฐกิจของไทย

อุทัย พิมพ์ใจชน ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
เงินเดือน ปีละ 1,302,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 108,500 บาท ( ส.ส.)
เงินเดือนประจำตำแหน่ง ปีละ 756,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 63,000 บาท (ประธานสภา)

วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธ.ไทยพาณิชย์
เงินเดือน ปีละ 14,400,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 1,200,000 บาท

ชาติศิริ โสภณพานิช กรรมการผู้จัดการ ธ.กรุงเทพ
เงินเดือน ปีละ 13,600,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 1,133,334 บาท

วิโรจน์ นวลแข กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ.กรุงไทย
เงินเดือน ปีละ 12,000,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 1,000,000 บาท

ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
เงินเดือน ปีละ 24,000,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 2,000,000 บาท

ธีระชัย ภูวนาทนรานุบาล รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย
เงินเดือน ปีละ 12,000,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 1,000,000 บาท

เกริก วณิกกุล ผู้ช่วย ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย
เงินเดือน ปีละ 9,480,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 790,000 บาท

กนก อภิรดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย
เงินเดือน ปีละ 9,000,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 750,000 บาท
บันทึกการเข้า
นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #3 เมื่อ: 17-05-2006, 05:57 »

เมื่อก่อนงานการเมือง เป็นการเสียสละเข้ามาช่วยบริหาร
ทำงานเพื่อบ้านเมือง เป็นสส สว ได้เกียรติมากกว่าจะสนใจเรื่องเงินๆทองๆ
แต่เดี๋ยวนี้ทำกันเป็นอาชีพ เป็นหลายๆสมัยตั้งแต่หนุ่มจนแก่จนทำอาชีพอื่นกันไม่เป็น
เงินเดือนเมื่อก่อนให้เพื่อเป็นค่ารถ เป็นสินน้ำใจ
เมื่อยึดเป็นอาชีพเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเลยต้องขึ้นเพราะมันไม่พอกิน
 
ไปหาอาชีพอื่นทำมั่งไป๊ ประเทศไทยไม่ได้มีคนเก่งแค่กลุ่มเดียว
บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
เด็กเตรียม(อนุบาล)
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3


« ตอบ #4 เมื่อ: 18-05-2006, 22:24 »

ขอบคุณ คุณฉิกตี๋ ที่ให้ความรู้อ้างอิงได้ตามแจ้ง

วันนี้อ่าน Post' แล้วตรงใจ .. "ทุกข์ของพระองค์"
http://www.posttoday.com/newsdet.php?sec=editorial&id=97519

"วันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จ ที่วังไกลกังวลหัวหิน ต่างพากันน้ำตาไหลพราก เมื่อได้เห็นภาพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจูง คุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยง ไปเดินที่ชายทะเลหัวหิน แต่ทรงยืนเหม่อมองไกลออกไปในทะเล เป็นเวลานานมาก ที่ทรงประทับยืนอยู่อย่างนั้น โดยไม่ตรัสกับใครเลย ...

... ทั้งหมดทั้งปวงเป็นเพราะต่างมุ่งหวังเอาชนะคะคานโดยไม่คำนึงถึงวิบัติที่จะเกิดแก่ส่วนรวม ขณะที่ฝ่ายบริหารซึ่งก็คือรัฐบาลทำตัวไม่แตกต่างจากสภาพเป็ดง่อย หากในยามสันติรุ่งเรืองคงไม่กระไรนัก แต่ในยามที่สังคมกำลังป่วยไข้ โรคภัยเศรษฐกิจรุมเร้า แผ่นดินกำลังทรุดโทรม ในฐานะสื่อมวลชนย่อมอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ควรแล้วหรือ?
เราขอเรียกร้องว่า ถึงเวลาแล้วที่นายกรัฐมนตรี จะทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะทำหน้าที่ของรัฐบาล
เพราะเราชื่อว่า ปัญหาของชาติ ทุกข์ของแผ่นดิน จะแก้ไขได้ต่อเมื่อทุกคนเกิดสำนึกรู้โดยสุจริต ปฏิบัติหน้าที่ และภารกิจอย่างทุ่มเท หาใช่ทอดทิ้งแผ่นดินและหน้าที่เพื่อความสะใจ หรือดื้อรั้นด้วยเหลี่ยมร้าย ทางการเมือง "


กลับมาทำหน้าที่ของตนเพื่อสนองคุณแผ่นดินกันเถอะ


...นัยย์ตายังมีน้ำคลออยู่เลย...

...เด็กเตรียมสู่รู้


บันทึกการเข้า

อีกหนึ่งธุลีใต้ฝ่าพระบาท
ที่อยากโต ทั้งร่างกาย-ความคิด-จิตใจ
ทำประโยชน์ให้ คนและสังคมไทย ตามคำ(พระราชดำรัส)ที่พ่อสอน
"ขอพระองค์ทรงพระเจริญ"
narong
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 18-05-2006, 23:09 »

เราทุกคนในฐานะผู้เสียภาษี ควรอ่านและรักษาสิทธิ เพราะภาษี ของคุณกำลังถูกละลาย ===================
กำลังจะมีการออกกฏหมายนี้ เสียดายเงินภาษี เลือกตั้งได้เป็นสส.หรือสว.แค่สมัยเดียว ก็ได้บำนาญกินไปทั้งชาติแล้ว ใครไม่เห็นด้วย
เขามีเปิดตู้ปณ.ให้ร่วมลงชื่อคัดค้านกฏหมายฉบับนี้ที่
ตู้ปณ. 69 ปณจ.สามเสนใน
เขตพญาไท กรุงเทพ 10400
โดยส่งcopy
บัตรประชาชนแล้วขีดคร่อมด้วยข้อความว่า ร่วมลงชื่อคัดค้านกฏหมายบำเหน็จบำนาญ สส.สว.
เรื่อง คัดค้านการขอบำเหน็จ บำนาญ ให้ข้าราชการการเมือง ส.ส.- ส.ว.
ถึง ประชาชนคนไทยทุกท่าน
เรื่องที่จะมีการออก พระราชกฤษฎีกาให้บำเหน็จบำนาญ ส.ส.-ส.ว. ไม่ทราบว่า
ท่านผู้ทรงเกียรติเหล่านั้นให้สติปัญญาส่วนไหนคิด
และถึงแม้ว่า ในรัฐธรรมนูญจะเปิดโอกาสให้ ข้าราชการการเมืองมีโอกาสได้
แต่ในความเป็นจริงแล้วบรรดาท่านผู้ทรงเกียรติได้คำนึงถึงความเหมาะสมหรือไม่
ท่านผู้ซึ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามา เป็นตัวแทนของประชาชน
ทำหน้าที่ในการออกกฎหมาย และตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร
ท่านมีสิทธิพิเศษ และสวัสดิการมากมาย
ท่านยังจะมาเอาเปรียบประชาชน และข้าราชการประจำอีกหรือ
ท่านคิดได้อย่างไรครับ???     ผมคนนึงละไม่เชื่อหรอกว่า
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิกรัฐสภาแล้ว ท่านจะอดตาย
ในเมื่อท่านมีเงินมาลงสมัคร และหาเสียงเลือกตั้ง
ท่านจะไม่มีเงินเลี้ยงชีพตัวเองเลยหรือ   แต่ละท่านก็ทรงคุณวุฒิทั้งนั้นนี่ครับ
ท่านจะหาเลี้ยงชีพไม่เป็นเลยหรือครับ   แล้วก่อนหน้าที่ท่านจะมาเป็นสมาชิกรัฐสภา
ท่านทำอะไรมาก่อนครับ?   ท่านดูอัตราเงินเดือนของท่านให้ดีนะครับ
บัญชีเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของ  " ส.ว.-ส.ส. "
ตำแหน่ง เงินประจำตำแหน่ง+เงินเพิ่ม ประธานรัฐสภา - 64,000+50,000
ประธานวุฒิสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร - 63,000+45,500
รองประธานรัฐสภา - 63,000+45,000
รองประธานวุฒิสภา และรองประธานสภาผู้แทนราษฏร - 63,000+42,500
ผู้นำฝ่ายค้านในสภา - 63,000+45,500
ประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร - 63,000+42,500
สมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร - 63,000+41,000
เอาตรง ส.ส. และ ส.ว. เนี่ย
ท่านมีเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มรวมแล้ว 104,000 บาทต่อเดือนครับ
อ่านให้ก็ได้เผื่อท่านสมาชิกสภาบางท่านจะอ่านไม่ออก
หนึ่งแสนสี่พันบาท ครับ ถ้าท่านเป็น ส.ส. 4 ปี ท่านมีรายได้รวม 4,992,000 บาท อ่านว่า สี่ล้านเก้าแสนเก้าหมื่นสองพันบาท
ถ้าท่านเป็น ส.ว. 6 ปี ท่านมีรายได้รวม 7,488,000 บาท อ่านว่า
เจ็ดล้านสี่แสนแปดหมื่นแปดพันบาท
คนทั่วไปเขาทำงานกันทั้งชีวิตนะครับกว่าจะได้เงินขนาดนี้ นอกจากเงินเดือนแล้ว
ในระยะเวลาที่ท่านดำรงตำแหน่ง ท่านยังมีสวัสดิการ มีสิทธิพิเศษมากมาย
ท่านได้เดินทางฟรี ขึ้นเครื่องบินฟรี ท่านมีเบี้ยเลี้ยงประชุม
ในการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ ท่านก็เบิกได้เต็มที่ 100% เรียกได้ว่า
ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ของท่านนั้น ท่านสามารถเบิกได้หมด นอกจากนี้แล้ว
ยังมีเงินประจำตำแหน่งในคณะกรรมาธิการต่างๆของสภา
ที่ท่านสามารถจะได้รับอีก เรียกได้ว่าท่านแทบไม่จำเป็นต้องแตะเงินเดือนของท่านเลย และถ้าท่านกินอยู่อย่างพอเพียง และรู้จักประกอบอาชีพสุจริต
เงินจำนวนนี้ถือว่ามากพอที่จะเลี้ยงชีวิตท่านล่ะครับ
แล้วท่านยังจะมาเอาบำเหน็จบำนาญอะไรอีกครับ
บอกตรงๆ ประชาชนอย่างพวกเรา ไม่เห็นความจำเป็นเลยครับ
เงินประจำตำแหน่งที่ท่านได้รับ ก็มีมากพอที่จะเลี้ยงชีวิต
และเป็นเกียรติสมตำแหน่งฐานะของท่านอยู่แล้ว
หากท่านเป็นคนดี ไม่รับสินบน เบี้ยบ้ายรายทาง ไม่ฉ้อราษฎร์บังหลวง
ท่านก็ได้รับการเคารพนับถือจากคนไทยอยู่แล้ว
ท่านยังจะเอาอะไรจากประชาชนอีกครับ
ผมไม่ใช่คนที่มีสิทธิมีเสียงในสภา ผมไม่ใช่คนที่สามารถออกกฎหมายได้
สิ่งที่ผมทำได้คือ   เป็นเสียงเล็กๆ  เสียงหนึ่งเท่านี้
ที่จะกระจายไปให้ประชาชนคนไทยร่วมรับรู้ว่า
กำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับเงินภาษีที่รัฐเรียกเก็บจากประชาชน
และในฐานะของประชาชน ผมขอที่จะ คัดค้าน พระราชกฤษฎีกา
ให้บำเหน็จบำนาญ ส.ส.-ส.ว. ฉบับนี้
ขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็น และ ส่งต่อข้อความนี้ให้กับเพื่อนๆเรา
ให้กับคนที่สนใจ ได้รับรู้ร่วมกันว่า อะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับเงินภาษีของเราแล้วแต่พวกคุณจะพิจารณาน่ะครับแต่สำหรับผม บอกได้คำเดียวว่า
  "ไม่ให้ครับ!!"

เป็นฟอร์เวิร์ดเมล์ต่อๆกันมา
บันทึกการเข้า

ผู้ที่ไม่สามารถจะใช้คนดี
ก็ย่อมจะใช้คนไม่ดีหรือคนเลว
ถ้าไม่เชื่อผู้ซื่อสัตย์หวังดีต่อตน
ก็จะต้องไปเชื่อคนประจบสอพลอ
เด็กเตรียม(อนุบาล)
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3


« ตอบ #6 เมื่อ: 18-05-2006, 23:32 »

ขอบคุณ คุณ narong ครับ

"...ถ้าท่านเป็น ส.ส. 4 ปี ท่านมีรายได้รวม 4,992,000 บาท อ่านว่า สี่ล้านเก้าแสนเก้าหมื่นสองพันบาท
ถ้าท่านเป็น ส.ว. 6 ปี ท่านมีรายได้รวม 7,488,000 บาท อ่านว่า เจ็ดล้านสี่แสนแปดหมื่นแปดพันบาท .."


ท่าน..'มาชิกผู้ทรงเกลียดทั้งหลาย มีกันทั้งหมดกี่คน(วะเนี่ย)!!!
ไม่กล้ากดเป็นยอดรวม...กลัวเครื่องคิดเลขพัง



พรุ่งนี้จะเอาไปโรเนียวแจก พร้อมจ่าหน้าซองติด'แตมป์ + Copy บัตร ปชช.ให้ด้วย
ปล. ถามเพิ่มเติม - ต้องใช้กี่ซองถึงจะล้ม กม.(ติงต๊อง-ของคนขลาด) ฉบับนี้


...รักในหลวง
...เด็กเตรียม'
บันทึกการเข้า

อีกหนึ่งธุลีใต้ฝ่าพระบาท
ที่อยากโต ทั้งร่างกาย-ความคิด-จิตใจ
ทำประโยชน์ให้ คนและสังคมไทย ตามคำ(พระราชดำรัส)ที่พ่อสอน
"ขอพระองค์ทรงพระเจริญ"
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 18-05-2006, 23:38 »

ได้ข่าวว่าเงินเบี้ยเสี่ยงภัย ครูภาคใต้ มีปัญหา

ในรัฐสภากลับมีเงินเพิ่มพิเศษ...  Rolling Eyes
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
No-NaMe
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: 19-05-2006, 01:51 »

ถ้าผู้ทรงเกียตรเหล่านั้น.........เป็นได้อย่างในเนื้อเพลง

"ความฝันอันสูงสุด"

มากกว่านี้ก็ให้ครับ
บันทึกการเข้า
INC.BKK
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 325

Tuksin Get Out!


« ตอบ #9 เมื่อ: 21-05-2006, 02:09 »

เป็น สส สว  สี่ปี หกปี่ ได้บำนาญตลอดชาติ แม่ป๋มเป็นครูมาเกือบสามสิบแล้วนะ  ต้องมีอายุงานอย่างน้อย ยี่สิบห้าปี นะถึงจะได้บำเหน็จบำนาญ ต้องทำงานมากว่า หกเท่า สำหรับสส สี่เท่าสำหรับ สว  ตกลงมันทำงานเพื่อชาติหรือเพื่อตัวมันเองครับ คิดแล้วเคืองเว้ย
บันทึกการเข้า

Tuksin GET OUT !
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 21-05-2006, 02:14 »

ไอ้พวกอยากได้เงินเดือนสูง ๆ มันไม่มองชาวนาอย่างพวกผมเล้ย...ให้ตายสิ

อ้อ...คุณน้องใหม่ เรื่อง ผบ.ทบ. นำมาเผย มันสะเทือนใจชาวไทยทั้งประเทศ

ไม่รู้ว่า พวกลิ่วล้อนักการเมืองมันจะคิดออกกันมั๊ย...ความทุกข์พระทัยของท่าน เราเจ็บด้วยจริง ๆ นะ
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: