ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 19:11
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  อ่านกระทู้นี้ จะ'รู้จัก' คนในเวบประชาไท ถูกต้อง.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
อ่านกระทู้นี้ จะ'รู้จัก' คนในเวบประชาไท ถูกต้อง.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า  (อ่าน 2856 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 10-01-2008, 00:05 »

เปิดเอกสารลึก เจาะสัมพันธ์ บังธิ-สองแม่ลูก “สัตยธรรม”
สังคมและการเมือง

--------------------------------------------------------------------------------
โพสต์: rider
D#655402 | เมื่อ: 2551-01-09 22:15:04

เอกสารที่นำมาเสนอครั้งนี้ ไม่ใช่เอกสารลับ แต่เรียกว่าเป็นเอกสารลึกดีกว่า เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะรัฐประหาร และ รองนายกรัฐมนตรี กับ นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง ว่าไม่ใช่เป็นความสัมพันธ์ในฐานะคนรู้จักกันตามสายงาน และ คนที่คุยกันถูกคอ เข้าอกเข้าใจกันดีในฐานะคนทำงานที่มีเป้าประสงค์เดียวกัน

เอกสารลึกฉบับนี้ เป็นหนังสือสำนัเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขที่ นร 0401 /7856 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2550 เรื่อง ขอยืมตัวข้าราชการช่วยปฏิบัติราชการ ส่งถึง ประธานศาลฎีกา และลงนามโดยนายลอยเลื่อน บุนนาค รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร ปฏิบัติราชการแทน เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

การยืมตัวข้าราชการช่วยปฏิบัติราชการ ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือเรื่องผิดปกติ หากแต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกันเป็นประจำในส่วนราชการทุกระดับ แต่ความไม่ปกติของเอกสารลึกฉบับนี้ ก็คือว่า การยืมตัวข้าราชการช่วยปฏิบัติราชการ ครั้งนี้ เป็นการยืมตัวนางสาวกอนณา สัตยธรรม ผู้พิพากษาประจำศาลจังหวัดพระโขนง ไปช่วยราชการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วยปฏิบัติราชการให้แก่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน) ]ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นไป จนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ

ดูแล้วก็เหมือนเอกสารยืมตัวข้าราชการช่วยปฏิบัติราชการ ทั่วไป แต่มาสะดุดตรงที่ ชื่อและนามสกุลของข้าราชการที่ถูกยืมตัว กับ ชื่อและนามสกุลของผู้ที่ต้องการยืมตัวมาช่วยราช การ แล้ว ต้องบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติธรรรมดา และเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ หากผู้ต้องการยืมตัวเป็นผู้ที่มีสติปัญญาเช่นเดียวกับวิญญูชนทั่วไป เพราะจะรู้ว่าอะไรเหมาะ อะไรควร ไม่ใช่ว่ามีอำนาจอยู่ในมือแล้วจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น

ถูกต้องแล้วครับ ..

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะรัฐประหาร ที่แปลงกายมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลการเลือกตั้ง สั่งการให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำหนังสือถึงประธานศาลฎีกา ให้ส่งตัวนางสาวกอนณา สัตยธรรม ผู้พิพากษาประจำศาลจังหวัดพระโขนง ลูกสาวของนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง มาปฏิบัติราชการที่ห้องทำงานรองนายกรัฐมนตรี ชื่อ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เปลี่ยนสถานภาพตัวเองจากหัวหน้าคณะรัฐประหาร มาเป็นรองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2550 หลังจากดำรงตำแหน่งเพียง 15 วัน ก็ทำเรื่องยืมตัวนางสาวกอนณา สัตยธรรม มาช่วยทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล และยังกำหนดให้ประธานศาลฎีกา ปฏิบัติตามที่ต้องการ คือให้ส่งตัวนางสาวกอนณา สัตยธรรม มาทำงานกับตัวเอง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นไป จนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไร

พิจารณาจากหนังสือยืมตัวนางสาวกอนณา สัตยธรรม ฉบับนี้ สะท้อนให้เห็นว่าพล.อ.สนธิ ไม่มีความรู้ไม่มีความเข้าใจมารยาทการทำงานในฐานะฝ่ายบริหาร ที่จะต้องไม่ก้าวล่วง และไม่สั่งการไปยังฝ่ายตุลาการ โดยเฉพาะประธานศาลฎีกา ซึ่งเป็นประมุขของฝ่ายตุลาการ ให้ทำเช่นนั้น เช่นนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พล.อ.สนธิ เคยชินกับการใช้อำนาจในฐานะหัวหน้าคณะรัฐประหาร ที่สั่งให้ทุกคน ทุกฝ่ายทำตามที่ตนต้องการ และคิดว่าสามารถออกคำสั่งกับประธานศาลฎีกา ได้ด้วย

โดยระเบียบวิธีปฏิบัติ การยืมตัวข้าราชการตุลาการ หรือผู้พิพากษา มาช่วยปฏิบัติราช การ ไม่ใช่ว่าประธานศาลฎีกา จะมีอำนาจอนุมัติได้ หากแต่ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการ หรือ กต. พิจารณาอนุมัติ และ กต.จะพิจารณาเมื่อใด วันไหน ก็เป็นเอกสารสิทธิของ กต. ไม่จำเป็นต้องทำตามกำหนดเวลาที่ พล.อ.สนธิ ต้องการ หรือกำหนด และ พล.อ.สนธิ ก็ไม่มีอำนาจที่จะกำหนดด้วย เพราะ ประธานศาลฎีกา และ กต. ไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาของพล.อ.สนธิ

โดยปกติแล้ว การยืมตัวข้าราชการตุลาการ ขณะดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาประจำศาล มาช่วยปฏิบัติราชการ เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น เว้นเสียแต่จะพ้นจากตำแหน่งผู้พิพากษา ไปเป็นฝ่ายบริหาร ที่ไม่ต้องทำหน้าที่พิจารณาอรรถคดีและตัดสินคดีในศาล เนื่องจากผู้พิพากษา เป็นข้าราชการที่มีลักษณะเฉพาะ แตกต่างจากข้าราชการทั่วไป เช่น ทหาร ตำรวจ ครู ซึ่งมีอัตราว่างจากงาน (คนล้นงาน) มากพอ ที่จะไปช่วยปฏิบัติราชการวันใด เมื่อใดก็ได้ ในขณะที่อัตราผู้พิพากษา มีน้อยอยู่แล้ว หากถูกยืมตัวไปช่วยราชการอีก ก็จะทำให้อรรถคดีต่างๆ ที่พิจารณากันล่าช้าอยู่แล้ว ต้องล่าช้าออกไปอีก

นอกจากนี้ การที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ยืมตัวนางสาวกอนณา สัตยธรรม ผู้พิพากษา ไปช่วยปฏิบัติราชการ ซึ่งก็คือ ตำแหน่งหน้าห้องรองนายกรัฐ มนตรี พิจารณากลั่นกรองงาน ก็เป็นการแสดงออกในเชิงสัญญลักษณ์ว่า ฝ่ายบริหารอยู่เหนือกว่าและเป็นผู้บังคับบัญชาฝ่ายตุลาการ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่กระบวนการยุติธรรม ถูกตั้งข้อสงสัยจากประชาชนจำนวนไม่น้อย ว่าตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใครหรือไม่

พิจารณาในมุมความสัมพันธ์สามเส้า ระหว่าง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่กำกับดูแลการเลือกตั้ง และมีเป้าหมายชัดเจนเปิดเผยว่าต้องการสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนไม่ให้ชนะการเลือกตั้ง ไม่ให้เป็นรัฐบาล และสุดท้ายคือไม่ให้มีพรรคพลังประชาชน กับ การทำงานของนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ที่มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะสนองตอบต่อเป้าหมายของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อย่างออกนอกหน้า และออกอาการเด้งรับความต้องการของพล.อ.สนธิ จนทำให้เกิดข้อครหาต่างๆ มากมายว่า พล.อ.สนธิ แทรกแซงกกต. และ กกต. เป็นเครื่องมือของคมช.

ส่วนใครจะไปครหาพล.อ.สนธิ แทรก กกต.สดศรี และกกต. สดศรี ตกเป็นของ พล.อ.สนธิ แล้วจริงหรือไม่ ประดาบ ก็ไม่อาจทราบได้ เพราะไม่ได้คนใกล้ชิดของบุค คลทั้งสอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่คมช.เจอวิกฤติพิษเอกสารลับเล่นงาน พล.อ.สนธิ ลิ้นคับปาก เพราะโกหกทุกวันจนหมดทางดิ้น ก็เห็นจะมีแต่นางสดศรี สัตยธรรม นี่ล่ะที่แสดงอาการห่วงใยพล.อ.สนธิ จนผิดปกติ และอาสาเขี่ยลูกออก เตะลูกทิ้ง อยู่ตลอดเวลา

สองเส้าระหว่าง พล.อ.สนธิ กับ นางสดศรี ก็ทำให้ข่าวลือกระหึ่มเมืองแล้ว ยังไม่พอ วันนี้ยังมาเจอหลักฐานเส้าที่สามที่ต้องพิจารณากันให้หนักเข้าไปอีก ก็คือ นางสาวกอนณา สัตยธรรม ถูกดึงเข้ามาร่วมวงด้วยอีกคน

ประดาบ ไม่อยากคาดเดา ไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ ว่าความสัมพันธ์สามเส้าครั้งนี้ จะดำเนินไปอย่างไร และจบลงที่ตรงไหน แต่บอกได้ว่า นี่เป็นการกระทำที่น่ารังเกียจที่สุด และเป็นการกระทำที่ไม่เกรงต่อสายตาประชาชนคนไหนทั้งสิ้น ว่าจะเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม

พล.อ.สนธิ เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ตั้งใจทำลายพรรคพลังประชาชน

นางสดศรี เป็นกกต. มีความไม่เป็นกลาง และทำงานเหมือนรับใบสั่งจากใครบางคนให้มาหาเหตุยุบพรรคพลังประชาชน เป็นการเฉพาะ

นางสาวกอนณา เป็นผู้พิพากษา แต่ถูกรองนายกรัฐมนตรีสั่งให้มาช่วยทำงานหน้าห้อง ในฐานะลูกสาวของนางสดศรี

ท่อร้อยสายระหว่างทำเนียบรัฐบาล กับ กกต. ผ่านทางไหน ไปกับใคร ไม่ต้องเดาให้ยาก ไม่ต้องตรวจสอบแกะรอยว่า ใบสั่งจากพล.อ.สนธิ ไปถึง นางสดศรี หรือไม่ ด้วยทางใด ไม่ต้องถามว่ามีหรือไม่อีกแล้ว

เอกสารลึกฉบับนี้ให้คำตอบหมดแล้วว่า ทำไมกกต.สดศรี จึงพูดจาเห็นอกเห็นใจเข้าอกเข้าใจและเข้าถึงความต้องการในก้นบึ้งหัวใจของพล.อ.สนธิ ได้ดีกว่ากกต.ทุกคน และ เป็นคำตอบว่าทำไมพล.อ.สนธิ ไม่ต้องไปพบกกต. และไม่ต้องเรียกกกต.มาพบ แต่ กกต.ก็เข้าใจดีว่าพล.อ.สนธิ ต้องการอะไรจากกต.บ้าง

เจอเอกสารลึกแต่ไม่ลับฉบับนี้เข้า ความเชื่อที่ว่ากกต.บางคนไม่เป็นกลาง และเป็นเครื่องมือให้แก่คมช. จึงไม่ต้องการการพิสูจน์อีกต่อไป เพราะนี่คือเอกสารที่ยืนยันได้ดีที่สุด

ใช้แม่ทำงาน เอาลูกมาดูแล

สูตรนี้ พล.อ.สนธิ ใช้กับบรรหาร ศิลปอาชา ไม่ผิดเพี้ยน

ใช้พ่อเป็นโฆษกให้คมช. แล้วดึงลูกสาวมาเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

เจอเอกสารลึกแต่ไม่ลับฉบับนี้เข้า ประดาบถึงกับสะอึก เพราะนึกไม่ถึงว่ารองนายกรัฐมนตรี ประเทศไทย จะทำเรื่องเลวร้ายได้อย่างเปิดเผยถึงเพียงนี้

มีคำถามสองข้อที่อยากถาม นางสดศรี สัตยธรรม ให้ตอบตัวเอง

1. คุณยังสมควรเป็นกกต.อีกหรือไม่

2. คุณยังกล้าพูดอีกไหมว่าไม่มีความสัมพันธ์พิเศษกับพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

ไม่ต้องมาตอบผม เพราะผมมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว




 กอนณา สัตยธรรม

เทือกเถาเหล่ากอ - ลูกสาวคนเดียวของ อรุณ น้าประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลแพ่งธนบุรี กับ สดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้งด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญและกรรมาธิการยกร่าง รัฐธรรมนูญ (ก่อนหน้านี้เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา) ตั้งแต่เด็กคุณพ่อคุณแม่ให้อิสระในการ คิดและตัดสินใจ ทั้งคู่เป็นผู้พิพากษาจึงปลูกฝังและย้ำเตือนถึงเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต และทำในสิ่งที่ถูกต้องค่ะ ให้เป็นคนตรงไปตรงมา ผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก ถ้าสิ่งที่ทำคือความถูกต้องและทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริตแล้ว ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกลัว


ที่มาของชื่อ - คุณพ่อคิดและตั้งชื่อ “กอนณา” เพราะต้องการให้ชื่อคล้องจองกับคุณยาย “ปราณี” ตอนแรกจะตั้ง “กรุณา” แต่ความที่คุณพ่ออยากได้ชื่อแปลกไม่ซ้ำ เลยผัน “กรุณา” เป็น “กอน ณา” ชื่อนี้ไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ ส่วนชื่อเล่น “ยุ้ย” หรือ “หยุย” ไม่ค่อยมีใครเรียกเพราะชื่อซ้ำเยอะ เพื่อน ๆ และที่บ้านจึงเรียกชื่อจริงแทนชื่อเล่นค่ะ

ศึกษาเล่าเรียน - อนุบาล-ม.4 รร.ราชินี พออายุ 16 ปี สอบเทียบและ เอนทรานซ์ติด คณะนิติศาสตร์ธรรมศาสตร์ ไม่เลือกสาขาอื่นเลยค่ะ เพราะต้องการดำเนินรอยตามคุณพ่อคุณแม่ จบปริญญาตรีอายุ 19 ปี สอบเนติบัณฑิต 1 ปี จากนั้นต่อปริญญาโทด้านกฎหมายอีก 2 ใบที่ประเทศสหรัฐอเมริกา CASE WESTERN RESERVE UNIVERSITY (CLEVELAND, OHIO) กับ INDIANA UNIVERSITY (BLOOMINGTON, INDIANA)

หน้าที่การงาน - กอนณาเรียนจบปริญญาโทอายุ 22 ปี ยังไม่สามารถสอบเป็นผู้พิพากษาได้ค่ะ ตามเกณฑ์คืออายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี ช่วง 3 ปีที่รอสอบจึงทำงานเป็นที่ปรึกษากฎหมายบริษัท CHANDLER & THONG-EK LAW OFFICE จำกัด ให้คำปรึกษาลูกค้าชาวต่างประเทศที่ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย อายุครบ 25 ปี จึงลาออกสอบผู้พิพากษา โดยเป็นผู้พิพากษาแห่งแรกที่ศาลอาญาธนบุรี ปัจจุบันเป็นผู้พิพากษาประจำศาลจังหวัดพระโขนง (เดิมชื่อศาลแขวงพระโขนง)

ยามว่าง - ชอบอ่านหนังสือทุกประเภท เพราะเป็นแหล่งความรู้ที่ทรงคุณค่า เมื่อมีเวลาว่างจึงหาความรู้เพิ่มให้ตัวเอง โดยเฉพาะหนังสือกฎหมาย เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ ถ้าว่างจะไปเป็นเพื่อนคุณแม่ไปปฏิบัติภารกิจตามต่างจังหวัด เพราะคุณแม่เสาร์-อาทิตย์ทำงานด้วย ต้องคอยดูแลเรื่องสุขภาพให้ด้วย เพราะคุณแม่ทำงานหนักมากค่ะ

เป้าหมายในอนาคต -ขอทำหน้าที่ผู้พิพากษานี้ให้ดีที่สุดและตลอดไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความซื่อสัตย์สุจริต พิจารณาพิพากษาอรรถคดีต่าง ๆ ด้วยความเป็นธรรมและถูกต้องตามกฎหมาย ระลึกเสมอว่าเราทำงานในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์และเป็นงานที่มีผลกระทบกับสิทธิเสรีภาพของประชาชนและกระทบต่อชีวิตผู้อื่น จึงต้องตั้งใจและไตร่ตรองให้ ถี่ถ้วน เพื่อให้ศาลยุติธรรมเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริงค่ะ

มองตัวเอง - เวลากอนณาทำงานเอาจริงเอาจัง และ ชอบกดดันตัวเองว่าต้องทำให้สำเร็จ เพราะมีหลักว่าเป็นลูกคนเดียวต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเสมอ ห้ามทำพลาด ถ้าทำพลาดจะเสียใจ บางครั้งก็เกิดความเครียดบ้าง แต่ไม่นำความเครียดกลับบ้านค่ะ พยายามวางงานไว้ที่ทำงาน.




แจ้งลบข้อความ
โพสต์:  rider


ID#655414 | เมื่อ: 2551-01-09 22:18:53

ขอบคุณท่าน ประดาบที่นำข้อมูลดีๆมาให้

แจ้งลบข้อความ

 
โพสต์: แดงไบเล่ย์

ID#655428 | เมื่อ: 2551-01-09 22:24:16

น่าเกลียดอิ๊บอ๋าย



แจ้งลบข้อความ



โพสต์: Tuxedo

ID#655430 | เมื่อ: 2551-01-09 22:25:12


Thank you very much


แจ้งลบข้อความ



โพสต์: แดงไบเล่ย์

ID#655431 | เมื่อ: 2551-01-09 22:25:14

สัปดี๋สัปดน

-------------------------------------------------------------
1. เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็น ผู้พิพากษาไปช่วยราชการหน้าห้องรองนายกรัฐมนตรี ผมรับราชการมาเกือบ 40 ปีแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชั่วช้าที่สุด
2. ผู้พิพากษาเป็นข้าราชการที่ต้องทำหน้าที่ผู้พิพากษาอย่างเดียว ไม่ใช่ข้าราชการทั่วไป ไม่มีหน้าที่เป็นข้าใคร นอกจากพิจารณาอรรถคดีแทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทั้งบังธิ คุณGonna สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตลอดไปจนถึงประธานศาลฎีกา ได้กระทำผิดอย่างมหันต์ ก้าวล่วงพระราชอำนาจอย่างชัดเจน เพราะผู้พิพากษาแต่ละท่านได้รับการโปรดเกล้าฯ และรับเงินเดือนในตำแหน่งหน้าที่ผู้พิพากษา(ซึ่งสูงกว่าข้าราชการทั่วไปหลายสิบเท่า)
3. การช่วยราชการ หมายความว่ายังไม่ขาดจากตำแหน่งเดิม ยังรับประทานเงินเดือนผู้พิพากษา และที่สำคัญใช้พระราชอำนาจในทางที่ผิด หมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างชัดเจน
4. ขอให้หยุดการกระทำนี้เสีย งานนี้ไม่สามารถทำให้อึมครึม มั่วนิ่ม ทำเฉย เอาข้างเข้าถู เหมือนเอกสารลับฉบับก่อนๆ พวกคุณกำลังนำเอาพระราชอำนาจไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง ให้ส่องกระจกดูทุกเช้าอย่างพินิจ เงาหัวพวกคุณยังอยู่ดีหรือเปล่า คุณสนธิ คุณสดศรี คุณGonna

จริยธรรมผู้พิพากษา
เ ดิมมีเพียงธรรมเนียมปฏิบัติในการวางตัวของผู้พิพากษาที่ปฏิบัติติดต่อกันมาเท่านั้น สิ่งใดกระทำได้ สิ่งใดกระทำไม่ได้ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติต่อๆ กันมา เพราะผู้พิพากษาในประเทศ มีเพียงจำนวนน้อย ต่อมาจำนวนผู้พิพากษาได้เพิ่มขึ้น ธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆ ที่เคยปฏิบัติกันมา บางอย่าง ก็มีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข เพราะการเปลี่ยนแปลง ของสังคมภายนอก ทำให้การปฏิบัติตัว ของผู้พิพากษา บางครั้ง มองดูแล้ว ไม่เหมาะสมบ้าง ที่ประชุมคณะกรรมการ ตุลาการครั้งที่ ๖/๒๕๒๗ เห็นว่า ผู้พิพากษาบางท่าน ประพฤติตนในบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งที่ประชุมยังโต้เถียงกันอยู่ว่า การกระทำดังกล่าวนั้น เหมาะสมหรือไม่ เพราะยังไม่มีกฏเกณฑ์วางไว้ เป็นที่แน่นอน ที่ประชุมจึงมีความเห็นว่า น่าจะมีระเบียบ หรือคำแนะนำ หรือมีการวางแนวปฏิบัติไว้ ให้ผู้พิพากษาประพฤติ เพราะแม้จะมีวินัย อยู่ในกฎหมายว่า ด้วยระเบียบ ข้าราชการฝ่ายตุลาการ ก็เป็นเพียงกา รวางหลักเกณฑ์ไว้กว้างๆ บางเรื่องยังคลุมไปไม่ถึง และบางเรื่อง เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ไม่ได้เขียนไว้ จึงตั้งคณะกรรมการ วางหลักเกณฑ์ เรียกว่า ประมวลจริยธรรม ข้าราชการตุลาการขึ้น ซึ่งในด้านจริยธรรม เกี่ยวกับกิจการอื่น และเกี่ยวการดำรงตน และครอบครัวนั้น ได้บัญญัติไว้ทั้งหมด ๑๖ ข้อ ซึ่งจะนำมาให้ดู ดังต่อไปนี้
๑. ผู้พิพากษาจักต้องไม่เป็นกรรมการ
ผู้จัดการ ที่ปรึกษาหรือดำรงตำแหน่งอื่นใด ในห้างหุ้นส่วน บริษัท ห้างร้าน หรือธุรกิจของเอกชน เว้นแต่เป็นกิจกรรม ที่มิได้แสวงหากำไร ผู้พิพากษาจักต้องไม่ประกอบอาชีพ หรือวิชาชีพ หรือกระทำกิจการใด อันจะกระทบกระเทือน ต่อการปฏิบัติหน้าที่ หรือเกียรติศักดิ์ ของผู้พิพากษา
๒. ในกรณีจำเป็นผู้พิพากษาอาจได้รับมอบหมายหรือแต่งตั้งจากหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่น ของรัฐ ให้ปฏิบัติ หน้าที่อันเกี่ยวกับหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานนั้นได้ ในเมื่อการปฏิบัติ หน้าที่ดังกล่าว ไม่กระทบกระเทือน ต่อการปฏิบัติหน้าที่ หรือเกียรติศักดิ์ ของผู้พิพากษา ทั้งจักต้อง ได้รับอนุญาต จากกระทรวงยุติธรรม แล้ว
การเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจ หรือกิจการอื่นของรัฐ ในทำนองเดียวกัน จักต้องได้รับอนุมัติจาก ก.ต.ด้วย
ผู้พิพากษา ไม่พึงแสดงปาฐกถา บรรยาย สอน หรือเข้าร่วมสัมมนา อภิปราย หรือแสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อสาธารณชน ซึ่งอาจกระทบกระเทือน ต่อการปฏิบัติหน้าที่ หรือเกียรติศักดิ์ ของผู้พิพากษา
๓. ผู้พิพากษาไม่พึงเป็นกรรมการ สมาชิก หรือเจ้าหน้าที่ของสมาคม สโมสร ชมรม หรือ องค์การใดๆ หรือเข้าร่วม ในกิจการใด ๆ อันจะกระทบกระเทือน ต่อการปฏิบัติหน้าที่ หรือ เกียรติศักดิ์ ของผู้พิพากษา
๔. ผู้พิพากษาไม่พึงรับเป็นผู้จัดการมรดก ผู้จัดการทรัพย์สิน หรือผู้ปกครองทรัพย์ เว้นแต่เป็นกรณีที่ ตัวผู้พิพากษาเอง คู่สมรส ผู้บุพการี ผู้สืบสันดานของตน หรือญาติสืบสายโลหิต หรือเกี่ยวพัน ทางแต่งงาน ซึ่งผู้พิพากษา ถือเป็นญาติสนิท มีส่วนได้เสียในมรดก หรือทรัพย์นั้นโดยตรง
๕. ผู้พิพากษาไม่พึงรับเป็นอนุญาโตตุลาการ หรือผู้ประนอมข้อพิพาท
๗. ผู้พิพากษาจักต้องสนับสนุน การปกครองระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุขแห่งรัฐ
๘. ผู้พิพากษาจักต้องไม่เป็นกรรมการ สมาชิก หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมือง และจักต้อง ไม่เข้าเป็น ตัวกระทำการ ร่วมกระทำการ สนับสนุน ในการโฆษณา หรือชักชวนใดๆ ในการ เลือกตั้ง สมาชิกรัฐสภา หรือผู้แทน ทางการเมืองอื่นใด ทั้งไม่พึงกระทำใดๆ อันเป็นการฝักฝ่ายการเมือง หรือกลุ่มการเมืองใด นอกจาก การใช้สิทธิ เลือกตั้ง
๙. ผู้พิพากษาจักต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อยู่ในกรอบของศีลธรรม และพึงมีความสันโดษ ครองตน อย่างเรียบง่าย สุภาพ สำรวมกิริยามารยาท มีอัธยาศัย ยึดถือจริยธรรม และประเพณีอันดีงาม ของตุลาการ ทั้งพึงวางตน ให้เป็นที่เชื่อถือ ศรัทธาของบุคคลทั่วไป
๑๐. ผู้พิพากษาพึงปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้นเป็นลำดับ และพึงขวนขวายศึกษาเพิ่มเติม ทั้งในวิชาชีพ ตุลาการ และ ความรู้รอบตัว ผู้พิพากษาจักต้อง ไม่ก้าวก่าย หรือแสวงหาประโยชน์ โดยมิชอบ จาการ ปฏิบัติหน้าที่ ของผู้พิพากษาอื่น
๑๑. ผู้พิพากษาจักต้องไม่ยินยอมให้บุคคลในครอบครัว ก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ของตน หรือ ของผู้อื่น และจักต้อง ไม่ยินยอมให้ผู้อื่น ใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตน แสวงหาประโยชน์ อันมิชอบ
๑๒. ผู้พิพากษาพึงยึดมั่นในระบบคุณธรรม และจักต้องไม่แสวงหาตำแหน่ง ความดีชอบ หรือประโยชน์อื่นใด โดยมิชอบ จากผู้บังคับบัญชา หรือ จากบุคคลอื่นใด
๑๓. ผู้พิพากษาจักต้องระมัดระวังมิให้การประกอบวิชาชีพ หรืออาชีพ หรือการงานอื่นใดของ คู่สมรส ญาติสนิท หรือบุคคล ซึ่งอยู่ในครัวเรือนของตน มีลักษณะเป็นการ กระทบกระเทือน ต่อการปฏิบัติหน้าที่ หรือเกียรติศักดิ์ ของผู้พิพากษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านความเชื่อถือศรัทธา ของบุคคลทั่วไป ในการประสาทความยุติธรรม ของผู้พิพากษา
๑๔. ผู้พิพากษาและคู่สมรสจักต้องไม่รับทรัพย์สินหรือประโยชน์ใดๆ จากคู่ความ หรือจากบุคคลอื่นใด อันเกี่ยวเนื่อง กับการปฏิบัติหน้าที่ ของผู้พิพากษา และจักต้องดูแลให้บุคคลในครอบครัว ปฏิบัติเช่นเดียวกันด้วย
๑๕. ผู้พิพากษาและคู่สมรสจักต้องไม่รับของขวัญของกำนัล หรือประโยชน์ อื่นใดอันมีมูลค่า เกินกว่า ที่พึงให้กัน ตามอัธยาศัย และประเพณีในสังคม และจักต้องดูแล ให้บุคคลในครอบครัว ปฏิบัติเช่นเดียว กันด้วย
๑๖. ผู้พิพากษาจักต้องละเว้นการคบหาสมาคมกับคู่ความ หรือบุคคลอื่น ซึ่งมีส่วนได้เสีย หรือ ผลประโยชน์ เกี่ยวข้อง กับคดีความ หรือบุคคล ซึ่งมีความประพฤติ หรือมีชื่อเสียง ในทางเสื่อมเสีย อันอาจจะกระทบกระเทือน ต่อความเชื่อถือ ศรัทธาของบุคคลทั่วไป ในการประสาท ความยุติธรรม ของผู้พิพากษา

แจ้งลบข้อความ


โพสต์: อีดอกทอง

(บุคคลนิรนาม)

ID#655445 | เมื่อ: 2551-01-09 22:30:08 | IP: 58.8.175.157 x

อีหล้า งานนี้หนาว
ทั้งสาว ทั้งเด็กกว่า
งานนี้เสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใคร
แต่ตอนนี้ทองแพงชิบหาย
ยอมเสียผัวดีกว่า
และไปหาซื้อบริการผู้ชายขายตัว
เลือกได้เพียบ เปลี่ยนรสชาดได้ทุกวัน
มันส์เขาหล่ะ


แจ้งลบข้อความ


โพสต์:  Tuxedo

ID#655450 | เมื่อ: 2551-01-09 22:36:05


ขออนุญาต แดงไบเล่นำมาใส่สีครับ

1. เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็น ผู้พิพากษาไปช่วยราชการหน้าห้องรองนายกรัฐมนตรี ผมรับราชการมาเกือบ 40 ปีแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชั่วช้าที่สุด

2. ผู้พิพากษาเป็นข้าราชการที่ต้องทำหน้าที่ผู้พิพากษาอย่างเดียว ไม่ใช่ข้าราชการทั่วไป ไม่มีหน้าที่เป็นข้าใคร นอกจากพิจารณาอรรถคดีแทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทั้งบังธิ คุณGonna สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตลอดไปจนถึงประธานศาลฎีกา ได้กระทำผิดอย่างมหันต์ ก้าวล่วงพระราชอำนาจอย่างชัดเจน เพราะผู้พิพากษาแต่ละท่านได้รับการโปรดเกล้าฯ และรับเงินเดือนในตำแหน่งหน้าที่ผู้พิพากษา(ซึ่งสูงกว่าข้าราชการทั่วไปหลายสิบเท่า)

3. การช่วยราชการ หมายความว่ายังไม่ขาดจากตำแหน่งเดิม ยังรับประทานเงินเดือนผู้พิพากษา และที่สำคัญใช้พระราชอำนาจในทางที่ผิด หมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างชัดเจน

4. ขอให้หยุดการกระทำนี้เสีย งานนี้ไม่สามารถทำให้อึมครึม มั่วนิ่ม ทำเฉย เอาข้างเข้าถู เหมือนเอกสารลับฉบับก่อนๆ พวกคุณกำลังนำเอาพระราชอำนาจไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง ให้ส่องกระจกดูทุกเช้าอย่างพินิจ เงาหัวพวกคุณยังอยู่ดีหรือเปล่า คุณสนธิ คุณสดศรี คุณGonna


จริยธรรมผู้พิพากษา

เ ดิมมีเพียงธรรมเนียมปฏิบัติในการวางตัวของผู้พิพากษาที่ปฏิบัติติดต่อกันมาเท่านั้น สิ่งใดกระทำได้ สิ่งใดกระทำไม่ได้ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติต่อๆ กันมา เพราะผู้พิพากษาในประเทศ มีเพียงจำนวนน้อย ต่อมาจำนวนผู้พิพากษาได้เพิ่มขึ้น ธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆ ที่เคยปฏิบัติกันมา บางอย่าง ก็มีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข เพราะการเปลี่ยนแปลง ของสังคมภายนอก ทำให้การปฏิบัติตัว ของผู้พิพากษา บางครั้ง มองดูแล้ว ไม่เหมาะสมบ้าง ที่ประชุมคณะกรรมการ ตุลาการครั้งที่ ๖/๒๕๒๗ เห็นว่า ผู้พิพากษาบางท่าน ประพฤติตนในบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งที่ประชุมยังโต้เถียงกันอยู่ว่า การกระทำดังกล่าวนั้น เหมาะสมหรือไม่ เพราะยังไม่มีกฏเกณฑ์วางไว้ เป็นที่แน่นอน ที่ประชุมจึงมีความเห็นว่า น่าจะมีระเบียบ หรือคำแนะนำ หรือมีการวางแนวปฏิบัติไว้ ให้ผู้พิพากษาประพฤติ เพราะแม้จะมีวินัย อยู่ในกฎหมายว่า ด้วยระเบียบ ข้าราชการฝ่ายตุลาการ ก็เป็นเพียงกา รวางหลักเกณฑ์ไว้กว้างๆ บางเรื่องยังคลุมไปไม่ถึง และบางเรื่อง เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ไม่ได้เขียนไว้ จึงตั้งคณะกรรมการ วางหลักเกณฑ์ เรียกว่า ประมวลจริยธรรม ข้าราชการตุลาการขึ้น ซึ่งในด้านจริยธรรม เกี่ยวกับกิจการอื่น และเกี่ยวการดำรงตน และครอบครัวนั้น ได้บัญญัติไว้ทั้งหมด ๑๖ ข้อ ซึ่งจะนำมาให้ดู ดังต่อไปนี้

๑.ผู้พิพากษาจักตัองไม่เป็นกรรมการผู้จัดการ ที่ปรึกษาหรือดำรงตำแหน่งอื่นใด ในห้างหุ้นส่วน บริษัท ห้างร้าน หรือธุรกิจของเอกชน เว้นแต่เป็นกิจกรรม ที่มิได้แสวงหากำไร ผู้พิพากษาจักต้องไม่ประกอบอาชีพ หรือวิชาชีพ หรือกระทำกิจการใด อันจะกระทบกระเทือน ต่อการปฏิบัติหน้าที่ หรือเกียรติศักดิ์ ของผู้พิพากษา

๒. ในกรณีจำเป็นผู้พิพากษาอาจได้รับมอบหมายหรือแต่งตั้งจากหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่น ของรัฐ ให้ปฏิบัติ หน้าที่อันเกี่ยวกับหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานนั้นได้ ในเมื่อการปฏิบัติ หน้าที่ดังกล่าว ไม่กระทบกระเทือน ต่อการปฏิบัติหน้าที่ หรือเกียรติศักดิ์ ของผู้พิพากษา ทั้งจักต้อง ได้รับอนุญาต จากกระทรวงยุติธรรม แล้ว
การเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจ หรือกิจการอื่นของรัฐ ในทำนองเดียวกัน จักต้องได้รับอนุมัติจาก ก.ต.ด้วย
ผู้พิพากษา ไม่พึงแสดงปาฐกถา บรรยาย สอน หรือเข้าร่วมสัมมนา อภิปราย หรือแสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อสาธารณชน ซึ่งอาจกระทบกระเทือน ต่อการปฏิบัติหน้าที่ หรือเกียรติศักดิ์ ของผู้พิพากษา

๓. ผู้พิพากษาไม่พึงเป็นกรรมการ สมาชิก หรือเจ้าหน้าที่ของสมาคม สโมสร ชมรม หรือ องค์การใดๆ หรือเข้าร่วม ในกิจการใด ๆ อันจะกระทบกระเทือน ต่อการปฏิบัติหน้าที่ หรือ เกียรติศักดิ์ ของผู้พิพากษา

๔. ผู้พิพากษาไม่พึงรับเป็นผู้จัดการมรดก ผู้จัดการทรัพย์สิน หรือผู้ปกครองทรัพย์ เว้นแต่เป็นกรณีที่ ตัวผู้พิพากษาเอง คู่สมรส ผู้บุพการี ผู้สืบสันดานของตน หรือญาติสืบสายโลหิต หรือเกี่ยวพัน ทางแต่งงาน ซึ่งผู้พิพากษา ถือเป็นญาติสนิท มีส่วนได้เสียในมรดก หรือทรัพย์นั้นโดยตรง

๕. ผู้พิพากษาไม่พึงรับเป็นอนุญาโตตุลาการ หรือผู้ประนอมข้อพิพาท

๖. ผู้พิพากษาจักต้องสนับสนุน การปกครองระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุขแห่งรัฐ

๗. ผู้พิพากษาจักต้องไม่เป็นกรรมการ สมาชิก หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมือง และจักต้อง ไม่เข้าเป็น ตัวกระทำการ ร่วมกระทำการ สนับสนุน ในการโฆษณา หรือชักชวนใดๆ ในการ เลือกตั้ง สมาชิกรัฐสภา หรือผู้แทน ทางการเมืองอื่นใด ทั้งไม่พึงกระทำใดๆ อันเป็นการฝักฝ่ายการเมือง หรือกลุ่มการเมืองใด นอกจาก การใช้สิทธิ เลือกตั้ง

๘. ผู้พิพากษาจักต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อยู่ในกรอบของศีลธรรม และพึงมีความสันโดษ ครองตน อย่างเรียบง่าย สุภาพ สำรวมกิริยามารยาท มีอัธยาศัย ยึดถือจริยธรรม และประเพณีอันดีงาม ของตุลาการ ทั้งพึงวางตน ให้เป็นที่เชื่อถือ ศรัทธาของบุคคลทั่วไป

๙. ผู้พิพากษาพึงปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้นเป็นลำดับ และพึงขวนขวายศึกษาเพิ่มเติม ทั้งในวิชาชีพ ตุลาการ และ ความรู้รอบตัว ผู้พิพากษาจักต้อง ไม่ก้าวก่าย หรือแสวงหาประโยชน์ โดยมิชอบ จาการ ปฏิบัติหน้าที่ ของผู้พิพากษาอื่น

๑๐. ผู้พิพากษาจักต้องไม่ยินยอมให้บุคคลในครอบครัว ก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ของตน หรือ ของผู้อื่น และจักต้อง ไม่ยินยอมให้ผู้อื่น ใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตน แสวงหาประโยชน์ อันมิชอบ

๑๑. ผู้พิพากษาพึงยึดมั่นในระบบคุณธรรม และจักต้องไม่แสวงหาตำแหน่ง ความดีชอบ หรือประโยชน์อื่นใด โดยมิชอบ จากผู้บังคับบัญชา หรือ จากบุคคลอื่นใด

๑๒. ผู้พิพากษาจักต้องระมัดระวังมิให้การประกอบวิชาชีพ หรืออาชีพ หรือการงานอื่นใดของ คู่สมรส ญาติสนิท หรือบุคคล ซึ่งอยู่ในครัวเรือนของตน มีลักษณะเป็นการ กระทบกระเทือน ต่อการปฏิบัติหน้าที่ หรือเกียรติศักดิ์ ของผู้พิพากษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านความเชื่อถือศรัทธา ของบุคคลทั่วไป ในการประสาทความยุติธรรม ของผู้พิพากษา

๑๓. ผู้พิพากษาและคู่สมรสจักต้องไม่รับทรัพย์สินหรือประโยชน์ใดๆ จากคู่ความ หรือจากบุคคลอื่นใด อันเกี่ยวเนื่อง กับการปฏิบัติหน้าที่ ของผู้พิพากษา และจักต้องดูแลให้บุคคลในครอบครัว ปฏิบัติเช่นเดียวกันด้วย

๑๔. ผู้พิพากษาและคู่สมรสจักต้องไม่รับของขวัญของกำนัล หรือประโยชน์ อื่นใดอันมีมูลค่า เกินกว่า ที่พึงให้กัน ตามอัธยาศัย และประเพณีในสังคม และจักต้องดูแล ให้บุคคลในครอบครัว ปฏิบัติเช่นเดียว กันด้วย

๑๕. ผู้พิพากษาจักต้องละเว้นการคบหาสมาคมกับคู่ความ หรือบุคคลอื่น ซึ่งมีส่วนได้เสีย หรือ ผลประโยชน์ เกี่ยวข้อง กับคดีความ หรือบุคคล ซึ่งมีความประพฤติ หรือมีชื่อเสียง ในทางเสื่อมเสีย อันอาจจะกระทบกระเทือน ต่อความเชื่อถือ ศรัทธาของบุคคลทั่วไป ในการประสาท ความยุติธรรม ของผู้พิพากษา



แจ้งลบข้อความ



โพสต์: *

(บุคคลนิรนาม)

ID#655451 | เมื่อ: 2551-01-09 22:38:10 | IP: 125.26.10.123 x

เรียน......kosinanont@hotmail.com
โปรดเรียกตัวกลับด่วน อย่าทำให้ระคายเคือง........ด่วนมาก



แจ้งลบข้อความ


โพสต์: sarapaheylo
ID#655454 | เมื่อ: 2551-01-09 22:44:23



แจ้งลบข้อความ



โพสต์: ไขสือ

(บุคคลนิรนาม)

ID#655459 | เมื่อ: 2551-01-09 22:57:14 | IP: 203.113.38.9 x

บัดสีบัดเถลิงเป็นที่สุด
เดี๊ยน คุณหญิง "ไขสือ" รับไม่ได้

แจ้งลบข้อความ


โพสต์: recruit

ID#655468 | เมื่อ: 2551-01-09 23:35:01

ไม่เป็นไร จีน จาม พราหมณ์ แขก รับได้หมด
เหมือนขว้างหินลงแหน หาแผลไม่เจอ ก็แค่นั้น

กฎเกณฑ์ ระเบียบ ความประพฤติ วางตนใหสังคม
หายหมดแล้ว กต.เร่งกำหนดระเบียบใหม่ได้แล้ว
เพื่อรองรับสถานะการณ์แปลกๆที่จะทำให้สถาบันเสื่อม
มากไปกว่านี้ กฎหมายยอดหญ้าน่ะ เด็กเขาเรียกกัน
เป็นผู้ใหญ๋แล้วไม่ควร ไม่ควร

แจ้งลบข้อความ


http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=655402


ผมขอนำกระทู้/คคห.จาก'ประชาไท' มาให้อ่าน
แล้วจะรู้จัก'นิสัย'ของงคนรักแม๊วง และ 'หมัก เมถุน' ได้ดียิ่งขึ้น........

นอกจากนี้ อยากบอกว่ากระทุ้และคคห.อย่างนี้ มีได้ใน'ประชไท' ได้แล้ว......
โดยผู้ดูแลฯ ดูแลไม่ทัน.......................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



นามแฝง'ประดาบ' น่าจะเป็นคนเดียวที่เขียนหนังสือที่'หมัก เมถุน' ดัดจริตไม่กล้าหยิบอ่าน แต่ประทับใจนำมาเล่าสู่กันฟัง......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ปริมาณกระทู้/คคห. พรรค์นี้ ปรากฎในเวบประชาไท 'ผู้ดูแลฯ' จะออกตัวว่า'ดูแล 'ไม่ทั่วถึง' อีกหรือ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




สำหรับครอบครัว'สัตยธรรม' ให้คิดถึงคำพูดของ 'หม่อมคึกฤทธิ์ ปราโมช'....
ภูเขาทองสูงใหญ่ ยังมีหมาเยี้ยวรด............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-01-2008, 00:15 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 10-01-2008, 00:20 »

การเมืองนี่ไม่ควรเข้าไปเกลือกกลั้วจริงๆ

อดีตดีไม่ดียังไงถูกขุดขึ้นมาแต่งเติมใส่ไข่จนเละยังไงก็มี

สงสารคนที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้ชาติบ้านเมือง ก็ต้องโดนแบบนี้ด้วยเหมือนกัน
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 10-01-2008, 00:38 »

ในทางราชการ ก็มีระเบียบให้ทำได้ทั้งนั้น เพราะการขอตัวช่วยราชการมีระเบียบสำนักนายกประกบอยู่

มีระเบียบข้าราชการพลเรือน มีระเบียบข้าราชการตุลาการ เยอะแยะไปหมด

ไม่ว่าข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน หรือแม้แต่ ข้าราชการตุลาการ ก็ต้องอยู่ในระเบียบที่ตนสังกัดอยู่

มีผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้นทั้งนั้น

มิใช่ว่าเป็นผู้พิพากษาแล้วจะไม่มีงานในส่วนธุรการ

เค้ามี กต. ดูแล การจะยืมตัวผู้พิพากษา เค้าก็มีระเบียบวิธีของเค้า

ว่าต้องผ่านกต. หรือไม่ อย่างไร ต้องสอบถามเจ้าสังกัด หรือความพอใจของตัวผู้ปฏิบัติงานหรือไม่

หรือแม้แต่ กกต.บางท่าน หากอยากกลับไปเป็นผู้พิพากษา ก็ต้องหารือไปทาง กต. ว่า ยินดีรับกลับหรือไม่อย่างไร

เรื่องพวกนี้ ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบไม่ได้หรอกครับ หากทาง กต. ไม่ยอมหรือปฏิเสธ

หากคิดว่าผิดระเบียบก็ร้องให้ดำเนินการตรวจสอบได้

การปฏิบัติราชการทุกฝ่ายย่อมมีความสัมพันธ์ เกี่ยวเนื่องเกี่ยวดองกันเป็นปกติ

เพราะกว่าจะขึ้นมาถึงพลเอกหรือผู้บริหารระดับสูง ต่างก็มีเพื่อน มีพวกเพราะอยู่ในแวดวงคนทำงานมากว่า 30-40 ปี

ผมไม่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ "ผิดปกติ" แต่อย่างใด

"ประดาบ"เขียนแบบทำให้ชวนคิดว่า นางสดศรีและพลเอกสนธิ มีความสัมพันธ์เกินกว่าปกติ...ก็เขียนได้

แต่ผมคิดว่า คนอ่านที่มีวิจารณญาณ เค้าเลือกได้ว่า ควรเชื่อหรือไม่ควรเชื่อ

เพราะการกล่าวหา หากไม่มีเหตุผลรองรับ มันก็แค่คำนินทา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-01-2008, 00:56 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

Whistend
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23



« ตอบ #3 เมื่อ: 10-01-2008, 00:41 »

...ท่าทางคนที่นั่นจะแปะแบบไม่ทันได้อ่านนะครับ...

อ้างถึง
๒. ในกรณีจำเป็นผู้พิพากษาอาจได้รับมอบหมายหรือแต่งตั้งจากหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่น ของรัฐ ให้ปฏิบัติ หน้าที่อันเกี่ยวกับหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานนั้นได้ ในเมื่อการปฏิบัติ หน้าที่ดังกล่าว ไม่กระทบกระเทือน ต่อการปฏิบัติหน้าที่ หรือเกียรติศักดิ์ ของผู้พิพากษา ทั้งจักต้อง ได้รับอนุญาต จากกระทรวงยุติธรรม แล้ว

บันทึกการเข้า
\(^_^)/
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 617



« ตอบ #4 เมื่อ: 10-01-2008, 00:50 »

         สำหรับนาย "ประดาบ" ลิ่วล้อนายใหญ่เหลี่ยม

หากเปรียบกับนาย "สนธิลิ้ม" แล้ว..ยังห่างกันหลายช่วงตัว..

นายประดาบสามารถนั่งเทียนเต้าข่าว..โดยจับแพะชนแกะ..

หยิบตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย แล้วแต่งเติมสีสรร..ตีใข่ใส่ซีอิ้ว

แล้วลงกะทะทอดน้ำมันร้อนๆพอสุกยกลงจากเตา "คลุก"

ข้าวสวยร้อนๆอย่าว่าแต่มนุษย์เลยครับ "สุนัข" ก็เชื่อว่านั่น

คืออาหาร "ทิพย์" ความสามารถ "ปั้นน้ำเป็นตัว" ยากหาผู้ใด

เทียบเคียงได้...ขอ "คาราวะ 1 จอก" แต่.......................

หากนำไปเปรียบกับคนหลัง "สนธิ ลิ้มทองกุล" ประดาบก็แค่

"เสี่ยว เอ้อ.."(เด็กเสริฟตามโรงเตี้ยม) นายสนธิลิ้ม..เป็นเจ้า

ของโรงเตี้ยม..เพราะ.."ประดาบแค่ ปั้นน้ำเป็นตัว" แต่.......

"สนธิ ลิ้มทองกุล" สามารถ "หยิบอากาศมาปั้นเป็นรูปร่างได้"

แถมยังมีคนเชื่อถือกัน "ค่อนประเทศ" ในขณะที่ "ประดาบ"

ไม่กล้า "ฟันธง" ว่าเรื่องที่ตัวเองแต่งมานั้นเป็นเรื่อง "จริงหรือ

เท็จ" ในขณะที่ "สนธิ ลิ้มทองกุล" "ฟันธงว่า" เรื่องที่ตัวเอง

พูดออกมานั้น "เป็นเรื่องจริง" ล้านเปอร์เซ็นต์..ขอคาราวะ 1 ให..หุ หุ หุ

แล้วแบบนี้ เมื่อไหร่ "ประดาบ" ถึงจะเทียบ "จอมยุทธเหยียบ

หิมะไร้เงา" อย่างนาย "สนธิ ลิ้ม" ได้เล่า...หุ หุ หุ.............         
       
บันทึกการเข้า

 
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #5 เมื่อ: 10-01-2008, 08:22 »

         สำหรับนาย "ประดาบ" ลิ่วล้อนายใหญ่เหลี่ยม

หากเปรียบกับนาย "สนธิลิ้ม" แล้ว..ยังห่างกันหลายช่วงตัว..

นายประดาบสามารถนั่งเทียนเต้าข่าว..โดยจับแพะชนแกะ..

หยิบตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย แล้วแต่งเติมสีสรร..ตีใข่ใส่ซีอิ้ว

แล้วลงกะทะทอดน้ำมันร้อนๆพอสุกยกลงจากเตา "คลุก"

ข้าวสวยร้อนๆอย่าว่าแต่มนุษย์เลยครับ "สุนัข" ก็เชื่อว่านั่น

คืออาหาร "ทิพย์" ความสามารถ "ปั้นน้ำเป็นตัว" ยากหาผู้ใด

เทียบเคียงได้...
ขอ "คาราวะ 1 จอก" แต่.......................

หากนำไปเปรียบกับคนหลัง "สนธิ ลิ้มทองกุล" ประดาบก็แค่

"เสี่ยว เอ้อ.."(เด็กเสริฟตามโรงเตี้ยม) นายสนธิลิ้ม..เป็นเจ้า

ของโรงเตี้ยม..เพราะ.."ประดาบแค่ ปั้นน้ำเป็นตัว" แต่.......

"สนธิ ลิ้มทองกุล" สามารถ "หยิบอากาศมาปั้นเป็นรูปร่างได้"

แถมยังมีคนเชื่อถือกัน "ค่อนประเทศ" ในขณะที่ "ประดาบ"

ไม่กล้า "ฟันธง" ว่าเรื่องที่ตัวเองแต่งมานั้นเป็นเรื่อง "จริงหรือ

เท็จ" ในขณะที่ "สนธิ ลิ้มทองกุล" "ฟันธงว่า" เรื่องที่ตัวเอง

พูดออกมานั้น "เป็นเรื่องจริง" ล้านเปอร์เซ็นต์..ขอคาราวะ 1 ให..หุ หุ หุ

แล้วแบบนี้ เมื่อไหร่ "ประดาบ" ถึงจะเทียบ "จอมยุทธเหยียบ

หิมะไร้เงา" อย่างนาย "สนธิ ลิ้ม" ได้เล่า...หุ หุ หุ.............         
       



'สนธิ ลิ้มฯ' มีตัวตนให้เราสัมผัสรู้จักผ่านเวที'พันธมิตรประชาชนฯ' หน้าจอ ASTV1
บนเวทีห้องประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น......
'ประดาบ' คือใคร.... Question


'ประดาบ' คือเจ้าของหนังสือที่'หมัก เมถุน' ไม่กล้าหยิบ ไม่ต้องอ่าน ก็มีอาการ'สยิว' แล้ว......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-01-2008, 08:24 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
best
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 201


« ตอบ #6 เมื่อ: 10-01-2008, 09:36 »

ก่อนจะพูดถึงคนอื่น ดูตัวเองก่อนดีกว่า

ชาวเสรีไทย เคยนึกถึงครอบครัวของลิเดียกันบ้างหรือเปล่าล่ะ
บันทึกการเข้า
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #7 เมื่อ: 10-01-2008, 12:24 »

ทำให้รู้จักคนที่เวบเสรีไทยได้ด้วย

ข้อเท็จจริงกับความคิดเห็นแยกกันไม่ออก
ก็บ่งบอกถึงสติปัญญาคนได้

ข้อเท็จจริงคือ หัวหน้าคณะ รปห.
ขอตัวลูกสาว กกต. ไปทำงานให้
ใครจะว่าไม่ผิดระเบียบอย่างไร
ก็ไม่เกี่ยวกับว่า เหมาะสมหรือไม่
มีความจำเป็นอย่างไร
ฯลฯ

ผู้นำเสนอข้อมูล/ข้อเท็จจริง
จะเขียนหรือแสดงความคิดเห็นอย่างไร ต่อไป
ย่อมเป็นคนละส่วนกับ ข้อมูล/ข้อเท็จจริง นั้น
หากแยกกันไม่ออกหรือไม่สนใจแยกแยะ
ก็บ่งบอกถึงสติปัญญา/อคติของคนอ่านเอง

“ประดาบ” เป็นใครที่ไหนไม่ปรากฏ
เอกสารลับ ที่บางคนในเวบนี้
ยังคงเลือกเชื่ออย่างเหนียวแน่นว่า “ปลอม”
แต่มีผลให้ผู้กระทำต้องอ้าง ม.309 คุ้มครอง
ย่อมเทียบไม่ได้กับเรื่องที่สนธิ ลิ้มทองกุล
กล้าพูดหลอกลวงคนจนศาลพิพากษา
ลงโทษจำคุก 2 และ 3 ปี

ความสามารถในการ "ปั้นน้ำเป็นตัว"
คนละชั้นจริงๆ
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #8 เมื่อ: 10-01-2008, 13:12 »

ทำให้รู้จักคนที่เวบเสรีไทยได้ด้วย

ข้อเท็จจริงกับความคิดเห็นแยกกันไม่ออก
ก็บ่งบอกถึงสติปัญญาคนได้

ข้อเท็จจริงคือ หัวหน้าคณะ รปห.
ขอตัวลูกสาว กกต. ไปทำงานให้
ใครจะว่าไม่ผิดระเบียบอย่างไร
ก็ไม่เกี่ยวกับว่า เหมาะสมหรือไม่
มีความจำเป็นอย่างไร
ฯลฯ

ผู้นำเสนอข้อมูล/ข้อเท็จจริง
จะเขียนหรือแสดงความคิดเห็นอย่างไร ต่อไป
ย่อมเป็นคนละส่วนกับ ข้อมูล/ข้อเท็จจริง นั้น
หากแยกกันไม่ออกหรือไม่สนใจแยกแยะ
ก็บ่งบอกถึงสติปัญญา/อคติของคนอ่านเอง

“ประดาบ” เป็นใครที่ไหนไม่ปรากฏ
เอกสารลับ ที่บางคนในเวบนี้
ยังคงเลือกเชื่ออย่างเหนียวแน่นว่า “ปลอม”
แต่มีผลให้ผู้กระทำต้องอ้าง ม.309 คุ้มครอง
ย่อมเทียบไม่ได้กับเรื่องที่สนธิ ลิ้มทองกุล
กล้าพูดหลอกลวงคนจนศาลพิพากษา
ลงโทษจำคุก 2 และ 3 ปี

ความสามารถในการ "ปั้นน้ำเป็นตัว"
คนละชั้นจริงๆ




'สนธิ ลิ้มฯ' มีตัวตนให้เราสัมผัสรู้จักผ่านเวที'พันธมิตรประชาชนฯ' หน้าจอ ASTV1
บนเวทีห้องประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น......

'ประดาบ' คือใคร....
'ประดาบ' คือเจ้าของหนังสือที่'หมัก เมถุน' ไม่กล้าหยิบ ไม่ต้องอ่าน ก็มีอาการ'สยิว' แล้ว......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




"ประดาบ"เขียนแบบทำให้ชวนคิดว่า นางสดศรีและพลเอกสนธิ มีความสัมพันธ์เกินกว่าปกติ...ก็เขียนได้

แต่ผมคิดว่า คนอ่านที่มีวิจารณญาณ เค้าเลือกได้ว่า ควรเชื่อหรือไม่ควรเชื่อ

เพราะการกล่าวหา หากไม่มีเหตุผลรองรับ มันก็แค่คำนินทา

ข้อความโดย: CanCan

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-01-2008, 13:16 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #9 เมื่อ: 10-01-2008, 18:18 »

สดศรี ปฎิเสธข่าว พล.อ.สนธิ ดึงลูกสาวมาช่วยงาน
   
โดยทีมข่าว INN News 10 มกราคม 2551 17:37:25 น.   

สดศรี สัตยธรรม ปฏิเสธข่าวพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ขอตัว ลูกสาว ไป
ช่วยงานที่ทำเนียบรัฐบาล ตามที่เว็บไซต์ไฮ-ทักษิณ นำเสนอบทความ


นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณี เว็บไซต์ไฮ-ทักษิณ นำ
เสนอบทความเกี่ยวกับความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง ระหว่างพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รอง
นายกรัฐมนตรี กับตนโดยระบุว่า พบ "เอกสารลึก" ยืนยันว่า พล.อ.สนธิ ขอตัว น.ส.
กอนณา สัตยธรรม ไปช่วยงานที่ทำเนียบรัฐบาล โดย นางสดศรี ปฏิเสธข่าวดัง
กล่าวและยืนยันว่า ไม่มีการขอตัว น.ส.กอนณา ไปช่วยราชการ ขณะนี้บุตรสาวตน
ยังทำงานเป็นผู้พิพากษาอยู่ที่ศาลพระโขนง การออกมากล่าวหา เป็นเรื่องไร้สาระ
เพราะการเป็นผู้พิพากษาไม่ใช่เรื่องง่าย และหากจะต้องไปทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล
จริง ตำแหน่งที่เหมาะสมกับบุตรสาวตน ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น อีกทั้งการ
ไปทำงานกับพลเอกสนธิ ซึ่งยังเหลือเวลาในตำแหน่งอีกไม่นานนัก สู้เอามาทำงาน
ในคณะกรรมการการเลือกตั้งกับตนไม่ดีกว่าเหรอ เพราะมีเวลาอีก ตั้ง 6-7 ปี

อย่างไรก็ตามนางสดศรีระบุว่า ขอดูหลักฐานก่อนว่ามันมีจริงหรือไม่ เพราะหากเป็น
การสร้างเอกสารเท็จ จะฟ้องร้องต่อไป ที่ผ่านมาไม่เคยมีการเคลียร์กับ พล.อ.สนธิ
และไม่เคยตั้งข้อรังเกียจว่า เป็นกบฏ


นายกฯ ปัดไม่รู้เรื่องการขอตัวบุตรสาว สดศรี สัตยธรรม ช่วยราชการ
พล.อ.สนธิ โยนเจ้าตัวตอบคำถามสังคม


ด้านพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกฯ และ รัฐมนตรีฯมหาดไทย ปฎิเสธไม่ทราบการ
ออกคำสั่งให้ดึงตับบุตรสาวของ นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง หรือ
กกต. มาช่วยราชการพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกฯ แต่เป็นอำนาจที่รองนายกฯ
จะสั่งการหาบุคคลมาช่วยงานได้และได้ดำเนินการอย่างเปิดเผย จึงไม่น่าที่จะมีเจตนา
ไม่ดี และไม่คิดว่าจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องความเชื่อถือเชื่อมโยงกับกกต. แต่พล.อ.
สนธิ น่าจะตอบคำถามของสังคมได้

นายกฯ ยังกล่าวถึงการดูแลความเรียบร้อยประชาชนที่คัดค้านการให้ใบเหลืองใบแดง
ของกกต. มีการเคลื่อนไหวมากขึ้นว่า ได้หารือกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว
โดยขอให้ดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้ทุกฝ่ายยอมรับคำวินิจฉัยของกกต.
เพราะเชื่อว่าการพิจารณาของกกต.น่าจะมีหลักฐานที่ชัดเจน

 http://www.innnews.co.th/Politic.php?nid=82938
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 10-01-2008, 18:21 »

snowflake

เชื่อใคร นั่งเทียน หรือเจ้าตัว 
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #11 เมื่อ: 10-01-2008, 18:44 »

ข่าว INN สั้นไป
เอาแบบยาว มี quote ดีกว่า


เดลินิวส์ วันที่ 10 มกราคม 2551 เวลา 16:37 น.

"สดศรี" บอกนอนเซ้นต์! ไฮ-ทักษิณโยงลูกสาวเกี่ยวการเมือง

นางสดศรี  สัตยธรรม  กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวออกมาว่า
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกฯขอตัว น.ส.กอนณา  สัตยธรรม บุตรสาวไปช่วย
ราชการ ว่า เรื่องจริง ก็ไม่ได้มีการขอตัว หรือยืมตัว สามารถถามไปที่ศาลฎีกาก็ได้
ลูกสาวก็ยังอยู่ที่ศาลพระโขนง

“ความจริงแล้วไม่อยากเอาลูกสาวมาเป็นเรื่องการเมือง เวลาไปประชาสัมพันธ์เลือก-
ตั้ง ก็พยายามไม่ให้เขาไปด้วย เพราะงานในอาชีพเป็นถึงผู้พิพากษา นับว่าสูงแล้ว
เรื่องอะไรจะให้ไปทำงานอย่างนั้น มัน “นอนเซ้นต์” มากเลย ที่ทำงานเป็นผู้พิพากษา
แล้วจะไปทำงานเป็นเสมียนหรือเป็นธุรการ ที่ทำเนียบผู้พิพากษามีอำนาจมากมาย
และทำงานในพระปรมาภิไธยด้วย

การพูดอย่างนั้น “นอนเซ้นต์” มากเลยที่บอกลูกพี่ อยากไปทำงานที่ทำเนียบ เขาจะ
ไปทำอะไรนอกจากเป็นเป็นนายกฯ คงไม่มา ตำแหน่งไหนที่จะเหมาะสำหรับลูกพี่
จุดนี้เป็นจุดนอนเซ้นต์มากที่จะบอกว่าท่านสนธิจะขอตัวไปทำงาน มันไม่มีประโยชน์
ที่จะให้ลูกสาวพี่ไปทำงานที่นั่น ผู้พิพากษาใครๆ ก็อยากเป็น กว่าจะเข้าได้ไม่ใช่ง่าย
และเขาไปเรียนเมืองนอกมา วิชาที่เขาเหมาะคือเรื่องกฎหมาย ที่จะไปทำงานกับ
ท่านสนธิคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปทำงานกับท่าน”

นางสดศรี กล่าว
 
เมื่อถามว่าเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า รู้สึกว่า น.ส.พ. บาง
ฉบับลง แต่ถ้าไม่มีหลักฐานจะฟ้อง เพราะไม่มีประโยชน์จะพูดอะไรเรื่องนี้ การเป็น
ผู้พิพากษาดีกว่าการเป็นเสมียนในทำเนียบไม่ใช่หรือ และอาชีพเขามาอย่างนี้ ต้อง
ยึดอาชีพนี้ตลอดไป เรื่องอะไรต้องไปทำงานกับท่านสนธิ ที่ไม่รู้จะอยู่อีกกี่วัน กี่
เดือน ท่านก็ต้องไปแล้ว แล้วเรื่องอะไรจะต้องให้ลูกไปทำงานกับคนที่ยังไม่ได้มี
หลักมีฐานอะไรเลย ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ การที่ น.ส.พ. ไปลงว่ามีเลขที่
หนังสือ อย่าลืมว่าการสร้างเอกสารเท็จมีความผิด ที่จริงฟังง่ายๆ ก็รู้มันไม่มีเหตุผล
ถ้าพล.อ.สนธิจะให้ลูกสาวไปทำงานกับท่านถ้าเป็นตำแหน่งรองนายกฯ พี่จะให้ไป
ไม่ใช่ไปเป็นเสมียนกระจิบกระจอกอะไรอย่างนั้นไม่ใช่ แล้วการเป็นผู้พิพากษาดีแล้ว
สงบกว่า ดีกว่าเดินตามพล.อ.สนธิที่เหลือเวลาอีกไม่เท่าไหร่ คงไม่ปล่อยให้ลูกไป
หมดอนาคต

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการอ้างเลขที่เอกสาร และเผยแพร่บทความผ่านสื่อจะมีการฟ้อง-
ร้องหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า แน่นอน ชื่อ ประดาบเป็นใครก็ไม่รู้มีนามสกุลไหม
ยืนยันขณะนี้ลูกสาวก็ยังทำงานเป็นผู้พิพากษาอยู่ และเขาไม่สนใจยุ่งเกี่ยวกับใคร
ส่วนตัวก็ไม่ให้ยุ่งกับที่ กกต. ด้วย ถ้าให้ทำงานที่ทำเนียบขอตัวมาทำงานที่ กกต.
ไม่ดีกว่าหรือ ถ้าเทียบแล้ว กกต. ตั้ง 6-7 ปีที่ตนเองยังต้องอยู่ พล.อ.สนธิ เหลือ
เวลาเท่าไหร่ ท่านไม่มีเวลาแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรที่ตนจะให้ พล.อ.สนธิ ขอตัว
ลูกสาวไป คิดว่ามันเป็นเรื่องนอนเซ้นต์ไม่มีเหตุผล ถ้าเป็นตำแหน่งที่ดีกว่านี้ก็น่า
สนใจ แต่นี่ไม่มีอะไร

เมื่อถามย้ำว่า เรื่องการฟ้องร้องจะเร่งดำเนินการเลยหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า ขอ
หลักฐานว่ามันมีจริงหรือไม่ การทำแบบนี้ทำให้คนอื่นเสียหาย และไม่รู้ว่าท่านจะ
เอาลูกสาวไปทำอะไร ไปเดินตามท่านหรือถือกระโถนตามท่านนั้นมันเป็นไปไม่ได้
เพราะลูกสาวขึ้นบังลังก์เป็นผู้พิพากษา ทำอะไรแบบนั้นไม่เป็น

นางสดศรี ยังได้กล่าว ปฏิเสธว่าไม่เคยมีการเคลียเรื่องกระแสข่าวดังกล่าว กับพล.อ.
สนธิ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดต้องให้ทหารกับ กกต. โกรธกัน ส่วนตัวถือว่าการ
ที่เขาเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติจะถือว่าเป็นกบถไม่ได้ เพราะศาลยังไม่ได้พิพากษาเลย
ว่าเขาเป็นกบถ คิด
ว่าคงต้องเข้าใจกันหน่อยว่ามันไม่ได้น่ารังเกียจที่ท่านมาที่ กกต.
ขนาดรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ยังไม่มา ก็มอง
ท่านเป็นอย่างนี้แล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่เป็น กกต. คนเดียวที่โดนโจมตีหนักกว่าคนอื่นๆ นั้น นางสดศรี กล่าว
ว่า ไม่สะเทือน หนักก็หนัก ขนาดโดนพีเน็ตฟ้องก็ยังไม่สะเทือน เพราะยึดแค่ความจริง
คืออะไร ต้องแสดงความอดทนให้เห็นว่าเรายืนอยู่ได้ขนาดนี้ ขบวนการต่างๆ มีอยู่เรื่อย
ถ้าเราไม่อดทนก็อยู่ไม่ได้ ที่จริงท้ออยู่ตลอด แต่ก็ต้องอดทนนำองค์กรไปให้ได้ ถ้าเรา
อ่อนแอทำเหมือนผู้หญิงทั่วไปอะไรกระทบไม่ได้ *
 
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=151163&NewsType=1&Template=1

ทำรัฐประหาร ต้องให้ศาลพิพากษาจึงค่อยผิด
นี่คือความคิดของ คนร่าง รธน. หัวคูณ และควบตำแหน่ง กกต.
ที่ได้ตำแหน่งมาจากการทำ รปห.

* น่าจะมีต่อ แต่ก็ไม่มี
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #12 เมื่อ: 10-01-2008, 19:00 »

snowflake

เชื่อใคร นั่งเทียน หรือเจ้าตัว 

คนทำเอกสารเขาบอกไม่ปลอมนะจ๊ะ
เชื่อว่า สดศรี ไม่รู้เรื่องมาก่อนเลยจนถึงวันนี้หรือ


 

เดลินิวส์ วันที่ 10 มกราคม 2551 เวลา 16:20 น.

นายลอยเลื่อน บุญนาค รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ให้สัมภาษณ์ถึง
กรณีที่เว็ปไซด์ไฮด์ทักษิณออกมาโจมตีเรื่องการทำหนังสือขอยืมตัว น.ส.กอนณา
สัตยธรรม ผู้พิพากษาศาลพระโขนง บุตรสาวของนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการ กกต.
มาช่วยราชการหน้าห้องของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความ
มั่นคง แต่ถูกศาลปฏิเสธ ว่า ยอมรับว่าในช่วงที่ พล.อ.สนธิเข้ามารับตำแหน่งตนได้
ทำหนังสือขอยืมตัวไปจริง ซึ่งเป็นการดำเนินการตามที่ทีมงานหน้าห้องของ พล.อ.
สนธิร้องขอมา
ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนเข้ามา ก็ขอให้มีการยืมตัว
ฝ่ายประจำมาช่วยงานทั้งนั้น และตนในฐานะฝ่ายข้าราชการประจำก็ต้องเป็นผู้ทำ
หนังสือไปตามที่ฝ่ายการเมืองร้องขอ แต่กรณีนี้ในระหว่างที่รอการตอบรับจากศาล
ทางทีมงานของ พล.อ.สนธิก็ได้แจ้งมาที่ตนเพื่อให้ระงับการยืมตัว น.ส.กอนณา ตน
จึงได้ทำหนังสือขอระงับการยืมตัวไป
ดังนั้นจึงไม่มีการให้ น.ส.กอนณา มาช่วย
ราชการแต่อย่างใด และไม่ใช่เป็นเพราะถูกศาลปฏิเสธ แต่เราได้ทำหนังสือขอระงับ
การยืมตัวไปก่อนแล้ว
 
“ส่วนเหตุผลในการขอยืมตัว น.ส.กอนณา และการขอระงับการยืมตัวนั้น ผมไม่ทราบ
เรื่องนี้ต้องไปถามฝ่ายการเมือง คือทางทีมงานหน้าห้องของ พล.อ.สนธิเอง ผมเป็น
เพียงฝ่ายข้าราชการประจำทีมีหน้าทีรับผิดชอบโดยตรงเท่านั้น” นายลอยเลื่อน กล่าว

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=151162&NewsType=1&Template=1
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
poo
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19


« ตอบ #13 เมื่อ: 10-01-2008, 19:13 »

เรื่องแค่นี้   เป็นเรื่องเป็นราว  ขี้หมูราขี้หมาแห้ง
แค่ขอยืมตัว และ ระงับการยืมตัว
ถ้าเห็นว่าผิดกฎหมายก็ไปฟ้อง
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 10-01-2008, 19:31 »

ขอบคุณ เนื้อหาที่พยายามสื่อครับ

เลือดรักชาติสูบฉีดแรงดีครับ

ขอบคุณอีกครั้ง

 Cool
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #15 เมื่อ: 10-01-2008, 19:33 »

อืม ทำแล้ว ต่อมาก็ ระงับ ...
คล้าย “เอกสารลับ” นั่นเลย
คงเป็นนิสัยถาวร

หนังสือระงับ "เอกสารลับ" คมช. นั่น
หน้าตาเป็นยังไงหนอ
กกต. ไม่ต้องดูก็เชื่อว่า มี
เครดิตเค้าดีจริงๆ
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 10-01-2008, 19:48 »

อืม ทำแล้ว ต่อมาก็ ระงับ ...
คล้าย “เอกสารลับ” นั่นเลย
คงเป็นนิสัยถาวร

หนังสือระงับ "เอกสารลับ" คมช. นั่น
หน้าตาเป็นยังไงหนอ
กกต. ไม่ต้องดูก็เชื่อว่า มี
เครดิตเค้าดีจริงๆ


เหมือนสมัยทักษิณเป๊ะเลยไง คุณหิมะตัวปลอม

ทำผิดโดนจับได้ แค่เอาของกลางคืนก็จบเรื่อง

 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #17 เมื่อ: 10-01-2008, 19:56 »

เหมือนสมัยทักษิณเป๊ะเลยไง คุณหิมะตัวปลอม

ทำผิดโดนจับได้ แค่เอาของกลางคืนก็จบเรื่อง

 


อมเงินวัด ผมก็ยังขำอยู่น่ะ คริ คริ

บกพร่องโดยสุจริต Very Happy
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 10-01-2008, 20:06 »

ก่อนจะพูดถึงคนอื่น ดูตัวเองก่อนดีกว่า

ชาวเสรีไทย เคยนึกถึงครอบครัวของลิเดียกันบ้างหรือเปล่าล่ะ

แหม...ก็น้องลิเดีย ถ่ายภาพแบบนั้น คนเห็นก็ต้องคิดไปใกลซีจ๊ะ..

มือหน้าเหลี่ยม เกร็งจิกเข้าหัวไหล่...
บันทึกการเข้า

ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #19 เมื่อ: 10-01-2008, 20:08 »

เรื่องแค่นี้   เป็นเรื่องเป็นราว  ขี้หมูราขี้หมาแห้ง
แค่ขอยืมตัว และ ระงับการยืมตัว
ถ้าเห็นว่าผิดกฎหมายก็ไปฟ้อง


ถ้าไม่อยากให้ลิ่วล้อทักษิณเอาเรื่อง'ขี้หมูราขี้หมาแห้ง'มาเล่น กกต.สดศรี
ก็ต้องช่วยหา เอาเรื่องทุจริตที่ดิน เรื่องทุจริตซุกหุ้น เรื่องทุจริตสักเรื่องให้พวกเขาสิ.......

คนพรรค์นั้นถือเรื่อง'ขี้หมูราขี้หมาแห้ง' สำคัญ ร้ายแรงเท่าเรื่องทุจริตที่หยิบยกมา......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 10-01-2008, 20:17 »

เขายายเที่ยง ก็มาจาก บิ๊กจิ๋ว

สุดท้ายก็ทำอะไรเค้าไม่ได้
บันทึกการเข้า

ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #21 เมื่อ: 10-01-2008, 20:18 »

อืม ทำแล้ว ต่อมาก็ ระงับ ...
คล้าย “เอกสารลับ” นั่นเลย
คงเป็นนิสัยถาวร

หนังสือระงับ "เอกสารลับ" คมช. นั่น
หน้าตาเป็นยังไงหนอ
กกต. ไม่ต้องดูก็เชื่อว่า มี
เครดิตเค้าดีจริงๆ



ละเลย ไม่ใส่ใจ 'มิจฉาทิฐิ'ของเจ้าของกระทู้/'ประดาบ'/อยากฯ.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ปล. คุณsnowflake มีความคิดเห็นอย่างไรกับ'เจตนา' ของพวกเขา
และการรับ-ส่ง คคห................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-01-2008, 20:23 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 10-01-2008, 20:30 »

อืม ทำแล้ว ต่อมาก็ ระงับ ...
คล้าย “เอกสารลับ” นั่นเลย
คงเป็นนิสัยถาวร

หนังสือระงับ "เอกสารลับ" คมช. นั่น
หน้าตาเป็นยังไงหนอ
กกต. ไม่ต้องดูก็เชื่อว่า มี
เครดิตเค้าดีจริงๆ


คำสั่งของทางราชการที่ชอบด้วยกฎหมาย มีทั้งด้วยวาจา และด้วยลายลักษณ์อักษร

ตอนสอบบรรจุ เค้าออกข้อสอบแทบทุกครั้ง
บันทึกการเข้า

Suraphan07
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,128



« ตอบ #23 เมื่อ: 10-01-2008, 20:48 »

Ho Ho Ho !!!

ทำกันเป็นทีมจริงๆงานนี้ ...
มีทั้ง มือปั้น มือปั่น มือชง มือแฉ มือฉก...

พอจับได้(ที่เว็บบอร์ดใหญ่) ลองๆเบรคดู
รีบหยุด แล้วเปลี่ยนให้อมยิ้มอื่น ปั่นต่อแทน...

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6217777/P6217777.html#5
เข้าใจแล้วว่า ทำไม สดศรี มาจ้อหน้าจอแต่เพียงผู้เดียว


แบบนี้ต้องเอาเข้าคุก เสียให้เข็ดทั้งก๊ก ...
ช่วยกันเซฟๆกระทู้ ดูถูก ดูหมิ่น ทำให้ผู้อื่นเสียหายไว้ครับ
เชื่อว่า ท่านผู้พิพากษา มีโอกาสได้ใช้ในเร็ววันนี้...
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #24 เมื่อ: 10-01-2008, 21:16 »

คนทำเอกสารเขาบอกไม่ปลอมนะจ๊ะ
เชื่อว่า สดศรี ไม่รู้เรื่องมาก่อนเลยจนถึงวันนี้หรือ


 

เดลินิวส์ วันที่ 10 มกราคม 2551 เวลา 16:20 น.

นายลอยเลื่อน บุญนาค รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ให้สัมภาษณ์ถึง
กรณีที่เว็ปไซด์ไฮด์ทักษิณออกมาโจมตีเรื่องการทำหนังสือขอยืมตัว น.ส.กอนณา
สัตยธรรม ผู้พิพากษาศาลพระโขนง บุตรสาวของนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการ กกต.
มาช่วยราชการหน้าห้องของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความ
มั่นคง แต่ถูกศาลปฏิเสธ ว่า ยอมรับว่าในช่วงที่ พล.อ.สนธิเข้ามารับตำแหน่งตนได้
ทำหนังสือขอยืมตัวไปจริง ซึ่งเป็นการดำเนินการตามที่ทีมงานหน้าห้องของ พล.อ.
สนธิร้องขอมา
ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนเข้ามา ก็ขอให้มีการยืมตัว
ฝ่ายประจำมาช่วยงานทั้งนั้น และตนในฐานะฝ่ายข้าราชการประจำก็ต้องเป็นผู้ทำ
หนังสือไปตามที่ฝ่ายการเมืองร้องขอ แต่กรณีนี้ในระหว่างที่รอการตอบรับจากศาล
ทางทีมงานของ พล.อ.สนธิก็ได้แจ้งมาที่ตนเพื่อให้ระงับการยืมตัว น.ส.กอนณา ตน
จึงได้ทำหนังสือขอระงับการยืมตัวไป
ดังนั้นจึงไม่มีการให้ น.ส.กอนณา มาช่วย
ราชการแต่อย่างใด และไม่ใช่เป็นเพราะถูกศาลปฏิเสธ แต่เราได้ทำหนังสือขอระงับ
การยืมตัวไปก่อนแล้ว
 
“ส่วนเหตุผลในการขอยืมตัว น.ส.กอนณา และการขอระงับการยืมตัวนั้น ผมไม่ทราบ
เรื่องนี้ต้องไปถามฝ่ายการเมือง คือทางทีมงานหน้าห้องของ พล.อ.สนธิเอง ผมเป็น
เพียงฝ่ายข้าราชการประจำทีมีหน้าทีรับผิดชอบโดยตรงเท่านั้น” นายลอยเลื่อน กล่าว

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=151162&NewsType=1&Template=1



ผู้นำเสนอข้อมูล/ข้อเท็จจริง
จะเขียนหรือแสดงความคิดเห็นอย่างไร ต่อไป
ย่อมเป็นคนละส่วนกับ ข้อมูล/ข้อเท็จจริง นั้น
หากแยกกันไม่ออกหรือไม่สนใจแยกแยะ
ก็บ่งบอกถึงสติปัญญา/อคติของคนอ่านเอง


“ประดาบ” เป็นใครที่ไหนไม่ปรากฏ
เอกสารลับ ที่บางคนในเวบนี้
ยังคงเลือกเชื่ออย่างเหนียวแน่นว่า “ปลอม”
แต่มีผลให้ผู้กระทำต้องอ้าง ม.309 คุ้มครอง
ย่อมเทียบไม่ได้กับเรื่องที่สนธิ ลิ้มทองกุล
กล้าพูดหลอกลวงคนจนศาลพิพากษา
ลงโทษจำคุก 2 และ 3 ปี

ความสามารถในการ "ปั้นน้ำเป็นตัว"
คนละชั้นจริงๆ

ข้อความโดย: snowflake
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 10-01-2008, 21:22 »

หมดราคาไปนานแล้วกับไอ้พวกในประชาทุย 
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #26 เมื่อ: 10-01-2008, 21:34 »

คำพังเพยว่าไว้ "หากคิดกล่าวหา ไหนเลยไร้ข้ออ้าง"

(๘ เทพอสูรมังกรฟ้า)
บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
หน้า: [1]
    กระโดดไป: